ที่แล้วมาฉินอวิ๋นฟานมักเตรียมการล่วงหน้าเสมอ วางแผนจัดการทุกอย่างก่อนกำหนด นี่คืออุปนิสัยที่ติดตัวมาตอนเป็นทหารหน่วยรบพิเศษ มีแต่การทำอย่างนี้จึงจะควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในกำมือ ชนะพันลี้ เขาอนุมานและวิเคราะห์สถานการณ์ในปัจจุบันต่อ ต่อด้วยกำชับอู่จ้านและคนอื่น ๆ อีกประมาณหนึ่ง กระทั่งค่อนคืนจึงให้พวกเขากลับไปฉินอวิ๋นฟานที่อ่อนล้าเหลือแสนล้มตัวลงบนเตียงโดยตรง เขาพูดแบบมีลมแต่ไร้กำลัง “เหนื่อยจังเลย จิ่นเอ๋อร์ เสี่ยวจวี๋ มาบีบ ๆ นวด ๆ ไหล่ให้ข้าหน่อย ปรนนิบัติผัวจ๋าของเจ้าให้ดี” “ฮึ! ฝันไปเถอะ ท่านคือคนบ้าตัณหา นอนไปคนเดียวเถอะ!”มู่หรงจิ่นแค่นฮึเสียงเย็น เบะปาก ก่อนจะลากเสี่ยวจวี๋เดินไปทางตำหนักฝั่งตะวันออกเห็นสองนางจะไปจริง ๆ คราวนี้ทำเอาฉินอวิ๋นฟานงงเป็นไก่ตาแตกแล้ว นี่มันอะไรกัน? ก็ดีมาตลอดมิใช่หรือ? ทำไมจู่ ๆ ก็โกรธล่ะ? ฉินอวิ๋นฟานร้อนรนแล้ว รีบตะเกียกตะกายขึ้นมาถาม “จิ่นเอ๋อร์ นี่เป็นเพราะอะไรหรือ?”“เพราะอะไร? วันนี้ท่านทำอะไรบ้าง ตัวเองยังไม่รู้อีกหรือ?”มู่หรงจิ่นหน้าตึง ยังคงเบะปากเหมือนเดิม จ้องฉินอวิ๋นฟานเขม็ง ในดวงตามีความเคียดแค้นแน่นเอี๊ยดพอได้ยินคำพูดนี้ ฉินอว
......“เสี่ยวฟาน รีบตื่นเร็ว เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!เช้าตรู่ ขณะที่ฉินอวิ๋นฟานกำลังนอนหลับปุ๋ย จู่ ๆ ก็ถูกเสียงร้อนรนของอู่จ้านปลุกให้ตื่น ยามนี้ฉินอวิ๋นฟานกำลังถามด้วยความหงุดหงิด “อาจ้าน มันเรื่องอะไรกันแน่ถึงทำให้ท่านรีบขนาดนี้? ข้ากำลังหลับสบายอยู่เลย!”“เจ้ารีบลุกเร็วเข้าเถอะ พวกขุนนางกำลังรวมตัวกันยื่นฎีการ้องเจ้าที่ตำหนักว่านฉงอยู่แน่ะ!”เมื่ออู่จ้านได้รับการรายงานจากขันทีน้อยพลันตะลึงหน้าถอดสี รีบวิ่งโร่ไปยังตำหนักหลักที่ฉินอวิ๋นฟานพัก เรื่องนี้ไม่ธรรมดา ต้องรายงานทันทีจึงจะถูก!“ยื่นฎีการ้องข้า นี่มันอะไรกัน?”ฉินอวิ๋นฟานสะดุ้งพรวดขึ้นมากับฝันร้ายเหนือความคาดหมาย เมื่อวานเบ่งบารมีใหญ่โต ไม่เพียงแต่ระบายความแค้นให้ต้าเฉียน ยังได้เมืองกลับมาแบบไม่เปลืองแรงอีกตามหลัก เขาสมควรได้รับรางวัลคำชมเชยมิใช่หรือ? ทำไมถึงมีคนกล้ายื่นฎีการ้องเขา? สมองป่วยกระมัง?ไม่ทันได้คิดมาก ฉินอวิ๋นฟานแต่งตัวด้วยความเร่งรีบ หลังจากล้างหน้าล้างตาลวก ๆ แล้วก็รีบไปยังตำหนักว่านฉง ทันทีที่เขามาถึง ขุนนางใหญ่ยืนอยู่ในนั้นเนืองแน่นแล้ว“ถวายบังคมพ่ะย่ะค่ะ”ฉินอวิ๋นฟานมาถึงตรงหน้าสุดของตำหนักด้วยความฉ
