เสียงออดของโรงเรียนดังขึ้นในเวลาสี่โมงเย็น นักเรียนต่างทยอยกันเดินออกมา โรงเรียนมัธยมขนาดใหญ่ มีนักเรียนหลายร้อยคน
รถมอเตอร์ไซด์ของเด็กมอปลายขับออกจากโรงเรียนก่อน ปล่อยให้คนที่ต้องยืนรอรถ เดินออกมาทีหลัง
“เอวา เรากลับก่อนนะ “ เพื่อนร่วมห้องเดินออกจากห้องเรียนไป เหลืออีก3-4คน ที่ต้องทำเวร
สี่โมงครึ่งแล้ว คนที่รออยู่หน้าโรงเรียนชะเง้อมองหา คนที่ยังไม่ออกมา ก่อนจะยิ้มกว้าง เมื่อเห็นเจ้าตัว เดินออกมากับเพื่อนผู้หญิง3คน
“นาย มีอะไรคะ “ เจ้าตัวถามออกไป ด้วยความตกใจ ที่เห็นนายมายืนรอ คิดไปเรื่อยว่า แม่อาจจะป่วย
“เปล่า ผ่านมา เลยมารับ “ คนที่นึกใจดี บอกเสียงเรียบ แล้วเดินมาที่รถ เปิดประตูรถของตัวเองแล้วมองคนที่มาทีหลัง
“นายสวัสดีค่ะ “ เสียงหวานเอ่ยทักทายออกมา แล้วมองคนตรงหน้า ที่พยักหน้ารับ เหมือนอามารับหลานที่โรงเรียนเลย
ใบหน้าคมเข้มบึ้งตึงขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ ก่อนจะขับรถออกไป
“วันนี้ออกมาช้า “ คนที่เห็นนักเรียนมาก่อนแล้ว ถามขึ้นมา
“วันนี้เอวา เป็นเวรทำความสะอาดค่ะ ทุกวันจันทร์ “
เจ้าตัวบอกรายละเอียด แล้วมองร้านขายยา ที่เค้าขับผ่านไป คนที่มองอยู่ จึงถามขึ้นมา
“จะแวะซื้อของหรอ “
รถกะบะจอดที่ข้างฟุตบาท แล้วคนที่นั่งอยู่ก็ก้าวลงจากรถ เดินไปตามทาง เข้าไปในร้านขายยา
“ยาธาตุน้ำแดง ยาลดกรด ยาพาราค่ะ “ เด็กสาวสั่งรายการออกมา ตามที่ตัวเองต้องการ แล้วมองคนที่เดินตามมาทีหลัง
“เอามาอย่างละสองเลย “ นายสั่งคนขายแล้วหยิบเงินสองร้อยจ่ายออกไป ก่อนจะยื่นถุงให้คนข้างๆ
“ซื้อให้ แค่นี้ ฉันไม่จนลงหรอก “ คนที่อยากดูแลเดินหน้าเรียบออกมาจากร้านขายยา แวะร้านลูกชิ้นทอด หยิบลูกชิ้นทอดร้อนๆ หลายสิบไม้ มาวางเอาไว้ แล้วสั่งให้แยกเป็นสองถุง
ร่างสูงใหญ่เดินนำหน้ามาที่รถ แล้วมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ก่อนจะขับรถออกไป
“จะแวะที่ไหนอีกไหม “
“ไม่แล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ “
ลูกชิ้นทอดร้อนๆ ที่อยู่ในมือส่งกลิ่นหอม คนขับรถมองคนที่ถือของอยู่บนตัก
“หยิบลูกชิ้นมาไม้หนึ่งสิ “ มือบางหยิบลูกชิ้นขึ้นมาแล้วยื่นให้ แต่คนขับรถส่ายหน้า
“ชิมสิ ร้อนไหม “ เค้าสั่งเธอ แล้วมองเธอชิมลูกชิ้นคำแรก
“ไม่ร้อนค่ะ “
“งั้นก็กินเลย ซื้อให้ “
คนที่หิวจัด ยิ้มกว้างออกมา รอยยิ้มแบบนี้ใช่ไหม ที่ทำให้พาตัวเอง มาถึงที่นี่ มือบางจับไม้ลูกชิ้นที่อยู่ในมือมากิน แล้วมองหน้าเค้า
“นาย กินไหมคะ “
“ขับรถ มือไม่ว่าง “
