โรสถูกย้ายไปที่ห้องพักฟื้นวีไอพีอย่างรวดเร็วเซย์นและเจย์อยู่ในห้องพักฟื้น เพื่อรอให้โรสตื่นขึ้นมาทันใดนั้น เซย์นก็พูดว่า “น้องสาวของผมไม่ได้มีนิสัยชอบดื่มอย่างหนัก ถ้าเธอดื่ม มันหมายความว่าเธอมีจิตใจที่กำลังรู้สึกไม่ดีกับบางอย่างก็เท่านั้น”เจย์ตอบว่า “ฉันรู้”เขารู้สึกไม่พอใจต่อเจย์ แต่เขาไม่กล้าพูดออกไป “หลังจากที่เธอย้ายถิ่นฐาน เหตุผลเดียวที่เธอไม่บอกนายคงจะเกี่ยวกับชีวิตที่ผ่านมานั่นก็คือคุณไม่ได้ให้ความรู้สึกปลอดภัยและไว้วางใจเธอ คุณได้เคยคิดไตร่ตรองดูแล้วหรือยังกับเรื่องพวกนี้ ท่านอาเรส?”เจย์ชำเลืองมองเขาแวบหนึ่ง “ฉันไม่ได้บอกว่าฉันรู้เรื่องความลับนี้ใช่ไหมล่ะ?”ชายอีกคนพูดไม่ออก“ทำไมคุณไม่บอกเธอ?” เซย์นถาม“เพราะฉันหวังว่าวันหนึ่งเธอจะเริ่มเปิดใจกับฉันและบอกความลับนี้กับฉันด้วยตัวเธอเองไงล่ะ”“แล้วมันแตกต่างกันตรงไหน?” เซย์นดูค่อนข้างมึนงง“ในตอนที่เธอกลับมาครั้งแรก ฉันปฏิบัติกับเธอแย่มากเป็นเพราะรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปของเธอ บางทีนั่นอาจเป็นเหตุผลที่เธอไม่เต็มใจที่จะเปิดใจกับฉัน”คำใบ้ของความเศร้าโศกปรากฏบนใบหน้าของเขา “เธอต้องหวังว่าเธอจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในใจฉัน
“ใช่สิ และหลังจากที่เธอตื่นขึ้นและได้ยินข่าวร้ายของ เอมิเนนท์ ออเนอร์ ที่ใกล้จะล้มละลาย บางทีเธออาจจะลากร่างที่ผอมบางและบอบบางของเธอไปทุกที่เพื่อช่วยนายทำธุรกิจบางอย่าง”เซย์นดูเหมือนใจคอไม่ค่อยดี“ถ้านายต้องการสิ่งที่ดีสำหรับเธอ นายควรมีความมุ่งมั่นมากขึ้นในฐานะผู้ดูแลปัจจุบันของบริษัท เซเวียร์ เพื่อให้เธอกังวลน้อยลง”เซย์นยืนขึ้นอย่างกะทันหันและยกนิ้วให้เจย์ “คุณยอดเยี่ยมมาก ท่านอาเรส ผมจะไปแล้ว! ฝากดูแลน้องสาวของผมด้วย”เจย์โบกมือให้เขา “ยังพอมีเวลาที่จะไปที่นั่นอยู่ แต่ฉันจะไม่ออกไปส่งนายนะ”หลังจากเสียงของเซย์นจางหายไป ห้องพักผู้ป่วยก็เงียบสงัดลงเจย์ฟังเสียงหายใจของโรสอย่างตั้งใจไม่เคยมีช่วงเวลาแบบนี้มาก่อน การได้ยินเสียงหายใจของเธอลึกขึ้นทำให้เขารู้สึกสบายใจเป็นพิเศษในตอนเที่ยง หมอมาตรวจเลือดของโรสและบอกเจย์ว่า “ตอนนี้อาการของผู้ป่วยคงที่ขึ้นมาก ดังนั้นเธอจึงสามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้วตามอาการของเธอและห้องพักผู้ป่วยในโรงพยาบาลของเราก็แออัดมาก”ดังนั้น เจย์จึงจัดการขั้นตอนดำเนินเรื่องออกจากโรงพยาบาลของโรสเมื่อเขากลับไปที่ห้องพักผู้ป่วย เขาได้ยินพยาบาลหลายคนกระซิบกร
