เจย์พยักหน้า “ฉันจะจ่ายเอง”เมื่อคนจัดงานแต่งถามเจย์และแองเจลีนว่าพวกเขาต้องการงานแต่งงานแบบไหน แองเจลีนก็บอกว่า “ทำให้ทุกอย่างเรียบง่ายไว้”เจย์ร้องรับและพูดอย่างคล้อยตามว่า “เราจะทำตามที่ภรรยาผมบอกแล้วก็ให้ขนาดของงานเล็กกว่าของพวกเขา”เซย์นอดคิดไม่ได้ว่าเจย์กำลังพูดเรื่องที่ขัดกับความต้องการตัวเองอยู่แน่นอนว่าปีศาจไม่มีทางเก็บเขาได้มิดอยู่แล้วเจย์หยิบแผนจัดงานแต่งที่เขาเตรียมมาล่วงหน้าออกมาแล้วส่งให้ทีมจัดงานแต่ง “วางแผนงานแต่งของแองเจลีนกับผมตามนี้”โจเซฟีนและเซย์นโน้มตัวเข้ามาดูและเห็นภาพร่างงาน เพชรขนาดเท่าไข่นกถูกติดไว้บนเพดานเพื่อทำให้เหมือนท้องฟ้าพร่างพราวด้วยดาว แต่ฉากนี้ก็ทำให้ทุกคนต้องอ้าปากค้างได้แล้ว คนทื่อ ๆ ไม่มีฟอร์มแบบเซย์นแค่เห็นเพียงว่าเขานั้นรู้น้อยแค่ไหน“เวร ท้องฟ้าเต็มไปด้วยเพชรเหรอ? มันจะราคาเท่าไรเนี่ย?”แองเจลีนพูด “มันแพงเกินไปค่ะเจย์บี้ คุณยกเลิกท้องฟ้าดวงดาวได้ไหม?”เจย์ตอบ “คุณทำผนังนำโชคให้ผมที่ทางเดินในสำนักงานแกรนด์ เอเซีย แองเจลีน ดาวนำโชคพวกนั้นได้พาโชคดีมาให้ผม ตอนนี้ผมก็อยากจะตอบแทนคุณด้วยดวงดาวมากมาย หวังว่าดาวพวกนี้จะนำแสงสว่างมาให้คุณแ
เจย์มอบให้แองเจลีนอยู่ในการดูแลของพยาบาลที่ห้องรับรองก่อนที่จะเดินกลับเข้าไปให้ห้องจักษุแพทย์“ไม่ทราบมีอะไรครับหมอ?”เพราะว่าเจย์เป็นคนที่ใส่ใจรับรู้ไปถึงรายละเอียดที่ยิบย่อยที่สุด เขาตระหนักได้ว่าอาการป่วยทางตาของแองเจลีนไม่ได้เป็นเรื่องเรียบง่ายแน่นอนจักษุแพทย์มองเจย์หัวจดเท้าด้วยสายตามีความหมายก่อนถามคำถามที่แฝงนัยไปถึงเรื่องอื่น “ผมไม่ได้มีเจตนาสอดรู้สอดเห็นนะครับคุณอาเรส แต่ไม่ทราบว่าคุณกับภรรยามีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันไหม?”เจย์คงจะเปี่ยมไปด้วยโทสะหากว่าเป็นคนอื่นที่กล้าจะมาสอดรู้ในเรื่องชีวิตส่วนตัวของเขาแต่ว่าอีกฝ่ายเป็นหมอของแองเจลีน ดังนั้นเจย์จึงเป็นมิตรกับเขาเป็นพิเศษเจย์ตอบด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “แองเจลีนกับผมเป็นคนรักกันมาตั้งแต่เด็ก พวกเรารักกันมากครับ”“งั้นก็น่าแปลก” จักษุแพทย์งุนงง “ภรรยาของคุณสูญเสียการมองเห็นก็เพราะว่าเธอร้องไห้มากเกินไป อาการเธอยิ่งรุนแรงขึ้นด้วยเพราะอาการทางจิตใจของเธอ”จักษุแพทย์เปิดรูปดวงตาของแองเจลีนขึ้นมาแล้วชี้ไปที่เยื่อหุ้มลูกตาของเธอก่อนบอกว่า “เยื่อหุัมลูกตาที่คุณเห็นดูเหมือนจะปกติ แต่ว่าหากคุณมองที่เปลือกตาของเธอจะเห็นเส้นเลื
