Share

บทที่ 202

Penulis: ไห่ตงชิง
ตอนนี้อำนาจขององค์รัชทายาทเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว เขาไม่ใช่คนที่ไร้อำนาจที่ทำอะไรไม่ถูกเมื่อต้องเผชิญหน้ากับสำนักราชเลขาอีกต่อไป

พระราชโองการขององค์จักรพรรดิที่แต่งตั้งให้เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ทำให้อำนาจในมือขององค์รัชทายาทยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อยๆ

หลายคนที่ปรากฏตัวที่นี่คืนนี้ มีไม่น้อยที่อยากจะเข้าร่วมกับองค์รัชทายาทล่วงหน้า เพื่อรับผลประโยชน์หลังจากมังกรทะยานฟ้า

ดังนั้นจึงมีคนจำนวนมากที่พยายามอย่างหนักเพื่อคาดเดาความคิดขององค์รัชทายาท และปรับตัวให้เหมาะสมกับความชอบของเขา

ถ้าเดาถูก ก็จะได้รับความชื่นชมจากองค์รัชทายาท แต่ถ้าหากเดาผิด ก็อาจจะประสบกับปัญหาได้

อย่างไรก็ตาม ยังมีคนอีกจำนวนมากที่เป็นคนของท่านราชเลขา ที่ซับซ้อนไปกว่านั้นคือ พวกเขาจะทำอย่างไรให้ท่านราชเลขาได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากเหตุการณ์นี้ ในขณะเดียวกันก็สร้างความเสียหายให้กับอำนาจขององค์รัชทายาท

ส่วนคณะทูตเสียนเฉายิ่งสนใจการกินดื่มน้อยลงด้วยซ้ำ

พวกเขากำลังคาดเดาความคิดขององค์รัชทายาท แม้กระทั่งอธิษฐานขอให้ราชสำนักต้าฉินตกลงที่จะส่งกองทัพออกมา

ซึ่งนี่จะต้องได้รับการอนุมัติจากผู้มีอำนาจสู
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 203

    ในขณะนี้ รถม้าได้เริ่มเคลื่อนตัวไปข้างหน้าแล้ว รถม้าที่โยกเล็กน้อย ทำให้หลี่เฉินและจินเสวี่ยยวนซึ่งนอนทับกันในรถม้ารู้สึกได้ถึงการกระตุ้นประสาทสัมผัสที่ยอดเยี่ยม ในที่สุดหลี่เฉินก็เข้าใจแล้วว่าทำไมคนจำนวนมากถึงได้ชอบสวมเครื่องแบบ การแต่งกายของจินเสวี่ยยวนในวันนี้ ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นกว่าปกติจริงๆ เมื่อเห็นว่ามือเท้าของหลี่เฉินเริ่มไม่ซื่อสัตย์ จินเสวี่ยยวนก็โกรธจัด นางจับมือของหลี่เฉินแล้วกล่าวว่า “ไม่ได้!” ทั้งดวงตาและน้ำเสียงก็ดูหนักแน่น และการปฏิเสธครั้งนี้ก็เด็ดขาดกว่าครั้งก่อนๆ “ทำไม?” หลี่เฉินถาม จินเสวี่ยยวนโกรธจัด นางรู้สึกว่าไม่ว่าก่อนหน้านี้ ชายผู้นี้จะเป็นคนธรรมดาหรือว่าเป็นองค์รัชทายาทแห่งต้าฉิน คนๆ นี้ล้วนหน้าด้านไร้ยางอายอยู่ดี ยังจะกล้าถามอีกว่าทำไม? “เจ้าคือองค์รัชทายาทแห่งต้าฉิน ส่วนข้าคือองค์หญิงแห่งเสียนเฉา ไม่ก็คือไม่! หากเรื่องนี้แพร่ออกไป จะเกิดปัญหาใหญ่เอาได้!” จินเสวี่ยยวนกล่าว หลี่เฉินหัวเราะเบาๆ และถามว่า “เรื่องนี้จะแพร่ออกไปได้อย่างไร?” จินเสวี่ยยวนตกตะลึง และรู้สึกพูดไม่ออกเล็กน้อย “ใต้หล้านี้ไม่มีกำแพงใดที่สายลมเข