คนที่กินคนเดียว รู้สึกผิด จึงยื่นไม้ลูกชิ้นไปใกล้กับเค้า คนขับรถ จับมือบางที่ถือไม้ลูกชิ้นเอาไว้ แล้วกินหน้าตาเฉย จนคนที่ถูกจับมือ หน้าร้อนผ่าวขึ้นมา
ลูกชิ้นถุงแรกหมดไปแล้ว และใกล้จะถึงแคมป์คนงาน คนขับรถ มองใบหน้านวลใส ที่เปื้อนน้ำจิ้มลูกชิ้น แล้วยิ้มออกมา นิ้วโป้งสัมผัสเบาๆที่แก้มเช็ดน้ำจิ้มที่เปื้อนออกให้ แล้วบอกเสียงเบา
“ถ้าใครถามก็บอกว่าเจอที่หน้าแคมป์ อย่าบอกว่าฉันไปรับที่โรงเรียน “ นายบอกให้พูดตามนี้ เพราะไม่อยากให้คนอื่นเอาไปพูดให้เสียหาย เพราะยังไม่มีอะไรทั้งนั้น
“ค่ะ นาย “ เด็กนักเรียนรับคำ แล้วมองออกไปข้างนอก คนขับรถจึงถามขึ้นว่า
“จบมอหกเมื่อไหร่ “
“เดือนหน้าก็สอบแล้วค่ะนาย สอบเสร็จก็เรียนจบแล้ว “
คนที่อยากทำงานบอกออกมา แล้วมองหน้าเค้า
“หนูเรียนจบแล้ว หนูจะไปทำงานที่ห้าง “ คนที่วางแผนการเอาไว้ บอกกับนาย แล้วอยากจะขออะไรบางอย่างจากเค้า
“นายคะ ถ้าหนูมีเงินเดือน หนูปลูกบ้านหลังใหม่ อยู่กับแม่สองคนได้ไหมคะ “
“ทำไมละ “
“พ่อเมาค่ะ อาละวาด เสียงดัง หนูอึดอัด “ คนที่เริ่มโตเป็นสาวแล้ว บอกออกมา แล้วมองหน้าเค้า ด้วยสายตาอ้อนวอน
“อายุเท่าไหร่ จะไปทำงานห้าง “ นายขึ้นมา
“18ค่ะ อีกสามวันก็18แล้ว “
รถกะบะขับเข้ามาจอดที่หน้าบ้านพัก ใกล้เวลาเลิกงาน แม่บ้านที่กำลังหุงหาอาหาร มองรถนาย และดูว่าใครกำลังลงมา
“ขอบคุณค่ะ “ เด็กนักเรียนยกมือไหว้ แล้วเดินเข้าไปในบ้าน วางถุงยาและถุงลูกชิ้น ข้างแม่
“แม่ สวัสดีจ้ะ “ ลูกสาวเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วรีบเอาไปซักทันที ชุดนักเรียนมีแค่สองชุด ใส่แล้วต้องซักเลย
“แม่ วันนี้กินข้าวกับลูกชิ้นนะ “ ลูกสาวบอกเสียงหวาน แล้วหอบผ้าที่ใส่แล้ว เดินไปซักที่ลานซักล้าง แล้วลงมือทำงานทันที
เสียงคนเมาดังมาก่อนตัว คนในบ้านมองหน้ากัน แล้วขยับหนี คนที่เพิ่งเมามา เสียงร้องเพลงดังอย่างอารมณ์ดีมีความสุข ก่อนจะทิ้งตัวลงที่กลางห้อง แล้วหลับไป
“แม่ไม่ต้อง เดี๋ยวหนูทำเอง “ ลูกสาวที่แข็งแรงกว่า เดินมารั้งร่างผู้เป็นพ่อ ให้เข้าไปนอนในฟูกอันเก่า แล้วจัดการกางมุ้งให้ ก่อนจะออกมาช่วยแม่ทำงาน
อาการปวดท้อง เริ่มปวดขึ้นมาอีกครั้งมือเหี่ยวย่น ในวัยสามสิบกว่าปี หยิบยาขึ้นมาดื่มอึกใหญ่ แล้วล้มนัวลงนอน
“แม่ ไปหาหมอเถอะ พรุ่งนี้หนูจะหยุดเรียน “ คนที่พอมีเงินเก็บ สองพันบาท บอกกับแม่ที่นอนหลับตานิ่ง บัตรทองของแม่ อยู่อีกที่หนี่ง จะใช้ก็ต้องทำเรื่องวุ่นวาย ยังไงก็แล้วแต่ ยังไงแม่ก็ต้องไปตรวจ