เจย์กอดโรสไว้ในอ้อมแขนของเขาหลังจากที่เธอได้ออกจากโรงพยาบาล ผู้หญิงทุกวัยเมื่อเห็นเขาเดินผ่านก็ให้ความสนใจกับเขาไปตลอดทาง ใบหน้าของเจย์ดูซีดเซียว แต่เธอก็แอบหัวเราะเบา ๆ“อย่าหัวเราะสิ” เจย์จ้องมองเธอโรสเหลือบมองผู้หญิงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามที่ดูเหมือนน้ำลายไหลเมื่อเห็นเขาขณะที่เธอยิ้มและจ้องไปที่เจย์เหมือนคนโง่ที่กำลังตกหลุมรักโรสแกล้งเขา แล้วพูดว่า “เธอคนนั้นดูเหมือนจะชอบ ท่านอาเรสนะ”เขาโต้กลับอย่างเย็นชา “เธอแน่ใจหรือว่าคนพวกนั้นไม่ใช่ผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม?”โรสหัวเราะออกมาดัง ๆ ลิ้นที่เป็นพิษของผู้ชายคนนี้ไม่ควรถูกยั่วยุณ บริเวณทางเข้าโรงพยาบาลมีคนกลุ่มหนึ่งมาล้อม รถโรลส์ - รอยซ์ของเจย์ เจ้าหน้าที่จราจรตะโกนคุยกันอย่างใจจดใจจ่อ “แล้วไงถ้าแกรวยมาก? หมายความว่าแกไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างนั้นสิ? แกจะปิดกั้นถนนทั้งสายได้เพียงเพราะแกมีเงินแบบนี้อย่างนั้นหรือ?”เมื่อเจย์เดินผ่านเจ้าหน้าที่จราจรไป พวกเขาก็เงียบลงทันทีเมื่อเห็นเจย์เขาจำรถโรลส์ - รอยซ์ไม่ได้ แต่เขาสามารถระบุได้ว่านายท่านคนนี้ต้องเป็นเจ้าของเขาไปยุ่งกับคนที่ไม่ควรยุ่งใช่ไหม?“ผมขอโทษครับ น
“ฉันมีเรื่องจะคุยกับเจมส์ ดังนั้นเธอไปช่วยเตรียมอาหารเช้าของเราไว้ก่อนเลย”โรสเหลือบมองแขกอย่างลับ ๆ แล้วพูดด้วยหน้าตาบูดบึ้ง “สามที่เหรอ?”เจย์ยิ้ม “ไม่ ๆ แค่สองเท่านั้น”เขาจะไม่ยอมให้สองมือของเธอไปทำอะไรให้คนอื่นเด็ดขาดเมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เธอก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ดีล่ะ”จากนั้น เจย์ก็พาเจมส์ไปที่ห้องอ่านหนังสือในช่วงแรก ท่ามกลางบรรยากาศของการพูดคุยค่อนข้างผ่อนคลาย“เจย์ นายชอบโรส ลอยล์ จริง ๆ เหรอ?”เจย์พยักหน้า“อาเจมส์ ด้วยสถานะปัจจุบันของผม ผมเองไม่จำเป็นต้องบังคับตัวเองให้ทำอะไรเลย มีเหตุผลเดียวที่ผมจะต้องแต่งงานกับเธอ และนั่นเป็นเพราะผมรักเธอ ดังนั้น ผมขอให้อาเจมส์อย่าเย็นชาและเอาใจใส่โรสสักหน่อยต่อไปในอนาคตด้วยนะ”ใบหน้าของเจมส์จมลงในขณะที่เขาพูดต่ออย่างนิ่ง ๆ “นายรู้ตัวเองดีว่านายมีคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยม นายอาจเลือกใครก็ได้จากการออกงานสังคม แต่นายมาเลือกแต่งงานกับลูกสาวนอกกฎหมายของตระกูลลอยล์ นายนี่มันตาบอดสุด ๆ!”“อาเจมส์ ผมไม่คิดว่าวันนี้คุณมาที่นี่เพื่อที่จะแยกคู่รักออกจากกัน ใช่ไหม?” เจย์กัดฟันพูดอย่างโกรธ ๆเมื่อสังเกตเห็นความไม่พอใจในน้ำเสียงของเจ
