Share

บทที่ 782

Author: ไห่ตงชิง
“เจ้ามันก็แค่สุนัขเฒ่าที่กำลังจะถูกหลี่เฉินฆ่าทิ้ง หากแคว้นเหลียวละทิ้งเจ้า เจ้าก็ต้องตายอยู่ดี แล้วเจ้ายังกล้ามาพูดเรื่องสมรู้ร่วมคิดกับข้าอีกหรือ?”

จ้าวเสวียนจีมองเย่ลู่เสินเสวียนด้วยสายตาเย็นชา รอจนเขาพูดจบจึงตอบกลับ “เช่นนั้น แคว้นเหลียวตั้งใจจะทอดทิ้งข้าจริงๆ หรือ?”

เย่ลู่เสินเสวียนหัวเราะเย้ยหยัน “จ้าวเสวียนจี เจ้าอย่ามาทำตัวอวดดีต่อหน้าข้าเลย เจ้าอาจเป็นผู้อาวุโสแห่งจักรวรรดิต้าฉิน แต่ในสายตาข้า เจ้ามันก็แค่สุนัขที่ไร้ค่าต่อแคว้นเหลียว ข้าสามารถเปิดโปงหลักฐานการสมคบคิดระหว่างเจ้ากับแคว้นเหลียวตลอดหลายปีนี้เมื่อใดก็ได้”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ เย่ลู่เสินเสวียนก้าวเข้ามาใกล้จ้าวเสวียนจี ก่อนจะตบอกของอีกฝ่ายเบาๆ ด้วยท่าทีที่หยามเกียรติอย่างยิ่ง “แต่เจ้ารู้หรือไม่ว่าทำไมข้ายังไม่ทำเช่นนั้น?”

“เพราะข้ารอให้เจ้ามาหาข้าเองอย่างไรล่ะ”

เย่ลู่เสินเสวียนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “ข้าต้องการให้จักรวรรดิต้าฉินวุ่นวาย ยิ่งวุ่นวายมากเท่าไหร่ยิ่งดี เจ้าคิดจะทำอะไรก็รีบทำเสียตอนนี้ ข้าจะช่วยเจ้า แต่มีเงื่อนไขข้อเดียว คือต้องเร็ว ต้องวุ่นวาย!”

“หากเจ้าไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ วันพรุ่งนี้สิ่งที่เจ้าก
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1

    จักรวรรดิต้าฉิน ห้องบรรทมในตำหนักบูรพาขององค์รัชทายาท“ฝ่าบาท หม่อมฉันมีไฝที่หน้าอก ท่านอยากดูไหม?”หลี่เฉินลืมตาโพลงขึ้นมา และหอบหายใจอย่างหนักราวกับปลาขาดน้ำ เขาจ้องมองเสาแกะสลักลายมังกรรอบๆ ด้วยความประหลาดใจ การตกแต่งห้องแบบโบราณและวิจิตรตระการตา บวกกับมีสาวงามที่น่าทึ่งนั่งอยู่ข้างเตียง เขาไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆวิญญาณของฉัน ทะลุมิติมาเหรอ!?“ฝ่าบาท ท่านทรงเป็นอะไรไป?”ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ เขาสวยกว่าดาราหญิงทุกคนในชาติก่อนของเขากำลังส่งเสียงเรียก ทำให้ความคิดของหลี่เฉินกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง ฉับพลันความทรงจำก็หลั่งไหลเข้ามาในจิตใจของหลี่เฉิน ทำให้เขาเปล่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดหลังหายใจเข้าอย่างหนัก หลี่เฉินก็เข้าใจขึ้นมาชาตินี้ เขาไม่ใช่มนุษย์เงินเดือนที่ถือว่าทำงานหามรุ่งหามค่ำเป็นพรอีกต่อไป แต่เป็นรัชทายาทแห่งจักรวรรดิต้าฉิน ว่าที่ฮ่องเต้ ทายาทที่ถูกต้องตามกฎหมายเพียงคนเดียวในจักรวรรดิต้าฉินอันยิ่งใหญ่!ชาตินี้ เขาไม่ใช่ผู้ชายจนๆ อีกต่อไป แต่เป็นผู้มีอำนาจและสถานะ ควบคุมอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในใต้หล้าไว้ในมือ!“ฉัน...ข้าอยากเห็น แน่นอนอยากเห็นสิ”หลี่เฉิ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 2

