“ถ้าข้าจำไม่ผิด วิถียุทธ์ของเจ้าอู่จ้านน่าจะอยู่ที่ระดับเก้าสูงสุดกระมัง?”ชายชุดดำผู้เป็นหัวหน้าเอ่ยปากชืด ๆ“อะไรนะ? เจ้า เจ้าถึงกับรู้ฝีมือของข้า?”อู่จ้านใบหน้าตะลึงงัน เขาคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึง คนพวกนี้กลับล่วงรู้ฝีมือของเขาดังฝ่ามือ ทั้งยังไม่กลัวเขาอีก คราวนี้ได้ยุ่งแล้วชายชุดดำหัวเราะเสียงเย็น ไม่ยี่หระกับอู่จ้านที่ตกตะลึง หากเอ่ยปากลอย ๆ “พวกเราพี่น้องสิบห้าคนล้วนวิถียุทธ์ระดับเก้า ไม่รู้ว่าเจ้าจะสู้ได้สักกี่คน?”“วิถียุทธ์ระดับเก้าสิบห้าคน?!”พอได้ยินข่าวนี้ ตอนนี้อู่จ้านสิ้นหวังเหลือประมาณ วิถียุทธ์ระดับเก้าแม้จะเป็นแค่การคลำธรณีประตูของการฝึกวิถียุทธ์ หากมิได้ก้าวข้ามวิถียุทธ์อย่างแท้จริง ฝีมือของทุกคนจึงไม่ต่างกันสักเท่าไรถ้าในยามปกติ เขาสามารถต่อสู้กับห้าคนเพียงลำพัง แต่วันนี้สถานการณ์พิเศษ เขานอกจากจะดื่มสุราไม่น้อย ยังขับเขี้ยวกับสาวของหอวั่งเจียงอีกคำรบ สมรรถภาพทางกายลดลงชัดเจนเผชิญหน้ากับผู้มีฝีมือสูสีกับตนสิบห้าคน อู่จ้านลนลานโดยสิ้นเชิง เขาจะอย่างไรก็ได้ แต่ถ้าฉินอวิ๋นฟานตาย เช่นนั้นเขาเป็นผีก็ไม่ยอม!“พวกเจ้าจะรักษาเกียรติเองแบบรู้จักมองสถานการณ์ หรือว่า
“เหอะ ควรค่ากับเงินเท่าไร? ชีวิตของเจ้ามันวัดด้วยตัวเงินไม่ได้หรอก คนที่อยากให้เจ้าตายมีถมเถไป ฉะนั้น รัชทายาทก็อย่างดิ้นรนอีกเลย ยิ่งดิ้นรน สภาพก็จะยิ่งอนาถ”ชายชุดดำปฏิเสธคำถามของฉินอวิ๋นฟานโดยสิ้นเชิง นี่มิใช่เรื่องที่ว่าเงินเท่าไร แต่พวกเขาคือคนที่รับคำสั่งมาลอบสังหารรัชทายาท ถ้าภารกิจล้มเหลว ที่ตายก็คือพวกเขา!ฉินอวิ๋นฟานจ้องชายชุดดำที่อยู่ในความมืด พอเดาได้คร่าว ๆ แล้ว ดูท่าคงได้แต่ใช้แผนสำรอง“ปัง!”ก็ขณะที่ชายชุดดำกำลังจะลงมือ ฉินอวิ๋นฟานชิงตัดหน้าก่อน เพียงแค่พริบตาเดียวก็ระเบิดหัวของชายผู้เป็นหัวหน้าแล้ว โบราณว่าไว้ จับโจรต้องจับหัวหน้า ต้องชิงสิทธิ์ในการเริ่มก่อน“อะไรนะ?!”“เขาใช้อาวุธลับหรือ?!”“ลูกพี่ตายแล้ว?!”......ให้ชายชุดดำคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึง ฉินอวิ๋นฟานจะลงมือกะทันหัน แถมยังเด็ดขาดมากด้วย ฆ่าลูกพี่ของพวกเขาในเสี้ยววินาทีในท่วงทำนองอสนีฟาดผ่ามิทันปิดหู เอาทำชายชุดดำข้างหลังสะดุ้งโหยงเป็นแถวอู่จ้านก็ตกใจเหมือนกัน เขารู้ว่าฉินอวิ๋นฟานผิดกับสมัยก่อนนานแล้ว ไม่ใช่รัชทายาทผู้โง่งมในอดีตอีก แต่ที่ทำให้เขาเหลือเชื่อคือ ท่าทีของฉินอวิ๋นฟานกลับแน่วแน่เช่นนี้?“
