เมื่อเนยกลับถึงบ้าน เวลาก็เกือบสี่ทุ่มแล้ว ขณะที่เธอกำลังเตรียมตัวเข้านอน เธอนึกขึ้นได้ว่าไม่ได้เข้า Chatzy มาสักพักแล้ว จึงหยิบโทรศัพท์มาเปิดแชทดู เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มที่เธอคุยด้วยกำลังออนไลน์อยู่ เธอทักไปถามไถ่ว่าเขาเป็นยังไงบ้างB u T T e R: “นายหายไปไหนมา ไม่ได้คุยกันตั้งนานเลยนะ?”สักพักข้อความตอบกลับก็เด้งขึ้นมาพี่ชายที่แสนดี: “ก็งานยุ่งน่ะ เธอล่ะ?สบายดีมั้ย?”B u T T e R: “ก็โอเคนะ แต่เหนื่อยมาก วันนี้กลับดึกอีกแล้วไพี่ชายที่แสนดี: “ทำงานหนักแบบนี้ ระวังสุขภาพด้วยล่ะ เธอพักบ้างรึเปล่า?”B u T T e R: “ยังดีที่นายเตือนนะ ไม่งั้นลืมไปแล้วว่าต้องพัก ฮ่าๆ”พี่ชายที่แสนดี: “งั้นคืนนี้รีบพักนะ ฉันไม่อยากให้เธอเป็นอะไรไป”เนยยิ้มบาง ๆ กับหน้าจอ รู้สึกถึงความห่วงใยที่ส่งผ่านคำพูดของเขาB u T T e R: “ขอบใจนะ ยังห่วงฉันอยู่เสมอเลย”พี่ชายที่แสนดี: “ก็เธอสำคัญนี่”หลังจากคุยกันเรื่องงานและสุขภาพ เนยก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงเรื่องหนึ่งที่เธอสงสัยมานาน เธอตัดสินใจถามออกไปตรงๆB u T T e R: “แล้วเรื่องความรักของนายล่ะ ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?”อีกฝ่ายเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะพิมพ์กลับมาพี่ชายที่แสนดี:
บรรยากาศในร้านอาหาร Bistro 88 นั้นอบอุ่นและเป็นกันเอง เสียงดนตรีแจ๊สเบาๆ ลอยมาเข้าหู ขณะที่เบียร์นั่งรอเนยอยู่ที่โต๊ะติดกระจก เขามองดูเมนูอาหารพลางยิ้มเมื่อคิดถึงตอนที่ได้เจอเธอไม่นานนัก เนยก็ก้าวเข้ามาในร้าน ชุดเดรสสีครีมอ่อนของเธอตัดกับผิวขาวเนียน ยิ่งทำให้เธอดูโดดเด่นในสายตาของเบียร์ รอยยิ้มที่ส่งมาทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นอย่างอัตโนมัติ“มานานยัง?” เนยถามพลางหย่อนตัวนั่งลงตรงข้าม“ไม่เท่าไหร่ รอนานได้กว่านี้ ถ้าเป็นเธอ” เบียร์พูดยิ้มๆ แววตาของเขาแสดงถึงความสุขที่ได้เจอเธอจริงๆเนยหัวเราะเบาๆ ก่อนจะหยิบเมนูขึ้นมาดู “พูดแบบนี้เดี๋ยวได้สั่งอาหารแพงๆ ซะเลย”“เอาสิ ฉันเลี้ยงไหว” เบียร์ตอบยิ้มๆ ส่งสายตาเจ้าเล่ห์ ทำให้เนยหน้าแดงขึ้นมาทันที“วันนี้คอมพังอีกปะ?” เบียร์แซวขำๆ“ก็พังตลอดแหละ เมื่อไหร่จะได้เปลี่ยนสักที” เนยบ่นพึมพำ“เธอก็อย่าทุบมันบ่อยดิ มือหนักแบบนั้นเดี๋ยวไม่มีคอมใช้” เบียร์หัวเราะเบาๆ“พูดมากน่า” เนยย่นจมูกใส่เขา ทั้งสองคุยเล่นกันเรื่อยๆ เรื่องงานและชีวิตประจำวัน จนอาหารมาเสิร์ฟ“อร่อยเหมือนเดิม” เนยพูดพลางชิมสปาเกตตี้คำแรก“ดีใจที่เธอชอบ” เบียร์ยิ้ม แต่ในใจเขายังมีเรื่
