" อื้มมมมม ... ไอ้บ้าเอ๊ย! "เสียงสาวเจ้าตวาดดัง หลังดันแผงอกแกร่งสำเร็จ เพียงแต่คราวนี้ไม่ได้ตบหน้า เธอช้อนตาขึ้นมองเท่านั้น ขณะหอบตัวโยน" จะขัดขืนทำไม ทำเหมือนคนไม่เคย "และก็ต้องกำหมัดแน่นทีหลังเพราะคำนี้" นี่!!! "ทำท่าจะหวดฝ่ามือไปใหม่ กลับถูกคนตรงหน้าดึงไปกอดซะก่อน" หมอบลู "เขากำชับวงแขนแน่นจนเธองง ต้องยกมือค้างไว้แบบนั้น พร้อมกะพริบตาปริบๆ" ...."" ผมอยากรู้ใจคุณ โดยที่เราไม่ต้องทะเลาะกันอย่างนี้ คุณช่วยผมหน่อยได้ไหม "" เอ๋..."" ตอนนี้ผมโคตรจะสับสนเลย คุณเป็นคนยังไงกันแน่ "ก่อนประโยคเสียงแผ่วนี้ จะทำให้เธอเงียบไปจริงๆ ร่างกายทุกสัดส่วนนิ่ง คิดไม่ถึงว่าคุณคอปจะเป็นคนเอาใจใส่ขนาดนี้" คือฉัน.."" ผมขอร้อง "" ทำไม.."" เพราะผมเริ่มจะรักคุณเข้าจริงๆ แล้วไง ""O.O "มันคือประโยคหนึ่ง ที่สามารถสร้างความเงียบภายในใจหมอบลูได้ สงัดซะจนเธอได้ยินหัวใจของตัวเอง ทว่าคนไร้ความหวั่นไหวอย่างเธอ ทำได้แต่ยืนนิ่ง มีเพียงแววตาเท่านั้นที่เบิกกว้าง กับใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ" รัก...หรือ..."เธอทวนคำพูดนั้นเสียงแผ่วเหมือนไม่อยากจะเชื่อ ก่อนท่อนแขนกำชับแน่นกว่าเดิมเพื่อเพิ่มความมั่นใจ หมอบลูถ
ความเงียบเกิดขึ้นหลังจากนั้นทันที คำบอกเล่าบางคำสามารถบีบหัวใจคนฟังได้ก็ต่อเมื่อเหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้นจริงกับคนที่รัก ไม่ว่ามันจะผ่านมานานแค่ไหน หรือกลายเป็นอดีตไปแล้วก็ตาม..ใช่ คุณคอปกำลังเป็นคนๆ นั้น ที่ตอนนี้นิ่งซะจนคนพูดต้องกลืนน้ำลายลงคอเป็นระลอก เขาไม่ไหวติง แถมม่านตาที่เบิกขึ้นเล็กน้อยยังมองทะลุกระจกออกไปนอกรถอีก บ่งบอกให้หมอบลูรับรู้เป็นนัยๆว่า หล่อนไม่ควรเงียบ ปล่อยเรื่องนี้ให้ผ่านเลยไป หากเกริ่นมาแบบนี้แล้ว จะทำให้เขาเข้าใจผิดและค้างคาเข้าไปใหญ่ นั้นเลยทำให้เธอต้องรีบดำเนินเรื่องราว มันเป็นอะไรที่ลำบากเหมือนกันนะ ที่จะต้องมานั่งเล่าเหตุการณ์ที่เกลียด และขยะแขยงที่สุดในชีวิต แถมในรถแบบนี้ด้วย ซึ่งมันไม่เหมาะสมที่สุดกับคนคิดจะหลีกหนี....ทว่า เธอมีทางเลือกที่ไหนกันล่ะย้อนเวลากลับไปกว่ายี่สิบปีก่อนปราโมทย์ หนุ่มนักธุรกิจชีวิตกำลังโลดแล่น อูฟู่รุ่งโรจน์ซะจนใครต่อใครต่างอิจฉา เขามีนิสัยเจ้าชู้สำส่อนเป็นชีวิตจิตใจ ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าในแต่ละเดือน หกเดือนเปลี่ยนครั้งอย่างกับเปลี่ยนเสื้อผ้า เด็กหญิงบูรพา หรือหมอบลู ได้แต่นั่งขมขื่นก้มหน้าเจียมตัวทุกครั้งหลังปราโมทย์สั่งให้เธ
เหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำหมอบลูเจ็บปวดไม่หาย เธอนั่งเล่าอย่างใจเย็น ในขณะกรงเล็บของอุ้งมือนั้นจิกลงบนแขนไม่ขาดสาย ลำคอตอนนี้มันฝืดไปหมด เสมือนน้ำลายกลายเป็นหนามตำเสียดเนื้อยามที่เธอกลืนมันลง บวกกับสมองที่เคยเต็มไปด้วยความดื้อรั้น ยามนี้ตื้อไปหมด ไม่หลงเหลือแล้วหมอบลูคนเดิม ก่อนก้อนน้ำตาเม็ดใหญ่ที่ร้อนที่สุดหยดนึงจะตกลงกลางแขน มือใหญ่ข้างกายกลับมาดึงไปกุมไว้" บอกผมสิ..ที่รัก ..คุณรอดมาได้ยังไง "เสียงที่สะท้อนความเจ็บปวดออกมาเปล่งขึ้น คุณคอปรู้สึกร่างกายทั้งร่างกำลังไร้เรี่ยวแรง แต่ยังคงต้องฝืนไว้ เพื่อจะถามต่อ ขณะในหัวเขาตอนนี้ย้อนกลับไปในช่วงเวลาแห่งวันวาน....ภาพร่างเปลือยเปล่าขาวโพลนของผู้หญิงคนหนึ่ง.... ตาที่หลับพริ้มยามที่มีความสุขกับเขา....และคราบเลือดพรหมจรรย์ที่มันตราหน้าว่าเธอยังคงบริสุทธิ์อยู่ หมอบลูรอดมาได้ไง เขาอยากรู้" บลู... ฮึก.. โชคดีมากค่ะ ที่มันคิดจะผลัดกันทีละคน ส่วนอีกสองคนไปดูต้นทาง..."แววตาที่เจ็บปวดพร่ามัวไปด้วยน้ำตาคลอเบ้า ช้อนมองเขา เธอพยายามจะบอกบทสรุปไคลแม็กซ์ที่เป็นจุดเปลี่ยนกับชีวิตเธอให้เขารู้อย่างแน่วแน่ แม้ตอนนี้...หัวใจก้อนเท่ากำปั้นของมือเรียวบางนั
ตะวันสายโด่ง คำว่าสิบนาทีของคุณคอปคงทำคุณนายอารีย์เจ็บใจ ทว่าเขาหาแคร์ไม่ ร่างสูงสง่ากล้ามเนื้อเป็นมัดๆ บ่งบอกถึงการผ่านฟิตเนสมาเป็นอย่างดี ท่อนบนไร้เสื้อ ต่างกับท่อนล่างที่ยังคงเหลือกางเกงยีน เขายืนอยู่ข้างหน้าต่าง ซึ่งอยู่หลังม่าน หากเก็บม่านก็จะเป็นกระจกใสทำให้เห็นวิวยามเช้าได้ชัดๆ นั่นเองสายตาสีดำทมิฬ เหม่อลอยแฝงเจือปนความเลศนัยทะลุกระจกบานนั้น ขณะกำลังใจจด ใจจ่อ รอคนที่ต้องการจะคุยด้วยโทรกลับมาเมื่อสิบห้านาทีก่อน คุณคอปต่อสายไปหาเพื่อนเก่าคนหนึ่ง ที่เคยสนิทในสมัยเรียนอยู่เมืองนอก แต่พักหลังเริ่มห่างหายกันไปเพราะต่างคนต่างต้องทำหน้าที่ของตัวเอง ทว่าติดประชุมไม่สะดวกคุยในตอนนั้นๆปากเป็นกระจับพ่นควันบุหรี่ฆ่าเวลา ขณะเจ้าสาวป้ายแดงชำระร่างกายอยู่ในห้องน้ำ หมอบลูตื่นตั้งแต่เช้า คิดจะออกไปทำงานตามปกติ ทว่าไม่ทันได้ย่างเท้าเลยเขต กลับถูกพ่อตัวแสบเจ้าของบ้านยื้อไว้ซะก่อน เขาห้ามเสียงแข็งไม่ยอมให้เธอนั้นได้ทำตามใจ อ้างว่าต้องอยู่พบกับนายแม่ เธอเลยได้แต่นั่งอึดอัดอยู่บนเตียงดังเดิม จนกระทั่งขอตัวไปอาบน้ำอีกรอบติ๊ดๆๆไม่นานเสียงโทรศัพท์ไม่ดังมากร้องขึ้น พร้อมกับหน้าจอกะพริบโชว์ชื่อคนโ
