“ พี่ อย่าทำเลย “
คนเป็นเมียที่สุขภาพร่างกายไม่ค่อยดี บอกปฏิเสธผัวที่ตอนนี้ กำลังปลุกตัวเองที่กำลังหลับสนิทขึ้นมา แล้วขยับเข้ามาในมุ้งที่กางนอนกับลูกสาว
“มึงอย่ามาดีดดิ้น ออกมา “ คนที่กำลังมีอารมณ์ ดึงเมียออกมาจากมุ้ง แล้วพาเข้าไปนอนในมุ้งของตัวเองที่อยู่ไม่ไกลนัก ก่อนจะจัดการ ปลุกปล้ำเมีย จนสำเร็จ เสียงร้องของคนเป็นเมีย ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ร่างกายที่ไม่แข็งแรง ถูกย่ำยี แล้วต้องเก็บกั้นความรู้สึกเอาไว้ เพราะลูกสาว ที่กำลังโต นอนอยู่ไม่ไกลนัก และ กำลังหลับสนิท
“โอ๊ย มึงนี่มันยังมันส์ดีจริงๆ “ เสียงสามีบอกอย่างถูกใจ ที่ได้กระทำกับเมียอย่างเร่าร้อนรุนแรง
“พี่ พอเถอะ “
คนที่ยังไม่พอ จัดการต่ออีกรอบ โดยไม่สนใจว่า คนใต้ร่างจะรู้สึกอย่างไรในตอนนี้ ใบหน้าซีดเซียว หลับตาลงด้วยความอ่อนล้า แล้วก็หลับไปแทบจะทันที ที่สามี สุขสมไปแล้วถึงสองครั้ง
เด็กสาวที่ได้ยินทุกการกระทำของคนเป็นพ่อ หลับตานอนนิ่ง น้ำตาไหลอาบออกมา ทำไมพ่อถึงทำกับแม่แบบนี้ เสียงแม่ร้องออกมา ดังไปทั่วบ้าน หลังเล็ก เสียงจากการกระทำของพ่อ ทำเอาคนเป็นลูก นอนไม่หลับตลอดทั้งคืน
ใบหน้าของเด็กสาวอิดโรยจากการนอนน้อย ต้องตื่นขึ้นมาหุงหาอาหาร เช้าวันเสาร์ที่เป็นวันทำงาน ทำให้คนอยากได้เงิน ลุกขึ้นมาอาบน้ำเตรียมตัว
เสื้อเชิ้ตตัวเก่ากับกางเกงวอร์มสีดำ ที่สวมใส่ เหมาะสำหรับการทำงานกลางแดด ตลอดทั้งวัน
อาหารเช้า เป็นข้าวกับไข่ต้ม ที่หุงพร้อมกับหม้อข้าว
“ลุงใหญ่ ลุงใหญ่ “ เสียงเรียกหน้าบ้าน ทำให้คนที่กำลังกินข้าวอยู่ เรียกให้เข้ามาข้างใน สมาชิกในบ้านสี่คน นั่งล้อมวงกันกินข้าวเช้า
น้ำพริกสีแดงในกระปุก ไข่เจียว และ ผัดผักกะหล่ำปลีอีกจานใหญ่ ส่งกลิ่นหอม ทันทีที่โผล่หน้าเข้าไป
“ลุง หนูมาทำงานนะ” เด็กสาวบอกเสียงอ่อย กับหัวหน้าคนงาน
“มีแต่งานฝีมือ ปูกระเบื้อง “ หัวหน้าคนงานตอบตามที่นายแจ้งเอาไว้ล่วงหน้า ว่าสัปดาห์นี้ให้เคลียร์เรื่องปูกระเบื้อง
“หนูผสมปูนให้ “ คนที่ผสมปูนได้ รีบเสนอตัว
“ไม่ต้อง คนอื่นทำแล้ว “ หัวหน้าคนงาน เห็นใจและเข้าใจทุกอย่าง แต่งานมันไม่มี