วันหยุด เบียร์พาเนยมาที่โรงหนังแห่งหนึ่งในย่านหรูของเมือง หลังจากที่ทั้งคู่กินข้าวด้วยกันเรียบร้อยแล้ว“นายพาฉันมาดูหนังเนี่ยนะ” เนยพูดด้วยน้ำเสียงแปลกใจพลางมองไปรอบๆ“ก็มาเดท กินข้าว ดูหนังไง” เบียร์ยิ้มบางๆ พลางจองตั๋วผ่านแอปพลิเคชัน“ดูเรื่องอะไรล่ะ?” เนยถามพร้อมทั้งยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ จอมือถือของเบียร์“เรื่อง Secret Love in the City” เบียร์ตอบด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์“หืม...หนังรักเหรอ?” เนยเลิกคิ้วถามด้วยความประหลาดใจ“ก็เธอชอบไม่ใช่เหรอ?” เบียร์ตอบพร้อมส่งสายตาหวานให้เธอเนยทำเป็นเบ้ปาก แต่หัวใจกลับเต้นแรงเมื่อเห็นรอยยิ้มและสายตาของเขา เธอยอมให้เขาลากเธอเข้ามาในโรงหนังอย่างไม่มีข้อโต้แย้งเมื่อหนังเริ่ม ทั้งคู่ก็นั่งข้างกันที่ที่นั่งริมสุด เบียร์ยื่นป๊อปคอร์นให้เนย แต่เธอกลับหัวเราะเบาๆ แล้วกระซิบ“ฉันไม่ได้อยากกินป๊อปคอร์น แค่อยากนั่งข้างนายแค่นั้น”เบียร์หันมามองเธอ ดวงตาคมกริบของเขาจ้องมองเธอราวกับกำลังจะจูบเธอในทันที“เธอนี่น่ารักจริงๆ” เขาพูดพลางจับมือเธอเบาๆ กุมไว้ตลอดทั้งเรื่องหนังดำเนินไปเป็นเรื่องราวของคู่รักสองคนที่บังเอิญเจอกันในเมืองใหญ่และพัฒนาความสัมพันธ์จากคนแปลกหน้
เมื่อมาถึงร้านซูชิเบียร์และเนยนั่งตรงข้ามกับไผ่และมะปรางที่พยายามจะฝืนยิ้มและเก็บอาการ ในขณะที่ไผ่เหลือบมองเนยเป็นระยะ สายตาเจ้าเล่ห์ของเขาบ่งบอกถึงความคิดไม่ดี แต่ก็ยังพยายามเล่นบทรุ่นพี่รหัสที่เป็นกันเองกับมะปรางต่อไป“พี่ไผ่ อยากกินอะไรคะ?”มะปรางถามเสียงหวานพยายามกลบเกลื่อนความไม่สบายใจในใจตัวเอง หลังจากเห็นเบียร์จูบเนยต่อหน้าต่อตา“แล้วแต่เธอสิ” ไผ่ตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม แต่สายตาของเขาจับจ้องไปที่เนยเป็นช่วงๆ อย่างไม่อาจห้ามได้เนยสังเกตเห็นไผ่ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ และสิ่งที่ทำให้เธอต้องสะดุดตาคือรอยสักรูปนกสีแดงบินขึ้นจากเปลวไฟที่คอของเขา ในจังหวะที่เขาขยับตัวจนเสื้อเปิดเล็กน้อย สัญลักษณ์นี้ทำให้เนยรู้สึกคุ้นเคยอย่างแปลก ๆ แต่ก็ยังนึกไม่ออก เธอจึงเริ่มสงสัยและจับตาดูไผ่อย่างเงียบ ๆ โดยไม่บอกเบียร์เบียร์ที่สังเกตท่าทางของเนยก็เริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ปกติ แต่เขายังคงสั่งซูชิให้เธออย่างรู้ใจ“ว่าแต่คุณเนยกับคุณเบียร์ทำงานอะไรกันเหรอครับ?” ไผ่ลองเทียบเคียงถามเพื่อหาโอกาสเข้าถึง“ผมทำงาน IT ส่วนยัยนี่เป็นเซลล์มือทอง” เบียร์บอกพลางล้อเลียนเนยอย่างอารมณ์ดี“อะไร ฉันก็แค่ทำงานปกตินั่น
