Share

บทที่ 22

Author: ไห่ตงชิง
การที่จ้าวเสวียนจีบีบให้สละอำนาจนั้น เรียบง่ายและตรงไปตรงมา เห็นได้ชัดว่ามีทางเลือกเดียวเท่านั้นที่จะให้หลี่เฉินเลือกเดิน

นั่นคือการยอมทำตาม

หากหลี่เฉินปฏิเสธในเวลานี้ เช่นนั้นจะมีจุดจบเพียงอย่างเดียว

องครักษ์อวี่หลินสามหมื่นนายเข้าสู่เมืองหลวง กักบริเวณตำหนักบูรพา

ไม่ว่ารัชสมัยใด เกมการเมืองที่ลึกล้ำที่สุดในราชสำนัก ก็คือการต่อสู้แย่งชิงอำนาจทางทหาร

ถึงอย่างไรเสีย น้ำคำก็ฆ่าคนไม่ได้ แต่อาวุธของทหาร กลับทำได้

หลี่เฉินรู้ดี การที่เขายึดกุมอำนาจราชสำนักมากว่าสิบปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสองปีหลังที่ฮ่องเต้ค่อยๆ ป่วยหนัก จ้าวเสวียนจีมีโอกาสมากมายที่จะควบคุมกองกำลังทหารที่มีกำลังแข็งแกร่งที่สุดในนครบาลโดยสิ้นเชิง ซึ่งนั่นคือหน่วยองครักษ์อวี่หลิน

บรรยากาศในพระที่นั่งสีเจิ้งนั้น กดดันจนแทบทำให้คนอึดอัดตาย

ทั้งห้องโถงเงียบสงบ ไม่มีใครพูดอะไร

บรรยากาศอึมครึม ดูเหมือนสงบ แต่เหมือนกระแสน้ำใต้ทะเล ถ้าไม่ระวัง จะก่อให้เกิดพายุใหญ่ พักถล่มจนกระดูกแหลกเป็นชิ้นๆ

และนับตั้งแต่หลี่เฉินทะลุมิติมา นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ได้เผชิญหน้าโดยตรงกับจ้าวเสวียนจีผู้เป็นบอสใหญ่ที่สุดในราชสำนัก

เขาตระหนักถึง
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 23

    ขันทีซานเป่าเลือดเดือดพลุ่งพล่านด้วยความตื่นเต้น เมื่อได้ยินดังนั้นก็หยิบสมุดบัญชีเล่มหนึ่งออกมาอย่างนอบน้อม อ่านเสียงดังกังวาน “ขุนนางต้องโทษเฉินไหวจื้อ ยึดทรัพย์สินในจวนเป็นทองคำและเงินสดรวมสองล้านสามแสนตำลึง โฉนดที่นาหกร้อยหกสิบไร่ โฉนดร้านค้าแปดแห่ง โฉนดที่ดินสิบหกแห่ง”“ขุนนางต้องโทษเฉินจื้อ ยึดทรัพย์สินในเรือนรวมทั้งหมดสี่แสนแปดหมื่นตำลึง ในจำนวนนั้นยังพบหลักฐานเครื่องลายคราม ภาพเขียนอักษร และเครื่องหยกจำนวนนับไม่ถ้วนจากในวัง ตรวจสอบแล้วพบว่าทั้งหมดได้มาโดยการอาศัยตำแหน่งยักยอกของออกมาจากวังหลัง นอกจากนี้ยังมีโฉนดที่นาหนึ่งร้อยเก้าสิบห้าไร่ โฉนดร้านค้าสามแห่ง และโฉนดที่ดินสิบเก้าแห่ง”“ขุนนางต้องโทษเว่ยเสียน ยึดทรัพย์สินได้จากที่พำนักในวังเก้าแสนตำลึง ในจำนวนนั้นยังมีเครื่องลายคราม ภาพเขียนอักษร เครื่องหยกจากในวังอีกมาก ล้วนได้จากการยักยอก นอกจากนี้ยังมีโฉนดที่นาสามร้อยยี่สิบไร่ โฉนดที่ดินแปดแห่ง““ขุนนางต้องโทษเฉียนฮั่น ยึดทรัพย์สินได้ทั้งหมดหนึ่งล้านแปดแสนหกสิบตำลึง โฉนดที่นาหนึ่งพันสามร้อยห้าสิบไร่ โฉนดร้านค้าสองร้อยยี่สิบแห่ง โฉนดที่ดินสี่สิบห้าแห่ง”“ยังมีตระกูลหูและเฉิ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 24

