แชร์

บทที่ 197

ผู้เขียน: ไห่ตงชิง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-09-05 18:00:01
การแนะนำของจินเสวี่ยยวนเล่าออกมาอย่างไพเราะดุจเสียงธารใส

“เพื่อรักษารากทั้งหมดของโสมนี้ให้สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่จะทำได้โดยไม่สร้างความเสียหายเลย เราจึงทำให้ยอดเขาทั้งลูกแบนราบลงหกชุ่น[footnoteRef:1] เนื่องจากภูเขาสูงเกินไป จึงเป็นเรื่องยากที่จะขนส่งอุปกรณ์ด้วยล่อและม้า และเกือบทั้งหมดต้องยกอุปกรณ์ขึ้นไหล่ของคนงาน จากนั้นก็ใช้พลั่วแงะเปิดดินทีละน้อย จนในที่สุดก็สามารถเอาโสมหายากนี้ออกมาได้ จากการคำนวณของผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์และอาวุโสที่สุดในเสียนเฉา โสมนี้มีอายุมากกว่า 280 ปี และมีคุณสมบัติทางยามากกว่าโสมอายุร้อยปีทั่วไปถึงสามเท่า โสมอายุร้อยปีก็เป็นสมบัติที่หายากอยู่แล้ว แต่สิ่งนี้ หายากยิ่งกว่านั้นอีก” [1: 1 ชุ่น = 1.312]

จินเสวี่ยยวนประคองกล่องไม้ด้วยสองมือแล้วยกขึ้นเหนือศีรษะ “โสมนี้ ขอถวายแด่ต้าฉิน ขอให้ต้าฉินเจริญรุ่งเรืองตลอดไป”

หลี่เฉินรู้สึกพอใจกับโสมหายากนี้เช่นกัน เขาพยักหน้าและพูดว่า “ยอดเยี่ยม”

“เวลานี้เสด็จพ่อยังทรงประชวรอยู่ โสมนี้สามารถให้หมอหลวงนำไปใช้รักษาเสด็จพ่อได้ องค์หญิงจินช่างใส่ใจ”

กล่าวจบ หลี่เฉินก็โบกมือ จากนั้นก็มีคนเดินเข้ามารับโสมไปอย่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 198

    “ขอแสดงความยินดีกับฝ่าบาท ขอแสดงความยินดีกับฝ่าบาท!” ตอนนี้เองซูเจิ้นถิงก็ประสานมือขึ้นกล่าว หลี่เฉินมองซูเจิ้นถิงแล้วพูดยิ้มๆ ว่า “เหตุใดท่านแม่ทัพซูจึงมีความสุข?”ซูเจิ้นถิงกล่าวอย่างจริงจังว่า “ไท่จูเป็นยอดบุรุษเมื่อสามร้อยปีก่อน สติปัญญาและความกล้าหาญของเขา ไม่มีใครในประวัติศาสตร์หัวเซี่ยกว่าพันปีสามารถเทียบเคียงได้ ตอนนี้กระบี่ของไท่จูได้ปรากฏขึ้นในโลกอีกครั้ง และกลับมาอยู่ในมือขององค์รัชทายาท จะเห็นได้ว่าไท่จูทรงปกปักษ์คุ้มครององค์รัชทายาท นี่เป็นสัญญาณบ่งบอกว่า เหล่าขุนนางจะเจริญรุ่งเรือง ความรุ่งโรจน์กำลังจะกลับมาอีกครั้ง และจะยิ่งใหญ่กว่าเดิม!” ฟังสิๆ อะไรที่เรียกว่าเยินยอ? นี่สิคือการเยินยอที่แท้จริงช่างเป็นทักษะประจบประแจงขั้นสูง จนทำให้ทุกคนที่อยู่รอบๆ ต่างรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องจริง แม้แต่หลี่เฉินก็ยังยิ้มแย้มแจ่มใสและมีความสุขหลังจากที่ได้ยินมัน ไม่มีข้าราชบริพารคนใดที่โง่เขลา พวกเขาไม่สามารถประจบได้ก่อนเป็นคนแรก อีกทั้งไม่มีใครกล้าแข่งกับซูเจิ้นถิง แต่นั่นก็ไม่ได้หยุดพวกเขาจากการเติมดอกไม้ แต่ละคนต่างก็ยกมือขึ้น และพูดเสียงดังว่า “ขอแสดงความยินดีกั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-05
  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 199