“แม่พักก็หายแล้ว อย่าวุ่นวาย “ คนที่อยากให้ลูกสบายใจ บอกออกมา แล้วกดท้องของตัวเอง ที่ตอนนี้ ปวดทรมาน น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว
เสื้อที่ซักแล้วพับอยู่ในตู้อย่างเป็นระเบียบทำให้นึกถึงคนที่มาช่วยงาน ใบหน้าอ่อนเยาว์ รอยยิ้มสดใส และแววตาซื่อตรงที่มองมา ทำให้คนที่ได้เห็น แอบยิ้มตามโดยไม่รู้ตัว
กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มที่หอมอ่อนๆ บนเสื้อและกางเกงขาสั้น ทำให้นึกถึงคนที่อยู่ในชุดเสื้อผ้าเก่าปอน ทั้งเอ็นดู และ สงสาร ในเวลา
เดียวกัน
“อีกสามวัน หนูจะ18แล้ว “ คำตอบ ที่ได้ยินทำเอาคนฟังใจหาย สรุปว่า ตัวเองกับเอวา ห่างกันสิบเจ็ดปี
ชายวัยสามสิบห้าที่ผ่านร้อนผ่านหนาว จากกรรมกร ก่อสร้างในวัยยี่สิบปี ปากกัดตีนถีบ สร้างเนื้อสร้างตัว จนได้เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างที่มีลูกน้องในมือ เกือบร้อยคนหมุนเวียนกัน เพราะมัวแต่ทำงาน เลยไม่มีเวลามองหาคู่ชีวิต แต่พอวันนี้ ตั้งใจจะมีใครสักคน ก็ดูท่าจะยาก เพราะเด็กก็คือเด็ก จะมาปักใจอะไรกับคนรุ่นพ่อ อย่างเค้า คนที่คิดคนเดียวถอนหายใจออกมา
คนป่วยกระเสาะกระแสะลุกขึ้นหุงข้าว ต้มไข่ แล้ว ปลุกลูกสาวที่นอนอยู่บนฟูก มือของแม่ลูบผมลูกสาว แล้วอวยพรวันเกิด“ เอวา แม่ขอให้ลูกของแม่ แข็งแรง เเข็งแกร่ง และ เติบโต อย่างดีนะลูกนะ “ เสียงของแม่ อ่อนล้า อ่อนแรง แต่ก็ตั้งใจจะเอ่ยออกมา เพื่อให้พรลูกสาวคนเดียว“แม่จ๋า หนูกราบแม่ ที่แม่ให้หนูเกิดมา “คนที่ดันทุรังจะเก็บลูกเอาไว้ ยิ้มทั้งน้ำตา ความรักในวัยเรียน ที่พ่อแม่ ออกปาก ไล่ออกจากบ้าน เพราะความอาย ที่ลูกสาวท้องตั้งแต่ในชุดนักเรียน ทำให้ สองคน หอบผ้าหอบผ่อน และเงินติดตัวไม่มาก เข้าเมืองใหญ่ช่วงแรก พ่อของเอวา เป็นวัยรุ่นที่มีความรับผิดชอบ ตั้งใจจะเลี้ยงดูลูกอย่างดี แต่เพียงไม่นาน ลายก็ออก แม้จะลำบากขนาดไหน คนเป็นแม่ก็สู้ทน เพราะอยากให้ลูกมีพ่อ มีคนคุ้มครอง แต่ยิ่งนานวัน อะไรก็แย่ลง ยิ่งลูกโตขึ้นเท่าไหร่ พ่อก็ยิ่งแย่มากขึ้น เป็นลำดับ
ยาถุงใหญ่กินได้เป็นเดือน ที่คุณหมอสั่งจ่ายมาให้ ทำให้คนที่วิ่งไปร้านขายยา หลายต่อหลายครั้ง รู้สึกประทับใจเหลือเกิน ยาน้ำขวดใหญ่2ขวด ก็เกือบร้อย ยังไม่รวมยาเม็ด อีกหลายซอง เพราะคุณหมอ อาจจะมองเห็นความ เก่าปอน ของเสื้อผ้า และ ใบหน้าคนป่วย จึงเกิดความสงสาร“แม่จ๋า หมอบอกว่า แม่กินข้าวกินยา ไม่ตรงเวลา เลยป่วย ต่อไปนี้ แม่ต้องดูแลตัวเองให้ดีกว่านี้นะ “ ลูกสาวบอกกับแม่ แล้วพาลงจากรถ เดินเข้ามาในแคมป์ ที่ตอนนี้กำลังทำงานกันอยู่ร่างสูงใหญ่ ที่อยู่ในชุดที่คุ้นตาโพกผ้าปิดหน้าเอาไว้ เหลือเพียงลูกตาคมดุ ที่มองมาที่สองแม่ลูก“ไปไหนกันมา “ เสียงคนข้างบ้านตะโกนถาม”ไปหาหมอจ้ะ หนูพาแม่ไปหาหมอมา “คนที่อยู่แถวนั้น พลอยได้ยินไปด้วย แล้วสองแม่ลูก ก็เดินเข้ามาในบ้าน“แม่นอนพักเถอะ เดี๋ยววันนี้ หนูเป็นแรงให้แม่เอง”คนป่วยที่เหนื่อยจากการขึ้นรถหลายต่อ ล้มตัวลงนอน มองลูกสาวที่กำลังเก็บของ แล้วเตรียมตัว ทำริบบิ้นแทนแม่“มีเงินเยอะหรอ “ แม่ถ
ริมฝีปากของคนตรงหน้า สัมผัสไปที่หน้าท้องขาวเนียน มือหนาลูบไล้ที่ใบหน้า แล้วใช้นิ้วโป้ง สัมผัสริมฝีปากอ่อนนุ่ม“อ้าปากสิ “ คนที่อยูกลางลำตัว เงยหน้าขึ้นมาบอกให้เธอ อ้าปากออก แล้วจัดการ สอดนิ้วโป้งของตัวเอง ลงไป“ดูดนิ้วฉัน “ เด็กสาวที่แทบไม่รู้เรื่องอย่างว่า ดูดนิ้ว ตามคำสั่ง คนที่ถูกตอบรับ ยิ้มกว้างออกมา“เก่งมาก เด็กดี “ คำชมของนายและรอยยิ้มกว้าง ทำให้คนที่อมนิ้ว ดูดเอาไว้ เร่งความเร็วขึ้นอีก แล้วท้องน้อยของตัวเอง ก็เสียววาบ ขึ้นมาอีกแล้ว“พอแล้ว หนูเอวา “ คนที่อยากเป็นหนูของนาย มองท้องขาวของตัวเอง ที่ถูกเปิดออก เผยให้เห็นร่างกาย ที่ไม่มีใครได้เห็น มือของนาย ลูบไล้ที่หน้าท้องอีกครั้ง“ฉันอยากเล่นกับเอวา ทั้งวัน แบบนี้ ไม่อยากไปไหนเลย “ คนที่ติดใจแล้ว บอกออกมา แล้วขยับตัวลุกขึ้นนั่ง หน้าอกเ
หากสัมผัสที่นุ่มนวลของคนตรงหน้าจะพาให้ร่างกายกับหัวใจล่องลอยไปไกล ตอนนี้คนที่นอนเปลือยกายอยู่บนเตียง ก็ลอยไปไกลแสนไกลแล้ว สัมผัสที่ปลายลิ้นเร่งเร้าจังหวะอ่อนโยน สลับไปความเร่าร้อน รุนแรง ทำเอาร่างกายสั่นสะท้าน ความรู้สึกปลุกเร้า ทวีความรุนแรง จนแทบจะต้านทานไม่ไหว มือบอบบางจับมือหนาของเค้าเอาไว้ แล้วก็กรีดร้องออกมา พร้อมกับที่คนตรงหน้า ก็กระตุกมือของตัวเองน้ำคาวสีขาวขุ่นเปื้อนกางเกงขาสั้นออกมา จนเต็มล้น คนที่ช่วยตัวเอง ลุกขึ้นนั่ง ชูมือที่เปื้อนคราบน้ำของตัวเอง“นาย “ ใบหน้าแดงก่ำ เรียกเค้านับสิบครั้งในวันนี้ แล้วมองดูมือ ที่เค้าชูขึ้นมา“ความจริง น้ำอันนี้ มันต้องอยู่ข้างในตัวหนู “ คนที่ยังห้ามใจได้ บอกเสียงอ่อนโยน แล้วลุกขึ้น เดินไปห้องน้ำ ถอดกางเกงออก ล้างมือ แล้วนุ่งผ้าเช็ดตัว เดินออกมาเสื้อชั้นในที่อยู่ตรงอก ปกปิดความงดงามเอาไว้ เค้าแค่ดึงสายเสื้อลงอย่างเดียว ไม่ได้ ถอดมันออก“เอวา หนูสัญญาได้ไหม ว่าจะไม่ให้ใครเข้าใกล้หนู แบบนี้ ““หมายควา