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 204

    เป้าหมายของจินเสวี่ยยวนและเสียนเฉาทั้งหมดมีเพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้น นั่นคือการทำให้หลี่เฉินใช้อำนาจขององค์รัชทายาทผลักดันข้อสรุปเรื่องส่งทหารไปที่เสียนเฉา แต่ปัญหาก็คือ เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์และสภาพแวดล้อมของต้าฉินในปัจจุบันแล้ว หลี่เฉินจะต้องจ่ายราคามหาศาลเพื่อบังคับส่งทหารออกไป แต่จินเสวี่ยยวนไม่ได้พิจารณาสิ่งเหล่านี้ นางแค่ต้องการให้ทหารจากต้าฉินเข้าสู่ดินแดนของตัวเอง เพื่อต่อสู้กับตงอิ๋งและกอบกู้ประเทศของนางมันไม่เกี่ยวว่าดีหรือแย่ มันก็แค่สัญชาตญาณเห็นแก่ตัวตามธรรมชาติของมนุษย์ แต่หลังจากทะลุมิติมาแล้ว หลี่เฉินก็ไม่อยากทำตัวเป็นสุนัขเลีย[footnoteRef:1]ผู้หญิงคนไหนอีก [1: เลีย อุปมาว่าประจบสอพลอ ตามเอาอกเอาใจ] ไม่ว่าจะสวยแค่ไหนก็ตาม ถ้าจะเลีย เขาจะต้องเป็นคนที่ถูกเลียเอง คำพูดของหลี่เฉินสมจริงมากจนแทบจะไร้ความปรานี ทำให้จินเสวี่ยยวนที่ต้องการจะหักล้างคำพูด แต่เมื่อความจริงมาวางไว้ตรงหน้า นางก็รู้ตัวว่าไม่ได้คิดจริงๆ ว่าหลี่เฉินจะต้องจ่ายเท่าไรเพื่อสนองความปรารถนาของนาง ดังนั้นความมั่นใจของจินเสวี่ยยวนจึงลดลง “แต่เรื่องแบบนี้จะทำได้ก็ต่อเมื่อชายและหญ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 205

    “องค์หญิง...” ขุนนางเสียนเฉาที่มีเคราแพะกำลังจะพูด แต่จินเสวี่ยยวนก้มศีรษะลงและไม่มองฝูงชน นางพูดว่า “เมื่อครู่ข้าเผลองีบหลับไป รบกวนทุกท่านรอนานแล้ว” พูดจบ จินเสวี่ยยวนก็เหยียบลงบนเก้าอี้ไม้ตัวเล็กแล้วลงจากรถม้า เพียงแต่ร่างกายของจินเสวี่ยยวนดูเหมือนจะอ่อนแอมาก จู่ๆ ขาของนางก็เกิดอ่อนแรงขึ้นมา จนเกือบจะล้มคว่ำ โชคดีที่สาวใช้ส่วนตัวของจินเสวี่ยยวนหูตาว่องไว จึงประคองนางได้อย่างรวดเร็ว แต่เมื่อสาวใช้สัมผัสตัวก็รู้สึกว่าพระวรกายขององค์หญิงร้อนผ่าว และใบหน้าอันสวยงามที่หลบเลี่ยงสายตาของทุกคน ก็ถูกปกคลุมไปด้วยสีแดงระเรื่อและเหงื่อเล็กๆ นี่มันคนเพิ่งตื่นที่ไหนกัน มันเหมือนคนที่เพิ่งออกกำลังกายเสร็จมากกว่า แต่สาวใช้คิดจนหัวแทบแตกก็คิดไม่ออกว่า องค์หญิงจะสามารถออกกำลังแบบไหนในรถม้าได้? “องค์หญิง พระองค์สบายดีหรือไม่?” สาวใช้ถามอย่างกังวล “สะ สบายดี” เพียงจินเสวี่ยยวนเปิดปากพูด สาวใช้ที่เติบโตมาข้างกายจินเสวี่ยยวนก็รู้ได้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติเสียงนี้นุ่มนิ่มเกินไป...นางเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง แค่ได้ฟังก็ยังรู้สึกรับไม่ไหวอยู่บ้าง “กลับไปกันเถอะ” จินเสวี่ยย

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 206

    “ค่อนข้างน่าสนใจ” หลี่เฉินรู้สึกสนใจขึ้นมาเล็กน้อย “พูดมา เจ้าพึ่งพาอะไรเพื่อป้องกันไม่ให้ข้าสังหารเจ้า และทำไมเจ้าถึงยอมเสี่ยงขนาดนี้?”ก่อนที่โจวผิงอันจะพูด หลี่เฉินก็พูดอย่างเฉยเมยว่า “เจ้ามีโอกาสแค่สามประโยคเท่านั้น” โจวผิงอันหยุดชั่วคราว และกลืนคำพูดที่ติดอยู่ริมฝีปากลงไป หลังจากนั้นไม่นาน โจวผิงอันก็พูดว่า “ผิงอันมีพี่น้องอยู่สามคน และผิงอันเป็นคนเล็กสุด พี่ใหญ่ทำการค้าในต้าฉิน...ทำการค้าเกี่ยวกับอาวุธ” “ประโยคที่หนึ่ง” หลี่เฉินหรี่ตาลงขณะพูด การค้าเกี่ยวกับอาวุธ ไม่ว่าจะเป็นราชวงศ์ไหน หากประชาชนแตะต้องสิ่งนี้ พวกเขาจะต้องตาย ตามกฎหมายของต้าฉิน ผู้ที่ไม่สวมเครื่องแบบราชการ หากพกอาวุธเดินอยู่บนถนนจะถูกโบยสามสิบไม้ หากในบ้านซุกซ่อนชุดเกราะหรืออาวุธเกินสามชิ้น จะถูกลงโทษด้วยข้อหาอาชญากรรมร้ายแรง สถานเบาถูกส่งตัวไปยังชายแดน สถานหนักยึดของกลางและประหารทั้งตระกูล และโจวผิงอันก็เปิดเผยความจริงที่ว่าพี่ชายคนโตของเขาทำการค้าเกี่ยวกับอาวุธ เมื่อกลับไป หลี่เฉินจะส่งหน่วยบูรพาไปตรวจสอบ โจวผิงอันสูดหายใจเข้าแล้วกล่าวต่อไปว่า “พี่รองทำงานเป็นที่ปรึกษาในจวนอ๋องห

