บ่ายวันหนึ่ง เบียร์ถูกเชิญมาที่ออฟฟิศลับของมิสเตอร์พี ตั้งอยู่บนชั้นดาดฟ้าของตึกสำนักงานสูงกลางใจเมือง ตึกนี้ดูจากภายนอกเหมือนออฟฟิศทั่วไป แต่ชั้นบนสุดนั้นมีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา หน้าต่างปิดทึบ ประตูเหล็กหนาหนักติดตั้งระบบล็อกอัตโนมัติที่สามารถเปิดได้เฉพาะคนที่มีรหัสพิเศษเท่านั้น เมื่อเบียร์เข้ามาถึงที่ห้องลับของมิสเตอร์พี เขาสัมผัสได้ถึงบรรยากาศเงียบสงบ แสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์หลายจอที่เรียงรายอยู่ในห้อง ทำให้ห้องนั้นดูคล้ายศูนย์ควบคุมมากกว่าจะเป็นออฟฟิศทั่วไป“นั่งก่อนสิ” มิสเตอร์พีที่นั่งอยู่หลังโต๊ะไม้สั่ง เบียร์นั่งลงตรงหน้าเขาโดยไม่พูดอะไรมาก มิสเตอร์พียื่นเอกสารบางอย่างให้“นี่คือข้อมูลที่ฉันได้มาเกี่ยวกับแก๊งเรดสปาร์ค” มิสเตอร์พีพูดขณะเปิดภาพและข้อมูลต่างๆ ขึ้นมาบนจอหลายจอที่อยู่ตรงหน้าเบียร์ “พวกมันกำลังทำอะไรบางอย่างที่ผิดกฎหมายอย่างร้ายแรง นอกจากการล่อลวงหญิงสาวแล้ว ยังมีการฟอกเงิน ขายคลิปลามก และค้ายาเสพติดอยู่เบื้องหลัง”เบียร์มองไปที่จอภาพ เห็นข้อมูลเกี่ยวกับแก๊งเรดสปาร์ค รูปของไผ่ บอย และเอกปรากฏขึ้นมา ชื่อพวกนี้คุ้นเคย เพราะเขาเพิ่งเจอไผ่เมื่อไม่กี่วันก่อน“
ที่บ้านของกรธวัชในยามเย็น แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องผ่านกระจกบานใหญ่ ทำให้บ้านดูอบอุ่นและสงบ มะปรางนั่งอยู่ที่โซฟา ข้างๆ พี่ชายสุดที่รักของเธอ กรธวัช หรือที่เธอเรียกเขาว่า ‘พี่กร’ ขณะที่กรธวัชกำลังนั่งอ่านเอกสารงานอยู่ด้วยสีหน้าสงบนิ่ง ส่วนมะปรางกำลังเล่นแชทกับเพื่อนร่วมคณะและรุ่นพี่รหัสของเธออย่างเพลิดเพลินอยู่ๆ ไผ่ รุ่นพี่รหัสของมะปรางก็ส่งข้อความผ่านแอปแชทมา ด้วยข้อความที่ดูเหมือนชวนกันไปงานสนุกๆ ทั่วไป‘มะปราง ศุกร์นี้มีงานรับน้องของคณะที่ผับ เดอะมิสท์ ไปด้วยนะ’มะปรางอ่านข้อความแล้วรู้สึกตื่นเต้น งานรับน้องกับรุ่นพี่คณะนิเทศฯ ที่เธอชื่นชมและเคารพ ฟังดูน่าสนุกและน่าตื่นเต้นมาก เธอไม่คิดอะไรมาก ตอบรับไปทันที‘โอเคค่ะพี่ไผ่ เจอกันวันศุกร์ค่ะ’มะปรางหันมามองพี่ชายที่นั่งอยู่ข้างๆ แล้วตัดสินใจบอกเขา“พี่กรขา...วันศุกร์นี้ปรางมีงานรับน้องนะคะ อาจกลับดึกหน่อย” มะปรางพูดเสียงอ่อนอ้อน พยายามไม่ให้ดูน่าสงสัยกรธวัช ชายหนุ่มผู้สุขุมและเยือกเย็น มองน้องสาวที่เขารักมากที่สุดในชีวิต เขามีใบหน้าจริงจังเสมอ และไม่เคยอ่อนข้อให้ใคร แต่สำหรับมะปราง เขามีความอ่อนโยนเสมอ“ใครไปมั่ง?” กรธวัชถามเสียงเข้มเล็ก