ช่วงพักกลางวัน เนยที่นั่งรอระบบคอมพิวเตอร์ประมวลผลยอดขายประจำสัปดาห์ แต่ในใจกลับคิดถึงเรื่องสัญลักษณ์นกสีแดงที่เธอเห็น จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความหาเคน‘เฮีย เคยเห็นสัญลักษณ์รูปนกสีแดงมั้ย?’‘รูปร่างเป็นยังไง?’ เคนตอบกลับทันที‘นกสีแดงบินขึ้นจากเปลวไฟ’ เนยพิมพ์ไปสั้นๆ‘รอแป๊บ’ เคนพิมพ์กลับมาขณะที่เนยกำลังรอคำตอบจากเคน หน้าจอคอมของเธอก็ค้างไปเฉยๆ ไม่ตอบสนอง“จอเธอค้างแล้ว” เสียงคุ้นเคยของเบียร์ดังขึ้นจากข้างหลัง“เฮ้อ! เวร ยอดขายฉัน!” เนยบ่นเสียงดัง วางมือถือไว้ข้างๆ ก่อนจะเอามือตบหน้าจอเบาๆ ด้วยความหงุดหงิด“ใจเย็น เดี๋ยวพังหมด” เบียร์หัวเราะเบาๆ พลางจับมือเธอไว้“นี่ เยลลี่ กินรอฉันซ่อมคอมไป” เขายัดถ้วยเยลลี่ใส่มือเธอ“ค่อยยังชั่วหน่อย” เนยยิ้ม พลางลุกขึ้นให้เบียร์นั่งแทนที่เธอ“ลองเปลี่ยนไปใช้แล็ปท็อปดีมั้ย? จะได้สะดวกเวลาเธอไปไหนมาไหน” เบียร์ถามขณะรีสตาร์ทเครื่องเพื่อเข้าไปแก้ไขใน BIOS“งั้นฉันต้องซื้อเองน่ะสิ” เนยทำหน้าเบื่อๆ“ก็ซื้อสิ เดี๋ยวฉันช่วยเลือก แล้วลงโปรแกรมให้ ทีนี้เธอก็สะดวกแล้ว” เบียร์พูดไปพลางยิ้ม“ต้องถามพี่เหมยก่อน” เนยกลอกตา“งั้นลองไปถามดูสิ” เบียร์บอกพลางหั
กรธวัช หรือ “พี่วิน” หัวหน้าแก๊ง เรดสปาร์ค เป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าคมเข้ม ผมสั้นสีดำและรอยสักรูปนกสีแดงบนต้นคอของเขา เป็นสัญลักษณ์ของแก๊งที่เขาสร้างขึ้น เขามักจะคุมการถ่ายคลิปเพื่อขายในตลาดมืด และใช้คลิปเหล่านั้นแบล็คเมลเหยื่อเพื่อข่มขู่ให้จ่ายเงิน“เหยื่อคนนี้มาจากมหาวิทยาลัย X สวยไม่เบา” บอยรายงานขณะที่เดินเข้ามาใกล้กรธวัชเงยหน้าขึ้นจากจอคอมพิวเตอร์ที่เขากำลังตรวจสอบบางอย่าง “ดี งั้นรีบจัดการให้เร็ว อย่าให้เสียเวลา”ไผ่และบอยช่วยกันยกตัวมิ้นท์ลงจากรถแล้วพาเธอเข้าไปในห้องเล็กๆ ที่อยู่ด้านในโกดัง ที่ซึ่งมีอุปกรณ์บันทึกภาพตั้งเตรียมไว้อยู่แล้ว“วันนี้พี่วินจะถ่ายเองไหม?” ไผ่ถามพลางมองกรธวัชที่เดินเข้ามาใกล้กรธวัชหรี่ตามองเหยื่อที่นอนสลบอยู่ ก่อนจะยิ้มเยาะ“ไม่ต้อง เดี๋ยวให้ไอ้พวกนี้จัดการก็พอแล้ว เราแค่ต้องการคลิปไปขายกับพวกในตลาดมืด”ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์ของกรธวัชก็ดังขึ้น เขาหยิบขึ้นมาดู ก่อนที่สีหน้าของเขาจะเปลี่ยนไปเมื่อเห็นเบอร์โทรศัพท์ที่ขึ้นบนหน้าจอ“ฉันต้องไปจัดการเรื่องบางอย่างก่อน” กรธวัชบอกไผ่ “ได้ครับพี่วิน” ไผ่พยักหน้าอย่างมั่นใจในห้องมืดๆ ของโกดังลับย่านอุต