“หัวหน้าใหญ่ “ เสียงเรียกหน้าบ้าน ทำให้คนที่กำลังคุยกันอยู่ มองไปที่หน้าบ้าน ร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อยืดกางเกงนอน เดินหน้าบึ้งตึงเข้ามา
“ให้ใครเอาผ้าไปส่งซักให้หน่อยสิ “ นายบอกกับหัวหน้าคนงาน คนที่ได้ยินดังนั้น ยกมือขึ้นทันที
“หนูค่ะ “ คนอยากมีงานทำ ยกมือสูงขึ้นกว่าปกติ แล้วหันไปมองคนที่ยืนอยู่หน้าประตู งานกรรมกรไม่ได้ทำ ก็ต้องทำงานอื่น
คนที่อยากหาเงิน มองหน้าหัวหน้าคนงานที่กำลังกินข้าวทันที
“นะลุงใหญ่ หนูจัดการเอง “
“ขี่เป็นไหม มอเตอร์ไซด์ “ คนที่ยืนหน้าประตู ทำเสียงดุ ถามออกมา
“หนูขี่รถไม่เป็นค่ะ แต่หนูซักผ้าได้ ให้หนูซักผ้าให้นายนะคะ แดดแบบนี้ ตากเดี๋ยวก็แห้ง “ คนอยากได้เงินหว่านล้อม แล้วเดินออกไปที่หน้าประตู ยกมือไหว้นาย ที่ยืนอยู่ตรงนั้น
“นะคะนาย ให้หนูซักผ้าให้นายนะคะ “
กางเกงยีนขายาวนับสิบตัว กับเสื้อยืดอีกสองตระกร้า ที่วางอยู่หน้าบ้าน ทำให้คนที่ตั้งใจจะทำงาน ท้อใจขึ้นมาทันที
“นาย กี่เดือนซักผ้าทีคะ “ เสื้อผ้าสามตระกร้า ที่วางเอาไว้ มากเกินกว่า ที่คาดเอาไว้มาก คิดว่าจะมีสักห้าตัวสิบตัว
“จะซักไหม บ่นอยู่นั่น “ คนที่พามาดูงาน แล้วยกตระกร้าออกมาให้ บอกเสียงดุ
“ซักค่ะ ไหนคะ ผงซักฟอก” คนที่ตั้งใจจะเริ่มงานแต่เช้า มองหาอุปกรณ์
“ไม่มี “
”อะไรนะคะ ไม่มี “ เสียงสูงถามออกมา
“แล้วจะซักยังไงคะ กะละมัง ไม้แขวนเสื้อ น้ำยาปรับผ้านุ่ม “ คนที่ต้องใช้ของเหล่านี้ บอกออกมา
ประตูบ้านถูกเปิดออก พร้อมกับปิดเสียงดังปัง แล้วเจ้าของบ้าน ก็เดินออกมา พร้อมกับไม้แขวนเสื้อในตระกร้าเกือบห้าสิบอัน และเงินอีกห้าร้อยบาท ยื่นให้
“จะใช้อะไร ก็ซื้อมา พอไหม “ เงินให้มือที่ยื่นให้ ถูกรับมา พร้อมรอยยิ้มกว้าง
“พอค่ะ ขอบคุณค่ะนาย “ คนที่เห็นรอยยิ้มสดใสนิ่งอึ้งไปทันที แล้วชี้ไปที่ก็อกน้ำด้านข้าง กับราวเหล็กที่เอาไว้แขวนของ ยาวหลายเมตร
“ทำตรงนี้นะ “ เจ้าของบ้านชี้ไปที่ลานกว้าง แล้วเดินกลับเข้าไปข้างใน ปล่อยให้ลูกจ้าง มือใหม่ ทำงานของตัวเอง
กะละมังซักผ้าใบใหญ่สองใบ ใบละร้อย กับใบเล็กห้าสิบบาทแปรงซักผ้า ผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มอีกหกสิบบาท รวมเป็นเงินสามร้อยกว่า เงินทอนในกระเป๋า ถูกเก็บลงแล้วรูดซิปอย่างดี ก่อนจะเดินหอบของพะรุงพะรังผ่านบ้านคนงานไป จนถึงบ้านนาย ที่อยู่ด้านใน แล้วลงมือทำงานของตัวเอง
