บทที่ 15 : ฉันทำอะไรลงไปกันแน่ ฉันใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำเป็นเวลานาน แม้จะทำธุระเสร็จแล้ว ฉันก็ยังคงยืนทำใจอยู่อย่างนั้น ก่อนที่ฉันจะตัดสินใจเปิดประตูเดินออกมา แต่ก็ต้องสะดุ้งอีกครั้งเมื่อเห็นพี่สายชลยืนอยู่หน้าประตู มือหนึ่งค้ำยันไว้ตรงกำแพง อีกมือหนึ่งเท้าสะเอวจ้องมองฉันอย่างไม่วางตา ฉันถึงกับก้าวถอยหลังไปอย่างไม่รู้ตัว แต่กลับพบว่าตัวเองถลาเข้าหาร่างใหญ่นั้นโดยมือข้างหนึ่งของเขานั่นเอง ฉันตะลึงกับท่าทีที่พี่สายชลมีให้จนได้แต่ยืนตัวแข็งค้าง สองมือดันหน้าอกไว้เพื่อไม่ให้ร่างกายบดเบียดเข้าหาร่างใหญ่ พี่สายชลโน้มหน้าเข้ามากระซิบข้างหูฉันเบา ๆ “หายโกรธหรือยัง...แมวน้อยของพี่” ฉันถึงกับขนลุกซู่ไปทั้งตัว ได้แต่กัดริมฝีปากแน่น “แล้วจำเรื่องเมือคืนได้หรือเปล่า...หืม...” เสียงกระซิบของพี่สายชลทำเอาฉันคิดอะไรไม่ออกทั้งนั้น ฉันได้แต่ส่ายหน้าอย่างช้า ๆ ใบหน้าหลุบต่ำลงเหมือนคนที่ทำความผิดและต้องการหลบหนี ฉันแทบอยากจะหายวับออกไปจากตรงนี้ทีเดียว พี่สายชลที่ตอนนี้ใช้แขนทั้งสองข้างโอบกอดฉันเอาไว้แน่น ก่อนที่พี่สายชลจะยกมือข้างหนึ่งเชยคางของฉันขึ้น
บทที่ 16 : คนพิเศษฉันมองหน้าพี่สายชลอย่างตื่นตะลึงนิดหน่อย สัญชาตญาณบอกฉันว่า เมื่อคืนฉันต้องทำเรื่องผิดพลาดใหญ่หลวงเป็นแน่“พี่ชล เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกันแน่คะ” ฉันถามออกไปอย่างตื่นเต้นพี่สายชลทำเพียงลุกขึ้นและเก็บถ้วยชามที่ฉันกินอิ่มแล้วไปล้าง ฉันจึงเดินไปด้านหลังของพี่เขา พยายามคาดคั้นเอาคำตอบอีกครั้ง พี่สายชลหันหลังกลับมาทำให้ปะทะเข้ากับร่างของฉันทันที พี่สายชลยกมือสองข้างโอบเอวฉันไว้หลวม ๆ ฉันค่อนข้างประหม่ากับการใกล้ชิดอีกครั้ง ภาพตรงหน้าห้องน้ำลอยเข้ามาในหัวอย่างไม่อาจห้ามได้พี่สายชลก้มหน้าลงมา ลมหายใจเป่ารดตรงบริเวณหน้าผากทำเอาฉันรู้สึกร้อนวูบอีกครั้ง “อยากให้พี่บอก หอมแก้มพี่ก่อนสิคะ” เสียงกระซิบพร้อมท่าทีที่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ทำเอาฉันรู้สึกจั๊กจี้อย่างบอกไม่ถูก“พี่ชล” ฉันทำเสียงดุใส่ ตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วที่พี่สายชลมีท่าทีเปลี่ยนไปจนฉันตั้งตัวไม่ติด ท่าทางกรุ้มกริ่ม สายตาเจ้าเล่ห์ แถมยังเอาแต่คอยฉวยโอกาสกับฉันแบบนี้อีก ฉันเองก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน พี่สายชลยังคงเลิกคิ้วใส่ฉันอย่างคนถือไพ่เหนือกว่า สายตาที่มองวาววับ จนฉันต้องกัดริมฝีปากแน่นพี่สายชลหัวเราะอย่างชอบใจ ก่อนจะกอดฉ