เจนสันทำให้เซย์นสำลักอย่างแรง… จนเขาพูดบ่ายเบี่ยงนอกประเด็น “ที่ผมบอกก็แค่… พี่ชาย คุณมีประสบการณ์แต่งงานมาก่อน ช่วยให้คำแนะนำดี ๆ กับผมหน่อยได้ไหม?”เจย์เกือบจะพ่นชาที่กำลังดื่มอยู่พรวดออกมาเขาจ้องเซย์นด้วยหน้าไร้รอยยิ้ม “นายหมายความว่ายังไง?”เซย์นพูดไม่กลัวเกรงเหมือนหมูไม่กลัวน้ำร้อน “คุณจะไม่มีประสบการณ์เยอะได้ยังไงในเมื่อคุณแต่งงานแล้วก็เข้าหอมาสามรอบแล้ว”เจย์โมโหเกรี้ยวกราดเขาแต่งงานมาแค่สองหนเท่านั้นและทั้งสองหนก็ล้วนแต่งกับคนเดียวกันเจย์นั้นเป็นคนที่เจ้าคิดเจ้าแค้น และต้องเอาคืนแม้จะเป็นเรื่องเล็กแค่ไหนก็ตาม ไม่ใช้ฝีปากคมกริบของเขาจัดการเซย์นตอนนี้ แต่ว่าเขาวางแผนที่เลวร้ายกว่าเอาไว้“เจนสัน หาเวลาออกไปซื้อหมาทิเบตัน มาสทิฟฟ์ มาแล้ววางรูปป้ายคัตเอ้าท์เท่าตัวจริงของลุงลูกไว้ข้างหน้ามัน ฝึกให้มันหิวโหยทุกวัน อย่าให้มันกินอาหารจนกว่ามันจะขย้ำป้ายนั้นสัก 8-10 รอบก่อน”เจนสันหัวเราะ “ได้ครับ”เซย์นกระโดดอย่างหวาดกลัว “ผมก็แค่พูดความจริงเอง ทำไมถึงต้องหาวิธีโหดร้ายแบบนั้นมาทรมานผมด้วย?”แองเจลีนรู้ดีว่าพี่ชายของเธอจะไม่พูดสิ่งที่คิดออกมา ส่วนสามีและลูกชายต่างก็เป็นคนเจ้
เมื่อคำพูดมาเข้าหูเจ้าบ่าว ทั้งเซย์นและเจย์ต่างก็มองสบตากันขณะที่พวกเขาอยู่ในห้องแต่งตัวเซย์นพูดอย่างชื่นชม “พวกเธอทั้งสองอาจจะสวย แต่ก็คงไม่เว่อร์เกินจริงขนาดนั้น พวกเขาพูดเหมือนว่าเราสองคนเป็นคางคกอยากกินเนื้อหงส์เลย”เจย์พูดอย่างสงบ “เอาน่า อย่าอิจฉาไปเลย พวกเขาต้องหมายถึงแองเจลีนแน่อยู่แล้ว”เซย์นถึงกับงมโง่ไปเมื่อเขามองสีหน้าภูมิใจของเจย์ เซย์นก็รู้สึกว่าตัวเขาเองดูค่อนข้าง… น่าสมเพชเมื่อเทียบกับเจย์เพื่อที่จะสวนกลับเจย์ที่ดูถูกเขา เซย์นก็เริ่มที่จะวิพากษ์วิจารณ์เจย์ไม่หยุด “นั่นก็ฟังดูมีเหตุผลนะ น้องสาวของผมมีลูกตั้งแต่อายุยังน้อย สาวเทื้อที่ยังไม่แต่งงานทั้งหลายตอนนี้ก็อายุเยอะกว่าเธอทั้งนั้น ตอนนี้เธออยู่ในช่วงอายุที่ดูงดงามมีเสน่ห์มากที่สุด แต่คุณดันแก่แล้ว คุณน่ะโชคดีมากที่ได้แต่งงานกับน้องสาวผม”เจย์เกลียดที่สุดเวลาที่มีคนวิพากษ์วิจารณ์ว่าเขาและแองเจลีนไม่เหมาะสมกัน เขาทำหน้าบึ้งทันใด “ฉันดูแก่ขนาดนั้นเลยเหรอ?”เซย์นตอบ “ตอนที่คุณคบหากับน้องสาวผมเมื่อก่อนนั้น พวกคุณดูเหมือนคู่สวรรค์สร้าง แต่ตอนนี้คุณแก่สมวัยแล้วขณะที่น้องสาวผมยังดูแลตัวเองดีจนเธอยังดูเหมือนสาววัยรุ
”ฉันไม่ควรบังคับเธอเลย แองเจลีน ฉันจะยกเลิกงานแต่งงานเดี๋ยวนี้ เราจะจัดงานแต่งกันเมื่อเราหาร็อบบี้น้อยเจอ”“ฉันขอโทษที่ทำให้คุณผิดหวัง” แองเจลีนพูดไปร้องไห้ไปเจย์มองแองเจลีนที่อยู่ในชุดแต่งงาน ผิวของเธอขาวราวหิมะ คิ้วโก่งได้รูป และดวงตาอ่อนโยนมีเสน่ห์ของเธอ ความงามของเธอทำให้หัวใจเขาสั่นไหว“ฉันก็ไม่ได้ผิดหวังไปทั้งหมดหรอก เธอดูสวยมากวันนี้แองเจลีน”เขาเอามือประคองหน้าเธอ จูบเธอด้วยน้ำตาที่เอ่อคลอ “เธอทำให้ฉันคลั่งรักจะตายอยู่แล้วนะ”แองเจลีนพูดสะอื้น “พาฉันออกไปทีค่ะ เจย์บี้”“ได้”สุดท้ายแล้วก็มีแค่โจเซฟินและเซย์นที่ร่วมในงานแต่งงานยิ่งใหญ่นี้เซ็ตตี้น้อยและเจนสันกัดฟันทนและทำหน้าที่เด็กหญิงถือดอกไม้และเด็กชายถือแหวนให้จบสิ้นทั้งสองคนต่างก็ดึงดูดความสนใจของผู้คนแขกพากันชี้มาที่เจนสัน “เด็กคนนั้นหน้าตาดีมาก ใครจะรู้ว่าจะมีสาวมาตกหลุมรักเขามากสักแค่ไหนนะหากว่าเขาโตขึ้น?”สีหน้าของเจนสันว่างเปล่าตลอดทั้งงานเซ็ตตี้น้อยกระซิบเตือนเขา “ยิ้มหน่อยพี่ชาย เรามาเพื่อร่วมงานแต่งงานนะ ไม่ใช่งานศพ”เจนสันฉีกยิ้มชั่วร้ายให้เซ็ตตี้น้อย ซึ่งเธอยักไหล่และบอกว่า “ช่างมันเถอะ ฉันว่าพี่ไ
เซย์นยังไม่ยอมแพ้ เขาถามว่า “แล้วรู้เหรอว่าองค์กรโลกาวินาศอยู่ที่ไหน?”คำถามของเขาทำให้ทุกคนได้คิดบางทีการหาองค์กรลึกลับที่ชั่วร้ายนั่นอาจจะยากกว่าการหาตัวร็อบบี้น้อยซะอีกแองเจลีนพยักหน้าและบอกว่า “ฉันคิดว่าฉันรู้”ทุกคนตะลึงจนพูดไม่ออก“เกรย์สัน ไปหยิบเซฟฉันมา” แองเจลีนสั่ง“ได้ครับ” เกรย์สันหันหลังออกไปหลังจากรอพักใหญ่ หลังจากที่เกรย์สันกลับที่แกรนด์ เอเซีย เมื่อเขากลับมาพบทุกคนอีกครั้งเขาก็ถือกล่องเล็ก ๆ ไว้ในมือ“ในนั้นมีอะไร?” เจย์ถามเกรย์สันเปิดกล่องไม้และเผยให้เห็นจดหมายปึกหนึ่งดวงตาเหยี่ยวของเจย์หดเล็กพร้อมกับแผ่รังสีคุกคามออกมาทั่วร่างตลอดหลายปีที่เขาไม่อยู่ มีคนติดต่อกับผู้หญิงของเขาตลอดด้วยวิธีการโบราณแบบนี้เหรอ?เชอะ โรแมนติกไปไหม?!“ใครเขียนจดหมายพวกนี้?” สายตาของเจย์จ้องที่รูปกุหลาบบนซองจดหมาย เสียงเขาเยียบเย็นจนสามารถแช่แข็งวัวทั้งตัวให้ตายได้เกรย์สันกลัวจนไม่กล้าตอบสุดท้ายแองเจลีนก็เป็นคนอธิบาย “จดหมายพวกนี้มาจากโคล เจย์บี้เร็วเข้า ดูสิว่ามีที่อยู่ของพวกโลกาวินาศอยู่บนนั้นไหม?”เจย์อยากจะฆ่าโคลให้ตายเสียตอนนั้น แต่เขายังคงสติไว้ได้เพราะว่าแองเจลี