    ไห่ตงชิงตัวนี้ เมื่อเทียบกับโสมก่อนหน้านี้ หรือโดยเฉพาะต้าเหลียงหลงเชวี่ยแล้ว ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้สำคัญขนาดนั้นแต่สำหรับหลี่เฉินแล้ว มันเหมาะกับเขาที่สุด ความสุขนั้นเกินคำบรรยาย หลี่เฉินยกมือขึ้น จากนั้นก็มีองค์รักษ์เดินเข้ามารับกรงจากในมือของจินเสวี่ยยวน แต่ทว่า เมื่อไห่ตงชิงเห็นคนแปลกหน้าเดินเข้ามาใกล้ ดวงตาของมันก็ระเบิดความดุร้ายออกมา กางปีกออกเล็กน้อย อยู่ในท่าเตรียมพร้อมจู่โจม จินเสวี่ยยวนกล่าวว่า “นกตัวนี้มีจิตวิญญาณ หากคนทั่วไปเดินเข้ามาใกล้ มันก็จะโจมตีทันที หม่อมฉันจำเป็นต้องถวายมันให้กับฝ่าบาทด้วยตัวเอง” ขุนนางบางคนขมวดคิ้วและพูดว่า “เมื่อเป็นเช่นนั้น หากมันทำร้ายฝ่าบาทขึ้นมาจะทำเช่นไร?” จินเสวี่ยยวนส่ายหน้า “ในเมื่อมีจิตวิญญาณ มันย่อมรู้ว่าฝ่าบาทคือเจ้าของของมันในอนาคต เมื่อมันยอมรับเป็นเจ้าของ มันก็จะจำเจ้าของไปตลอดชีวิต” ในขณะที่พูด จินเสวี่ยยวนก็เดินมาที่หน้าโต๊ะของหลี่เฉิน หลี่เฉินลังเลเล็กน้อย เมื่อมองอย่างใกล้ชิดก็จะเห็นกรงเล็บและจงอยปากที่แหลมคมของไห่ตงชิง ซึ่งคมกว่าดาบหรือกระบี่ ดวงตาที่ดุร้ายของมันกำลังจ้องมองมาที่ตน ทำเป็นเล่นไปกรงเล็บนี่ส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-05
  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 200

    ภายในพระที่นั่งคังไท่เกิดความเงียบขึ้นครู่หนึ่ง ไม่มีใครกล้าพูดถึงหัวข้อประเภทนี้ บางคนถึงกับกลั้นเสียงลมหายใจของตัวเอง เพราะเกรงว่าจะดึงดูดความสนใจขององค์รัชทายาท ทุกคนต่างมุ่งความสนใจไปที่หลี่เฉิน ประโยคต่อไปของหลี่เฉิน ไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ มันก็จะส่งผลโดยตรงต่อการอยู่รอดของเสียนเฉา แต่หลี่เฉินกลับไม่ได้ให้คำตอบในทันที เขาหันไปถามซูเจิ้นถิงว่า “แม่ทัพซู ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้?” นี่คือบทละครที่ทั้งสองคนได้เตรียมไว้ล่วงหน้าซูเจิ้นถิงไม่ได้ตื่นตระหนก เขากำหมัดแล้วพูดว่า “กระหม่อมคิดว่าไม่เหมาะที่จะเห็นด้วยกับคำขอของเสียนเฉา”เมื่อประโยคนี้หลุดออกมา คณะทูตเสียนเฉาแต่ละคนก็เงยหน้าขึ้นมองซูเจิ้นถิง สายตาของพวกเขาแทบจะพ่นไฟออกมา และอยากจะฆ่าซูเจิ้นถิงให้ตาย แต่ซูเจิ้นถิงกลับไม่สะทกสะท้าน เขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึกว่า “สถานการณ์ในประเทศตอนนี้ยังไม่ดีนัก ก่อนหน้านี้มีภัยพิบัติทางธรรมชาติ ต่อมาพวกชาวซยงหนูก็พร้อมเคลื่อนทัพสู่ชายแดน สถานการณ์ในตอนนี้อาจจะดูเหมือนสงบ แต่จริงๆ แล้ว การเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียวก็อาจส่งผลต่อทั้งร่างกาย!” “ความ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-05
  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 201

    “ข้าคิดมาตลอดว่านั่นเป็นเพียงตำนาน ปีนั้นปู่ทวดของข้าได้เข้าร่วมกลุ่มค้นหาสมบัติของจักรพรรดิองค์ก่อน หลังจากเสียเวลาและเงินไปอย่างเปล่าประโยชน์ ก็ไม่พบอะไรเลย ข้าไม่คิดว่ามันจะเป็นความจริง?” “เป็นไปได้ไหมว่ามันจะเป็นเรื่องโกหก?” “เหลวไหล ต้าเหลียงหลงเชวี่ยเล่มนี้ ทั่วทั้งใต้หล้ามีอยู่แค่เล่มเดียว ใครสามารถปลอมแปลงมันได้บ้าง? ใครจะกล้าปลอมแปลงมันขึ้นมา?” “แน่นอนว่าต้าเหลียงหลงเชวี่ยเป็นกระบี่ของไท่จู ถ้าหากกล้าปลอมแปลงขึ้นมา ย่อมมีความผิดฐานก่อความไม่สงบ!” ความคิดเห็นต่างๆ นาๆ ได้แพร่กระจายไปทั่วกลุ่มข้าราชบริพารของต้าฉินอย่างควบคุมไม่ได้ ทุกคนต่างกระซิบกระซาบกัน ทั้งแววตาและน้ำเสียงเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ “ฝ่าบาท!” สวีฉังชิงลุกขึ้นยืน ในฐานะคนกลุ่มแรกๆ ที่ติดตามหลี่เฉิน ไม่ว่าจะตำแหน่งหรือความสามารถ สวีฉังชิงล้วนมีคุณสมบัติที่จะพูดเป็นคนแรกตอนนี้ “เรื่องสมบัติไท่จูเป็นเรื่องใหญ่ กระหม่อมคิดว่าควรจะจัดการเรื่องนี้ด้วยความระมัดระวัง หากเป็นเรื่องจริง ก็ไม่ต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายเพื่อนำสมบัติกลับคืนมา แต่ถ้าหากมีใครจงใจใช้สิ่งนี้เพื่อสร้างความสับสนให้กับสาธารณชนเพื่อบร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-06
  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 202