บทที่ 17 : พบคนหึงหนึ่งอัตรา หลังจากวันนั้นความสัมพันธ์ของพวกเราก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ฉันโทรไปเล่าให้สายไหมได้ฟัง เธอถึงกับกรี๊ดออกมาดังลั่นจนหูฉันแทบแตกเลยทีเดียว สายไหมยังเล่าเรื่องราวคืนนั้นว่าฉันเมาแล้วเรื้อนมากแค่ไหน รวมถึงวีรกรรมที่ฉันทำกับพี่สายชลในร้านอาหารนั่นอีก ฉันถึงกับหน้าถอดสี รู้สึกอับอายอย่างบอกไม่ถูก จากนั้นฉันจึงพอจะเดาได้แล้วว่าที่คอนโดเกิดอะไรขึ้นบ้าง ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตัวเองจะเป็นไปได้ถึงขนาดนี้ อย่าว่าแต่ฉันไม่เชื่อเลย สายไหมเองก็ไม่เชื่อ เธอบอกว่าถ้าไม่เห็นกับตาต้องคิดว่าไม่ใช่ฉันเป็นแน่ สายไหมถึงขั้นยกย่องพี่สายชลเป็นฮีโร่ในใจเธอ เป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวมาช่วยหญิงเมาอะไรนั่นไปอีก ฉันละนึกอยากจะเขกกะโหลกตัวเองแรง ๆ ไล่ความอับอายออกไปให้หมดทีเดียวพี่สายชลยังคงทำตัวน่ารักเช่นเดิม ในทุกวันพี่สายชลจะคอยวนเวียนมารับมาส่งฉันไปเรียนเสมอ ที่เพิ่มเติมคือในช่วงวันหยุดพี่สายชลมักพาฉันมานั่งเล่นที่ห้องของพี่เขาอยู่บ่อยครั้ง ในวันหนึ่งขณะที่พวกเรากำลังนั่งดูหนังกันอยู่ จู่ ๆ ก็มีเสียงโทรศัพท์ของฉันดังขึ้นมา ฉันหยิบมันออกจากกระเป๋าที่วางอยู่บนโต๊ะข้างโซฟาที่
บทที่ 18 : เลี้ยงน้องรหัสวันนี้ฉันเข้ามาเรียนที่คณะในช่วงบ่าย เมื่อฟ้าเห็นฉันเข้า เธอรีบวิ่งมากึ่งลากกึ่งจูงฉันไปตรงบริเวณมุมตึก“หวาน เมื่อวานเราได้ข่าวเมาส์มาว่าพี่นทีไปกินเหล้าเมาหนักมาก เห็นว่าอกหักจากใครสักคนเนี่ยแหละ หวานรู้เรื่องนี้หรือเปล่า” ฟ้ากระซิบกระซาบแต่ด้วยเสียงที่ดังเป็นปกติของเธอ ทำเอาคนอื่น ๆ ต่างเหลียวหลังมามอง ฉันที่ปกติก็ไม่ค่อยสนใจใครและไม่ชอบนินทาใครสักเท่าไหร่ก็ได้แต่ทำหน้าไม่ถูกไปทีเดียว“ไม่รู้หรอก เราไม่ได้สนิทกับพี่นทีขนาดนั้น แล้วฟ้าไปรู้มาได้อย่างไรล่ะ” ฉันส่ายหน้าปฏิเสธไป“ก็พี่รหัสฉันน่ะสิ เขาเล่าให้ฟัง เห็นว่าเฮิร์ทหนักเลยทีเดียว ฉันชักอยากรู้จังว่าใครที่ทำพี่นทีเสียใจขนาดนี้” ฟ้าเล่าพร้อมเผยสายตาเป็นห่วงออกมา“ฟ้าชอบพี่นทีเหรอ” ฉันคาดเดาจากอาการและความอยากรู้อยากเห็นของฟ้าจึงถามออกไปตรง ๆ“บ้าน่า...เราก็แค่คิดว่าพี่นทีออกจะดีขนาดนี้ จะมีใครไม่สนใจเขาด้วยเหรอ” ฟ้ายังคงปฏิเสธ แต่ท่าทางลุกลี้ลุกลนทำเอาฉันถึงกับอมยิ้มออกมา“ได้ ๆ ไว้ฉันเจอพี่นทีจะแอบสืบเรื่องมาให้ พอใจรึยัง” ฉันตอบรับ แต่มิวายแอบส่งสายตาแซวเพื่อนไป ฟ้าได้แต่ส่งสายตาเป็นประกายวิบวับจนฉันห
