“เอ่อ คือว่าแม่นางต้าซวง แม่นางเสี่ยวซวง มิต้องมากพิธี พวกเรารุ่นราวคราวเดียวกัน ต่อไปแลกเปลี่ยนกันให้มาก ๆ ข้ามีหลายเรื่องที่อยากขอคำชี้แนะจากพวกเจ้า”สองนางเอ่ย “รัชทายาทถ่อมตนแล้ว”การประลองด้านบุ๋นยุติแต่เพียงเท่านี้ เนื่องจากความสามารถแตกต่างกันชัดเจน ฉินอวิ๋นฟานจึงคว้าชัยทั้งสามรอบไปได้ทั้งหมด ผลลัพธ์เช่นนี้ทำให้ทุกคนในที่นี้ต่างตกตะลึงอ้าปากค้างหากสายตาสามารถสังหารคน น่ากลัวว่าฉินอวิ๋นฟานจะถูกองค์ชายรองสังหารไปรอบที่ร้อยแล้ว ก็เวลานี้เอง ในใจขององค์ชายรองบังเกิดวิกฤตการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ทว่าตอนนี้องค์ชายใหญ่กลับร่าเริงขึ้นมาก น้องรองแพ้ราบคาบ เช่นนั้นเขามิใช่ได้เปรียบเด็ดขาดหรือ?“การประลองด้านบุ๋นสิ้นสุดแต่เพียงเท่านี้ รัชทายาทต้าเฉียนชนะทั้งสามรอบ ยินดีด้วยเจ้าค่ะรัชทายาท”เติ้งซูหมิงประกาศผลการประลองขั้นแรกอย่างจริงจัง แต่ผลลัพธ์นี้อยู่เหนือความคาดหมายของทุกคน บรรดาคนที่ยึดองค์ชายใหญ่และองค์ชายรองเป็นเสาหลักหน้าตาเคร่งเครียดโดยทั่วกัน“การประลองด้านบู๊ต่อไปนี้ ต้องดำเนินที่ลานฝึกยุทธ์ ขอเชิญทุกท่านร่วมการประลองด้านบู๊สุดท้ายนี้ที่ลานฝึกยุทธ์ด้วย”ขันทีเฒ่าข้างกายไท่ซั่
“ร่วมมือ? เจ้าคิดว่าระหว่างเรายังมีความจำเป็นต้องร่วมมือกันหรือ?”องค์ชายใหญ่กระหยิ่มยิ้มย่อง ในดวงตาล้วนเป็นความไม่ให้ค่าและดูถูก ความร่วมมือเมื่อสามวันก่อนเป็นเพราะฉินอวิ๋นฟานจะได้ครองบัลลังก์แล้ว พวกเขาจึงจำต้องร่วมมือกันบัดนี้สถานการณ์องค์ชายใหญ่เป็นต่อ เขาย่อมไม่ร่วมมือกับองค์ชายรองง่าย ๆ“แน่นอนว่ามี คาดว่าท่านคงจะเห็นแล้ว ด้วยแนวโน้มในตอนนี้ เจ้าเจ็ดมีโอกาสชนะมาก หากไม่กำจัดมัน โอกาสของพวกเราก็จะริบหรี่ลงทุกที!”องค์ชายรองเอ่ยองค์ชายใหญ่ขมวดคิ้ว พิจารณาครู่หนึ่งแล้วจึงตอบ “ความหมายของเจ้าคือรอบสุดท้ายจะ...”คำพูดมิไม่ได้กล่าวจนจบ ทั้งสองตรวจสอบความคิดของกันและกันผ่านสายตา องค์ชายรองพยักหน้าเป็นการยืนยัน องค์ชายใหญ่หรี่ตา คล้ายกำลังตัดสินใจเรื่องใหญ่อย่างไรอย่างนั้นทางตะวันออกของตำหนักว่านฉงมีลานกว้างแห่งหนึ่ง ตรงกลางมีแท่นประลองทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ นี่คือลานฝึกยุทธ์อันศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของต้าเฉียน การประลองบู๊ การประลองทักษะต่าง ๆ รวมถึงกิจกรรมสำคัญจะประกอบจนลุล่วง ณ ที่แห่งนี้ทั้งหมด“รอบแรกของการประลองด้านบู๊คือยิงธนู! ขอเชิญองค์ชายที่ร่วมประลองประจำที่ด้วย!”เติ้