    จ้าวเสวียนจีสูดหายใจเข้าลึกๆ พูดเสียงขรึม “หากใต้เท้าซุนรับสินบนมากเพียงนั้นจริง ก็สมควรต้องโทษประหารอย่างแน่นอน”“แต่ ถึงแม้คนเหล่านั้นสมควรตาย แต่จักรวรรดิมีกฎหมาย ราชสำนักมีกฎเกณฑ์ ให้ทั้งสามกรมพิจารณาคดีร่วมกัน หลังจากพิพากษาก็จะลงโทษตามกฎหมาย แต่องค์รัชทายาทข้ามขั้นตอนกฎหมายโดยตรง การกระทำเช่นนี้ไม่เป็นที่ยอมรับของผู้คน”หลี่เฉินยิ้มเยาะกล่าวว่า “ไม่เป็นที่ยอมรับของผู้คน หรือไม่เป็นที่ยอมรับของเจ้า?”จ้าวเสวียนจีเผชิญสายตากับหลี่เฉินอย่างไม่ยอมแพ้ พูดว่า “รัชทายาท เรื่องนี้มาถึงขั้นนี้แล้ว ทั้งหมดล้วนเป็นการดิ้นรนที่ไร้ความหมาย”“องครักษ์อวี่หลินสามหมื่นนาย ไม่มีทางยอมให้องค์รัชทายาทกระทำผิดอย่างเหิมเกริมเช่นนี้!”“เพื่อบรรพบุรุษและบ้านเมือง ขอองค์รัชทายาทไตร่ตรองด้วย”บีบให้สละตำแหน่งนี่กำลังบีบให้สละตำแหน่งอย่างซึ่งหน้าแล้วทั้งสองฝ่ายแตกหักกันโดยสิ้นเชิง จ้าวเสวียนจีรู้ด้วยว่าการกระทำนี้ของตัวเองจะต้องชนะ ไม่เช่นนั้นเขาจะสูญเสียบารมีอย่างมาก การผงาดขึ้นมาของรัชทายาทจะไม่สามารถหยุดยั้งได้เพื่อให้มั่นใจว่าตัวเองจะชนะ จ้าวเสวียนจีได้วางแผนอย่างอำมหิตโดยไม่เลือกวิธีการ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 25

    หลี่เฉินไม่สามารถซ่อนความสุขบนใบหน้าได้คนอื่นคิดว่าเขาดีใจที่ฮ่องเต้ทรงฟื้น แต่หลี่เฉินรู้ตัวเองว่า เขาบังเอิญโชคดีมาก โชคดีที่บิดาจำเป็นฟื้นขึ้นมาได้อย่างเหมาะเจาะ ป้องกันไม่ให้ตัวเองต้องล้มโต๊ะในเกมนี้ เขาเป็นรัชทายาท มีข้อได้เปรียบที่ใหญ่ที่สุดมาแต่กำเนิด ขอเพียงให้เวลาเขาอีกหน่อย ก็สามารถโค่นล้มตาเฒ่าจ้าวเสวียนจีได้ ฉะนั้นเขาย่อมไม่ยอมทำให้ตัวเองสูญเสียข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดไปแน่นอน“ไปตำหนักเฉียนชิง!”หลี่เฉินตะโกน และเดินตรงไปยังประตูตำหนักบูรพา “ราชเลขา นี่?”หวังเถิงฮ่วนและคนอื่นๆ ไม่คาดคิดว่าฮ่องเต้จะทรงฟื้นได้เหมาะเจาะเพียงนี้ ต่างมองไปยังผู้ที่เป็นแกนสำคัญ แต่การมองนี้ กลับทำให้พวกเขาประหลาดใจเห็นแค่ว่าจ้าวเสวียนจีถอนหายใจด้วยความโล่งอก ใบหน้าเต็มไปด้วยความดีใจ พูดเสียงขรึม “อย่าเพิ่งพูดอะไร ไปดูที่ตำหนักเฉียนชิงก่อน”ครู่ต่อมาในตำหนักเฉียนชิง หลี่เฉินวิ่งพรวดไปยังพระแท่นมังกร มองต้าสิงฮ่องเต้ซึ่งอยู่บนพระแท่นมังกรที่ซูบผอมกว่าหลายวันก่อน เขาที่ซาบซึ้งใจอย่างหาที่สุดมิได้ กระซิบเบาๆ “เสด็จพ่อ ลูกมาแล้ว”ต้าสิงฮ่องเต้เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ทรงฝืนยิ้มบางๆ“ข

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 26

    พวกเขาทุกคนมองจ้าวเสวียนจีและคนอื่นๆ ด้วยสายตาระมัดระวัง ใครกล้าปริปาก เช่นนั้นพวกเขาก็จะดำเนินตามคำสั่งของรัชทายาททันทีหลี่เฉินสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วหันกลับไปคุกเข่าตรงหน้าเตียงมังกรพลางจับพระหัตถ์ของต้าสิงฮ่องเต้แน่นต้าสิงฮ่องเต้ถูกซุนปั๋วหลี่ทำให้ไม่สบายพระทัย จึงมีท่าทีคล้ายจะเป็นลมอีก ทว่าเขายังคงฝืนอดทนเอาไว้ในฐานะต้าสิงฮ่องเต้ ปกครองใต้หล้ามานับสิบปี ถึงแม้ต้าสิงฮ่องเต้จะบรรทมอยู่ตรงนั้นเป็นเวลาสิบวัน แต่ตราบใดที่เขายังมีลมหายใจอยู่ ก็จะไม่มีใครกล้าทำอะไรหุนหันพลันแล่น นี่คืออำนาจ ขอแค่เขาได้รับเบาะแสเล็กๆ น้อยๆ ก็จะสามารถหาเบาะแสสำคัญอื่นๆ ได้จากส่วนเล็กๆ นี่คือความปราดเปรื่อง“ว่ามา”ต้าสิงฮ่องเต้พยายามมีสติเข้าไว้ เขาตรัสและออกแรงจับมือหลี่เฉินแน่นหลี่เฉินรีบเอ่ย “สิบวันมานี้ ลูกสังหารขุนนางฉ้อราษฎร์บังหลวงไปหลายคน ยึดเงินตำลึงมาได้มากกว่าสองล้านตำลึง ความกดดันของพระคลังได้รับการบรรเทาอย่างมาก ขั้นต่อไปก็สามารถช่วยบรรเทาสาธารณภัยได้แล้ว เงินสองล้านตำลึงนี้เพียงพอที่จะบรรเทาภัยพิบัติของสามมณฑลที่ร้ายแรงที่สุด เช่นนี้ก็สามารถค่อยๆ เฝ้าสังเกตการณ์ และลดระดับการเสียหายจา