เบียร์นั่งมองข้อมูลบนหน้าจอด้วยความกังวล แม้จะได้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับแก๊งเรดสปาร์คมาบ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่เพียงพอ เขาต้องการข้อมูลที่มากกว่านี้ ข้อมูลที่จะสามารถช่วยให้เขาปกป้องเนยจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้สายตาของเขาเหลือบไปมองตู้เซฟที่อยู่ในมุมห้องอย่างลังเล พลันนึกถึงคนคนหนึ่งที่เขาไม่อยากติดต่อด้วยเท่าไหร่นัก“เฮ้อ...ต้องให้หมอนั่นช่วยจริงๆ เหรอเนี่ย” เบียร์ถอนหายใจยาว ก่อนตัดสินใจเดินไปที่ตู้เซฟ กดรหัสและหยิบโทรศัพท์ดาวเทียมออกมา เขากดโทรออกไปหาคนที่เขาเคยหวังว่าจะไม่ต้องพึ่งพาอีกเสียงสัญญาณรอสายดังขึ้นไม่นาน ก่อนที่ปลายสายจะรับ“ไง ไม่คิดว่านายจะโทรมานะเนี่ย” เสียงจากปลายสายฟังดูเจ้าเล่ห์และแฝงด้วยความกวนประสาท“ผมก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะต้องโทรหาคุณ" เบียร์พูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย“แต่ฉันดีใจที่นายโทรมานะ มีอะไรล่ะ? คงไม่ใช่แค่อยากคุยเล่นแน่” ปลายสายถามกลับด้วยน้ำเสียงขี้เล่น แต่แฝงไปด้วยความจริงจัง“ผมอยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับแก๊งเรดสปาร์ค” เบียร์บอกจุดประสงค์ของเขาตรงๆปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้น “เรื่องนี้ไม่ใช่เล่นๆ งั้นเราเจอกันดีกว่า จะได้ค
บ่ายวันหนึ่ง เบียร์ถูกเชิญมาที่ออฟฟิศลับของมิสเตอร์พี ตั้งอยู่บนชั้นดาดฟ้าของตึกสำนักงานสูงกลางใจเมือง ตึกนี้ดูจากภายนอกเหมือนออฟฟิศทั่วไป แต่ชั้นบนสุดนั้นมีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา หน้าต่างปิดทึบ ประตูเหล็กหนาหนักติดตั้งระบบล็อกอัตโนมัติที่สามารถเปิดได้เฉพาะคนที่มีรหัสพิเศษเท่านั้น เมื่อเบียร์เข้ามาถึงที่ห้องลับของมิสเตอร์พี เขาสัมผัสได้ถึงบรรยากาศเงียบสงบ แสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์หลายจอที่เรียงรายอยู่ในห้อง ทำให้ห้องนั้นดูคล้ายศูนย์ควบคุมมากกว่าจะเป็นออฟฟิศทั่วไป“นั่งก่อนสิ” มิสเตอร์พีที่นั่งอยู่หลังโต๊ะไม้สั่ง เบียร์นั่งลงตรงหน้าเขาโดยไม่พูดอะไรมาก มิสเตอร์พียื่นเอกสารบางอย่างให้“นี่คือข้อมูลที่ฉันได้มาเกี่ยวกับแก๊งเรดสปาร์ค” มิสเตอร์พีพูดขณะเปิดภาพและข้อมูลต่างๆ ขึ้นมาบนจอหลายจอที่อยู่ตรงหน้าเบียร์ “พวกมันกำลังทำอะไรบางอย่างที่ผิดกฎหมายอย่างร้ายแรง นอกจากการล่อลวงหญิงสาวแล้ว ยังมีการฟอกเงิน ขายคลิปลามก และค้ายาเสพติดอยู่เบื้องหลัง”เบียร์มองไปที่จอภาพ เห็นข้อมูลเกี่ยวกับแก๊งเรดสปาร์ค รูปของไผ่ บอย และเอกปรากฏขึ้นมา ชื่อพวกนี้คุ้นเคย เพราะเขาเพิ่งเจอไผ่เมื่อไม่กี่วันก่อน“