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 207

    “เจ้าอยากทำอะไร?” หลี่เฉินถาม “ผิงอันเคยกล่าวว่าสำเร็จวิชาบุ๋นบู๊ และขายตัวเองให้กับราชวงศ์ของจักรพรรดิ” โจวผิงอันตอบอีกครั้ง หลี่เฉินหัวเราะและถามว่า “ข้าจะเชื่อใจเจ้าได้อย่างไร” โจวผิงอันตอบกลับอย่างสงบนิ่ง “สิ่งที่ผิงอันเพิ่งบอกฝ่าบาทไปนั้น คือความจริงใจของผิงอัน ส่วนความสามารถของผิงอันนั้น...ภายในหนึ่งเดือน ผิงอันสามารถปราบกบฏมณฑลซีซานลงได้ โดยไม่เสียเลือดใดๆ” หลี่เฉินมองดูโจวผิงอันที่ค้อมกายคำนับ และไม่พูดอะไร คำสัญญาของโจวผิงอันนั้นยากยิ่งนัก แต่เมื่อนึกถึงอาวุธของกลุ่มกบฏในมณฑลซีซาน ซึ่งเป็นสิ่งที่พี่ใหญ่ของเขาจัดหามาให้ และผู้บงการเบื้องหลังอย่างอ๋องหนิงหรือสายลับที่ซ่อนอยู่อย่างพี่รอง ดูเหมือนเรื่องนี้ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ในมุมมองของหลี่เฉินนั้น การปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันของโจวผิงอัน ก็ก่อให้เกิดภัยคุกคามที่ไม่น้อยไปกว่ากบฏในมณฑลซีซานเลย สามพี่น้องนี้ แต่ละคนต่างดำรงตำแหน่งสำคัญในสาขาอาชีพของตน และก้าวไปสู่ระดับที่สูงมาก พวกเขาคิดจะทำอะไรกันแน่? หลี่เฉินไม่พูด ส่วนโจวผิงอันก็รักษาท่าทางโค้งคำนับไว้ไม่เคลื่อนไหว เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ ร

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 208

    “เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจัดการ”ฟู่อวี้จือเป็นคนแรกที่พูด เขาลูบเคราแล้วพูดอย่างช้าๆ ว่า “องค์รัชทายาทกำลังวางแผนการที่ลึกล้ำบางอย่าง ซึ่งเกี่ยวข้องกับสมบัติไท่จู เขาอยู่ในตำแหน่งองค์รัชทายาท ก็ต้องอยากนำสมบัติไท่จูกลับคืนมา...หากเป็นเช่นนั้น เกรงว่าคงไม่มีสิ่งใดที่จะหยุดเขาได้ และเมื่อองค์จักรพรรดิสิ้นพระชนม์ ก็จะไม่มีใครสามารถหยุดยั้งเขาจากการขึ้นครองบัลลังก์ได้ ถึงตอนนั้นแค่โยนคำพูดสองสามคำอย่างไท่จูปกปักษ์ออกไป ยังจะมีใครกล้าปฏิเสธอีก?” “ในความคิดของข้า องค์รัชทายาทจะทุ่มกำลังอย่างเต็มที่ เพื่อค้นหาสมบัติไท่จูโดยไม่คำนึงถึงสิ่งที่ต้องจ่าย” ตอนนี้เอง จางปี้อู่ก็พูดอย่างเคร่งขรึมว่า “และถ้าอยากไปค้นหาสมบัติไท่จูเพื่อนำกลับคืนมา สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือส่งทหารไปที่เสียนเฉา เพื่อปราบปรามความโกลาหลในเสียนเฉา” “ดังนั้น เรื่องส่งทหารไปที่เสียนเฉา พวกเราจะต้องหยุดมันเอาไว้” คำพูดของฟู่อวี้จือและจางปี้อู่ ทำให้จ้าวเสวียนจีพยักหน้าช้าๆ จากนั้นเขาก็หันไปมองต้วนจิ่นเจียงที่ไม่พูดอะไรเลยสักคำ เมื่อเห็นท่าทางฟุ้งซ่านของฝ่ายหลังจึงพูดว่า “ใต้เท้าต้วน ท่านยังกังวลเกี่ยวกับลูก

