“เป็นอะไรอ่ะคุณ?”เขารีบเดินเข้ามาหาฉันพลางเอ่ยถามฉันด้วยความตกใจ
“ฉันกำลังจะเป็นลม”ฉันบอกเขาไปด้วยนำ้เสียงและสายตาที่อิดโรย “เห้ย!เมื่อกี้เห็นยังเก่งอยู่เลยนะ!!” “แต่ฉันเจ็บแผลมากเกินไป”ฉันบอกเขาไปตามความจริง “เจ็บแผล?”เขามองฉันด้วยสายตาแปลกใจและสงสัยเขามองสำรวจร่างกายฉันเพื่อหาบาดแผลที่ฉันบอก “ผมไม่เห็นบาดแผลของคุณตรงอื่นนอกจากที่คอ”เขาบอกฉันมาพลางทรุดตัวลงนั่งยองๆตรงหน้าฉัน “ฉันรู้สึกเจ็บที่ตรงนี้”ฉันเอ่ยบอกเขาไปพลางใช้มืออีกข้างจับชายเสื้อสูทของเขาให้พ้นออกไปจากไหล่ข้างขวาของฉัน “เลือด!”ทันทีที่ชายเสื้อสูทหลุดออกจากไหล่ออกฉันก็ปรากฏรอยเลือดสดมากมายไหลออกมาจากหัวไหล่ฉัน “คุณโดนยิงที่ไหล่?”เขายื่นมือไปจับแขนฉันเพื่อดูบาดแผล “คงเป็นตอนที่ฉันเล่นท่าเยอะไปหน่อย จนลืมระวังตัวพวกมันยิงสวนกลับมา”ฉันบอกเขาไปและหันหน้าหนีบาดแผลตัวเอง “เอ้า!” “ฉันเจ็บฮืฮๆๆๆๆ”ฉันปล่อยโฮนำ้ตาไหลออกมา เกิดมาไม่เคยโดนยิงเลย เจ็บอะไรขนาดนี้ “เห้ย!คุณ” “ฮืฮๆๆๆ” “ทำไมผู้หญิงมันอ่อนแอขนาดนี้ว่ะเนี่ย!!”เขาบ่นอุบด้วยความหงุดหงิดและเขาก็ลุกขึ้นถอดเสื้อเชิ้ตตัวสีชาวของตัวเองออกมาจนเผยให้เห็นแผงอกสุดเซ็กซี่ขาวยิ่งกว่าสีเผือกอีกน่ะเนี่ย ทั้งขาวทั้งเนียน “เช็ดน้ำลายด้วย” “ซู๊ด อีตาบ้า!!”ฉันซูดน้ำลายกลับเข้าไปในปากพลางร้องด่าเขาและนั่งร้องไห้ต่อเพราะเขาใช้เสื้อของเขาอีกออกเป็นเส้นยาวๆเพื่อเอามารัดบาดแผลฉัน พรึบ “ขึ้นหลังผม ผมจะพาไปหาหมอ!”เขาบอกฉันหลังจากที่เขามานั่งยองๆลงตรงหน้าฉันแล้วหันหลังเปลือยเปล่าโชว์ฉัน “มันจะดีเหรอ?” “มาหวงเนื้อหวงตัวอะไรตอนนี้กันคุณ!!”เขาโวยใส่ฉันเสียงดัง ฉันจึงสะดุ้งและกระโดดขี่หลังเขาอย่างไว พรึบ “เกาะไว้ดีๆระวังตก!”เขาบอกฉัน ฉันก็เอื้อมมือไปคว้าคอเขาและเอนใบหน้าซบลงไปบนไหล่กว้างของเขา กลิ่นกายหอมๆลอยปะทะเข้าจมูกฉัน หอมจัง “ผู้ชายอะไรตัวห๊อมหอม^_^”ฉันเอ่ยขึ้นพร้อมกับอมยิ้มเอาใบหน้าซุกลงไปกับซอกคอหอมๆของอีตานี่ หอมจริงๆน่ะ มันบรรยายเป็นกลิ่นเฉพาะไม่ได้แต่มันหมอมากจริงๆ “โรคจิตว่ะคุณ!!”เขาเอ่ยขึ้นแต่ก็ไม่ได้โกรธอะไรฉัน “แล้วทีคุณล่ะ จับก้นฉันและบีบอีก!”ฉันก็โวยใส่เขาไป ก็มันจริงหนิ อีตาบ้านี่ให้ฉันขี่หลังเขาและส่วนมือก็จับก้นฉัน “ผมช่วยพยุงไม่ให้คุณตกหรอกน่ะ!!”เขาเถียงฉัน แต่ฉันขี้เกียจฟังหลับตาลงเพราะฉันจะได้ไม่เจ็บถ้าฉันหลับ “อย่าพูดมาก ฉันจะนอน!”ฉันบอกเขาไปและเขาก็พึมพำอะไรๆไม่รู้เบาๆ เขาพาฉันเดินไปตามทางที่เขาพาฉันวิ่งมา ฉันว่ากว่าเขาจะพาฉันไปถึงโรงพยาบาลมีหวังเลือดฉันออกหมดตัวแน่! ซาโนะ มิซาโนะ.... เพนท์เฮ้าส์ซาโนะ “ลูกสาวของผมเป็นอย่างไรบ้างครับ?”เสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใยของคนเป็นพ่อทำให้ผมลุกขึ้นยืนและหันไปโค้งศีรษะให้ท่านนายกตามธรรมเนียม ถึงผมจะยังไม่ค่อยเชื่อใจและไว้ใจเขาแต่ผมก็ไม่คิดว่าเขาน่าจะเลวร้ายอะไร เพราะผมเห็นว่ามีคนลอบทำร้ายเขากับลูกของเขาจริงๆตามจดหมายที่เขาเขียนส่งมาขอความช่วยเหลือจากผม “ยังไม่ฟื้นเลยครับ”ผมตอบท่านมิซานไปตามความจริง เขาเดินมาพร้อมกับพ่อของผม ผมจึงหันไปมองพ่อของผมและโค้งตัวให้ท่านด้วยความเคารพ “ผมขอเข้าไปดูลูกสาวของผมได้ไหมครับ?”