ขณะที่เบียร์และมิสเตอร์พี พร้อมทีมเอฟบีไอกำลังซุ่มรออยู่นั้น จู่ๆ พวกเขาก็เห็นรถตู้คันหนึ่งขับมาจอดหน้าโกดัง มันเป็นสัญญาณให้ทุกคนในทีมเตรียมพร้อมทันที จากนั้นก็เห็นบอยประคองร่างของมะปรางที่ดูสะลึมสะลือ ลงมาจากรถตู้พร้อมกับไผ่ที่กำลังประคองเนยที่ดูเหมือนจะได้รับผลจากฤทธิ์ยาเช่นกัน“สาวคนนั้น...ทำไมดูคุ้นๆ แฮะ” มิสเตอร์พีพึมพำออกมาเมื่อเห็นใบหน้าของเนย ในขณะที่เบียร์ซึ่งกำลังนั่งอยู่ข้างๆ เพิ่งเงยหน้าขึ้นจากหน้าจอมือถือ หลังจากพยายามส่งข้อความหาเนยมาหลายครั้ง แต่ไม่ได้รับการตอบกลับทันทีที่สายตาของเขาเห็นร่างของเนยที่ถูกประคองออกจากรถตู้“เชี่ย!! เนย!” เบียร์ถึงกับลุกพรวดขึ้นทันที เขาตกตะลึง ใจร้อนราวกับจะระเบิด กระโจนเตรียมออกจากรถเพื่อไปช่วยเธอทันที แต่...“เดี๋ยวก่อน!” มิสเตอร์พีคว้าข้อมือเบียร์ทันที สีหน้าเคร่งเครียดขณะที่สายตาของเขายังคงจับจ้องไปที่ภาพตรงหน้า “ใจเย็น ถ้านายพุ่งไปตอนนี้ ทุกอย่างจะพังหมด”เบียร์หยุดชะงัก หายใจแรงด้วยความโกรธและความกังวล ร่างกายสั่นเทิ้มด้วยความเครียด “แต่นั่น...นั่นเนย! พวกมันจับเธอไป!”มิสเตอร์พีส่ายหน้าเล็กน้อย “ฉันรู้ นายต้องฟังฉันก่อน ตอนนี้พว
ด้านเบียร์ยืนอยู่ด้านนอกรถตู้ พยายามข่มอารมณ์ให้เย็นลง ใจเขาแทบอยากจะกระโจนเข้าไปในโกดังให้ได้ตอนนี้ทันที กำหมัดแน่น จนเส้นเลือดปูดขึ้นที่ข้อมือ“ไม่เคยเห็นนายเป็นแบบนี้มาก่อนเลย” มิสเตอร์พีเดินตามออกมาจากรถ เอ่ยขึ้นเสียงเรียบเบียร์ไม่ตอบ ยังคงนิ่งเงียบ พยายามควบคุมความโกรธที่เดือดพล่านอยู่ในใจ“ปกตินายเยือกเย็นกว่านี้ ต่อให้มีเรื่องใหญ่แค่ไหน นายก็ไม่เคยแสดงอารมณ์ออกมา... เธอคงจะสำคัญกับนายมากสินะ”เบียร์สูดหายใจลึก ก่อนจะพูดออกมาเสียงเข้ม “สำคัญสิ... เธอคือคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตผม”ทันใดนั้น เสียงจากลูกน้องของมิสเตอร์พีก็ดังขึ้นในหูฟัง “หัวหน้าครับ มีกลุ่มคนไม่ทราบฝ่าย จอดรถอยู่ด้านหน้าโกดัง พวกเขาดูเหมือนจะเตรียมเข้าไปด้านในครับ”เบียร์และมิสเตอร์พีรีบกลับขึ้นรถทันที เพื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเมื่อหน้าจอฉายภาพชายคนหนึ่งที่ก้าวออกมาจากรถ เบียร์กับมิสเตอร์พีต่างก็อุทานออกมาอย่างตกใจ“หมอนั่น!!”“เคน!” เบียร์ตะโกนเรียกชื่อคนที่ปรากฏตัวบนจอ ซึ่งเป็นคนที่เขาไม่คาดคิดว่าจะได้เจอในคืนนี้“ผู้หญิงคนนั้น... ชิท! ทุกคนเตรียมพร้อม เราจะบุกเข้าไปใน 10 นาที!” มิสเตอร์พีรีบออกคำสั่งกับล