ร่างกายเปลือยเปล่าของคนสองคน กอดรัดกันอยู่บนเตียง มือหนาลูบไล้เรือนร่างบอบบาง แล้วขยับเข้ามากอด จูบไม่ห่าง“นาย ปล่อยค่ะ “ คนที่ดูนาฬิกาที่ข้างฝา บอกเวลาเกือบจะเที่ยงแล้ว ยังไม่ได้ทำงานทำการอะไรสักอย่าง“หนู จะลุกไปซักผ้าให้นายค่ะ “ คนที่มีหน้าที่บอกเสียงเข้ม“ไม่ต้องซักแล้ว ทำอย่างอื่นดีกว่า ““ทำอะไรคะ นายนี่ ““อะไร คิดอะไร ไหนบอกมาสิ ว่าเด็กคนนี้ คิดว่าฉันจะทำอะไร “ เค้าบอกแล้วลูบสะโพกเธอเบาๆ ก่อนจะไล่ขึ้นมาที่หน้าท้อง และหน้าอก“นาย หนูบอกว่า ให้หยุด ““ไปอาบน้ำ เดี๋ยวจะพาไปกินข้าวข้างนอก “ เค้าบอกออกมา แล้วลุกขึ้นยืน จับมือเธอให้เดินเข้าไปในห้องน้ำด้วยกัน
วันเสาร์ทั้งวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว เวลาที่มีความสุข จบลงเมื่อท้องฟ้ามืดแล้ว คนที่ไม่อยากให้กลับ มองออกไปข้างนอก เห็นคนงานเตรียมตัวจะทานอาหารเย็นกันแล้ว บางบ้านก็เตรียมหุงหาอาหาร“ นาย หนูกลับก่อนนะคะ “ คนที่งัวเงีย เพิ่งตื่นนอน ลุกขึ้นมานั่ง มองคนที่ยืนอยู่ตรงห้อง“ฉันให้ เอาไว้ใช้ “ เงินสดสองพันบาท ถูกยื่นให้คนตรงหน้า แล้วจูบหน้าผากเบาๆ“นาย ทำไมให้ตั้งเยอะ “ คนที่ไม่ได้ทำอะไร ถามออกมา“ฉันให้เมียฉัน ไม่ได้ให้คนงาน “ คนถูกเรียกว่าเมีย หน้าแดงขึ้นมาทันที“นาย อย่าพูดแบบนี้สิคะ หนูเขิน ““เรื่องจริง เอวา เป็นของฉันแล้ว ฉันจะดูแลเอวา ให้ดีเอง รู้ไหม ““นาย อย่าบอกใครได้ไหมคะ “ คนที่เคยชินอยู่กับ
“ เอวา ทำไมน่ารักขนาดนี้ “คนที่นั่งบนตัก ส่ายหน้าปฏิเสธ เธอเป็นเด็กธรรมดา น่าตาก็ธรรมดาไม่ได้โดดเด่นอะไร ไม่ได้สวยจนใครต่อใคร ต้องมองเหลียวหลัง“หนูไม่ได้น่ารักตรงไหนเลยค่ะ “ เด็กสาวบอกตามตรง“ฉันว่า หนูน่ารัก ก็เชื่อฉันเถอะ อย่ามาเถียง “ คนหลงเมียหนัก บอกออกมา แล้วจูบที่หน้าอกอวบอิ่ม อยากจะทำรอยตีตรา แต่ก็ไม่อยากให้ใครต่อใคร ผิดสังเกต“เมื่อคืน ฉันคิดแบบบ้านให้หนูแล้วนะ “ คนที่จะแยกบ้านให้ใหม่ บอกกับคนตรงหน้า“หมายความว่า ““ก็พ่อเธอเกเร อาละวาดขนาดนั้น ฉันจะทนดูเมียฉัน อึดอัดใจได้ยังไง “ มือหนาจับลูกผมมาทัดหูเอาไว้ อย่างอ่อนโยน“เอวา ฉันชอบหนูมาก มากจนไม่คิดว่า จะชอบใครได้ขนาดนี้ หนูต้องเป็นเด็กดีของฉันนะ &ld
“ แม่ “ เด็กนักเรียนวิ่งเข้าไปหาคนเป็นแม่ ที่นั่งรออยู่หน้าบ้าน บ้านของเราสองคน“เดี๋ยวล้ม วิ่งเป็นเด็ก “ แม่ดุออกมา แต่ยิ้มกว้าง อย่างมีความสุข บ้านจะเล็กจะใหญ่ไม่สำคัญเลยสักนิด เพราะบ้านก็คือ คนที่อยู่ด้วยกันต่างหากเด็กนักเรียนถอดรองเท้าคู่เก่าออก แล้วเดินเข้าไปข้างใน มองพัดลมตัวใหม่สีชมพู กับ ที่นอนปิคนิคอีกอัน“แม่ เอามาจากไหน ““นายให้มา เป็นของขวัญขึ้นบ้านใหม่ “มือบางแกะถุงที่นอนปิคนิคออก แล้วปูนอนทันที สังกะสีใหม่เอี่ยม