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 209

    หลี่เฉินนั่งอยู่ในพระที่นั่งสีเจิ้ง มองไปที่ซานเป่าแล้วยกจอกชาขึ้นจิบ ก่อนจะพูดว่า “การเดินทางในครั้งนี้ คงจะฆ่าคนไปไม่น้อย กลิ่นเลือดบนตัวเจ้าถึงได้แรงมาก” ซานเป่ารีบกล่าวว่า “ได้ฆ่าขุนนางทรยศไปบางส่วน บ่าวควรจะอาบน้ำชำระล้างกลิ่นสกปรกก่อนจะมาเข้าเฝ้าฝ่าบาท ทำให้พระเนตรของฝ่าบาทต้องแปดเปื้อน บ่าวสมควรตาย” หลี่เฉินหัวเราะเบาๆ แล้วกล่าวว่า “ไม่เป็นไร เล่ามา สถานการณ์ในมณฑลซีซานทุกวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง” ซานเป่ากล่าวด้วยสายตาที่เฉียบคมว่า “หลังจากที่บ่าวไปถึงมณฑลซีซาน พบว่าสถานการณ์จริงนั้นร้ายแรงกว่านี้มาก” “ไท่หยวน หยางชวี และเซียงติ้ง ทั้งสามอำเภอได้ล่มสลายลงแล้ว และขนาดของกลุ่มกบฏก็ขยายออกไปอย่างรวดเร็ว โดยใช้ประโยชน์จากภัยพิบัติทางธรรมชาติ หลายคนจึงเข้าร่วมกับพวกเขาทุกวัน ในช่วงเวลานี้ ขนาดของกบฏได้เพิ่มขึ้นจากหลายหมื่นเป็นเกือบ 100,000 คน ตอนที่บ่าวจากมา พวกเขาก็โจมตีต้าถงฟู่ที่อยู่ห่างจากซีซานไปร้อยลี้” “ทุกที่ที่พวกกบฏผ่านไป ขุนนางและทหารต่างก็หวาดกลัวและแทบไม่สามารถต้านทานได้ พวกเขายังโจมตีและสังหารผู้มีอำนาจด้วยซ้ำ นอกจากนี้ยังมีคติขวัญว่า “แผ่นดินเป็นของประชาชน”

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 210

    หลังจากส่งซานเป่าออกไปแล้ว หลี่เฉินก็ออกจากพระที่นั่งสีเจิ้ง และกลับไปที่พระที่นั่งร้อยบุปผา เวลานี้จ้าวหรุ่ยกำลังพักผ่อนอยู่ แต่หลังจากที่รู้ว่าองค์รัชทายาทมาถึงแล้ว นางก็ลุกลงจากเตียงทันที เพื่อปรนนิบัติหลี่เฉินด้วยการถอดชุด “ได้ยินคนด้านล่างบอกว่า วันนี้เจ้าไปพบมารดาของเจ้าอีกแล้วหรือ?” หลี่เฉินถามอย่างสบายๆ จ้าวหรุ่ยพูดเสียงเบาว่า “ท่านแม่เพิ่งมาถึงที่นี่และไม่คุ้นเคยกับทุกอย่างในเมืองหลวง นอกจากนี้ บิดาก็ออกไปชานเมืองเพื่อดูแลผู้ประสบภัย จึงไม่มีคนรู้จักที่สามารถพูดคุยได้ หม่อมฉันจึงออกไปเยี่ยมสักรอบ” หลี่เฉินพยักหน้าแล้วพูดว่า “ในฐานะลูกสาว เจ้าควรมีความกตัญญู คราวหน้าถ้าเจ้าจะออกไปอีกครั้ง ก็ไปเลือกของขวัญในคลังเพื่อนำติดตัวไปด้วย ถือว่าเป็นสินน้ำใจจากข้า” จ้าวหรุ่ยยกมุมปากขึ้นแล้วกล่าวว่า “หม่อมฉันขอบพระทัยฝ่าบาทแทนมารดาเพคะ”“ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา บิดาของเจ้าทำผลงานได้ดี ข้าได้รับข่าวสารทุกวันว่า การจัดการค่ายชั่วคราวสำหรับผู้ประสบภัยพิบัตินั้นเป็นไปอย่างมีระเบียบ แม้แต่สวีฉังชิงจากกรมครัวเรือนก็ยังยกย่องพ่อของเจ้าสำหรับความสามารถอันยอดเยี่ยมของเขา จริงๆ