ท่านมิซานหันมาเอ่ยถามผมด้วยสีหน้าเศร้าๆหน้าตาและเเววตาของเขาดูไม่น่าจะมีพิษมีภัยอะไร “เชิญครับ”ผมผายมือเชื้อเชิญให้ท่านมิซานได้เข้าไปในห้องนอนที่มีร่างของโยโกะจังนอนหลับอยู่ กระสุนถูกฝังเข้าไปในหัวไหล่ของเธอทำให้กระดูกได้รับความเสียหายมากแต่หมอได้ผ่าเอาลูกกระสุนออกมาแล้ว ที่นี้ก็แค่รอดูว่าข้อหัวไหล่เธอจะเป็นยังไงบ้าง แต่หมอให้เข้าเฝือกไว้ก่อนเพื่อให้กระดูกต่อกันติดง่ายขึ้น “ขอบคุณครับ^_^”ท่านมิซานโค้งตัวให้ผม ผมก็โค้งตัวกลับไปให้เขา เขาก็เดินเข้าไปในห้องนอนโดยมีลูกน้องของผมคอยเปิดประตูให้เขาเข้าไป “เฮ้อ บ้านเมืองคงไม่สงบเหมือนเดิมแล้วลูก”เสียงพ่อของผมเอ่ยขึ้นด้วยความเหนื่อยใจที่เต็มไปด้วยความกังวลใจ ผมจึงหันไปมองท่านความสงสัย“หมายความว่ายังไงครับพ่อ?”ผมเอ่ยถามพ่อไปในขณะที่ท่านทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาขนาดใหญ่ ผมจึงนั่งลงฝั่งข้างๆกับท่าน“มิซานน่ะ เป็นเพื่อนพ่อตอนเรียนมหาลัยด้วยกันและแม่ของหนูโยโกะก็เป็นเพื่อนกับแม่ของปลายฟ้าทำให้เราสองคนรู้จักกันและสนิทกันมากขึ้น”พ่ออธิบายให้ผมฟัง ผมก็พยักหน้าฟังพ่อ“ตอนที่พ่อเดือดร้อนเขาก็ช่วยพ่อและมาในวันนี้ วันที่เขากำลังเดือดร้อนพ่อเองก็ต้องช่วยเหลือเขากลับคืนเหมือนกัน”“เขาเดือดร้อนเรื่องอะไรเหรอครับ?”“เรื่องตำแหน่งนายกของเขานั้นแหละ มีคนจ้องจะเอาตำแหน่งไปเขาโดยใช้วิธีที่สกปรก”“วิธีสกปรก?”“อืม พวกมันจะจับตัวหนูโยโกะไปเพื่อกดดันให้มิซานลาก่อนจากตำแหน่งด้วยความเต็มใจ”“เพราะถ้ามิซานไม่ลาออกจากตำแหน่งด้วยความเต็มใจชาวเมืองไม่มีทางยอมรับนายกที่จะมารับตำแหน่งแทนมิซานแน่นอน”“ถึงว่าทำไมพ่อถึงไม่ให้ผมพาตัวโยโกะไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล”ผมพูดไปถึงตอนที่ผมโทรศัพท์ไปหาพ่อให้พ่อเรียนท่านนายกว่าผมจะพาลูกสาวเขาไปโรงพยาบาลแต่พ่อผมไม่ให้ผมพาโยโกะไปแต่กลับให้ผมพาเธอมาที่นี้ ที่เพนท์เฮ้าส์ของผมยังไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนที่ย่างกายเข้ามาเลยน่ะเนี่ย“ใช่ เราไม่รู้ว่ามันมีพวกมากแค่ไหน แต่พ่อคิดว่
“ครับ ผมจะดูแลโยโกะให้คุณอาครับ”“อย่าให้เขาหนีกลับเมืองไทยให้ได้นะซาโนะ”“ครับ”“รักเขาเหมือนน้องสาวอีกคนน่ะลูกน่ะ”อามิซานเอ่ยขึ้น ผมจึงยิ้มพลางก้มศีรษะให้ท่านเพื่อน้อมรับคำสั่ง“งั้นอาขอตัวก่อน”อามิซานเอ่ยลาผม ผมจึงผายมือเชื้อเชิญให้ท่านเดินนำไป เพราะผมจะเดินตามไปส่ง“ไม่ต้องไปส่งอาหรอก อยู่พักผ่อนเถอะ”“ครับ”“เดี๋ยวพ่อไปส่งเอง”พ่อผมเอ่ยขึ้น ผมจึงหันไปยิ้มและโค้งตัวให้ท่านด้วยความเคารพ พ่อเป็นต้นแบบในชีวิตของผม ผมเดินตามรอยเท้าของพ่อผม ผมลงมือรับผิดชอบงานของท่านหมดทุกอย่าง เพราะผมอยากให้พ่อของผมได้พักผ่อนสักที ท่านเหนื่อยเพื่อผมและปลายฟ้ามาเยอะแล้ว ต่อจากนี้ไปผมจะดูแลคนในครอบครัวของผมเอง00:00น.“อื้อออ”ผมขยับตัวไปมาเมื่อรับรู้ได้ว่าผมกำลังฝัน ฝันเหรอ?ไม่น่าใช่นะ!“อื้อออ”เสียงหวานครวญครางของผู้หญิงและผู้ชายกำลังร้องออกมาด้วยความสุขสม ใช่และแสงสว่างที่สอดส่องเข้ามาในม่านตาของผมอีก“อื้อ เสียวมากเลยคะ อร๊ายย แรงอีกนิดนะคะ ฉันกำลังจะเสร็จแล้วค่ะ!”เสียงกระเส่าที่ร้องด้วยความสุขที่ทรมานของเธอทำให้ผมค่อยเปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งของผมให้เปิดขึ้นเพื่อมองโลกภายนอกตอนนี้ว่าเป็นอย่างไรบ้างพั่
