“ท่าน ท่านว่าอะไรนะ?! ทำให้พวกเรากินก้อนเกลือขาวได้? ข้าไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม?!”เมื่อชาวบ้านทุกคนได้ยินก็แสดงสีหน้าเหลือเชื่อออกมาในพริบตา ครั้นมองก้อนเกลือขาวหลายลำรถนั่น ทันใดนั้นพวกเขาตระหนักถึงบางอย่าง มิเช่นนั้นจู่ ๆ เจ้าเมืองจะพูดถึงจอหงวนแดงในเวลานี้ทำไม?“พวกเจ้ารู้สึกเหลือเชื่อมากใช่หรือไม่?”หลิวเป้ยหัวเราะเล็กน้อยแล้วพูด“สวรรค์ เจ้าเหมืองหลิว ท่านไม่ได้ล้อเล่นกับพวกเรานะ? ถึงเกลือหลวงสีขาวจะไม่ใช่ของดีเลิศอะไร แต่การจะทำให้บริสุทธิ์ได้มันจำกัดมาก ปริมาณการผลิตก็เช่นกัน ในสภาพการณ์ปกติ ไม่มีทางตกมาถึงชาวบ้านอย่างพวกเราได้หรอก”“นั่นสิ ก้อนเกลือสีขาวล้ำค่าสำหรับเราเกินไป ขนาดคิดยังไม่กล้าคิดเลย สามารถกินก้อนเกลือสีเหลืองได้ก็ดีมากแล้ว ไหนเลยจะกล้าหวังสูง”“ถ้าขายก้อนเกลือสีขายให้พวกเราถูก ๆ ได้เหมือนกับจอหงวนแดง จะต้องมีเกลือหลวงที่ดีกว่าออกมาจึงจะสามารถทำได้ มิเช่นนั้น ไม่มีทางที่เราจะหวังก้อนเกลือสีขาวได้”......เห็นท่าทางตื่นเต้นดีใจแต่ก็กังวลของชาวบ้าน หลิวเป้ยรู้สึกเหมือนพวกเขาเหมือนกัน ก่อนจะรู้จักฉินอวิ๋นฟาน เขาก็เป็นแค่คนต่ำต้อยคนหนึ่ง สามารถเลี้ยงปากเลี้ยงท้อ
หลิวเป้ยเห็นภาพนี้แล้วก็สะเทือนใจเหมือนกัน พวกเขาเป็นแค่คนยากคนจนที่ดำรงชีพอยู่ชั้นล่าง ไม่มีความรู้ความเข้าใจและวิสัยทัศน์กว้างไกล นโยบายและสวัสดิการที่เอื้อกับพวกเขานิดหน่อยก็ทำให้พวกเขาประทับใจจนน้ำตานองหน้าได้แล้วและฉินอวิ๋นฟานก็คือผู้บุกเบิก คือเขาที่พยายามเปลี่ยนแปลงปฏิรูปทุกอย่างสุดชีวิต หนทางนี้ยาวไกลและหนักหนายิ่งนัก!เจียงเหวินอวี่ หนานกงเซิ่งและคนอื่น ๆ ที่อยู่ชั้นสองตาโตอ้าปากค้าง ชาวบ้านหัวร้อนก่อจลาจลกลับถูกลูกน้องของฉินอวิ๋นฟานแค่คนเดียวกำราบได้อย่างรวดเร็วที่สำคัญไปกว่านั้นคือ เขาซื้อใจประชาชนแทนฉินอวิ๋นฟานในเวลาพอเหมาะพอเจาะที่สุด และถ่ายทอดเจตนารมณ์ของฉินอวิ๋นฟานที่ทำเพื่อประชาชนในเวลาเดียวกัน เรียกได้ว่ายิงนัดเดียวได้นกสองตัว!เห็นการทำงานรวดเร็วและหัวในการปกครองของหลิวเป้ย ฉินอวิ๋นฟานพึงพอใจมาก หากเทียบกับความห่วงหน้าพะวงหลังเมื่อสามเดือนก่อน หลิวเป้ยในวันนี้ถอดรกเปลี่ยนกระดูกโดยสิ้นเชิง!ยังไม่ต้องกล่าวถึงหลิวเป้ยในประวัติศาสตร์ว่าเป็นคนเช่นไร แต่ในโลกใบนี้ หลิวเป้ยแสดงความสามารถและการข่มขวัญออกมาแล้ว เป็นขุนนางผู้สร้างคุณูปการที่แข็งแกร่งทรงพลังได้อย่างไม่ม