บทที่ 19 : ไม่สบายก็ไม่ยอมบอก ฉันกลับมานั่งที่โต๊ะตามเดิม แต่อารมณ์ฉันดีขึ้นมากเป็นกอง ฟ้าแอบกระซิบกระซาบใส่ฉัน จนฉันต้องชี้ไปที่พี่สายชล “แฟนหวานต้องขี้หึงมากแน่เลย ถึงกับมานั่งเฝ้าเชียว” ฟ้าแซวฉันออกมาเสียงดัง ทำเอาทั้งโต๊ะต่างหันไปมองที่พี่สายชลเป็นตาเดียว “ชวนมานั่งด้วยกันเลยสิ จะได้ทำความรู้จักน้องเขย” พี่ตะวันยังคงปากดีอีกเช่นเดิม ฉันได้แต่มองค้อนออกไป คงมีเพียงพี่นทีที่ยังคงนั่งนิ่งเงียบ ไม่พูดไม่จาอะไร แต่สีหน้ากลับดูหงอยลงไปกว่าเดิมเสียอีก ฉันนั่งอยู่สักพักก่อนจะขอตัวทั้งสามไปเข้าห้องน้ำ หลังจากที่ฉันทำธุระเสร็จออกมา ฉันก็เจอกับพี่นทีตรงหน้าห้องน้ำเข้า “พี่นทีมาเข้าห้องน้ำเหมือนกันเหรอ” ฉันทักออกไปตามมารยาท “น้องหวาน ผู้ชายคนนั้นแฟนน้องหวานเหรอ” พี่นทีถามคำถามที่ฉันออกจะแปลกใจพอสมควร “คนพิเศษของหวานค่ะ” ฉันตอบคำถามไปตามตรง จริง ๆ อยากจะบอกคนทั้งโลกด้วยซ้ำว่าพี่สายชลเป็นแฟนฉัน แต่เพราะพี่สายชลยังไม่ให้สถานะนี้ ฉันจึงเป็นเพียงคนพิเศษเท่านั้น “งั้นเหรอ วันก่อนพี่โทรหาน
บทที่ 20 : พาเปิดตัว หลังจากสอบเทอมแรกเสร็จแล้ว ฉันก็เริ่มมีเวลาว่างมากขึ้นกว่าที่ช่วงเรียนซัมเมอร์จะเริ่มขึ้นอีกครั้ง ฉันมีเวลาอีกหนึ่งอาทิตย์กว่าฉันจะกลับบ้านไปหาพ่อแม่ วันนี้พี่สายชลมารับฉันที่หอพักเช่นเคย ในระหว่างที่เรากำลังกินข้าวกลางวันอยู่นั้น พี่สายชลก็เอ่ยปากชวนฉันขึ้นมา“วันนี้พี่มีเลี้ยงสอบเสร็จกับเพื่อนที่คณะ น้องหวานอยากไปกับพี่ไหม” ฉันแทบจะลิงโลดเลยทีเดียว ทำไมฉันจะไม่อยากไปเล่า ก็พี่สายชลไม่เคยมาฉันไปเจอเพื่อน ๆ ของพี่เขาเลยสักครั้ง ฉันแอบคิดว่าฉันจะได้เปิดตัวแล้วสินะ ฉันรีบพยักหน้าหงึก ๆ ดวงตาเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น“ห้ามแต่งตัวโป๊นะ พี่หวง” พี่สายชลพูดหน้าตาย ทำเอาฉันเขินอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียวเย็นวันนี้ฉันเอาแต่เลือกเสื้อผ้าไปมาอยู่ตั้งหลายรอบ ฉันอยากแต่งตัวให้สวยเวลายืนข้างพี่สายชลจะได้ไม่อายใครเขา แต่ก็กลัวจะโป๊เกินไปแล้วพี่สายชลไม่พอใจอีก ก็ไอ้คำนิยามว่าโป๊เนี่ย มันไม่ได้บอกสักหน่อยว่าเป็นแบบไหน แล้วฉันจะไปเดาใจพี่สายชลได้อย่างไรสุดท้ายฉันเลือกใส่เสื้อแขนกุดกับกระโปรงยีนสั้น พร้อมเสื้อคลุมผ้าไหมเอาไว้กันหนาวอีกตัว ฉันรีบลงมาหาพี่สายชลตามเวลานั
