ชะเอม พรรณวรท บุตรสาวคนเดียวของศัลยแพทย์มือหนึ่ง ศาสตราจารย์ดอกเตอร์อรรถพันธ์กับดอกเตอร์พันธวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านเคมีบำบัด ตอนนี้ทั้งคู่เป็นอาจารย์กิตติมศักดิ์ประจำอยู่ที่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งมหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
ชะเอมอยู่ที่ประเทศไทยกับคุณยายที่มักจะใช้เวลาว่างทำขนม โดยเฉพาะขนมไทย และมีพี่เลี้ยงสาวคือนิดคอยดูแลอย่างใกล้ชิด
ชะเอมเป็นเด็กฉลาด สอบได้ที่ 1 และคะแนนเต็ม 100 ทุกรายวิชา เธอเป็นเด็กร่าเริง มองโลกในแง่ดีจนถึงขั้นดีเกินไป แต่เธอเป็นเด็กขี้แย อ่อนแอ และไม่สู้คน เธอจึงมักถูกกลั่นแกล้งเป็นประจำ
“พี่อาชิขา ช่วยชะเอมด้วย” ชะเอมร้องลั่นเมื่อโดนเพื่อนในห้องแกล้งดึงผมหางม้า
“ยัยขี้แย ร้องหาคนช่วยใหญ่เลยว่ะ” บอม เพื่อนผู้ชายในห้องที่ชอบแกล้งชะเอมและเพื่อน ๆ ในห้องเป็นประจำ
“ปล่อยชะเอมนะ อย่าดึงผมชะเอม”
“ไหนดูซิ วันนี้ใส่กางเกงในสีอะไร” บอมพูดพร้อมทั้งยื่นมือจะไปเปิดกระโปรงนักเรียนของชะเอม
“กรี๊ดดดด อย่าเปิดนะ โอ๊ย !” ชะเอมดิ้นรนสุดแรงจนเสียหลักล้มลงไปกับพื้น
พลั่ก !
“โอ๊ย !” บอมล้มหน้าคะมำไปกับพื้นเมื่อถูกฝ่าเท้าของอาชิถีบเข้าไปเต็มแรง
“เฮ้ย ! พี่อาชิมา กูไปก่อนละ” จูโน่ เพื่อนผู้ชายอีกคนพูดเสียงดังลั่น ก่อนจะวิ่งหนีไปทันที
“ไอ้จูโน่รอกูด้วย โอ๊ย !” บอมร้องเรียกเพื่อน แต่ยังไม่ทันจะได้ลุกขึ้น อาชิก็เหยียบข้อเท้าของบอมไว้
“ชอบรังแกคนที่อ่อนแอกว่า เป็นผู้ชายประเภทไหนวะ”
“วันหลังผมจะไม่แกล้งชะเอมอีกแล้ว โอ๊ย ! อย่าเหยียบ เจ็บ ๆ”
“มึงรีบไปให้ไกล ๆ เลยนะ ถ้าวันหลังกูเห็นมึงรังแกใครอีก กูจะหักขามึงให้หักเลย” พูดจบอาชิก็ยกเท้าขึ้น บอมรีบวิ่งหนีไปทันที
“ฮือ ๆ ๆ ๆ พี่อาชิขา ชะเอมเจ็บ” ชะเอมที่นั่งอยู่บนพื้นร้องเรียกอาชิ
“นี่ก็เกิดมาเพื่อเป็นตัวภาระจริง ๆ เมื่อไรจะหัดสู้คนอื่นบ้างวะ” อาชิเอ่ยว่าก่อนจะพยุงชะเอมขึ้นมานั่งบนเก้าอี้
“ชะเอมเจ็บ... อึก” ชะเอมบอกพลางจับหัวเข่าตนเองที่เป็นแผลถลอกมีเลือดซึมออกมา
“นั่งรอตรงนี้ก่อน” พูดจบอาชิก็ไปตักน้ำมาล้างแผลให้ชะเอม
“ซี้ดดด... แสบ”
“แสบก็ต้องทน มีผ้าเช็ดหน้าไหม”
“อึก... นี่ค่ะ” ชะเอมยื่นผ้าเช็ดหน้าให้อาชิ อาชิก็เอามาซับที่แผลจนแห้ง แล้วล้วงกระเป๋ากางเกงนักเรียน หยิบพลาสเตอร์ยาออกมาแปะที่แผลของเธอ
“ขอบคุณค่ะ พี่อาชิพกพลาสเตอร์ยาทำไมคะ”
“ก็ตั้งแต่มีเธอเข้ามาเป็นตัวภาระ... ฉันก็พกติดตัวไปงั้น แล้วนี่เมื่อไรจะรู้จักสู้คนสักที ยิ่งร้องพวกนั้นก็ยิ่งแกล้ง”
“ชะเอมสู้ไม่ได้”
“ก็เห็นพูดแบบนี้ทุกที กี่ปีมาละ พูดเป็นอยู่คำเดียว” อาชิพูดอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะเดินจากไป ปล่อยให้ชะเอมนั่งอยู่ตรงนั้น
“คุณหนูทำไมยังไม่นอนอีกคะ จะ 3 ทุ่มแล้วนะคะ” นิดเอ่ยถามเมื่อเดินเข้ามาดูว่าชะเอมเข้านอนแล้วหรือยังเหมือนดังเช่นทุกวัน แล้วพบว่าชะเอมยังนั่งอ่านหนังสือ
“ชะเอมขออ่านบทนี้ให้จบก่อนค่ะ” ชะเอมตอบโดยไม่ได้ละสายตาไปจากหนังสือที่วางอยู่ตรงหน้า
“ทำไมพักนี้คุณหนูอ่านหนังสือหนักขนาดนี้คะ”
“ชะเอมอยากสอบพาสชั้นค่ะ”
“แล้วไม่กลัวรุ่นพี่แกล้งเอาเหรอคะ”
“ชะเอมไม่กลัวหรอกค่ะ ชะเอมมีฮีโร่คอยปกป้อง”
“ใครกันน้าที่เป็นฮีโร่ของคุณหนู ถ้าให้พี่นิดเดาว่าที่คุณหนูจะสอบพาสชั้นเพราะอยากไปเรียนกับฮีโร่ของคุณหนูแน่ ๆ เลย” นิด พี่เลี้ยงของชะเอมวัย 32 เธอเลี้ยงชะเอมมาตั้งแต่ชะเอมอายุ 3 ขวบ พ่อแม่ของชะเอมไว้ใจให้มาอยู่ดูแลลูกสาวเพียงคนเดียว