เสื้อยืดสีดำ สีน้ำเงิน สีเขียวเข้ม และ สีน้ำตาล สามสิบตัว ถูกแช่ใส่กะละมังรวมกัน ก่อนจะมาแช่กางเกงยีนส์อีกกว่า ยี่สิบตัว แล้วก็มาถึง กางเกงนอนขาสั้น กับชั้นใน ที่อยู่ในถุงซักผ้า ต่างหาก
มือบางขยี้เสื้อยืดและปรับน้ำยาปรับผ้านุ่มจนหอมฟุ้ง ก่อนจะปิดตากเอาไว้ เป็นอย่างแรก เสื้อยืดทั้งหมด แขวนเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ เมื่อเจ้าของบ้าน เปิดประตูออกมา หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว
กลิ่นหอมของผ้า ที่เพิ่งตาก ทำให้ต้องมองเด็กที่นั่งแปรงผ้าด้วยสายตาที่อ่อนลงกว่าเดิม
“ทำไปนะ “ คนที่เพิ่งออกมา คว้าเสื้อเชิ้ตติดมือออกมาอีกสิบตัว แล้วเดินไปสตาร์ทรถ ขับออกไป
“โอ้โห ตกลงนายเค้าซักผ้าเดือนละครั้งใช่ไหม “ คนที่เห็นตระกร้าผ้า แล้วก็ถอนหายใจออกมา อย่างน้อย ก็ได้ค่าแรง และ ไม่เหนื่อย เท่ากับต้องไปเป็นกรรมกร
เสื้อผ้าเกือบห้าสิบตัว แขวนตากที่ราวข้างบ้านอย่างเป็นระเบียบ ส่วนกางเกงชั้นในและถุงเท้า ถูกแขวนเอาไว้ด้านล่าง อยู่อีกนับสิบชั้น กะละมังคว่ำเอาไว้ พร้อมกับตระกร้าผ้า 5ใบ ที่ซักผ้าจนหมด ตลอดครี่งวันเช้า แล้วบ่ายจะทำอะไรต่อ
เงินทอนที่เหลือจากการซื้อของร้อยกว่าบาท น่าจะเป็นค่าแรง อย่างน้อย นายก็คงไม่เรียกคืนไป
“ไปไหนมาลูก “ แม่ที่เห็นลูกสาววิ่งกลับมาบ้าน มองหน้าแดงก่ำ ที่วิ่งกลับมา แล้วถือกุนเชียงมาถุงหนึ่ง
“หิวข้าวจังเลยแม่ “ ลูกสาวบอกเสียงอ้อน วางถุงกุนเชียงเอาไว้ แล้วเปิดหม้อข้าวดู ก่อนจะตักข้าวที่เหลือออก แล้วหาจานมาครอบเอาไว้ ล้างหม้อ แล้วเตรียมจะหุงข้าวใหม่ แต่ข้าวสารในถังใบเล็ก ไม่เหลือแล้ว
รถกะบะคันเก่า ขับเข้ามาจอดที่หน้าบ้านพักตอนเย็น เสื้อผ้าที่ซักแขวนเอาไว้อย่างเป็นระเบียบ ส่งกลิ่นหอมฟุ้ง เมื่อเดินผ่าน ทำให้นึกขึ้นได้ว่า ยังไม่ได้จ่ายเงินค่าจ้างให้เด็กเลยคนงานที่เลิกงานกลับมา หุงหาอาหารสำหรับมื้อเย็น หม้อข้าวของแต่ละบ้านกำลังทำงานแทบจะทุกหลังคาเรือน เสียงพูดคุยกันที่ลานซักล้าง เสียงเปิดน้ำรองเอาไว้ใส่ถัง ทำให้การสนทนาต้องเสียงดังกว่าเดิมคนงานชายจับกลุ่มตั้งวงกินเหล้าทันทีที่เลิกงาน