เย็นวันศุกร์ เนยยืนหน้ากระจกในบรรยากาศเงียบสงบ ขณะเตรียมตัวอย่างละเอียดสำหรับภารกิจคืนนี้ เธอเลือกชุดเดรสหนังสีดำรัดรูป ที่เผยให้เห็นรูปร่างทรงนาฬิกาทรายและผิวขาวเนียน ชุดนี้ดูเซ็กซี่และดึงดูดสายตา แต่แฝงด้วยความพร้อมในการเคลื่อนไหวและรับมือทุกสถานการณ์ กระโปรงสั้นเหนือเข่าดูร้อนแรง แต่ยืดหยุ่นพอให้เธอเตะหรือต่อสู้ได้ ส่วนรองเท้าบูทส้นสูงซ่อนหัวเหล็กไว้เพื่อป้องกันตัวผมยาวถูกมัดรวบขึ้นอย่างหลวมๆ อาวุธเล็กๆ ถูกซ่อนไว้ที่ข้อเท้าและข้อมือ ใบหน้าที่แต่งด้วยลิปสติกสีแดงเข้มและอายไลเนอร์คมเข้มทำให้เธอดูเย้ายวน ทว่าแววตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เธอพร้อมแล้ว ไม่ใช่แค่ดึงดูดทุกสายตา แต่พร้อมสู้ทุกสถานการณ์เมื่อเนยเดินลงมาด้านล่าง ก็พบกับเคนที่ยืนรออยู่แล้ว ท่าทางเคร่งขรึมของเขาดูเหมือนกำลังประเมินสถานการณ์อยู่ในหัว“พร้อมมั้ย?” เคนถามน้องสาว น้ำเสียงของเขาสงบ แต่มีความห่วงใยซ่อนอยู่เนยยิ้มเย็นก่อนตอบ“สบายๆ เฮีย” สายตาของเธอสะท้อนถึงความมั่นใจที่เตรียมมาพร้อมเต็มที่“ยัยหนู ไอ้พวกนั้นมันอาจใส่ยานอนหลับหรือยาสลบในเครื่องดื่มให้เรากินได้” เคนเตือนเสียงหนักๆ ด้วยความเป็นห่วง“หนูรู้ เฮียสอนวิธีแ
ค่ำคืนที่ผับ ‘เดอะมิสท์’ บรรยากาศเต็มไปด้วยแสงไฟหลากสี เสียงเพลงดังกระหึ่มสร้างความครึกครื้นให้กับผู้คนที่มารวมตัวกันในค่ำคืนนี้ มะปรางและเพื่อนๆ จากคณะนิเทศศาสตร์ก้าวเข้ามาในผับด้วยความตื่นเต้น ในงานรับน้องที่จัดขึ้นเพื่อเลี้ยงฉลองให้กับนักศึกษารุ่นใหม่ ไผ่และเพื่อนๆ รุ่นพี่ของเขาคอยดูแลกลุ่มน้องๆ อยู่ใกล้ๆ พร้อมกับส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กันอย่างรู้ใจมะปรางดูมีความสุขมาก เธอสนุกสนานกับบรรยากาศในผับที่คึกคัก ไผ่ที่ดูแลเธออย่างใกล้ชิด ทำตัวเป็นรุ่นพี่ที่แสนดี เขาพูดจาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน คอยชวนคุยและเอาอกเอาใจเธอเป็นพิเศษ ราวกับเขาเป็นคนที่แสนดีสำหรับงานนี้“สนุกมั้ยปราง?” ไผ่ถามเสียงดังแข่งกับเสียงเพลง“สนุกมากเลยพี่! ไม่เคยมาแบบนี้มาก่อน” มะปรางตอบกลับพร้อมรอยยิ้มกว้าง ดวงตาเป็นประกายด้วยความตื่นเต้นขณะที่กลุ่มนักศึกษาเต้นกันอย่างเพลิดเพลิน ไผ่ก็แอบส่งสายตาไปทางบาร์เทนเดอร์ที่เคาน์เตอร์ พร้อมกับพยักหน้าเบาๆ เป็นสัญญาณที่รู้กัน บาร์เทนเดอร์หนุ่มที่ได้รับคำสั่งก็พยักหน้ารับ ก่อนจะเตรียมแก้วเครื่องดื่มพิเศษสำหรับมะปราง“พี่เลี้ยงแก้วนี้นะปราง นี่สูตรพิเศษของที่นี่เลย ลองดู” ไผ่ยื่นแก้วเครื