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 27

    ต้าสิงฮ่องเต้จ้องจ้าวเสวียนจี เขาหายใจแรงๆ ไปหลายหนถึงจะส่งสัญญาณสั่งให้จ้าวเสวียนจี และคนอื่นๆ ออกไปหลังจากที่จ้าวเสวียนจีออกไปแล้ว ต้าสิงฮ่องเต้พลันหันไปมองหลี่เฉิน แล้วตรัสอย่างยากลำบากว่า “เจ้า ต้องเร่งมือ”หลังตรัสจบ ต้าสิงฮ่องเต้ก็ทรงพระกาสะพระปับผาสะของเขาเกิดเสียงเฮือกๆ อันน่าตกใจออกมาราวกับลมรั่ว หลี่เฉินจึงรีบเรียกหมอหลวงเข้ามาหลังจากที่หมอหลวงฝังเข็ม และรักษาด้วยโอสถให้กับต้าสิงฮ่องเต้แล้ว ถึงจะประสานมือพูดกับหลี่เฉินว่า “องค์รัชทายาท ฝ่าบาททรงบรรทมสลบไปอีกแล้วพ่ะย่ะค่ะ”หลี่เฉินมองฮ่องเต้ที่บรรทมอยู่บนเตียงมังกรด้วยสีพระพักตร์ซีดราวกับกระดาษจนน่าตกใจ แล้วนึกถึงประโยคสุดท้ายที่เขาตรัสกับตนพลันเอ่ยถามอย่างรู้สึกไม่ดีว่า “เสด็จพ่อยังเหลือเวลาอีกนานแค่ไหน?”หมอหลวงเผยสีหน้าไม่สู้ดีออกมาพลางตอบว่า “องค์รัชทายาท กระหม่อมขอพูดบางอย่างที่เสียมารยาทมาก อาการของฝ่าบาทเช่นนี้ หากเปลี่ยนเป็นผู้อื่นคงฝืนทนต่อไปไม่ได้แล้ว บัดนี้ ฝ่าบาทยังคงรักษาลมหายใจสุดท้ายเอาไว้ เมื่อใดที่พระองค์ทรงปล่อยลมหายใจนี้ออกไป เมื่อนั้นก็คงเป็นวันที่พระองค์กลับสู่สวรรค์แล้ว…อย่างมากพระองค์คงอยู่ได้ไม

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 28

    “ไม่ต้องมากพิธีหรอก”หลี่เฉินเอ่ยนิ่งๆ “เจ้ามาพบข้าด้วยตัวเองเช่นนี้ แสดงว่าเตรียมของเรียบร้อยแล้วนั้นรึ?”หลิวซือฉุนไม่ลังเล หยิบจดหมายที่เต็มไปด้วยอักษรออกมาแผ่นหนึ่ง แล้วยื่นให้กับหลี่เฉิน พลางตอบว่า “ในนี้มีรายละเอียดแผนการที่หม่อมฉันวางไว้ และมรดกทั้งหมดของตระกูลหลิวในตอนนี้ รวมไปถึงเส้นทางที่ตระกูลหลิวจะเดินในอนาคต ทุกอย่างล้วนเขียนไว้ในนั้นแล้ว”หลี่เฉินรับจดหมายมูลค่าสูงมาอ่านอย่างละเอียดยามไม่ได้อ่าน ก็ไม่รู้ แต่พออ่าน ก็ทำเอาหลี่เฉินตกใจสะดุ้งโหย่งทรัพย์สินมรดกของตระกูลหลิวกลับมีมากกว่าตระกูลหู และตระกูลเฉินเป็นหลายเท่าทรัพย์สินทั้งหมดที่ยึดมาได้ของทั้งสองตระกูลรวมกันมีเพียงสิบสามล้านตำลึงเท่านั้น แต่ตระกูลหลิวเพียงตระกูลเดียวก็มีถึงเก้าล้านตำลึงแล้วซ้ำยังเป็นเงินสดทั้งหมด ส่วนที่นา ที่ดิน และร้านค้าอื่นๆ ที่เป็นของตระกูลหลิวก็มีมากกว่าตระกูลเฉิน และตระกูลหูด้วยพิจารณาจากความร่ำรวยมั่งคั่งแล้ว ถือเป็นอันดับหนึ่งในสามตระกูลหลังจากอ่านรายละเอียดจบแล้ว หลี่เฉินพลันเงยหน้ากล่าวกับหลิวซือฉุนว่า “คืนร้านค้า และที่ดินทั้งหมดของตระกูลหลิวให้กับราชสำนัก แต่แบ่งคืนเงินสด