“องค์ชายใหญ่ พวกเราเจอกันอีกแล้วนะขอรับ ไม่ทราบว่าทักษะการยิงธนูของท่านก้าวหน้าหรือไม่” เยี่ยนเป่ยวางตัวเหมาะสม“หึ คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะเข้าพวกกับองค์ชายห้า เหนือความคาดหมายของข้าจริง ๆ”องค์ชายใหญ่พูดด้วยสีหน้าอึมครึม “แต่วันนี้ข้าจะไม่สู้กับเจ้าหรอก ข้าจะออมแรงเตรียมตัวกับสองรอบหลัง หวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวังนะ!”“เว่ยเหยียน!!!”องค์ชายใหญ่เปล่งเสียงทีหนึ่ง เห็นเพียงบุรุษรูปร่างสมดุล ผิวพรรณดำคล้ำแบกคันศรและธนูอยู่ที่หลังเดินขึ้นแท่นประลองมาถึงตรงหน้าองค์ชายใหญ่ช้า ๆ ทันทีที่ทุกคนเห็นเว่ยเหยียนต่างรู้สึกงุนงง“นี่ เว่ยเหยียนผู้นี้คือใครกัน? ทำไมไม่ยักเคยเห็นมาก่อน?”“การประลองสำคัญเช่นนี้ องค์ชายใหญ่กลับหาเจ้าหนุ่มคนหนึ่งมาลงแข่ง จะเห็นเป็นการเล่นแบบเด็ก ๆ ไปหน่อยหรือไม่?”......ทุกคนพากันงงงวยกับการกระทำขององค์ชายใหญ่ เห็นสีหน้าองค์ชายใหญ่มีความมั่นใจเต็มเปี่ยม สายตาของบรรดาองค์ชายและคนอื่น ๆ ต่างมีข้อกังขา ทว่าฉินอวิ๋นฟานกลับเห็นความพิเศษเล็กน้อยแม้เว่ยเหยียนจะไม่มีรูปร่างกำยำ ทว่าปัจจัยทางสรีระกลับยอดเยี่ยมอย่างแปลกประหลาด ฉินอวิ๋นฟานคือหน่วยรบพิเศษสุดยอดในยุคปัจจุ
“สวรรค์ของข้า นี่ก็คืออานุภาพของธนูทองคำศักดิ์สิทธิ์หรือ? องค์ชายรองยังสามารถยิงเข้าเหรียญทองแดงที่ระยะร้อยห้าสิบเมตรได้ จะน่ากลัวเกินไปแล้วกระมัง?”“สมกับที่เป็นธนูเทพอันดับหนึ่งของต้าเฉียนที่องค์อดีตฮ่องเต้ประทานให้ อยู่ในมือขององค์ชายรองยิ่งน่ากลัวเหมือนเจ้าของ ต่อให้เป็นสุดยอดนักแม่นธนูขั้นเทพเกรงว่าจะเท่านั้นเอง”“องค์ชายรองไม่เพียงแต่มีพรสวรรค์ด้านวรรณกรรมสูงส่ง ยังมีความสามารถในการยิงธนูล่าสัตว์น่ากลัวเช่นนี้อีก สมกับที่เป็นองค์ชายผู้โดดเด่นที่สุดของต้าเฉียน”......บรรดาแคว้นทั้งหลายต่างอาศัยการยิงธนูในการโจมตีระยะไกล มือธนูจึงล้ำค่าอย่างเห็นได้ชัด เหตุนี้ทุกแคว้นต่างจึงบ่มเพาะผู้มีความสามารถด้านนี้มากที่สุดลูกหลานในราชวงศ์โดยมากจะมีความเชี่ยวชาญประมาณหนึ่ง แต่หากเทียบกับนักธนูมืออาชีพเหล่านั้น มากน้อยยังต่างกันอยู่บ้าง อย่างไรเสีย พวกเขาก็เคยผ่านร้อยสนามรบ มีประสบการณ์มากมาย ฝีมือการยิงธนูที่องค์ชายรองแสดงออกมาจึงทำให้ทุกคนอึ้งที่สุด“ร้อยห้าสิบเมตร ก็งั้น ๆ แหละ”องค์ชายรองฉินอวิ๋นฮุยยักไหล่ทำหน้าสบาย ๆ ในดวงตาที่เขามองไปทางฉินอวิ๋นฟานล้วนเป็นการเสียดสี ถ้าบอกว่าฉินอว