บทที่ 21 : คิดจะเมาแบบไม่ได้เมา ฉันปาดน้ำตาก่อนจะสูดหายใจเข้าไปลึก ฉันค่อย ๆ เดินออกจากห้องน้ำที่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ในนั้นแล้ว ฉันสำรวจหน้าตาตัวเองอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรผิดปกติ ฉันยืนทำใจอยู่อีกสักครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจเดินกลับมาที่โต๊ะดังเดิม “เบื่อมากไหม อยากกลับหรือเปล่า” พี่สายชลหันมากระซิบกับฉัน ฉันที่ยังคงอารมณ์ไม่ดีอยู่แต่ก็ไม่อยากให้พี่สายชลต้องอึดอัด ฉันจึงทำเพียงยิ้มและส่ายหน้าเบา ๆ เพื่อนพี่สายชลหลายคนเดินมาขอชนแก้วกับฉันอยู่บ่อยครั้ง แรก ๆ พี่สายชลก็พยายามห้าม “ไปเลยพวกมึง อย่ามายุ่งกับน้ำหวาน” น้ำเสียงที่ดุใส่เพื่อนกลับไม่ได้ทำให้เพื่อนพี่สายชลดูสลดไปด้วยซ้ำ “หวงแฟนจริงนะมึง” “หวงขนาดนี้ น้องเขาเบื่อแย่แล้ว” พวกเขาเอาแต่แซวกันไม่หยุดแต่ภายหลังด้วยความที่ฉันก็รู้สึกเซ็ง ๆ พอสมควร พอเพื่อนพี่สายชลเดินมาชนแก้วอีกครั้ง ฉันจึงหยิบแก้วเหล้ายกดื่มรวดเดียวจนหมด “น้ำหวาน เดี๋ยวก็เมาหรอก” พี่สายชลปรามฉันทันที แต่ฉันก็ทำเพียงปรายตามองค้อนใส่พี่สายชลอย่างไม่สนใจ เพื่อนพี่สายชลเห็นฉันดื่มเช่นนั้นก็ยิ่งได้ใจกันใหญ่ ห
บทที่ 22 : คนเมานี่น่ากลัวจริง ๆ กว่าฉันจะแบกร่างหนักของพี่สายชลขึ้นมาถึงห้องได้เล่นเอาฉันเหงื่อแตกโซก พี่สายชลก็เอาแต่โน้มตัวพิงฉันไม่หยุด ฉันได้แต่คิดตำหนิตัวเองในใจว่าไม่น่าทำตัวเช่นนั้นเลย กรรมตามทันเห็น ๆ ฉันรีบพยุงพาพี่สายชลนอนลงที่เตียง จากนั้นจึงลุกไปหยิบผ้าชุบน้ำเพื่อมาเช็ดหน้าเช็ดตาให้พี่สายชล ระหว่างที่ฉันกำลังเช็ดหน้าพี่สายชลอยู่นั้น จู่ ๆ พี่สายชลก็ปรือตาขึ้นมามองฉัน พี่เขาจ้องมองอยู่อย่างนั้นสักครู่หนึ่ง ก่อนจะดึงฉันขึ้นไปบนเตียง ร่างฉันเกยก่ายอยู่บนตัวพี่สายชล ฉันพยายามดิ้นออกจากอ้อมแขนแต่กลับไม่เป็นผลเลยสักนิด “แมวน้อยของพี่ คิดอะไรฟุ้งซ่านอีกแล้ว...หืม...” พี่สายชลพึมพำออกมา กลิ่นเหล้าที่คละคลุ้ง ผสมกับกลิ่นน้ำหอมจากตัวพี่สายชลทำเอาฉันมึนงงไปเลยทีเดียว ยิ่งพี่สายชลกระชับอ้อมกอดจนฉันแทบจะแบนราบไปกับร่างพี่เขา ทำเอาฉันใจเต้นรัว ในตอนนี้ฉันทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว มือพี่สายชลเริ่มซุกซนด้วยการลูบไล้ตามลำตัวฉันไปมา ทำเอาฉันถึงกับขนลุกชัน ฉันเลยยิ่งดิ้นรนเพื่อหลบหนีออกจากพื้นที่อันตรายตรงหน้า ยิ่งฉันดิ้นมากเท่าไหร่ พี่สายชลก็ยิ่งรัดฉั
บทที่ 33 : เวลาที่รอคอย ฉันคบกับพี่สายชลมาได้ 4 ปีแล้ว ตอนนี้ฉันอยู่ปีสี่ใกล้จะจบแล้ว ส่วนพี่สายชลก็เข้าทำงานในบริษัทที่อยู่ในจังหวัดเดียวกัน โดยตั้งแต่ปีสองฉันก็ย้ายมาอยู่กับพี่สายชลที่ห้อง พี่สายชลยังคงหื่นกับฉันไม่เลิกจนฉันได้แต่ต้องคอยหลีกหนีไปให้ไกลสายตา ไม่อย่างนั้นพี่สายชลก็เอาแต่จะคอยจ้องจะกระโจนใส่ฉันไม่หยุด อยู่กับหมาป่าแล้วแมวน้อยอย่างฉันจะรอดพ้นไปได้อย่างไรเล่า “น้องหวาน