    ตอนนี้อำนาจขององค์รัชทายาทเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว เขาไม่ใช่คนที่ไร้อำนาจที่ทำอะไรไม่ถูกเมื่อต้องเผชิญหน้ากับสำนักราชเลขาอีกต่อไป พระราชโองการขององค์จักรพรรดิที่แต่งตั้งให้เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ทำให้อำนาจในมือขององค์รัชทายาทยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อยๆ หลายคนที่ปรากฏตัวที่นี่คืนนี้ มีไม่น้อยที่อยากจะเข้าร่วมกับองค์รัชทายาทล่วงหน้า เพื่อรับผลประโยชน์หลังจากมังกรทะยานฟ้า ดังนั้นจึงมีคนจำนวนมากที่พยายามอย่างหนักเพื่อคาดเดาความคิดขององค์รัชทายาท และปรับตัวให้เหมาะสมกับความชอบของเขา ถ้าเดาถูก ก็จะได้รับความชื่นชมจากองค์รัชทายาท แต่ถ้าหากเดาผิด ก็อาจจะประสบกับปัญหาได้ อย่างไรก็ตาม ยังมีคนอีกจำนวนมากที่เป็นคนของท่านราชเลขา ที่ซับซ้อนไปกว่านั้นคือ พวกเขาจะทำอย่างไรให้ท่านราชเลขาได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากเหตุการณ์นี้ ในขณะเดียวกันก็สร้างความเสียหายให้กับอำนาจขององค์รัชทายาท ส่วนคณะทูตเสียนเฉายิ่งสนใจการกินดื่มน้อยลงด้วยซ้ำ พวกเขากำลังคาดเดาความคิดขององค์รัชทายาท แม้กระทั่งอธิษฐานขอให้ราชสำนักต้าฉินตกลงที่จะส่งกองทัพออกมา ซึ่งนี่จะต้องได้รับการอนุมัติจากผู้มีอำนาจสู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-06
  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 203

    ในขณะนี้ รถม้าได้เริ่มเคลื่อนตัวไปข้างหน้าแล้ว รถม้าที่โยกเล็กน้อย ทำให้หลี่เฉินและจินเสวี่ยยวนซึ่งนอนทับกันในรถม้ารู้สึกได้ถึงการกระตุ้นประสาทสัมผัสที่ยอดเยี่ยม ในที่สุดหลี่เฉินก็เข้าใจแล้วว่าทำไมคนจำนวนมากถึงได้ชอบสวมเครื่องแบบ การแต่งกายของจินเสวี่ยยวนในวันนี้ ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นกว่าปกติจริงๆ เมื่อเห็นว่ามือเท้าของหลี่เฉินเริ่มไม่ซื่อสัตย์ จินเสวี่ยยวนก็โกรธจัด นางจับมือของหลี่เฉินแล้วกล่าวว่า “ไม่ได้!” ทั้งดวงตาและน้ำเสียงก็ดูหนักแน่น และการปฏิเสธครั้งนี้ก็เด็ดขาดกว่าครั้งก่อนๆ “ทำไม?” หลี่เฉินถาม จินเสวี่ยยวนโกรธจัด นางรู้สึกว่าไม่ว่าก่อนหน้านี้ ชายผู้นี้จะเป็นคนธรรมดาหรือว่าเป็นองค์รัชทายาทแห่งต้าฉิน คนๆ นี้ล้วนหน้าด้านไร้ยางอายอยู่ดี ยังจะกล้าถามอีกว่าทำไม? “เจ้าคือองค์รัชทายาทแห่งต้าฉิน ส่วนข้าคือองค์หญิงแห่งเสียนเฉา ไม่ก็คือไม่! หากเรื่องนี้แพร่ออกไป จะเกิดปัญหาใหญ่เอาได้!” จินเสวี่ยยวนกล่าว หลี่เฉินหัวเราะเบาๆ และถามว่า “เรื่องนี้จะแพร่ออกไปได้อย่างไร?” จินเสวี่ยยวนตกตะลึง และรู้สึกพูดไม่ออกเล็กน้อย “ใต้หล้านี้ไม่มีกำแพงใดที่สายลมเข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-06
  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 204