หลายวันผ่านไป เรื่องราวดูเหมือนจะสงบสุข ในชีวิตประจำวันหลังจากนั้นของหมอบลูคิดว่าปกติ ทั้งเรื่องงานที่คลินิก และคอนโดที่บางคราสลับกันเทียวไปเทียวมา เพราะยังคงต้องดูแลบอลเหมือนเดิม ส่วนเพื่อนร่วมงานอย่างเช่นหมอนนท์ เขาเองยังคุยด้วยปกติทุกอย่าง เว้นแต่ว่าไม่สนิทใจเหมือนเดิม ทว่าตรงจุดนี้ไม่ได้ทำให้คนไม่สนโลกแบบหมอบลูระแคะระคายหรอกนับตั้งแต่วันนั้น หลังจากมีปัญหากับคุณนายอารีย์ นายแม่ของสามีตัวเอง เธอก็ถูกปฏิเสธต่อการอยู่ร่วมทานข้าวทุกครั้ง บนโต๊ะอาหารถ้ามีหมอบลูจะต้องไม่มีคุณนาย ถ้ามีคุณนายจะต้องไม่มีอีกคน เป็นอย่างนี้ตลอดจนคนรอบข้างอึดอัด พวกเขารู้สึกไม่ดีที่บรรยากาศในบ้านต้องเป็นแบบนี้ ทว่า ต่างคนต่างไม่กล้าปราม ไม่กล้าแม้จะออกความคิดเห็นอะไร...ใช่! เพราะนั่น คือคนสำคัญกับพวกเขาที่สุดทั้งนั้นจนกระทั่งวันนี้งานวันเกิดของคุณนาย...ที่ไม่ได้ถูกจัดขึ้นมาให้ดูโอ่อ่าใหญ่โตอะไรอย่างที่แล้วมา มีเพียงการทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตา อยู่อวยพรด้วยกันและเชิญบุคคลสำคัญเข้ามาเพิ่มอีกคนเท่านั้น ทว่า...มันจะไม่เสียบรรยากาศเลย ถ้าแขกคนๆนั้น ไม่ใช่วรยา..หรือยาย่า... คู่หมั้นลูกชายคนกลาง คนที่คุณนายอารีย
สิ้นเดือนสำหรับคนอื่น สถานะชั้นกลางอาจจะใช้คำว่าเหมือนจะสิ้นใจ แต่สถานะระดับผู้บริหารอย่างคุณคอป หนึ่งในหุ้นส่วนของตระกูลใหญ่จรัญทิพย์ วันนี้คือวันเครียดและยุ่งเหยิงที่สุดเท่าที่เขาเจอะเจอมา“ แล้วยังไง มันไม่ยอมออกอย่างนั้นหรือ...”ร่างใหญ่ยืนเท้าสะเอวตระหง่านอยู่หน้าบานกระจกซึ่งกั้นตรงกลางระหว่างภายในห้องกับระเบียงนอกสายตาทอดยาวไปไกลลิบ ในสมองคิดหาทางออก ถึงบุคลากรคนหนึ่งซึ่งมีพฤติกรรมแย่มาโดยตลอด ทั้งแหกกฎวินัยของบริษัท ทั้งสร้างความเดือดร้อนแก่เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ไม่ว่างเว้น ก่อนหน้านี้เขาได้สั่งฝ่ายบุคคลให้รายงานเขา และสังเกตอยู่ตลอด แต่ช่วงนั้นมันอยู่ในช่วงกลางเดือนของเดือนที่แล้ว เลยได้แต่แจ้งใบเตือน จนกระทั่งวันนี้ ถึงเวลาแจ้งใบไล่ออกตามกฎของบริษัทสักที ทว่า เจ้าตัวกลับไม่ยินยอม แถมโวยวายอาละวาดจนได้เรื่อง(ครับบอส ทำลายข้าวของในออฟฟิศ และชกหน้าเพื่อนร่วมงานปากแตกไปอีกสองคน)“ บ้าชิบ! ไอ้หมอนี่มันชักจะเหิมเกริมกับกูมากไปแล้ว.. ตอนนี้มันอยู่ไหน?"ข่มเสียงต่ำ ประโยคหลังขมวดคิ้วถาม รอฟังเลขาพูดไปด้วย สวมนาฬิกาข้อมือไปด้วย(อาละวาดใส่ตำรวจที่ผมแจ้งมาข้างนอกครับ แถมตอนนี้นักข่าวเ
ตีสองในคืนเดียวกัน หลังกลับมาจากคฤหาสน์ใหญ่ คุณคอปไม่ได้แวะคอนโดซะทีเดียว แต่กลับมุ่งหน้าสู่ผับใจกลางเมือง ดื่มด่ำบรั่นดีจนกระทั่งเมาได้ที่ แล้วจึงเลิก ทว่าขากลับไม่วายควงหญิงมาด้วย มันคือสิ่งที่ทำประจำ และชอบเป็นชีวิตจิตใจ ขณะเวลาเดียวกัน ตึกคอนโดของเขา ห้องข้างๆ ยังคงเปิดไฟอยู่ ร่างบางเดินหุนหัน ผุดลุกผุดนั่งเสมือนร้อนใจ สายตาเฝ้ารอคอยน้องชายคนกลาง ชะเง้อชะแง้ทั้งๆ ที่ง่วงจะแย่ เมื่อตอนกลางวันหล่อนมีปากเสียงกับเขา หนักถึงขั้นถูกผลักจนล้มฟุบถนน ส่งผลให้คอนกรีตหยาบๆบาดผิวหล่อน ตึงแสบตั้งแต่ข้อศอกลามมายันเข่าคู่ ที่ตอนนี้เธอทำได้เพียงเอาปลาสเตอร์แปะมัน" บอลนะบอลทำไมถึงได้เหลวไหลอย่างนี้ "ปากบ่นเสียงแหบ สีหน้าและแววตาทุกข์ร้อนเต็มทน อันที่จริงหล่อนรู้มันคือเรื่องปกติ ที่น้องชายมีนิสัยแบบนี้ เที่ยวเตร่ติดเพื่อน สร้างความห่วงใยให้พี่สาวต่างแม่อย่างบลูต้องคอยเป็นห่วงเสมอ ทว่าวันนี้ ที่มันดูมากไป ถึงขั้นหล่อนปิดตาหลับไม่ลง นั่นก็เพราะบอลถูกคุมประพฤติอยู่ ความร้อนใจของหล่อน ทำก้นหล่อนอยู่ไม่ติด ชะเง้อคอรอนานแล้ว บอลก็ยังไม่กลับมา โทรหาไม่รับสาย อยู่เฉยๆ ยิ่งกระวนกระวายใจ สุดท้ายหนีไม่พ้นห
ร่างบางที่ไม่ผอมมาก จัดไปทางน่าถะนุถนอมเสียมากกว่า ราศีจับไม่ต่างกับลูกผู้มากรากดี หากไม่รู้จักกันมาก่อนมองเผินๆ คงนึกว่าเป็นคุณหนูแน่ๆ ทว่า ต่างกับเครื่องหน้าโดยสิ้นเชิง ที่ตอนนี้ซีดเผือดซะจนดูไม่ได้ เดินเชื่องช้าเข้ามายังคลีนิกสัตว์ไร้เรี่ยวแรงเพราะหล่อนยังไม่ได้นอนทั้งคืน" สวัสดีค่ะคุณหมอ "" ค่ะ คุณผู้ช่วย "ผู้ช่วยสัตวแพทย์คนหนึ่งเธอยิ้มแพรวพราวเป็นมิตร ขณะกำลังเดินสวนผ่าน บลูปลดกระเป๋าจากไหล่ตัวเองลง ก่อนจะดึงเสื้อกาวน์มาสวมทับ แล้วถึงจะทำหน้าที่ของตนปกติ ทว่า ไม่ทันได้เดินไปถึงห้องทำงาน ติ๊ด..ติ๊ด... โทรศัพท์ กลับร้องขัดเสียก่อน สาวเจ้าดึงมันออกมาดู ถึงกับกลอกตาด้วยความเซ็ง" คะ แม่.."(ไอ้บอลมีเรื่องอะไร ถึงถูกคุมประพฤติ)แล้วมาน่าฉงนเอาทีหลังเมื่อได้ยินคำถามนี้" แม่รู้แล้วรึจ๊ะ ใครบอกแม่ "(ใครจะบอก มันไม่สำคัญหรอก! เอาเป็นว่าไม่ใช่แกก็แล้วกัน)พลันมาเหน็บหล่อน"....."(ทำไมไม่บอกฉัน)" บลูแค่ไม่อยากให้แม่เครียดน่ะ เพราะคิดว่ายังไง คนจัดการและดูแลเรื่องนี้ ก็คือบลูอยู่แล้ว "(จ้า! แม่คนเก่ง ดูแลให้ดีก็แล้วกัน อย่าให้มันมากวนฉันอีกล่ะ)ประโยคหลังเธอจงใจเน้นคำ แล้วตัดสายทิ้ง
หลายวันผ่านไป เรื่องราวดูเหมือนจะสงบสุข ในชีวิตประจำวันหลังจากนั้นของหมอบลูคิดว่าปกติ ทั้งเรื่องงานที่คลินิก และคอนโดที่บางคราสลับกันเทียวไปเทียวมา เพราะยังคงต้องดูแลบอลเหมือนเดิม ส่วนเพื่อนร่วมงานอย่างเช่นหมอนนท์ เขาเองยังคุยด้วยปกติทุกอย่าง เว้นแต่ว่าไม่สนิทใจเหมือนเดิม ทว่าตรงจุดนี้ไม่ได้ทำให้คนไม่สนโลกแบบหมอบลูระแคะระคายหรอกนับตั้งแต่วันนั้น หลังจากมีปัญหากับคุณนายอารีย์ นายแม่ของสามีตัวเอง เธอก็ถูกปฏิเสธต่อการอยู่ร่วมทานข้าวทุกครั้ง บนโต๊ะอาหารถ้ามีหมอบลูจะต้องไม่มีคุณนาย ถ้ามีคุณนายจะต้องไม่มีอีกคน เป็นอย่างนี้ตลอดจนคนรอบข้างอึดอัด พวกเขารู้สึกไม่ดีที่บรรยากาศในบ้านต้องเป็นแบบนี้ ทว่า ต่างคนต่างไม่กล้าปราม ไม่กล้าแม้จะออกความคิดเห็นอะไร...