“เลิกยุ่งกับซิงกูสักทีได้ไหม!!!”ผมโวยออกมาพลางรีบลุกขึ้นจากที่นอนและใช้ผ้านวมพันรอบๆตัวยัยโยโกะพรึบ“ทำอะไรเนี่ยคุณ!”“ปล่อยฉันน่ะ!!”เมื่อผมใช้ผ้าพันตัวเธอได้แล้วก็อุ้มร่างเธอเดินมุ่งหน้าไปยังสระน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่นอกนอนห้องนอนของผมจุ๊ม ตู้มมมมม“กรี๊ดดดด ไอ้บ้า!!!”ผมโยนร่างเธอลงไปในสระน้ำอย่างแรง ความเย็นจะช่วยบรรเทาอาการของเธอได้“แค่กๆๆๆ”ร่างของยัยโยโกะลอยขึ้นเหนือนำ้และดำผุดดำว่าอยู่ในน้ำสีใสสะอาดตา เธอทำท่าตะเกียกตะกายจนจะเป็นจะตายแบบนั้นก็เพราะว่าเธอใช้มือได้เพียงแค่ข้างเดียวเพราะอีกข้างใส่เฝือกไว้และที่สำคัญหมอไม่ให้แผลของเธอโดนน้ำ แต่ผมจำเป็นต้องทำเพราะมีทางเดียวที่จะช่วยเธอจากยานรกนั้นได้“มันไม่จมหรอกคุณ ยืนขึ้นสิ!”ผมตะโกนบอกเธอไป เธอก็ใช้ขายืนขึ้นตามคำบอกของผม โง่อยู่ได้ยัยโง่เอ้ย!“อย่าขึ้นมาน่ะ ไม่งั้นผมยิงคุณแน่!”ผมเอ่ยขึ้นด้วยความตกใจและขู่เธอพลางเอาปืนจ่อไปที่ร่่างของเธอเพราะเธอทำท่าจะขึ้นมาหาผม ผมจะต้องรักษาพรหมจรรย์นี้ไว้ให้กับมินตราคนเดียวเท่านั้น คนอื่นไม่มีสิทธิ์ที่จะได้แอ้มซาโนะซังของผมเป็นเด็ดขาด!!โดยเฉพาะยัยนี้“เห้อ!กูจะบ้าตาย ถ้ากูไม่กลัวหลานกูกำพร้าพ่อน่ะ ก
เพ้นท์เฮ้าส์ ซาโนะเช้าวันต่อมา06:00น.ต้นฝน โยโกะจัง....“เฮ้ออออ!”ฉันผ่อนลมหายใจเป็นรอบที่ร้อยแล้วหลังจากที่อีตาบ้ามันจับร่างของฉันล็อคไว้กับเตียงนอนทั้งขาทั้งมือแต่ล็อคมือได้เพียงข้างเดียวเพราะอีกข้างฉันเจ็บอยู่และตอนนี้แผลฉันคงจะเปียกน้ำหมดเลย“หายรึยัง?”เขาเอ่ยถามฉัน ฉันก็หันไปมองหน้าเขาอย่างไวหลังจากที่ได้ยินแต่เสียงเพราะเขาไม่กล้าเข้ามาหาฉันหรอกเพราะฉันโป๊อยู่น่ะสิ!!“หายแล้ว แล้วตอนนี้ฉันก็หนาวมากแล้วด้วย!!”ฉันตะโกนตอบเขาไปตามความจริง เพราะอาการร้อนรุ่มอย่างเสียซิงมันได้หายไปแล้วไง ฉันไม่น่าโง่เชื่อคนหล่อคนนั้นเลยไอ้เราก็นึกว่าจะใจดีเหมือนพี่ผู้หญิง อ๋อคู่แฟนที่ฉันเจอตอนไปงานรับตำแหน่งของพ่อน่ะ ฉันเพิ่งจะรู้ว่าผู้หญิงที่หวานหยดย้อยเป็นน้องสาวของผู้ชายที่ชื่อซาโนะแต่ฉันยังไม่ได้เจอซาโนะพี่ชายของพี่ผู้หญิงคนนั้นเลยน่ะ เพราะมาโดนยาแก้ปวดอะไรของพี่ผู้ชายนั้นเข้าซะก่อนน่ะสิ ฉันไม่น่ากินมันเข้าไปเลย“แปปหนึ่งผมจะให้คนมาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้คุณ”เสียงของอีตาบ้านั้นตะโกนกลับมา ฉันก็เบะปากมองบนใส่เขาผู้ชายอะไรโยนคนเจ็บลงสระน้ำและยังจับฉันมาล็อคติดกับเตียงอีกก๊อกๆๆๆๆแอดดดด“สวัสดีค่ะ^_^”