    เป้าหมายของจินเสวี่ยยวนและเสียนเฉาทั้งหมดมีเพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้น นั่นคือการทำให้หลี่เฉินใช้อำนาจขององค์รัชทายาทผลักดันข้อสรุปเรื่องส่งทหารไปที่เสียนเฉา แต่ปัญหาก็คือ เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์และสภาพแวดล้อมของต้าฉินในปัจจุบันแล้ว หลี่เฉินจะต้องจ่ายราคามหาศาลเพื่อบังคับส่งทหารออกไป แต่จินเสวี่ยยวนไม่ได้พิจารณาสิ่งเหล่านี้ นางแค่ต้องการให้ทหารจากต้าฉินเข้าสู่ดินแดนของตัวเอง เพื่อต่อสู้กับตงอิ๋งและกอบกู้ประเทศของนางมันไม่เกี่ยวว่าดีหรือแย่ มันก็แค่สัญชาตญาณเห็นแก่ตัวตามธรรมชาติของมนุษย์ แต่หลังจากทะลุมิติมาแล้ว หลี่เฉินก็ไม่อยากทำตัวเป็นสุนัขเลีย[footnoteRef:1]ผู้หญิงคนไหนอีก [1: เลีย อุปมาว่าประจบสอพลอ ตามเอาอกเอาใจ] ไม่ว่าจะสวยแค่ไหนก็ตาม ถ้าจะเลีย เขาจะต้องเป็นคนที่ถูกเลียเอง คำพูดของหลี่เฉินสมจริงมากจนแทบจะไร้ความปรานี ทำให้จินเสวี่ยยวนที่ต้องการจะหักล้างคำพูด แต่เมื่อความจริงมาวางไว้ตรงหน้า นางก็รู้ตัวว่าไม่ได้คิดจริงๆ ว่าหลี่เฉินจะต้องจ่ายเท่าไรเพื่อสนองความปรารถนาของนาง ดังนั้นความมั่นใจของจินเสวี่ยยวนจึงลดลง “แต่เรื่องแบบนี้จะทำได้ก็ต่อเมื่อชายและหญ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-06
  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 205

    “องค์หญิง...” ขุนนางเสียนเฉาที่มีเคราแพะกำลังจะพูด แต่จินเสวี่ยยวนก้มศีรษะลงและไม่มองฝูงชน นางพูดว่า “เมื่อครู่ข้าเผลองีบหลับไป รบกวนทุกท่านรอนานแล้ว” พูดจบ จินเสวี่ยยวนก็เหยียบลงบนเก้าอี้ไม้ตัวเล็กแล้วลงจากรถม้า เพียงแต่ร่างกายของจินเสวี่ยยวนดูเหมือนจะอ่อนแอมาก จู่ๆ ขาของนางก็เกิดอ่อนแรงขึ้นมา จนเกือบจะล้มคว่ำ โชคดีที่สาวใช้ส่วนตัวของจินเสวี่ยยวนหูตาว่องไว จึงประคองนางได้อย่างรวดเร็ว แต่เมื่อสาวใช้สัมผัสตัวก็รู้สึกว่าพระวรกายขององค์หญิงร้อนผ่าว และใบหน้าอันสวยงามที่หลบเลี่ยงสายตาของทุกคน ก็ถูกปกคลุมไปด้วยสีแดงระเรื่อและเหงื่อเล็กๆ นี่มันคนเพิ่งตื่นที่ไหนกัน มันเหมือนคนที่เพิ่งออกกำลังกายเสร็จมากกว่า แต่สาวใช้คิดจนหัวแทบแตกก็คิดไม่ออกว่า องค์หญิงจะสามารถออกกำลังแบบไหนในรถม้าได้? “องค์หญิง พระองค์สบายดีหรือไม่?” สาวใช้ถามอย่างกังวล “สะ สบายดี” เพียงจินเสวี่ยยวนเปิดปากพูด สาวใช้ที่เติบโตมาข้างกายจินเสวี่ยยวนก็รู้ได้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติเสียงนี้นุ่มนิ่มเกินไป...นางเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง แค่ได้ฟังก็ยังรู้สึกรับไม่ไหวอยู่บ้าง “กลับไปกันเถอะ” จินเสวี่ยย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-07