ไม่รั่วไม่ผุไม่พัง ผนังเป็นไม้อัดเต็มแผ่น ไม่ปุไม่ปะ แบบบ้านหลังเก่า มีประตู ปิดแน่นหนา และมีช่องว่างระบายลม ด้านบน เท่านี้พอแล้ว พอแล้วจริงๆ“เดี๋ยวนายเค้ากลับมา ไปขอบคุณเค้าด้วยนะลูก “ แม่บอกเสียงเปี่ยมสุข แล้วก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเองต่อ บ้านหลังใหม่ ชีวิตใหม่ที่มีกันสองคนแม่ลูก หวังว่าจะสงบสุขและร่มเย็นกว่าที่เคยเป็นมารถกะบะของนายขับเข้ามาในช่วงค่ำ
เสียงเฮลั่นบ้านแต่เช้าเพราะได้ยินข่าวดีเหลือเกิน คนที่กำลังจะเป็นพ่อ ยิ้มไม่หุบ หลังจากได้ทราบแผนการ ของคนเป็นเมีย เอวาที่กินยาคุมกำเนิดมาตลอด ตั้งใจหยุดกินยา และ ตั้งท้อง เพื่อเซอร์ไพรส์ เค้า นับว่าเป็นของขวัญที่ประเมินค่าไม่ได้เลยลูกมือสองคน มองพี่เสือ ที่ยิ้มกว่าทุกวัน แล้วยิ้มตาม นานๆที พี่เสือจะเข้า มายุ่งในห้องทำขนม“พี่เสือ ออกไปเถอะค่ะ “ห้องเล็กแคบ มีของวางเต็มไปหมด กลับต้องมี คนตัวโต มายืนเก้ๆกังๆ จะช่วยหยิบจับ ทำอะไรไม่ค่อยถนัด“พี่อยากช่วย “ เสียงอ้อนวอน ทำเอาสองสาวแอบมองหน้ากัน แล้วทำตาปริบๆ พี่เสือ ทำอย่างกับว่า อยู่กับพี่เอวา เพียงสองคน“หนูจะทำงานนะ “
ร้านเค้กเล็กๆ ที่ทำกันหลังบ้าน เติบโตไปทีละนิด ยอดขายจาก100 เพิ่มเป็น 200 และ 300 ในตอนนี้ ใบหน้าสวยหวาน ปาดเหงื่อ มองดูเค้กนับร้อยถ้วยที่วางตรงหน้า มันเป็นความภูมิใจ ของเด็กจากแคมป์คนงาน อย่างเธอสติ้กเกอร์ที่แปะติดหน้ากล่อง บอกตัวตน และ ความฝัน ที่ได้รับการยอมรับ มูลค่าเงินอาจจะไม่มากมาย แต่มูลค่าทางใจ ประเมินไม่ได้เลย“ยิ้มแก้มค้างไปแล้ว “ ผู้เป็นแม่ ที่มาช่วยแพคขนม แซวลูกสาว เอวา ในวัยยี่สิบสองปี ผ่านอะไรมามากมาย กว่าเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน“ก็มันดีใจนะแม่ ขายขนมได้ขนาดนี้ จะยิ้มกว้าง ก็ไม่แปลกเลย “ลูกสาวตอบกลับ แล้ววางขนมใส่กล่องเตรียมนำไปส่ง ลูกค้า ที่จะมารับถึงหน้าบ้าน อย่างบรรจงไม่อยากให้ผลไม้สด ที่วางอยู่บนครีมขาว ขยับเขยื้อน“เอวา ตอนนี้อะไรก็ลงตัวแล้ว คิดถึงเรื่องมีลูกหรือยัง “ แม่แอบถาม เพราะเห็นว่านายอายุ หลักสี่เข้าไปแล้ว ที่ไม่พูดไม่เอ่ย ก็เพรา
เสียงช่างทำงานในบ้าน ทำให้คนที่อยากเห็นห้องทำงานของตัวเอง แอบชะโงกเข้าไปดู แต่พอได้สบตาคมดุ ก็ต้องรีบออกมา หัวหน้าช่างใหญ่ โพกผ้าสีดำเอาไว้รอบศีรษะเหลือแต่ลูกตา เอาไว้มองดู พื้นปูน ที่สกัด ออก เป็นรอย ก่อนจะปูกระเบื้อง สีลายไม้ ที่เอวา เป็นคนเลือก“ฝุ่น เข้ามาทำไม “ ช่างดุ ออกมา แล้วไล่ให้เธอ เดินออกไปข้างนอก