    เฉินจื้อกัดฟันด้วยความโกรธ ร่างกายของเขาสั่นเทิ้มไปทั่วร่าง มือที่จับบนด้ามดาบเกร็งแน่นจนเส้นเอ็นปูด เผยให้เห็นถึงความโกรธสุดขีด“ไม่กล้า? ไม่กล้าก็ไสหัวไป! ถอยไปด้านหลังให้ข้าห้าก้าว ลงไปจากขั้นบันได ถ้ากล้าเหยียบขั้นบันไดขึ้นมาหนึ่งก้าว สังหารไร้ปรานี!”หลี่เฉินมองสีหน้าอึมครึมของเฉินจื้อ ที่ค่อยๆ ถอยหลังไปอย่างช้าๆ ด้วยความอับอาย เมื่อถอยลงจากขั้นบันไดขั้นสุดท้ายจึงหยุด หลี่เฉินหัวเราะเสียงเย็น ก่อนจะหันหัวเดินเข้าไปด้านในเมื่อจ้องมองไปที่แผ่นหลังของหลี่เฉิน ความเกลียดชังที่พลุ่งพล่านอยู่ในอกของเฉินจื้อก็แทบจะทำให้เขาคลุ้มคลั่ง“หลี่เฉิน เจ้ารอข้าก่อนเถอะ เมื่อแผนการของฮองเฮากับใต้เท้าราชเลขาธิการบรรลุผล ข้าจะทำให้เจ้าตายไร้ที่ฝัง!”เมื่อกลับเข้ามาด้านใน หลี่เฉินก็เห็นฮองเฮาจ้าวชิงหลานกำลังปลอบใจจ้าวหรุ่ยที่กำลังร้องไห้อยู่อ้อมแขนของนางอย่างระมัดระวัง แม้ว่าจ้าวชิงหลานจะไม่เคยถูกแตะต้อง แต่เมื่อเห็นท่าทางของจ้าวหรุ่ยตอนนี้ และยังรอยเลือดบนแท่นบรรทมจึงพอจะทราบว่าเกิดอะไรขึ้นในฐานะผู้หญิงด้วยกัน นางย่อมเข้าใจหัวอกผู้หญิงด้วยกัน“องค์รัชทายาท ท่านบังอาจไปแล้วนะ!”เมื่อเห็นห

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 3

    เสียงร้องแผ่วเบานี้กระตุ้นความตื่นตัวของเฉินจื้อที่อยู่ข้างนอกทันที“ฮองเฮาทรงเกิดอะไรขึ้นพ่ะย่ะค่ะ?”จ้าวชิงหลานมองหลี่เฉินที่มองนางด้วยรอยยิ้มที่มั่นใจ นางแอบกัดฟันด้วยความเกลียดชัง และนำความไม่พอใจทั้งหมดไประบายใส่เฉินจื้อ“ไม่ใช่เรื่องของเจ้า ไม่ต้องถามมาก”เมื่อเฉินจื้อถูกตำหนิ เขาก็ยิ่งรู้สึกอับอายมากยิ่งขึ้นเมื่อไม่มีที่ระบายความโกรธ เขาจึงหันกลับมาด่าขันทีที่กำลังขับรถม้า “ขับรถม้าให้ดีๆ หน่อย หากทำให้ฮองเฮาตกใจอีกครั้ง ข้าจะแล่เนื้อเจ้าซะ!”ภายในเกี้ยวหงส์ ตู้นั้นสั่นเล็กน้อย ราวกับกรงสัตว์ก็ไม่ปาน ทำให้จ้าวชิงหลานนึกอยากจะหนีก็หนีไม่ได้จ้าวชิงหลานนั่งบนต้นขาของหลี่เฉิน ราวกับนั่งอยู่บนเข็มก็ไม่ปานนางคิดจะลุกขึ้น แต่ทุกครั้งที่ทำตามความตั้งใจ หลี่เฉินก็จะดึงนางกลับมา และบังคับให้นั่งลงอย่างแน่วแน่“เจ้า เจ้าไม่กลัวข้าจะสังหารเจ้ารึ!?”เมื่อมองไปที่ปากแดงฟันขาวนั่น จ้าวชิงหลานก็แอบกัดฟันแน่น หลี่เฉินพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่า “ฮองเฮายอมแพ้หรือไม่?”ในขณะที่พูดก็ฉวยโอกาสที่จ้าวชิงหลานไม่ทันสังเกต ใช้มือใหญ่ของเขาคลำไปตามระหว่างเอวและหน้าท้อง ท้องน้อยที่แบนราบ เ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 4