ก่อนที่ทั้งสองจะได้พูดอะไรต่อ บรรดาลูกน้องของกรธวัชกว่า 10 คนก็กรูกันเข้ามาล้อมรอบเบียร์ทันที เบียร์หันไปตั้งท่ารับศึกจากกลุ่มคนที่เข้ามาเล่นงานเขาอย่างพร้อมเพรียงกรธวัชสบโอกาสนั้น เลยพยายามหาทางหลบหนี แต่ยังไม่ทันจะก้าวไปไกล เนยก็ปรากฏตัวมาดักหน้าเขาไว้ ท่าทางที่เคยดูอ่อนแรงเมื่อครู่หายไป ร่างของเธอยืดเส้นยืดสาย โยกคอและไหล่เหมือนพร้อมจะลงสนาม“ถึงจะผิดแผนไปหน่อย...แต่ก็เอาเหอะ” ริมฝีปากสวยของเธอคลี่ยิ้มร้ายกาจ ดวงตาสวยจับจ้องกรธวัชราวกับกำลังล่าเหยื่อ“เธอคิดว่าจะทำอะไรฉันได้?” กรธวัชคำราม ก่อนจะพุ่งเข้าหาเนยทันทีเนยเบี่ยงตัวหลบกรธวัชได้อย่างคล่องแคล่ว ทำเอาเขาชะงักไปชั่วครู่ แต่ไม่ทันไรกรธวัชก็หันกลับมาพุ่งเข้าใส่อีกครั้งอย่างไม่ยอมแพ้ คราวนี้เขากระหน่ำหมัดตรงมาที่เธอหมับ!เนยใช้มือจับหมัดของเขาได้ทัน แววตาเธอเต็มไปด้วยความเย็นชา ริมฝีปากยิ้มเหยียดอย่างดูแคลน “แค่นี้เองเหรอ?”กรธวัชพยายามดึงมือออกจากการจับของเนย แต่กลับรู้สึกได้ถึงแรงกดที่มหาศาลจนขยับไม่ได้ เนยบิดแขนเขาอย่างรวดเร็ว ทำให้กรธวัชเสียหลักไปครึ่งตัว จากนั้นเธอจัดการเตะตัดขาเขาจนล้มลงกับพื้นเสียงดังโครมกรธวัชดิ้นรนล
หลังจากจบเหตุการณ์ทั้งหมด เบียร์นั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องพักภายในโกดัง ทีมแพทย์ของเอฟบีไอกำลังทำแผลให้เขา ขณะที่เบียร์มีสีหน้าครุ่นคิด สายตาของเขาจ้องไปที่แขนที่พันผ้าอย่างเหม่อลอย“ไง” เสียงทุ้มของเคนดังขึ้น พร้อมกับควันที่ลอยออกมาจากปลายบุหรี่ที่เขาจุดสูบ เคนเดินเข้ามานั่งตรงข้ามเบียร์ด้วยท่าทีสบายๆเบียร์เงยหน้าขึ้นมองเขา ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความสงสัย“พวกคุณมาได้ไง?”“ทั้งหมดเป็นแผนของพวกฉันอยู่แล้ว” เคนพูดเรียบๆ ก่อนจะอัดบุหรี่เข้าปอดอีกครั้งแล้วพ่นควันออกมาอย่างผ่อนคลาย“รวมทั้งเนยด้วย?” เบียร์เลิกคิ้ว นึกถึงเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับเนย เขาเริ่มรู้สึกว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างมีแบบแผน“ยัยหนูนั่นล่ะ ตัวดีเลย” เคนหัวเราะเบาๆ ดวงตาของเขาฉายแววภาคภูมิใจในตัวน้องสาวเบียร์นิ่งไป ไม่พูดอะไรต่อ แต่ในใจกลับว้าวุ่นยิ่งกว่าเดิม เขารู้ดีว่าเนยเก่งแค่ไหน แต่การเห็นเธอเข้าไปเผชิญหน้ากับอันตรายแบบนี้มันทำให้เขารู้สึกเป็นห่วงอย่างบอกไม่ถูกเคนเหลือบตามองเบียร์อย่างสำรวจ“นี่ขนาดนายเจ็บแค่นี้นะ ยัยหนูยังคลั่งได้ขนาดนั้น” เขาแสยะยิ้มออกมาเล็กน้อย“ถ้านายเป็นอะไรไปมากกว่านี้... คงมีคนตายหลายคนแน