สุราขวดสีน้ำตาล วางอยู่ตรงหน้า คนละขวด ไม่ต้องแย่งกัน“โอ้ย เหนื่อย สายตัวแทบขาด “ คนที่ก้มๆเงยๆ ปูกระเบื้องพื้น มาตลอดทั้งวัน บ่นออกมา แล้วยกเหล้าขึ้นดื่ม“เหนื่อยทุกคนแหละว้า ใครจะสบาย “ คนใช้แรงงานมองหน้ากันตาปริบๆ แล้วมองนายที่เดินดุ่มๆ มาตรงนี้“นาย มองหาใครครับ “ หัวหน้าคนงานถามนาย ที่เดินมองหาใครอยู่“เด็กซักผ้าเมื่อเช้าไง ยังไม่ได้ให้ค่าแรง “ คนเป็นนาย หยิบเงินในกระเป๋าเสื้อออกมานับ“ไอ้ เอวา ลูกสาวมึงไง ไอ้อ่อน “ หัวหน้าคนงาน บอกกับคนที่นั่งดื่มอยู่“อ่อ เงินลูกสาวผม ให้ผมก็ได้ “ คนที่เห็นเงินนาย แล้ว ยื่นมือออกไปทันที“เจ้าตัวอยู่ไหน บอกให้ไปหาที่บ้านด้วย “นายบอกเสียงดุ แล้วม
เสียงพูดคุยในวงเหล้าหลังเลิกงานดังขึ้นเรื่อยๆตามดีกรีของเครื่องดื่มที่กินเข้าไป เหล้าขาวสีใส ในขวดสีน้ำตาล วางเรียงรายตรงหน้าเพราะเหลือแต่ขวดเปล่า หลังจากดื่มกินกันมา หลายชั่วโมง“แดกเข้าไปเหล้า เมาทุกวัน “คนที่ทนไม่ไหวแล้ว เดินออกมาอาละวาดที่หน้าลานกว้าง ที่เป็นที่ตั้งวงสังสรรค์ คนที่นั่งกันอยู่หันไปมองเป็นตาเดียว เมื่อเจอ คนหน้าดุ นั่งอยู่“ขอโทษจ้ะนาย ฉันด่าผัวฉัน ไม่ได้ด่านาย “นายที่นั่งอยู่ในวงเหล้า สวมเสื้อยืดสีดำมอมแมม ในมือคีบสูบบุหรี่ แล้วปล่อยควันให้ลอยขึ้นไปบนฟ้าที่เริ่มมืดแล้ว“งั้นก็แยกย้าย แดกมาก เมามาก กูก็รำคาญตอนเช้าเหมือนกัน “ นายบอกเสียงดุ แล้วลุกขึ้นจากวงเหล้าหยิบถุงย่ามของตัวเองขึ้นมาสะพาย แล้วเดินกลัวไปที่บ้านพักข้างใน“อีจำปา มึงนี่ตัวซวย เหล้าหมดพอดี นายกำลังจะควักเงินให้แล้ว มึงนี่มัน “ คนในวงด่า อีตัวซวยแล้วมองร้านค้า ที่เปิดไฟอยู่ข้างใน“กูพอแล้ว ““กูก็พอ “เพื่อนร่วมวงไม่มีใครอยากควักเงินซื้อ ทั้งนั้น เหล้าขวดละร้อยยี่สิบ ค่าแรงวันละสามร้อยห้าสิบ ถ้าซื้อมา มีคนกิน แต่ไม่มีคนจ่าย คนในวงมองหน้ากันตาปริบๆ แล้วลุกขึ้นทีละคนสองคน แยกย้ายกันกลับบ้านบ้านพักที
