เวลานี้เซียวเทียนติ่งตื่นตระหนกอย่างหาที่เปรียบมิได้ ในใจร้อนรนเหลือคณา เขาส่งคนไปแจ้งเฮ่อชิงอ๋องนานแล้ว หวังแต่จะประวิงเวลาได้สักหน่อย พยายามให้เฮ่อชินอ๋องมาถึง มิเช่นนี้เกรงว่าเขาจะแบกรับความกดดันไม่ไหว“แม่เอ๊ยเจ้าสุนัขเฒ่า เจ้ามันลูกกระจ๊อกก็กล้าขึ้นเสียงกับข้าหรือ? เจ้ามันเป็นตัวอะไรก็กล้าพูดช่วยคนต่อหน้าข้า? ไม่รู้ว่าตัวเองมีสถานะอะไร? ข้ายังไม่ได้เอาเรื่องกับเจ้าเลย เจ้ากลับไม่รู้จักหนักเบา?”ฉินอวิ๋นฟานถูกเซียวเทียนติ่งกระตุ้นต่อมโมโหจนเดือดแล้ว ไม่ได้ลงมือกับสุนัขเฒ่านี้ก่อนก็เมตตามากแล้ว ผลกลับดีเลย ตาแก่นี่กลับได้คืบเอาศอก? ไม่รู้จักรักษาหน้า ในเมื่อเจ้ารนหาที่ตาย ข้าฉินอวิ๋นฟานยังต้องตามใจเจ้า?”ครั้นสิ้นเสียง ฉินอวิ๋นฟานคว้าม้านั่งยาวขึ้นมาแล้วฟาดใส่เซียวเทียนติ่งอย่างโหดเหี้ยม“ฮะ? ท่าน...”จู่ ๆ ฉินอวิ๋นฟานก็คว้าม้านั่งมาฟาดใส่ เซียวเทียนติ่งพลันสะดุ้งโหยง รีบหลบแต่ก็ยังถูกฉินอวิ๋นฟานฟาดใส่แรง ๆ อยู่ดี ม้านั่งยาวหวดลงบนหลังเขาโดยตรง!“โอ๊ย คุณพระคุณเจ้าช่วย!”ถูกฉินอวิ๋นฟานหวดใส่หนัก ๆ ความเจ็บปวดรุนแรงส่งมาถึง เซียวเทียนติ่งหน้าถอดสีตื่นตระหนกแหกปากทันที ก็ขณะที่
ก็ขณะที่ฉินอวิ๋นฟานกำลังเตรียมจะลงมือ จู่ ๆ ก็มีเสียงตะคอกดังมาจากข้างนอก เสียงน่าเกรงขามและเต็มไปด้วยความเผด็จการนั้นทำให้ฉินอวิ๋นฟานขมวดคิ้วขึ้นมา“เสด็จอา?”ฉินอวิ๋นฟานชายตาขึ้นมา เห็นชายชราร่างกายผ่ายผอมมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม กอปรกับท่วงทำนองน่าเกรงขามโดยปราศจากโทสะนั้น ฉินอวิ๋นฟานจำได้ทันทีว่าเขาคือฉินอ้าว ชินอ๋องหนึ่งเดียวของต้าเฉียนแม้จะไม่ได้พบกันหนึ่งทศวรรษ แต่ความผยองที่ส่งออกมาจากแก่นแท้ กลิ่นอายสูงศักดิ์ และการปรากฏตัวในเวลานี้กะทันหัน นอกจากเฮ่อชิงอ๋องแล้วยังจะเป็นใครไปได้อีก?“หลานอวิ๋นฟาน ในเมื่อเจ้ารู้ว่าคือข้าแล้วยังไม่หยุดมืออีก? ขืนตีต่อไปน้องชายของเจ้าคนนี้จะตายจริง ๆ แล้วนะ!”ฉินอ้าวสองมือไพล่หลัง กำลังจ้องฉินอวิ๋นฟานด้วยสายตาคมกริบประหนึ่งเหยี่ยว คล้ายกำลังมองวิญญาณของฉินอวิ๋นฟานให้ทะลุปรุโปร่ง แค่แวบตาเดียวก็ทำให้ฉินอวิ๋นฟานรู้สึกกดดันอย่างหนักแล้ว“เสด็จอา ใช่ว่าข้าไม่ยอมปล่อยเขา แต่เขาล้ำเส้น ใครแตะต้องเส้นต่ำสุดของข้าฉินอวิ๋นฟาน ข้าจะไม่ยอมรามือ”แม้ว่าฉินอ้าวจะแข็งกร้าวไม่มีใครเทียม ฉินอวิ๋นฟานก็ยังไม่ลดละแม้แต่น้อย ท่าทีแน่วแน่ นี่ก็คือนิสัยของเขา ไม