เบียร์หยุดชั่วครู่เหมือนลังเลที่จะพูดต่อ เนยมองเขาด้วยสายตาที่บ่งบอกถึงความเข้าใจ ก่อนที่เบียร์จะตัดสินใจพูดต่อ “จนกระทั่งวันนี้...ที่ฉันเพิ่งรู้ว่ามันคือหัวหน้าแก๊งเรดสปาร์ค”เนยเงียบไม่พูดอะไร สายตาจับจ้องที่เบียร์อย่างนิ่งสงบ ราวกับกำลังพยายามอ่านความคิดและความรู้สึกของเขาเบียร์นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ“ส่วนมะปราง... เธอเป็นแค่น้องสาวเท่านั้น” เขาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น จ้องลึกเข้ามาในดวงตาของเนย“ใช่เหรอ?” ริมฝีปากบางของเนยคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความหยอกล้อและท้าทาย“ใช่สิ ตอนนี้ในใจฉัน...ไม่เหลือที่ให้ใครนอกจากเธอ” เบียร์ยิ้มมุมปากอย่างมั่นใจ ก่อนจะโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ รั้งท้ายทอยของเธอเข้ามาใกล้กว่าเดิม ริมฝีปากของเขาบดเบาๆ บนริมฝีปากของเนย จูบนี้เต็มไปด้วยความรู้สึกอบอุ่นและลึกซึ้ง แฝงด้วยความหมายที่เขาไม่ต้องพูดออกมาเนยยกแขนโอบรอบคอเบียร์ ตอบรับจูบของเขาอย่างเต็มใจ เขากดริมฝีปากแนบลึกขึ้น ลิ้นของเขาไล้ผ่านภายในปากเธอ ก่อนจะพัวพันกับลิ้นของเธอ จังหวะการจูบของทั้งคู่สอดประสานกันอย่างลงตัว ความรุนแรงและเร่าร้อนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเนยหายใจแทบไม่ทัน แต่เธอก็ไม
“อย่าคิดว่าฉันจะให้เธอพักนะ” เบียร์กระซิบเสียงกระเส่า สายตาเต็มไปด้วยแรงปรารถนา เขามองเธออย่างเร่าร้อน ก่อนจะก้มลงจูบเธออย่างดุดัน ริมฝีปากของเขาบดขยี้ริมฝีปากของเธอจนเธอสะท้านไปทั้งร่าง“อื๊อ” เนยยังไม่ทันตั้งตัว รับจูบที่เต็มไปด้วยแรงปรารถนาอันร้อนแรงและลึกซึ้งจนทำให้เธอหายใจติดขัด ลิ้นของเขาสอดแทรกเข้ามาในปากของเธออย่างรวดเร็ว เธอตอบสนองด้วยความเร่าร้อน จนร่างกายของทั้งสองแนบชิดกันมากขึ้น มือของเขาเริ่มลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของเธอ ขณะที่ริมฝีปากของเขายังคงจูบอย่างดูดดื่มและเต็มไปด้วยความเร่าร้อนเสียงหายใจของเธอเริ่มถี่ขึ้น เมื่อมือของเขาสัมผัสส่วนล่างของเธอเบาๆ ปลุกเร้าความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น“พร้อมมั้ย?” เขากระซิบเบาๆ ขณะหยิบถุงยางอนามัยจากลิ้นชัก ใช้ปากฉีกซองออกอย่างชำนาญ ก่อนสวมถุงยางอย่างรวดเร็ว เขาจับเธอไว้แน่น แล้วเริ่มต้นด้วยความร้อนแรงที่ทำให้ทุกสัมผัสเต็มไปด้วยแรงปรารถนา“อึ๊...เบาหน่อย..” เนยกัดริมฝีปากแน่น ทุกครั้งเธอยังไม่ชินกับความคับแน่นที่รู้สึกด้านล่าง“อืม...เบาแล้ว..” เบียร์พึมพำ ขณะสอดตัวเข้าไปในตัวเธออย่างช้าๆ ความอุ่นจากเขาทำให้เธอครางเบาๆ ร่างกายของเธอตอบสนอง
