Share

บทที่ 225

Author: ไห่ตงชิง
last update Last Updated: 2024-09-11 18:58:12
ใบหน้าของจ้าวเสวียนจีพลันซีดลง

หากเปิดการสอบสวนคดีโศกนาฎกรรมด่านอวี้เหมินขึ้นมาใหม่ เรื่องนี้จะส่งผลกระทบที่ร้ายแรงต่อเขา มากกว่าการที่สำนักราชเลขาสูญเสียอำนาจในการอ่านสาส์นกราบทูลเสียอีก!

เพราะหากคดีได้รับการยืนยันจริงๆ เครือข่ายอำนาจที่เขาทำงานหนักมาหลายสิบปีเพื่อสร้างขึ้นมา ก็จะล่มสลายในพริบตา

เวลานี้ความคิดของจ้าวเสวียนจีดุจดั่งทะเลคลั่ง จิตใจของเขากำลังนึกถึงวิธีการรับมือกับเรื่องนี้

แต่ทุกวิธีที่เขาคิดออกก็จะถูกปฏิเสธในวินาทีต่อมา

สถานการณ์ปัจจุบัน ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถแก้ไขได้

จ้าวเสวียนจีกัดฟันเล็กน้อย แล้วหันไปพูดกับหลี่เฉินว่า “ฝ่าบาท เหตุใดพระองค์จึงอยากเริ่มการสืบสวนคดีโศกนาฎกรรมด่านอวี้เหมินขึ้นมาใหม่อย่างกระทันหัน?”

หลี่เฉินกล่าวว่า “คดีนี้ไม่ใช่ข้าที่ต้องการเริ่มการสืบสวน แต่เป็นใต้เท้าต้วนที่เสนอ ข้าแค่รู้สึกว่าคดีนั้นยังไม่มีความจริงปรากฏ และตอนนี้ก็สมควรแก่เวลาที่พวกเราจะนำความยุติธรรมกลับมาสู่ใต้หล้า สุดท้ายแล้วใครบริสุทธิ์ก็บริสุทธิ์ ใครมีความผิดก็มีความผิด แล้วเหตุใดท่านราชเลขาถึงรู้สึกว่ามันไม่เหมาะสมเล่า?”

จ้าวเสวียนจียิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “กระหม่อมรู้สึกว่า
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 226

    หลังจากที่หลี่เฉินเดินออกไปก่อน เหล่าขุนนางที่เหลือในพระที่นั่งไท่เหอต่างก็มองหน้ากัน ก่อนจะหันไปมองจ้าวเสวียนจีที ซูเจิ้นถิงที ไม่มีใครกล้าออกไปก่อน ซูเจิ้นถิงเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าจ้าวเสวียนจี เขายิ้มและประสานมือกล่าวว่า “โชคดีที่ฝ่าบาททรงไว้วางพระทัย ในอนาคต เมื่อเจ้าลูกหมาจะออกไปทำสงครามที่เสียนเฉา คงต้องขอความร่วมมือท่านราชเลขาด้านงานราชการแล้ว” จ้าวเสวียนจียิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “เกรงใจไปแล้ว เพื่อจักรวรรดิ เพื่อราชสำนัก นี่เป็นสิ่งที่ควรทำ” เมื่อมองไปที่ต้าเหลียงหลงเชวี่ยในมือของซูเจิ้นถิง จ้าวเสวียนจีก็กล่าวเสียงเรียบว่า “ตอนนี้ท่านแม่ทัพซูมีกระบี่จักรพรรดิแล้ว แต่กระบี่นี้คมนัก ท่านแม่ทัพโปรดออมมือ” ซูเจิ้นถิงยิ้มจนตาหยีแล้วกล่าวว่า “ฝ่าบาททรงทรงไว้วางพระทัย ข้าย่อมไม่กล้าละเลย” จ้าวเสวียนจีส่งเสียงหึอย่างเย็นชาพลางกล่าวว่า “แม่ทัพซูโปรดเดินดีๆ ข้าไม่ส่ง!” ซูเจิ้นถิงเก็บรอยยิ้มบนใบหน้า หันหน้าแล้วเดินจากไป ด้านหลังของเขา มีกลุ่มแม่ทัพเดินตามไปด้วย หลังจากพวกซูเจิ้นถิงจากไปแล้ว จ้าวเสวียนจีก็หันไปมองต้วนจิ่นเจียงและฟู่อวี้จืออย่างเย็นชา ก่อนกล่าวว่า “ข้าวางแผนจ

    Last Updated : 2024-09-11
  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 227