ฉินอ้าวพูดด้วยสีหน้าราบเรียบคำพูดนี้ของฉินอ้าวไร้ช่องโหว่ให้จับผิด ทำให้ฉินอวิ๋นฟานหาจุดที่น่าสงสัยไม่ได้ และหาจุดโต้ตอบไม่ได้ด้วยเช่นกัน จากต้นจนจบ เขาไม่ได้พูดว่าให้ฆ่าฉินยวน ทั้งยังจะตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยตนเองอีกความมั่นใจและความมากอุบายเช่นนี้ทำให้ฉินอวิ๋นฟานต้องมองเฮ่อชินอ๋องตรงหน้าเสียใหม่ ทั้งที่เขามาช่วยบุตรชาย กลับทำทีมีคุณธรรมเหลือล้น พูดเรียบ ๆ แค่ไม่กี่คำก็ทำให้ฉินอวิ๋นฟานเริ่มทำอะไรไม่ถูกจิตใจเช่นนี้คนทั่วไปจะสามารถมีได้หรือ? ยามนี้ ฉินอวิ๋นฟานยิ่งพิสูจน์และยืนยันข้อสันนิษฐานของตัวเองแล้ว ฉินอ้าวไม่ธรรมดาอย่างที่เห็นแน่นอน“เสด็จอาพูดขนาดนี้แล้ว ถ้าข้ายังไม่ไว้หน้าอีก จะมิเป็นการเสียมารยาทหรือ?”ฉินอวิ๋นฟานพิจารณาครู่หนึ่งก่อนจะตอบตกลงในที่สุด สุดท้ายเขายังมีกำลังในต้าเฉียนน้อยเกินไป อยากตรวจสอบข้อเท็จจริงของเรื่องนี้คือเรื่องที่เป็นไปได้ยากหากฉินอ้าวออกโรงด้วยตัวเอง ตรวจสอบรู้ว่าประเด็นสำคัญของเรื่องนี้คืออะไรก็อาจเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่ง เขาก็อยากเห็นฝีมือของฉินอ้าวเหมือนกันฉินอ้าวยิ้มเรียบ หันหน้าเดินไปถึงตรงหน้าพวกเฉาส่วง กลิ่นอายของผู้เป็นใหญ่ปะทะใบหน้า ทำให
“ถูก ถูกต้องแล้วขอรับ ตั้งแต่เขาแพ้ท่านในการประลองด้านบุ๋นเมื่อสี่เดือนก่อน หนำซ้ำยังถูกท่านตอนอีกก็คิดแค้นฝังใจ จึงคิดแผนการแก้แค้นชั่วร้ายนี้ขึ้นมา ข้าแค่เอาประโยชน์จากเขา ใส่ไฟอยู่ข้าง ๆ เท่านั้น”เหลียงคังเหนียนอธิบายด้วยใบหน้าตื่นตระหนกลนลาน“ทำไม ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ไปได้? เราให้ทางรอดกับเขาแล้วแท้ ๆ ทำไมเขาถึงยังใช้วิธีการอย่างนี้เอาคืนเราอีก?”พอได้ยินว่าทั้งหมดนี้เป็นแผนการของเหลียงคังจวิ้น มู่หรงจิ่นพลันจิตใจพังทลาย ชายในฝันวัยแรกแย้มของนางย่อยยับโดยสิ้นเชิง อัจฉริยะสุภาพชนที่นางชื่นชมชั่วขณะหนึ่ง กลับเป็นคนชั่วช้าสามานย์เช่นนี้หรือ?“บัดซบ! เจ้าบัดซบนี่! ตอนนั้นข้าไม่ควรเก็บชีวิตสุนัขของมันเอาไว้เลย!”สี่เดือนให้หลังกลับถูกเหลียงคังจวิ้นแทงข้างหลัง ทำให้ฉินอวิ๋นฟานเดือดเป็นฟืนเป็นไฟในพริบตา กระทั่งรู้สึกขนพองสยองเกล้า ดีที่เขามาทันกาล มิเช่นนั้นผลลัพธ์ยากจะจินตนาการ คนเลวพรรค์นี้ช่างน่ากลัวนะ จะเก็บมันไว้ไม่ได้เด็ดขาด!“หลานอวิ๋นฟาน ถึงเหลียงคังจวิ้นจะมีใจเอาคืน นั่นก็ต้องได้ข้อมูลที่เชื่อถือได้จึงจะทำได้ ด้วยสภาพของเขาในเวลานี้ สามารถวางแผนได้รัดกุมเช่นนี้ จะต้องได้รับ