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 29

    คำพูดของหลี่เฉิน ทำให้นัยน์ตาของหลิวซือฉุนเผยความรู้สึกลนลานออกมาถึงจะเป็นสตรีแกร่งที่มีจิตใจแน่วแน่มั่นคง แต่อย่างไรก็เป็นเพียงสตรีอายุยี่สิบต้นๆ ที่ยังบริสุทธิ์ผุดผ่องคนหนึ่งเท่านั้น เมื่อเผชิญกับคำพูดที่เต็มไปด้วยความหมายแฝงของหลี่เฉินแล้ว ทำให้นางรู้สึกกังวลใจโดยสัญชาตญาณหลิวซือฉุนพยายามเอ่ยอย่างแน่วนิ่ง “องค์รัชทายาท หม่อมฉันเป็นเพียงสตรีธรรมดาๆ คนหนึ่ง ไม่คู่ควรต่อความเอ็นดูขององค์รัชทายาทเพคะ”มือของหลี่เฉินที่จับคางของหลิวซือฉุนอยู่สัมผัสลงมายังต้นคอของนาง แล้วลงไปถึงหัวไหล่ยาวไปจนถึงบริเวณเอวของนาง จากนั้นหลี่เฉินพลันออกแรงดึงที่แขน ทำให้หลิวซือฉุนถูกดึงเข้ามาในอ้อมอกของเขาทันที“เจ้าทำการค้าเก่งมาก แต่เจ้ารู้หรือไม่ว่าการลงทุนที่สำคัญที่สุดของสตรีคืออะไร?”ไม่รอให้หลิวซือฉุนตอบ หลี่เฉินพลันชิงพูดขึ้นว่า “นั่นคือการหาบุรุษที่แข็งแกร่งมากพอคนหนึ่ง”ดวงตาของหลิวซือฉุนแสดงออกถึงความดื้อรั้น นางกล่าวว่า “สตรีไม่จำเป็นต้องพึ่งบุรุษ ก็สามารถมีชีวิตที่ดีได้เพคะ”“ก็จริง”หลี่เฉินเอ่ยนิ่งๆ “เทียบกับสตรีธรรมดาทั่วไปแล้ว เจ้าสามารถมีชีวิตที่ดีได้จริงๆ แต่ทว่าข้าขอถามเจ้า หากคร

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 30

    หลิวซือฉุนเงยหน้าขึ้น มองเห็นดวงตาเป็นประกายของหลี่เฉิน หัวใจก็สั่นสะท้านจากการได้สัมผัสในช่วงเวลาสั้นๆ หลิวซือฉุนรู้สึกได้ว่าองค์รัชทายาทตรงหน้าไม่เพียงแต่ฉลาดและลึกซึ้งเท่านั้น แต่ยังไม่ยอมอ่อนข้อ นิสัยยังบ้าอำนาจและแข็งกร้านเป็นอย่างมากแน่นอนหากตนปฏิเสธ ทั้งตนและตระกูลหลิวจะมีจุดจบอย่างไรหลิวซือฉุนไม่กล้าคิดแต่หากยอมตกลง หลิวซือฉุนก็ไม่สามารถตัดสินใจได้จริงๆในยุคสมัยนี้ ความบริสุทธ์ของผู้หญิงมีความสำคัญมากกว่าชีวิตของนาง แม้ว่าจะเป็นผู้หญิงแกร่งและความคิดก็ก้าวหน้ากว่าผู้หญิงทั่วไปมากอย่างหลิวซือฉุน ก็ยังไม่เคยคิดเลยว่าร่างกายของนางสามารถใช้เป็นข้อต่อรองได้“องค์รัชทายาท หากหม่อมฉันยินยอมพระองค์แล้วจะแตกต่างจากพวกผู้หญิงทั่วไปที่พอพระองค์เรียกก็มาสั่งไปก็ไปอย่างไร? พวกหญิงแบบนั้น องค์รัชทยาทมีมากเท่าที่ต้องการ ยังขาดหม่อมฉันคนหนึ่งอีกหรือเพคะ?”หลิวซือฉุนรวบรวมความกล้าพูดว่า “สิ่งที่ร่างกายของหม่อมฉันถวายให้พระองค์ได้ ผู้หญิงคนอื่นๆ ก็สามารถทำได้ แต่ผลประโยชน์ที่หม่อมฉันนำมาสู่องค์รัชทายาทได้นั้น คนธรรมดาๆ ย่อมไม่มีวันทำ"“องค์รัชทายาททางพระปรีชาสามารถ บัญชีนี้ควรคำนวณใ