    คำพูดของจางปี้อู่ ทำให้สีหน้าของจ้าวเสวียนจีผ่อนคลายลงเล็กน้อย เขาเปิดปากพูดว่า “สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายที่ใช้ไม่ได้ผลเสมอไป สิ่งที่เราต้องทำตอนนี้จริงๆ ก็คือ...” เมื่อนึกถึงการทรยศของต้วนจิ่นเจียงกับฟู่อวี้จือ จิตสังหารอันเย็นเยือกก็แวบขึ้นมาในดวงตาของจ้าวเสวียนจี จากนั้นก็พูดว่า “เราต้องกำจัดคนทรยศ มิฉะนั้น ใจคนในราชสำนักอาจจะเปลี่ยนแปลงได้” จางปี้อู่เข้าใจความหมายของจ้าวเสวียนจีในทันที สีหน้าของเขาแข็งทื่อ ก่อนประสานมือกล่าวว่า “ทุกอย่าง ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของท่านราชเลขา” ในขณะเดียวกัน หลี่เฉินก็กลับมายังพระที่นั่งสีเจิ้ง เพิ่งจะนั่งลงได้ครู่เดียว จ้าวหรุ่ยก็พรวดพราดเข้ามา “หม่อมฉันขอบพระทัยฝ่าบาท!” เสียงของจ้าวหรุ่ยฟังดูสะอื้น ดวงตาแดงก่ำด้วยความตื่นเต้น ขณะคุกเข่าตรงหน้าหลี่เฉิน หลี่เฉินหัวเราะเบาๆ “เจ้าทราบข่าวไวขนาดนี้เชียวหรือ ข้าเพิ่งเลิกการประชุมเมื่อครู่ เรื่องที่บิดาของเจ้าได้รับการแต่งตั้ง เจ้าก็ทราบแล้ว?”จ้าวหรุ่ยพูดว่า “เมื่อฝ่าบาททรงตรัสว่าจะแต่งตั้ง ก็มีคนเข้ามาแสดงความยินดี นอกจากนี้ข่าวก็ยังถูกส่งไปทางบิดาด้วย หม่อมฉันใคร่ครวญอย่างถี

    Last Updated : 2024-09-11
  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 228

    “มณฑลซีซานประสบภัยพิบัติที่เลวร้ายที่สุดในรอบสองปีที่ผ่านมา ผู้คนอดอยากจนล้มตายไปมากมาย ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดอาจกล่าวได้ว่าทั้งหมู่บ้านอาจไม่มีคนรอดชีวิตแม้แต่คนเดียว ทะเบียนราษฎร์ทั่วทั้งมณฑลลดลงไปกว่าครึ่ง นี่คือประการแรก”“เจ้าหน้าที่ในมณฑลซีซานอาจกล่าวได้ว่าเน่าเฟะไปทั้งแก่นอย่างสิ้นเชิง หากเจ้าไปที่นั่น ข้าคงช่วยอะไรเจ้าไม่ได้ เพราะแม้แต่หน่วยบูรพาของสาขาที่นั่นก็ยังโดนกวาดล้าง และต้องใช้เวลาในการก่อตั้งขึ้นมาใหม่ ดังนั้นคงกล่าวได้ว่าเจ้าโดดเดี่ยวอย่างสมบูรณ์ นี่คือประการที่สอง”“มณฑลซีซานในตอนนี้ ปัญหาไม่มีแค่ประชาชนและขุนนาง แต่ยังมีการก่อกบฏที่รุนแรงที่นั่น และกองทัพกบฏก็แข็งแกร่งกว่ากองทัพทหาร ถึงแม้ว่าข้าจะสามารถจัดกำลังคนเพิ่มเติมเพื่อจัดการกับกลุ่มกบฏได้ แต่เจ้าซึ่งเป็นปลัดที่เพิ่งมาใหม่ ก็ยังต้องแบกรับแรงกดดันมหาศาลอยู่ดี แม้กระทั่งพวกเขาอาจพยายามกำจัดเจ้า ซึ่งทำให้เจ้าสามารถตายได้ทุกเมื่อ นี่คือประการที่สาม”“นอกจากข้าแล้ว เกือบทั้งราชสำนักไม่มีใครหวังว่าเจ้าจะประสบความสำเร็จ ดังนั้นแรงกดดันจากทุกฝ่ายก็จะยิ่งมากขึ้น หากมีข้อผิดพลาดใดๆ เกิดขึ้น ก็มีแนวโน้มว่าความผิดพลา

    Last Updated : 2024-09-11
  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 229