“รอดูการเปลี่ยนแปลงก่อนเถอะ ถ้าไม่ไหวยังไงถึงตอนนั้นข้าค่อยออกโรงจัดการมันเองก็พอ” อู๋อีฝานเอ่ยเสียงเย็น “อยากตายก็เข้ามาได้เลย! รับรองว่าข้าจะยิงกระจุยในหนึ่งวินาที ให้ข้ายอมแพ้รึ? ไม่มีทางเสียหรอก! ถ้าพวกเจ้าไปเสียตอนนี้ยังอาจมีโอกาสรอด!”ฉินอวิ๋นฟานยังคงเผด็จการเหมือนเดิม ในน้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยการข่มขู่ข่มขวัญ เพิ่มความกลัวทางจิตวิทยากับอีกฝ่ายต่อ เขาต้องการให้คนพวกนี้ขวัญกระเจิงแล้วถอยกลับไปแบบรู้สถานการณ์“เอาไงดี?”บรรดาชายชุดดำต่างมองหน้ากัน เผยอารมณ์กระอักกระอ่วน เดินหน้าไปเขาก็คือตาย ไม่เดินหน้าก็เกรงว่าเก้าตายรอดหนึ่ง นี่ทำให้เขาเลือกยาก ครั้นจ้องศพที่อยู่แทบเท้าและกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง พวกเขาลนลานโดยสิ้นเชิงแล้วจู่ ๆ กลับมีคนฮึดใจสู้พูดขึ้นมา “ถึงยังไงก็ต้องตาย ถ้าถอยน่ากลัวว่าจะทำให้ครอบครัวเดือดร้อน พวกเรามิสู้ลงมือพร้อมกันเสี่ยงดูสักตั้ง? อย่างไรเสียเราคนหมู่มาก อาวุธลับของเขาร้ายกาจแค่ไหนยังจะสู้การบุกโจมตีของพวกเราทั้งหมดในชั่วขณะได้หรือ?!”พอได้ยินคำพูดนี้ ฉินอวิ๋นฟานหัวใจหล่นตุบ พูดในใจว่าตายแล้ว แผนโจมตีหัวใจล้มเหลว!“ได้!”ทันใดนั้น ชายชุดดำที่เหลืออีกสิบส
“พี่น้องทั้งหลาย เผด็จศึกให้ไว!”ชายชุดดำคนหนึ่งตะเบ็งเสียงจู่ ๆ ชายชุดดำหกคนก็ล้อมอู่จ้านเอาไว้ ทั้งยังลงมือหนักหน่วง แต่ละดาบล้วนโหดเหี้ยมเอาชีวิต ภายใต้การโจมตีอย่างรุนแรงของทั้งหก อู่จ้านรับมือยากเล็กน้อย“รัชทายาท ก่อนเดินทางยังพาพวกเราแปดคนพี่น้องไปด้วย คุ้มค่าแล้ว!”ชายชุดดำคนหนึ่งตีประชิดฉินอวิ๋นฟานอย่างชั่วร้าย ในสายตาของเขา ฉินอวิ๋นฟานในเวลานี้ก็คือแกะที่รอเชือด ไม่มีกำลังต่อต้านใด ๆฉินอวิ๋นฟานแววตาเย็นเฉียบ ปราศจากความครั่นคร้าม แต่กำลังคิดหาทุกทางเพื่อโต้กลับ อู่จ้านถูกล้อมเอาไว้แล้ว ไม่มีเวลาจะสนใจความเป็นความตายของเขา เขาได้แต่พึ่งตัวเอง“บ้าเอ๊ย! ไสหัวไปนะ! ไสหัวไปให้หมด!”เห็นชายชุดดำคนหนึ่งเข้าใกล้ฉินอวิ๋นฟานช้า ๆ อู่จ้านร้อนรนหมื่นส่วน แต่เขากลับถูกทั้งหกล้อมเอาไว้แน่นหนา มิอาจหลุดออกมาได้ เขาโมโหจนแผดเสียงตะคอกอย่างบ้าคลั่ง กลับมิเกิดผลอันใด“เจ้ารู้หรือไม่ว่าผลของการสังหารรัชทายาทคืออะไร?!”ฉินอวิ๋นฟานไต่ถามเสียงหนาว“หึ ผล? ทันทีที่พวกเรารับคำสั่งก็ไม่มีทางให้หันหลังกลับแล้ว! หากไม่ใช่เจ้าตายก็คือเราม้วย ไร้หนทางอื่น!”ชายชุดดำรู้ชะตาของตัวเองดี สำเร็จ