Latest chapter

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1053

    “นี่มันเรื่องอะไร?”ซูจิ่นพ่ากดดันต่อทันที “หากเจ้ามีเหตุผล ก็กล่าวมาเถิด ให้คนทั้งใต้หล้าได้ยินให้ชัดว่า องค์รัชทายาทนั้น ‘โง่งม’ อย่างไร?”เมื่อเอ่ยถึงตรงนี้ เสียงของซูจิ่นพ่าพลันเย็นเยียบลง “หากเจ้าพูดออกมาไม่ได้ เช่นนั้นก็คือการใส่ร้าย ใส่ร้ายองค์รัชทายาทผู้ครองแผ่นดิน ถือเป็นอาชญากรรม ต้องประหาร!”คำว่า “ต้องประหาร” สิ้นสุดลงในวินาทีใด อำนาจและบารมีอันยิ่งใหญ่ก็ปกคลุมรอบทิศจนขุนนางผู้นั้นถึงกับทรุดตัวนั่งตูมลงกลางพื้นซึ่งชุ่มไปด้วยน้ำฝนเขาถึงกับหวาดกลัวจนหมดสติเมื่อร่างล้มลง มือทั้งสองย่อมต้องยันพื้นไว้โดยสัญชาตญาณ ทว่าเมื่อฝ่ามือเขายื่นออกไป กลับสัมผัสกับพื้นของทางเสด็จในพระราชวัง หน้าพระที่นั่งไท่เหอ มีทางเดินอยู่สามสายสายหนึ่งคือ “ทางสามัญ” สำหรับขุนนางเดินใช้สายหนึ่งคือ “ทางอ๋อง” สำหรับเจ้านาย ราชนิกูลและเชื้อพระวงศ์และอีกสายคือ “ทางจักรพรรดิ” หรือเรียกว่า “ทางเสด็จ” เป็นทางที่มีเพียงฮ่องเต้และองค์รัชทายาทเท่านั้นที่สามารถเดินผ่านได้ตามกฎหมาย แบ่งทางเดินแต่ละสายตามสถานะผู้เดินอย่างเคร่งครัด หากผู้ต่ำศักดิ์ละเมิด ย่อมถือว่าเป็นการล่วงละเมิดเบื้องสูง มีโทษฐานก

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1052

    เสียงฟ้าผ่าดังสนั่นโดยไร้สัญญาณเตือน ทำให้ทุกคนในที่นั้นแลเห็นใบหน้าของหลี่เฉินอย่างชัดเจน ภายใต้สายฝนที่เทกระหน่ำและหลี่เฉินเองก็สามารถมองเห็นสีหน้าของเหล่าขุนนางได้ถนัดตาในสีหน้าพวกเหล่าขุนนาง บ้างจริงจัง บ้างเงียบงัน บ้างหวาดหวั่น ทว่ามากที่สุด...คือความเย็นชาไร้ซึ่งอารมณ์พวกเขาราวกับแน่ใจว่า คืนนี้องค์รัชทายาทจะต้องถูกบีบให้สละตำแหน่งอย่างแน่นอนเสียงตะโกนขอให้องค์รัชทายาทสละราชบัลลังก์ดังระงม ประหนึ่งคลื่นมหึมาที่ถาโถมกดทับอยู่บนร่างของหลี่เฉินซูจิ่นพ่าหันไปมองด้านข้างของหลี่เฉิน ใบหน้าของเขาเรียบเฉยไร้อารมณ์ แต่ด้วยความใกล้ชิด นางรู้ดีว่าร่างกายของบุรุษข้างกายกำลังสั่นไหวเล็กน้อยนั่นมิใช่ความหวาดกลัว แต่เป็นความโกรธในห้วงเวลานี้ ซูจิ่นพ่ารู้สึกเลือดลมพลุ่งพล่านจุกแน่นอยู่ในลำคอ ไม่อาจกลืนกลับไปได้อีกนางจำต้องกล่าวบางสิ่งออกมา“หยาบช้า!”เสียงตำหนิของซูจิ่นพ่าดังใสชัดเจน ในค่ำคืนอันเปียกชื้นอึมครึมนั้น เสียงของนางมิได้ละมุนดังเช่นทุกครั้ง ทว่าหนักแน่นเด็ดเดี่ยวอย่างน่าครั่นคร้ามดั่งเสียงขานแรกของนกฟีนิกซ์วัยเยาว์ แม้ยังไม่เติบโตเต็มที่ แต่ก็เผยแววสง่างามของสตรีผ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1051

