เจย์จับมือของโรสแล้วเดินไปสู่จุดศูนย์กลางของฟลอร์เต้นรำเสียงดังก่อนหน้าในโถงพลันเงียบลง ทุกคนให้ความสนใจกับกึ่งกลางของฟลอร์เต้นรำโรสเป็นเหมือนหุ่นเชิดที่ถูกชักใยในขณะที่เธอสั่นเทาเมื่อมองเจย์ ดนตรีเริ่มขึ้น เธอยังคงตกใจและไม่ยอมขยับเจย์ขมวดคิ้ว เขาจับเธอสู่อ้อมแขนอย่างหยาบคายแล้วนำริมฝีปากไปที่ข้างหูของเธอ เขาขู่เธอเสียงต่ำ "โรส มันเรื่องของเธอถ้าจะทำให้ตัวเองขายขี้หน้า แต่อย่าลากฉันลงไปกับเธอ"โรสตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว เขาเป็นบุคคลสาธารณะ ทุกการเคลื่อนไหวและทุกคำพูดของเขาอยู่ใต้ไมโครโฟนของสังคม หากพวกเธอทำให้ตัวเองขายหน้า เขาอาจไปปรากฏอยู่ในข่าววันหพรุ่งนี้สำหรับชายที่ไม่เคยพ่ายแพ้มาตลอดทั้งชีวืต หากเขาเสียหน้า มันจะไม่เป็นการสูญเสียมหาศาลเหรอ?โรสพยายามตั้งใจ ด้วยทำนองเพลงที่คุ้นเคย ร่วมกับคู่ที่คุ้นเคย เธอสามารถทำให้ตัวเองเข้าสู่สภาพจิตใจที่เหมาะสมได้อย่างรวดเร็วเจย์ไม่คิดว่าเธอจะเข้าคู่กับเขาได้ดีแบบนี้ เพราะยังไงซะ เพลงวอลซ์ก็ไม่ใช่จังหวะเต้นรำทั่วไป มันจำเป็นต้องมีสมาธิกับทำนองดนตรีมาก ทั้งสองคนมีจังหวะคงเส้นคงวา พวกเขาขยับพร้อมกันและก้าวตรงจุดที่ถูกต้อง ในขณะที่ปลดปล
นั่นทำให้เจย์โกรธยิ่งกว่าเดิม!โรสกลับไปที่มุมห้อง หัวใจเธอเต้นระรัว มันยังไม่สงบลงแม้จะผ่านไปนานกลายเป็นว่าเธอยังได้เต้นรำกับเจย์ในชีวิตนี้เพลงวอลซ์นั้น ผู้เต้นรำจำเป็นต้องเต้นหมุนเป็นจังหวะไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ ซ้ำไปมาชะตาของเธอกับเจย์ก็เหมือนกับเพลงวอลซ์ มันหมุนเป็นวงกลม?ที่มุมมืด สายตาริษยาของแนนซี่ลึกดั่งทะเลที่ดับเปลวเพลิงเธอเป็นแฟนตัวจริงของเจย์ แต่โรสแย่งมันไปจากเธอในวันนั้น เธอจะทำให้โรสชดใช้สำหรับการอวดดีแนนซี่หันหลังแล้วหายไปในมุมที่เงียบสงบหลังจากพักหนึ่ง"คุณโรส!" ทันใดนั้น เสียงอันนุ่มนวลก็ดังขัดภวังค์ของโรส โรสมองที่หญิงสาวที่งดงามซึ่งปรากฏตัวหน้าเธอ "มีอะไรเหรอคะ?""คุณโรส มีใครบางคนต้องการพบคุณ ได้โปรดมากับฉันด้วย" ท่าทางขอเธอดูสุภาพและอ่อนโยนโรสไม่รู้เป้าหมายของเธอและลังเล"คุณโรส คุณปู่อาเรสต้องการพบคุณ" สวาสวยคนนั้นเลิกคิ้วขึ้น และมีร่องรอยความรู้สึกผิดในสายตาโรสผงะเล็กน้อน 'นายท่านชราแห่งอาเรส?'นายท่านชราแห่งอาเรสนั้นเป็นเพื่อนที่ดีกับปู่ของเธอ สมัยที่เธอยังเด็ก เธอมักจะเห็นนายท่านชราแห่งอาเรสพร้อมกับรอยยิ้มเป็นมิตรของเขา ในความเป็นจริง