“ฉันคิดว่าเครื่องครัวของนายไม่ต้อนรับฉันที่นี่เลย ท่านอาเรส มันดูเหมือนว่าฉันไม่ควรจะมาที่นี่บ่อย ๆ ในอนาคตนะ!” หลังจากนั้นไม่นาน ในที่สุดโรสก็เงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเจย์เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ โรสแสดงออกด้วยท่าทีที่จะบอกว่า ‘ฉันจะไม่ทำอาหารอีกแล้ว’ เขียนไว้ทั่วใบหน้าของเธอ!“ให้ฉันทำเถอะนะ” เจย์เดินไปหยิบแป้งจากมือเธอ จากนั้น เขาก็เริ่มปรุงอาหารโรส ผู้ซึ่งกำลังเบื่อ ก็เริ่มพูดคุยไม่รู้จบ “นายทำอาหารได้เหรอ ท่านอาเรส?“มันไม่สมเหตุสมผลเลย เพื่อน ๆ บอกฉันว่าผู้ชายที่ทำอาหารได้คือผู้ชายที่หาเงินไม่ได้“แต่ดูเหมือนว่านายจะทำอาหารยุโรปแบบง่าย ๆ ได้ ถ้าจะพูดแบบไม่อ้อมค้อมกับนายเลยนะ อาหารยุโรปไม่ได้ตรงใจทุกคนเสมอไป นอกจากนี้ การกินมันอย่างต่อเนื่องจะทำให้นายท้องอืดเหมือนลูกโป่ง…”เป็นเพราะเธอไม่ชอบอาหารยุโรป!เจย์กำลังทอดเบคอนและไข่อย่างรวดเร็วในขณะที่เธอพูดพึมพำออกไปเรื่อย ๆโรสเห็นเบคอนสีน้ำตาลทองและแสดงอาการอยากกินด้วยการเลียริมฝีปากของเธอ“ฉันกินได้เลยไหม?” โรสถามอย่างน่าเวทนาเจย์เหลือบมองเสื้อผ้าของเธอที่เปื้อนแยมแล้วขมวดคิ้ว “ไปเปลี่ยนเสื้อดีกว่าแล้วค่อยลงมาทานอาหารเช้า”ทันใ
“เธอเพิ่งถูกลากออกจากห้องฉุกเฉินเมื่อวานนี้ เธอไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนไข้หรือไง?”ปากของโรสเบิกกว้างด้วยความตกใจ“เมื่อคืนฉันไปห้องฉุกเฉินเหรอ? ทำไมฉันจำสิ่งนี้ไม่ได้เลยล่ะ?”“เธอเมาแล้วสลบไปเลย” เจย์ปิดหนังสือของเขา ใบหน้าของเขาเย็นชาและเคร่งเครียด“ผู้หญิงที่มาจากครอบครัวที่ดีจะไม่เมาเหล้านอกบ้านขนาดนั้นหรอกนะ เธอได้รับการชักจูงที่ไม่ดีจากโจเซฟิน”โรสอ้าปากค้างอย่างงุนงงและพูดติดอ่าง “ฉันนี่แหละ ตัวชักจูงที่ไม่ดีน่ะ!”“เธอยังสู้อย่างสุดใจที่จะพูดคำเหล่านั้นออกมาดัง ๆ อีกเหรอ?”โรสก้มหน้าเมื่อพูดถึงโจเซฟิน โรสก็กังวลไม่หยุดหย่อน “ว่าแต่… โจซี่ โอเคหรือเปล่า?”เจย์ตอบว่า “ในแง่มุมไหนล่ะ?”โรส “...”“เธอไม่ได้ไปอยู่ห้องฉุกเฉินใช่ไหม?”“เธอสบายดี”โรสไม่สบายใจ ดังนั้นเธอจึงยืนขึ้นจากชิงช้า “ฉันไปถามเธอดีกว่า”เธอเข้าไปในบ้านและโทรหาโจเซฟินทันทีหลังจากรอสายมานาน ในที่สุดโจเซฟินก็รับสาย“ฉันขอโทษนะ โรส ขีดจำกัดความน่าเชื่อถือของเธอในความรู้สึกของฉันตอนนี้มันติดลบแล้วแหละ ดังนัน้ในอนาคตไม่ต้องมาติดต่อฉันอีก” โจเซฟินวางสายหลังจากพูดจบโรสมองโทรศัพท์ด้วยความงุนงงเธอรู้สึกงุ