    “เจ้าเป็นขันทีที่โหดเหี้ยมมาก”หลี่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้มว่า “ข้าจะไม่ฆ่าเขา แต่จะมอบหมายงานสบายๆ ให้แก่เขาจริงๆ”“สำหรับบางคน การมีชีวิตอยู่ก็มีความหมายในตัวมันเอง”ขณะที่ซานเป่ากำลังจะพูด ด้านนอกก็มีเสียงรายงานเข้ามาว่า“องค์รัชทายาท ชายที่ชี่อโจวผิงอันถือป้ายแขวนเอวของฝ่าบาทมาขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ”หลี่เฉินตกตะลึงเล็กน้อยแล้วพูดว่า “รีบให้เขาเข้ามา”ซานเป่าถอยออกไปอีกด้านอย่างรู้ความ ในใจก็นึกใคร่ครวญถึงสิ่งที่องค์รัชทายาทเพิ่งกล่าวไปเมื่อครู่ ด้วยสีหน้าสงบนิ่งรอจนโจวผิงอันเข้ามาในพระที่นั่งสีเจิ้ง เมื่อซานเป่าเห็นโจวผิงอันแวบแรกก็พลันชะงักงันในฐานะกวางกงของหน่วยบูรพา ด้วยข้อมูลในมือของซานเป่าเขาย่อมรู้ตัวตนของโจวผิงอัน แต่เขานึกไม่ออกว่าเหตุใด โจวผิงอัน ไท่พูของเสียนเฉาถึงได้มาปรากฏตัวในพระที่นั่งสีเจิ้ง?“กระหม่อมโจวผิงอัน ขอเข้าเฝ้าฝ่าบาท”ครั้งนี้ที่พบกัน โจวผิงอันได้เปลี่ยนคำแทนตัวของตัวเองที่ใช้กับหลี่เฉินหลี่เฉินกล่าวเสียงราบเรียบ “ไม่ต้องพิธีรีตอง”เมื่อมองไปที่โจวผิงอัน หลี่เฉินก็กล่าวว่า “พร้อมแล้วหรือไม่?”โจวผิงอันกล่าวอย่างสงบว่า “ฝ่าบาททรงทำงานเ

    Last Updated : 2024-09-11
  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 230

    “เป็นเจ้า!?”ตอนที่หลี่เฉินเห็นโหวอวี้ซู โหวอวี้ซูก็เห็นหลี่เฉินเช่นกันหลังจากประหลาดใจไปชั่วขณะหนึ่ง โหวอวี้ซูก็หัวเราะเบาๆ เขาประสานมือกล่าวกับหลี่เฉินว่า “คุณชาย พวกเราพบกันอีกแล้วนะ”“ฝ่าบาท คนผู้นี้ได้กราบคารวะเป็นศิษย์ของท่านจิ้งจือเมื่อไม่นานมานี้ ในฐานะศิษย์ปิดสำนัก ท่านจิ้งจือก็ให้ความดูแลเป็นอย่างดี”“ส่วนท่านจิ้งจือก็มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับต้วนจิ่นเจียง ดูเหมือนว่าเขาจะได้รับการแนะนำจากท่านจิ้งจือ และไปมาหาสู่กับต้วนจิ่นเจียงอยู่พักหนึ่ง”สำหรับซานเป่าแล้ว เป็นเรื่องยากมากที่ในเมืองหลวงแห่งนี้จะมีคนปกปิดเรื่องราวจากเขาได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลสำคัญเลยอาจกล่าวได้ว่า บุคคลสำคัญและเรื่องราวทุกสิ่งที่พวกเขาเกี่ยวข้องด้วย ล้วนอยู่ในหัวของซานเป่าทั้งหมดระดับของโหวอวี้ซูผู้นี้ไม่ได้สูงมาก แต่ที่เขาถูกซานเป่าจำได้ ก็เพราะว่าต้วนจิ่นเจียงนอกจากนี้ท่านจิ้งจือก็มีชื่อเสียงอย่างมากในหมู่ปราชญ์ขงจื๊อในใต้หล้า ดังนั้นจึงเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่หน่วยบูรพาคอยจับตามองเนื่องจากโหวอวี้ซูผู้นี้มีความสัมพันธ์กับสองท่านนั้นในเวลาเดียวกัน จึงเป็นเรื่องธ

    Last Updated : 2024-09-11
  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 231

    โหวอวี้ซูได้ยินดังนั้นก็รู้สึกกังวลขึ้นมา“แม่นางชุ่ยจู ข้านำมาด้วย ก็อยากจะนำไปมอบให้คุณหนูของเจ้าด้วย...”ชุ่ยจูเอียงคอแล้วพูดอย่างสงสัยว่า “ท่านก็สามารถให้ข้าได้เหมือนกันนี่”ความหมายนั้นเรียบง่ายมาก สามารถมอบสิ่งของให้ได้ แต่ไม่สามารถเห็นตัวคนได้โหวอวี้ซูแทบจะกระอักเลือดออกมา“สิ่งนี้ล้ำค่ามาก...”ชุ่ยจูได้ยินดังนั้น ก็ส่งเสียงหึอย่างไม่พอใจและบอกว่า “มีของล้ำค่าอันใดบ้างที่คุณหนูของข้าไม่เคยเห็น ถ้าเจ้าบอกว่าของนั้นล้ำค่ามาก จนไม่กล้ามอบให้ข้า เช่นนั้นก็ช่างเถอะ เจ้าก็นำกลับไปด้วยซะ”พูดจบ ชุ่ยจูก็กำลังจะปิดประตูแต่จังหวะที่หันหัวมา ก็เห็นหลี่เฉินเข้าพอดีทันใดนั้นชุ่ยจูก็ตัวแข็งทื่อขึ้นมาเมื่อครู่นางไม่เห็นหลี่เฉินจริงๆ ดังนั้นจึงไม่ได้ทักทายหรือแสดงความเคารพ นี่เป็นอาชญากรรมครั้งใหญ่สาวใช้คนนั้นจ้องหลี่เฉินตาค้าง ทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ หลี่เฉินจึงกล่าวยิ้มๆ ว่า “ข้าอยากพบคุณหนูของเจ้า”ชุ่ยจูรู้สึกตื่นเต้น นางรีบเปิดประตูให้กว้างขึ้นและวิ่งออกมาจากถนนเส้นเล็กๆ เพื่อมาโค้งคำนับให้หลี่เฉิน แต่หลี่เฉินกลับยกมือขึ้นแล้วพูดว่า “ไม่ต้องสุภาพ แค่พาข้าเข้าไ