“ถูกต้องนะค้าาา”
“งั้นพี่นิดไม่กวนคุณหนูแล้ว แต่อย่านอนดึกมากนะคะ พี่นิดเป็นกำลังใจให้คุณหนูสอบพาสชั้นได้ จะได้อยู่ใกล้ ๆ ฮีโร่ของคุณหนู สู้ ๆ ค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ”
“วันนี้คุณครูมีเพื่อนใหม่มาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จัก ทุกคนต้องช่วยกันดูแลเพื่อนคนนี้ด้วยนะ เพราะเพื่อนคนนี้เป็นรุ่นน้องที่สอบพาสชั้นขึ้นมาได้ เข้ามาเลยค่ะ มาแนะนำตัวให้เพื่อน ๆ ได้รู้จัก” คุณครูประจำชั้นพูดจบก็เรียกนักเรียนคนใหม่ของชั้น ม.3/1 เข้ามา
“เฮ้ย ไอ้อาชิ นั่นมันน้องชะเอมของมึงนี่หว่า” เดลพูดขึ้นเมื่อชะเอมเดินเข้ามาในห้อง
“กูมีน้องสาวแค่ 2 คน” อาชิตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉย
“สวัสดีค่ะ ชื่อชะเอม พรรณวรทค่ะ ฝากตัวด้วยนะคะ” ชะเอมเอ่ยแนะนำตัว เมื่อมองเห็นอาชิเธอก็ส่งยิ้มหวานให้เขา แต่อาชิก็ทำเป็นเฉยไม่สนใจ และทันทีที่ชะเอมพูดจบเสียงพูดคุยก็ดังขึ้นทันที
“นี่น้องชะเอมที่อยู่ ม.2/1 นี่ครับ” เสียงเพื่อนผู้ชายในห้องดังขึ้น
“ใช่แล้วค่ะ พวกเราต้องช่วยกันดูแลชะเอมนะ อย่าแกล้งชะเอมเพราะเห็นว่าชะเอมอายุน้อยกว่ารู้ไหมคะ”
“ครับ / ค่ะ” นักเรียนในห้องตอบพร้อมกัน
“ชะเอมไปหาที่นั่งได้เลยค่ะ”
“ชะเอมนั่งตรงนั้นได้ไหมคะ” ชะเอมเอ่ยถามแล้วชี้ไปตรงที่ว่างข้างอาชิที่เคยเป็นที่นั่งของภู ภูดิศ ที่ตอนนี้ไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น
“ได้ค่ะ แต่ถ้าภูดิศกลับมาชะเอมต้องย้ายที่นะคะ”
“ค่ะคุณครู” ชะเอมยิ้มหน้าบานก่อนจะเดินไปนั่งข้าง ๆ อาชิ
“ชะเอมดีใจจังที่ได้มาเรียนห้องเดียวกับพี่อาชิ แล้วก็ได้นั่งเรียนข้าง ๆ พี่อาชิด้วย” ชะเอมพูดขึ้นทันทีที่หย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้
“ทำไมฉันไม่เห็นรู้สึกแบบนั้น” อาชิตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“วันนี้พี่อาชิอาจจะยังไม่ได้รู้สึกอะไร แต่สักวันชะเอมอาจจะทำให้ความรู้สึกของพี่อาชิเปลี่ยนไปก็ได้นะคะ”
“เธอไปเอาความมั่นใจแบบนี้มาจากไหน แต่ฉันว่าถ้าเธอรู้จักสู้คนให้เหมือน กับความมั่นใจของเธอจะดีกว่านะ จะได้ไม่ต้องถูกใครเขาแกล้ง”
“แต่ทุกครั้งที่มีคนแกล้งชะเอม พี่อาชิก็ช่วยชะเอมตลอดนี่คะ ยังไงพี่อาชิก็ยังเป็นฮีโร่ของชะเอมนะ”
“ฉันก็แค่ไม่ชอบเห็นคนโดนรังแกก็เท่านั้น แล้วก็เลิกเรียกฉันว่าฮีโร่ได้สักที มันดูปัญญาอ่อน”
ห้อง ม.6/1อาชิ ภู เดล ชะเอม ทั้ง 4 คนเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน เหตุผลที่ชะเอมเป็นผู้หญิงเพียงหนึ่งเดียวในกลุ่มก็เพราะเธอตามติดอาชิตลอด แต่เพื่อนผู้หญิงคนอื่น ๆ ไม่กล้าเข้ามารวมกลุ่มด้วยก็เพราะความเย็นชา และสายตาดุ ๆ ของอาชิ มีเพียงชะเอมเท่านั้นที่ทนได้ เพราะความเคยชินกับการกระทำและคำพูดของอาชิที่เขาเป็นแบบนี้มาตลอด“เมื่อวานคุณยายทำช่อม่วง เอมเอามาให้เดล ภู แล้วก็พี่อาชิกินด้วย” ชะเอมเปิดกล่องช่อม่วงออกแล้วยื่นไปวางบนโต๊ะตรงหน้าเพื่อนชะเอมมักจะมีขนมฝีมือคุณยายมาฝากเพื่อนแทบทุกวัน เพราะคุณยายของชะเอมชอบทำขนมเป็นชีวิตจิตใจ“สวยจนไม่กล้ากินเลย” เดลพูดพร้อมทั้งหยิบช่อม่วงขึ้นพลิกดูไปมา“หากินยากมากเลยนะ” ภูบอกพร้อมทั้งหยิบช่อม่วงใส่ปาก“อร่อยว่ะ” เดลบอกพร้อมทั้งหยิบช่อม่วงใส่ปากอีกชิ้น“อื้ม... อร่อย โชคดีของพวกเรานะ ได้กินขนมอร่อย ๆ ฝีมือคุณยายชะเอมทุกวันเลย แล้วชะเอมล่ะทำเป็นไหม” ภูถาม“หึ ทำไม่เป็นสักอย่าง กินเป็นอย่างเดียว พี่อาชิไม่กินเหรอ อร่อยนะ” ชะเอมหยิบขนมยื่นไปตรงปากของอาชิ“ฉันเบื่อ กินฝีมือคุณยายเธอทุกวัน... กูขึ้นห้องละ” อาชิบอกพลางผลักมือของชะเอมออก แล้วลุกเดินขึ้นอาคารเรีย