บทล่าสุด

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 722

    เมื่อเห็นสวีหยวนต๋าและคนอื่นๆ แสดงท่าทีตอบรับ หลี่เฉินลุกขึ้นกล่าวว่า “เอาเถอะ เรื่องนี้จัดการตามนี้แล้วกัน”จากนั้นเขาก็เอามือไพล่หลังเดินออกจากหลันเยว่เซวียน ก่อนจะเหลือบมองเหล่าหนุ่มน้อยที่ยังคุกเข่าอยู่หน้าประตู ในยามกลางวันเช่นนี้ การให้พวกเขาคุกเข่าอยู่นั้นก็เท่ากับเป็นการลงโทษให้ผู้คนเห็น คนเหล่านั้นต่างก้มหน้าก้มตาไม่กล้าสบสายตาใคร ทั้งยังมีกลิ่นเหล้าคละคลุ้ง“คุกเข่าให้ครบสองชั่วยามแล้วค่อยลุก จากนั้นส่งตัวตรงไปยังค่ายทหาร”หลี่เฉินกล่าวทิ้งท้าย ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเขาเชื่อว่าสวีหยวนต๋าและพวกจะไม่กล้าทำท่าทีตีสองหน้าเพราะหน่วยบูรพาเฝ้าจับตาอยู่ใกล้ๆใครกล้าเล่นตุกติก ไม่ใช่แค่ลูกชายจะถูกส่งไป แม้แต่พ่อก็อาจจะต้องตามไปด้วยเมื่อหลี่เฉินจากไป สวีหยวนต๋าและบรรดาบิดาจึงเดินมายังหน้าลูกชายของตน ก่อนจะฟาดฝ่ามือใส่พวกเขาด้วยความโกรธสวีหยวนต๋าไม่ฟาดลูกชายตัวเอง เพราะใบหน้าของลูกชายเขาก็เหมือนหัวหมูอยู่แล้วเขาชี้ไปที่ลูกชายตนพร้อมกล่าวด้วยความเจ็บใจว่า “เจ้ามันไร้ความสามารถโดยแท้ วันนี้ถือว่าโชคดีนัก ไม่เช่นนั้น ตระกูลเราคงต้องถูกเจ้าทำให้พินาศหมดสิ้นแน่!”ลูกชายเขาถามด

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 721

    หลังจากส่งตัวจ้าวไท่ไหลไปแล้ว หลี่เฉินจึงเรียกสวีหยวนต๋าและคนอื่นๆ ที่ยืนตัวสั่นอยู่ด้านนอกให้เข้ามาซึ่งนำโดยซ่างกวนเจา เบื้องหลังเขามีขุนนางระดับสูงหลายคน ทั้งหมดล้วนเป็นผู้มีอำนาจแท้จริง และล้วนมาจากกลุ่มสำนักราชเลขาจุดนี้ หลี่เฉินยังพอใจอยู่บ้างอย่างน้อยขุนนางฝั่งตำหนักบูรพาเหล่านี้ล้วนถูกคัดเลือกโดยหลี่เฉินเอง โดยคำนึงถึงภูมิหลังตระกูลเป็นสำคัญ และต้องมีการอบรมลูกหลานที่เหมาะสม ไม่เช่นนั้น หากวันนี้พบว่าลูกหลานขุนนางตำหนักบูรพาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ คงจะเป็นเรื่องน่าอับอายยิ่งนัก"กระหม่อมทั้งหลาย ถวายบังคมองค์รัชทายาท ขอพระองค์ทรงพระเจริญพันปี พันปี พันๆ ปี"สวีหยวนต๋าและคนอื่นๆ ก้มศีรษะต่ำ ขณะเดินเข้ามาในห้อง ก่อนจะคุกเข่าถวายบังคมโดยไม่พูดสิ่งใดหลี่เฉินนั่งเอนหลังบนเก้าอี้ ขาข้างหนึ่งพาดขึ้นอย่างสบายอารมณ์ ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา "การที่พวกเจ้าชอบมาป้วนเปี้ยนทำเรื่องวุ่นวายต่อหน้าข้า อย่าว่าแต่ไม่มีทางเป็นไปได้เลย ต่อให้พวกเจ้าอยู่จนถึงพันปี ก็มีแต่จะทำให้ชาวบ้านสาปแช่งไปอีกหลายปีเท่านั้น"คำพูดเปิดหัวของหลี่เฉินแสดงให้เห็นชัดเจนว่าคงไม่มีทางจบเรื่องนี้ง่ายๆในสถาน