    Last Updated : 2024-09-11
  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 232

    คำพูดของหลี่เฉิน ทำให้ซูจิ่นพ่าหน้าแดงเล็กน้อย นางกล่าวอย่างโมโหว่า “ฝ่าบาททรงหยิ่งผยองเกินไปแล้ว!”หลี่เฉินหัวเราะเสียงดัง “อย่างไรก็ตาม มันเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยอยู่แล้ว โหวอวี้ซูผู้นั้นเป็นแค่คนตัวเล็กๆ ที่ไม่สลักสำคัญอันใด ในเมื่อเจ้าไม่สนเขา ไม่รับของขวัญจากเขา เช่นนั้นทำไมต้องไปสร้างปัญหาเล็กๆ น้อยๆ โดยไม่มีเหตุผลด้วยล่ะ? ในคลังส่วนตัวของข้ามีฉินที่ชื่อลี่ว์ฉี่อยู่ตัวหนึ่ง ข้าจะมอบมันให้เจ้าแทนคำขอโทษดีไหม?”ซูจิ่นพ่าตาเป็นประกายมันเป็นท่าทางของคนตระหนี่เห็นเพชรพลอย หรือคนรักชาเห็นหลงจิ่งที่ดีที่สุดเห็นได้ชัดว่าแรงดึงดูดของลี่ว์ฉี่เหนือกว่า หลายเท่าเพียงแต่ท่าทางนี้ได้หายไปในชั่วพริบตา“ไม่เอาหรอก ข้าจะไม่รับสิ่งตอบแทนโดยที่ยังไม่ได้ทำอะไร”เมื่อเห็นน้ำเสียงที่เด็ดเดี่ยวของซูจิ่นพ่า หลี่เฉินก็พยักหน้า “ตกลง หากเจ้าไม่ต้องการก็ช่างเถอะ”“ซานเป่า”ซานเป่าที่ยืนอยู่ไกลๆ เมื่อได้ยินเสียงเรียก เขาก็รีบวิ่งเข้ามา“บ่าวอยู่”“ลี่ว์ฉี่นั่นจิ่นพ่าไม่ต้องการ แต่สิ่งที่ข้ามอบออกไปแล้วย่อมไม่มีเหตุผลต้องนำกลับคืน ดังนั้นส่งคนไปเผามันซะ” หลี่เฉินพูดเสียงเรียบ

    Last Updated : 2024-09-11
  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 233

    ซูจิ่นพ่าเบิกตากว้างนางไม่ใช่คนเดียวที่ตะลึงกับฉากนี้แม้แต่ชุ่ยจูที่รับใช้อยู่ข้างๆ ก็ยังยืนอึ้งเหมือนคนโง่นางเคยเห็นคุณหนูของนางถูกหยอกล้อเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน“มองหาความตายหรืออย่างไร?”เสียงที่น่ากลัวดังมาจากด้านข้างของชุ่ยจูนางเห็นซานเป่ากำลังยืนหันหลังให้กับองค์รัชทายาทและซูจิ่นพ่า เขาก้มหน้าลงกระซิบพูดกับชุ่ยจูชุ่ยจูรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยในจวนแม่ทัพใหญ่ นอกจากนายท่านผู้เฒ่าที่น่าเกรงขามเสียจนทำให้ผู้คนตกใจ แม้แต่นายน้อยก็ไม่ดุตัวเองแต่ขันทีเฒ่ามืดมนผู้นี้กลับมาดุนาง...เมื่อหันหลังให้สองท่านนั้น ชุ่ยจูก็พูดอย่างไม่มีความสุขว่า “เจ้าเป็นใคร? กล้าดีอย่างไรมาสั่งสอนข้า!”ซานเป่าแสยะยิ้มอย่างเหี้ยมโหด “กวางกงแห่งหน่วยบูรพา”ห้าคำนี้ ทำให้ชุ่ยจูตกใจจนหน้าถอดสีถึงแม้ว่านางจะเติบโตมาในจวนแม่ทัพใหญ่ และไม่สนใจโลกภายนอกมากแค่ไหน แต่ชุ่ยจูก็รู้ว่าหน่วยบูรพาเป็นสถานที่ที่น่ากลัวเพียงใด ส่วนกวางกง...แค่ตะโกนบนถนนก็ทำให้เด็กหยุดร้องไห้ได้แล้ว“เจ้า!!!”โดยไม่รู้เลยว่าสาวใช้คนสนิทของตัวเองนั้นใกล้จะร้องไห้เต็มที ซูจิ่นพ่าในตอนนี้รู้สึกอายจนโมโหแทบตาย นางชักมือกลับมาร