เมื่อฌอนเปิดดวงตาสีหมอกของเขาขึ้น เขาก็เห็นโรสผู้งดงามและบริสุทธิ์ เขาหยอก "คุณผู้หญิงสุดสวย คุณอยากลิ้มลองผมเหรอ? รู้ไหม ด้วยความสวยระดับคุณเนี่ย คุณไม่จำเป็นต้องสร้างปัญหาด้วยการวางยาผมด้วยซ้ำ ผมจะพอใจได้ยังไงถ้าร่างกายอ่อนปวกเปียกแบบนี้? ถ้าคุณให้ยาแก้กับผม ผมมั่นใจเลยว่าคุณจะได้รับช่วงเวลาที่ดี!"ใบหน้าของเหล่าตระกูลเบลดูบิดเบี้ยว 'โรสเป็นภรรยาเก่าของเจย์ ฌอนจะคั่วเธอได้ยังไง?'นี่เขาน่าสิ้นหวังขนาดนั้นเลยเหรอ?'เจย์เดือดมาก เขาไม่ละละสายตาจากหน้าจอ โรสคงถูกแทงเป็นชิ้น ๆ ไปแล้วหากดวงตาของเขาเป็นมีดบิน'เธอพยายามจะใช้แผนเดียวกันกับฌอนเหมือนกัน?'โรสมองดูฌอนเหมือนเธอกำลังชื่นชมสมบัติชาติ หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ริมฝีปากของโรสก็เผยอขึ้นเป็นรอยยิ้มแสยะ "ฉันบอกว่าได้ว่าคุณต้องเคยทำเรื่องชั่วร้ายมามากมายแน่ และมีใครบางคนกำลังแก้แค้นคุณ"ร่างกายของฌอนรู้สึกอ่อนแรง และสายตาของเขาก็พร่ามัว แก้มของเขาเริ่มแดง "คุณไม่ใช่คนที่วางยาผม?"โรสบอกได้ว่ายากำลังเริ่มทำงานในตัวเขาแล้ว เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เขาล่วงเกินเธอ โรสจึงควานหารอบห้องเพื่อหาอะไรที่เธอจะใช้ได้ ในเวลาเดียวกัน เธอก็กล่าวอ
"ก็ ถ้าคุณต้องการจะตายอย่างมีมนุษยธรรม ฉันก็ช่วยคุณได้ล่ะนะ" โรสแกล้งเขาอย่างซุกซนฌอนพูดไม่ออกสุด ๆ "คุณช่วยโยนความคิดที่ไม่บริสุทธิ์พวกนั้นไปก่อนได้ไหม? ผมแค่จะขอให้คุณเทน้ำให้ผมสักแก้ว"โรสถึงกับหมดคำพูดเธอยืนขึ้นแล้วเทน้ำอุ่นให้เขาแก้วหนึ่ง เมื่อเธอส่งให้เขา ดวงตาของฌอนก็มองเธอด้วยความไม่พอใจมาก "มือผมถูกมัด คุณช่วยป้อนผมได้ไหม?"โรสยื่นมือของเธอแล้วยกแก้มเขาขึ้น ก่อนจะเทน้ำลงในปากเขาฌอนสำลักน้ำอย่างหนักจนน้ำตาไหลออกมา เขาคำราม "นี่คุณเป็นผู้หญิงจริงรึเปล่าเนี่ย? ทำไมถึงได้หยาบกระด้างนัก?"โรสโมโห "คุณควรขอบคุณฉันที่ยังมอบน้ำให้ดื่มด้วยซ้ำ อย่ามาทำเป็นสั่งฉันนะ"โรสเริ่มสอบปากคำเขาต่อ "คิดให้ดี ๆ ใครที่วางยาคุณ? ทำไมเธอถึงพยายามทำร้ายคุณ? ฉันเป็นหญิงสาวที่ฉาวโฉ่ที่สุดในเมืองหลวงอิมพีเรียล ฉันจึงมั่นใจว่าเธอคงไม่ได้ส่งฉันมาที่นี่เพื่อทำให้คุณเสียชื่อเสียงเพราะเธอต้องการหาภรรยาที่จิตใจดีและมีคุณธรรมหรอก ใช่ไหม?"ฌอนมองโรสแล้วหัวเราะ "แหม ดูคุณจะรู้จักตัวเองค่อนข้างดีเยี่ยมเลยไม่ใช่เหรอ หืม?"เขาเลี่ยงคำถามของโรสถึงสองครั้งติด ดังนั้นเธอจึงเตะเขาด้วยความโกรธ "ช่วยคุยกันเป็น