Bab terbaru

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1053

    “นี่มันเรื่องอะไร?”ซูจิ่นพ่ากดดันต่อทันที “หากเจ้ามีเหตุผล ก็กล่าวมาเถิด ให้คนทั้งใต้หล้าได้ยินให้ชัดว่า องค์รัชทายาทนั้น ‘โง่งม’ อย่างไร?”เมื่อเอ่ยถึงตรงนี้ เสียงของซูจิ่นพ่าพลันเย็นเยียบลง “หากเจ้าพูดออกมาไม่ได้ เช่นนั้นก็คือการใส่ร้าย ใส่ร้ายองค์รัชทายาทผู้ครองแผ่นดิน ถือเป็นอาชญากรรม ต้องประหาร!”คำว่า “ต้องประหาร” สิ้นสุดลงในวินาทีใด อำนาจและบารมีอันยิ่งใหญ่ก็ปกคลุมรอบทิศจนขุนนางผู้นั้นถึงกับทรุดตัวนั่งตูมลงกลางพื้นซึ่งชุ่มไปด้วยน้ำฝนเขาถึงกับหวาดกลัวจนหมดสติเมื่อร่างล้มลง มือทั้งสองย่อมต้องยันพื้นไว้โดยสัญชาตญาณ ทว่าเมื่อฝ่ามือเขายื่นออกไป กลับสัมผัสกับพื้นของทางเสด็จในพระราชวัง หน้าพระที่นั่งไท่เหอ มีทางเดินอยู่สามสายสายหนึ่งคือ “ทางสามัญ” สำหรับขุนนางเดินใช้สายหนึ่งคือ “ทางอ๋อง” สำหรับเจ้านาย ราชนิกูลและเชื้อพระวงศ์และอีกสายคือ “ทางจักรพรรดิ” หรือเรียกว่า “ทางเสด็จ” เป็นทางที่มีเพียงฮ่องเต้และองค์รัชทายาทเท่านั้นที่สามารถเดินผ่านได้ตามกฎหมาย แบ่งทางเดินแต่ละสายตามสถานะผู้เดินอย่างเคร่งครัด หากผู้ต่ำศักดิ์ละเมิด ย่อมถือว่าเป็นการล่วงละเมิดเบื้องสูง มีโทษฐานก

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1052

    เสียงฟ้าผ่าดังสนั่นโดยไร้สัญญาณเตือน ทำให้ทุกคนในที่นั้นแลเห็นใบหน้าของหลี่เฉินอย่างชัดเจน ภายใต้สายฝนที่เทกระหน่ำและหลี่เฉินเองก็สามารถมองเห็นสีหน้าของเหล่าขุนนางได้ถนัดตาในสีหน้าพวกเหล่าขุนนาง บ้างจริงจัง บ้างเงียบงัน บ้างหวาดหวั่น ทว่ามากที่สุด...คือความเย็นชาไร้ซึ่งอารมณ์พวกเขาราวกับแน่ใจว่า คืนนี้องค์รัชทายาทจะต้องถูกบีบให้สละตำแหน่งอย่างแน่นอนเสียงตะโกนขอให้องค์รัชทายาทสละราชบัลลังก์ดังระงม ประหนึ่งคลื่นมหึมาที่ถาโถมกดทับอยู่บนร่างของหลี่เฉินซูจิ่นพ่าหันไปมองด้านข้างของหลี่เฉิน ใบหน้าของเขาเรียบเฉยไร้อารมณ์ แต่ด้วยความใกล้ชิด นางรู้ดีว่าร่างกายของบุรุษข้างกายกำลังสั่นไหวเล็กน้อยนั่นมิใช่ความหวาดกลัว แต่เป็นความโกรธในห้วงเวลานี้ ซูจิ่นพ่ารู้สึกเลือดลมพลุ่งพล่านจุกแน่นอยู่ในลำคอ ไม่อาจกลืนกลับไปได้อีกนางจำต้องกล่าวบางสิ่งออกมา“หยาบช้า!”เสียงตำหนิของซูจิ่นพ่าดังใสชัดเจน ในค่ำคืนอันเปียกชื้นอึมครึมนั้น เสียงของนางมิได้ละมุนดังเช่นทุกครั้ง ทว่าหนักแน่นเด็ดเดี่ยวอย่างน่าครั่นคร้ามดั่งเสียงขานแรกของนกฟีนิกซ์วัยเยาว์ แม้ยังไม่เติบโตเต็มที่ แต่ก็เผยแววสง่างามของสตรีผ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1051