“ชะเอม ชะเอมช่วยอธิบายโจทย์ฟิสิกส์ข้อนี้ให้ขุนฟังหน่อยสิ ขุนไม่ค่อยเข้าใจ” ขุน เพื่อนผู้ชายในห้องที่แอบชอบชะเอมอยู่แต่ก็ไม่กล้าที่จะจีบเพราะมีภู เดล และอาชิอยู่ใกล้ไม่ห่าง“ได้สิ ข้อไหนเหรอ”“ข้อนี้” ขุนชี้โจทย์ฟิสิกส์ให้ชะเอมดูด้วยความใกล้ชิด จนขุนได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากตัวชะเอม“อ๋อ ก่อนอื่นขุนต้องรู้ว่าเหตุการณ์ในโจทย์นี้มันเกิดขึ้นในแนวแกน x หรือแกน y... อะไรของพี่อาชิ เอมกำลังอธิบายให้ขุนฟังอยู่” อาชิดึงหนังสือออกจากตรงหน้าชะเอมมาไว้ตรงหน้าตนเองแทน“ไอ้ขุน มึงไม่เข้าใจตรงไหน เดี๋ยวกูอธิบายให้มึงฟังเอง” อาชิบอกขุนเสียงเรียบ พร้อมกับสายตาที่บ่งบอกว่า 'มึงอยู่ให้ห่าง ๆ จากชะเอม'“เออ...” ขุนมีท่าทีอึกอัก“มาสิ เร็ว ๆ กูจะไปเตะบอล” อาชิเร่งเมื่อขุนมีท่าทีอึกอัก“ไม่เป็นไร มึงไปเตะบอลเถอะ เดี๋ยวกูไปอ่านอีกรอบก็น่าจะเข้าใจแล้วละ” ขุนบอกพลางยื่นมือไปหยิบหนังสือตรงหน้าอาชิ แล้วรีบเดินกลับไปนั่งประจำที่ตนเอง“พี่อาชิจะไปเตะบอลเหรอ ให้เอมไปด้วยนะ” ชะเอมส่งสายตาอ้อนวอนพร้อมทั้งทำตาปริบ ๆ“อยากเตะบอล ?”“เปล่า เอมแค่จะไปดูพี่อาชิเตะบอล ให้เอมไปด้วยนะ” ชะเอมกะพริบตาถี่ ๆ แบบอ้อนวอนสุด ๆ“ไอ้อ
“ทำไมวันนี้ชะเอมยังไม่มาอีกวะ นี่ก็เลตไป 15 นาทีละ หรือว่าชะเอมจะไม่สบายวะ” เดลพูดพร้อมทั้งมองนาฬิกาข้อมือสลับมองประตูโรงเรียน“ไม่แน่ว่ะ เมื่อวานก็เป็นเยอะอยู่ อาจจะระบมจนไม่สบาย” ภูพูดพลางมองไปยังประตูโรงเรียนเช่นเดียวกัน“อ้าว ไอ้อาชิ แล้วมึงจะไปไหน” เดลเอ่ยถามเมื่อจู่ ๆ อาชิก็ผลุนผลันลุกขึ้นยืน“ชะเอมมาแล้ว” ภูบอกเมื่อเห็นชะเอมเดินผ่านประตูโรงเรียนเข้ามา“แล้วมึงไม่ไปแล้วเหรอ” เดลถามอาชิเมื่อเขานั่งลงที่เดิม“กูขี้เกียจไปละ”“อะไรของมึงวะ”“นึกว่าจะไม่มาเสียแล้ว” ภูพูดขึ้นเมื่อชะเอมนั่งลงประจำที่“ตื่นสายน่ะ มึน ๆ หัว”“แล้วทำไมไม่หยุดพัก” น้ำเสียงเย็นชาของอาชิดังขึ้น“เอมไม่อยากหยุดเรียน ไม่อยากมาตามงานทีหลัง”“ถ้าปวดหัวมากต้องบอกพวกเรารู้ไหม เดลขอดูหน่อยสิว่าเป็นยังไงบ้าง โอ๊ย ! เชี่ยอาชิ มึงจะตีกูทำไมเนี่ย... มือหนักฉิบ” เดลลูบมือตนเองป้อย ๆ เมื่อเขายื่นมือจะไปแตะที่หน้าผากของชะเอมแล้วโดนอาชิตีมือของเขาอย่างแรง“มึงก็รู้ว่ามันไม่ชอบให้ใครถูกตัวชะเอม นอกจากมันคนเดียวที่แตะต้องชะเอมได้” ภูปรายตามองอาชิ“พูดมาก ขึ้นเรียนกันได้ละ” อาชิลุกขึ้นแล้วเดินขึ้นอาคารเรียนพร้อมทั้งหยิบกระเป
“เธอจะเป็นหมอเพียงคนเดียวของฉัน”“เอ่อ... เราขึ้นห้องเรียนกันเถอะค่ะ” ใบหน้าของชะเอมแดงระเรื่อทันทีที่อาชิพูดจบจนเธอทำตัวไม่ถูก“เธอขึ้นไปก่อน เดี๋ยวฉันตามไป” พูดจบอาชิก็ผลุนผลันออกไปจากตรงนั้นทันทีโดยไม่ฟังเสียงเรียกจากเพื่อน ๆ“พี่อาชิจะไปไหนคะ”“ไอ้อาชิมึงจะไปไหน” ภูตะโกนถามพร้อมทั้งเดินเข้าไปหาชะเอม“ชะเอม อาชิมันไปไหน” เดลถาม“เอมก็ไม่รู้ เอมชวนขึ้นห้องเรียน พี่อาชิก็บอกให้เอมไปก่อน บอกจะตามไปทีหลัง”“ไปไหนของมันวะ”“เดี๋ยวมันก็ตามไป