โรสเริ่มตั้งสติได้ เธอจ้องเจย์ที่ดูโกรธ เธอหันไปพูดกับเจ้าหน้าที่ "เซ็ตตี้ของฉันอาจดูเด็กกว่าพี่ชายของเธอ แต่พวกเขาอยู่ในห้องเดียวกันเสมอ ฉันหวังว่าพวกเขาจะสามารถอยู่ด้วยกันในห้องเรียนระดับสูงในโรงเรียนอนุบาลฮอไรซอนได้"เจ้าหน้าที่รู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย "แต่เซ็ตตี้อายุไม่มากพอจะอยู่ในห้องเรียนระดับสูงนะคะ"โรสรั้น "กฏถูกสร้างโดยมนุษย์ เราต้องพิจารณาความเหมาะสมก่อนจะให้เธอเข้าเรียน คุณไม่คิดแบบนั้นเหรอ?"เจ้าหน้าที่ไปโน้มน้าวโรสไม่ได้ ดังนั้นพวกเธอจึงหันไปมองครูใหญ่แอสเพนแทน ครูใหญ่จึงมองเจย์อีกต่อเจย์มองโรสด้วยสายตาเอาเรื่อง!เซ็ตตี้น้อยนั้นเห็นว่าพวกผู้ใหญ่กำลังมีสถานการณ์น่าอึดอัดกันเพราะเธอ เธอเดินไปที่หน้าครูใหญ่แอสเพน แล้วประกาศเหตุผลของเธออย่างคล่องแคล่วว่าทำไมเธอถึงควรถูกจัดให้อยู่ในชั้นเรียนระดับสูง"คุณปู่ครูใหญ่คะ หนูอาจจะยังเด็ก แต่หนูรู้มาว่ามหาวิทยาลัยชื่อดังมากมายเองก็รับนักศึกษาที่อายุน้อยตราบใดที่พวกเขาเฉลียวฉลาด หากมหาวิทยาลัยทำแบบนั้นได้ ทำไมโรงเรียนอนุบาลจะยกเว้นให้เด็กฉลาดไม่ได้บ้างล่ะคะ?"ครูใหญ่แอสเพนทึ่ง "ช่างเป็นทักษะการอธิบายที่น่าอัศจรรย์ ฉันจะยกเว้นให
ความเข้าใจของเขาต่อเธอนั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาตั้งแต่คืนนั้นเมื่อเจ็ดปีก่อน เธอทำให้ตัวเองเป็นคนโง่ในงานแต่งงาน โรส ลอยล์ ในฐานะว่าที่ภรรยาของเจย์ เธอควรที่จะเป็นจุดสนใจของคืนนั้น แต่เธอกลับกรีดร้องเมื่อเธอเห็นเขาเหมือนเธอเห็นผี ท่าทางของเธอในวันนั้นเหมือนกับแฟนคลับที่เพิ่งเจอไอดอลที่ชื่นชอบ เธอทั้งกอดและคลอเคลียเขาต่อหน้าทุกคนมันเหมือนพวกเขาเป็นคู่รักที่ได้พบกันอีกครั้งหลังจากแยกจากกันมานานเขาเสียภาพลักษณ์ทั้งหมดเพราะเธอในวันนั้นจากนั้นมา เขาก็พิจารณาให้ลูกสาวนอกสมรสของตระกูลลอยล์เป็นคนบ้านนอกไร้อารยะหลังจากการแต่งงาน เขาก็ไล่เธอไปห่าง ๆ เหมือนรองเท้าเก่า ๆเขาหวังว่าเขาจะผ่านมรสุมวิกฤษการเงินไปแล้วหย่ากับเธอ โชคไม่ดี แม่สาวบ้านนอกไร้อารยะในสายตาของเขานั้นไม่ได้ใสซื่อไร้เดียงสาแบบที่เขาคิดไว้ เธอจัดฉากแล้วฉกเอาความบริสุทธิ์ไปจากเขาจากนั้นมา ความเกลียดชังต่อเธอของเขาก็เข้มข้นมาก ความโกรธของเขาบดบังคุณธรรมทั้งหมดของเธอหลังจากตำหนิการกระทำต่าง ๆ ของเธอซ้ำ ๆ ในที่สุดเจย์ก็สังเกตได้ว่าเขาอาจจะเข้าใจเธอผิดไปมันเป็นความจริงที่เธอเป็นลูกสาวนอกสมรสของรอยอัน ลอยล์ แต่เขาไม่รู้ว่าว่าก