    สายฝนเทกระหน่ำ ในห้วงฟ้าดินนั้น นอกจากเสียงเม็ดฝนกระทบพื้นอันอึกทึกแล้ว กลับไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาอีกเลยทันใดนั้น เสียงขานราชาศัพท์กังวานลั่นไปทั่วสะพานจินสุ่ย“ฮองเฮาเสด็จ!”“องค์รัชทายาทเสด็จ!”“พระชายาองค์รัชทายาทเสด็จ!”เสียงขานรับเสด็จทั้งสามดังขึ้นติดกัน ทำให้เหล่าขุนนางหลายสิบคนเริ่มเคลื่อนไหวเล็กน้อย ทว่าจางปี้อู่ซึ่งยืนอยู่แถวหน้าสุดกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเย็นว่า “สงบปากสงบคำ”เพียงคำเดียว ทุกคนก็เงียบลงทันทีในเวลาไม่นาน ร่างสองร่างก็ปรากฏตัวเคียงข้างกันที่หน้าสะพานจินสุ่ยชุดแต่งงานสีแดงฉาน ภายใต้ม่านฝนและรัตติกาล กลับยิ่งสะดุดตาพร้อมกับการปรากฏตัวของพวกเขา คือเสียงฝีเท้าของเหล่าองครักษ์ที่เรียงรายอย่างเป็นระเบียบองครักษ์อวี่หลินเดินเข้าสู่ลานพิธีพวกเขากระจายตัวรายล้อมกำแพงแดงโดยรอบลานสะพานจินสุ่ย จนล้อมพื้นที่โดยรอบไว้ทั้งหมดเหล่าขุนนางเพียงแต่ยืนมองนิ่งๆ ไม่มีใครขัดขืน ไม่มีผู้ใดกล่าวคำหนึ่งคำราวกับรู้ดีว่า...ทหารเหล่านี้ ไร้ความหมายซานเป่าอยากจะกางร่มให้หลี่เฉินกับซูจิ่นพ่า ทว่าหลี่เฉินโบกมือ แล้วหยิบร่มไปกางเหนือศีรษะของซูจิ่นพ่า ส่วนตนกลับปล่อยให้ร่า

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1050

    “ข้าเข้าใจแล้ว…เข้าใจหมดทุกอย่างแล้ว”หลี่อิ๋นหู่ระเบิดเสียงหัวเราะลั่น“ไม่แปลกใจเลย ไม่ว่าอย่างไร ข้าทำสิ่งใด เจ้าก็ล่วงรู้หมด ที่แท้เป็นเช่นนี้! เป็นเช่นนี้เอง!”หลี่เฉินมองหลี่อิ๋นหู่ที่หัวเราะจนหอบหายใจแทบไม่ทัน สีหน้าไร้อารมณ์เขาหันหลัง เดินตรงเข้าไปในศาลบูรพกษัตริย์ซานเป่ากลับไม่ได้หันตาม แต่เดินตรงไปทางหลี่อิ๋นหู่ด้านหลังหลี่เฉิน เสียงหัวเราะของหลี่อิ๋นหู่ยังไม่จางหาย เขาหัวเราะพลางตะโกนลั่น “หลี่เฉิน เจ้าอย่าได้ลำพองใจ เจ้ารู้หรือไม่ว่าจ้าวเสวียนจีร้ายกาจเพียงใด! เจ้ารู้หรือไม่ว่าแผ่นดินนี้มีคนอีกมากมายที่ปรารถนาให้เจ้าตาย! ข้าเป็นแค่หุ่นเชิดก็จริง แต่ข้าก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้น!”“หากเจ้าฆ่าข้า คนพวกนั้นจะไม่อาจอยู่นิ่งได้ อาณาจักรที่เจ้าครอง จะไม่มีวันมั่นคงแน่นอน!”ฝีเท้าหลี่เฉินไม่หยุด ยังคงเดินไปข้างหน้า คำพูดของหลี่อิ๋นหู่ไม่มีผลใดๆ กับเขาเลยในเวลาเดียวกัน เสียงตวาดกร้าวของโจวสิงเจี่ยก็ดังขึ้น“เจ้าจะทำอะไร!”ไม่มีผู้ใดตอบต่อมาคือเสียงฟึ่บ! ของคลื่นลมที่ระเบิดออก ตามด้วยเสียงกรีดร้องอันน่าสยดสยองของโจวสิงเจี่ยถัดจากนั้น เสียงหัวเราะของหลี่อิ๋นหู่ก็เงียบห