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 720

    เมื่อจ้าวไท่ไหลนึกถึงความใจกว้างที่ผิดปกติของบิดาในวันนี้ อีกทั้งการที่บิดาออกคำสั่งให้เขาหาผู้หญิงมาปรนนิบัติ และกำชับว่าให้หาวิธีทำให้ผู้หญิงคนนั้นตั้งครรภ์ภายในหนึ่งเดือน...ในตอนนั้น จ้าวไท่ไหลไม่ได้คิดลึกซึ้ง เขาเพียงคิดว่าบิดาที่มีอายุมากอยากมีหลานเพื่อสัมผัสความสุขในบั้นปลายชีวิต แต่ตอนนี้ เมื่อมองย้อนกลับไป นั่นชัดเจนว่าเป็นการเตรียมการเพื่อรักษาสายเลือดของตระกูลจ้าวเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ จ้าวไท่ไหลก็รู้สึกเหมือนตกลงไปในหลุมเย็นเยือกไม่มีใครอยากตาย โดยเฉพาะเมื่อต้องตายด้วยน้ำมือของบิดาตนเอง"อยากรอดชีวิตหรือไม่?"คำถามของหลี่เฉินดังก้องในจิตใจของจ้าวไท่ไหล ราวกับเสียงเย้ายวนจากปีศาจในห้วงลึกจ้าวไท่ไหลสะดุ้ง เขามองหลี่เฉินด้วยความระแวงและไม่ไว้ใจ พร้อมพูดว่า "พระองค์จะใจดีขนาดนั้นเชียวหรือ? หรือพระองค์อยากใช้กระหม่อมเพื่อต่อต้านท่านพ่อ?""คนที่ให้กำเนิดและเลี้ยงดูเจ้าคือพ่อของเจ้า แต่ตอนนี้เขาต้องการฆ่าเจ้า เจ้าจะยังยอมรับเขาอยู่หรือ?"หลี่เฉินพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย "ไม่ต้องกังวล ข้ามีวิธีจัดการกับจ้าวเสวียนจี โดยไม่ต้องพึ่งเจ้า อีกอย่าง เจ้าจะช่วยอะไรข้าได้? เจ้าทำอะไ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 719

    เศษถ้วยชาแตกกระจายพร้อมน้ำที่หกทั่วพื้น จ้าวไท่ไหลกลิ้งไปมาบนพื้นพร้อมกับร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดภาพที่เห็นทำให้คนในตระกูลหลิวต่างสูดหายใจลึกด้วยความตกใจหลิวซือฉุน ซึ่งเป็นแกนหลักของตระกูล ได้แต่เก็บสีหน้าเคร่งขรึม ไม่กล้าเอ่ยปากส่วนหลิวซือต๋าที่ใบหน้าบวมช้ำ มองไปที่หลิวซือฉุน จากนั้นมองไปที่หลี่เฉิน เขารู้สึกมั่นใจขึ้นมาในทันทีมั่นใจเต็มร้อยองค์รัชทายาททรงแสดงออกชัดเจนว่ามีความสนใจในตัวน้องสาวของเขาเมื่อคิดเช่นนี้ หลิวซือต๋าถึงกับมีท่าทางเบิกบานธุรกิจ คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้มไม่เพียงแต่เขา ลุงสามแห่งตระกูลหลิว ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ ก็มีสายตาที่เปล่งประกายด้วยความหวังเช่นกันคนที่เข้าใจสถานการณ์ ย่อมเข้าใจดีในขณะเดียวกัน จ้าวไท่ไหลที่ยังเจ็บปวดทรมานอยู่บนพื้นร้องออกมาด้วยเสียงสั่นเครือ “กระหม่อมไม่รู้อะไรเลย! ท่านพ่อของบอกว่าจะส่งกระหม่อมไปจินหลิงในเดือนหน้า กระหม่อมเพียงแค่อยากหาอะไรไปทำเงินที่นั่นเพื่อใช้จ่าย หากรู้ว่านี่คือธุรกิจขององค์ชาย กระหม่อมไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวเด็ดขาด!”คำพูดของจ้าวไท่ไหลเป็นความจริงจากใจแต่ในขณะนั้นเอง หลี่เฉินจับประเด็นเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ในคำพูดข

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 718

    เมื่อถูกหลี่เฉินจับยกขึ้นไว้ ชายหนุ่มคนนั้นถึงกับชาดิกทั้งตัวเขามองหลี่เฉินด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ ขาทั้งสองอ่อนแรงจนเกือบทรุดลง หากไม่ใช่เพราะหลี่เฉินจับคอเสื้อไว้ เขาคงคุกเข่าลงกับพื้นไปแล้ว“ขะ...ข้า...”เขาอ้ำอึ้งอยู่พักใหญ่ พูดอะไรไม่ออก สุดท้ายได้แต่หันไปมองจ้าวไท่ไหลด้วยสีหน้าอ้อนวอนและพูดเสียงเบาว่า “พี่จ้าว ช่วยข้าด้วย”จ้าวไท่ไหลขนลุกวาบเขาเป็นคนเดียวที่รู้ตัวตนที่แท้จริงของหลี่เฉินดี และการจะช่วยชายหนุ่มคนนี้คงไม่มีทางเป็นไปได้ ตอนนี้จ้าวไท่ไหลอยากจะชกเจ้าคนโง่ที่ดึงเขามาเดือดร้อนนี้ให้ตายไปเสีย“อย่าหวังให้เขาช่วยเจ้าเลย ตอนนี้ตัวเขาเองยังเอาตัวไม่รอด”หลี่เฉินปล่อยคอเสื้อชายหนุ่มลง ก่อนนั่งลงบนเก้าอี้รับแขก ไขว่ห้างอย่างสบายอารมณ์ แล้วกล่าวเรียบ ๆ ว่า “พวกเจ้าทั้งหมด ไปคุกเข่าเรียงกันที่หน้าประตูร้าน คอยจับตาดูกันเอง ใครลุกขึ้นหรือขยับตัวผิดปกติ ให้คนที่รายงานกลับได้ ส่วนคนที่ถูกรายงาน ให้ลากออกไปทุบให้ตายซะ”คำพูดของหลี่เฉินทำให้ใบหน้าของชายหนุ่มในกลุ่มเขียวคล้ำการที่ต้องไปคุกเข่าหน้าร้านหลันเยว่เซวียนให้คนทั้งถนนเห็น คงเป็นเรื่องที่เสียหน้าอย่างร้ายแรงสองคนใน