พี่ง่วงแล้วพวกเราเข้าห้องกันเถอะ” เสียงกระซิบจากใบหน้าที่แนบชิดอยู่ตรงหน้าอกของฉัน เสียงหอบหายใจพร่าที่ดังแว่วมาทำให้ฉันขนลุกชันขึ้นมา เวลาเนิ่นนานขนาดนี้แต่ฉันก็ยังไม่คุ้นชินกับสัมผัสเหล่านี้อยู่ดี“พี่ชล อย่าเกเรสิคะ พรุ่งนี้หวานมีเรียนแต่เช้านะ” ฉันรีบประท้วงออกไปพร้อมกระถดตัวถอยห่างจากพี่สายชล พี่สายชลส่งสายตาเจ้าเล่ห์ใส่ฉันทันที “งั้นน้องหวานต้องรีบนอนแล้วหละ” พูดไม่ทันจบก็รีบอุ้มฉันขึ้นแนบอกพร้อมเดินเข้าไปในห้องนอนทันที ทันทีที่ฉันนอนลงที่เตียง ฉันยังไม่ทันได้ตั้งตัวอันใด พี่สายชลก็โถมหน้าเข้ามาจูบปากของฉันอย่างเรียกร้อง “น้องหวาน...หวานเหลือเกิน ชิมกี่ครั้งก
บทที่ 32 : แนะนำตัว หลังงานเลี้ยงเลิก พี่สายชลตั้งใจจะไปส่งฉัน แต่พี่เพชรนี่สิ กลับรั้งตัวฉันให้กลับด้วยกัน ฉันได้แต่บ่นพึมพำแต่ก็ยอมกลับด้วยแต่โดยดี ฉันกลับถึงบ้านรีบโทรหาพี่สายชลทันที ฉันยังเป็นห่วงแผลพี่สายชลอยู่พอสมควร ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้หน้าจะบวมเป็นลูกมะกรูดหรือไม่ พี่สายชลได้แต่ปลอบฉันให้สบายใจ แต่ก็ยังคงกระเซ้าใส่ฉันว่าถ้าห่วงมาก ก็ให้มาหาที่บ้านพี่เขาเสียสิ ฉันได้แต่ถอนหายใจกับความหื่นของพี่สายชลเสียจริง สายวันถัดมา ฉันลุกขึ้นจากเตียงอย่างขี้เกียจ ฉันเพียงแปรงฟันล้างหน้าแล้วลงมาด้านล่างด้วยชุดนอนสบาย “แม่ขา หิวข้าวจังเลย มีอะไรกินบ้างคะ” ฉันตะโกนอ้อนแม่ของฉันด้วยความหิวโซ แต่พอลงมาถึงฉันก็ต้องตกใจเมื่อพ่อกับแม่กำลังนั่งคุยกับพี่สายชลอยู่ตรงห้องรับแขก พี่สายชลหันมามองฉันด้วยรอยยิ้มเป็นประกาย ฉันถึงกับชะงักไป ก่อนจะรีบวิ่งกลับขึ้นห้องไป ฉันยืนนิ่งหัวใจเต้นรัวอยู่อย่างนั้น ทั้งอายสภาพตัวเอง ทั้งสงสัยว่าพี่สายชลมาทำไมกัน ฉันเลยรีบจัดการตัวเองให้เรียบร้อยก่อนจะลงมาด้านล่างอีกครั้ง วันนี้พี่เพชรไม่อยู่ ออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้า พว
บทที่ 31 : เจ็บขนาดนี้เลยเหรอ พี่เพชรเดินเข้ามาภายในร้าน โดยมีพี่สายชลเดินมาตามหลัง ฉันรีบเดินไปหาพี่สายชลในทันที ทั้งใบหน้าและมุมปากมีรอยเขียวช้ำ แถมมีเลือดไหลซึมออกมา ทำเอาฉันหน้าหงิกงอลงไป พลางมองหน้าพี่เพชรด้วยความโกรธ “ทำไมต้องทำรุนแรงแบบนี้ด้วย” ฉันหันไปบ่นพี่เพชรก่อนจะหันกลับมามองพี่สายชลอีกครั้ง “พี่ชล เจ็บมากไหม” มือของฉันลูบไล้ไปที่บริเวณรอยช้ำด้วยความสงสาร “น้ำหวาน ให้มันน้อย ๆ หน่อย เรื่องที่แกทำฉันยังไม่ได้ชำระความเลย” พี่เพชรหันมาดุใส่ฉัน ฉันได้แต่ทำหน้าบอกบุญไม่รับ สายไหมรีบเข้าไปกอดแขนพี่เพชรไว้แน่น “พอได้แล้วน่า พวกเราไปกินข้าวกันเถอะ ไหมหิวแล้ว” ท่าทางออดอ้อนของสายไหม ทำเอาฉันกลั้นยิ้มไม่อยู่ทีเดียว พี่เพชรก็ดูจะว่าง่ายลงไปมากโข เขาหันมาปรายตาเขม่นมองฉันนิดหนึ่ง ก่อนจะเดินไปพร้อมสายไหม ฉันรีบประคองพี่สายชลมานั่งที่โต๊ะ พลางกอบกุมใบหน้าที่มีรอยเขียวช้ำไว้ไม่ปล่อย พี่สายชลยกมือขึ้นจับมือฉันเบา ๆ “ถ้าห่วงพี่นัก คืนนี้ไปปลอบใจพี่หน่อยได้ไหม” เสียงกระซิบแผ่วเบา พร้อมแววตาวาววับทำเอาฉันนึกหมั่นไส้พี่สายชลไม่ได้จริง ๆ
บทที่ 30 : ด่านแรก พี่เพชรลากฉันออกมาอย่างอารมณ์เสีย ยังโชคดีหน่อยที่มีสายไหมวิ่งตามออกมาเป็นเพื่อนกัน พอถึงหน้าร้านที่ค่อนข้างปลอดคน พี่เพชรก็รีบโวยวายใส่ฉันทันที “น้ำหวานนี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมถึงไปคบกับไอ้ชลได้” เสียงเข้มของพี่เพชรทำเอาฉันใจหายวูบไปสักครู่ใหญ่ ก่อนที่ฉันจะพยายามตั้งสติเถียงพี่เพชรออกมา “หวานคบกับพี่ชล แล้วผิดตรงไหน ในเมื่อพวกเรารักกัน” ฉันเชิดหน้าตอบกลับพี่เพชรอย่างไม่ลดละ ฉันละไม่เข้าใจจริง ๆ ปกติพี่เพชรก็ไม่ได้จะอะไรกับฉันมากเสียหน่อย แล้วทำไมคราวนี้ต้องทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่โตเช่นนี้ไปด้วย “น้ำหวาน พี่ไม่เห็นด้วย เลิกกับมันซะ” พี่เพชรสั่งฉันด้วยเสียงที่เด็ดขาด ทำเอาฉันตะลึงไปก่อนจะเปลี่ยนเป็นความโมโหแทน “พี่เพชรมีสิทธิ์อะไร หวานคบกับพี่สายชล หวานผิดตรงไหน พี่เพชรไม่มีเหตุผลเลย ยังไงหวานก็ไม่เลิก” ฉันยืนกรานเสียงแข็งใส่พี่เพชรทันที “น้ำหวาน...” พี่เพชรตะคอกใส่ฉันอย่างหัวเสีย ท่าทางที่เอาเรื่องทำให้สายไหมรีบเข้ามาดึงแขนพี่เพชรให้ใจเย็นลง “ทีพี่เพชรคบกับสายไหม หวานยัง
บทที่ 29 : ความลับแตกการสอบจบลงอีกครั้ง ฉันค่อยรู้สึกโล่งใจไปได้หน่อย หลังจากที่ต้องใช้เวลาอ่านหนังสือเสียยกใหญ่ ในที่สุดก็ปิดเทอมเสียที ฉันใช้เวลาอยู่กับพี่สายชลต่ออีกสองสามวันก่อนที่พวกเราจะกลับบ้านด้วยกันกลับมาคราวนี้พี่เพชรก็ถึงบ้านก่อนแล้ว ตอนที่พวกเรากำลังนั่งกินข้าวกันอยู่ จู่ ๆ พี่เพชรก็ถามฉันขึ้นมากลางวงข้าว“น้ำหวานไปเรียนเป็นอย่างไรบ้าง แล้วไปแอบมีแฟนที่นั่นหรือเปล่า” คำถามทำเอาฉันแทบสำลักข้าวออกมา ทั้งพ่อแม่ ทั้งพี่เพชรต่างจ้องมองฉันกันเป็นตาเดียว เหมือนดั่งกำลังรอคำตอบจากฉัน“ไปเรียนก็สนุกดี แต่คนอย่างหวานจะมีใครมาสนใจกันเล่า” ฉันรีบแก้ตัว บ่ายเบี่ยงออกไป พี่เพชรยังคงจ้องหน้าฉันไม่หาย เหมือนกับพยายามหาพิรุธจากคำพูดของฉันอยู่นั่นแหละ “แล้วพี่เพชรล่ะ รอบที่แล้วก็ไม่กลับบ้าน ไปแอบซุกสาวที่ไหนหรือเปล่า” ฉันรีบเบี่ยงประเด็น โยนกลับไปให้พี่เพชรเสียอย่างนั้น“อย่ามาเปลี่ยนเรื่องเลย ไม่มีก็ดีแล้ว ยังเด็กยังเล็กยังไม่ต้องรีบมีหรอก แฟนน่ะ” พี่เพชรพูดไปพลาง ตักข้าวเข้าปากไปพลาง ฉันได้แต่ทำหน้านิ่งเก็บอาการให้เป็นปกติเช่นเคยฉันรอดตัวไปได้อีกครั้งหนึ่งอย่างหวุดหวิด ฉันได้แต่พ่นลมหา