    Last Updated : 2024-09-11

Latest chapter

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 726

    คำพูดของจ้าวไท่ไหลทำให้จ้าวชิงหลานถึงกับนิ่งอึ้งนางมองดูจ้าวไท่ไหลที่กำลังหมดหนทาง เบื้องหน้านางคือน้องชายที่ไร้ความหวัง จ้าวชิงหลานกัดฟันแน่นก่อนจะกล่าวว่า “เจ้าจะโทษใครได้? หากไม่ใช่เพราะเจ้าไม่เอาถ่าน ใช้ชีวิตก่อปัญหาไปวันๆ”“ถ้าเจ้าทำให้เขาเห็นความหวังบ้าง เขาจะทำเช่นนี้หรือ?”“มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย!”จ้าวไท่ไหลที่เต็มไปด้วยความกลัวและความกดดันมาทั้งวัน ทนฟังคำตำหนิของจ้าวชิงหลานไม่ไหว ความโกรธของเขาพุ่งพล่านเขาเอ่ยด้วยความโกรธ “ต่อให้ข้าไร้ค่าเพียงใด ข้าก็ยังเป็นลูกชายแท้ๆ ของเขา! ข้าเป็นสายเลือดตระกูลจ้าว เป็นคนสืบทอดวงศ์ตระกูลของเขา แล้วนี่เขาตอบแทนข้าด้วยการทำเช่นนี้หรือ?”“ที่ผ่านมา ต่อให้เขาตีข้าหรือด่าข้า ข้าก็ยังเคารพและชื่นชมเขาอยู่ในใจ แต่ตอนนี้เล่า? เขาคิดจะส่งข้าไปให้เหวินอ๋องระบายความโกรธ นี่เขาเสียสติไปแล้ว ท่านพี่มองไม่ออกหรือ?”“ตั้งแต่ตำหนักบูรพาเรืองอำนาจ องค์รัชทายาทแย่งอำนาจไปจากมือเขาแทบทั้งหมด เขาก็กลัวมาตลอด กลัวว่าตัวเองจะหมดสิ้นทุกสิ่ง เขาเคยเสวยสุขกับอำนาจมาทั้งชีวิต แต่ตอนนี้กลับคลุ้มคลั่งเพื่อปกป้องมัน!”“เขาส่งพี่ไปให้ฮ่องเต้ก่อน แต่แล้วฮ่อง

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 725

    แม้หลี่เฉินจะไม่ได้รับสั่งใดๆ หรืออธิบายเพิ่มเติม แต่เฉินทงก็รู้ดีว่างานที่องค์รัชทายาททรงมอบหมายให้เขาดูแลด้วยตนเองนั้น จะต้องเป็นเรื่องลับแน่นอนยิ่งไปกว่านั้น เรื่องนี้ยังเกี่ยวข้องกับฮองเฮาและจ้าวไท่ไหลเพื่อความปลอดภัย เฉินทงจึงไม่ได้พาจ้าวไท่ไหลเข้าประตูใหญ่ แต่ใช้เส้นทางลับที่พวกขันที นางกำนัล และผู้ดูแลวังใช้เข้าออก โดยอ้อมเข้าประตูด้านข้างของพระราชวังหลวงระหว่างทาง เฉินทงไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว เพียงนำทางจ้าวไท่ไหลที่เต็มไปด้วยความกังวลเดินไปอย่างเงียบๆส่วนจ้าวไท่ไหลนั้น ใจยังคงสับสนวุ่นวาย ไม่อาจทำใจยอมรับเรื่องที่บิดาของเขาต้องการฆ่าเขาได้เต็มที่ เขาจึงไม่ได้กล่าวอะไรเช่นกันทั้งสองเดินกันอย่างเงียบงันเป็นเวลาครึ่งชั่วยาม จนกระทั่งมาถึงหน้าตำหนักเฟิ่งสี่ทหารรักษาการณ์ นางกำนัล และขันทีในตำหนักเฟิ่งสี่ล้วนถูกเปลี่ยนให้เป็นคนของตำหนักบูรพา เฉินทงจึงสามารถพาจ้าวไท่ไหลเข้าไปได้โดยไม่มีอุปสรรคเมื่อเข้ามาในตำหนักเฟิ่งสี่แล้ว จ้าวชิงหลานที่ไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนเห็นจ้าวไท่ไหลในชุดปลอมตัวก็ถึงกับประหลาดใจ“ท่านพี่!”เมื่อเห็นจ้าวชิงหลาน จ้าวไท่ไหลก็อดกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 724