“ปล่อยพวกเจ้า? ฝันเพ้อเจ้ออะไร!”ฉินอวิ๋นฟานหรี่ดวงตาทั้งคู่และเอ่ย “อาจ้าน เซี่ยงเทียนเวิ่น จับตัวคนพวกนี้ให้หมด นอกจากเด็กรับใช้กับสาวใช้ที่เป็นผู้บริสุทธิ์ ประหารพวกเขาทั้งตระกูล! ปฏิบัติเดี๋ยวนี้! ใครขัดขืน ฆ่าได้ทันที!”“สอบสวนเหลียงคังจวิ้นอย่างหนัก ถามคนวางแผนเบื้องหลัง ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ฆ่าทิ้งให้หมด!”สิ้นเสียง ทุกคนในที่นั้นต่างตกตะลึงพรึงเพริด!“อะไรนะ?!”“ฆ่าทั้งตระกูล?!”......ครั้นคำสั่งนี้ออกมา เฉาส่วงและคนอื่น ๆ ก็อ่อนแรงทรุดตัวลงกับพื้นทันที ใบหน้าดังขี้เถ้า ส่งเสียงโหยหวนปานปอดฉีกหัวใจแหลกลาญ ฉินอวิ๋นฟานไม่สนใจพวกเขาสักนิด ไม่ให้โอกาสพวกเขาร้องขอชีวิต พามู่หรงจิ่น หลู่เซียงหลิงและคนอื่น ๆ จากไปอย่างรวดเร็วหลังจากฉินอวิ๋นฟานออกคำสั่งเด็ดขาด ทั้งเมืองหลวงต้าเฉียนสะเทือนเลือนลั่น เพียงชั่วครู่เดียว ตระกูลใหญ่ทั้งหกถูกล้างด้วยเลือดในพริบตา แม้จะเป็นขุนนางใหญ่ระดับสองของราชสำนักก็ยังไม่พ้นชะตากรรมถูกฆ่าล้างตระกูล“พวกเจ้ารู้ไหมว่าวันนี้มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น? ทำไมจู่ ๆ ตระกูลเหลียงก็ถูกค่ายทานหลวงฆ่าเรียบเล่า?”“ไม่รู้สิ ไม่ใช่แค่ตระกูลเหลียงนะ ตระกูลเฉ
“ฮะ?! ให้ข้าช่วยแม่นางเซียงหลิง? นี่ นี่จะให้ช่วยยังไง?!”ฉินอวิ๋นฟานเอ๋อขึ้นมาทันที อยู่ในภาวะตึงเครียดตลอดเวลา ในหัวคิดแต่จะช่วยคนอย่างไร กลับละเลยไปว่าที่หลู่เซียงหลิงกินลงไปคือยาปลุกกำหนัดฉีอิน ทางแก้หนึ่งเดียวก็คือต้องหยินหยางรวมเป็นหนึ่ง!ในนาทีวิกฤติของชีวิต ฉินอวิ๋นฟานจะกล้ามีความคิดที่ไม่สมควรที่ไหน? จังหวะที่เขามองไปทางประตู หลู่หนีถูกคนหามเข้ามาแล้วภายใต้อาการบาดเจ็บสาหัส หลู่หนีกลับยังห่วงใยลูกสาวเช่นนี้ สมกับที่พ่อลูกหัวใจเชื่อมกัน หลู่เซียงหลิงคือทุกสิ่งทุกอย่างของเขา ยิ่งเป็นชีวิตของเขา“เฮ้อ! พวกเจ้าออกไปให้หมดเถอะ!”หลังจากหลู่หนีถูกคนประคองมาถึงข้างเตียงแล้ว เขาถอนหายใจหนัก ไล่ทุกคนออกไปเลยเขาพูดอย่างหนักใจ “รัชทายาท เซียงหลิงต้องยาปลุกกำหนัดฉีอิน และยังเป็นพิษร้ายแรงล้ำลึกที่สุด ตอนนี้มีทางแก้แค่หนึ่งเดียว นอกจากท่าน ข้ายังหวังให้ใครแก้พิษให้นางได้บ้าง?”“เอ่อ หลู่หนี เจ้า เจ้าคงไม่คิดให้ข้า...”เมื่อนั้นฉินอวิ๋นฟานจึงเข้าใจขึ้นมาทันที นี่ก็คือให้เขาใช้ร่างกาย ใช้ร่างกายขจัดพิษหรือ? นี่คือเรื่องดีสุดยอดไปเลย! ทำไมเมื่อกี้เขาถึงคิดไม่ออกนะ?!ฉินอวิ๋นฟานทอดถ