บทที่ 28 : หมาป่าหิวโซกับแมวน้อยจอมพยศ ฉันตื่นมาในตอนเช้าด้วยสภาพอิดโรย ยังดีที่วันนี้เป็นวันหยุดทำให้ฉันสามารถพักผ่อนได้สักหน่อย ร่างกายของฉันปวดเมื่อยไปทั้งตัว แถมตามตัวยังมีร่องรอยฝากรักที่พี่สายชลมอบให้เป็นรอยแดงจ้ำเต็มไปหมด จนฉันอดหันไปมองค้อนคนข้าง ๆ ไม่ไหว พี่สายชลยังคงหลับอยู่ ดวงตาที่ปิดสนิท ใบหน้าที่ราบเรียบ ทำให้ฉันอดจ้องมองต่อไปไม่ได้ ยิ่งเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืน สัมผัสที่พี่สายชลมอบให้ทำเอาฉันยิ้มหน้าแดงก่ำ ฉันยกปลายนิ้วชี้ขึ้นไล้ใบหน้าของพี่สายชล ตั้งแต่หน้าผาก ไล่มาจนถึงจมูกและเลื่อนลงตรงริมฝีปากหนา ตอนนี้พี่สายชลเป็นแฟนของฉันเต็มตัวแล้ว ฉันอดยิ้มอย่างมีความสุขไม่ได้ ระหว่างที่ฉันกำลังคิดเรื่อยเปื่อย พี่สายชลก็ยกมือขึ้นมาจับนิ้วของฉันก่อนจะจูบลงบนนิ้วนั้น เปลือกตาปรือขึ้นมามองฉันอย่างกรุ้มกริ่ม “ซนแต่เช้าเลยนะ แมวน้อย” ฉันรู้สึกเก้อเขินขึ้นมาจึงพยายามดึงมือออกจากการกอบกุม แต่พี่สายชลกลับดึงฉันเข้าหาก่อนจะกอดฉันไว้แน่น “เล่นซนแล้วคิดจะหนีเหรอ” เสียงกระเซ้ายิ่งทำให้ฉันทำตัวไม่ถูกเข้าไปใหญ่ “พี่ชล เลิกเล่นได้แล้ว” ฉันรีบโต้แย้งขึ้นมาทันที “ใครว
บทที่ 27 : วันเกิดช่วงนี้ชีวิตของฉันเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ เสียงนินทาเรื่องของฉันหายไป พร้อมกับมีเรื่องนินทาใหม่ ๆ ของคนอื่นแทรกเข้ามา ฉันได้แต่คิดในใจ คนพวกนี้วัน ๆ คงไม่ทำอะไรกันแล้วละมั้ง ไม่นินทาคนนั้นก็นินทาคนนี้ไปตามประสา ฉันได้แต่ส่ายหัวไปมากับเรื่องเหลวไหลพรรค์นี้ส่วนพี่นทีตั้งแต่เรื่องวันนั้น พี่นทีก็ส่งข้อความมาขอโทษขอโพยฉันเสียยกใหญ่ ฉันได้แต่ตอบไปว่าไม่เป็นไร ช่างมันเถอะ เพียงเท่านั้น หลังจากนั้นพี่นทีก็ไม่ค่อยติดต่อฉันอีกเลย“สุขสันต์วันเกิดน้ำหวาน” เสียงฟ้าทักทายฉันแต่เช้า ทำเอาฉันยิ้มกว้างให้เธอ “ขอบใจจ๊ะ”“แล้ววันนี้ไปฉลองที่ไหน ไปกินข้าวกันไหม เราเลี้ยงหวานเอง” ฟ้ายังคงชวนฉันไปฉลองวันเกิดแต่เพราะฉันมีนัดกับพี่สายชลแล้ว “วันนี้เราไม่ว่าง นัดพี่ชลไว้แล้วน่ะ” ฉันเลยตอบปฏิเสธออกไป“เฮ้อ...คนมีแฟนนี่มันดีจริง ๆ เลยนะ” ฟ้าพูดแกมหยอก พร้อมส่งสายตาล้อเลียนมาให้ฉัน ฉันได้แต่ยิ้มบางออกมาจนช่วงเย็นพี่สายชลมายืนรอฉันอยู่ที่หน้าคณะเช่นเดิม ท่าทางพี่สายชลในวันนี้ดูยิ้มแย้ม กระปรี้กระเปร่าเป็นพิเศษทีเดียว ทันทีที่เห็นฉันพี่สายชลรีบเดินมาจูงมือฉันขึ้นรถแล้วพากลับห้องพี่เขาในทัน