“ยอมรับ พวกเรายอมรับ...”เห็นหลิวเป้ยปลอบพวกชาวบ้านได้เร็วเช่นนี้ หนำซ้ำยังทำให้พวกเขาศิโรราบโดยสมบูรณ์ นอกจากนี้ เห็นชัดว่าหลิวเป้ยยังคิดจะฆ่าพวกเขาจริง ๆ นี่ทำให้พวกเขาตื่นตระหนกทุรนทุรายอย่างหนัก ชายร่างใหญ่ทุกคนต่างผงกศีรษะงก ๆ ดังโขลกกระเทียม ยังกล้าปิดบังอีกที่ไหน?“ตอนนี้ยอมรับแล้ว? มันสายไปแล้ว!”หลิวเป้ยแสยะยิ้ม ในดวงตาคือความดูแคลน“ฮะ? สายไปแล้ว? ไม่ ไม่ ไม่ เจ้าเมืองหลิว ขอร้องละ ให้โอกาสพวกเราอีกสักครั้งเถอะ พวกเราถูกคนหลอกใช้จริง ๆ ไม่อย่างนั้นด้วยความกล้าของเราจะจะกล้าปลุกระดมชาวบ้านให้มาบุกล้อมเครือต้าเฉียนเหิงไท่ได้ยังไง? จะมาบุกล้อมรัชทายาทได้ยังไง?!”ครั้นชายสักลายได้ยินหัวใจพลันหล่นตุบ เขารีบขอร้องพลางอธิบายเห็นเพียงหลิวเป้ยเฉยชา พูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “เจ้าจะพูดว่า หลายวันก่อนจู่ ๆ ก็มีคนมาหาและมอบเงินก้อนโตให้เจ้า ให้เจ้าเป็นตัวตั้งตัวตีปลุกระดมชาวบ้านให้ก่อจลาจล?”“ทะ ทะ ท่านรู้ได้ยังไง?”ไม่รอให้พวกเขาเอ่ยปาก หลิวเป้ยมอบคำตอบให้พวกเขาก่อน อีกฝ่ายตกใจจนหน้าถอดสี เรื่องลับเช่นนี้ หลิวเป้ยรู้ได้อย่างไร?“ฮึ! เรื่องพรรค์นี้เดายากหรือ?”หลิวเป้ยแค่นฮึเ
“เอาละ พวกเจ้ารีบกลับไปเอาก้อนเกลือสีเหลืองที่บ้านแล้วไปแลกที่ร้านเกลือหลวงหรือเครือต้าเฉียนเหิงไท่เถอะ มีให้มากพอทุกวัน!”หลังจากแก้วิกฤตได้แล้ว หลิวเป้ยก็โบกมือและตรงไปยังชั้นสองของเครือต้าเฉียนเหิงไท่ ก่อนจะคุกเข่าเรียงรายต่อหน้าฉินอวิ๋นฟานหลิวเป้ยพูดอย่างจริงจังที่สุด “เรียนรัชทายาท ระงับเหตุจลาจลได้แล้วขอรับ ร้านเกลือหลวงในเมืองจัวก็ถูกพวกเรารับช่วงมาแล้วเช่นกัน การแลกเปลี่ยนเริ่มดำเนินไปอย่างขยันขันแข็งขอรับ”“อื่ม ดี ดีมาก!”ฉินอวิ๋นฟานยกมุมปากเล็กน้อย “ลุกขึ้นมาเถอะ การทำงานของพวกเจ้าในวันนี้ ข้าพอใจมาก!”“ขอบคุณรัชทายาท!”เมื่อนั้นหลิวเป้ยและคนอื่น ๆ จึงลุกขึ้นยืนอย่างนอบน้อม“รัชทายาท เกลือละเอียดเตรียมพร้อมแล้วขอรับ แลกเปลี่ยนได้ทุกเมื่อ!”เฉินผิงเอ่ยปาก“อื่ม ดีมาก!”ฉินอวิ๋นฟานพยักหน้าพูด “หัวหน้าสมาคมทุกท่าน ที่ควรพูดข้าก็ได้พูดไปหมดแล้ว คาดว่าพวกท่านน่าจะเข้าใจดีแล้วกระมัง?”“ถ้าไม่มีปัญหาก็ไปแลกเถอะ แต่ละวันทุกสมาคมการค้าจะจำกัดปริมาณอยู่ที่สองหมื่นชั่ง และอย่าลืมว่าต้องเอาก้อนเกลือเหลืองมาชดเชยให้ครบในหนึ่งอาทิตย์ อัตราส่วนคือหนึ่งต่อเจ็ด ห้ามใช้อำนาจบังคับ