พวกเราก็ขึ้นห้องกันเถอะ” ภูบอกก่อนจะเข้าไปเก็บกล่องปฐมพยาบาลแล้วเดินขึ้นอาคารเรียนกันวันนี้โรงเรียนจัดกิจกรรมจึงทำให้ไม่มีการเรียนการสอน นักเรียนทุกคนส่วนมากก็ไปร่วมกิจกรรมทำให้ตอนนี้ทั้งโรงเรียนเต็มไปด้วยหัวใจและดอกกุหลาบ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่สีแดง สีชมพูเต็มไปหมด“สุขสันต์วันวาเลนไทน์ อันนี้ของเดล อันนี้ของภู เอมทำเองเลยนะ” ชะเอมยื่นกล่องวุ้นรูปหัวใจให้เดลกับภูทันทีที่เข้ามาในห้องเรียน“ขอบใจนะชะเอม” ภูบอก“แปลกดีอะ ปกติคนอื่นจะให้ช็อกโกแลตกัน แต่ชะเอมให้วุ้นรูปหัวใจ น่ารักดี” เดลบอกก่อนจะเปิดกล่องวุ้นแล้วตักเข้าปากกินมันอย่างเอร็ดอร่อย“ก็เอ
“อาทิตย์นี้จะไปติวหนังสือบ้านใคร” ภูเอ่ยถามในเย็นวันศุกร์ขณะที่เดินลงมาจากอาคารเรียน“ไปบ้านไอ้อาชิสิ กูคิดถึงน้องเอวา” เดลบอก“มึงไปคิดถึงใกล้ ๆ ตีนไอ้อาชิดิ”“นี่มึงกับกูยังมีตัวตนอยู่เปล่าวะ” เดลพูดพร้อมทั้งหันไปมองอาชิกับชะเอมที่เดินเคียงคู่กันมา“มึง 2 ตัวมองหน้ากูทำไม” อาชิถามเมื่อเดินลงบันไดมาถึงเดลกับภูที่ยืนรออยู่หน้าอาคารเรียน“กูกับไอ้เดลคุยกันว่าอาทิตย์นี้จะไปติวหนังสือที่บ้านมึง ไอ้เดลมันบอกว่าคิดถึงเอวา”“เชี่ยภู”“มึงคิดถึงน้องกู มึงถาม... กูยัง” อาชิบอกพลางชี้ไปที่เท้าของตนเอง“กูก็พูดเล่นไปงั้นแหละ”“ระวังตีนกูจะไปเตะปากมึงเล่น ๆ บ้าง”“หวงฉิบ นี่มึงกะจะไม่ให้น้องมึงมีแฟนเลยหรือไง”“เรื่องของกู น้องกู”“แล้วตกลงอาทิตย์นี้จะไปติวที่บ้านใคร” ชะเอมถาม“บ้านไอ้อาชิ มึงโอเคเปล่า” ภูตอบชะเอมก่อนจะเอ่ยถามอาชิ“อืม”“โอเค งั้นพรุ่งนี้เจอกัน กูกลับบ้านละ วันนี้เสด็จพ่อให้กลับเร็ว” เดลบอกก่อนจะเดินแยกตัวไป“กูก็กลับละ เจอกันพรุ่งนี้เว้ย ภูไปนะชะเอม”“บ๊ายบาย... อะไร ?” ชะเอมโบกมือลา แต่ก็ต้องชะงักเมื่ออาชิจับมือของเธอไว้“หวง” อาชิตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาตามสไตล์ของเขา แล้วเดินออก
“กลัวเอมไปอเมริกาขนาดนั้นเลยเหรอ” ชะเอมหรี่ตามองพร้อมทั้งเอ่ยถามเมื่อเข้ามานั่งในรถสปอร์ตคันหรูของอาชิ แต่เขาก็เอาแต่เมินหน้าหนี ไม่ยอมมองหน้าเธอ“พูดมาก ขึ้นรถแล้วทำไมไม่คาดเข็มขัด” อาชิไม่ตอบ แต่กลับเอ่ยว่าชะเอมแทน ก่อนจะโน้มตัวไปคาดเข็มขัดนิรภัยให้เธอ“ถ้าเอมไปอเมริกาจริง ๆ พี่อาชิจะทำยังไง”“ฉันก็หาแฟนใหม่”“จริงเหรอ แบบนี้ชะเอมก็เสียใจแย่เลย”“ก็ถ้าเธอจะทิ้งฉันไปจริง ๆ เธอคงไม่ได้รู้สึกอะไรกับฉันแล้ว แล้วเธอก็คงจะไม่รู้สึกเสียใจด้วย แล้วทำไมฉันจะหาแฟนใหม่ไม่ได้” ทั้งน้ำเสียงและสายตาของเขาช่างดูเย็นชาจนคนฟังหัวใจกระตุกวูบ“เย็นชาจัง... อุ๊บ !” ดวงตาของชะเอมเบิกกว้างทันทีเมื่ออาชิรั้งใบหน้าของเธอไว้แล้วประกบปากจูบเธออย่างดูดดื่ม“ต้องให้ทำแบบนี้ใช่ไหมถึงจะเรียกว่าไม่เย็นชา” ชะเอมก้มหน้างุด เม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่นเพื่อหลีกหนีสายตาของอาชิ“...”“ตอบ”“เรารีบไปติวหนังสือกันดะ... อื้อออ” เมื่อเธอบ่ายเบี่ยงที่จะตอบ เขาก็ประกบปากจูบเธออีกครั้ง และครั้งนี้ก็เนิ่นนานกว่าเดิมก๊อก ๆ ๆ“ทำไมยังไม่ออกรถกัน มีอะไรหรือเปล่า แล้วทำไมชะเอมหน้าแดงขนาดนั้น ไม่สบายเหรอ” ภูเอ่ยถามเมื่อกระจกรถเลื่อ