    หัวใจของหลี่เฉินหนักอึ้ง เขารู้ว่า ฮ่องเต้กำลังทดสอบตัวเองผลงานของเจ้าของร่างเดิมนั้นไม่ค่อยดีนัก จนถึงขั้นที่ว่าแม้แต่วินาทีสุดท้ายของฮ่องเต้ พระองค์ก็ยังไม่กล้าที่จะมอบภาระของประเทศไว้บนบ่าของเขาตอนนี้อาจกล่าวได้ว่า การกระทำของเขานั้นจะเป็นตัวกำหนดชะตากรรมของเขาในท้ายที่สุด“ความยากในการบริหารแผ่นดิน เกิดจากปัญหาภายในและภายนอก”หลี่เฉินผสมผสานความทรงจำจากเจ้าของร่างเดิม เข้ากับความรู้ทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการขึ้นและลงของราชวงศ์ที่เขาอ่านก่อนทะลุมิติมา จากนั้นก็กล่าวว่า “ปัญหาจากภายนอก มาจากพวกคนเถื่อน เฉวี่ยนหรง หนู่เจิน ซยงหนู นอกจากนี้ยังมีพิษร้ายที่เหลือรอดจากอดีตราชวงศ์หยวน ซึ่งต้องการทำลายต้าฉินของพวกเรา”“ปัญหาจากภายใน มาจากการแบ่งแยกของอ๋องศักดินา ซึ่งก็คือพระบรมวงศานุวงศ์ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นท่านอ๋องหรือโหว พวกเขามีอำนาจเก็บภาษีในดินแดนศักดินา และมีอำนาจทางการทหาร มันเป็นเพียงสถานที่นอกกฎหมาย เป็นเขตปกครองตนเอง นับว่าเป็นปัญหาที่ร้ายแรงจริงๆ ”“ยังมีเจ้าหน้าที่ทุจริตออกอาละวาดในท้องถิ่น พวกขุนนางใหญ่จัดตั้งกลุ่มเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว พวกเขาต่อสู้เพื่ออำนาจและ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 5

    หลี่เฉินยิ้มอย่างมีความสุขไม่มีใครในใต้หล้านี้ไม่กลัวอำนาจและวิธีการสังหารของหน่วยบูรพา มีเพียงราชวงศ์เท่านั้นที่จะไม่กลัว เพราะอำนาจของพวกเขามาจากฮ่องเต้ และพวกเขา ก็ยังเป็นสุนัขรับใช้ที่ภักดีที่สุดในเงื้อมมือของฮ่องเต้อีกด้วยในฐานะกวางกงของหน่วยบูรพาที่เหล่าขุนนางบุ๋นบู๊ต่างต้องการสังหาร เขาคงเป็นคนแรกที่เต็มใจเข้ามาพึ่งพาตัวเองกองกำลังนี้จะช่วยเขาได้มากอย่างแน่นอน“ดีมาก”หลี่เฉินโยนดาบในมือไปตรงหน้าขันทีซานเป่าแล้วพูดว่า “เสด็จพ่อเคยมอบดาบให้กับเจ้า แต่ตอนนี้ดาบเล่มนั้นขึ้นสนิมไปแล้ว ดังนั้นตอนนี้ ข้าจะให้ดาบเล่มนี้แก่เจ้า เจ้าต้องการมันไหม?”ขันทีซานเป่าคุกเข่าอย่างนอบน้อม แล้วหยิบดาบบนพื้นขึ้นมา จับมันไว้แน่นแล้วกล่าวว่า “เมื่อฝ่าบาทมอบราชโองการให้แก่บ่าว ทรงเคยตรัสว่า ต่อไปนี้ บ่าวจะเป็นดาบในมือของพระองค์”เมื่อมองดูประตูวังสุทธาสวรรค์ที่ปิดอยู่ ดูเหมือนว่าฮ่องเต้บนแท่นนอนที่ยืนหยัดหายใจอยู่ จะได้เตรียมการเอาไว้แล้ว“ในบรรดาองค์ชายทั้งหลาย องค์ชายเก้าเป็นบุตรคนสุดท้อง เมื่อหลายปีก่อน ฮองเฮาทรงขอเสด็จพ่อรับเลี้ยงดูองค์ชายเก้า และเชิญหัวหน้าสภาขุนนางมาสั่งสอนเป็นการส่วน

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 6

    “อย่าอะไร?”จ้าวหรุ่ยในอ้อมแขนดูเหมือนกระต่ายที่หวาดกลัว ดวงตาที่สดใสเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและความสับสนจ้าวหรุ่ยไม่รู้ว่า ยิ่งนางกลัวและอยากจะหนีมากเท่าไร เสน่ห์ที่เป็นธรรมชาติซึ่งแฝงอยู่ในกระดูกของนางก็ยิ่งจะโดดเด่นมากขึ้นเท่านั้น และยิ่งดึงดูดหลี่เฉินมากขึ้นหลี่เฉินจับเอวที่ไม่มีกระดูกของจ้าวหรุ่ย แล้วหัวเราะอย่างชั่วร้ายที่ข้างหูนาง “อย่าอะไร อย่าไม่ทำอะไรสักอย่าง หรือว่าอย่าหยุดกันแน่?”จ้าวหรุ่ยทั้งอับอายทั้งโมโหคำตอบทั้งสองข้อที่หลี่เฉินกล่าวออกมานั้น ไม่มีข้อไหนที่นางอยากจะพูดนางไม่เข้าใจว่าเหตุใดองค์รัชทายาทที่หลงใหลในตัวนางมาโดยตลอด ถึงได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ภายในเวลาสั้นๆ ก่อนหน้านี้ นางไม่จำเป็นต้องเคลื่อนไหวมากนัก เพียงแค่ส่งยิ้มจางๆ ก็สามารถทำให้องค์รัชทายาทเชื่อฟังคำพูดของนางได้แต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าองค์รัชทายาทจะกลายเป็นปีศาจ และเรียกร้องอย่างตะกละตะกลามอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่านางจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม“ฝ่าบาท โปรดปฏิบัติต่อหม่อมฉันอย่างทะนุถนอม” จ้าวหรุ่ยอ้อนวอนเสียงสะอื้นหลี่เฉินหยอกล้อจ้าวหรุ่ย ผิวพรรณของนางขาวเหมือนเครื่องเคลือบ นอกจากนี้ยังแดงก่ำเห

