อุณหภูมิภายในห้องพลันลดลงหลายองศาทีเดียวเขาไม่เคยคิดเลยว่าเจนสันจะถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมในโรงเรียนดี ดีมาก!เจย์กลายเป็นมัจจุราช ราชาแห่งนรกไปแล้ว เขาทิ่มแทงครูสาวด้วยสายตาอำมหิต"ผมคิดว่าคนที่จะต้องกลับบ้านไปพักน่าจะเป็นคุณมากกว่านะ" เจย์กล่าวเสียงเย็น เขาหยิบมือถือออกมาโทรครูสาวดูชอบใจ ชัดเจนเลยว่าชายหนุ่มคนนี้กำลังเสียขวัญและกำลังโทรหาใครสักคนเพื่อให้ช่วยเจนสันยังอยู่ในโรงเรียนต่อยังไงก็ตาม ครู่ต่อมา เธอก็ได้รับสายที่ไม่คาดคิดจากผู้อำนวยการเมื่อเห็นความสงบและท่าทางอันจองหองของเจย์ ความรู้สึกไม่สบายใจก็เริ่มก่อตัวขึ้นในอกเธอ เธอหยิบมือถือออกมาและเริ่มมีเหงื่อไหลการพูดอันหยิ่งยะโสพลันเปลี่ยนเป็นสุภาพนอบน้อมทันที "ผู้อำนวยการ มีปัญหาอะไรรึเปล่าคะ?""คุณเพิ่งจะล่วงเกินตัวตนที่ทรงพลังและสำคัญมากไป" ผู้อำนวยการคำราม "เก็บข้าวของแล้วไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!"ผู้อำนวยการควันออกหู ช่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง! เธอกล้าดีที่จะล่วงเกินมัจจุราชผู้โด่งดัง เทพแห่งความตาย—ท่านอาเรส เธอยังกล้าถึงขนาดทำให้นายน้อยผู้เป็นที่รักของตระกูลอาเรสต้องอับอาย!มันก็สมควรแล้วที่เธอจะโดนฝังลงหลุมไป
เมืองนอร์ธ โรงเรียนอนุบาลซินซินในตอนที่เจนสันมาถึงโรงเรียนอนุบาล เขาก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากครูและเหล่าเพื่อนนักเรียน"ร็อบบี้น้อย ฉันเอาของเล่นใหม่มาวันนี้ล่ะ อยากเล่นด้วยกันกับฉันไหม?""ร็อบบี้น้อย เราเล่นเกมด้วยกันอีกรอบดีไหม?"...เจนสันอ้าปากค้างกับเด็กน้อยน่ารักเหล่านี้ เขาพยักหน้าให้เด็กเหล่านั้นอุปลักษณ์นิสัยของร็อบบี้น้อยนั้นมักเป็นที่ชื่นชอบ และเจนสันเองก็รู้สึกดีใจกับเขาจากใจจริงเจนสันนั้นอยากรู้มากว่าเด็กคนไหนที่เป็นน้องสาวของเขา เซ็ตตี้ เพราะว่าเขายังไม่เคยเจอเซ็ตตี้ เขาจึงสงสัยมากเกี่ยวกับน้องสาวปริศนาคนนี้"ร็อบบี้น้อย น้องสาวนายกำลังร้องไห้" ทันใดนั้น เด็กคนหนึ่งก็วิ่งมาดึงตัวเจนสัน แล้วพาเขาไปที่สวนดอกไม้ของโรงเรียนอนุบาลเมื่อได้ยินเช่นนั้น แววความกังวลก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเจนสันอะไรทำให้เธอร้องไห้?เขาพยายามที่จะไม่ร้องไห้มาตลอด คุณพ่อของเขาสอนเขา: ลูกผู้ชายจะไม่ร้องไห้กับเรื่องเล็ก ๆ!ดังนั้น เมื่อเจนสันได้ยินว่าเซ็ตตี้กำลังร้องไห้ เขาจึงคิดว่ามันต้องเป็นเรื่องร้ายแรงเมื่อเด็กคนนั้นพาเจนสันไปอยู่ตรงหน้าเซ็ตตี้ ภาพตรงหน้าก็ทำให้เขางงเป็นไก่