เจย์แสดงความคิดเห็นของเขาในปัญหานี้แทนตระกูลอาเรส "ผมจะสอบสวนเรื่องนี้ คุณเบล ผมสัญญาว่าจะหาคำอธิบายมาให้คุณ"เขามองที่โรสอย่างต้องการคำตอบแล้วกัดฟัน "ผมจะจัดการกับโรสเช่นกัน"หัวหน้าตระกูลเบลกล่าว "ได้โปรดทำ นายท่านอาเรส! แค่มอบบทลงโทษเล็กน้อยเป็นการเตือนเธอก็พอ ผมไม่ต้องการให้ใครถูกฆ่า" เขาหายไปทันทีที่พูดจบด้วยความกลัว โรสตะโกนไปที่ตระกูลเบลที่กำลังจากไป "นายท่านชราแห่งเบล ฉันยอมรับการลงโทษจากคุณ ฉันจะคุกเข่าให้คุณ ฉันขอร้อง อย่าปล่อยฉันไว้กับเจย์ เจ้าราชาปีศาจนี่!"สายตาของเจย์จ้องที่โรส เขากล่าวอย่างน่าขนลุก "มากับฉัน"โรสกอดเสาไม้สไตล์ยุโรปถัดจากเธออย่างแน่นหนาเหมือนเธอพยายามจะซึมเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของมันหลังจากเดินไปได้ไม่กี่ก้าว เจย์ก็หันกลับมาแล้วเห็นว่าโรสยังอยู่ในจุดเดิม ความเย็นยะเยือกก่อขึ้นในดวงตาของเขาทันที"โรส?" เสียงของเขาบรรจุไว้ด้วยแรงกดดันรุนแรงของภูเขาไฟที่กำลังจะระเบิดโรสจ้องเจย์อย่างน่าสงสาร "ท่านอาเรส นายไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้สักหน่อย นายไม่จำเป็นต้องสร้างปัญหาให้ตัวเอง ฉันจะไปที่เขตพื้นที่ของตระกูลเบลแล้วขอความเมตตาให้พวกเขาลงโทษฉันเอง"หากเธอตกอยู่
ความคิดของโรสเหมือนจมโคลน เธอไม่สามารถคิดอย่างใจเย็นและมีเหตุผลได้เมื่อเธออยู่ต่อหน้าท่านอาเรส เธอเริ่มพูดอย่างไม่เป็นธรรมชาติ "ใบหน้า จมูก และปากของเธอใหญ่กว่าของนาย ท่านอาเรส..." ใบหน้าของเจย์นั้นใหญ่เท่ากับฝ่ามือ มันเหมือนผลงานชิ้นเอกที่สลักจากสวรรค์ ไม่มีส่วนใดที่เกินความจำเป็นเลยด้วยความหมดความอดทน เจย์ผุดขึ้นมาจากเก้าอี้ กวักมือเรียกโรสด้วยการงอนิ้วโรสสับเท้าด้วยความงุนงง เจย์บีบปากของเธอให้ปิดด้วยมือที่เหมือนคีมของเขา และมืออีกข้างก็คว้าเทปยางที่อยู่ถัดจากเขา เขาปิดปากของเธอทั้งหมด"ในเมื่อเธอขาดความสามารถในการแสดงคำพูดของเธอ งั้นเธอก็ควรใช้มือแทน!" เขาอุทานด้วยท่าทางที่สะกดข่ม, หยาบกระด้าง, และโหดร้าย"อื้อ… อื้ออ..." โรสจ้องเจย์ในขณะที่สาปแช่งเขาอย่างไม่เป็นธรรมชาติ "เจย์ ไอ้สารเลว นายมันชั่ว..."เจย์กลับไปที่เก้าอี้ เขาเลิกคิ้วอย่างเรียบเฉย เขานำกระดาษออกมาแผ่นหนึ่งและปากกาสำหรับวาด เขาส่งมันให้โรส "วาดเธอออกมา"โรสส่ายหัวไม่หยุด นี่มันเป็นอะไรที่เธอสามารถอธิบายได้อย่างชัดเจนในไม่กี่คำ ทำไมเธอถึงให้เขาวาดแทน?การวาดมันมีปัญหามากไป ไม่ใช่รึไง?อีกอย่าง เขาก็เป็นคนที่