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 7

    บทสนทนาระหว่างองครักษ์เสื้อแพรและหลี่เฉินที่ด้านนอกนั้นสามารถได้ยินอย่างชัดเจน“ตายแล้ว...เฉินจื้อตายแล้ว”จ้าวหรุ่ยค่อยๆ หลับตาลง แม้ว่าเตียงจะยังอุ่นอยู่ แต่นางกลับรู้สึกเหมือนอยู่ในฤดูหนาวอันหนาวเย็นนางกับเฉินจื้อ แม้จะเป็นเพียงรักข้างเดียวของเฉินจื้อ แต่ก็ยังนับว่าเป็นคนคุ้นเคยของจ้าวหรุ่ย แต่คนเช่นนั้น ถูกทุบตีจนตายอยู่นอกตำหนักจ้าวหรุ่ยกระทั่งรู้สึกว่า เมื่อคืนนี้ หลี่เฉินจงใจฆ่าเฉินจื้อที่ลานกว้างหน้าประตูตำหนัก และทำเรื่องเช่นนั้นกับนางในห้องนางรู้สึกว่าหลี่เฉินในตอนนี้ไม่เพียงแต่ทำให้นางรู้สึกเหมือนเป็นคนแปลกหน้า แต่ยังน่ากลัวอีกด้วย“ไม่ได้การล่ะ ข้าจะต้องหาโอกาสทูลขอความช่วยเหลือจากฮองเฮา เพื่อจัดการองค์รัชทายาท...” จ้าวหรุ่ยกำผ้าห่มแน่น พลางพึมพำกับตัวเององครักษ์เสื้อแพรสองนายเพิ่งจะไป ขันทีซานเป่าก็มาเยือนเขานำรายงานลับมา และมอบให้หลี่เฉินด้วยความเคารพ“องค์รัชทายาท ของที่พระองต์ต้องการอยู่นี่แล้ว”หลี่เฉินหยิบมันขึ้นมาดู แน่นอนว่าเป็นบันทึกชีวิตประจำวันขององค์ชายเก้าตั้งแต่เมื่อคืนนี้ รวมถึงเวลาและสถานที่ที่เขาไป สิ่งที่เขาพูด ทุกอย่างมีรายละเอียดมาก จนองค์

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 8

    คำพูดของหลี่เฉิน ทำให้หลี่เสวียนหน้าซีดเขารีบตอบไปตามจิตใต้สำนึกว่า “ข้า ข้าไม่ได้กบฏ เสด็จแม่และท่านอาจารย์ตกลงจะให้ข้าดูพวกนั้น พวกเขาบอกว่าข้าควรเรียนรู้กิจการของรัฐล่วงหน้า...”ทันทีที่เขาพูดเช่นนี้ เว่ยเสียนที่กำลังคุกเข่าอยู่ข้างๆ ก็แทบกระอักเลือดออกมาองค์ชายเก้าเหตุใดจึงไร้ความคิดเช่นนี้ คำพูดเช่นนั้นกล่าวออกมาง่ายๆ ได้อย่างไร“เรียนรู้กิจการของรัฐล่วงหน้า?”หลี่เฉินจับจุดอ่อนของหลี่เสวียนได้ น้ำเสียงของเขาสูงขึ้นสองส่วน “เรียนรู้กิจการของรัฐล่วงหน้าเพื่ออะไร? หรือว่าเจ้าอยากให้เสด็จทรงสวรรคต จากนั้นก็เอาตำแหน่งของข้าไป?”ในที่สุดหลี่เสวียนก็รู้ตัวว่าเพิ่งพูดอะไรออกไปเขาหน้าซีด คุกเข่าลงเสียงดังตุบ รีบอธิบายด้วยความตื่นกลัวว่า “พี่รอง ข้า ข้าไม่ได้มีความหมายเช่นนั้น...”เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มรุนแรงขึ้น สาวใช้ส่วนตัวของหลี่เสวียนจึงถอยหลังออกไปอย่างเงียบๆ และวิ่งตรงไปที่วังฮองเฮา“จะมีความหมายเช่นนั้นหรือไม่ ข้าจะมาคิดบัญชีกับเจ้าทีหลัง”หลี่เฉินพูดจบ เขาก็หันไปสั่งขันทีซานเป่าว่า “หูหนวกเหรอ? หรือจะให้ข้าลงมือเอง?”ขันทีซานเป่าได้ยินก็รีบลุกขึ้นยืน สั่งองครักษ์