    เมื่อซูผิงเป่ยได้ยินคำพูดนี้ เขาอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบกลับด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วนว่า “กระหม่อม…น้อมรับพระบัญชา”“นี่ไม่ใช่คำสั่งทหาร”หลี่เฉินเงยหน้ามองเขาแวบหนึ่งแล้วกล่าวว่า “การตกหลุมรักเป็นเรื่องของเจ้าเอง งานสมรสนี้ข้าจัดหาให้ แต่ความรู้สึกเป็นของเจ้า หากเจ้ารู้สึกว่าเข้ากันไม่ได้ ข้าก็จะไม่บังคับให้เจ้าต้องสมรส”แม้ว่าหลี่เฉินจะได้ประโยชน์จากการสมรส แต่เขายังคงมีจิตวิญญาณอย่างคนสมัยใหม่ จึงให้ความสำคัญกับความรู้สึกส่วนตัวในเรื่องการสมรสเขาคิดในใจว่าหากซูจิ่นพ่าเป็นคนที่หน้าตาน่าเกลียดมาก ต่อให้ผลประโยชน์ทางการเมืองจะมากเพียงใด เขาก็อาจจะยอมสมรสเพื่อผูกมิตรกับซูเจิ้นถิง แต่ซูจิ่นพ่าคงได้เป็นเพียงเครื่องหมายประดับในตำหนักหลังเท่านั้น คงไม่มีทางได้ขึ้นเป็นชายาองค์รัชทายาทเพราะการสมรสคือเรื่องสำคัญตลอดชีวิต เมื่อสมรสแล้ว หากไม่มีเหตุผลอันใหญ่หลวง จะต้องอยู่ร่วมกับคนๆ นั้นไปตลอด หลี่เฉินจึงเปิดโอกาสไว้เล็กน้อยสำหรับซูผิงเป่ยและหลี่เพ่ยเพ่ยถ้าหากไม่ชอบจริงๆ การบังคับสมรสก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีแต่ดูเหมือนว่าซูผิงเป่ยจะเข้าใจความหมายของหลี่เฉินผิดไป เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงหนักแน

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 723

    เมื่อได้ยินคำถามของหลี่เฉิน หลี่เพ่ยเพ่ยที่พอจะเตรียมใจไว้แล้วก็ยังตัวสั่นเล็กน้อย ก่อนจะก้มหน้าตอบเบาๆ ว่า “ยังไม่มีเพคะ”การสมรสขององค์ชายและองค์หญิงส่วนใหญ่ มักไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวเอง โดยเฉพาะองค์หญิงที่ใช้ชีวิตในวังลึกมาตลอด มีโอกาสได้พบปะชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันน้อยมาก จึงแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะมีใครในดวงใจยิ่งไปกว่านั้น ในยุคสมัยนี้ หญิงที่มีอิสระในความคิดเหมือนกับซูจิ่นพ่า เรียกได้ว่าเป็นส่วนน้อยมาก คำตอบของหลี่เพ่ยเพ่ยจึงเป็นสิ่งที่หลี่เฉินคาดไว้อยู่แล้วหลี่เฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “เจ้าก็ถึงวัยแล้ว หากไม่รีบออกเรือน เกรงว่าจะกลายเป็นสาวแก่ นั่นไม่เหมาะสมทั้งในด้านความรู้สึกและเหตุผล เสด็จพี่รองจึงคิดจะหาเจ้าบ่าวให้เจ้า คนที่ข้าหมายตาไว้คือซูผิงเป่ย บุตรชายคนโตของแม่ทัพใหญ่ซู เขาเพิ่งกลับจากชัยชนะในสนามรบ เจ้าน่าจะเคยได้ยินเรื่องราววีรกรรมของเขามาบ้าง?”หลี่เพ่ยเพ่ยตอบเบาๆ ว่า “เพ่ยเพ่ยเคยได้ยินถึงวีรกรรมอันกล้าหาญของแม่ทัพซูอยู่บ้างเพคะ”หลี่เฉินยิ้ม “เช่นนั้นก็ดี แม่ทัพใหญ่ซูมีบุตรเพียงสองคน คือซูผิงเป่ยและซูจิ่นพ่า ซึ่งอีกไม่นานซูจิ่นพ่าก็จะเข้ามาเป็นชายาองค์รัชทาย