หนึ่งดาบลงไป ความเจ็บปวดปอดฉีกหัวใจแหลกลาญส่งมาถึง ทำให้ฉินอวิ๋นฟานส่งเสียงร้องโหยหวนปานหมูถูกเชือด ขณะนี้ดวงตาของเขาแดงก่ำ ใบหน้าบิดเบี้ยว ทรมานถึงขีดสุด “ฮ่า ๆ ๆ...”ชายชุดดำหัวเราะเสียงดังเหมือนสติฟั่นเฟือน ฉินอวิ๋นฟานยิ่งทรมาน เขาก็ยังอารมณ์ดี จากนั้นก็ใช้ดาบเฉือนบนตัวอีกสองหน ได้ยินฉินอวิ๋นฟานแผดเสียงร้องในแบบที่จวนจะสิ้นหวัง เขากลับคึกคะนองอย่างไม่มีอะไรจะเปรียบเทียบได้“ได้เวลาแล้ว ฆ่ามันด้วยกันเถอะ แล้วเดี๋ยวเราไปรายงานด้วยกัน!”ชายชุดดำอีกคนหนึ่งเอ่ยเตือน“อื่ม!”ชายชุดดำสนุกพอแล้วยกยิ้มตรงมุมปาก เผยรอยยิ้มชั่วร้ายหนึ่ง เขาแทงดาบในมือลงไปหมายจะจบชีวิตของฉินอวิ๋นฟาน แต่ในเวลานี้เอง จู่ ๆ ก็มีเสียงผู้หญิงดังขึ้นจากที่ไม่ไกล“นี่พวกเจ้ากำลังทำอะไรกันน่ะ? หยุดนะ!”กลุ่มชายชุดดำหยุดการเคลื่อนไหวฉับพลัน ตามด้วยหันไปมองต้นตอของเสียง เห็นเพียงผู้หญิงร่างเตี้ยเสียงเหมือนเด็กน้อยคนหนึ่งพาสาวใช้อีกคนหนึ่งวิ่งเร็วมาหาพวกเขา“เจ้าเป็นใครน่ะ? ขอเตือนเลยนะ ทางที่ดีเจ้าอย่ายุ่งให้มากนัก!”ชายชุดดำเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม“เห็นความอยุติธรรมชักดาบช่วยเหลือ เรื่องนี้ข้ายุ่งแน่แล้ว! พว
อีกฝ่ายพิจารณาครู่หนึ่ง “พวกเราแค่ผ่านทางมา ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นใคร และไม่รู้ว่าบ้านของพวกเขาอยู่ที่ไหน ตรงนี้ใกล้กับหอวั่งเจียงมาก ดึกเช่นนี้แล้ว พวกเขาก็คงเพิ่งออกมาจากที่นั่นนั่นแหละ เจ้ารีบไปแจ้งกับทางหอวั่งเจียงเถอะ”“เจ้าค่ะ!”เฉี่ยวเอ๋อร์วิ่งเร็วไปทางหอวั่งเจียงอย่างไม่ลังเลในความมืด อู๋อีฝานและลิ่งหูชงเห็นเรื่องราวทั้งหมดอู๋อีฝานเอ่ยด้วยสีหน้าเย็นชา “ถ้าไม่ใช่เพราะนางผู้นี้เข้ามาแส่กะทันหัน ตอนนี้ฉินอวิ๋นฟานก็คงกลายเป็นคนตายคนหนึ่งแล้ว ข้าว่านางฝีมือไม่เบา หรือให้ข้าออกโรงจัดการพวกนางซะ?”“เจ้าฆ่านางได้ในการโจมตีเดียวรึ?” ลิ่งหูชงหันไปถาม“ข้ายังไม่รู้ระดับฝีมือของนางที่แน่ชัด แต่ด้วยที่นางแสดงออกมาเมื่อครู่ น่าจะถึงตายในคราเดียวไม่ได้” อู๋อีฝานส่ายหน้าพูด“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็คือการลอบสังหารล้มเหลว พวกเรากลับกันเถอะ!”ลิ่งหูชงใบหน้าจนปัญญา หมุนตัวและจากไป“เอ่อ ท่านลิ่งหู ฉินอวิ๋นฟานจะตายอยู่รอมร่อ ถ้าพลาดโอกาสนี้ไป วันหน้าเกรงว่าจะหาโอกาสเหมาะ ๆ ยากแล้วนะ”อู๋อีฝานรีบตามไปติด ๆ แต่ยังไม่ตายใจ เพราะภารกิจลอบสังหารครั้งนี้สำคัญกับองค์ชายรองอย่างยิ่งยวด ตอนนี้ใกล้จะสำ