ช่างที่มาทำงานด้วยกัน แอบอมยิ้ม ใครต่อใคร พูดกันว่า นายเสือ แกรักเมียแก เหลือเกิน ถ้าไม่เห็นกับตา ก็คงไม่เชื่อชายหนุ่มทำงานตากแดด แบกปูน ตีฝ้า ทำได้ทุกอย่าง ท่ามกลางคนงานนับร้อย แต่กลับอ่อนโยน กับคนเป็นเมีย ถึงเพียงนี้เค้าเตอร์ปูน วัดระดับ หลายครั้ง กะคำนวน ให้ใช้ประโยชน์สูงสุด แล้ววางแผนไปถึง ชั้นวางของ และ อุปกรณ์ไฟฟ้า ที่จะตามมา เป็นอย่างต่อไป&n
ใบหน้าเคร่งขรึมของคนที่ขับรถ มารับ ทำให้คนที่เพิ่งขึ้นมาบนรถ นิ่งตามไปด้วย ทั้งที่ในใจ อยากจะเข้าไปบอกเรื่องราวดีดี กับเค้า เป็นคนแรก รถกะบะคันเก่า ขับไปบนถนน อย่างไม่เร่งรีบ ก่อนจะมาจอดที่หน้าบ้าน ในช่วงเวลาปกติแม่ชะโงกหน้า ออกมาดู แล้วกลับเข้าไปในห้อง ช่วง2-3วันมานี้ ลูกชายและนายเสือ ดู ตึงๆใส่กันคนที่อาบน้ำแล้ว ถอดกางเกงยีนส์ออก แล้วเปลี่ยนเป็นกางเกงขาสั้น เปิดกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่ม เปิดโทรทัศน์ดูบอลไปเรื่อยหญิงสาวถอดเสื้อผ้า แล้วเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำเช่นเคย บรรยากาศ ในห้อง อึมครึมอย่างเห็นได้ชัดเจนกระป๋องเบียร์ที่หมดแล้ว วางทิ้งใส่ถังขยะ ก่อนที่กระป๋องที่สองจะตามมา คนที่เดินเข้าไปในห้องน้ำ ก็เดินออกมา ใน
พี่ๆที่ร้าน มองดูรุ่นน้อง ที่นั่งหลับตานิ่ง บนเก้าอี้ ในช่วงพักเบรค มือบางหยิบยาดมขึ้นมาดม เรียกความสดชื่น ก่อนจะลืมตาขึ้นมา“เอวา มีน้องหรือเปล่า “ พี่แตงกวา ถามด้วยความเป็นห่วง“เปล่าพี่ ช่วงนี้ใกล้สอบ เรียนหนัก “ คนที่ทั้งเรียนทั้งทำงานตลอด 7 วัน ตอบเสียงอ่อย อีกไม่กี่วัน เธอก็จะจบเทอมแล้ว“นี่แหละน้า มันไม่ง่ายจริงๆ ที่จะเรียนด้วย ทำงานด้วย ““นอนน้อย แต่ก็นอน โชคยังดี ที่เอวา ไม่ต้องทำงานบ้านเลย พี่เสือ ทำให้หมด “ คนที่โชคดีจริง บอกเล่า ให้เพื่อนร่วมงาน ได้ฟัง“ดีแล้ว ความจริงนะ ไม่ช่วยงานบ้าน พี่ก็ไม่ว่าเลย ขอแค่ซื่อสัตย์ จริงใจ ไม่เล่นยา ไม่เล่นการพนัน ก็หายากยิ่งกว่า งมเข็มในแม่น้ำเจ้าพระยา“คนที่นิ่งฟังรุ่นพี่ คิดตามคำที่ได้ยิน พี่เสือของเธอ ดีกว่าที่คาดเอาไว้“เอวา มาช่วยแพคแซนวิชห
แม้จะรู้ว่าคนที่อยากจีบ จะมีแฟนแล้ว แต่คนที่อยากได้ ก็ไม่สน ชายหนุ่มรูปหล่อน่าตาดี อยากบริหารเสน่ห์ของตัวเอง ยิ่งยากก็ยิ่งอยากได้ พนักงานหญิงสาวหลายคน เดินผ่านไปผ่านมา เสียดสีร่างกายกับชายหนุ่มที่เพิ่งเข้ามาทำงาน ได้ไม่นาน มองสบตากัน ด้วยสายตาหยั่งเชิง ลูกค้าในร้าน แจกทิป ก่อนกลับบ้าน สาวๆที่ติดใจหน้าตาของเด็กเสริฟ ยัดเงินใส่กระเป๋ากางเกง แล้วถือโอกาส สัมผัส ร่างกายไปด้วย คนที่รู้งาน จับมือลูกค้าค้างเอาไว้ แล้วกระซิบเสียงเบา “ปลุกให้ตื่น แล้วต้องรับผิดชอบนะครับ “ คนที่รู้ทัน หัวเราะออกมา แล้วสะบัดมือออก “ผัวพี่ดุ น้องไม่ไหวหรอก “ เด็กเสริฟพยักหน้า แล้วเดินกลับเข้าไปด้านหลัง เปลี่ยนเป็นโฟกัส เพื่อนร่วมงานอีกคนหนึ่งแทน