“นี้จ๊ะ ชุดของมหาลัยที่นี้น่ารักจัง^_^”พี่ปลายฟ้าเอ่ยขึ้นหลังจากที่เธอเปิดตู้เสื้อผ้าสีขาวขนาดใหญ่ออกและข้างในก็พบกับยูนิฟอร์มเครื่องแต่งกายของชุดนักศึกษาเสื้อเชิ้ตสีชาวกับกระโปรงคลุมเข่าสีดำสลับขาวเป็นลายสก๊อตและตามด้วยสูทสีดำคลุมทับเสื้อเชิ้ตพร้อมเนคไทสีเดียวกับกระโปรง ฉันเคนเห็นแต่ในละครเครื่องแบบนักเรียนประเทศญี่ปุ่น วันนี้ได้ลองใส่จริงๆเลยเว้ย!“ชอบไหมจ๊ะ ต้นฝน?”พี่ปลายฟ้าหยิบยูนิฟอร์มครบเครื่องออกมาจากตู้พร้อมกับชูและเอ่ยถามฉัน ฉันก็ยิ้มและพยักหน้าตอบเธอไป“ชอบค่ะ น่ารักมาก^_^”“งั้นเรามาใส่กันเลยดีกว่าจ๊ะ^_^”“ค่ะ^_^”ฉันตอบพี่ปลายฟ้าและเตรียมตัวให้เธอจัดแจงใส่เสื้อผ้าให้ฉัน และหลายนาทีมากกว่าจะใส่เข้ามาในร่างของฉันได้แต่ละชิ้นเพราะอีเผือกบ้านี้น่ะสิ!!!3ชั่วโมงต่อมา...มหาลัย ซาโต้ม่ะ ชั้นเรียนปีหนึ่ง“สวัสดีครับนักศึกษาทุกๆคน”เสียงอาจารย์เอ่ยทักทายขึ้นอย่างเป็นมิตรหน้าตายิ้มแย้มของอาจารย์ทำให้ฉันต้องยิ้มตาม ขาวตี๋น่าร๊อคอ่ะ^_^”“สวัสดีค่ะ อาจารย์มามาโต้^_^”เสียงนักศึกษาหญิงเอ่ยขึ้นพร้อมเพียงกันด้วยน้ำเสียงหวานหยดย้อย “ชื่อน่ารักจัง^_^”ฉันเอ่ยพึมพำขึ้นคนเดียวพลางยกแขนขึ้นมาเท
ต้นฝน โยโกะจัง....“อ๋อพอดีเธอเป็นลมนะครับ”เสียงไพเราะของอาจารย์ภามตอบอีตาซาโนะไปด้วยน้ำเสียงเป็นมิตรฉันก็รีบหลับตาอย่างไวเมื่อสายตาของฉันไปผสานเข้ากับนัยตาสีดำของอีตาซาโนะนั้น“เป็นลม?”เขาเอ่ยทวนถามอีกครั้งพร้อมนำ้เสียงสงสัย ฉันจึงแอบหรี่ตามองเขาเพื่อดูปฏิกิริยาของเขา ซาโนะก็พยักหน้าเข้าใจและไม่ได้ทำหน้าสงสัยอะไร เฮ้อค่อยโล่งอกไปที“ส่งยัยโยโกะมาให้ผม คุณมีสอนกลับไปสอนเถอะครับ”คำพูดของตาซาโนะแทบจะทำให้ฉันลืมตาและไปด่าเขาสักสองสามที อย่านะคะอาจารย์ภามอย่าส่งตัวหนูให้อีตาบ้านี่นะคะนะคะ“อ๋อครับคุณซาโนะ”เสียงนุ่มละมุนของอาจารย์ภามเอ่ยขึ้นพลางร่างของฉันที่ถูกส่งไปให้อีตาซาโนะพรึบ“ผมขอตัวก่อนนะครับ”“ครับ ขอบคุณครับ^_^”มิซาโนะเอ่ยขึ้นพร้อมกับพาร่างฉันเดินไปไหนสักทีพรึบ“เข้ามาจุ้นทำไม!”ฉันลืมตาขึ้นเมื่อรู้สึกว่าเราห่างออกมาจากอาจารย์ภามไกลพอสมควรแล้ว“อ้าวได้สติแล้วเหรอ?”มิซาโนะเบิกตาโตขึ้นพลางทำหน้าตกใจ ไอ้นี่มันน่านัก!!!“อย่าตอแหล ปล่อยฉันลงได้ล่ะ!”ฉันโวยขึ้นพลางดีดดิ้นตัวไปมา“โอเค^_^”ซาโนะพูดพลางทำสีหน้ามีเลศนัยพรึบ ตุ๊บ“โอ้ยยย!ไอ้บ้า!!”ฉันร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวดเมื่อซาโนะทุ้ม
“ฮ่าๆๆๆแค่คิดก็สุขใจ^_^” นครโตเกียว ร้านอาหารสุดหรู มิงากะ “คุณพ่อมีอะไรคะ!!”เสียงฉุนเฉียวของนางเอกเบอร์หนึ่งของประเทศไทยโวยขึ้นเมื่อเธอพาร่างอันสวยสง่าและบอบบางของเธอมาถึงห้องวีไอพี “กว่าจะมาได้”ผู้เป็นพ่อมีนามว่า ท่านฮิเรน ทาโมโต้เอ่ยขึ้นพลางกรีดสายตาอันคมกริบมองไปยังลูกสาวของตัวเองด้วยความเบื่อหน่ายกับความเอาแต่ใจของหล่อน “มินเป็นดาราดังนะคะคุณพ่อ ไม่ได้มีเวลาว่างมานั่งเครื่องบินไปบินมาระหว่างสองประเทศนี้!”เธอโวยวายเสียงดังยังกับคนที่เอาแต่ใจ เธอหย่อนก้นงอนๆของเธอลงบนเก้าอี้ราคาแพงในห้องอาหารและมองผู้เป็นพ่อด้วยอารมณ์เบื่อหน่าย เพราะพ่อของเธอมักจะเรียกเธอให้มาหาที่นี้เป็นประจำทุกอาทิตย์แต่เธอก็ไม่ค่อยได้มาเพราะติดงานถ่ายละครของเธอ “แกต้องทิ้งงานบ้าๆนั้นของแกได้แล้ว และมาช่วยฉันทำมาหากินที่นี้!!” “เพราะที่ฉันต้องหนีจากประเทศไทยมาที่นี้ก็เพราะว่าฉันจะต้องมาเป็นใหญ่ที่นี้ แกเข้าใจไหม แต่ดูที่แกกับพี่ของแกทำกับฉันสิ!”ผู้เป็นพ่อแววตาและนำ้เสียงดุดันจนน่ากลัว เขาเป็นนักการเมืองที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งในตอนที่เขาอยู่ที่เมืองไทยแต่เพราะเขาคดโกงมากเกินไปจนไม่สามารถที่จะอยู่ที่โน้นต่