Latest chapter

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 782

    “เจ้ามันก็แค่สุนัขเฒ่าที่กำลังจะถูกหลี่เฉินฆ่าทิ้ง หากแคว้นเหลียวละทิ้งเจ้า เจ้าก็ต้องตายอยู่ดี แล้วเจ้ายังกล้ามาพูดเรื่องสมรู้ร่วมคิดกับข้าอีกหรือ?”จ้าวเสวียนจีมองเย่ลู่เสินเสวียนด้วยสายตาเย็นชา รอจนเขาพูดจบจึงตอบกลับ “เช่นนั้น แคว้นเหลียวตั้งใจจะทอดทิ้งข้าจริงๆ หรือ?”เย่ลู่เสินเสวียนหัวเราะเย้ยหยัน “จ้าวเสวียนจี เจ้าอย่ามาทำตัวอวดดีต่อหน้าข้าเลย เจ้าอาจเป็นผู้อาวุโสแห่งจักรวรรดิต้าฉิน แต่ในสายตาข้า เจ้ามันก็แค่สุนัขที่ไร้ค่าต่อแคว้นเหลียว ข้าสามารถเปิดโปงหลักฐานการสมคบคิดระหว่างเจ้ากับแคว้นเหลียวตลอดหลายปีนี้เมื่อใดก็ได้”เมื่อพูดถึงตรงนี้ เย่ลู่เสินเสวียนก้าวเข้ามาใกล้จ้าวเสวียนจี ก่อนจะตบอกของอีกฝ่ายเบาๆ ด้วยท่าทีที่หยามเกียรติอย่างยิ่ง “แต่เจ้ารู้หรือไม่ว่าทำไมข้ายังไม่ทำเช่นนั้น?”“เพราะข้ารอให้เจ้ามาหาข้าเองอย่างไรล่ะ”เย่ลู่เสินเสวียนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “ข้าต้องการให้จักรวรรดิต้าฉินวุ่นวาย ยิ่งวุ่นวายมากเท่าไหร่ยิ่งดี เจ้าคิดจะทำอะไรก็รีบทำเสียตอนนี้ ข้าจะช่วยเจ้า แต่มีเงื่อนไขข้อเดียว คือต้องเร็ว ต้องวุ่นวาย!”“หากเจ้าไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ วันพรุ่งนี้สิ่งที่เจ้าก

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 781

    ดูๆ นี่แหละเรียกว่าผู้เชี่ยวชาญคำตอบของเหอคุนทำให้หลี่เฉินพึงพอใจยิ่งนักการกระทำเรื่องใดๆ จำต้องใช้วิธีที่ถูกต้อง ดังนั้นจึงมีคำกล่าวว่าเสียแรงเปล่ากับทำได้สำเร็จในครึ่งเวลาการจะจัดการคณะทูตแคว้นเหลียว หากใช้วิธีแข็งกร้าวย่อมไม่สมเหตุสมผล นอกจากจะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมหาศาลแล้ว ยังไม่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ใดๆแต่หากใช้เล่ห์เหลี่ยมต่ำช้า เล่นแผนสกปรกเพื่อบ่อนทำลายพวกมันจากภายใน อาจจะให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วเกินคาดต้องใช้สรรพสิ่งให้คุ้มค่า และใช้คนให้เหมาะสมในสายตาของหลี่เฉิน เหอคุนเป็นวัสดุที่เกิดมาเพื่อเป็นขุนนางกังฉินโดยแท้การใช้กังฉินจัดการกังฉิน ไม่มีสิ่งใดเหมาะสมยิ่งไปกว่านี้อีกแล้ว“มอบหมายให้เจ้าไปจัดการ”หลี่เฉินพยักหน้าเล็กน้อยให้เหอคุน กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “อย่ากลัวเปลืองเงิน จะใช้คนมากแค่ไหนก็ได้ ทุกอย่างที่เจ้าต้องการ ข้าจะสนับสนุนอย่างเต็มที่ ข้าอนุญาตให้เจ้าตัดสินใจตามสถานการณ์ได้ แต่หลังเสร็จสิ้นแล้ว เจ้าต้องมารายงานผลให้ข้าทราบ อย่างไรก็ตาม ข้าขอเตือนเจ้าไว้ว่า เวลาไม่มากนัก คณะทูตแคว้นเหลียวที่ถูกกดดันในราชสำนักวันนี้ อาจจะออกจากเมืองหลวงในอีกสองถึงสามวัน หากเจ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 780