“ เมื่อคืนมีอะไรกันเสียงดัง “ นายที่กำลังชงกาแฟใส่แก้ว ถามหัวหน้าคนงาน ที่ยืนอยู่ตรงหน้า“ไอ้อ่อนครับนาย เมา อาละวาด “ หัวหน้าคนงานตอบตรง แล้วก้มหน้าลง เพราะกลัวถูกตำหนิ หลังเลิกงานจะมีการดื่มอยู่แล้ว เป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่นายอ่อน คือ เมาทุกวัน“เวลาให้แดก ก็มีปัญหา เวลาไม่ให้แดกก็มีปัญหาอีก “ คนที่ได้ยินเสียงทะเลาะเมื่อคืน รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา อย่างไม่มีเหตุผล แล้วมองออกไปข้างนอก หน้าต่าง เห็นแผ่นหลังของเด็กสาวในชุดนักเรียน เดินก้มหน้าก้มตาออกไปจากแคมป์ ตั้งแต่ยังไม่เจ็ดโมงดี“วันนี้เทปูนชั้น15ให้เสร็จเรียบร้อย ก่อฉาบตรงแผนที่วางเอาไว้ เดี๋ยวฉันจะตรวจงานตอนเย็น “นายสั่งหัวหน้างาน ให้ควบคุมงานให้ดี ถ้านายไปตรวจ แล้วไม่ดี เจอจุดบกพร่อง ต้องแก้ไข นายด่าเปิงแน่นอน ดังนั้น หัวหน้าจึงต้องรับคำสั่ง ไปถ่ายทอด อีกทีคนงานกว่าเจ็ดสิบคนทั้งชายหญิง ยืนรอรับคำสั่ง และเช็คชื่อ ประจำวันก่อน8โมงเช้า คนงานมีหลากหลายวัย ตั้งแต่วัยรุ่น ไปจนถึงวัยกลางคน และวัยเกือบจะหกสิบก็มีนายอ่อน ชายวัยสามสิบเจ็ดปี ที่ทำงานหนัก มาตลอด และดื่มเหล้าทั้งวัน จึงดูแก่กว่าอายุจริง ยืนอยู่ปะปนกับเพื่อนร่วมงาน หัวหน้างาน
แถวรับเงินค่าแรง ยาวเป็นหางว่าว วันนี้ทุกคนยิ้มหน้าบานเป็นแถว เพราะได้รับเงินหลายพันบาท บางราย มีรายได้เกือบหมื่น เพราะเป็นช่างที่มีฝีมือแม่ค้าจากร้านค้าในแคมป์นั่งรออยู่แล้ว ไม่ห่างจากแถวของนาย คนที่เซ็นต์เชื่อค่าสินค้าเอาไว้ หลังจากรับเงินค่าแรงมาแล้ว ก็ต้องมาจ่ายค่าเหล้าค่ากับข้าวทันที“ลุงอ่อน สองพันแปดร้อยสี่สิบ “ เสียงแม่ค้า บอกยอดหนี้ ของชายตรงหน้า ที่เพิ่งได้รับเงินมาหกพันสี่ แล้วต้องใช้หนี้ค่าเหล้า ค่ากับข้าวไปแล้ว เกือบสามพัน“อะไรมากมายขนาดนั้น “ คนที่กินแล้ว แต่ไม่อยากคิดว่า จะมากมายถีงเพียงนี้ บ่นออกมา“สิบห้าวัน เหล้าสิบห้าขวด เป็นเงินเท่าไหร่ ค่าเหล้าลุง มากกว่า ค่ากับข้าวอีก “แม่ค้าบ่นออกมา สองแม่ลูกกินแต่ไข่ ปลากระป๋อง ผักถุงละสิบบาท แต่พ่อกินเหล้า วันละร้อยกว่า“บ่นมากจริง ทอนมา “ เงินสามพันบาท ถูกส่งมอบให้กับแม่ค้า ที่มารอทวงเงินลูกหนี้คนอื่น รีบจ่ายเงิน ใช้หนี้ แล้วเดินไปที่ร้านค้า ที่มีลูกสาวของแม่ค้า รอขายของอยู่แล้ว วนลูบไปแบบนี้ เป็นประจำ“เหล้าขาว 1ขวด “ คนที่เพิ่งมาเชื่อเหล้า เมื่อเช้าไปขวดหนึ่ง มาเอาเพิ่มใหม่อีกแล้ว“เบาได้เบา ตาอ่อน เช้าขวดเย็นขวดเลย “ แ