ใช่! เพราะนั่น คือคนสำคัญกับพวกเขาที่สุดทั้งนั้นจนกระทั่งวันนี้งานวันเกิดของคุณนาย...ที่ไม่ได้ถูกจัดขึ้นมาให้ดูโอ่อ่าใหญ่โตอะไรอย่างที่แล้วมา มีเพียงการทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตา อยู่อวยพรด้วยกันและเชิญบุคคลสำคัญเข้ามาเพิ่มอีกคนเท่านั้น ทว่า...มันจะไม่เสียบรรยากาศเลย ถ้าแขกคนๆนั้น ไม่ใช่วรยา..หรือยาย่า... คู่หมั้นลูกชายคนกลาง คนที่คุณนายอารีย
ตะวันสายโด่ง คำว่าสิบนาทีของคุณคอปคงทำคุณนายอารีย์เจ็บใจ ทว่าเขาหาแคร์ไม่ ร่างสูงสง่ากล้ามเนื้อเป็นมัดๆ บ่งบอกถึงการผ่านฟิตเนสมาเป็นอย่างดี ท่อนบนไร้เสื้อ ต่างกับท่อนล่างที่ยังคงเหลือกางเกงยีน เขายืนอยู่ข้างหน้าต่าง ซึ่งอยู่หลังม่าน หากเก็บม่านก็จะเป็นกระจกใสทำให้เห็นวิวยามเช้าได้ชัดๆ นั่นเองสายตาสีดำทมิฬ เหม่อลอยแฝงเจือปนความเลศนัยทะลุกระจกบานนั้น ขณะกำลังใจจด ใจจ่อ รอคนที่ต้องการจะคุยด้วยโทรกลับมาเมื่อสิบห้านาทีก่อน คุณคอปต่อสายไปหาเพื่อนเก่าคนหนึ่ง ที่เคยสนิทในสมัยเรียนอยู่เมืองนอก แต่พักหลังเริ่มห่างหายกันไปเพราะต่างคนต่างต้องทำหน้าที่ของตัวเอง ทว่าติดประชุมไม่สะดวกคุยในตอนนั้นๆปากเป็นกระจับพ่นควันบุหรี่ฆ่าเวลา ขณะเจ้าสาวป้ายแดงชำระร่างกายอยู่ในห้องน้ำ หมอบลูตื่นตั้งแต่เช้า คิดจะออกไปทำงานตามปกติ ทว่าไม่ทันได้ย่างเท้าเลยเขต กลับถูกพ่อตัวแสบเจ้าของบ้านยื้อไว้ซะก่อน เขาห้ามเสียงแข็งไม่ยอมให้เธอนั้นได้ทำตามใจ อ้างว่าต้องอยู่พบกับนายแม่ เธอเลยได้แต่นั่งอึดอัดอยู่บนเตียงดังเดิม จนกระทั่งขอตัวไปอาบน้ำอีกรอบติ๊ดๆๆไม่นานเสียงโทรศัพท์ไม่ดังมากร้องขึ้น พร้อมกับหน้าจอกะพริบโชว์ชื่อคนโ
เหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำหมอบลูเจ็บปวดไม่หาย เธอนั่งเล่าอย่างใจเย็น ในขณะกรงเล็บของอุ้งมือนั้นจิกลงบนแขนไม่ขาดสาย ลำคอตอนนี้มันฝืดไปหมด เสมือนน้ำลายกลายเป็นหนามตำเสียดเนื้อยามที่เธอกลืนมันลง บวกกับสมองที่เคยเต็มไปด้วยความดื้อรั้น ยามนี้ตื้อไปหมด ไม่หลงเหลือแล้วหมอบลูคนเดิม ก่อนก้อนน้ำตาเม็ดใหญ่ที่ร้อนที่สุดหยดนึงจะตกลงกลางแขน มือใหญ่ข้างกายกลับมาดึงไปกุมไว้" บอกผมสิ..ที่รัก ..คุณรอดมาได้ยังไง "เสียงที่สะท้อนความเจ็บปวดออกมาเปล่งขึ้น คุณคอปรู้สึกร่างกายทั้งร่างกำลังไร้เรี่ยวแรง แต่ยังคงต้องฝืนไว้ เพื่อจะถามต่อ ขณะในหัวเขาตอนนี้ย้อนกลับไปในช่วงเวลาแห่งวันวาน....ภาพร่างเปลือยเปล่าขาวโพลนของผู้หญิงคนหนึ่ง.... ตาที่หลับพริ้มยามที่มีความสุขกับเขา....