เจนสันสะดุดเล็กน้อย ถ้าใครก็ตามที่มีนิสัยแบบเซ็ตตี้ เจนสันจะดูถูกคนแบบนั้นแน่นอน แต่เจนสันรู้สึกช่วยไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าน้องสาวของเขานั้นน่าเอ็นดูเอามาก ๆพี่ชายน้องสาวมาถึงห้องเรียนในที่สุด คุณครูได้แจกกระดาษวาดเขียนและดินสอให้แก่เด็ก ๆ เจนสันวาดภาพคุณแม่ของเขา เพราะถึงแม้ว่าบุคลิกของเจนสันจะค่อนข้างเงียบ แต่ทักษะการวาดของเขานั้นล้ำหน้าทั้งร็อบบี้น้อยและเซ็ตตี้ไปไกลตั้งแต่เด็ก ๆเมื่อมองดูภาพวาดคุณแม่ที่สวยงามไร้ที่ติอย่างชื่นชม เซ็ตตี้ก็ขอร้องเจนสัน "พี่ชาย รูปคุณแม่ที่พี่วาดสวยมากเลย พี่วาดหนูด้วยได้ไหม?"เจนสันพยักหน้า "อ่าฮะ"เมื่อถึงเวลาเก็บงาน คุณครูนั้นแปลกใจมากกับภาพวาดของเจนสัน "ร็อบบี้น้อย เธอพัฒนาขึ้นมากเลยนะเนี่ย"เพื่อเป็นรางวัล คุณครูได้มอบคุกกี้โอริโอ้ถุงใหญ่ให้ "ร็อบบี้น้อย"เจนสันส่งคุกกี้ให้เซ็ตตี้ทันที "น้องชอบมันไหม?"เซ็ตตี้รับมันมาอย่างดีใจ เธอฉีกถุงออก ก่อนจะยัดชิ้นแรกเข้าปากเจนสัน "กินก่อนเลย พี่ชาย"หลังจากนั้น เซ็ตตี้ก็แบ่งขนมให้เเพื่อนคนอื่น ๆ เมื่อวนมาถึงรอบของเธอ มันก็ไม่มีคุกกี้เหลือแล้ว แต่เซ็ตตี้ก็ยังอารมณ์ดี "คุณแม่บอกว่าเราต้องแบ่งปันสิ่งดี ๆ
โจเซฟินเด้งขึ้นมาจากโซฟาด้วยความตกใจ เธอจับแก้มของร็อบบี้น้อยโดยไม่มีสัญญาณเตือน ทั้งบีบทั้งหยิก "เดี๋ยวนะ นี่ใช่เจนสันจอมเหยียดหยามและไม่ไว้ใจใครของพวกเราจริงเหรอ?"ร็อบบี้น้อยไม่ได้ดูโกรธหรือรำคาญอะไรกับการกระทำของโจเซฟิน ตรงกันข้าม เขาเผยรอยยิ้มอันใสซื่อให้เธอแทนโจเซฟินตะโกนออกมาด้วยความแปลกใจ "เจย์ ฉันมั่นใจว่าลูกชายของนายถูกลักพาตัวแน่"เจย์ตบเข้าไปที่หลังหัวของโจเซฟินและตำหนิเธออย่างเยือกเย็น "เธอควรหยุดอ่านนิยายไร้สาระพวกนั้นได้แล้ว สิ่งที่เธอพูดชักจะเพ้อเจ้อเข้าไปทุกวัน"แม้ว่าคุณปู่คุณย่าไม่สามารถยอมเชื่อการจับพิรุธแปลก ๆ ของโจเซฟินได้ พวกเขาไม่อยากจะคิดหากหลานของพวกเขาถูกพาตัวไปเมื่อพวกเขาเริ่มทานอาหาร คุณปู่คุณย่าตักอาหารจำนวนมากใส่ชามของร็อบบี้น้อย แต่เด็กน้อยก็ไม่ได้ปฏิเสธเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม เขาขอบคุณผู้อาวุโสทั้งสองอย่างสุภาพ "ขอบคุณนะครับคุณปู่ ขอบคุณนะครับคุณย่า"แม้ว่า "เจนสัน" จะน่ารักและเป็นมิตร เจย์พลันรู้สึกว่ามีอะไรผิดแปลกไปทั้งครอบครัวนั้นค่อนข้างชินกับความเฉยเมยของเจนสัน จึงเข้าใจได้ว่าทำไมตอนนี้พวกเขาจึงไม่รู้ว่าจะรับมือกับเด็กชายในตอนนี้ยังไง เจ