ที่ทำงานของตระกูลซานโต้20:30น.ซาโนะ มิซาโนะ.....“แกว่ายังไงนะ!”ผมโวยขึ้นเมื่อไอ้ซาต้ามันกลับมามือเปล่าโดยไม่ได้พามินตราของผมกลับมาด้วย“คุณมินตราอยู่ที่ประเทศนี้ครับนาย”ซาต้าเอ่ยบอกผมโดยที่มันไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมามองสบตากับผมเพราะผมกำลังโกรธมากเพราะมันรู้ดีเวลาที่ผมโกรธจะเป็นยังไง เพราะผมอยากจะเจออยากจะกอดเธอแทบขาดใจแต่มันก็ทำให้ผมผิดหวัง“มินมาทำอะไรที่นี้ เธอมาหาใคร?”“ผมไม่ทราบครับ แต่อีกไม่นานผมจะมีคำตอบมาให้นายครับ”“เออ ไปได้แล้ว ไปให้พ้นหน้ากูเลย!!”ผมโวยใส่ไอ้ซาต้าด้วยความหงุดหงิดมันก็รีบลนลานออกไปจากห้องทำงานของผมอย่างไว ทั้งที่มันบอกว่าใกล้จะได้ตัวมินตราแล้วแท้ๆแต่มาวันนี้มันกลับทำงานพลาดจะไม่ให้ผมโมโหได้ยังไงกันตุ๊บ“โถ่เว้ย!!”ผมใช้มือกวาดหนังสือเอกสารที่อยู่บนโต๊ะลงพื้นด้วยความหงุดหงิดก๊อกๆๆๆ“ใคร!!”ผมตวาดเสียงเอ่ยถามไปด้วยอารมณ์ที่ยังไม่หายหงุดหงิด“พ่อเอง”เสียงนุ่มและอบอุ่นของพ่อเอ่ยกลับมาทำให้ผมรู้สึกผิดขึ้นมาเพราะผมไม่เคยขึ้นเสียงใส่พ่อของผมเลยสักครั้ง“เข้ามาได้ครับพ่อ”ผมเอ่ยบอกพ่อกลับไปแอ๊ดดด“เป็นอะไรลูก มองอารมณ์ไม่ค่อยดี?”พ่อผมเอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วงพลางนั่งล
“หึ!ผู้ชายแบบผมไม่ได้มีไว้ให้พวกผู้หญิงเลือกแต่มันอยู่ที่ผมจะเลือกใครต่างหากล่ะ”“เลือกใครก็ได้ที่ไม่ใช่ฉัน!!”ฉันว่าพลางจับจ้องนัยสาสีดำของเขาเขาก็จ้องฉันกลับมาเราจ้องตากันอย่างเนิ่นนานโดยที่ไม่มีใครละสายตาออกไปจากกัน“คุณจะเอาแบบนั้นจริงๆเหรอ…ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ไม่หวั่นไหวเวลาอยู่ใกล้ๆผม”เสียงกระเส่าของมิซาโนะคร่ำครวญอยู่ข้างๆหูฉัน“คนนั้นคือฉันย่ะ!!เพราะฉันไม่หวั่นไหวกับนายเลยสักนิ๊ด”ฉันโกหกนิดนึง ไม่หวั่นไหวบ้าอะไรล่ะใจเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งเวลาที่อยู่ใกล้ๆเขาเนี่ย“แล้ววันหนึ่งคุณจะเสียใจที่คุณไม่ให้ผมเลือกคุณ…เพราะคุณไม่มีสิทธิ์เลือกผม^_^”“ฉันไม่เสียใจหรอกย่ะ!!”ฉันว่าพลางกัดฟันกรอดๆเพราะหมั่นไส้ความมั่นหน้าของอีตาบ้านี่ อีตาซาโนะก็ทำลอยหน้าลอยตาพูดล้อเลียนฉัน ไอ้บ้านี่!มันกวน!“นายมีอะไรดีหนักหนาที่จะทำให้ฉันเสียใจถ้านายไม่เลือกฉันน่ะ?”ฉันถามเขาออกไปทำให้มิซาโนะกระตุกยิ้มมุมปากขึ้นเเละขยับใบหน้าลงมาหาฉันทำให้ฉันรีบเบือนหน้าหนีเพราะกลัวว่าจะโดนเขาจูบ“เพราะลีลาบนเตียงของผมเร้าร้อนมาก^_^”เขาไม่ว่าเปล่าพลางใช้ฟันขบเม้มที่ติ่งหูของฉันเบาๆอี๋สกปรกที่สุด!!“อี๋ๆๆทุเรศ!”ฉันร้องโวยวายพลา
คฤหาสน์ ซานโต้ห้องนอนมิซาโนะ22:30น.“อื้อออออ”ฉันครวญครางขึ้นอีกครั้งเมื่อรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก หรือว่าฉันกำลังโดนผีอำ?