ถูกเหล่าขุนนางกล่าวหาและวิพากษ์วิจารณ์แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำให้ฉินอวิ๋นฟานปวดเศียรเวียนเกล้าขึ้นมาทันที ทั้งที่ตัวเองทำคุณงามความดีใหญ่หลวงให้ต้าเฉียน ทำไมถึงกลายเป็นสมรู้ร่วมคิดกับศัตรูขายชาติได้? คนพวกนี้จะไร้ยางอายเกินไปแล้วกระมัง?นี่ถ้าถูกพวกเขาคนขี้ขลาดตาขาวฝูงนี้โค่นสำเร็จ มิต้องตายอย่างไร้ความยุติธรรมอย่างใหญ่หลวงหรือ?แววตาของฉินอวิ๋นฟานคมกริบขึ้นมา สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่ตัวของขุนนางใหญ่ที่กำลังกล่าวหาเขาฉินอวิ๋นฟานถามเสียงเย็น “เจ้าคือใคร? ยังไม่ได้ตรวจสอบเรื่องราวให้ชัดเจนก็กล้าใส่ความรัชทายาทลับหลัง? คนที่ใส่ความข้าเมื่อก่อนหน้านี้ไปรายงานตัวกับพญายมหมดแล้ว เจ้าแน่ใจนะว่ารับกับผลลัพธ์ได้?”ฉินอวิ๋นฟานเกลียดคนต่ำช้าประเภทนี้ที่สุด วัน ๆ ไม่ทำการทำงาน กลับเอาแต่ใช้อำนาจ มากเล่ห์เพทุบาย กับการฆ่าคนประเภทนี้ เขาไม่เคยใจอ่อน!“ทะ ท่านคิดจะทำอะไร?”อีกฝ่ายตื่นตระหนกขึ้นมาทันที รีบถอยหลังหลายก้าว กลัวว่าฉินอวิ๋นฟานจะสังหารเขาภายใต้ความโกรธ เพราะก่อนหน้านี้ ภายใต้ความโกรธ ฉินอวิ๋นฟานสังหารคนไม่กะพริบตา แม้แต่องค์ชายก็ยังกล้าปลิดชีวิต ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเขา?เขาเป็นแค่นกต่อท
ฉินอวิ๋นฟานหรี่ดวงตาทั้งสองและพูด “พี่ใหญ่ลองว่ามาได้ ข้าทำเรื่องอันใดที่เป็นภัยคุกคามต่อต้าเฉียนหรือ? ถึงกับทำให้พวกท่านต้องดิ้นพล่านขนาดนี้?”ในเมื่อถูกฉินอวิ๋นฟานมองออกแล้ว ตอนนี้ฉินอวิ๋นคังจึงไม่เสแสร้งอีกเขาไต่ถามเสียงเข้ม “น้องเจ็ด เยียนอวี่เฉินคือองค์หญิงสามผู้สูงศักดิ์ยิ่งของต้าเยียน ตามหลักแล้วนางสมควรพักที่เรือนรับรองของต้าเฉียนเรา แต่ทำไมพวกนางต้องไปพักที่โรงแรมห้าดาวต้าเฉียนของเจ้าด้วย? นี่เกรงว่าจะไม่สอดคล้องกับกฎระเบียบและตรรกะกระมัง?”“เรื่องแค่นี้?”ฉินอวิ๋นฟานทำหน้าประหลาดใจ แม้แต่เขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเยียนอวี่เฉินถึงไปพักที่โรงแรมห้าดาวต้าเฉียนได้ เขาเองก็เพิ่งจะรู้เมื่อคืนเหมือนกัน!ทว่าเรื่องนี้ยังถูกองค์ชายใหญ่เอามาหาเรื่อง ฉินอวิ๋นฟานไม่สบอารมณ์อย่างหนัก“ไม่ ๆ ๆ ไม่ใช่แค่นี้”ฉินอวิ๋นคังส่ายหน้าพูด “น้องเจ็ดเจ้าน่าจะรู้ดี ยามนี้ต้าเฉียนอยู่ในช่วงอ่อนไหว มิอาจรับความกระทบกระเทือนอะไรได้ เสด็จพ่อสวรรคตเพียงเดือนเศษ องค์หญิงสามต้าเยียนก็ปรากฏตัว แถมยังเข้าพักที่โรงแรมของเจ้าอีก”“ไม่เพียงเท่านี้ พวกเจ้ายังจับพลัดจับผลูหมั้นหมายกัน ทั้งหมดนี้เป็นแค่ความบังเอิ