และคราบเลือดพรหมจรรย์ที่มันตราหน้าว่าเธอยังคงบริสุทธิ์อยู่ หมอบลูรอดมาได้ไง เขาอยากรู้" บลู... ฮึก.. โชคดีมากค่ะ ที่มันคิดจะผลัดกันทีละคน ส่วนอีกสองคนไปดูต้นทาง..."แววตาที่เจ็บปวดพร่ามัวไปด้วยน้ำตาคลอเบ้า ช้อนมองเขา เธอพยายามจะบอกบทสรุปไคลแม็กซ์ที่เป็นจุดเปลี่ยนกับชีวิตเธอให้เขารู้อย่างแน่วแน่ แม้ตอนนี้...หัวใจก้อนเท่ากำปั้นของมือเรียวบางนั
ความเงียบเกิดขึ้นหลังจากนั้นทันที คำบอกเล่าบางคำสามารถบีบหัวใจคนฟังได้ก็ต่อเมื่อเหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้นจริงกับคนที่รัก ไม่ว่ามันจะผ่านมานานแค่ไหน หรือกลายเป็นอดีตไปแล้วก็ตาม..ใช่ คุณคอปกำลังเป็นคนๆ นั้น ที่ตอนนี้นิ่งซะจนคนพูดต้องกลืนน้ำลายลงคอเป็นระลอก เขาไม่ไหวติง แถมม่านตาที่เบิกขึ้นเล็กน้อยยังมองทะลุกระจกออกไปนอกรถอีก บ่งบอกให้หมอบลูรับรู้เป็นนัยๆว่า หล่อนไม่ควรเงียบ ปล่อยเรื่องนี้ให้ผ่านเลยไป หากเกริ่นมาแบบนี้แล้ว จะทำให้เขาเข้าใจผิดและค้างคาเข้าไปใหญ่ นั้นเลยทำให้เธอต้องรีบดำเนินเรื่องราว มันเป็นอะไรที่ลำบากเหมือนกันนะ ที่จะต้องมานั่งเล่าเหตุการณ์ที่เกลียด และขยะแขยงที่สุดในชีวิต แถมในรถแบบนี้ด้วย ซึ่งมันไม่เหมาะสมที่สุดกับคนคิดจะหลีกหนี....ทว่า เธอมีทางเลือกที่ไหนกันล่ะย้อนเวลากลับไปกว่ายี่สิบปีก่อนปราโมทย์ หนุ่มนักธุรกิจชีวิตกำลังโลดแล่น อูฟู่รุ่งโรจน์ซะจนใครต่อใครต่างอิจฉา เขามีนิสัยเจ้าชู้สำส่อนเป็นชีวิตจิตใจ ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าในแต่ละเดือน หกเดือนเปลี่ยนครั้งอย่างกับเปลี่ยนเสื้อผ้า เด็กหญิงบูรพา หรือหมอบลู ได้แต่นั่งขมขื่นก้มหน้าเจียมตัวทุกครั้งหลังปราโมทย์สั่งให้เธ
" อื้มมมมม ... ไอ้บ้าเอ๊ย! "เสียงสาวเจ้าตวาดดัง หลังดันแผงอกแกร่งสำเร็จ เพียงแต่คราวนี้ไม่ได้ตบหน้า เธอช้อนตาขึ้นมองเท่านั้น ขณะหอบตัวโยน" จะขัดขืนทำไม ทำเหมือนคนไม่เคย "และก็ต้องกำหมัดแน่นทีหลังเพราะคำนี้" นี่!!! "ทำท่าจะหวดฝ่ามือไปใหม่ กลับถูกคนตรงหน้าดึงไปกอดซะก่อน" หมอบลู "เขากำชับวงแขนแน่นจนเธองง ต้องยกมือค้างไว้แบบนั้น พร้อมกะพริบตาปริบๆ" ...."" ผมอยากรู้ใจคุณ โดยที่เราไม่ต้องทะเลาะกันอย่างนี้ คุณช่วยผมหน่อยได้ไหม "" เอ๋..."" ตอนนี้ผมโคตรจะสับสนเลย คุณเป็นคนยังไงกันแน่ "ก่อนประโยคเสียงแผ่วนี้ จะทำให้เธอเงียบไปจริงๆ ร่างกายทุกสัดส่วนนิ่ง คิดไม่ถึงว่าคุณคอปจะเป็นคนเอาใจใส่ขนาดนี้" คือฉัน.."" ผมขอร้อง "" ทำไม.."" เพราะผมเริ่มจะรักคุณเข้าจริงๆ แล้วไง ""O.O "มันคือประโยคหนึ่ง ที่สามารถสร้างความเงียบภายในใจหมอบลูได้ สงัดซะจนเธอได้ยินหัวใจของตัวเอง ทว่าคนไร้ความหวั่นไหวอย่างเธอ ทำได้แต่ยืนนิ่ง มีเพียงแววตาเท่านั้นที่เบิกกว้าง กับใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ" รัก...หรือ..."เธอทวนคำพูดนั้นเสียงแผ่วเหมือนไม่อยากจะเชื่อ ก่อนท่อนแขนกำชับแน่นกว่าเดิมเพื่อเพิ่มความมั่นใจ หมอบลูถ