“พี่อาชิชอบต่อเลโก้เหรอคะ เต็มไปหมดเลย” ชะเอมมองด้วยความตื่นตาตื่นใจ เมื่อเห็นตัวต่อเลโก้ที่ต่อสำเร็จจนเป็นรูปร่างวางเรียงในตู้กระจกหลายสิบตัวตลอดแนวผนังห้องด้านหนึ่ง แล้วยังมีข้างนอกอีกหลายตัว แล้วก็มีที่ยังต่อค้างอยู่“อืม”“จริง ๆ ต่อเลโก้ได้น่าจะเป็นคนใจเย็นนะ แต่ทำไมพี่อาชิถึงใจร้อนจัง ว้าย !!”ตุ้บ !“พะ... พี่อาชิจะทำอะไร” ชะเอมเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ มือเล็กผลักอกของเขาไว้เมื่อถูกอาชิเกี่ยวรั้งด้วยลำแขนแกร่งเพียงข้างเดียว แล้วเหวี่ยงเธอลงบนที่นอน“ก็เธอบอกว่าฉันใจร้อน ฉันก็จะใจร้อนให้เธอดูไง”“ระ... เรารีบออกไปกันเถอะนะ ภูกับเดลรออยู่”“พวกมันรอได้” ใบหน้าคมค่อย ๆ โน้มลงไปหาใบหน้าหวานที่เบือนหลบไปด้านข้างจนปลายจมูกโด่งสัมผัสแก้มนวล“ตะ... ตะ... แต่เอมว่า...”“หึ ไปกันเถอะ” ร่างสูงหยัดตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนจะจับดึงแขนเรียวเล็กให้ร่างบางลุกขึ้นจากที่นอนหนานุ่มแล้วเดินไปหยิบหนังสือที่โต๊ะเขียนหนังสือ“ชอบแกล้ง” ใบหน้าหวานแดงซ่าน หัวใจเต้นโครมคราม“หรืออยากให้ฉันทำจริง”“มะ... ไม่อยาก”“ไม่อยากก็ลงไปกันได้ละ ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ”“ไปสิคะ เอมช่วยถือนะ” ชะเอมเอื้อมมือไปหยิ
“ติวหนังสือกันเสร็จแล้วเหรอเด็ก ๆ อยู่กินข้าวเย็นด้วยกันก่อนนะ แม่พายให้แม่บ้านทำเผื่อไว้แล้ว ชะเอม อยู่กินข้าวด้วยกันนะลูก” พรพระพายเอ่ยบอกเมื่ออาชิและเพื่อน ๆ เดินกลับมาจากศาลาริมน้ำ“เออ... ค่ะ แต่เอมขอโทร.บอกคุณยายก่อนนะคะ”“ได้สิคะ เดลกับภูด้วยนะ อยู่กินข้าวกันก่อน”“ครับ” เดลกับภูตอบพร้อมกัน“ระหว่างรอแม่บ้านจัดโต๊ะ เข้าไปนั่งคุยกันที่ห้องนั่งเล่นดีกว่านะ ไปเด็ก ๆ” พูดจบพรพระพายก็เดินนำทุกคนเข้าไปในบ้าน“เป็นอะไร” อาชิเอ่ยถามเมื่อเห็นชะเอมนิ่งเงียบ“ปะ... เปล่า เอมโทร.บอกคุณยายก่อนนะ”“อืม” อาชิตอบและยืนรอชะเอมที่เดินเลี่ยงออกไปโทร.บอกคุณยาย“กูว่าแม่พายต้องอยากคุยเรื่องที่มึงเป็นแฟนกับชะเอมแน่ ๆ” เดลเข้ามากอดคออาชิทันทีที่ชะเอมเดินออกไปโทรศัพท์หาคุณยาย“ก็ปกติเปล่าวะ ที่พ่อแม่อยากจะทำความรู้จักแฟนของลูก” ภูบอก“ก็จริงของมึง กูคงคิดมากไปเอง”“คิดมากอะไรของมึง แต่กูว่ามึงเอาสมองน้อย ๆ ของมึงไปคิดดีกว่าว่าจะสอบติดวิศวะฯ ไหม” ภูว่า“กูก็ไม่ได้โง่ขนาดนั้นเปล่าวะ สอบก็ติดท็อป 10 ตลอด แล้วยิ่งมีชะเอม นักเรียนที่มีผลการเรียนดีที่สุดของโรงเรียนมาติวให้ ยังไงกูก็สอบติดชัวร์ ๆ” เดลพูดด้วย
“แม่มีลูกชาย 3 คนที่จบถึงปริญญาโท มีความสามารถ มีความรู้ เราก็เริ่มต้นกันใหม่ได้นี่ ทำไมต้องให้น้องรับภาระอันหนักอึ้งนี้ไว้คนเดียว”“แล้วคุณพ่อคุณแม่จะทนอยู่ห้องเช่าเล็ก ๆ ได้เหรอครับ” แปมพูด“แบมจะแต่งงานค่ะ” แบมตัดสินใจพูดออกมา เธอไม่อาจทนเห็นผู้เป็นพ่อกับแม่ต้องทนลำบากอยู่ห้องเช่าเล็ก ๆ ได้“แบมไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้ลูก แม่ทนได้” ผู้เป็นแม่ลูบหลัง เอ่ยบอกเธอทั้งน้ำตา“แบมจะแต่งค่ะ” แบมยืนยันคำตอบเดิม พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาไม่ขาดสายเมื่อนึกถึงผู้ชายที่กำลังรอโทรศัพท์เธออยู่“ขอบใจมากลูกที่เสียสละเพื่อครอบครัวของเรา” ผู้เป็นพ่อเดินเข้ามากอด“พี่ก็ต้องขอบใจแบมมาก ๆ” แอมพูด“พี่ก็เหมือนกัน ขอบใจแบมมากนะ” แปมพูด“พี่ขอโทษที่ช่วยอะไรแบมไม่ได้เลย” แทมพูด แบมโผเข้ากอดแทมทันที ถึงแม้ว่าเธอกับเขาจะอายุห่างกันถึง 10 ปี แต่แทมคือพี่ชายที่รักและเข้าใจเธอมากที่สุด และที่เธอได้มีโอกาสไปเรียนกรุงเทพฯ ก็เพราะพี่ชายคนนี้เป็นคนช่วยพูดกับพ่อแม่“อึก... ฮือ ๆ ๆ ๆ” แบมร้องไห้ออกมาอย่างหนักแบมเข้ามาอยู่ในห้องนอนของตนเอง เมื่อได้อยู่คนเดียว ความรู้สึกหลากหลายก็ประเดประดังเข้ามาไม่ขาดสาย เธอไม่สามารถให้ค