'งั้นเธอก็ไม่ได้หวังเงินหรือความรักจากฉัน แต่ต้องการเพียงแค่ให้ฉันปฏิบัติกับเซ็ตตี้น้อยให้ดีขึ้นเล็กน้อย?'อย่างไรก็ตาม เจย์นั้นไม่พอใจเท่าไหร่กับการอธิบายของโรส เขาขมวดคิ้วแล้วถามโรสอย่างเย็นชา "อะไรที่เธอหมายถึง 'ความคาดหวังที่เป็นไปไม่ได้'?"โรสมองความโกรธเคืองของเขาแล้วกล่าวอย่างเขินอาย "ท่านอาเรส นายคงคิดว่าฉันต้องการแต่งงานกับนายอีกครั้ง และนั่นเป็นเหตุผลที่ฉันบอกให้เซ็ตตี้น้อยเป็นมิตรกับนายสินะ ไม่ต้องห่วง ท่านอาเรส มันจะไม่มีทางเกิดขึ้น""ฉันมีสติเพียงพอที่จะไม่กลับไปหาอดีต ท่านอาเรส นายไม่ได้แสดงความสนใจต่อฉันเลยหกปีก่อน และฉันเองก็ไม่ได้หวังให้นายมาสนใจฉันอยู่แล้ว""ฉันจะไม่แต่งงานกับนายอีกแล้ว ฉันแค่หวังจะเห็นเด็ก ๆ ของฉันเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี เท่านี้ชีวิตฉันก็ไม่เสียใจอีกแล้ว"ดวงตาของโรสเต็มไปด้วยความเศร้าโศกเมื่อเธอกล่าวคำพูดพวกนั้นด้วยน้ำเสียงที่เปล่าเปลี่ยวมันเป็นสัญญาณของการยอมรับความจริงที่เจ็บปวดของชีวิตเจย์ไม่ได้พูดอะไร เขาเพียงแค่มองโรส เธอไม่เคยเดินผ่านชีวิตแต่งงานที่ล้มเหลสถึงสองครั้งได้เลย มันคงยากสำหรับเธอมาก"ฉันขอถามหน่อย… พ่อของเซ็ตตี้อยู่ที่ไหน?"
เจย์ไม่เคยรู้สึกเจ็บปวดขนาดนี้มาก่อนในชีวิตมันทรมานขนาดนี้เขา ผู้ที่เป็นชายที่กล้าหาญ ไม่กล้าที่จะยืนยันศพของเธอ และไม่กล้าไปเข้าร่วมงานศพหรือแม้แต่เยี่ยมหลุมศพของเธอ...เขาไม่กล้าเข้าใกล้ทุกอย่างที่ทำให้เขานึกถึงเธอ และเขาก็ระมัดระวังในการเก็บงำความรู้สึกเอาไว้เขาเก็บความรู้สึกทุกข์ทนในใจที่แสดงออกมาทางสายตาและคงท่าทางสุขุมและเมินเฉยของเขา "เธอไม่ใช่ฉัน เธอจะรู้ได้ยังไงว่าฉันรู้สึกแบบไหน?" เขากล่าวด้วยน้ำเสียงต่ำโรสเบะปากที่งดงามและฉ่ำของเธอเล็กน้อย 'ถ้านายรู้ว่ารักคืออะไร ทำไมนายถึงปล่อยให้แองเจลีน เซเวียร์ ตัวฉันในอดีต ต้องใช้ชีวิตอยู่ในสถานการณ์กดดันแล้วตายอย่างไม่ได้รับการเปิดเผย?' เธอกระซิบกับตัวเองในใจตลอดการเดินทางกลับคฤหาสน์เงียบงัน จากระยะห่าง พวกเขาเห็นโจเซฟินยืนอยู่ที่หน้าประตูและสวมชุดเดรสสั้นสีแดง ประดับประดาด้วยเครื่องประดับ ท่าทางสง่างามและสูงส่งของเธอพังครืนลงเมื่อเธอเห็นเจย์และโรสเดินมา เธอโบกมือให้พวกเขาด้วยสองแขนของเธอแล้วตะโกนอย่างตื่นเต้น"พี่! พี่สะใภ้!"ใบหน้าของเจย์พลันกลายเป็นหงุดหงิดอย่างน่ากลัว เขาเดินจ้ำอ้าวไปที่น้องสาวเขาแล้วกล่าวด้วยท่าทางมืดมน