หญิงที่อยู่ด้านข้างถามขึ้นด้วยความตกตะลึง “เขา...ก็คือรัชทายาทแห่งต้าเฉียนฉินอวิ๋นฟาน?”ระยะนี้ทั้งเมืองหลวงมีใครไม่รู้จักชื่อฉินอวิ๋นฟานบ้าง? ไม่เพียงแต่เป็นรัชทายาทของต้าเฉียน ยิ่งเป็นอัจฉริยะโดดเด่นคนหนึ่ง พรสวรรค์โคลงกลอนตลอดจนท่วงทำนองอะไรก็เชี่ยวชาญไปหมด สุดยอดกลอนคู่และบทกลอนพูดกันปากต่อปาก แพร่หลายไปทุกหย่อมหญ้า นางชอบอู่เหลียงเย่ที่ฉินอวิ๋นฟานหมักที่สุด แทบจะต้องดื่มเป็นเพื่อนบิดาเฒ่าสองจอกทุกวัน กินร่วมกันปลาไหลผัดพริกและปลาไหลน้ำแดงเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ!ให้นางคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าคนที่ตัวเองช่วยระหว่างทางจะเป็นบุคคลซึ่งเป็นตำนานของต้าเฉียน?”“ถูกต้อง! ขอบคุณแม่นางที่ยื่นมือเข้าช่วยมาก หอวั่งเจียงซาบซึ้งใจยิ่งนัก”หวงต้าหยวนค้อมตัวคำนับนางและกล่าว “ไม่ทราบแม่นางมีชื่อเสียงเรียงนามว่ากระไร? บ้านอยู่ที่ไหน? เอาไว้รักษารัชทายาทแล้ว พวกเราจะไปเยือนถึงที่บ้าน”“เอ่อ ข้าชื่อจางอวี่ม่อ ท่านเรียกข้าว่าอวี่ม่อก็พอ สำหรับการเยือนถึงบ้านก็ช่างเถอะ พ่อของข้ารักสงบ ไม่ชอบถูกรบกวน”จางอวี่ม่อยิ้มหวานพลางพูด “ช่วยคนลำบากเพียงยกมือ[1]เท่านั้น พวกท่านรีบช่วยคนเถอะ พวกเราจะไปก่อนแล
“หา?! รัชทายาทถูกคนลอบสังหารรึ?!”ในตำหนักเหยียนเหนียน เฉาเจิ้งฉุนหน้าเปลี่ยนสีฉับพลัน คลานลงมาจากเตียงนอนแล้วถามด้วยใบหน้าเย็นชาทันที “พูด! มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?!”ในฐานะที่เฉาเจิ้งฉุนเป็นหัวหน้าขันทีและหัวหน้าหน่วยบูรพา ภักดีต่อราชวงศ์ต้าเฉียนตลอดชีวิต ไม่ว่าจะเป็นฝีมือหรือตำแหน่งล้วนเป็นตัวตนที่อยู่ยอดพีระมิดของต้าเฉียน ทุกความเคลื่อนไหวของราชวงศ์เกี่ยวข้องกับเขาอย่างยิ่งยวดฉินอวิ๋นฟานคือรัชทายาทผู้ว่าราชการแผ่นดินแห่งต้าเฉียน อยู่ในต้าเฉียน ฐานะเรียกได้ว่าพิเศษมาก ย่างเท้าไปอีกเพียงหนึ่งก็คือตำแหน่งสูงสุดของต้าเฉียนแล้ว และจะเป็นนายคนใหม่ที่เขาต้องรับใช้ทั้งชีวิตด้วยหากฉินอวิ๋นฟานถูกคนลอบสังหารในเมืองหลวง เช่นนั้นน่ากลัวว่าฟ้าของต้าเฉียนจะเปลี่ยนแปลงแล้ว!ครั้นตระหนักถึงความร้ายแรงของเรื่อง เฉาเจิ้งฉุนไม่กล้ารีรออีก รีบลุกจากเตียงแล้วฟังการรายงานอย่างละเอียดจากผู้ใต้บังคับบัญชาทันที!“เมื่อครู่นี้เอง รัชทายาทสนุกอยู่ที่หอวั่งเจียงจนดึก ๆ ดื่น ๆ ระหว่างทางกลับเจอกับการดักฆ่ากะทันหัน เนื่องจากฝีมือต่างกันมาก รัชทายาทกับองครักษ์อู่จ้านไม่ใช่คู่ต่อสู้จึงบาดเจ็บสาหัส หมดสติยังไ