“นอกจากรัชทายาท ข้าก็คิดไม่ออกจริง ๆ ว่าใครจะเหมาะสมไปกว่านี้”ได้ยินคำพูดจากใจของหลู่หนี ฉินอวิ๋นฟานไม่เพียงแต่ไม่กล่าวโทษ ในทางกลับกัน เขาปวดใจกับบิดาเฒ่าที่เป็นทั้งบิดาและมารดาผู้นี้อย่างหาที่เปรียบมิได้ จากมุมกว้างของสภาพแวดล้อม เขามิได้วิเคราะห์ผิดนี่คือการแสดงออกถึงความรับผิดชอบอย่างสูงที่บิดาเฒ่าคนหนึ่งมีต่อลูกสาว และเป็นบิดาที่รู้ใจลูกสาวอย่างแท้จริง เทียบกับพ่อแม่จำนวนหนึ่งในยุคปัจจุบัน มีแต่จะเหนือกว่า“หลู่หนี ทำไมเจ้าจึงคิดว่าข้าเป็นผู้ชายที่ไม่รับผิดชอบเล่า?”ฉินอวิ๋นฟานยิ้มเจื่อน“เฮ้อ! รัชทายาท ท่านรับผิดชอบแล้วจะยังไง? วันข้างหน้า สาวงามข้างกายท่านจะมีแต่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ยุ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ จะทำได้ถึงขั้นฝนตกทั่วฟ้าได้ยังไง? จะคำนึงถึงจิตใจของทุกคนได้ยังไง?”หลู่หนีถอนหายใจอีกครั้ง“ช่างใหญ่หลู่ ความจริงท่านผิดแล้ว”ก็ขณะที่ฉินอวิ๋นฟานไม่รู้ว่าควรจะอธิบายอย่างไรดี มู่หรงจิ่นกลับพานางกำนัลทั้งหลายเข้าห้องมา ขัดบทสนทนาของพวกเขา บรรดานางกำนัลยกผลไม้ ขนมจำนวนมากมาย พร้อมด้วยน้ำแกงร้อนที่ตุ๋นไว้นานแล้วเข้ามา จัดวางอยู่บนโต๊ะอย่างมีระเบียบ ก่อนจะออกไปนางเอ่ยต่อ “ช่า
“ขอบคุณพระชายารัชทายาทที่ชี้แนะ เป็นข้าที่มองแคบ เป็นข้าที่คิดมากไปเอง”เมื่อนั้นหลู่หนีจึงเข้าใจความคิดของลูกสาว และรู้ว่าตัวเองคิดมากไป บางทีนี่อาจเป็นผลลัพธ์ที่ลูกสาวต้องการมากที่สุดกระมังความจนใจเมื่อก่อนหน้านี้ ยามนี้คือยอมรับอย่างเปิดอก นี่คือความเปลี่ยนแปลงยิ่งใหญ่ที่บิดาเฒ่าคนหนึ่งทำเพื่อลูกสาว“รัชทายาท ข้าขอมอบเซียงหลิงให้ท่านแล้ว หวังว่าต่อไปท่านจะดีต่อนาง!”หลู่หนีใบหน้าปลื้มใจ อย่างไรลูกสาวก็ถึงวัยออกเรือนแล้ว ในเมื่อมอบกายให้กับชายที่นางชอบที่สุด ก็ถือเป็นจุดจบที่สมบูรณ์แบบที่สุดแล้วกระมัง!“หลู่หนี เอ่อ... ท่านพ่อตา ท่านวางใจเถอะ ข้าต้องดีกับเซียงหลิงแน่นอน จะไม่ให้นางได้รับความลำบากแม้แต่น้อย”ฉินอวิ๋นฟานทุบอกรับประกันเดี๋ยวนั้น“เช่นนั้นก็ดี เช่นนั้นก็ดี เวลาคับขัน ข้าจะออกไปก่อนแล้ว”หลู่หนีโบกมือพลางพูด “เสี่ยวเทียน รีบหามข้าออกไปเถอะ!”ครั้นสิ้นเสียง หลู่เสี่ยวเทียนลูกศิษย์ของหลู่หนีรีบพาองครักษ์สองคนเข้ามาในห้องแล้วหามเขาออกไป ในห้องจึงเหลือเพียงฉินอวิ๋นฟาน มู่หรงจิ่นและหลู่เซียงหลิง“จิ่นเอ๋อร์ วันนี้ขอบใจเจ้ามาก”ฉินอวิ๋นฟานจ้องมู่หรงจิ่น เขารู้สึกซึ้