“เฮ้ย! ถ้าเป็นแบบนั้นจริงก็เกิดเรื่องใหญ่แล้ว! รีบไปหารือกับผู้นำตระกูลซือหม่าที่สมาคมการค้าต้าเยียนเร็วเข้า!”เดิมเป็นแผนเล่นงานฉินอวิ๋นฟาน ไม่นึกว่านอกจากฉินอวิ๋นฟานจะไม่เป็นอะไรสักนิดแล้ว ยังจะทำให้การค้าของฉินอวิ๋นฟานดังพลุแตกอีก?คราวนี้ทุกคนนั่งไม่ติดแล้ว!ไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม หัวหน้าสมาคมการค้าทั้งยี่สิบกว่าสมาคมต่างมาชุมนุมอยู่ที่สมาคมการค้าต้าเยียนครบ ทุกคนเต้นเป็นเจ้าเข้าแล้ว บางคนเสียใจอย่างสุดซึ้ง ทำไมตอนนั้นถึงต้องยืนอยู่ฝั่งต้าเยียนร่วมเล่นงานฉินอวิ๋นฟานด้วย?“ท่านผู้นำตระกูลซือหม่า ท่านคือผู้อาวุโสระดับสูงของวงการค้า ตอนนี้จู่ ๆ ก็เกิดเหตุเช่นนี้ ท่านรีบหาทางให้พวกเราเถอะ!”“นั่นสิ ท่านผู้นำตระกูลซือหม่า พวกเราทำตามที่พวกท่านต้องการ ตอนนี้กลับดี กลายเป็นว่าถูกฉินอวิ๋นฟานคว่ำบาตรแล้ว แถมทางสมาคมการค้าเหมิงกู่ก็ยุติความร่วมมือทั้งหมดกับเราด้วย ทันทีที่ข่าวนี้ส่งไปถึงแคว้น ฝ่าบาทต้องถลกหนังของข้าแน่!”“อย่าว่าแต่ท่านแล้ว สมาคมการค้าเราก็ถูกคว่ำบาตรเหมือนกัน ไม่มีม้าศึก วัว แกะของเหมิงกู่รวมถึงผ้าไหมของแคว้นเหมียว มันจะเป็นผลเสียกับเรามาก ท่านผู้นำตระกูล ท่านต้องช่วยพวกเ
“ท่านผู้นำตระกูลซือหม่า ที่ท่านกล่าวมามีเหตุผลนัก เช่นนั้นท่านจะนำเกลือละเอียดมาให้ข้าสักหน่อยได้หรือไม่?”ตอนนี้เอง ผู้รับผิดชอบสมาคมการค้าหนานเจียงเอ่ยปากขึ้น“หนานไป่เวย ท่านจงใจหาเรื่องใช่หรือไม่? ท่านคิดว่าในสถานการณ์เช่นนี้ ฉินอวิ๋นฟานจะให้เกลือละเอียดข้าหรือ? จะเป็นไปได้ยังไง!”ซือหม่าเจาที่อึดอัดใจอยู่แล้ว ครั้นถูกหนานไป่เวยจงใจหาเรื่องจึงเหวี่ยงกลับอย่างไม่สบอารมณ์“เหอะ มันเป็นไปไม่ได้ เวลานี้ขนาดเราก็ยังไม่มีทางได้เกลือละเอียดมาเลย พวกเรางี่เง่านัก ทำไมต้องเป็นปรปักษ์กับฉินอวิ๋นฟานด้วย? ตอนนี้ดีเลย ปิดทางตัวเองสนิทแล้ว!”ผู้รับผิดชอบราชวงศ์ต้าเหลียงเหลียงชิงก็มีสีหน้าจนปัญญาเหมือนกัน ตอนนี้เขาเสียใจนัก ทำไมต้องกอดต้นขาต้าเยียนด้วย? ตอนนี้ดีแล้ว ลักไก่ไม่สำเร็จเสียข้าวอีกหนึ่งกำมือ!เห็นทุกคนตาละห้อยกับเกลือละเอียดของฉินอวิ๋นฟานเช่นนี้ แถมสมาคมการค้าต้าเซี่ยและสมาคมอื่น ๆ ยังตัดความร่วมมือกับพวกเขาทั้งหมดอีก มันช่างเหลือเชื่อจริง ๆ นี่ทำให้ซือหม่าหนานที่นั่งอยู่ตรงตำแหน่งหลักขมวดคิ้วมุ่น เขาพูดแบบคิ้วมัดเป็นปม “เกลือละเอียดมันดีขนาดนั้นเชียวหรือ? ถึงทำให้พวกท่านดิ้นพล