    ”ที่เรียกเจ้ามา เพราะมีเรื่องให้ทำ”หลี่เฉินที่ตั้งใจเรียกเหอคุนเข้ามาพบ ย่อมไม่ใช่เพื่อพูดเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างการรับของกำนัลจากขุนนางที่ต่ำกว่าตัวเขาอยู่แล้วเมื่อได้ยินดังนั้น เหอคุนรีบกล่าวอย่างหนักแน่น “องค์รัชทายาททรงโปรดบัญชา กระหม่อมจะทำงานให้สำเร็จลุล่วงอย่างสวยงามพ่ะย่ะค่ะ”หลี่เฉินแค่นยิ้ม “พูดออกมาเต็มปากเช่นนี้ ไม่กลัวหรือว่าข้าจะมอบภารกิจที่เป็นไปไม่ได้ให้เจ้าทำ?”เหอคุนยิ้มกว้าง ประจบด้วยท่าทีสบายๆ “หากองค์รัชทายาทมอบงานให้กระหม่อมไปทำ ย่อมเป็นงานที่กระหม่อมทำได้ หากทำไม่ได้ก็ถือว่ากระหม่อมไร้ความสามารถ สมควรตายพ่ะย่ะค่ะ”ดูๆ…ดูคำพูดพวกนี้หลี่เฉินคิดในใจว่า หากเหอคุนไปอยู่ในยุคสมัยใหม่ เขาคงเป็นคนหนึ่งที่เอาตัวรอดและรุ่งเรืองในสังคมได้อย่างง่ายดายแน่นอนการประจบผู้บังคับบัญชาอย่างแนบเนียนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย มันเป็นศาสตร์อย่างหนึ่งและในศาสตร์นี้ เหอคุนถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญอันดับต้นๆ ของยุคนี้มีฝีมือ ทำงานเป็น รู้จักประจบประแจงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมฮ่องเต้มักโปรดปรานขุนนางเจ้าเล่ห์เช่นนี้ สำหรับราษฎร เหอคุนอาจไม่ใช่ขุนนางที่ดี แต่สำหรับผู้นำ เขาคือสุนัขรับใช

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 779

    นอกพระที่นั่งสีเจิ้ง เหอคุนรีบวิ่งเข้ามาแทบจะกลิ้งเขาก้มศีรษะจนแทบติดพื้น ก่อนจะหมอบลงอย่างไม่กล้ามองหน้าหลี่เฉิน และพูดเสียงสั่นเครือว่า “กระหม่อม…กระหม่อมมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ในฐานะข้าหลวงตำหนักบูรพาคนใหม่ แม้ตำแหน่งทางการของเหอคุนจะไม่สูง แต่กลับมีอำนาจมากและอำนาจนี้เชื่อมโยงโดยตรงกับบารมีของตำหนักบูรพาและความไว้วางใจที่องค์รัชทายาทมอบให้หากองค์รัชทายาทไม่มีอำนาจ หรือแม้จะมีอำนาจแต่ไม่โปรดปรานเขา เหอคุนก็คงไม่มีใครนับถือแต่ในตอนนี้ องค์รัชทายาททรงมีอำนาจมหาศาล อีกทั้งยังมอบหมายงานสำคัญเกี่ยวกับการจัดการของขวัญและสินบนให้เหอคุนโดยเฉพาะทำให้ข้าราชการทั้งหลายในราชสำนัก หากต้องการใกล้ชิดกับตำหนักบูรพา ต้องผ่านเหอคุนเป็นด่านแรกช่วงเวลาที่ผ่านมา ชีวิตของเหอคุนจึงสุขสบายอย่างยิ่งด้วยเหตุนี้ เขาจึงรู้ดีว่าชีวิตของตนขึ้นอยู่กับองค์รัชทายาททั้งหมดวันนี้ เมื่อรู้ว่าองค์รัชทายาทอารมณ์ไม่ดี เหอคุนจึงไม่กล้าเสี่ยงทำให้เขาพิโรธหลี่เฉินมองเหอคุนที่หมอบอยู่กับพื้น ก่อนพูดเสียงเรียบ “ข้าได้ยินมาว่าช่วงนี้เจ้าฉวยโอกาสจากงานที่ข้ามอบหมาย รับผลประโยชน์ไม่น้อย แถมยังจัดแจงให้ครอบครัวของเจ้