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 717

    จ้าวไท่ไหลคิดจะหลบหนี แต่หลี่เฉินไม่มีทางปล่อยให้เขาไปง่ายๆหลี่เฉินยกมือวางบนบ่าของจ้าวไท่ไหล พลางกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ดูไม่เป็นมิตร “ทำตัวอวดดีแล้วคิดจะหนีไปง่ายๆ? ใต้หล้านี้มีเรื่องเช่นนั้นด้วยหรือ?”จ้าวไท่ไหลตัวสั่นไปทั้งร่าง สีหน้าเหมือนจะร้องไห้ขณะพูดว่า “ข้า...ข้ามีตาหามีแววไม่...”หลี่เฉินตบไหล่จ้าวไท่ไหลเบาๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยว่า “เมื่อครู่เจ้ากร่างมากไม่ใช่หรือ? แล้วทำไมตอนนี้ถึงดูขลาดเขลาไปล่ะ?”“ทำต่อสิ”“คนสุดท้ายที่พูดกับข้าเช่นเจ้า ข้าตัดหัวเขาเองกับมือ”หลี่เฉินยิ้มสดใสให้จ้าวไท่ไหล แต่คำพูดของเขาเย็นชาอย่างน่าสะพรึง “เจ้าก็อยากลองดูบ้างหรือ?”ชายหนุ่มที่เพิ่งถูกจ้าวไท่ไหลตบหน้าไปก่อนหน้านี้ ยังคงโมโห แต่ไม่กล้าหันไปหาเรื่องจ้าวไท่ไหล จึงพาลไม่พอใจหลี่เฉินแทน“เจ้าเป็นใครกันแน่…”เพี๊ยะ!หลี่เฉินสวนกลับด้วยการตบหน้าชายหนุ่มคนดังกล่าว ทำให้เขาสงบปากได้ทันทีชายหนุ่มที่เพิ่งถูกตบหน้าทั้งซ้ายขวาภายในเวลาไม่นาน ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าของเขามีรอยฝ่ามือที่ชัดเจนความเจ็บปวดร้อนผ่าวทำให้เขาสร่างเมาไปไม่น้อย เมื่อเขามองดูจ้าวไท่ไหลที่ไม่กล้าแม้แต่จะเ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 716

    เมื่อได้ยินเสียงนั้น จ้าวไท่ไหลรู้สึกคุ้นเคยทันทีแต่ไม่ว่าจะพยายามคิดแค่ไหน เขาก็จำไม่ได้ว่าเคยได้ยินเสียงนี้จากที่ใดฤทธิ์สุราทำให้ความคิดไม่แจ่มชัด แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ เปิดปากด่าทันที “ใครมันไม่เจียมตัวมาพูดพล่อยๆ ตรงนี้? เจ้ามีสิทธิ์พูดกับข้าหรือ? ออกมาให้ข้าต่อยจนฟันร่วงเดี๋ยวนี้!”พูดไม่ทันขาดคำ เขาก็เห็นชายหนุ่มผู้หนึ่งเดินเข้ามาจากนอกประตูชายผู้นั้นสวมชุดยาวสีขาวมุกทอด้วยไหมชั้นดี มวยผมทรงนักปราชญ์คาดด้วยปิ่นหยกขาวที่ประณีตงดงาม ไม่ฉูดฉาดแต่กลับดูสูงส่งและสมบูรณ์แบบเสื้อชั้นในสีขาวงาช้างกับเข็มขัดหยกยิ่งเสริมให้ชายผู้นั้นดูโดดเด่นราวกับเทพบุตรในภาพวาดเขามีท่วงท่าที่สง่างาม ร่างกายสูงโปร่ง บารมีล้นเหลือทุกสายตาที่มองเห็น ต่างอดไม่ได้ที่จะชื่นชมในความงามสง่าของชายผู้นี้แต่เมื่อจ้าวไท่ไหลเห็นใบหน้าของชายหนุ่มผู้นั้น ความเมา ความไม่พอใจ และความหยิ่งยโสบนใบหน้าก็หายไปหมดสิ้นร่างของเขาแข็งทื่อเหมือนถูกจับจ้องโดยสัตว์ร้ายยุคดึกดำบรรพ์ ไม่กล้าขยับแม้แต่น้อยจ้าวไท่ไหลไม่มีวันคาดคิดเลยว่าจะได้พบกับองค์รัชทายาทหลี่เฉินในที่แห่งนี้!เขารู้สึกเหมือนลมหายใจหยุดชะงัก ร่างกายช