ฉินอวิ๋นฟานโต้กลับไปโดยตรงเขายกหน้าไม้ขึ้นเบา ๆ วางลูกศรขนนกไว้ในร่อง ตามด้วยยกหน้าไม้ในระดับสายตา เล็งไปที่เหรียญทองแดง เพียงกดปุ่มเบา ๆ ลูกศรขนนกก็พุ่งออกไป เกิดเป็นเสียงผ่าอากาศ“หึ ทำท่าทำทาง!”สิ้นเสียงองค์ชายรอง ทั้งคนแข็งทื่ออยู่กับที่ ใบหน้าเปลี่ยนสีฉับพลัน ในดวงตาเต็มไปด้วยความตะลึงฉึก!!!ไม่มีใครเชื่อว่าของที่อยู่ในมือฉินอวิ๋นฟานจะมีพลังอะไรได้ ยิ่งอย่าพูดถึงว่าจะยิงโดนเป้าเหรียญทองแดง ความดูถูกดูแคลนท่วมท้นสายตาของทุกคนทันทีที่ฉินอวิ๋นฟานยิงถูกใจกลางเป้าเหรียญทองแดง ทุกคนเบิกตาโพลงอ้าปากหวอ ในดวงตาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ“เป็นไปได้ยังไง? เจ้าสิ่งนี้มีระยะการยิงที่น่ากลัวขนาดนี้เลยหรือ?”องค์ชายรองใบหน้าเปลี่ยนสีฉับพลัน เขาในเวลานี้ทรมานราวกับกินอุจจาระ เพิ่งพูดจาเสียดสีฉินอวิ๋นฟานไปหยก ๆ พริบตาเดียวก็ขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล แสดงความโง่เขลาของตัวเองออกมาจนหมดทำไมของกระจ้อยร่อยเช่นนี้จึงมีระยะการยิงและพลังโจมตีมากขนาดนี้นะ? เขาคิดไม่ตกจริง ๆ ไม่เพียงเท่านี้ ทุกคนก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน“ปัญญามีน้อย!”ฉินอวิ๋นฟานไม่สนใจการตกตะลึงขององค์ชายรอง แต่เสียดสีอย่างเย็นชาป
รอบที่สามเพิ่งจะเริ่มต้น องค์ชายรองก็ก้าวออกไปสองก้าวและประกาศอย่างจริงจัง “ร้อยแปดสิบเมตรคือขีดจำกัดของข้าแล้ว การประลองต่อจากนี้ข้าขอสละสิทธิ์!”ซ่า...ทั้งสนามมีเสียงดังระงม การประลองมาถึงช่วงสำคัญที่สุด คิดไม่ถึงว่าองค์ชายรองจะสละสิทธิ์?กล่าวถึงความสามารถ เยี่ยนเป่ยคืออันดับหนึ่งด้านการยิงธนูของต้าเฉียน มีเขาอยู่ ถึงองค์ชายรองจะเก่งสักแค่ไหนไม่มีทางเอาชนะเขาได้จริง ๆ คิดดูแล้วการที่องค์ชายรองจะสละสิทธิ์ก็ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผลอีกอย่างเว่ยเหยียนที่องค์ชายใหญ่เชิญมา เห็นชัดว่าเป็นยอดฝีมือยิงธนูชั้นเลิศแน่นอน การประลองครั้งนี้เกรงว่าจะยิ่งน่าสนุกเยี่ยนเป่ยไม่ลังเล ในแววตาคือความเผด็จการที่ราบรื่นตลอดทาง แววตาคมกริบประหนึ่งเหยี่ยวนั้นกำลังจ้องกลางเป้าเหรียญทองแดงตรงจุดสองร้อยเมตร เห็นเพียงเขาหรี่ดวงตาทั้งสองข้าง ลูกศรขนนกในมือพุ่งตัวออกไป จากนั้นก็เป็นเสียงหวีดหวิวของศรฉึก!!!ก็ขณะที่ทุกคนกำลังกลั้นลมหายใจ เห็นเพียงศรขนนกยิงถูกเหรียญทองแดงอย่างมั่นคงราวเส้นแสงสายหนึ่ง หลังจากเหรียญทองแดงตกลง ทั้งสนามร้องเฮกันขึ้นมาสีหน้าเว่ยเหยียนยังคงสงบ แววตาปราศจากสิ่งอื่น จ้องกลางเป้าตรงจ