เจย์แสดงจุดยืนของตัวเองโดยไม่ลังเล "พ่อ เธอมีครอบครัวใหม่และมีลูกด้วยกันแล้ว เธอไม่มีทางมอบรักของแม่ที่แท้จริงให้เจนสันได้ ได้โปรดอย่าบอกว่าเธอเป็นแม่ของเขา อย่าสร้างความหวังให้เขา สุดท้ายเขาจะผิดหวัง"ชายชราดูโกรธ เขามองหน้าลูกชายแล้วคัดค้าน "เจย์ ถึงแกจะเกลียดเธอ แต่เธอก็เป็นแม่ของเจนสัน สายสัมพันธ์แม่ลูกไม่มีวันถูกทำลาย แกจะไม่เปิดใจแล้วให้พวกเขารู้จักกันหน่อยหรือยังไง? นี่ก็เพื่อประโยชน์ของเจนสันนะ"เมื่อเจย์ออกมาจากห้องหนังสือของชายชรา เขารู้สึกสับสนมากกว่าที่เคยมันดึกมากแล้วในตอนที่พวกเขาออกจากบ้านของคุณปู่และคุณย่า เจย์เดินออกมาจากคฤหาสน์ อุ้มร็อบบี้น้อยไว้ด้วยแขนข้างเดียว ร็อบบี้น้อยโบกมือลาให้คุณปู่และคุณย่าอย่างกระตือรือร้น "ลาก่อนครับคุณปู่ ลาก่อนครับคุณย่า ลาก่อนครับน้าโจเซฟิน"หลังจากจบการร่ำลา ร็อบบี้น้อยก็กอดคอของพ่อ 'คุณพ่อแข็งแรง เขาอุ้มเราได้ด้วยมือข้างเดียว' เขาคิด ร็อบบี้น้อยมีความสุขกับความรู้สึกเมื่อมีพ่อ"คุณพ่อ ผมอยากขึ้น ขึ้นไป!" ร็อบบี้น้อยนั้นอิจฉาเด็กคนอื่นที่ขี่คอพ่อเสมอ ในที่สุด เขาก็จะได้รับประสบการณ์ด้วยตัวเองแล้วใบหน้าของเจย์จริงจังขึ้นเล็กน้อย
เจย์รู้สึกเหมือนเขาเพิ่งได้ยินเรื่องตลกมาก ๆ อยู่ ใบหน้าหล่อเหลาแสนเย็นชาของเขาแข็งค้าง'โรสเป็นนักเรียนระดับท็อปของสถานบันที่หนึ่ง?''เธอไม่ได้ส่องกระจกมองตัวเองรึไง ก่อนจะพ่นอะไรไร้สาระออกมาน่ะ นักเรียนทุกคนของสถานบันที่หนึ่งล้วนเป็นคนที่น่าทึ่ง''เธอโกหกเจนสันแบบนั้นได้ยังไง?'"เจนสัน" เจย์บอกด้วน้ำเสียงที่เพิ่มระดับมากขึ้น "ต่อให้เธอจบมาจากสถาบันที่หนึ่ง ความรู้เฉพาะทางและความเชี่ยวชาญของเธอก็ยังไม่ถึงระดับพนักงานของแกรนด์เอเซียที่เราต้องการ คุณพ่อไม่สามารถยกเว้นให้เธอได้ แบบนั้นจะไม่ยุติธรรมกับผู้สมัครคนอื่น"เจย์นั้นผิดหวังมากกับคำโกหกอันไร้ยางอายของโรส แต่อย่างไรก็ตาม เขาไม่ค่อยอยากจะทำให้โรสขายหน้าต่อหน้า "เจนสัน"มันคือการปกป้องลูกของเขา—เขาไม่อยากเป็นคนที่ทำลายภาพของคุณแม่ที่งดงามในใจของลูกชายร็อบบี้น้อยนั้นมั่นใจกับความสามารถของคุณแม่เขามาก เขาย้ำและขอร้องเจย์ "คุณพ่อเชื่อผมเถอะครับ โรสน่ะเก่งจริง ๆ ได้โปรดให้เธอทำงานในบริษัทพ่อนะ? นะคร้าบ?"เจย์ถึงกับมึนงง "เจนสัน" ไม่เคยอ้อนวอนเขาเลย นี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยากมาก แล้วมันก็มีความจริงใจในน้ำเสียงของเขามากเหลื
เขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้แม่ของเขาร้องไห้ แต่เขาตกลงกับร็อบบี้น้อยแล้วว่าจะทำให้คุณแม่ยอมรับการทำงานที่แกรนด์เอเซียเจนสันไม่แน่ใจว่าจะทำอย่างไรดี เขาจึงพยายามใบ้นิด ๆ ผ่านการวาด พยายามสื่อว่าเขาต้องการแม่มากแค่ไหนเขาหวังว่าแม่จะเข้าใจข้อความที่เขาต้องการสื่อผ่านภาพวาดและตกลงรับการรับสมัครของแกรนด์เอเซียในตอนนั้น เจย์พยายามโทรหาเธอ โรสมองไปที่เบอร์ที่ไม่คุ้นบนจอมือถือของเธอและเมินมัน"คุณแม่ โทรศัพท์เข้า!" เจนสันแหกปาก แล้วส่งมือถือให้แม่ของเขาเบอร์ที่ไม่ระบุชื่อนี้เจนสันคุ้นเคยเป็นอย่างดี เขารู้อยู่แล้วว่าใครเป็นผู้โทรเข้ามา มันคือสายจากคุณพ่อของเขาเจนสันช่วยนำมือถือให้โรสและส่งมันเธอ เมื่อไม่อยากทำให้ลูกชายของเธอผิดหวัง เธอหยิบมือถือขึ้นมาแล้วรับสาย"โรส..."เมื่อเสียงเย็นยะเยือกของเจย์ผ่านเข้ามาในสาย โรสก็สะดุ้งเล็กน้อย"เธอสนใจจะทำงานในแกรนด์เอเซียรึเปล่า?" เสียงของเจย์นั้นราบเรียบ"ทำงานในแกรนด์เอเซีย?" โรสประหลาดใจ ถ้าเธอรับข้อเสนอนี้ในฐานะแองเจลีน มันจะไม่น่าแปลกใจเลยทว่า ตอนนี้เธอคือโรส! ในหัวของเจย์ เธอคือภรรยาป่าเถื่อนที่ไร้การศึกษา!"ท่านอาเรส คุณทำแบบนี้ทำไม?"
ดูเหมือนว่าโรสจะเลือกอยู่ภายใต้แผนกของเขาโดยตรง นั่นแสดงให้เห็นว่าเธอยังไม่เลิกนิสัยเดิมของเธอ"เยี่ยมมาก จำไว้ว่าต้องไปรายงานตัวที่แผนกทรัพยากรบุคลากรในศูนย์หลักของแกรนด์เอเซียสิบโมงเช้า ฉันจะทำให้มั่นใจว่าผู้สัมภาษณ์ในแผนกบุคลากรจะต้อนรับเธอเป็นอย่างยิ่งใหญ่" เจย์กัดฟันแน่นและเน้นคำว่า "ยิ่งใหญ่"โรสรู้สึกถึงความรู้สึกดูถูกอันรุนแรงจากผลายสาย "ขอบคุณมากค่ะ ท่านอาเรส!" แม้ว่าเธอจะกลัวสิ่งที่จะเกิดขึ้น แต่เธอก็ยังคงทำตัวเข้มแข็งหลังจากวางสาย โรสแต่งหน้าบาง ๆแม้ว่ามันจะบางและเป็นการแต่งแนวธรรมชาติ ผิวขาวผ่องและใบหน้าอันนุ่มนวลของเธอผสมเข้ากับชั้นแป้งบาง ๆ ทำให้เธอยิ่งดูสูงศักดิ์ คู่กับผมของเธอที่มัดทรงบันสูง และกระโปรงลูกไม้สีม่วงสว่าง เธอกลายเป็นแฟรี่แสนสวยไปเลยเซ็ตตี้นำกระเป๋า Michael Kors ของแม่เธอออกมา ด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล เธอกล่าวเสียงหวาน "คุณแม่ กระเป๋าใบนี้เข้ากับเมคอัพวันนี้ คุณแม่ดูเหมือนแฟรี่เลย คุณแม่สวยมากค่ะ"โรสรับกระเป๋ามาและจูบเซ็ตตี้ เธอขยิบตาให้เซ็ตตี้อย่างหยอกล้อแล้วกล่าว "แม่ดูเหมือนคนทำความสะอาดเหรอ?"เจย์บอกว่าเธอเหมาะกับการเป็นพนักงานทำความสะอาดของแกรนด์