    สายฝนเทกระหน่ำ ในห้วงฟ้าดินนั้น นอกจากเสียงเม็ดฝนกระทบพื้นอันอึกทึกแล้ว กลับไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาอีกเลยทันใดนั้น เสียงขานราชาศัพท์กังวานลั่นไปทั่วสะพานจินสุ่ย“ฮองเฮาเสด็จ!”“องค์รัชทายาทเสด็จ!”“พระชายาองค์รัชทายาทเสด็จ!”เสียงขานรับเสด็จทั้งสามดังขึ้นติดกัน ทำให้เหล่าขุนนางหลายสิบคนเริ่มเคลื่อนไหวเล็กน้อย ทว่าจางปี้อู่ซึ่งยืนอยู่แถวหน้าสุดกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเย็นว่า “สงบปากสงบคำ”เพียงคำเดียว ทุกคนก็เงียบลงทันทีในเวลาไม่นาน ร่างสองร่างก็ปรากฏตัวเคียงข้างกันที่หน้าสะพานจินสุ่ยชุดแต่งงานสีแดงฉาน ภายใต้ม่านฝนและรัตติกาล กลับยิ่งสะดุดตาพร้อมกับการปรากฏตัวของพวกเขา คือเสียงฝีเท้าของเหล่าองครักษ์ที่เรียงรายอย่างเป็นระเบียบองครักษ์อวี่หลินเดินเข้าสู่ลานพิธีพวกเขากระจายตัวรายล้อมกำแพงแดงโดยรอบลานสะพานจินสุ่ย จนล้อมพื้นที่โดยรอบไว้ทั้งหมดเหล่าขุนนางเพียงแต่ยืนมองนิ่งๆ ไม่มีใครขัดขืน ไม่มีผู้ใดกล่าวคำหนึ่งคำราวกับรู้ดีว่า...ทหารเหล่านี้ ไร้ความหมายซานเป่าอยากจะกางร่มให้หลี่เฉินกับซูจิ่นพ่า ทว่าหลี่เฉินโบกมือ แล้วหยิบร่มไปกางเหนือศีรษะของซูจิ่นพ่า ส่วนตนกลับปล่อยให้ร่า

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1050

    “ข้าเข้าใจแล้ว…เข้าใจหมดทุกอย่างแล้ว”หลี่อิ๋นหู่ระเบิดเสียงหัวเราะลั่น“ไม่แปลกใจเลย ไม่ว่าอย่างไร ข้าทำสิ่งใด เจ้าก็ล่วงรู้หมด ที่แท้เป็นเช่นนี้! เป็นเช่นนี้เอง!”หลี่เฉินมองหลี่อิ๋นหู่ที่หัวเราะจนหอบหายใจแทบไม่ทัน สีหน้าไร้อารมณ์เขาหันหลัง เดินตรงเข้าไปในศาลบูรพกษัตริย์ซานเป่ากลับไม่ได้หันตาม แต่เดินตรงไปทางหลี่อิ๋นหู่ด้านหลังหลี่เฉิน เสียงหัวเราะของหลี่อิ๋นหู่ยังไม่จางหาย เขาหัวเราะพลางตะโกนลั่น “หลี่เฉิน เจ้าอย่าได้ลำพองใจ เจ้ารู้หรือไม่ว่าจ้าวเสวียนจีร้ายกาจเพียงใด! เจ้ารู้หรือไม่ว่าแผ่นดินนี้มีคนอีกมากมายที่ปรารถนาให้เจ้าตาย! ข้าเป็นแค่หุ่นเชิดก็จริง แต่ข้าก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้น!”“หากเจ้าฆ่าข้า คนพวกนั้นจะไม่อาจอยู่นิ่งได้ อาณาจักรที่เจ้าครอง จะไม่มีวันมั่นคงแน่นอน!”ฝีเท้าหลี่เฉินไม่หยุด ยังคงเดินไปข้างหน้า คำพูดของหลี่อิ๋นหู่ไม่มีผลใดๆ กับเขาเลยในเวลาเดียวกัน เสียงตวาดกร้าวของโจวสิงเจี่ยก็ดังขึ้น“เจ้าจะทำอะไร!”ไม่มีผู้ใดตอบต่อมาคือเสียงฟึ่บ! ของคลื่นลมที่ระเบิดออก ตามด้วยเสียงกรีดร้องอันน่าสยดสยองของโจวสิงเจี่ยถัดจากนั้น เสียงหัวเราะของหลี่อิ๋นหู่ก็เงียบห

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1049

    หลี่อิ๋นหู่รู้ดีว่าหลี่เฉินจะต้องฆ่าตนทว่าเมื่อความตายมาปรากฏอยู่ตรงหน้าอย่างแท้จริง เขากลับหวาดกลัวขึ้นมาม่านตาหดแน่น ลำคอหลี่อิ๋นหู่แห้งผากจนลิ้นแทบขยับไม่ไหว“จ้าวเสวียนจีบางทีอาจกำลังรอให้เจ้าฆ่าข้าก็เป็นได้!” หลี่อิ๋นหู่พลันเอ่ยขึ้นมา“ไม่ผิด”หลี่เฉินยืนยันคำพูดของหลี่อิ๋นหู่อีกครั้ง“ความผิดของเจ้า คือเข่นฆ่าพี่น้องร่วมสายเลือด หากข้าฆ่าเจ้า เช่นนั้นข้าก็จะมีความผิดเดียวกับเจ้าอย่างเต็มประตู”“จ้าวเสวียนจีจะใช้ข้อหานี้ ประกาศไปทั่วแคว้น ทำให้ข้าเสื่อมเสียชื่อเสียง”หลี่อิ๋นหู่ราวกับคว้าได้หนึ่งในเส้นเชือกแห่งความหวัง จึงรีบกล่าวด้วยความร้อนรนว่า “เพราะฉะนั้นเจ้าก็ยิ่งห้ามหลงกลเขา!”“ข้าไม่กลัว”หลี่เฉินยิ้มอย่างอ่อนโยน “หลุมที่เจ้าก้าวลงไปแล้วต้องตาย ข้าเดินผ่านไป กลับสามารถถมให้ราบได้”สีหน้าหลี่อิ๋นหู่ชะงักนิ่งเขารู้สึกได้ว่าเส้นเชือกแห่งความหวังนั้น ค่อยๆ เลือนหายไป“อย่าฆ่าข้า!”หลี่อิ๋นหู่พลันทรุดตัวคุกเข่าลง สองเข่าติดพื้น ค่อยๆ คลานเข้าไปหาเขาหลี่เฉินไม่ได้พูดอะไร ไม่แม้แต่จะหลบหลีกปล่อยให้อีกฝ่ายคลานเข้ามาใกล้ พอเขาเอื้อมมือจะกอดขาหลี่เฉิน หลี่เฉินจึ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1048