“แล้วคืนนี้เค้าจะนอนกอดใคร” สายฟ้าพูด เมื่อมาส่งแบมที่บ้าน“แค่คืนเดียวนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เราก็ได้นอนกอดกันทุกคืนแล้ว”“ขอจูบบี๋ได้ไหม” สายฟ้าเอ่ยออกมา เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมจู่ ๆ ถึงอยากจะจูบเธอ ทั้ง ๆ ที่เพื่อน ๆ ก็นั่งอยู่ในรถสายฟ้าสบตาแบม ริมฝีปากบางของเธอเผยอขึ้น เหมือนเป็นการบอกว่าอนุญาตให้เขาเข้ามาครอบครอง สายฟ้าไม่รอช้าก้มลงประทับจูบริมฝีปากบางนั้นทันที เขาจูบอย่างนิ่มนวลและอ่อนโยน ลิ้นร้อนไล้ไปตามริมฝีปากบางและแทรกลิ้นของเขาเข้าไปในโพรงปากของเธอ ลิ้นหนาเกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็กอย่างโหยหา ทั้งที่อยู่ใกล้กันถึงเพียงนี้ แต่ความรู้สึกกลับโหยหาอย่างบอกไม่ถูกเพื่อน ๆ ต่างเบือนหน้าหลบ ปล่อยให้ทั้งคู่ได้จูบลากัน ภายในรถจึงมีเพียงความเงียบ ทำให้ทั้งคู่รู้สึกว่ามีเพียงสองเราเท่านั้น“พรุ่งนี้เค้ามารับนะ” เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยขึ้นเมื่อผละริมฝีปากออกจากกัน“เค้าโทร.บอกอีกทีนะ”“ทำไม บี๋พูดเหมือนว่าบี๋จะไม่กลับพร้อมเค้า”“ไม่ใช่อย่างนั้น เค้าแค่ไม่รู้ว่าธุระที่คุณพ่อจะคุยด้วย จะคุยกันเสร็จภายในวันนี้ไหม หรือจะกินเวลาไปถึงวันพรุ่งนี้ เค้าเกรงใจทุกคนที่จะต้องมารอเค้าคนเดียว”“แบมไม่ต้องเกรงใจพ
“แบมเวลาอยู่บ้านอย่างกับคนละคนกับที่อยู่มหาลัยเลยว่ะ” เดลกระซิบบอกสายฟ้า“พี่แทมบอกว่าคุณพ่อคุณแม่มีเรื่องจะคุยกับแบมเหรอคะ” แบมนั่งตัวตรง สองมือประสานกันไว้ที่ตัก“วันนี้แบมพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวก่อนเถอะ แล้วเย็นเราค่อยคุยกัน” ผู้เป็นพ่อเอ่ยบอก สร้างความแปลกใจให้แบมไม่น้อย จริง ๆ ตั้งแต่ลงจากรถแล้วที่เธอรู้สึกแปลกใจ ถ้าเป็นเมื่อก่อนทุกคนคงไม่ได้เข้ามานั่งอยู่ในบ้านของเธอ“แล้วเพื่อนของแบมจะกลับกันเลย หรือจะค้างคืน” แปม อิทธินพ พี่ชายคนที่ 2 เอ่ยถาม“ค้างคืนค่ะ” แบมตอบ“แล้วจะพักกันที่ไหน” แทม โอบนิธิ พี่ชายคนที่ 3 เอ่ยถาม“พวกเราจองที่พักกันไว้แล้วค่ะ” ชะเอมตอบ“แต่แบมต้องนอนค้างที่บ้าน แล้วชะเอมจะนอนกับใคร แม่ว่าชะเอมมานอนกับแบมจะดีกว่า เป็นผู้หญิงจะไปนอนค้างอ้างแรมกับผู้ชาย 4 คนมันดูไม่งาม ถึงจะบอกว่านอนกันคนละห้องก็เถอะ แม่ว่าจะเป็นที่ครหาเอาได้” แม่ของแบมเอ่ย“เอ่อ...” ชะเอมนิ่งอึ้ง ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร“ชะเอมเป็นภรรยาของผมครับ เธอต้องนอนกับผม” อาชิพูดชัดถ้อยชัดคำ“ภรรยา !!” ทุกคนพูดออกมาพร้อมกันด้วยความตกใจ“นี่แบมคบเพื่อนอะไร” ผู้เป็นพ่อหลุดถามออกมาเสียงดัง“คุณพ่อ” พี่ชายของแบมเ
“ไอ้สายฟ้า มึงเอาแบมบี๋ของกูไปไว้ไหน แล้วมึงไปเอาแม่ชีที่ไหนมา” เดลเอ่ยว่าเมื่อสายฟ้าเดินมากับแบมที่อยู่ในชุดเดรสแขนยาวสีขาว ใบหน้าที่มักแต่งแต้มสีสันสดใส วันนี้ทาเพียงลิปกลอสสีอ่อน ๆ ซึ่งดูผิดหูผิดตาไปมาก“เดลอะ” แบมทำหน้างอน ๆ ที่ถูกเดลล้อเลียน“แบมแต่งแบบนี้ก็น่ารักดีออก เดลชอบว่า” ชะเอมว่า“โอ๋ ๆ แบมบี๋ไม่งอนเดลนะ เดี๋ยวเดลซื้อชุดเสือน้อยให้”“จริงนะ เดลห้ามโกหก ถ้าโกหกขอให้จุ๊ดจู๋เดลใช้การไม่ได้” แบมยิ้มหน้าบานขึ้นมาทันทีเมื่อเดลเอาของถูกใจมาหลอกล่อ“โหดร้าย ถ้าแช่งกันขนาดนี้แถมกระต่ายน้อยให้อีกชุดเลย”“ดี