จากอารมณ์วุ่นวายในทีแรก อยู่ๆดีเกิดเหตุไม่คาดฝัน กลายเป็นคุณคอปต้องมาทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนแทน นั้นคือการเช็ดตัวให้ผู้หญิงคนหนึ่ง หมอบลูไข้ขึ้นสูงในตอนดึก ก่อนหน้านี้เข้าออกไปเอายามาให้หล่อนกินแล้ว แต่เพราะกลัวผองเพื่อนจะถามหา เรื่องอาจเอิกเกริกจนเกินไป เลยต้องรีบย่องไปรีบย่องกลับมา เหงื่อก้อนโตเริ่มผุดขึ้นทั่วหน้าผากมน ทั้งๆที่อุณหภูมิแอร์ใช่ว่าจะร้อน ทำคนตัวสูงอย่างคุณคอปเผลอยิ้มแฉ่ง เขาชะงักมือจากโทรศัพท์ เอื้อมไปลูบๆแก้มหล่อนเบาๆ ทว่าทำเธอนั้นสะดุ้งตื่น" ไข้คุณลดแล้วหมอบลู..."เสียงพูดทำเธอหันตาม แววตาที่มองเปลี่ยนไปเสมือนคนละคนอย่างไม่น่าเชื่อ ไร้ความขึงขัง ปราศจากความดุร้าย ดเหม่อลอยตรงกันข้าม แต่มีเสน่ห์อย่างน่าตกใจ คุณคอปถึงกับอึ้ง ความรู้สึกของเขา เสมือนกำลังมองคู่แฝดหน้าพิมพ์เดียวกัน ทว่าคนละคน" ฉัน.. เป็นอะไรไปคะ "มิหนำซ้ำน้ำเสียงยังเปลี่ยน หวานหยาดเยิ้มรื่นหูคนฟังซะจนงง... คำถามที่มีในใจคุณคอปตอนนี้ ทำไมผู้หญิงคนนี้มักจะเปลี่ยนอารมณ์ทุกครั้ง เมื่อร่างกายโดนน้ำ คราวที่แล้วก็ตอนฝนตก ที่ยอมให้เขาจูบ อีกทีก็ตอนเดินตากฝน และตอนนี้.. ในอ่างอาบน้ำ แต่เขาไม่อยากถาม เกรงคนตรงห
" อู้บบบบบ! อู้บบบบบ "" ......."" ไอ๋อ้าาาาา! "เสียงอู้อี้นี้ไม่ใช่ใครที่ไหน หมอบลูนั่นเอง ด้วยท่านอนคว่ำ และมือไขว้หลังถูกพันธนาการกับเนคไท้ในตอนนี้ หล่อนคงอึดอัดน่าดู ต่างกับคุณคอป ชายร่างสูง หน้าตาหล่อเหลา ทว่าแดงระเรื่อเพราะความเมา ยืนเท้าสะเอวยิ้มกริ่มอยู่ เขารู้สึกขำไม่น้อย" อะไรนะ ผมไม่เข้าใจ"" อ่อยอั๊นเอ้!!!! "" ห๊ะ "" ไอ่อ้าเอ้ยยยยย "" พูดอะไรของคุณ"" ฮะ โฮกกกกก"" ฮ่าๆๆๆ"ก่อนจะโก่งตัวขำเป็นกุ้ง กับท่าทางของเธอ ส่วนเธอใช่ว่าจะเล่นด้วย ตาที่เคยหวานฉ่ำเบิกกางออก ตะลึงใส่ทั้งที่มองไม่ถนัด ท่านอนคว่ำมันทับหน้าอกอวบหยุ่นจนเธอหายใจไม่ออก ความเซ็กซี่ไม่ใช่อยู่ตรงหน้าเหยเกขมวดคิ้วนั่นอย่างเดียว ทว่าลำคอระหงที่ขึ้นกล้ามเนื้อเป็นเอ็นพร้อมหยาดเหงื่อเกาะไรๆ นั่นด้วย ยิ่งทวีคูณทำให้คนเห็นกลืนน้ำลาย คุณคอปยืนนิ่ง เปลี่ยนแววตาที่ขำขันนั้น เป็นพร่ามัวทันที...ก่อนกระโจนเข้าหาเธอ จับร่างบางนอนหงาย ดึงผ้าที่ปากออกแล้วประกบจูบ" อื้มมมม "ทุกอย่างรวดเร็วมาก จนหมอบลูตั้งตัวไม่ทัน และด้วยความเหนื่อยหอบบวกปนคอแห้ง เลยต้องดึงดูดน้ำลายของเขาไปดับกระหายอย่างเลี่ยงไม่ได้ ...ทำหมอบลูนอนนิ่งอ่