“อื้อ”ฉันร้องในลำคอพลางขยับตัวแต่ก็ขยับไม่ได้พอลืมตามาก็มองไม่เห็นอะไรเพราะรอบๆข้างมันมืดไปหมด ฉันจับได้ว่าฉันนอนดิ้นไปดิ้นมาอยู่บนที่นอนที่ฉันเองก็ไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของและเผลอหลับไป ใช่ฉันหลับแต่ตอนนี้ฉันตื่นแล้ว“อื้อออออ”ฉันดิ้นอีกครั้งแต่ดูเหมือนยิ่งฉันดิ้น ร่างของฉันก็ยิ่งโดนรัดแรงขึ้นแต่เอ๊ะ รัดอย่างงั้นเหรองั้นแสดงว่าฉันไม่ได้โดนผีอำน่ะสิ“อย่าดิ้นได้ไหมคุณ…ผมง่วง”เสียงงัวเงียของซาโนะดังกระซิบที่ข้างหูฉันพร้อมกับแรงกดเบาๆที่แก้มของฉันทำให้ฉันเองที่ก็ง่วงๆสะลึมๆอยู่ก็ตามตื่นทันที ไอ้บ้านี้มันแต๊ะอั๋งฉันอีกแล้วน่ะเว้ยเฮ้ย ครั้งนี้ต้นฝนคนนี้จะไม่ยอม!!!พรึบ ตุ๊บ“โอ้ยยยยยยยย”เสียงร้องโหยหวนของมิซาโนะดังลั่นเมื่อฉันใช้เท้าทั้งสองข้างถีบร่างของอีตาซาโนะให้ออกไปจากตัวฉันอย่างแรงจนทำให้ร่างสูงโปร่งของมิซาโนะตกลงไปจากที่นอนพรึบ“ไอ้บ้า!!!คุณเอาแต่แต๊ะอั๋งฉันจนทำให้ฉันไม่มีค่าอะไรแล้วเนี่ย!!”ฉันเปิดไฟหัวเตียงและโวยใส่เขาทันที ซาโนะที่มีอาการงัวเงียๆอยู่ก็เอาม
“ผมรีบเคลียร์งานหนิครับ หิวไส้จะขาดแล้ว”ซาโนะพูดบอกคุณป้าไปด้วยนำ้เสียงออดอ้อน ทำให้ฉันที่ในปากยังคาบช้อนอยู่ต้องหันไปมองซาโนะที่ตัวโตยังกะควายยังอ้อนแม่เหมือนเด็กๆอยู่อีก“มองไร?”ซาโนะที่รู้ได้ว่ามีฉันกำลังนั่งมองอยู่ก็หันหน้ามามองหน้าฉันและเอ่ยถามฉันมาด้วยน้ำเสียงเเข็งๆเพื่อกลบเกลื่อนความอายน่ะสิ“ทานข้าวเถอะลูก”คุณป้ารีบห้ามทัพทันทีเมื่อฉันไม่ตอบซาโนะแต่กลับยักคิ้วให้เขาอย่างกวนๆทำให้ซาโนะไม่พอใจ“ครับ^_^”ว๊ายเจอลูกแหง่เพิ่มอีกหนึ่งอัตรา^_^คนนั้นคือมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ที่มีนามว่า มิซาโนะ ซานโต้“คริๆๆ”ฉันแอบขำทำให้ซาโนะที่นั่งอยู่ข้างๆเอาเท้าเขามาเขี่ยเท้าฉันอย่างแรงทำให้ฉันแทบจะสำลักข้าวในปากขวับฉันหันไปจะเอาเรื่องซาโนะแต่เขากลับทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ลอยหน้าลอยตาเคี้ยวข้าวตุ้ยๆเหมือนเด็กสายตาของเขาก็จดจ้องไปที่แม่ของเขา อีตาบ้านี้มันกวน!!“มหาวิทยาลัยเป็นยังไงบ้างหนูโยโกะ โอเคไหม?”เสียงของคุณลุงซาโอะที่นั่งอยู่หัวโต๊ะเอ่ยถามฉันขึ้นหลังจากที่ท่านไม่ได้พูดอะไรเอาแต่นั่งยิ้มมองสองแม่ลูกนั้นออดอ้อนกัน“ก็..”ฉันที่กำลังจะบอกคุณลุงแต่ก็โดนมิซาโนะเอ่ยตัดหน้าฉันไปอย่างไว“เธอจะไปรู้ได้ยังไงกัน
คฤหาสน์ซานโต้….ต้นฝน ซาโยะโกะจัง…..“อื้อออ”ฉันบิดตัวไปมาแล้วค่อยๆลืมตาขึ้นมองไปรอบๆก็พบกับห้องนอนขนาดใหญ่ที่ถูกตกแต่งเป็นโทนสีดำสลับขาวมีเฟอร์นิเจอร์ครบครัน“ตื่นแล้วเหรอจ๊ะ?”เสียงนุ่มท่าทางใจดีของใครคนหนึ่งเอ่ยขึ้นทำให้ฉันหันไปมองเสียงนั้นอย่างไว ก็พบกับหญิงสาวอายุน่าจะเลขห้าแล้วน่ะ เธอกำลังยืนยิ้มให้ฉันอยู่ด้วยท่าทางใจดี“ค่ะ”ฉันตอบเขาไปพลางทำหน้าสงสัยและดูเหมือนเธอจะเข้าใจสีหน้าของฉันน่ะ“ป้าเป็นแม่ของซาโนะน่ะจ๊ะหนูโยโกะ^_^”เธอเอ่ยกลับมาด้วยท่าทางยิ้มแย้มและเป็นมิตร แม่ของซาโนะอย่างนั้นเหรอ“สวัสดีค่ะ^_^”ฉันรีบยกมือไหว้เพื่อสวัสดีเธอแต่เธอก็ยกมือขึ้นมารับไหว้ฉันด้วยท่าทางเก้ๆกังๆน่ะ อ๋อใช่สิเธอเป็นคนญี่ปุ่นหนิหนา เมื่อนึกได้ยังงั้นฉันก็สบัดตัวลุกขึ้นยืนและโค้งตัวเล็กน้อยเพื่อทำการทักทายแบบคนญี่ปุ่น“こんにちは(คนนิจิวะ)”ฉันเอ่ยทักทายเป็นภาษาญี่ปุ่นเธอไป“こんにちは(คนนิจิวะ)”เธอเองก็โค้งตัวเล็กน้อยและทักทายฉันกลับมาเป็นภาษาญี่ปุ่นเช่นกัน“หนูโยโกะทำตัวสบายๆเลยจ๊ะไม่ต้องเกร็งนะ”แม่ของซาโนะเอ่ยขึ้นพลางเดินเข้ามาหาฉันใบหน้าของเธอเต็ทไปด้วยรอยยิ้มที่ใจดีทำให้ฉันรู้สึกสบายใจขึ้นเยอะเลย“หิวรึยั