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1049

    หลี่อิ๋นหู่รู้ดีว่าหลี่เฉินจะต้องฆ่าตนทว่าเมื่อความตายมาปรากฏอยู่ตรงหน้าอย่างแท้จริง เขากลับหวาดกลัวขึ้นมาม่านตาหดแน่น ลำคอหลี่อิ๋นหู่แห้งผากจนลิ้นแทบขยับไม่ไหว“จ้าวเสวียนจีบางทีอาจกำลังรอให้เจ้าฆ่าข้าก็เป็นได้!” หลี่อิ๋นหู่พลันเอ่ยขึ้นมา“ไม่ผิด”หลี่เฉินยืนยันคำพูดของหลี่อิ๋นหู่อีกครั้ง“ความผิดของเจ้า คือเข่นฆ่าพี่น้องร่วมสายเลือด หากข้าฆ่าเจ้า เช่นนั้นข้าก็จะมีความผิดเดียวกับเจ้าอย่างเต็มประตู”“จ้าวเสวียนจีจะใช้ข้อหานี้ ประกาศไปทั่วแคว้น ทำให้ข้าเสื่อมเสียชื่อเสียง”หลี่อิ๋นหู่ราวกับคว้าได้หนึ่งในเส้นเชือกแห่งความหวัง จึงรีบกล่าวด้วยความร้อนรนว่า “เพราะฉะนั้นเจ้าก็ยิ่งห้ามหลงกลเขา!”“ข้าไม่กลัว”หลี่เฉินยิ้มอย่างอ่อนโยน “หลุมที่เจ้าก้าวลงไปแล้วต้องตาย ข้าเดินผ่านไป กลับสามารถถมให้ราบได้”สีหน้าหลี่อิ๋นหู่ชะงักนิ่งเขารู้สึกได้ว่าเส้นเชือกแห่งความหวังนั้น ค่อยๆ เลือนหายไป“อย่าฆ่าข้า!”หลี่อิ๋นหู่พลันทรุดตัวคุกเข่าลง สองเข่าติดพื้น ค่อยๆ คลานเข้าไปหาเขาหลี่เฉินไม่ได้พูดอะไร ไม่แม้แต่จะหลบหลีกปล่อยให้อีกฝ่ายคลานเข้ามาใกล้ พอเขาเอื้อมมือจะกอดขาหลี่เฉิน หลี่เฉินจึ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1048

    การระเบิดของระเบิดเทพต้าฉินทั้งสี่ระลอก ทำให้ผู้คนล้มตายไปหลายพันคน ทำลายขวัญกำลังใจของทัพกบฏจนราบคาบ ยังผลให้หลี่อิ๋นหู่ตื่นจากความฝันอันแสนหวานควันดินปืนยังลอยฟุ้งอยู่ทั่ว เปลวเพลิงที่ระเบิดทิ้งไว้ยังคงลุกไหม้ ธงรบที่ขาดวิ่นไหวระริกในสายลมยามโพล้เพล้ เสียงเปลวไฟแตกดังเปรี๊ยะๆ กับเสียงคร่ำครวญของบาดเจ็บที่ยังไม่สิ้นลมหายใจ ดังอยู่ไม่ขาดสายหลี่เฉินออกคำสั่ง ให้ทหารที่ยังมีแรงเหลือออกไปกวาดล้างสนามรบ“ฝ่าบาท พวกกบฏที่ยังรอดชีวิตอยู่ จะทรงให้ประหารหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”ซานเป่าใช้ความเคยชินในฐานะจางกงแห่งตงฉ่าง เห็นว่าศัตรูก็ต้องฆ่าให้สิ้นซาก จึงเอ่ยถาม“หากผู้ใดพอมีหวังรอดชีวิต ก็ให้รักษาไว้”หลี่เฉินปรายตามองซานเป่า เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “พวกเขาเลือกจุดยืนทางการเมืองไม่ได้ เรื่องนั้นเป็นของผู้ใหญ่ข้างบน ทหารเหล่านี้ ก็แค่สู้เพื่อค่าจ้างหนึ่งมื้อเท่านั้น ตั้งแต่ตำแหน่งแม่ทัพร้อยคนขึ้นไป ฆ่าให้หมด”การตัดสินใจที่ใหญ่ปล่อยเล็กเช่นนี้ แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์และความใจกว้างของผู้เป็นกษัตริย์ซานเป่าค้อมกายรับคำ “ฝ่าบาททรงเปี่ยมด้วยเมตตา บ่าวขอรับพระโอวาทไว้”เมื่อซานเป่านำรับสั่งไ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1047

    มนุษย์ ย่อมหวาดกลัวต่อภัยอันไม่อาจหยั่งรู้ได้นี่คือสันดานดิบของมนุษย์ เป็นสัญชาตญาณที่เปลี่ยนแปลงมิได้ก่อนหน้านี้ เว้นแต่บุคคลส่วนน้อยอย่างหลี่เฉิน ก็แทบไม่มีผู้ใดเคยเห็นระเบิดเทพต้าฉินมาก่อนเลยเพราะฉะนั้น เมื่อมันแสดงโฉมหน้าดุร้ายในฐานะอาวุธสงครามออกมาเป็นครั้งแรกต่อหน้าฝูงชน ทุกผู้คน รวมทั้งทหารองครักษ์ที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่ร้อยนาย ต่างก็พากันตื่นตะลึงจนตาแตกเสียงระเบิดที่ดังกึกก้อง อานุภาพของมันรุนแรงจนชวนให้ผู้คนคิดว่าหรือจะเป็นเทพพิโรธที่ฟ้าดินบันดาลลงมาแม้แต่หลี่เฉินเอง ก็เพิ่งเคยเห็นผลของระเบิดเทพต้าฉินในสนามรบจริงเป็นครั้งแรกเช่นกันเขารู้สึกพึงใจอย่างยิ่งต่ออานุภาพของระเบิดเทพต้าฉิน ทว่าในใจกลับเจ็บราวกับมีเลือดซึมออกมาเหตุใดน่ะหรือ ก็เพราะทุกเสียงระเบิดนั้น ล้วนแปลเป็นเงินทั้งสิ้นตามต้นทุนในปัจจุบัน ระเบิดระเบิดเทพต้าฉินหนึ่งลูกมีค่าใช้จ่ายราวสองร้อยตำลึงเงินแท้จริงแล้ว ปืนใหญ่หนึ่งนัดเท่ากับทองคำหมื่นตำลึงยิ่งไปกว่านั้น คนที่สามารถสร้างมันได้ ในต้าฉินเวลานี้ก็มีเพียงซ่งอิงซิงคนเดียวเท่านั้น แม้เขาจะพยายามฝึกฝนผู้อื่นอยู่ แต่ของสิ่งนี้กลับต้องใช้พรสวรรค์ อ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1046