เจย์ฝืนย้ายสายตาของเขาไปที่รูปวาด...นอกจากฝีมือการตวัดปากกาที่ดี มันก็ไม่มีอะไรดีอีกเลยในภาพร่างของเธอ เมื่อมองแยกกัน เครื่องหน้าของคนนี้นั้นเหมือนผลงานชิ้นเองของพระเจ้า แต่เมื่อจับพวกมันมารวมกัน ผลลัพธ์นั้นเรียกได้ว่าเหมือนภาพเหตุการรถชนนี่มันไม่ได้สะท้อนมาตรฐานของแองเจลีนเลยสักนิดเจย์ส่ายหัว เขาริบคืนคำชมของเธอในใจช่างเพ้อเจ้อ ผู้หญิงไร้ยางอายและหยาบกระด้างแบบโรสจะไปเป็นคนที่ไร้ที่ติและงดงามแบบแองเจลีนแบบที่เขาคิดได้ยังไง?แม้แต่นักเรียนศิลปะระดับมืออาชีพยังต้องรู้สึกอับอายอย่างมากเมื่อมองผลงานศิลป์ของแองเจลีนเมื่อมองภาพวาดของโรสอีกครั้ง มันเหมือนเธอพยายามจะวาดนกอินทรีที่โผบินด้วยปีกที่สยาย แต่กลับจบที่วาดออกมาเป็นไก่จิกข้าวสารแทนเจย์คิดว่าเขาต้องหัวกระแทกอะไรมาไม่ก็ตาบอด รึไม่ เขาก็คิดถึงแองเจลีนมากไป บางทีนั่นอาจเป็นเหตุผลที่เขามักจะเห็นภาพลวงตาไร้สาระแปลกประหลาดนั่น"ไปซะ!" ในหัวของเจย์วุ่นวายไปหมด เขาต้องการสงบมันลงโรสได้พักเสียที เธอรู้สึกเหมือนได้รับการยกโทษกลังจากงานเลี้ยง โจเซฟินก็พากลุ่มก้อนความสุขทั้งสามมาให้เจย์แล้วกล่าวอย่างมั่นใจ "เจย์ เจ้าก้อนน่ารักทั้
เธอพยายามอย่างที่สุดเพื่อจะทำตัวดีกับพ่อของเธอตลอดหลายวันมานี้ แต่ดูเหมือนว่าคุณพ่อของเธอก็ยังไม่ชอบเธอเหมือนเดิมเมื่อเจย์เข้าบ้านไปพร้อมอุ้มร็อบบี้น้อย โรสก็นั่งอย่างกระสับกระส่ายอยู่บนโซฟารอลูก ๆ ของเธอ เมื่อเธอเห็นเจย์อุ้มร็อบบี้น้อยผู้หลับไหลมาในมือ ในขณะที่เจนสันจับมือเซ็ตตี้น้อยที่ดูง่วงเหงาหาวนอนมา หัวใจของโรสก็จมดิ่งลงเล็กน้อยโรสรู้จักกันดีในด้านการบังคับ แต่เมื่อเห็นว่าเขาแม้แต่เลือกปฏิบัติกับเด็ก ๆ ด้วย เธอจึงมองเขาในแง่ร้ายมากในตอนนี้"คุณแม่" เมื่อเซ็ตตี้น้อยเห็นแม่ของเธอ เธอก็โยนตัวเองในอ้อมแขนของแม่เธออย่างน่าสงสารโรสลูบหัวน้อย ๆ ของเธออย่างนุ่มนวล เสียงของเซ็ตตี้น้อยแฝงไว้ด้วยร่องรอยของความเสียใจที่แทบสังเกตไม่ได้ มันชัดเจนว่าเธอใจสลายกับการปฏิบัติที่ไม่ยุติธรรมของพ่อเธอโรสอุ้มเซ็ตตี้น้อยขึ้น จับมือของเจนสัน แล้วเดินขึ้นข้างบน"โรส!"สายตาล้ำลึกและเงียบสงบของเจย์ตกไปที่หลังอันบางแต่ยืดหยุ่นของโรสโรสที่ยืนอยู่บนบันไดขั้นบนสุด หันหัวของเธอกลับมา ดวงตาดั่งฤดูใบไม้ผลิของเธอสั่นไหวและผสมกับร่องรอยความต่อต้านและไม่พอใจต่อเขา"มีอะไรให้ฉันช่วยเหรอ ท่านอาเรส?" เสีย