เมื่อโรสแต่งตัวเสร็จแล้วและเดินออกมา เจย์ก็กำลังเตรียมรถออกมาข้างนอก“ฉันกำลังจะไปที่บริษัท ดังนั้นฉันจะพาเธอไปที่นั่นด้วยเลยแล้วกัน”เขากำลังเริ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ในขณะที่พูด ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สังเกตเห็นใบหน้าของโรสที่แสดงออกมาอย่างงุนงง เมื่อเธอเปิดประตูหลัง เธอก็ได้ยินเจย์พูดพึมพำ “มานั่งข้างหน้าแล้วคุยกับฉันนี่”โรสอดไม่ได้ที่จะสงสัย คนที่แทบจะไม่ค่อยพูดเริ่มอยากหาใครสักคนที่จะสนทนากับเขาด้วย บางทีอาจมีบางอย่างผิดปกติกับสมองของเขาก็เป็นได้กระนั้น เธอเชื่อฟังเขาและลุกไปนั่งที่เบาะหน้ากับเขา“เธอขับรถเป็นไหม?” เจย์เงยหน้าขึ้นมองเธอโรสลังเลอยู่พักหนึ่งก่อนจะส่ายหัว “ไม่เป็น”แองเจลีนขับรถได้ แต่โรสขับไม่ได้!“ฉันจะสอนเธอเอง” เจย์กล่าวโรสจ้องมองที่กุญแจรถของเขา และเธอก็รู้ว่ามันเป็นรถใหม่ แม้ว่าตัวถังของมาเซราติจะเล็กกว่าเล็กน้อย แต่การตกแต่งภายในก็ยังดูหรูหราและรูปลักษณ์ที่ดูปราดเปรียวมันเป็นรถที่โรสกระตือรือร้นที่อยากได้มาครอบครองมากที่สุดเธอถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น “ทำไมจู่ ๆ นายถึงสนใจที่จะสอนวิธีขับรถให้ฉันล่ะ?”“เมื่อเธอรู้วิธีใช้แล้ว รถก็จะเป็นของเธอ” เจย์พ
โจเซฟินถอดเครื่องมือบำรุงหน้าออกด้วยท่าทางที่โกรธจัด เมื่อเธอเห็นโรส เธอดึงมันมาปิดตาอีกครั้ง เธอถามอย่างโกรธเคือง “เธอมาที่นี่ทำไม?”โรสนั่งข้างเธอและถอนหายใจอย่างเงียบ ๆ“เกิดอะไรขึ้นกับเธอ โจซี่? อย่างน้อยเธอต้องให้เหตุผลที่เธอโกรธฉันก่อนสิ”โจเซฟินเปิดหน้ากากบำรุงหน้าออกอีกครั้งและพูดกับช่างเสริมสวยว่า “เธอออกไปก่อนได่”พนักงานก็ลุกออกไปทันทีโรสสังเกตเห็นว่าดวงตาของโจเซฟินบวมมากแค่ไหนเมื่อเธอแสดงท่าทีที่ไม่สามารถลืมตาได้อย่างปกติ โรสรู้สึกได้ทันทีว่าหัวใจของเธอเหมือนถูกแทงอย่างเจ็บปวดต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าที่ใครสักคนร้องไห้จนตาบวมแบบนี้?“เธอเป็นคนบอกว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเธอกับเซย์นไม่ใช่เหรอ โรส ลอยล์?”“แน่นอน!” โรสพยักหน้าโจเซฟินโกรธมากจนยกหมอนขึ้นโยนทิ้ง “เธอโกหก ตอนเธอเข้าไปในห้องฉุกเฉินเมื่อวานนี้ เซย์นรีบไปหาเธอด้วยซ้ำ เขาดูเป็นห่วงเธอมากจนฉันสามารถบอกได้ว่าเขาห่วงใยเธอมากแค่ไหน ฉันดูออกแม้ว่าฉันจะดูเป็นคนโง่เง่าก็ตาม!”โรสถึงกับอึ้งไปเลยทำไมทัศนคติของเซย์นที่มีต่อเธอจึงเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วได้ขนาดนี้?“มันจริงเหรอ?”“แล้วเธอรู้สึกดีใจและภูมิใจเป็นพิ