“อ้อ? เชื่อแล้วจะยังไง? ไม่เชื่อแล้วจะยังไง?”ยามนี้ ดวงตาทั้งสองของฉินอวิ๋นฟานเปลี่ยนเป็นคมกริบขั้นสุดแล้ว กับการใส่ร้ายป้ายสีของทุกคน แต่ไรมาเขาฉินอวิ๋นฟานเถรตรง มีหรือจะยอมให้พวกเขาเชือดตามอำเภอใจ?ถ้าแม้แต่การเสียเปรียบพรรค์นี้เขายังกระเดือกลง เช่นนั้นต่อไปเขาจะยืนอยู่ในต้าเฉียนได้อย่างไร? จะคว้าชัยชนะในศึกชิงความเป็นหนึ่งอย่างไร จะขึ้นนั่งแท่นมังกรซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดได้อย่างไร? จะนำเทคโนโลยีสุดไฮเทคประกาศสู่ชาวโลกได้อย่างไร?! เห็นเพียงฉินอวิ๋นฟานเอ่ยเสียงเย็นเยียบ “ท่าทีของข้าฉินอวิ๋นฟานชัดเจนที่สุด ถ้าไม่เอาหลักฐานที่ทำให้ข้ายอมรับจากใจมาได้ ก็อย่าทำตัวโง่เขลาเบาปัญญา อย่าทำมาเดาสุ่มสี่สุ่มห้ามุ่งร้ายกับข้า!”“อยากเล่นสกปรกกับข้า? คิดว่าพวกท่านน่าจะรู้จุดจบนะว่าคืออะไร!”“สำหรับอู่โจวกับเมืองหานกู่ ตามหลักคุณธรรมแล้วมันก็คือของต้าเฉียน เรื่องนี้ทั่วหล้ายอมรับ ส่วนพวกเขาจะให้หรือไม่ให้ นั่นเป็นเรื่องของพวกเขา จะเอากลับคืนมาได้หรือไม่ คือเรื่องของข้า! อีกครึ่งปีให้หลังก็จะประจักษ์เอง พวกท่านไม่มีเรื่องหาเรื่องอยู่ที่นี่จะเอายังไง?!”ฉินอวิ๋นฟานท่าทีแข็งกร้าวถึงที่สุด กับคว
จางเต้าหลินพูดด้วยใบหน้าราบเรียบ “ในเมื่อพวกท่านพี่น้องต่างมีเป้าหมายเดียวกัน ข้าจะพูดได้หรือไม่ว่าที่ท่านทำก็เพื่อจะเอาชนะ จงใจผลักไสข่มรัชทายาท?!”ถูกจางเต้าหลินไต่ถามกะทันหัน สีหน้าองค์ชายใหญ่และองค์ชายรองดำเป็นตับหมูฉับพลัน คำพูดนี้โต้กลับมาจนพวกเขาสองพี่น้องอ้าปากไม่ออกถ้าคำพูดนี้ออกมาจากปากของฉินอวิ๋นฟาน พวกเขายังพอแก้ต่างได้ แต่ออกมาจากปากของจางเต้าหลินกลับไม่เหมือนกันตอนนี้สายตาที่ฉินอวิ๋นฟานมองจางเต้าหลินเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง ถึงเขาจะมีวิธีการแก้สถานการณ์ แต่สิ่งที่ต้องจ่ายกลับมีมูลค่าสูงมาก ถ้าพลาดพลั้งไปเพียงนิดเดียว จะต้องถูกใส่ความต่าง ๆ นานาและการปรากฏตัวของจางเต้าหลินสลายแผนร้ายนี้ไปโดยตรง“เอ่อ จางไท่เว่ย... ท่านกล่าวหนักไปแล้ว!”องค์ชายใหญ่ฉินอวิ๋นคังเห็นดังนั้นจึงรีบอธิบาย “พวกเราแค่สันนิษฐานไปตามเนื้อผ้า มิได้ผลักไสเพื่อการชิงบัลลังก์เลย ความตั้งใจเดิมของเราล้วนเพื่อต้าเฉียน เพราะต้าเยียนมีกำลังแข็งแกร่งนัก น้องเจ็ดเอาชนะได้ง่าย ๆ อย่างนี้ พวกเราจำต้องระวัง”“สันนิษฐาน? ไม่จำเป็น!”จางเต้าหลินส่ายหน้าพูด “สำหรับเรื่องที่เอาชนะต้าเยียนได้ยิ่งง่าย! พวกท่านแค