ขณะที่เบียร์และมิสเตอร์พี พร้อมทีมเอฟบีไอกำลังซุ่มรออยู่นั้น จู่ๆ พวกเขาก็เห็นรถตู้คันหนึ่งขับมาจอดหน้าโกดัง มันเป็นสัญญาณให้ทุกคนในทีมเตรียมพร้อมทันที จากนั้นก็เห็นบอยประคองร่างของมะปรางที่ดูสะลึมสะลือ ลงมาจากรถตู้พร้อมกับไผ่ที่กำลังประคองเนยที่ดูเหมือนจะได้รับผลจากฤทธิ์ยาเช่นกัน“สาวคนนั้น...ทำไมดูคุ้นๆ แฮะ” มิสเตอร์พีพึมพำออกมาเมื่อเห็นใบหน้าของเนย ในขณะที่เบียร์ซึ่งกำลังนั่งอยู่ข้างๆ เพิ่งเงยหน้าขึ้นจากหน้าจอมือถือ หลังจากพยายามส่งข้อความหาเนยมาหลายครั้ง แต่ไม่ได้รับการตอบกลับทันทีที่สายตาของเขาเห็นร่างของเนยที่ถูกประคองออกจากรถตู้“เชี่ย!! เนย!” เบียร์ถึงกับลุกพรวดขึ้นทันที เขาตกตะลึง ใจร้อนราวกับจะระเบิด กระโจนเตรียมออกจากรถเพื่อไปช่วยเธอทันที แต่...“เดี๋ยวก่อน!” มิสเตอร์พีคว้าข้อมือเบียร์ทันที สีหน้าเคร่งเครียดขณะที่สายตาของเขายังคงจับจ้องไปที่ภาพตรงหน้า “ใจเย็น ถ้านายพุ่งไปตอนนี้ ทุกอย่างจะพังหมด”เบียร์หยุดชะงัก หายใจแรงด้วยความโกรธและความกังวล ร่างกายสั่นเทิ้มด้วยความเครียด “แต่นั่น...นั่นเนย! พวกมันจับเธอไป!”มิสเตอร์พีส่ายหน้าเล็กน้อย “ฉันรู้ นายต้องฟังฉันก่อน ตอนนี้พว
ด้านเบียร์ยืนอยู่ด้านนอกรถตู้ พยายามข่มอารมณ์ให้เย็นลง ใจเขาแทบอยากจะกระโจนเข้าไปในโกดังให้ได้ตอนนี้ทันที กำหมัดแน่น จนเส้นเลือดปูดขึ้นที่ข้อมือ“ไม่เคยเห็นนายเป็นแบบนี้มาก่อนเลย” มิสเตอร์พีเดินตามออกมาจากรถ เอ่ยขึ้นเสียงเรียบเบียร์ไม่ตอบ ยังคงนิ่งเงียบ พยายามควบคุมความโกรธที่เดือดพล่านอยู่ในใจ“ปกตินายเยือกเย็นกว่านี้ ต่อให้มีเรื่องใหญ่แค่ไหน นายก็ไม่เคยแสดงอารมณ์ออกมา... เธอคงจะสำคัญกับนายมากสินะ”เบียร์สูดหายใจลึก ก่อนจะพูดออกมาเสียงเข้ม “สำคัญสิ... เธอคือคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตผม”ทันใดนั้น เสียงจากลูกน้องของมิสเตอร์พีก็ดังขึ้นในหูฟัง “หัวหน้าครับ มีกลุ่มคนไม่ทราบฝ่าย จอดรถอยู่ด้านหน้าโกดัง พวกเขาดูเหมือนจะเตรียมเข้าไปด้านในครับ”เบียร์และมิสเตอร์พีรีบกลับขึ้นรถทันที เพื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเมื่อหน้าจอฉายภาพชายคนหนึ่งที่ก้าวออกมาจากรถ เบียร์กับมิสเตอร์พีต่างก็อุทานออกมาอย่างตกใจ“หมอนั่น!!”“เคน!” เบียร์ตะโกนเรียกชื่อคนที่ปรากฏตัวบนจอ ซึ่งเป็นคนที่เขาไม่คาดคิดว่าจะได้เจอในคืนนี้“ผู้หญิงคนนั้น... ชิท! ทุกคนเตรียมพร้อม เราจะบุกเข้าไปใน 10 นาที!” มิสเตอร์พีรีบออกคำสั่งกับล