รถคันเดิมจอดรอที่หน้าวิทยาลัยตามเวลาเลิกเรียน แม้จะรู้ว่า คนที่มาเรียน ต้องทำงานกลุ่มต่อกับเพื่อน แต่คนอยากรอ ก็เต็มใจรอเงียบๆใบหน้าคมเข้มในชุดเสื้อยืดสีขาวสะอาดตา กางเกงยีน นั่งรออยู่ในรถ ก่อนจะยิ้มกว้าง เมื่อเห็น คนที่ตัวเอง เป็นห่วง เดินออกมา พร้อมกับเพื่อน 2-3คน“ไปนะ แล้วเจอกัน อาทิตย์หน้า “ น้ำเสียงสดใส บอกกับเพื่อน แล้วโบกมือบ้ายบาย“มาแล้วค่ะ รอนานไหม “ นักศึกษาสาวน้อย ยิ้มกว้าง แล้วขยับมาหอมแก้มคนที่นั่งรออยู่ในรถ ก่อนจะซุกไซ้ สูดกลิ่นกายหอมละมุน“ไม่นานเลย พี่รอได้ “ คนที่พูดจริงทำจริง บอกออกมา แล้วขับรถไปตามทาง“น่ารักจังเลย พี่เสือของหนู “ คนถูกชม ดึงตัวคนข้างๆม
เสียงคุยโทรศัพท์ยังดังก้องอยู่ในหู แม้จะรู้แก่ใจว่า คนที่นอนข้างๆ ไม่มีทางที่จะให้เบอร์โทรศัพท์กับใครง่ายๆ แต่หัวใจของคนเป็นแฟนอย่างนายเสือ ก็ไม่สงบลงได้คนที่ไม่รู้เรื่องราว หลับสนิทไปแล้ว ใบหน้าอ่อนเยาว์ ผิวขาวใส กับ ริมฝีปากที่น่าจูบเหลือเกิน ยิ่งทำให้ความหึงหวง มีมากขึ้น ทุกวัน“รักพี่ไหม เอวา “ เสียงถามออกมา เบาๆ ในความมืด ก่อนจะจูบหมับ แล้วดึงตัวเธอมากอด หัวใจของเค้า กำลังสั่นไหว“วันนี้ มีทำงานกลุ่ม คงกลับช้าหน้อยนะแม่ “ ลูกสาวที่สวมชุดนักศึกษา กำลังกดโทรศัพท์มือถือ ดูไลน์กลุ่ม ที่เพื่อนๆ ตั้งเอาไว้ เพื่อคุยเรื่องเรียน“อือ อย่ากลับค่ำแล้วกัน เกรงใจนาย “ วันนี้นายเสือ หยุดงาน คงอยากมีเวลาส่
“ ชานมไข่มุก หวานฉ่ำ “ คนขับรับยื่นแก้วชานมไข่มุก ที่ซื้อมาฝากคนข้างๆ ที่รับแก้วไป ตั้งแต่ที่เห็น เอวา เดินมา กับเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน หัวใจของเค้า ก็เริ่มสั่นไหวอีกครั้ง“หวานมาก ชื่นใจที่สุด “ คนที่ดูดน้ำหวาน แล้วยิ้มกว้างออกมา บอกกับคนข้างตัว“ขอบคุณนะคะ ที่นึกถึงหนู “ สาวน้อยที่ชอบของหวานยิ้มอ้อน แล้วขยับตัวเข้าไปใกล้ ซุกไหล่แข็งแรง ที่มีกลิ่นเหงื่อ กลิ่นตัว“พี่ตัวเหม็น “ คนที่ทำงานกลางแดด บ่นออกมา แต่เธอกลับไม่ยอมห่างเค้า แล้วดมที่ซอกคอ“กลิ่นนี้แหละ ชื่นใจของหนู “ เด็กอ้อนเสียงหวาน ทำเอาความรู้สึกแปลกๆจางหายไปทันที เอวาของพี่ เป็นเหมือนน้ำทิพย์ที่ชโลมใจ ของคนอย่างพี่เสือ ที่แท้จริ