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 722

    เมื่อเห็นสวีหยวนต๋าและคนอื่นๆ แสดงท่าทีตอบรับ หลี่เฉินลุกขึ้นกล่าวว่า “เอาเถอะ เรื่องนี้จัดการตามนี้แล้วกัน”จากนั้นเขาก็เอามือไพล่หลังเดินออกจากหลันเยว่เซวียน ก่อนจะเหลือบมองเหล่าหนุ่มน้อยที่ยังคุกเข่าอยู่หน้าประตู ในยามกลางวันเช่นนี้ การให้พวกเขาคุกเข่าอยู่นั้นก็เท่ากับเป็นการลงโทษให้ผู้คนเห็น คนเหล่านั้นต่างก้มหน้าก้มตาไม่กล้าสบสายตาใคร ทั้งยังมีกลิ่นเหล้าคละคลุ้ง“คุกเข่าให้ครบสองชั่วยามแล้วค่อยลุก จากนั้นส่งตัวตรงไปยังค่ายทหาร”หลี่เฉินกล่าวทิ้งท้าย ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเขาเชื่อว่าสวีหยวนต๋าและพวกจะไม่กล้าทำท่าทีตีสองหน้าเพราะหน่วยบูรพาเฝ้าจับตาอยู่ใกล้ๆใครกล้าเล่นตุกติก ไม่ใช่แค่ลูกชายจะถูกส่งไป แม้แต่พ่อก็อาจจะต้องตามไปด้วยเมื่อหลี่เฉินจากไป สวีหยวนต๋าและบรรดาบิดาจึงเดินมายังหน้าลูกชายของตน ก่อนจะฟาดฝ่ามือใส่พวกเขาด้วยความโกรธสวีหยวนต๋าไม่ฟาดลูกชายตัวเอง เพราะใบหน้าของลูกชายเขาก็เหมือนหัวหมูอยู่แล้วเขาชี้ไปที่ลูกชายตนพร้อมกล่าวด้วยความเจ็บใจว่า “เจ้ามันไร้ความสามารถโดยแท้ วันนี้ถือว่าโชคดีนัก ไม่เช่นนั้น ตระกูลเราคงต้องถูกเจ้าทำให้พินาศหมดสิ้นแน่!”ลูกชายเขาถามด

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 721

    หลังจากส่งตัวจ้าวไท่ไหลไปแล้ว หลี่เฉินจึงเรียกสวีหยวนต๋าและคนอื่นๆ ที่ยืนตัวสั่นอยู่ด้านนอกให้เข้ามาซึ่งนำโดยซ่างกวนเจา เบื้องหลังเขามีขุนนางระดับสูงหลายคน ทั้งหมดล้วนเป็นผู้มีอำนาจแท้จริง และล้วนมาจากกลุ่มสำนักราชเลขาจุดนี้ หลี่เฉินยังพอใจอยู่บ้างอย่างน้อยขุนนางฝั่งตำหนักบูรพาเหล่านี้ล้วนถูกคัดเลือกโดยหลี่เฉินเอง โดยคำนึงถึงภูมิหลังตระกูลเป็นสำคัญ และต้องมีการอบรมลูกหลานที่เหมาะสม ไม่เช่นนั้น หากวันนี้พบว่าลูกหลานขุนนางตำหนักบูรพาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ คงจะเป็นเรื่องน่าอับอายยิ่งนัก"กระหม่อมทั้งหลาย ถวายบังคมองค์รัชทายาท ขอพระองค์ทรงพระเจริญพันปี พันปี พันๆ ปี"สวีหยวนต๋าและคนอื่นๆ ก้มศีรษะต่ำ ขณะเดินเข้ามาในห้อง ก่อนจะคุกเข่าถวายบังคมโดยไม่พูดสิ่งใดหลี่เฉินนั่งเอนหลังบนเก้าอี้ ขาข้างหนึ่งพาดขึ้นอย่างสบายอารมณ์ ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา "การที่พวกเจ้าชอบมาป้วนเปี้ยนทำเรื่องวุ่นวายต่อหน้าข้า อย่าว่าแต่ไม่มีทางเป็นไปได้เลย ต่อให้พวกเจ้าอยู่จนถึงพันปี ก็มีแต่จะทำให้ชาวบ้านสาปแช่งไปอีกหลายปีเท่านั้น"คำพูดเปิดหัวของหลี่เฉินแสดงให้เห็นชัดเจนว่าคงไม่มีทางจบเรื่องนี้ง่ายๆในสถาน

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 720

    เมื่อจ้าวไท่ไหลนึกถึงความใจกว้างที่ผิดปกติของบิดาในวันนี้ อีกทั้งการที่บิดาออกคำสั่งให้เขาหาผู้หญิงมาปรนนิบัติ และกำชับว่าให้หาวิธีทำให้ผู้หญิงคนนั้นตั้งครรภ์ภายในหนึ่งเดือน...ในตอนนั้น จ้าวไท่ไหลไม่ได้คิดลึกซึ้ง เขาเพียงคิดว่าบิดาที่มีอายุมากอยากมีหลานเพื่อสัมผัสความสุขในบั้นปลายชีวิต แต่ตอนนี้ เมื่อมองย้อนกลับไป นั่นชัดเจนว่าเป็นการเตรียมการเพื่อรักษาสายเลือดของตระกูลจ้าวเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ จ้าวไท่ไหลก็รู้สึกเหมือนตกลงไปในหลุมเย็นเยือกไม่มีใครอยากตาย โดยเฉพาะเมื่อต้องตายด้วยน้ำมือของบิดาตนเอง"อยากรอดชีวิตหรือไม่?"คำถามของหลี่เฉินดังก้องในจิตใจของจ้าวไท่ไหล ราวกับเสียงเย้ายวนจากปีศาจในห้วงลึกจ้าวไท่ไหลสะดุ้ง เขามองหลี่เฉินด้วยความระแวงและไม่ไว้ใจ พร้อมพูดว่า "พระองค์จะใจดีขนาดนั้นเชียวหรือ? หรือพระองค์อยากใช้กระหม่อมเพื่อต่อต้านท่านพ่อ?""คนที่ให้กำเนิดและเลี้ยงดูเจ้าคือพ่อของเจ้า แต่ตอนนี้เขาต้องการฆ่าเจ้า เจ้าจะยังยอมรับเขาอยู่หรือ?"หลี่เฉินพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย "ไม่ต้องกังวล ข้ามีวิธีจัดการกับจ้าวเสวียนจี โดยไม่ต้องพึ่งเจ้า อีกอย่าง เจ้าจะช่วยอะไรข้าได้? เจ้าทำอะไ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 719