'เอ่อ...'ปัญหานี้ไม่ได้เข้ามาในหัวของโรส การเตือนของเจย์นั้นทันเวลาพอดี เธอไม่มีชุดที่เหมาะสมกับงานสังสรรของสังคมชั้นสูงจริง ๆ เธอหลบอยู่ที่บ้านมาตลอดหลายปี เธอพยายามอย่างที่สุดเพื่อเลี้ยงเด็ก ๆ ดังนั้นเธอเลยไม่ต้องการชุดพวกนั้นโจเซฟินเป็นลูกสาวของตระกูลอาเรส และงานวันเกิดของเธอก็จะต้องฟุ่มเฟือยแบบสุด ๆ ผู้เข้าร่วมงานย่อมต้องเป็นบุคคลร่ำรวยและประสบความสำเร็จในธุรกิจของตัวเอง หากเธอใส่เสื้อผ้าธรรมดา ไม่ใช่เพียงแค่เธอจะโดนเหยียดหยาม แต่โจเซฟินจะต้องอับอายเพราะเธอด้วย"โจเซฟิน ฉันขอโทษด้วย ฉันคงไม่..." สัญชาตญาณแรกของโรสคือการปฏิเสธคำเชิญของโจเซฟินทันทีอย่างไรก็ตาม โจเซฟินคว้ามือของโรสและไม่ปล่อย "พี่เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน โรส พี่เป็นคนเดียวที่ฉันพูดเปิดอกอย่างจริงใจได้หลังจากที่ฉันกลับมาที่ประเทศนี้ ถ้าพี่ไม่อยู่ที่นั่น งานก็คงน่าเบื่อและไม่น่าสนใจ ถ้าพี่ไม่มีชุดหรือเครื่องประดับ ฉันจะให้พี่เอง ได้โปรดมาเถอะ ได้ไหม?" เธอกล่าวอย่างออดอ้อนกับโรสโรสถูกรั้งไว้ระหว่างงานของเธอกับคำเชิญของโจเซฟินเจย์จนปัญญาเมื่อเขามองน้องสาวของตัวเอง "เธอจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีผู้หญิงคนนี้ในชีวิตร
หลังจากเห็นโจเซฟินจากไป เจย์ก็กลับไปที่คฤหาสน์ของเขาแล้วเดินตรงไปที่ของโรสเขาเคาะประตูห้องของโรส โรส ผู้สวมแว่นกรอบสีดำหนาเตอะ เปิดประตูออกมาแล้วมองเจย์อย่างสับสน"นายหาฉันเหรอ ท่านอาเรส?"ปกติเจย์พยายามหลบโรสทุกครั้งที่ทำได้ นรกต้องถูกแช่แข็ง และหมูต้องบินขึ้นฟ้าแน่เลยคราวนี้"ฉันจะจ่ายสำหรับเสื้อผ้าและเครื่องประดับเพื่อร่วมงานวันเกิดของโจเซฟินให้เธอเอง ฉันจะจ่ายค่าชดเชยงานที่ทำไม่เสร็จด้วย ถ้ามีเงื่อนไขอื่นอีก เธอก็แค่จดมันไว้" เสียงของเจย์เหมือนเจ้านายกำลังสั่งคนรับใช้ของเขาโรสแปลกใจเล็กน้อย ไม่ใช่แค่เจย์จะรักแค่ลูกชาย แต่เขายังตามใจน้องสาวด้วยยังไงก็ตาม เขากลับไม่มีความรู้สึกให้เธอเลย"ท่านอาเรส ถ้าฉันรับเงินช่วยเหลือ ฉันคงไม่มีทางมองหน้าโจเซฟินได้อย่างจริงใจ ไม่ต้องห่วง ฉันจะปรากฏตัวในงานคืนนี้ ฉันจะหาเสื้อผ้าและเครื่องประดับของฉันเอง อีกอย่าง โปรดอย่ามารบกวนในเวลาที่ฉันทำงาน"หลังจากนั้น โรสก็ปิดประตูห้องท่าทางของเจย์มืดมนอย่างมาก เมื่อประตูถูกปิดใส่หน้าเขาเขาหันหลังและทำท่าจะเดินจากไปในตอนที่ประตูห้องโรสเปิดอีกครั้ง เจย์หันหลังด้วยรอยยิ้มพึงพอใจบนใบหน้าเขารู้ว่า