“รัชทายาทคมในฝักหลายปี ปกติแทบไม่มีตัวตน แม้จะเป็นนางกำนัลก็ยังกลั่นแกล้งเขา บัดนี้กลับยืนอยู่จุดสูงสุด เหลือบมองทุกคน...เขาน่ากลัวแล้ว”......ผ่านการประลองหลายรอบ ทุกคนชินชาแล้ว ความตะลึงที่ฉินอวิ๋นฟานนำมาให้มีมากเกินไป มักให้คนคิดไม่ถึง และเป็นการเอาชนะในท้ายที่สุดด้วยท่วงทำนองเด็ดขาดไม่ว่าจะเป็นอัจฉริยะที่เก่งกาจสักแค่ไหน ร้ายกาจเพียงไร ต่อหน้าฉินอวิ๋นฟานล้วนไร้สีสันเหมือนเดิม สุดท้ายก็แพ้ราบคาบอยู่ดีทีแรกนี่คือการแข่งตัดสินระหว่างองค์ชายใหญ่และองค์ชายรอง ไม่นึกว่าฉินอวิ๋นฟานต่างหากที่เป็นจ้าวในท้ายที่สุด ทุกคนคิดว่าการฉวยชัยชนะไปจากตรงหน้าฉินอวิ๋นฟาน คือเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ความรู้สึกอ่อนแรงอย่างหนักสายหนึ่งอัดแน่นอยู่ในหัวใจทุกคนเพื่อตัดสินผู้ชนะในท้ายที่สุด การประลองจะเพิ่มระยะทางเป็นสองร้อยยี่สิบเมตร และเป็นตามคาดของทุกคน ขีดจำกัดของเว่ยเหยียนและเยี่ยนเป่ยอยู่ที่สองร้อยเมตร ระยะสองร้อยยี่สิบเมตร พวกเขาล้มเหลวตามระเบียบสุดท้ายฉินอวิ๋นฟานยิงถูกกลางเป้าเหรียญทองแดงระยะสองร้อยยี่สิบเมตรได้อย่างมั่นคง คว้าชัยไปได้อีกครั้งประลองด้านบุ๋นและประลองด้านบู๊มีการประลองทั้งหมด
ความสามารถที่ฉินอวิ๋นฟานแสดงออกมาทำให้องค์ชายใหญ่และองค์ชายรองตระหนักถึงวิกฤตร้ายแรงอย่างหนึ่งความมุ่งมั่นที่จะกำจัดฉินอวิ๋นฟานแรงกล้ามากขึ้นทุกที ถ้าเขายังลงแข่งในรอบต่อไป จะต้องกำจัดเขาให้ได้ มิเช่นนั้น ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ สถานการณ์จะไม่เป็นผลดีกับพวกเขาอย่างยิ่ง แต่ถ้าฉินอวิ๋นฟานไม่ลงแข่ง เช่นนั้นทุกอย่างยังอาจพลิกผันหรือก็หมายถึง ในการแข่งสองรอบที่เหลือ ไม่ว่าจะเป็นชัยชนะในรอบไหนก็สำคัญกับพวกเขาสองคนอย่างยิ่งยวดบนแท่นประลอง องค์ชายใหญ่ท่วงทำนองแข็งแกร่ง เนื้อตัวบนล่างเต็มไปด้วยเจตนารบ ประหนึ่งสัตว์ร้ายบ้าคลั่งตัวหนึ่ง กล้ามเนื้อปริแตก กล้ามเนื้อสีทองแดงอัดแน่นไปด้วยพลัง ในค่ายทหารมักมีการประลองกำลังและประลองยุทธ์เป็นประจำ หลายปีนี้องค์ชายใหญ่ฉินอวิ๋นคังยืนหนึ่งอย่างมั่นคง เรียกได้ว่ามีพลังเต็มเปี่ยม เป็นจ้าวแห่งหมู่มวลบุรุษเพศ“กระถางมา!!!”องค์ชายใหญ่ตวาดเสียงหนึ่ง ไม่นานคนกลุ่มหนึ่งก็ยกกระถางสามขาขนาดยักษ์ขึ้นไปบนแท่นประลองในสมัยโบราณจะใช้กระถางสามขาในการเซ่นไหว้ เป็นสัญลักษณ์ของการรับเจตนารมณ์ฟ้าดังนั้นจึงเข้มงวดกับน้ำหนักของกระถางมากที่สุด ช่างที่ทำกระถางจะต้องประกัน