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 715

    ในยามปกติ ต่อให้ให้หลิวซือต๋าจะมีความกล้าเป็นสิบเท่า เขาก็ไม่กล้าล่วงเกินจ้าวไท่ไหลแต่เวลานี้สถานการณ์ต่างออกไปเมื่อเห็นน้องสาวของตนกำลังจะถูกลวนลาม เขาในฐานะพี่ชาย หากยังนิ่งเฉย ก็เหมือนหาความอับอายใส่ตัวเองยิ่งไปกว่านั้น หลิวซือต๋ารู้ดีว่าผู้มีอิทธิพลสูงสุดที่เป็นกำลังสำคัญของตระกูลกำลังมองสถานการณ์ทั้งหมดจากด้านนอกเขามั่นใจว่า หลิวซือฉุนน้องสาวของตน ย่อมเป็นที่โปรดปรานขององค์รัชทายาทแห่งตำหนักบูรพา มิฉะนั้นตระกูลหลิวจะได้ประโยชน์มากมายเช่นนี้ได้อย่างไรด้วยเหตุนี้ เขายิ่งไม่มีทางถอยหลังจ้าวไท่ไหลแล้วอย่างไร? ตระกูลของเขาจะยิ่งใหญ่เพียงใด ก็ไม่มีวันเทียบเท่ากับองค์รัชทายาทแห่งตำหนักบูรพาได้เมื่อข้อมือถูกจับ พร้อมกับคำพูดกระทบกระเทียบอย่างไม่อ้อมค้อมของหลิวซือต๋า ทำให้จ้าวไท่ไหลถึงกับอึ้ง“นี่! ตระกูลหลิวช่างกล้าจริงๆ นะ แม้แต่ข้าก็กล้าขวาง?!”เขากล่าวด้วยน้ำเสียงหยามเหยียด ก่อนจะกระชากมือกลับ แล้วฟาดฝ่ามือเข้าที่ใบหน้าของหลิวซือต๋าอย่างแรงแรงตบทำให้หลิวซือต๋าหมุนไปครึ่งรอบ และเกือบล้มลงกับพื้นหลิวซือฉุนที่ยืนอยู่ใกล้รีบพุ่งเข้ามาพยุงพี่ชายด้วยความตกใจ เพื่อป้องกันไ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 714

    หลันเยว่เซวียนสาขานี้ ที่เคยเต็มไปด้วยผู้คนต่อแถวยาวเหยียด เมื่อครู่ก็ถูก "เชิญ" ออกจากร้านอย่างสุภาพหลันเยว่เซวียนที่บรรยากาศคึกคักเมื่อครู่นี้ ตอนนี้กลับเงียบสงัดจ้าวไท่ไหลนั่งอยู่บนเก้าอี้รับรอง ไขว่ห้างพลางรอเวลาให้สร่างเมาเหล่าคุณชายที่ติดตามเขามาด้วย พูดคุยหัวเราะเสียงดังอย่างไม่สนใจใคร อาศัยฤทธิ์สุรา สั่งเอาของกินของดื่มจากร้านมาวางเกลื่อนพื้น ราวกับเป็นของส่วนตัวไม่เพียงแค่ลุงสามแห่งตระกูลหลิว แม้แต่พนักงานคนอื่นๆ ในร้านต่างก็เดือดดาลในใจ แต่ไม่มีใครกล้าแสดงออก ได้แต่ยืนกัดฟันด้วยความขุ่นเคือง ปล่อยให้พวกอันธพาลในคราบคุณชายเหล่านี้ทำตามใจเมื่อเวลาหนึ่งเค่อผ่านไป จ้าวไท่ไหลพลันแค่นเสียงเย็นชาออกมา พลางพูดขึ้นช้าๆ “ดูเหมือนว่าพวกตระกูลหลิวจะไม่เห็นหัวข้าจริงๆ สินะ”พูดจบ เขาฟาดมือลงบนโต๊ะน้ำชาอย่างแรง จนน้ำชาในถ้วยกระเด็นหกเลอะเทอะ“หรือว่าพวกเจ้าคิดว่าข้าไม่สามารถทำให้หลันเยว่เซวียนหายไปจากเมืองหลวงได้จริงๆ!?”ลุงสามแห่งตระกูลหลิวรีบก้าวออกมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียดพร้อมกล่าวอ้อนวอน “คุณชายจ้าว โปรดระงับโทสะ โปรดระงับโทสะเถิด ข้าน้อยได้ส่งคนไปแจ้งหัวหน้าตระกูลแล้ว นางก

DMCA.com Protection Status