    เศษถ้วยชาแตกกระจายพร้อมน้ำที่หกทั่วพื้น จ้าวไท่ไหลกลิ้งไปมาบนพื้นพร้อมกับร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดภาพที่เห็นทำให้คนในตระกูลหลิวต่างสูดหายใจลึกด้วยความตกใจหลิวซือฉุน ซึ่งเป็นแกนหลักของตระกูล ได้แต่เก็บสีหน้าเคร่งขรึม ไม่กล้าเอ่ยปากส่วนหลิวซือต๋าที่ใบหน้าบวมช้ำ มองไปที่หลิวซือฉุน จากนั้นมองไปที่หลี่เฉิน เขารู้สึกมั่นใจขึ้นมาในทันทีมั่นใจเต็มร้อยองค์รัชทายาททรงแสดงออกชัดเจนว่ามีความสนใจในตัวน้องสาวของเขาเมื่อคิดเช่นนี้ หลิวซือต๋าถึงกับมีท่าทางเบิกบานธุรกิจ คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้มไม่เพียงแต่เขา ลุงสามแห่งตระกูลหลิว ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ ก็มีสายตาที่เปล่งประกายด้วยความหวังเช่นกันคนที่เข้าใจสถานการณ์ ย่อมเข้าใจดีในขณะเดียวกัน จ้าวไท่ไหลที่ยังเจ็บปวดทรมานอยู่บนพื้นร้องออกมาด้วยเสียงสั่นเครือ “กระหม่อมไม่รู้อะไรเลย! ท่านพ่อของบอกว่าจะส่งกระหม่อมไปจินหลิงในเดือนหน้า กระหม่อมเพียงแค่อยากหาอะไรไปทำเงินที่นั่นเพื่อใช้จ่าย หากรู้ว่านี่คือธุรกิจขององค์ชาย กระหม่อมไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวเด็ดขาด!”คำพูดของจ้าวไท่ไหลเป็นความจริงจากใจแต่ในขณะนั้นเอง หลี่เฉินจับประเด็นเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ในคำพูดข

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 718

    เมื่อถูกหลี่เฉินจับยกขึ้นไว้ ชายหนุ่มคนนั้นถึงกับชาดิกทั้งตัวเขามองหลี่เฉินด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ ขาทั้งสองอ่อนแรงจนเกือบทรุดลง หากไม่ใช่เพราะหลี่เฉินจับคอเสื้อไว้ เขาคงคุกเข่าลงกับพื้นไปแล้ว“ขะ...ข้า...”เขาอ้ำอึ้งอยู่พักใหญ่ พูดอะไรไม่ออก สุดท้ายได้แต่หันไปมองจ้าวไท่ไหลด้วยสีหน้าอ้อนวอนและพูดเสียงเบาว่า “พี่จ้าว ช่วยข้าด้วย”จ้าวไท่ไหลขนลุกวาบเขาเป็นคนเดียวที่รู้ตัวตนที่แท้จริงของหลี่เฉินดี และการจะช่วยชายหนุ่มคนนี้คงไม่มีทางเป็นไปได้ ตอนนี้จ้าวไท่ไหลอยากจะชกเจ้าคนโง่ที่ดึงเขามาเดือดร้อนนี้ให้ตายไปเสีย“อย่าหวังให้เขาช่วยเจ้าเลย ตอนนี้ตัวเขาเองยังเอาตัวไม่รอด”หลี่เฉินปล่อยคอเสื้อชายหนุ่มลง ก่อนนั่งลงบนเก้าอี้รับแขก ไขว่ห้างอย่างสบายอารมณ์ แล้วกล่าวเรียบ ๆ ว่า “พวกเจ้าทั้งหมด ไปคุกเข่าเรียงกันที่หน้าประตูร้าน คอยจับตาดูกันเอง ใครลุกขึ้นหรือขยับตัวผิดปกติ ให้คนที่รายงานกลับได้ ส่วนคนที่ถูกรายงาน ให้ลากออกไปทุบให้ตายซะ”คำพูดของหลี่เฉินทำให้ใบหน้าของชายหนุ่มในกลุ่มเขียวคล้ำการที่ต้องไปคุกเข่าหน้าร้านหลันเยว่เซวียนให้คนทั้งถนนเห็น คงเป็นเรื่องที่เสียหน้าอย่างร้ายแรงสองคนใน

DMCA.com Protection Status