ๆ” แบมพยักหน้าหงึกหงักเหมือนเด็กที่ได้ของเล่นถูกใจ ซึ่งสายฟ้าก็ยิ้มให้กับความน่าเอ็นดูของเธอ“แบมติดใจ หรือไอ้สายฟ้ามันติดใจกันแน่” ภูถาม“ก็แบมใส่ แล้วแบมก็ทำให้บี๋ติดใจไง จริงไหมบี๋ เมี้ยวววว” แบมตอบภู ก่อนจะหันไปหาสายฟ้า ทำท่าแมวน้อยสุดน่ารัก“ติดใจแมวน้อยตัวนี้ที่สุด” สายฟ้าจับเชิดปลายคางของแมวน้อย แล้วก้มลงไปใช้ปลายจมูกโด่งถูไถจมูกเชิดรั้นของแมวน้อยขี้อ้อน“ไอ้เดล ไหน ๆ มึงก็ซื้อให้แบมละ มึงซื้อมาฝากชะเอมด้วยดิ” ภูพูด“ก็ดี กูอยากมีเมียเป็นแมวน้อย” อาชิพูด“พี่อาชิ” ชะเอมเ
ปึก !ชะเอมวางปืนลงบนโต๊ะกลาง ทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา กอดอกหน้าตาบูดบึ้ง“วันนี้เมียโหดจัง” อาชิเดินมานั่งข้าง ๆ แล้วอุ้มยกเธอขึ้นมานั่งบนตัก เกยคางไว้บนไหล่มน“เอมจะไม่ทนถ้าผู้หญิงหน้าไหนกล้ามาอ่อยผัวของเอม” เธอเอ่ยเสียงเหวี่ยง ๆ ด้วยอารมณ์ที่ยังคงคั่งค้าง“แล้วไปเอาปืนมาจากไหน”“เอมเห็นมันอยู่ที่ลิ้นชักหัวเตียงเมื่อ 2 วันก่อน”“คงจะเป็นของพ่อแทน” อาชิบอกพลางลูบไล้หน้าท้องแบนราบไปมา“เอมหิวนม”“พี่สั่งให้ใหม่ จะเข้าไปอ่านหนังสือในห้องต่อไหม”“วันนี้เอมจะอ่านตรงนี้” ชะเอมหันไปมองตาขวางใส่อาชิ“ครับ อ่านตรงนี้ครับ พี่ไปสั่งนมให้นะ” อาชิอุ้มยกชะเอมนั่งลงบนโซฟา ก่อนจะเดินไปที่โต๊ะทำงาน สั่งนมให้กับภรรยาสาวที่วันนี้อยู่ในโหมดเมียจอมโหด“พี่อาชิจะไปไหน” ชะเอมลุกขึ้นเอ่ยถามเมื่ออาชิเดินออกห่างโต๊ะทำงาน“พี่จะไปเอาหนังสือให้เอมไง” เขารีบตอบเธอทันที“แล้วไป” ร่างเล็กทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาตามเดิม“พี่อาชิไม่ไปทำงานล่ะคะ มานั่งมองเอมอ่านหนังสือทำไม” ชะเอมเอ่ยถามเมื่ออาชิเอาแต่นั่งจ้องเธออ่านหนังสือ“เมียสวย อยากมองเมีย” เขาเอ่ยบอกพร้อมทั้งส่งสายตากรุ้มกริ่มให้เธอ“อย่ามาทำปากหวานตอนนี้ รีบไปทำงานเลยค
ชะเอมตามอาชิไปทำงานที่ผับทุกวัน วันศุกร์ วันเสาร์ไม่มีปัญหาเพราะตื่นสายได้ แต่วันอื่นเธอนั่งเรียนไปหาวไปทุกวัน เวลาพักเบรกก็หลับ ประมาณอาทิตย์หนึ่งเธอจึงเริ่มปรับตัวได้ เธอจะเข้าไปอ่านหนังสือในห้องนอนของผับ แล้วนอนหลับรออาชิอยู่ในห้องนั้น ปล่อยให้เขานั่งทำงานกับแกริค“คนนี้น่ะเหรอลูกชายคุณแทนไท” วิสกี้ พีอาร์เบอร์ 1 อายุ 23 ปีที่พึ่งกลับมาทำงานหลังจากลาพักร้อนไปช่วงที่อาชิเข้ามาบริหารจัดการผับพอดีเอ่ยถามกาย บาร์เทนเดอร์หนุ่มที่เคาน์เตอร์บาร์ ก่อนเวลาผับเปิดในอีก 1 ชั่วโมงข้างหน้า“ใช่ คุณอินทัช พึ่งจะอายุ 19 แต่เก่งเกินอายุ เก่งไม่แพ้คุณแทนไทเลยละ แต่ปกติไม่ค่อยออกมาจากห้องทำงานหรอก วันนี้คงมาเช็กสต๊อกเหล้าที่พึ่งมาส่งเลยออกมาได้” กาย บาร์เทนเดอร์หนุ่มเอ่ยบอก“กำลังกรุบกริบเลย” วิสกี้นั่งมองอาชิจนเดินหายเข้าไปในห้องทำงาน“อย่าบอกนะว่าเจ้สนใจ ผมว่า...” ยังไม่ทันที่กายจะพูดจบ เขาก็ชะงักคำพูดเมื่อแกริคเดินมาที่เคาน์เตอร์บาร์“คิดถึงพี่แกริคจังเลยค่ะ ไม่เจอกันตั้งอาทิตย์” วิสกี้เอ่ยเสียงหวาน“มาทำงานวันแรกก็ปากหวานเลยนะ กาย เตรียมนมกับชาร้อนไว้ด้วย เดี๋ยวกูมา พี่ไปเอาของให้เจ้านายก่อนนะว