แต่ไหนมาฉินอวิ๋นฮุยก็เป็นคนที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนฉลาดล้ำลึกคนหนึ่ง การลดตัวร่วมมือกับองค์ชายใหญ่ก็ทำเพื่อผลประโยชน์เช่นกัน พร้อมกันนั้นก็เพื่อข่มฉินอวิ๋นฟานด้วย แต่เขายิ่งเข้าใจน้ำหนักและความหมายในคำพูดของจางเต้าหลินระยะนี้เขาพ่ายแพ้เนือง ๆ กับเรื่องนี้ เขารอบคอบขึ้นมาเยอะ สังเกตสถานการณ์ตลอดเวลา เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน เขากลับลำอย่างเด็ดขาด อย่างไรเสีย จางเต้าหลินจะไม่ลงมือง่าย ๆ เมื่อลงมือก็คือต้องมีเบื้องหลัง!“น้องรอง นี่ นี่เจ้า...”ฉินอวิ๋นฮุยกลับลำกะทันหัน ทำเอาองค์ชายใหญ่ฉินอวิ๋นคังอึ้งไปเลย ทุกอย่างที่วางแผนไว้ดิบดีเมื่อก่อนหน้านี้กลับไปที่จุดเริ่มต้น เขาไม่รู้ว่าจะเล่นเกมหลังจากนี้อย่างไรแล้ว“พี่ใหญ่ ขอโทษด้วย”ฉินอวิ๋นฮุยทำหน้ารู้สึกผิด “ก่อนหน้านี้ข้าสงสัยว่าน้องเจ็ดจะมีความคิดไม่บริสุทธิ์จริง แต่นั่นก็เป็นเพียงการคาดเดาของเราเท่านั้น ในเมื่อทุกอย่างคือการพิจารณาเพื่ออนาคตของต้าเฉียน ข้าคิดว่าเราสมควรให้โอกาสน้องเจ็ดสักครั้ง สังเกตการณ์ระยะหนึ่ง”“อย่างไรน้องเจ็ดก็ไม่ทำงานตามครรลองเสมอ ถ้าเป็นอย่างที่จางไท่เว่ยกล่าวจริง ไม่แน่ว่าน้องเจ็ดอาจได้อู่โจวกลับคืนมา? นี
“ข้าน้อยเห็นด้วย! ถ้าปล่อยรัชทายาทไปเช่นนี้ นั่นมิใช่เป็นการประกาศต่อชาวโลกหรือว่ารัชทายาทต้าเฉียนเราก็คืออันธพาลบ้ากาม เสเพลอย่างยิ่ง ข่มเหงชายย่ำยีหญิงสาวกลางถนน? การกระทำเช่นนี้ต่ำทรามยิ่งนัก ต้องลงโทษให้หนัก!”......เมื่อทุกคนตระหนักถึงผลลัพธ์ร้ายแรงที่จะเกิดขึ้นจากพฤติกรรมของฉินอวิ๋นฟาน ก็พูดสาดเสียเทเสียต่อเขาทันที เพราะต้าเยียนแข็งแกร่งเกินไปจริง ๆ พวกเขาเจอมากับตัวแล้วเมื่อหนึ่งปีก่อนถ้าราชวงศ์ต้าเยียนจะยกทัพมาบุกเพราะมีเหตุมาจากการกระทำของฉินอวิ๋นฟาน เช่นนั้นจะต้องลำบากแล้ว!กับวาจาของเหล่าขุนนาง ฉินอวิ๋นคังใบหน้ากระหยิ่มยิ้มย่อง ท่ามกลางการกดดันอย่างหนักของทุกคน เขาก็อยากดูสิว่าฉินอวิ๋นฟานจะแก้ต่างให้ตัวเองยังไงปึก!!!ก็ขณะที่เหล่าขุนนางกำลังเอาเรื่องเป็นเสียงเดียว จู่ ๆ ฉินอวิ๋นฟานก็เดือดพลุ ขว้างกระบี่อาญาสิทธิ์ในมือปักลงกลางท้องพระโรงอย่างแรง การกระทำแบบกะทันหันของเขาทำให้พวกขุนนางตกใจผงะ รีบถอยหลังเนือง ๆ“โธ่เว้ย! ให้ตายเถอะ! ไอ้พวกสวะ!”ฉินอวิ๋นฟานตวาดกร้าวออกไปเสียงหนึ่ง เวลานี้เขาโมโหปรอทแตกแล้ว ไฟโทสะท่วมท้น ทำให้ดวงตาทั้งคู่ของเขาแดงก่ำ แผ่กลิ่นอายสังหารน