เอี๊ยดฉันมาจอดหน้าตึกอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งและสอดส่องสายตามองเข้าไปก็พบกับร่างสูงที่คุ้นตาของใครคนหนึ่งกำลังทำหน้าตาเคร่งเครียดเอามือเท้าเอวเขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวปลดกระดุมที่คอสามเม็ดโชว์รอยสักที่คอเท่ๆของเขาสวมกางเกงผ้าเตื้อดีสีดำทับในอย่างเท่เขายืนอยู่ตรงหน้าชายกลุ่มของชายชุดดำที่กำลังยืนอยู่ข้างหลังของอีตานั้นโดยสายตาของพวกเขามันเต็มไปด้วยความเป็นห่วงปนความเครียดแค้นและยังมีชายชุดดำยืนประกบข้างซาโนะอีกนับสิบคนและที่ทำให้ฉันสะดุดตามากที่สุดก็คือ กลุ่มชายชุดดำอีกกลุ่มหนึ่งจำนวนห้าคนกำลังพากันรุมกระทืบผู้ชายในชุดสูทสีแดงที่นอนอยู่บนพื้นอย่างเอาเป็นเอาตาย“อีตานักเลงเอ้ย!ป่าเถื่อนที่สุด!”ฉันสบถขึ้นพลางจ้องมองอีตานั้นที่เดินไปคร่อมร่างของชายคนนั้นและจับคอเสื้อเขาขึ้นมามองหน้าตัวเองชายคนนั้นก็เหมือนคนที่กำลังจะหลับแหล่ไม่หลับแหล่และต่อมความเสือกก็เข้ามาทันที ฉันรีบเปิดประตูรถอย่างแผ่วเบาและรีบนั่งย่องๆให้เข้าไปใกล้คนพวกนั้นมากที่สุดเพื่อจะฟังบทสนทนาได้ชัดเจนขึ้น“แกก็รู้ว่าฉันไม่ชอบการค้าผู้หญิง!!”ซาโนะตวาดเสียงดังอย่างดุดันใบหน้าของเขาแสดงถึงความโกรธมากๆใบหน้าที่เคยเป็นสีขาวอมชมพูบัดนี้ได
คฤหาสน์ มิยาชิตะ07:00น.ต้นฝน ซาโยโกะจัง... “ทำไมลูกถึงอยากอยู่ที่นี้แล้วล่ะ?”เสียงที่เต็มไปด้วยความดีใจที่ต้องไม่แสดงออกมามากของท่านมิซานเอ่ยขึ้น ฉันที่กำลังก้มหน้าก้มตากินข้าวอยู่ก็ต้องเงยหน้ากลับไปมองเขา“ก็อยากอยู่แล้ว อยู่ที่นี้สบายดีไม่ต้องทำงาน”ฉันบอกเขาไปและก้มหน้ากินข้าวต่อเพื่อจะไปมหาลัย“อย่างงั้นเหรอลูก ดีแล้วที่หนูชอบพ่อจะได้หมดห่วง”ท่านมิซานเอ่ยขึ้นมาด้วยนำ้เสียงดีใจ “ฉันจะไม่หนีอีกแต่มีข้อแม้”ฉันว่าพลางวางช้อนกับส้อมและเงยหน้าขึ้นไปมองท่านมิซานที่เขาเอาแต่นั่งจ้องหน้าฉัน“ข้อแม้?….อะไรเหรอลูก?”ท่านมิซานเอ่ยถามฉันมาด้วยสีหน้ากังวลใจ ฉันก็จึงกรีดรอยยิ้ม“ฉันไม่เอาบอดี้การ์ดฉันต้องการความเป็นส่วนตัว ขอเงินและการติดต่อกับทุกคนได้เพราะคนอย่างฉันพูดคำไหนคำนั้นคือไม่หนีก็คือไม่หนีถ้าคุณไม่เชื่อคำพูดฉัน”ฉันเว้นระยะและจ้องหน้าเขาพร้อมกับกรีดรอยยิ้มที่ชั่วร้ายที่สุดให้เขาดู“ฉันจะหนีทุกอย่างเมื่อมีโอกาส”“โอเคลูก พ่อเชื่อคำหนูพ่อจะให้ทุกอย่างที่หนูต้องการ”เมื่อท่านนายกพูดเสร็จเขาก็ดีดนิ้วดังเป๊าแล้วสักพักก็มีบอดี้การ์ดชุดดำสามคนเดินถือถาดของอะไรมาก็ไม่รู้ ฉันก็มองมันอย่างสงสัย
คฤหาสน์ ซานโต้มิซาโนะ ซานโต้……“ลูกชาย^_^”เสียงร้องออกมาด้วยความดีใจของผู้หญิงที่ผมรัก ร้องทักผมพร้อมกับผมที่เดินเข้าไปสวมกอดท่านด้วยความคิดถึง“ลมอะไรหอบลูกมาเนี่ยซาโนะ?”แม่ของผมเอ่ยถามผมทันทีที่ท่านผละกอดไปจากผม ผมก็ยิ้มให้ท่าน เพราะตั้งแต่ปลายฟ้าแต่งงานกับไอ้ริวผมก็เข้าไปบริหารงานเองทุกอย่าง งานผมเยอะจนไม่มีเวลากลับบ้านมาหาแม่ของผม ครั้งสุดท้ายที่กลับมาก็เมื่อตอนที่ผมเจอยัยโยโกะครั้งแรกนั้นแหละ “ผมจะกลับมาอยู่ที่นี้แล้วครับ”“อ้าวทำไมล่ะ ทำไมลูกไม่ไปอยู่กับหนูซาโยโกะจังล่ะ?”