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 778

    “ขุนนางผู้จงรักภักดี?”ถานไถจิ้งจือค่อยๆ หมุนตัวกลับมามองขุนนางที่ถามเขาด้วยรอยยิ้มพลางกล่าว “ท่านจะพิสูจน์ได้อย่างไรว่าเขาเป็นผู้จงรักภักดี?”ขุนนางคนนั้นนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดด้วยความลุกลี้ลุกลน “เขา…เขากล้ากล่าวตักเตือนอย่างตรงไปตรงมา…”“การกล้าพูดตรงไปตรงมาถือเป็นความจงรักภักดีหรือ? แล้วสิ่งที่เขาพูดต้องถูกเสมอไปหรือ?”ถานไถจิ้งจือกล่าวเสียงนุ่มนวล “ในความเห็นของข้า คงไม่เสมอไป”หลังจากนั้น เขาโบกมือเบาๆ และกล่าวด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “ข้าเป็นเพียงคนชรา ไม่มีสิทธิ์กล่าวแทนราษฎร และไม่กล้าพูดแทนหัวใจของทุกคน แต่ในความเห็นส่วนตัวของข้า องค์ชายไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ท่านกล่าวหากัน เรื่องราวบนโลกนี้ไม่ได้มีแค่สีดำหรือขาวเท่านั้น”“เมื่อครู่ พวกท่านเรียกร้องให้องค์ชายคิดทบทวน วันนี้ข้าก็ขอมอบคำว่าพิจารณาให้รอบคอบคืนให้แก่พวกท่านเช่นกัน”เมื่อกล่าวจบ ถานไถจิ้งจือก็เดินจากไปอย่างช้าๆใบหน้าของจ้าวเสวียนจี…ดำคล้ำลงทันทีในแง่ของอิทธิพลต่อกลุ่มขุนนางฝ่ายบุ๋น ซูเจิ้นถิงย่อมไม่อาจเทียบเท่าถานไถจิ้งจือได้เพียงแค่ชื่อถานไถจิ้งจือก็เพียงพอที่จะกดดันทุกคนในที่นั้นได้ตั้งแต่ถานไถจิ้งจือเ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 777

    ซูเจิ้นถิงแสดงท่าทีเคร่งขรึม จ้องมองเหล่าขุนนางที่แสดงสีหน้าตกตะลึงจากคำพูดที่ดุดันของเขา ก่อนจะเอ่ยเสียงดัง “พวกท่านกล่าวหาว่าองค์ชายสังหารขุนนางโดยพลการ ข้าอยากถามว่า จนถึงวันนี้ ขุนนางคนไหนที่องค์ชายสังหารไป ไม่สมควรถูกสังหารบ้าง!?”“พวกเขามีใครบ้างที่ไม่เต็มไปด้วยความผิดต่างๆ ทั้งทุจริต รับสินบน และใช้อำนาจในทางมิชอบ!?”“คนเหล่านั้นล้วนสมควรถูกกำจัด หากไม่ฆ่าพวกเขา ความสกปรกโสมมในราชสำนักต้าฉินจะไม่ถูกชำระล้าง และเมฆหมอกที่ปกคลุมเหนือแผ่นดินต้าฉินจะไม่มีวันจางหายไป!”“ทุกคนที่องค์ชายสังหาร หลังจากตรวจสอบแล้วพบหลักฐานมัดตัวมากมายที่พิสูจน์ว่าพวกเขากระทำผิด แม้ว่าพวกเขาจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ ก็ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ ที่จะพ้นผิดได้!”เสียงของซูเจิ้นถิงยิ่งพูดยิ่งดังขึ้น เขากล่าวต่อด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “หากจะกล่าวหาองค์ชายว่าโหดเหี้ยม เช่นนั้นข้ามีเรื่องหนึ่งจะเล่าให้ฟัง”“เมื่อไม่นานมานี้ บุตรหลานตระกูลขุนนางกลุ่มหนึ่งล่วงเกินองค์ชาย บิดาของพวกเขาหลายคนก็ยืนอยู่ที่นี่ด้วย หากองค์ชายเป็นคนโหดเหี้ยมจริง คนเหล่านั้นคงไม่ได้กลับบ้านแน่!”“แต่องค์ชายทำอย่างไร? เขาไม่เพียงแต่ไม่ลงโทษพวกเขา

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 776

    สองทหารที่ลากตัวขุนนางกลางคนออกไป ถึงกับสะดุ้งด้วยความกลัว และไม่กล้าลังเลอีกต่อไป คนหนึ่งใช้มือปิดปากขุนนาง อีกคนจับเสื้อของเขา ทั้งสองจับตัวขุนนางไว้ตรงกลางและลากออกไปทันทีเมื่อเห็นภาพนั้น เหล่าขุนนางในพระที่นั่งไท่เหอต่างพากันฮือฮาด้วยความตกตะลึงขณะที่จ้าวเสวียนจีกลับไม่ได้แสดงความโกรธเคือง ตรงกันข้าม เขายิ้มออกมาอย่างพึงพอใจในสายตาของจ้าวเสวียนจี เขารู้ดีว่า หลี่เฉินไม่มีทางก้มหัวให้ใครเขาเคยลองทดสอบหลี่เฉินมาหลายครั้ง และหลี่เฉินก็ยังคงไม่ยอมอ่อนข้อให้ทุกครั้งนี่คือกับดักที่จ้าวเสวียนจีวางไว้เพื่อบีบให้หลี่เฉินหันหน้าเข้าปะทะกับเหล่าขุนนางขุนนางคนหนึ่งที่ไร้ความสำคัญ ฆ่าไปก็ไม่เสียหายแต่สิ่งที่ตามมาคือ ความไม่พอใจของเหล่าขุนนางนับร้อยขุนนางที่เคยเป็นกลาง เมื่อเห็นว่าองค์รัชทายาทสามารถฆ่าคนได้โดยไม่ลังเล ย่อมรู้สึกไม่ปลอดภัยและไม่กล้าเข้าใกล้ตำหนักบูรพาอีกเมื่อขุนนางวัยกลางคนถูกลากตัวออกไป หลี่เฉินเดินขึ้นไปยังบัลลังก์ และหันกลับมาหลังจากไปถึงข้างๆ บัลลังก์มังกรเขายกแขนวางบนที่พักแขนบัลลังก์มังกร นี่เป็นครั้งแรกที่เขาสัมผัสเก้าอี้ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจสูงสุ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 775