    มือปืนทั้งสามแถวพอยิงพร้อมกันเสร็จสิ้นรอบหนึ่ง ก็รีบควานเอาสิ่งของกลมดำสนิทสิ่งหนึ่งออกมาจากถุงผ้าที่คล้องอยู่ข้างกายเจ้าสิ่งนั้นดูแล้วไร้ค่าเสียยิ่งกว่าท่อนไม้ในมือของพวกเขา เป็นของที่ต่อให้ถูกโยนทิ้งไว้ข้างทางก็ไม่มีผู้ใดเหลียวแลแต่เมื่อมีตัวอย่างของท่อนไม้ที่กลับกลายเป็นปืนปรากฏอยู่ก่อนหน้าแล้ว ก็ไม่มีผู้ใดกล้าดูแคลนของสิ่งนี้“นั่นคือสิ่งใดกัน?”หลี่อิ๋นหู่ขมวดคิ้วแน่น ความรู้สึกไม่สู้ดีถาโถมเข้ามาในใจทันทีก่อนหน้านี้ที่เห็นปืนดินปืน แม้จะทำให้เขาตื่นตระหนกอยู่บ้าง แต่ยังไม่ถึงขั้นเสียขวัญก่อนอื่น ปืนดินปืนนั้นมิใช่ของแปลกใหม่เสียทีเดียว จักรวรรดิต้าฉินในอดีตก็เคยคิดค้นของเช่นนี้ขึ้นมาแล้ว เพียงแต่ทุกคนต่างรู้ว่ามันเล็งได้ไม่แม่น แถมยังต้องเสียเวลายัดดินปืนใส่เข้าไป จึงมิได้ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายหรือพัฒนาอย่างจริงจัง ผู้คนล้วนเห็นว่าอย่างไรก็ยังสู้ฝึกมือธนูที่มีกำลังแขนมากหน่อยไม่ได้และการที่หลี่เฉินนำปืนดินปืนกลับมาพัฒนาใหม่นั้นก็หาใช่ความลับไม่ ขุนนางมากมายต่างตำหนิเจ้าชายรัชทายาทว่าเอาแต่เล่นจนเสียงาน ริหลงใหลในกลไกแปลกประหลาดซึ่งถือเป็นศาสตร์นอกลู่นอกทางหลี่อิ๋นห

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1045

    “ฝ่าบาท พะย่ะค่ะ เราคงรักษาแนวไว้ไม่อยู่แล้ว” ซานเป่ามองสถานการณ์ที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ จึงกล่าวกับหลี่เฉินว่า “ไม่สู้พวกเรากลับเข้าไปในศาลบูรพกษัตริย์ แล้วค่อยหาทางใหม่ดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?” “ไม่เป็นไร”หลี่เฉินโบกมือเบาๆ เอ่ยว่า “ให้คนที่เหลือถอยกลับมาเถิด” “แต่ว่า…” หลี่เฉินเหลือบตามองซานเป่าหนึ่งแวบ ก่อนเอ่ยเสียงเรียบ “เมื่อใดกันที่เจ้ากลายเป็นผู้ตัดสินใจแทนข้า?” ซานเป่าหน้าตึงไปทันใด รีบก้มตัวยอมรับคำสั่งโดยไม่กล้าเถียงแม้แต่น้อย การรบในสนามยังคงดุเดือดโลหิต เมื่อความแตกต่างด้านจำนวนเพิ่มขึ้นตามอัตราผู้บาดเจ็บและล้มตาย เมื่อกำลังของทั้งสองฝ่ายใกล้ถึงขีดสุด สถานการณ์ก็เปลี่ยนเป็นการสังหารฝ่ายเดียว ขณะนั้นเอง คำสั่งถอยทัพก็ส่งต่อไปยังทุกหน่วย เหล่าทหารต่างรีบหดแนวรับอย่างเป็นระเบียบแม้เป็นการถอย แต่พวกเขายังคงปักหลักรักษาหน้าที่ ไม่มีผู้ใดหลบหนี ไม่แม้แต่จะแตกกระเจิง ทหารรักษาการณ์ที่เคยมีอยู่หลายพันนาย บัดนี้เหลือเพียงไม่กี่ร้อย ทั้งยังล้วนแต่มีบาดแผลติดตัว ดวงตาหลี่เฉินเปล่งประกาย เขาหันไปกล่าวกับซานเป่าข้างกายว่า “ศึกนี้ จงจดชื่อของเหล่าทหารที่เข้าร่วมไว้ทั้งห

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status