“เอ่อ... แบบนี้ไม่ดีกระมัง?”ซือหม่าหนานเห็นสภาพการณ์แล้วสีหน้าดำเป็นตับหมูเดี๋ยวนั้น พันธมิตรทางธุรกิจของพวกเขาจะย่อยยับทั้งอย่างนี้หรือ? นี่จะเร็วเกินไปแล้วกระมัง?“ขออภัยแล้ว ท่านผู้นำตระกูลซือหม่า!”“ขออภัย ผู้อาวุโสซือหม่า ขอลา!”“หวังว่าเราจะมีโอกาสได้ร่วมมือกันอีกนะ!”......หัวหน้าสมาคมการค้าทั้งหลายมีใครบ้างที่ไม่ให้ความสำคัญกับผลประโยชน์เป็นอันดับแรก? ทีแรกนึกว่าเข้าร่วมกับต้าเยียนคือการเลือกแบบมีกึ๋นสุด ๆ แล้ว ไม่นึกว่าจะเป็นหลุมเบ้อเร่อ พวกเขาจึงเลือกถอนตัวทันที“หา นี่ นี่...”เห็นหัวหน้าสมาคมแต่ละคนราวกับเท้าทาน้ำมัน พริบตาเดียวเผ่นแนบไปหมด ทำเอาซือหม่าเจาสองพ่อลูกมองตาปริบ ๆ หน้าเอ๋ออยู่ตรงนั้น“เฮ้อ! สุดท้ายก็คือพวกพ่อค้า เชื่อถือไม่ได้จริง ๆ!”ซือหม่าหนานส่ายหน้าพูดอย่างจนใจ“เอ่อ ท่านพ่อ เช่นนั้นตอนนี้เราจะทำยังไงกันดี? ถ้าพวกบ้าพวกนี้เข้าร่วมกับฝ่ายฉินอวิ๋นฟาน สมาคมการค้าต้าเยียนเรามิต้องจบเห่หรือ?”ซือหม่าเจาพูดหน้าละเหี่ยใจ“เฮ้อ! เราไม่ใช่ยอดฝีมือเล่นเกมการเมือง ไปหาหลัวเทียนเป้าคิดแผนรับมือเถอะ!”ซือหม่าหนานถอนหายใจหนัก ๆ ทีหนึ่ง ออกจากสมาคมการค้าแล
“เจ้าเดรัจฉาน เจ้าเดรัจฉาน!!!”“อดีตฮ่องเต้ต้าเฉียนเราเพิ่งสวรรคตได้แค่เจ็ดวัน พรุ่งนี้ก็เป็นวันที่รัชทายาทจะขึ้นครองราชย์แล้ว คิดไม่ถึงว่าวันนี้เขาจะปีนขึ้นเตียงของหยางกุ้ยเฟย อดสู มันคือความอดสูอย่างยิ่ง!”“ราชวงศ์ต้าเฉียนเราก่อตั้งมาสามร้อยกว่าปี ยึดหลักขงจื๊อโดยตลอด พิธีรีตอง ครองตัว รู้ยางอาย คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องผิดศีลผิดธรรม ผิดต่อหลักการเป็นคนต่ำช้าเช่นนี้ เกียรติของราชวงศ์ต้าเฉียนต้องสิ้นเพราะรัชทายาทแล้ว...”“หากอดีตฮ่องเต้ยังอยู่ จะต้องละอายจนกริ้วแน่ ประหารพวกมั่วโลกีย์ต่อหน้าสาธารณชนเพื่อเป็นเยี่ยงอย่างแน่นอน!”......ในตำหนักจื่อหลัวของราชวงศ์ต้าเฉียน บรรดาชายหญิงเด็กชราต่างมุงล้อมหน้าตั่งนอนทรงกลมที่ยุ่งเหยิงดูไม่จืด โจมตีชายร่างเปลือยเปล่าตรงหน้าด้วยวาจาและตัวหนังสือ โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เคืองแค้นในความไม่เป็นธรรมเต็มประดา เสียงเซ็งแซ่แต่ละเสียงทำให้ฉินอวิ๋นฟานที่กำลังหลับสนิทค่อย ๆ ลืมตาทั้งคู่ขึ้นอย่างงัวเงียขมุกขมัว“เชี่ย แค่ความฝันทำไมเสียงดังขนาดนี้ล่ะ”ยามนี้ฉินอวิ๋นฟานปวดหัวจนแทบจะระเบิด มึนงงหนัก ๆ เขาส่ายหน้าแรง ๆ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยความหงุดหงิด “น่ารำค