    ขุนนางวัยกลางคนที่พยายามจุดกระแสความไม่พอใจในพระที่นั่งไท่เหอ ย่อมไม่ยอมแพ้ง่ายๆเขากัดฟันกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "สิ่งที่ข้าพูดออกไปนั้น คือความจริงจากใจ! องค์ชายอาจไม่ชอบฟัง แต่สิ่งที่ข้ากล่าวนั้นคือความจริง""เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเกลียดอะไรพวกเจ้าที่สุด!?"หลี่เฉินที่โกรธจนถึงขีดสุด หัวเราะเยาะก่อนตะโกนลั่นด้วยความเดือดดาล "สิ่งที่ข้าเกลียดที่สุด ก็คือพวกเจ้าทำตัวเหมือนเป็นผู้มีศีลธรรมสูงส่ง แสดงออกว่าใส่ใจแผ่นดินและราษฎร แต่ในความเป็นจริง พวกเจ้าล้วนคิดแต่เรื่องผลประโยชน์ของตัวเอง!""เมื่อมีผลประโยชน์ พวกเจ้าก็พุ่งเข้าใส่เหมือนสุนัขบ้า แต่ถ้าไม่มีผลประโยชน์ ก็ทำราวกับสิ่งนั้นเป็นงูพิษที่ต้องหลีกหนี""เมื่อใดก็ตามที่ผลประโยชน์ส่วนรวมขัดแย้งกับผลประโยชน์ส่วนตัวของพวกเจ้า พวกเจ้าก็จะลุกขึ้นมาพูดถึงคุณธรรม จริยธรรม แสดงตัวว่าเป็นขุนนางผู้ซื่อสัตย์ที่อ้อนวอนเพื่อราษฎร ชี้นิ้วด่าว่าคนอื่นผิดพลาด แม้กระทั่งชี้หน้าด่าข้าว่าโง่เขลา พวกเจ้าคิดว่าการด่าว่าคนอื่น จะทำให้พวกเจ้าเป็นวีรบุรุษที่ถูกจารึกในประวัติศาสตร์หรืออย่างไร!?""แต่ข้าไม่มีวันยอมรับพวกเจ้าเด็ดขาด!"พูดจบ หลี่เฉินหันไป

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 774

    ขุนนางวัยกลางคนคนนั้นไม่คิดว่าหลี่เฉินจะลงโทษเขารุนแรงเช่นนี้ เขาจึงดิ้นรนพลางตะโกนเสียงดัง "องค์รัชทายาท! ท่านไม่ใส่ใจสถานการณ์ของชาติ ทำทุกอย่างตามอำเภอใจ นี่คือการทำลายรากฐานของแผ่นดิน!""เกียรติยศของแคว้นและความผาสุกของลูกหลานในอนาคต ไม่สามารถได้มาด้วยเลือดร้อนเพียงอย่างเดียวได้ กองทัพหกแสนของแคว้นเหลียวจ้องมองเราอย่างดุดัน ทั้งภายในและภายนอกแคว้นก็มีแต่ปัญหา ท่านยังจะดึงดันใช้นโยบายแข็งกร้าวเช่นนี้ต่อไป และไม่ยอมฟังคำเตือนจากพวกเรา ในที่สุด แผ่นดินนี้จะต้องล่มสลายด้วยน้ำมือของท่านเอง!""ข้าซึ่งเป็นข้าราชการที่กินเงินเดือนของราชสำนัก ย่อมต้องทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองจนกว่าชีวิตจะหาไม่ แม้จะต้องสละชีวิตนี้ ข้าก็ไม่อาจทนเห็นท่านทำลายรากฐานที่บรรพบุรุษได้สร้างไว้!"ขณะที่เขากล่าวนั้น ทหารสองนายก็เดินเข้ามาใกล้เพื่อจะจับกุมตัวเขาแต่ด้วยพละกำลังที่เกิดจากสัญชาตญาณในยามวิกฤติ เขาผลักทหารทั้งสองออกไปได้อย่างไม่น่าเชื่อเขารู้ดีว่าในสถานการณ์เช่นนี้ การขอความเมตตาย่อมไร้ประโยชน์ แต่หากเขาสามารถปลุกเร้าความโกรธของขุนนางคนอื่นๆ ได้ อาจจะมีความหวังรอดชีวิตอยู่บ้างขุนนางผู้นี้กัดฟันแน่นก

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status