เด็กทั้งสามมองเจย์ในเวลาเดียวกัน เจย์รู้สึกว่าการตอบสนองของเขาอาจดูจู้จี้ไป เขาจริงกลับมาดูนิ่งเงียบเช่นเดิม "พวกลูกรู้ไหม? มีคนอยู่สามประเภท คนจากระดับบนสุดที่สั่งการ คนจากระดับกลางที่รับคำสั่ง และคนจากระดับต่ำสุดที่รู้จักแค่ประจบและมอบคลาน"เด็กทั้งสามฉลาดพอที่จะเข้าใจว่าพ่อของพวกเขากำลัวบ่งบอกว่าแม่เป็นคนระดับล่างสุดร็อบบี้น้อยสับสน "นั่นแปลกนะครับ ปกติคุณแม่ไม่ได้เป็นแบบนี้! คุณแม่บอกว่าพวกเราควรมีศักดิ์ศรีในตัวเองแล้วครองโลกด้วยความสามารถที่ตัวเองมี!"เซ็ตตี้น้อยดูเหมือนจะจับใจความของพี่ชายได้ เธอกล่าว "หนูรู้!" เธอตะโกน "คุณแม่ต้องตกหลุมรักกับหัวหน้าคนใหม่แน่! วันก่อนคุณแม่บอกว่าเจ้านายคนใหม่ของเธอเป็นผู้ชายคนแรกที่ปฏิบัติกับเธอเหมือนมนุษย์หลังจากผ่านมานาน"ร็อบบี้น้อยเหลือบมองน้องสาวของเขาด้วยหางตา เขากลัวว่าคุณพ่ออาจจะอิจฉาแล้วตะโกนว่า "นั่นไม่จริง! คุณแม่บอกว่าเธอรักแค่คุณพ่อและไม่มีใครอีก"โรสเดินลงมาที่บันไดพิดี เธอเกือบสะดุดตกบันไดแล้วตอนที่เธอได้ยินร็อบบี้น้อยพูดเจย์ไม่ได้ฟังร็อบบี้น้อย เขามองโรสผู้ที่แก้มแดงแล้วคาดเดาเธออย่างซุกซน "ฉันสงสัยจริงว่าเจ้านายคนใหม่ของเ
"ไม่ว่าเธอจะดูน่าสงสารขนาดไหน เธอก็ต้องมีด้านที่น่ารังเกียจ" เจย์จ้องเจย์อย่างดูถูก เขาไม่อยากจะพูดอะไรกับเธออีก เขาหันหลังแล้วพูดกับเด็ก ๆ แทน "ขึ้นไปข้างบนแล้วแต่งตัว คุณพ่อจะพาลูก ๆ ไปงานวันเกิดของน้าโจเซฟิน"เด็ก ๆ ดีใจแล้วรีบวิ่งขึ้นบันไดไปโรสถอนหายใจ ดวงตาของเธอมีม่านน้ำ เธอปิดตาลงเพื่อกลั้นไม่ให้น้ำตาไหลออกมาเธอรู้ว่าเขาไร้ความรู้สึกใดให้เธอ แล้วทำไมเธอยังหวังให้เขามีอีก?โดยไร้ซึ่งความคาดหวัง เธอก็จะไม่ต้องใช้ชีวิตด้วยความทุกข์ทนอีกโรสปัดความคิดที่เศร้าสร้อยออกไปแล้วเดินผ่านประตูหน้างานวันเกิดของโจเซฟินนั้นจัดที่คลับของ แกรนด์ เอเซียมันเป็นโถงขนาดมหึมา เพดานนั้นตกแต่งให้เหมือนท้องฟ้าที่พร่างพราวไปด้วยดวงดาว ทะเลดอกไม้นั้นประดับประดาตลอดสองข้างของพรมแดงแขกนั้นยังอายุไม่มากและดูดี พวกเขาเดินไปมาในโถงพร้อมแก้วแชมเปญและไวน์ เป็นภาพที่น่ารื่นรมย์แสงประกายของทองคำและอัญมณีวิบวับในดวงตา ปาร์ตี้นี้หรูหราแบบสุด ๆแขกทั้งหลายสวมชุดอันฟุ่มเฟือยเพื่อแสดงถึงอำนาจและความมั่งคั่งของตระกูลพวกเขาตระกูลอาเรสซึ่งเป็นเจ้าภาพของงาน โจเซฟิน อาเรส จึงควรถูกจัดให้เป็นจุดสนใจอย่างไ