ก่อนที่ทั้งสองจะได้พูดอะไรต่อ บรรดาลูกน้องของกรธวัชกว่า 10 คนก็กรูกันเข้ามาล้อมรอบเบียร์ทันที เบียร์หันไปตั้งท่ารับศึกจากกลุ่มคนที่เข้ามาเล่นงานเขาอย่างพร้อมเพรียงกรธวัชสบโอกาสนั้น เลยพยายามหาทางหลบหนี แต่ยังไม่ทันจะก้าวไปไกล เนยก็ปรากฏตัวมาดักหน้าเขาไว้ ท่าทางที่เคยดูอ่อนแรงเมื่อครู่หายไป ร่างของเธอยืดเส้นยืดสาย โยกคอและไหล่เหมือนพร้อมจะลงสนาม“ถึงจะผิดแผนไปหน่อย...แต่ก็เอาเหอะ” ริมฝีปากสวยของเธอคลี่ยิ้มร้ายกาจ ดวงตาสวยจับจ้องกรธวัชราวกับกำลังล่าเหยื่อ“เธอคิดว่าจะทำอะไรฉันได้?” กรธวัชคำราม ก่อนจะพุ่งเข้าหาเนยทันทีเนยเบี่ยงตัวหลบกรธวัชได้อย่างคล่องแคล่ว ทำเอาเขาชะงักไปชั่วครู่ แต่ไม่ทันไรกรธวัชก็หันกลับมาพุ่งเข้าใส่อีกครั้งอย่างไม่ยอมแพ้ คราวนี้เขากระหน่ำหมัดตรงมาที่เธอหมับ!เนยใช้มือจับหมัดของเขาได้ทัน แววตาเธอเต็มไปด้วยความเย็นชา ริมฝีปากยิ้มเหยียดอย่างดูแคลน “แค่นี้เองเหรอ?”กรธวัชพยายามดึงมือออกจากการจับของเนย แต่กลับรู้สึกได้ถึงแรงกดที่มหาศาลจนขยับไม่ได้ เนยบิดแขนเขาอย่างรวดเร็ว ทำให้กรธวัชเสียหลักไปครึ่งตัว จากนั้นเธอจัดการเตะตัดขาเขาจนล้มลงกับพื้นเสียงดังโครมกรธวัชดิ้นรนล
หลังจากจบเหตุการณ์ทั้งหมด เบียร์นั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องพักภายในโกดัง ทีมแพทย์ของเอฟบีไอกำลังทำแผลให้เขา ขณะที่เบียร์มีสีหน้าครุ่นคิด สายตาของเขาจ้องไปที่แขนที่พันผ้าอย่างเหม่อลอย“ไง” เสียงทุ้มของเคนดังขึ้น พร้อมกับควันที่ลอยออกมาจากปลายบุหรี่ที่เขาจุดสูบ เคนเดินเข้ามานั่งตรงข้ามเบียร์ด้วยท่าทีสบายๆเบียร์เงยหน้าขึ้นมองเขา ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความสงสัย“พวกคุณมาได้ไง?”“ทั้งหมดเป็นแผนของพวกฉันอยู่แล้ว” เคนพูดเรียบๆ ก่อนจะอัดบุหรี่เข้าปอดอีกครั้งแล้วพ่นควันออกมาอย่างผ่อนคลาย“รวมทั้งเนยด้วย?” เบียร์เลิกคิ้ว นึกถึงเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับเนย เขาเริ่มรู้สึกว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างมีแบบแผน“ยัยหนูนั่นล่ะ ตัวดีเลย” เคนหัวเราะเบาๆ ดวงตาของเขาฉายแววภาคภูมิใจในตัวน้องสาวเบียร์นิ่งไป ไม่พูดอะไรต่อ แต่ในใจกลับว้าวุ่นยิ่งกว่าเดิม เขารู้ดีว่าเนยเก่งแค่ไหน แต่การเห็นเธอเข้าไปเผชิญหน้ากับอันตรายแบบนี้มันทำให้เขารู้สึกเป็นห่วงอย่างบอกไม่ถูกเคนเหลือบตามองเบียร์อย่างสำรวจ“นี่ขนาดนายเจ็บแค่นี้นะ ยัยหนูยังคลั่งได้ขนาดนั้น” เขาแสยะยิ้มออกมาเล็กน้อย“ถ้านายเป็นอะไรไปมากกว่านี้... คงมีคนตายหลายคนแน