    การระเบิดของระเบิดเทพต้าฉินทั้งสี่ระลอก ทำให้ผู้คนล้มตายไปหลายพันคน ทำลายขวัญกำลังใจของทัพกบฏจนราบคาบ ยังผลให้หลี่อิ๋นหู่ตื่นจากความฝันอันแสนหวานควันดินปืนยังลอยฟุ้งอยู่ทั่ว เปลวเพลิงที่ระเบิดทิ้งไว้ยังคงลุกไหม้ ธงรบที่ขาดวิ่นไหวระริกในสายลมยามโพล้เพล้ เสียงเปลวไฟแตกดังเปรี๊ยะๆ กับเสียงคร่ำครวญของบาดเจ็บที่ยังไม่สิ้นลมหายใจ ดังอยู่ไม่ขาดสายหลี่เฉินออกคำสั่ง ให้ทหารที่ยังมีแรงเหลือออกไปกวาดล้างสนามรบ“ฝ่าบาท พวกกบฏที่ยังรอดชีวิตอยู่ จะทรงให้ประหารหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”ซานเป่าใช้ความเคยชินในฐานะจางกงแห่งตงฉ่าง เห็นว่าศัตรูก็ต้องฆ่าให้สิ้นซาก จึงเอ่ยถาม“หากผู้ใดพอมีหวังรอดชีวิต ก็ให้รักษาไว้”หลี่เฉินปรายตามองซานเป่า เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “พวกเขาเลือกจุดยืนทางการเมืองไม่ได้ เรื่องนั้นเป็นของผู้ใหญ่ข้างบน ทหารเหล่านี้ ก็แค่สู้เพื่อค่าจ้างหนึ่งมื้อเท่านั้น ตั้งแต่ตำแหน่งแม่ทัพร้อยคนขึ้นไป ฆ่าให้หมด”การตัดสินใจที่ใหญ่ปล่อยเล็กเช่นนี้ แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์และความใจกว้างของผู้เป็นกษัตริย์ซานเป่าค้อมกายรับคำ “ฝ่าบาททรงเปี่ยมด้วยเมตตา บ่าวขอรับพระโอวาทไว้”เมื่อซานเป่านำรับสั่งไ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1047

    มนุษย์ ย่อมหวาดกลัวต่อภัยอันไม่อาจหยั่งรู้ได้นี่คือสันดานดิบของมนุษย์ เป็นสัญชาตญาณที่เปลี่ยนแปลงมิได้ก่อนหน้านี้ เว้นแต่บุคคลส่วนน้อยอย่างหลี่เฉิน ก็แทบไม่มีผู้ใดเคยเห็นระเบิดเทพต้าฉินมาก่อนเลยเพราะฉะนั้น เมื่อมันแสดงโฉมหน้าดุร้ายในฐานะอาวุธสงครามออกมาเป็นครั้งแรกต่อหน้าฝูงชน ทุกผู้คน รวมทั้งทหารองครักษ์ที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่ร้อยนาย ต่างก็พากันตื่นตะลึงจนตาแตกเสียงระเบิดที่ดังกึกก้อง อานุภาพของมันรุนแรงจนชวนให้ผู้คนคิดว่าหรือจะเป็นเทพพิโรธที่ฟ้าดินบันดาลลงมาแม้แต่หลี่เฉินเอง ก็เพิ่งเคยเห็นผลของระเบิดเทพต้าฉินในสนามรบจริงเป็นครั้งแรกเช่นกันเขารู้สึกพึงใจอย่างยิ่งต่ออานุภาพของระเบิดเทพต้าฉิน ทว่าในใจกลับเจ็บราวกับมีเลือดซึมออกมาเหตุใดน่ะหรือ ก็เพราะทุกเสียงระเบิดนั้น ล้วนแปลเป็นเงินทั้งสิ้นตามต้นทุนในปัจจุบัน ระเบิดระเบิดเทพต้าฉินหนึ่งลูกมีค่าใช้จ่ายราวสองร้อยตำลึงเงินแท้จริงแล้ว ปืนใหญ่หนึ่งนัดเท่ากับทองคำหมื่นตำลึงยิ่งไปกว่านั้น คนที่สามารถสร้างมันได้ ในต้าฉินเวลานี้ก็มีเพียงซ่งอิงซิงคนเดียวเท่านั้น แม้เขาจะพยายามฝึกฝนผู้อื่นอยู่ แต่ของสิ่งนี้กลับต้องใช้พรสวรรค์ อ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1046