“พะ... พี่อาชิ... ซี้ดดด... เอมเสียว... เสียวมาก อ๊ะ... อ๊า”“พี่ก็เสียว... ซี้ดดด... เอมของพี่... โอ้วววว”ชะเอมร้องครางกระเส่า อาชิก็สุดที่จะกลั้น เขาเองก็เสียวมาก ๆ ร่องรักของเธอมันดูดตอดร่อนแก่นกายของเขาจนเสียวเหมือนน้ำจะแตกให้ได้“อ๊ะ... อ๊ะ... ซี้ดดด... อ๊ะ... เอมไม่ไหวแล้ว... อ๊ะ... อ๊ายยยยยย”“พี่ก็ไม่ไหวแล้ว... อ๊า... อ๊า”ร่างสูงกระหน่ำแทงท่อนเอ็นใหญ่เข้าออกร่องรักอันคับแน่นรัวเร็วจนน้ำในร่องรักของเธอไหลออกมาเจิ่งนอง สร้างความเสียวซ่านให้กับทั้งคู่ ร่างบางตัวสั่นระริกเมื่อเขากระแทกกระทั้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ เธออ้าขาออกและแอ่นสะโพกขึ้น ปล่อยให้คนตัวโตกระแทกอย่างหนำใจจนไปถึงฝั่งฝันกันอีกครั้งอาชิก้มลงดูดเต้าอวบ กดแช่แก่นกายใหญ่คาไว้อย่างนั้น กอดรัดจูบปากภรรยาคนสวยระบายความเสียวซ่านที่ยังคงคั่งค้าง บดขยี้เนินเนื้อโหนกนูน ก่อนจะค่อย ๆ ถอดถอนแก่นกายออกอย่างอ้อยอิ่ง อยากจะกระแทกเธออีกสัก 2-3 รอบ แต่ก็ต้องข่มใจตนเองไว้แล้วจัดการเก็บแก่นกายของตนเองเข้าที่ แล้วแต่งตัวให้ร่างบางที่นอนหอบหายใจอยู่บนโต๊ะทำงานตัวใหญ่ ก่อนจะอุ้มเธอเข้าไปนอนในห้องนอนของห้องทำงาน“นอนตรงนี้นะ พี่ไปทำงานก่อน” พ
จ๊วบ !! จ๊วบ !! จ๊วบ !!“อื้อออ... พี่อาชิอย่าดูดแรงสิ... อ๊า”“อื้มมมม... พี่อยากทำอย่างอื่นด้วย... ได้ไหม”“พะ... พอแล้ว... พี่อาชิต้องทำงานนะ” ชะเอมผลักศีรษะของเขาออกจากเต้าอวบ ดวงตาฉ่ำเยิ้มที่แฝงไปด้วยความปรารถนาไม่ต่างจากเขาเลย“แต่พี่ต้องการเอม” ปลายจมูกโด่งคลอเคลียกับแก้มนวล เอ่ยบอกเสียงกระเส่า“ก็ได้ แค่ 1 นะ” ชะเอมยกนิ้วชี้ขึ้นมา“น่ารักที่สุด” อาชิยิ้มกว้างเมื่อได้รับการตามใจจากเธอ“พะ... พี่อาชิ ตรงนี้เลยเหรอคะ” ชะเอมเอ่ยถามเมื่อถูกเขาอุ้มยกขึ้นไปนั่งบนโต๊ะทำงาน“เปลี่ยนบรรยากาศจากบนเตียงมาเป็นบนโต๊ะบ้าง”คนตัวสูงจับร่างบางล้มนอนบนโต๊ะทำงาน จัดการถอดกางเกงขายาวกับแพนตี้สีชมพูตัวจิ๋วออกให้พ้นเรียวขา มือหนาปาดทักทายดอกไม้งามที่มีน้ำหวานฉ่ำเยิ้มแล้วปลดเข็มขัด กระดุมกางเกงยีน แล้วจับงัดท่อนเอ็นใหญ่ของเขาออกมา หยิบถุงยางอนามัยที่อยู่ในลิ้นชักออกมาสวมใส่ท่อนเอ็นที่แข็งขึง มือหนาลูบไล้ที่โคนขาอ่อนแล้วจับแยกเรียวขาทั้ง 2 ข้างออกอย่างเบามือก่อนจะดันเข้าไปในช่องทางรักจนสุดลำโคนสวบ !!“อ๊ะ... อึก... เอมจุก”ร่างบางเอ่ยบอกเมื่อปลายหัวหยักกระทุ้งกับผนังมดลูกเข้าอย่างจัง แขนเรียวบางทั้ง
“คุณพ่อขา คุณพ่อไม่ต้องเป็นห่วงเอมนะ เอมจะอยู่แต่ในห้องทำงานของผับ เอมจะไม่อยู่ห่างพี่อาชิกับบอดีการ์ดเลย พี่แกริคบอดีการ์ดของพี่อาชิเก่งมาก ๆ เลยนะคะ เป็นแชมป์ยิงปืนด้วย พี่อาชิของเอมก็เก่ง สู้เก่งมากเลยด้วย รอบ ๆ ตัวเอมมีแต่คนเก่ง ๆ ไม่มีใครทำอะไรเอมได้หรอกค่ะ”“พ่อก็อดเป็นห่วงไม่ได้อยู่ดี แต่ก็คงห้ามไม่ได้ ดูแลตัวเองด้วย ห้ามออกไปไหนคนเดียวเด็ดขาด”“ค่ะ เอมรักคุณพ่อนะคะ” ชะเอมเข้าไปกอดผู้เป็นพ่อแล้วหอมแก้มดังฟอด ทำให้ผู้เป็นพ่อยิ้มออกมาได้“ผมไปนะครับ”“ดูแลชะเอมด้วยนะ” ผู้เป็นพ่อเอ่ยกำชับอีกครั้ง“ครับ” อาชิตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“อันนี้เป็นบิลที่สั่งของเข้าร้าน แล้ววันนี้มีคัดเลือกพีอาร์ที่ผ่านทดลองงาน คุณอาชิจะให้เข้ามาเลยหรือเปล่าครับ” แกริคเอ่ยบอกทันทีที่อาชิกับชะเอมเข้ามาถึงห้องทำงานของผับชะเอมเดินเลี่ยงไปนั่งที่โซฟา กางหนังสือแคลคูลัสขึ้นมาอ่าน ปล่อยให้อาชิทำงานกับแกริค“ให้เข้ามาเลย แล้วขอนมอุ่น ๆ กับชาร้อนด้วย” อาชิบอก พร้อมทั้งสั่งเครื่องดื่มให้กับเขาและเธอ สายตายังคงจับจ้องที่เอกสารตรงหน้าแกริคชะงักไปเล็กน้อยเพราะที่ผับไม่มีนม มีแต่นมจากเต้าของสาว ๆ แต่มันก็ต้องเป็นหน