เบียร์นอนกอดเนยอยู่บนเตียง หลังจากผ่านกิจกรรมอันเร่าร้อนเมื่อคืนที่ยาวนาน เสียงโทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้นเรื่อยๆ ขัดจังหวะการพักผ่อน“ฮัลโหล?” เบียร์พูดด้วยน้ำเสียงงัวเงีย ขณะที่เนยขยับตัวเล็กน้อย แต่ยังไม่ยอมตื่นเต็มที่“นายยังไม่ตื่นอีกเหรอ?” เสียงปลายสายยั่วเย้า ทำให้เบียร์ถอนหายใจยาว“เช้าๆ แบบนี้ ผมยังไม่อยากได้ยินเสียงคุณเลยนะ” เขาพึมพำอย่างหงุดหงิด“สายขนาดนี้แล้ว เมื่อคืนดึกรึไง?” ปลายสายยังคงล้อเลียนไม่เลิก“ไม่เชิงดึกนะ...เช้าต่างหาก” เบียร์ยิ้มมุมปาก พลางมองเนยที่นอนเคียงข้าง“ไม่ต้องมาอวดเลย” เสียงจากปลายสายสวนกลับทันควัน“มีอะไรก็ว่ามา” เบียร์ตัดบทอย่างตรงไปตรงมา“เข้ามาคุยเรื่องหัวหน้าแก๊งเรดสปาร์คหน่อย ถ้าสะดวก” ปลายสายบอกจุดประสงค์“ตอนเย็นแล้วกัน” เบียร์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม พลางวางสายไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหันกลับมามองเนยที่ยังคงนอนหลับอยู่ในอ้อมกอดของเขา“ใครโทรมา...อีตาสูทดำเหรอ?” เนยถามเสียงเบา ทั้งๆ ที่ยังหลับตาอยู่“หืม?...ตื่นแล้วไม่บอกเหรอ?” เบียร์ยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะก้มลงใช้จมูกซุกไซร้ไปตามลำคอขาวของเธอ“ฮื้อ...พอได้แล้ว” เนยหัวเราะคิกคัก พยายามเบี่ยงหน
ระหว่างที่เนยกำลังนั่งรอเบียร์อยู่ในห้องประชุม มิสเตอร์พีก็เดินถือกาแฟเข้ามาพร้อมกับส่งให้เนย ก่อนจะเอ่ยขึ้น“ไม่เจอกันนานเลย...สวยขึ้นเยอะเลยนะ” มิสเตอร์พีพูดด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า รอยยิ้มมุมปากที่บ่งบอกถึงความล้อเลียนอย่างชัดเจนเนยหันมามองเขา ก่อนจะเลิกคิ้วเล็กน้อย “พี่ยังปากหวานเหมือนเดิมนะ”“ฉันพูดความจริงนี่” มิสเตอร์พียักไหล่ พลางจ้องมองเธอด้วยสายตาวาววับ “จำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่เจอกัน เธอยังเป็นสาวน้อยอยู่เลย แต่ตอนนี้...กลายเป็นสาวเต็มตัวแล้ว”เนยหัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันไปจิบกาแฟ “แล้วไง? พี่คิดจะจีบฉันเหรอ?”“โห...อย่าพูดแบบนั้นสิ ฉันไม่อยากโดนหมอนั่นฆ่าหรอก” มิสเตอร์พีตอบพลางหัวเราะในลำคอ แต่แววตาของเขายังคงมองเนยด้วยความชื่นชมเนยยิ้มมุมปาก ก่อนจะเอนตัวเข้ามาใกล้มิสเตอร์พีเล็กน้อย ดวงตาของเธอฉายแววซุกซน “อ้าวเหรอ...แล้วถ้าฉันบอกว่า พี่มีโอกาสล่ะ?”มิสเตอร์พีชะงักเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ เขายิ้มกว้างขึ้น แต่ยังคงรักษาท่าทีไว้ “เธอนี่มันร้ายเหมือนเดิมนะ...คิดจะยั่วให้ฉันลำบากใจเหรอ?”เนยหัวเราะเบาๆ พลางโน้มตัวเข้ามาใกล้เขาอีกนิด “ก็ถ้าพี่กลัวเบียร์ขนาดนั้น ฉันคงทำอะไร