    มือปืนทั้งสามแถวพอยิงพร้อมกันเสร็จสิ้นรอบหนึ่ง ก็รีบควานเอาสิ่งของกลมดำสนิทสิ่งหนึ่งออกมาจากถุงผ้าที่คล้องอยู่ข้างกายเจ้าสิ่งนั้นดูแล้วไร้ค่าเสียยิ่งกว่าท่อนไม้ในมือของพวกเขา เป็นของที่ต่อให้ถูกโยนทิ้งไว้ข้างทางก็ไม่มีผู้ใดเหลียวแลแต่เมื่อมีตัวอย่างของท่อนไม้ที่กลับกลายเป็นปืนปรากฏอยู่ก่อนหน้าแล้ว ก็ไม่มีผู้ใดกล้าดูแคลนของสิ่งนี้“นั่นคือสิ่งใดกัน?”หลี่อิ๋นหู่ขมวดคิ้วแน่น ความรู้สึกไม่สู้ดีถาโถมเข้ามาในใจทันทีก่อนหน้านี้ที่เห็นปืนดินปืน แม้จะทำให้เขาตื่นตระหนกอยู่บ้าง แต่ยังไม่ถึงขั้นเสียขวัญก่อนอื่น ปืนดินปืนนั้นมิใช่ของแปลกใหม่เสียทีเดียว จักรวรรดิต้าฉินในอดีตก็เคยคิดค้นของเช่นนี้ขึ้นมาแล้ว เพียงแต่ทุกคนต่างรู้ว่ามันเล็งได้ไม่แม่น แถมยังต้องเสียเวลายัดดินปืนใส่เข้าไป จึงมิได้ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายหรือพัฒนาอย่างจริงจัง ผู้คนล้วนเห็นว่าอย่างไรก็ยังสู้ฝึกมือธนูที่มีกำลังแขนมากหน่อยไม่ได้และการที่หลี่เฉินนำปืนดินปืนกลับมาพัฒนาใหม่นั้นก็หาใช่ความลับไม่ ขุนนางมากมายต่างตำหนิเจ้าชายรัชทายาทว่าเอาแต่เล่นจนเสียงาน ริหลงใหลในกลไกแปลกประหลาดซึ่งถือเป็นศาสตร์นอกลู่นอกทางหลี่อิ๋นห

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1045

    “ฝ่าบาท พะย่ะค่ะ เราคงรักษาแนวไว้ไม่อยู่แล้ว” ซานเป่ามองสถานการณ์ที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ จึงกล่าวกับหลี่เฉินว่า “ไม่สู้พวกเรากลับเข้าไปในศาลบูรพกษัตริย์ แล้วค่อยหาทางใหม่ดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?” “ไม่เป็นไร”หลี่เฉินโบกมือเบาๆ เอ่ยว่า “ให้คนที่เหลือถอยกลับมาเถิด” “แต่ว่า…” หลี่เฉินเหลือบตามองซานเป่าหนึ่งแวบ ก่อนเอ่ยเสียงเรียบ “เมื่อใดกันที่เจ้ากลายเป็นผู้ตัดสินใจแทนข้า?” ซานเป่าหน้าตึงไปทันใด รีบก้มตัวยอมรับคำสั่งโดยไม่กล้าเถียงแม้แต่น้อย การรบในสนามยังคงดุเดือดโลหิต เมื่อความแตกต่างด้านจำนวนเพิ่มขึ้นตามอัตราผู้บาดเจ็บและล้มตาย เมื่อกำลังของทั้งสองฝ่ายใกล้ถึงขีดสุด สถานการณ์ก็เปลี่ยนเป็นการสังหารฝ่ายเดียว ขณะนั้นเอง คำสั่งถอยทัพก็ส่งต่อไปยังทุกหน่วย เหล่าทหารต่างรีบหดแนวรับอย่างเป็นระเบียบแม้เป็นการถอย แต่พวกเขายังคงปักหลักรักษาหน้าที่ ไม่มีผู้ใดหลบหนี ไม่แม้แต่จะแตกกระเจิง ทหารรักษาการณ์ที่เคยมีอยู่หลายพันนาย บัดนี้เหลือเพียงไม่กี่ร้อย ทั้งยังล้วนแต่มีบาดแผลติดตัว ดวงตาหลี่เฉินเปล่งประกาย เขาหันไปกล่าวกับซานเป่าข้างกายว่า “ศึกนี้ จงจดชื่อของเหล่าทหารที่เข้าร่วมไว้ทั้งห

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status