หมอบลูชะงัก ตาที่เบิกโพลงมองท้องฟ้าหันมามองคนมาใหม่ก่อนหลุบลง มือหนาบีบไหล่หล่อนแน่น เชิงปลอบใจในเรื่องที่ผ่านมาเมื่อสักครู่ เขาคิดว่าหมอบลูคงจะเสียใจหนัก ถึงได้มานั่งตรงนี้ แต่ทว่าเปล่าเลย.. เขาคิดผิด..... หล่อนแค่เซ็งกับสิ่งที่เจอต่างหาก แถมเสียความรู้สึกมากไปหน่อยก็เท่านั้น" นายแม่คุณ...""กลับไปแล้วล่ะ ท่านไม่ชอบคนเยอะ"คุณคอปแทรกทรุดนั่งลงข้างๆ กัน เขาไม่ได้ว่าหล่อนเรื่องหย่อนเท้าลงสระ ทั้งที่เขานั้นไม่ชอบเอาเสียเลย ที่ผ่านมาเขาไม่เคยให้ใครทำมันได้ทั้งนั้น แต่กับผู้หญิงคนนี้ไม่รู้ทำไม.. แค่อ้าปากจะเอ็ด ไม่ทันได้พูดก็ต้องหุบลงแล้ว...กลัวว่าจะเสียบรรยากาศ ทำให้คนกำลังรู้สึกแย่ทวีคูณหนักเข้าไปอีก ก่อนจะละสายตาจากผืนน้ำ มาสบตาคนถาม" นึกว่านายแม่คุณ จะพาคุณกลับไปด้วยซะอีก "แล้วแค่นหัวเราะเสียงเบา" ฮึ.. ก็คงต้องแบกกันเหนื่อยหน่อยนะ"พูดติดตลกที่ทำหมอบลูถึงกับเบ้ปาก เธอหย่อนจมูกใส่ พลางเบือนหน้าไปมองท้องฟ้าตามเดิม" คุณคงเป็นคนดื้อเอาการอยู่สินะ "" ก็ไม่เชิง"" มากไปสิ "" ในสายตาคุณ ผมดูแย่ขนาดนั้นเลยเรอะ"หล่อนเงียบไปอึดใจหนึ่ง พลางยักไหล่" เห็นชอบทำอะไรแปลกๆ "" ยังไง? "" เอ
(คุณคอปครับ ตอนนี้คุณท่าน...)" หุบปากซะกวิน "(แต่คุณท่าน ทราบเรื่องที่คุณคอปผิดนัดแล้วนะครับ ตอนนี้กำลังโกรธมาก)" นี่มึงกลัว??? "(เอ่อ...)" ใครจ่ายเงินเดือนมึง "(คะ คุณคอปครับ)" หน้าที่ของมึง คือทำยังไงก็ได้ไม่ให้นายแม่มาหากู "(แต่ท่าน..เอ่อ..ป่านนี้น่าจะใกล้ถึงแล้วล่ะครับ)" เวรเอ๊ย กูจ้างมึงมาทำไมกันล่ะเนี่ย "(อูย.. ขอโทษครับ ก็คนมันห้ามไม่ได้นี่ครับ ท่านใช้ปืนขู่ผม)" มึงก็ให้นายแม่ยิงไปเซ่!!! "(ครับ?!)ติ้ด! " โถ่เว้ย!! "สายถูกตัดไปหลังจากนั้น พร้อมเท้าเตะอากาศอย่างขัดใจ ก่อนร่างสูงเดินพ้นโซนห้องครัวมายืนเท้าสะเอวอยู่นอกบ้าน ใช้สายตากวาดมองหาไปทั่ว ในความคิดคือหล่อนยังคงใส่เสื้อกาวน์อยู่ และคาดคะเนไม่ได้ด้วยว่าหมอบลูจะไปนั่งตักกับข้าวใส่ชามกับแม่ครัว คุณคอปเริ่มหัวเสีย เมื่อหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอหล่อน ถ้าคิดจะหนีคงเป็นไปไม่ได้ จากท่าเทียบเรือ กว่าจะขับรถขึ้นเขามายังบ้านตากอากาศหลังนี้ระยะทางตั้งหลายกิโล" เล่นอะไรของคุณอยู่เนี่ย หมอบลู"ในแผนของเขาตอนนี้ แค่อยากจะจดทะเบียนกับหล่อนให้จบๆ ก่อนที่คุณนายอารีย์จะทันขัดขวาง ส่วนงานวิวาห์ไว้วันหลังก็ได้ ทว่า.. ทุกอย่างพร้อม แต่เจ