แองเจลีนอธิบาย “จะว่าไปแล้ว พวกเขาก็เป็นญาติกัน”ทุกคนต่างก็มีสีหน้าเหมือนจะบอกว่า “อ๋อ เป็นอย่างนี้นี่เอง”ตระกูลยอร์กมีแต่พวกคนโง่คลั่งรักองค์กรโลกาวินาศซ่อนตัวอยู่ที่เมืองชนบทบริเวณเขตแดนตอนเหนือของแดนสวรรค์แต่ว่าโคลไม่ได้ลงรายละเอียดตำแหน่งที่ตั้งขององค์กรโลกาวินาศในจดหมาย เขาเพียงแค่พูดว่าเมื่อแองเจลีนมาถึงที่เมืองชนบท เธอควรเข้าพักที่โรงแรมฟลาวเวอร์ ซิตี้ เมื่อบอกชื่อเธอกับทางโรงแรมแล้วเขาจะมารับเธอเองเมื่อครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ เจย์ก็พูดอย่างหนักแน่นว่า “เราจะออกเดินทางกันวันมะรืนนี้ แองเจลีน”แองเจลีนอดทนรอให้ถึงที่นั่นไม่ไหว ราวกับว่าร็อบบี้น้อยกำลังตั้งตารอให้พวกเขาไปหาอยู่“ตกลงค่ะ”เกรย์สันก้าวออกมาและขอร้องว่า “คราวนี้ได้โปรดอนุญาตให้ทีมภูตผีติดตามคุณไปด้วยเถอะครับ นายท่านอาเรส”เจย์บอกว่า “ภารกิจที่เกี่ยวข้องกับพวกโลกาวินาศคราวนี้มันทั้งเสี่ยงและไม่แน่นอน หากว่ามีพวกนายไปก็ต้องดูแลให้แองเจลีนปลอดภัย เกรย์สันเรียกรวมตัวทีมภูตผี บอกให้พวกเขาเตรียมตัวพร้อม!”เกรย์สันยิ้มออกมา “ได้ครับท่าน”ไม่มีทางจะบอกได้ว่าเมื่อแองเจลีนไปแล้วเธอจะสามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัยหรือ
ใบหน้าเย็นชาของเจนสันเปลี่ยนเป็นดูไม่ได้ เขาเดินเข้าไปหาคุณทวดและถามว่า “คุณทวดหมายความว่าผมน่าเบื่อเหรอครับ?”คุณทวดหัวเราะลั่นและเรียบเรียงคำพูดใหม่ บอกว่า “หลานเป็นเด็กผู้ชาย พูดน้อยหน่อยก็ไม่เป็นอะไรหรอก”โจเซฟินดึงเซย์นเข้ามาหาคุณท่านอาเรสและบอกว่า “คุณปู่คะ นี่หลานเขยค่ะ”คุณท่านอาเรสมองเซย์นและถอนใจ “หลังจากผ่านเรื่องทั้งดีทั้งร้ายมามากมาย คู่รักอย่างพวกเธอก็ลงเอยกันจนได้สินะ”ตอนนั้นแองเจลีนก็ค่อย ๆ ลุกขึ้นและเดินเข้าไปหาคุณท่านอาเรส เจย์รีบเข้าไปพยุงเธอและเตือนเธออย่างใส่ใจว่า “ระวังนะ”“สบายดีไหมคะคุณปู่?” แองเจลีนถามเมื่อคุณท่านอาเรสเห็นว่าแองเจลีนดูบอบบางอ่อนแอมากแค่ไหนเมื่อเทียบกับความแข็งแกร่งของเธอเมื่อก่อน ดวงตาเขาก็เต็มไปด้วยน้ำตา “ปู่สบายดีแองเจลีน เธอต่างหากที่ต้องดูแลตัวเองให้ดี”“เธอเป็นวีรสตรีผู้ยิ่งใหญ่ของตระกูลอาเรส เธอมอบหลานที่น่ารักรู้ความให้เราสามคน และถึงกับรักษาแกรนด์ เอซียไว้ให้เจย์ ผู้หญิงบอบบางอย่างเธอที่จริงแล้วแข็งแกร่งกว่าพวกผู้ชายหลายคนด้วยซ้ำ”“ฉันชื่นชมและซาบซึ้งใจเธอ ขอบใจนะที่ทำให้ตระกูลอาเรสมากมายเหลือเกิน”แองเจลีนรู้สึกกระดากเล็กน้อ