บทที่ 26 : จัดการพี่สายชลมาส่งฉันเรียนตามปกติ แต่ฉันก็ยังอดคิดมากเรื่องเมื่อวานไม่ได้ พี่สายชลหันมาบีบมือของฉันเบา ๆ อย่างให้กำลังใจ ฉันได้แต่ยิ้มให้ก่อนจะเดินเข้าไปในคณะ วันนี้ฉันยังคงเห็นสายตาแปลก ๆ ที่ยังคงแอบมองฉันอยู่ ฉันได้แต่พยายามทำใจให้นิ่ง แล้วเดินเข้าห้องเรียนโดยไม่ใส่ใจนักฉันหันมองรอบ ๆ ห้องเพื่อหาฟ้า แต่กลับไม่พบ ไม่รู้ว่าวันนี้ฟ้าจะมาเรียนหรือเปล่า ฉันได้แต่คิดอย่างหงอย ๆ ก่อนจะพยายามเรียกสติตัวเอง เพื่อตั้งใจเรียนอีกครั้งผ่านไปอีกเกือบครึ่งคาบเรียน ฟ้าก็แอบย่องเข้ามาในห้อง พร้อมนั่งลงข้าง ๆ ฉัน ท่าทางฟ้าดูกระหืดกระหอบพอสมควรทีเดียว ฟ้ามองหน้าฉันเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เพราะอาจารย์ที่สอนหน้าห้องบังเอิญเห็นฟ้าที่เข้ามาสาย ฟ้าเลยโดนอาจารย์สวดไปหลายนาทีทีเดียว พวกเราเลยได้แต่ก้มหน้านิ่งตั้งใจเรียนโดยไม่กล้าพูดคุยกันเลยแม้สักคำจนกระทั่งคาบเรียนเลิก ฟ้ารีบดึงฉันออกไปนอกห้องอย่างร้อนใจ ทำเอาฉันงงกับท่าทีของฟ้าที่แสดงออกมา“ฟ้ามีอะไร ทำไมต้องรีบขนาดนี้” ฉันเอ่ยถามอย่างแปลกใจ“หวานรู้ไหม ทำไมเราเข้าสาย” ฟ้าถามจนฉันงง ฉันได้แต่ส่ายหน้า “ก็พี่สายชลของหวานนะสิ มีเรื่องกั
บทที่ 25 : ข่าวลือหลังจากฉันปรับความเข้าใจกับฟ้าแล้ว ฉันก็ค่อยโล่งใจยิ่งขึ้น กับพี่นทีเองฉันก็พยายามหลีกเลี่ยงในการพูดคุยกัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอีก อันที่จริงฉันไม่ใช่ว่าฉันเพียงไม่อยากมีปัญหากับฟ้าเท่านั้น แต่ฉันก็ไม่อยากมีปัญหากับพี่สายชลด้วยเช่นกัน ก็พี่สายชลขี้หึงออกจะขนาดนั้น ฉันไม่อยากถูกพี่สายชลลงโทษอีกแล้ววันนี้ฉันเดินเข้ามาในคณะ ฉันรู้สึกแปลก ๆ กับสายตาที่หลายคนมองมายังฉัน ยิ่งบางคนพอฉันเดินเข้ามาใกล้ก็รีบสะกิดกันไปมาก่อนจะเงียบลงไป ฉันได้แต่ขมวดคิ้ว อึดอัดกับสถานการณ์แบบนี้เป็นที่สุด ฉันเดินจนกระทั่งเจอกับฟ้าเข้า ฟ้ารีบดึงแขนฉันเข้ามาพร้อมกระซิบกระซาบให้ฉันฟังใหญ่“หวานได้ยินข่าวลือหรือเปล่า มีคนเอาไปพูดกันว่าหวานเป็นพวกจับปลาสองมือ ทั้งที่มีแฟนอยู่แล้วกลับยังมาหลอกคบกับพี่นทีแล้วก็หักอกพี่เขาน่ะ” ฟ้ารีบเล่าให้ฉันฟังทันที ฉันมองหน้าฟ้าอย่างไม่คาดคิด“ใครไปพูดกันแบบนั้น ไม่จริงเสียหน่อย” ฉันรีบท้วงออกไปทันที ใบหน้าของฉันบึ้งตึงขึ้นมาอย่างไม่พอใจนัก“เรารู้ ๆ แต่คนเขาก็เมาส์กัน เมื่อกี้ฉันยังฉะกับพวกที่เมาส์นั่นอยู่เลย” ฟ้ารีบลูบแขนฉันเป็นการปลอบใจใหญ่“เฮ้อ...ช่างเถอะก็ในเ