แม่ผมร้อนใจถามผม ผมก็เอื้อมมือไปจับมือมาผมมากุมไว้ด้วยความเคารพรัก แม่คือผู้หญิงที่แกร่งที่สุดในสายตาผมผมรักท่าน“เธอกลับไปอยู่กับพ่อของเธอแล้วครับ”ผมตอบแม่ไปพลางเดินโอบเอวท่านไปยังห้องนั่งเล่นและพาท่านนั่งลงบนโซฟาตัวแพงและผมก็เอนตัวลงนอนตักแม่ของผม ท่านก็ยื่นมือมาลูบกลุ่มผมของผมอย่างแผ่วเบา“อ้าวหนูโยโกะเธอเข้าใจพ่อของเธอแล้วเหรอ?”“เปล่าหรอกครับแม่ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ผู้หญิงนี่เข้าใจยากจริงๆนะครับ”ผมบอกแม่ไปพลางจับมือท่านมาแนบกับแก้มของผมแม่ของผมก็ยิ้มขำ“ชอบหนูซาโยโกะเหรอลูก ถึงอยากจะเข้าใจเธอน่ะ?”“เปล่าน
คฤหาสน์ มิยาชิตะต้นฝน ซาโยโกะจัง...“คุณหนูคะ คุณหนูของมาม่าซัง^_^”เสียงร้องด้วยความดีใจของมาม่าซังเอ่ยขึ้นหลังจากที่เห็นร่างของฉันเดินเข้ามาภายในบ้าน ฉันก็ยิ้มและอ้าแขนรอรับร่างของมาม่าซังที่วิ่งเข้ามาสวมกอดฉันด้วยความคิดถึงพรึบ“คุณหนูของมาม่าซัง คิดถึงจังเลยค่ะ^_^”มาม่าซังผละกอดออกจากฉันแล้วเอ่ยบอกฉันด้วยนำ้เสียงและแววตาที่จริงจัง“หนูก็คิดถึงมาม่าซังค่ะ^_^”ฉันเอ่ยบอกมาม่าซังกลับไปและในทันใดนั้นสายตาของฉันก็ไปสบเข้ากับดวงตาสีนำ้ตาลที่สั่นไหวเขากำลังมองมาที่ฉันและยิ้มออกมาด้วยความดีใจ ใครคนนั้นก็คือท่านมิซานท่านนายกรัฐมนตรียังไงล่ะ“คุณหนูมาเที่ยวเหรอคะ?”มาม่าซังเอ่ยถามฉัน ฉันก็ละสายตามามองหน้ามาม่าซังและยิ้มกว้างขึ้น“เปล่าหรอกค่ะ หนูจะกลับมาอยู่ที่นี้และหนูก็จะไม่ไปไหนทั้งนั้น!”ฉันพูดออกมาด้วยนำ้เสียงเยือกเย็นและเเข็งกร้าว“ลูกหมายความว่ายังไงโยโกะ?”ท่านมิซานเอ่ยถามฉันด้วยนำ้เสียงสงสัยปนแปลกใจกับคำพูดของฉัน“ผมเอาคุณหนูโยโกะมาคืนท่านครับ”มิซาโนะที่เดินตามหลังฉันมาเอ่ยขึ้น ทำให้ท่านมิซานมีสีหน้าที่ตกใจหนักกว่าเดิม“หมายความว่ายังไงซาโนะ?”ท่านมิซานเอ่ยถามซาโนะซาโนะก็ค่อยๆเดินก้มศี
“ไม่น่ะ ถ้าคุณไม่ขัดใจผมหรือขัดคำสั่งผม”เขาตอบฉันมาพลางยักคิ้วข้างหนึ่งให้ฉัน ฉันก็จิ๊ปากใส่เขาและเอาแผ่นหลังพิงพนักที่นั่งและเอามือขึ้นมากอดอกและมองออกไปนอกเรือและได้ยินเสียงปืนดังถี่รัวแบบไม่มีหยุดพัก เหมือนเกาะนั้นกำลังเกิดสงครามกันอยู่“ที่คุณถูกทำร้ายเป็นแผนของแฟนพี่ปลายฟ้าเหรอคะ?”ฉันที่นึกขึ้นได้ก็รีบหันไปถามซาโนะแต่ในจังหวะนั้นฉันที่หันเร็วและซาโนะก็เกิดจะหันมาหาฉันอีกเหมือนกันทำให้ใบหน้าของเราอยู่ใกล้กันและจมูกชนกันเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวฉันหยุดนิ่งไปเหมือนโดนหยุดเวลา ไม่มีอะไรขยับเคลื่อนไหวมีเพียงแค่ลมหายใจของฉันที่ผ่อนเข้าออกด้วยอาการแปลกๆเพราะหัวใจเต้นรัวเเเรงทำให้ลมหายใจติดขัด“จูบ”ฉันเบิกตาโตขึ้นทั้งสองข้างเมื่อมิซาโนะคนฉวนโอกาสขยับใบหน้าหล่อของเขาเข้ามาหาฉันพร้อมกับกดริมฝีปากนุ่มๆของเขาลงมาแนบชิดกับริมฝีปากของฉัน พรึบ“ไอ้คนฉวยโอกาส นายจูบฉันสี่ครั้งแล้วนะ!!”ฉันผลักร่างของซาโนะให้ออกไปจากฉันอย่างแรงจนร่างของเขาล้มลงไปอยู่บนพื้นเรือและฉันก็ลุกขึ้นยืนชี้หน้าว่าเขาพลางใช้มืออีกข้างถูริมฝีปากของตัวเองไปด้วย ลูกน้องของซาโนะรีบวิ่งเข้าไปพยุงร่างของผู้เป็นนายให้ลุกขึ้นยืน