ระหว่างที่เนยกำลังนั่งรอเบียร์อยู่ในห้องประชุม มิสเตอร์พีก็เดินถือกาแฟเข้ามาพร้อมกับส่งให้เนย ก่อนจะเอ่ยขึ้น“ไม่เจอกันนานเลย...สวยขึ้นเยอะเลยนะ” มิสเตอร์พีพูดด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า รอยยิ้มมุมปากที่บ่งบอกถึงความล้อเลียนอย่างชัดเจนเนยหันมามองเขา ก่อนจะเลิกคิ้วเล็กน้อย “พี่ยังปากหวานเหมือนเดิมนะ”“ฉันพูดความจริงนี่” มิสเตอร์พียักไหล่ พลางจ้องมองเธอด้วยสายตาวาววับ “จำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่เจอกัน เธอยังเป็นสาวน้อยอยู่เลย แต่ตอนนี้...กลายเป็นสาวเต็มตัวแล้ว”เนยหัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันไปจิบกาแฟ “แล้วไง? พี่คิดจะจีบฉันเหรอ?”“โห...อย่าพูดแบบนั้นสิ ฉันไม่อยากโดนหมอนั่นฆ่าหรอก” มิสเตอร์พีตอบพลางหัวเราะในลำคอ แต่แววตาของเขายังคงมองเนยด้วยความชื่นชมเนยยิ้มมุมปาก ก่อนจะเอนตัวเข้ามาใกล้มิสเตอร์พีเล็กน้อย ดวงตาของเธอฉายแววซุกซน “อ้าวเหรอ...แล้วถ้าฉันบอกว่า พี่มีโอกาสล่ะ?”มิสเตอร์พีชะงักเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ เขายิ้มกว้างขึ้น แต่ยังคงรักษาท่าทีไว้ “เธอนี่มันร้ายเหมือนเดิมนะ...คิดจะยั่วให้ฉันลำบากใจเหรอ?”เนยหัวเราะเบาๆ พลางโน้มตัวเข้ามาใกล้เขาอีกนิด “ก็ถ้าพี่กลัวเบียร์ขนาดนั้น ฉันคงทำอะไร
เบียร์นั่งลงหน้าจอคอมพิวเตอร์ของมิสเตอร์พี ท่ามกลางแสงไฟจากหน้าจอที่สว่างเพียงแสงเดียวในห้อง มันสะท้อนกับใบหน้าของเขาที่มีความมุ่งมั่นในทุกการเคลื่อนไหว เบียร์เริ่มพิมพ์คำสั่งลงบนแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็ว เสียงคลิกแป้นพิมพ์ดังต่อเนื่อง ไม่หยุดหย่อน“ผมจะเริ่มจากการเจาะเข้าฐานข้อมูลที่พวกมันใช้เก็บบัญชีเงินฝากก่อน” เบียร์อธิบายให้มิสเตอร์พีฟัง ขณะที่เขาเปิดโปรแกรมแฮกเกอร์ขั้นสูงเนยกับมิสเตอร์พียืนอยู่ข้างหลังเขา มองดูหน้าจอที่เต็มไปด้วยรหัสและตัวเลขเคลื่อนไหวไปมา ข้อมูลต่างๆ เริ่มปรากฏขึ้นทีละน้อย“เริ่มจากหาช่องโหว่ในระบบของพวกมันก่อน” เบียร์พูดเสียงนิ่ง ขณะที่พิมพ์คำสั่งเข้าไปในคอมพิวเตอร์ เขาใช้วิธีที่เรียกว่า brute-force attack ซึ่งเป็นการลองรหัสผ่านหลายๆ ชุดไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอรหัสที่ถูกต้อง การทำแบบนี้ทำให้ระบบรักษาความปลอดภัยของแก๊งเรดสปาร์คทำงานหนักเกินไป จนเกิดช่องโหว่ที่เขาจะสามารถเจาะเข้าไปได้"พอระบบมันทำงานไม่ไหว ช่องโหว่ก็โผล่มา" เบียร์พูดพลางเร่งมือให้เร็วขึ้น“พวกมันใช้ระบบป้องกันระดับสูง เหมือนพวกธนาคารเลย แต่ก็ยังมีช่องโหว่จากการเชื่อมต่อหลายๆ อุปกรณ์” เบียร์พึมพำกับตัว
สัปดาห์ของการทำงานเริ่มต้นใหม่ เนยนั่งหน้าเครียดอยู่ที่โต๊ะทำงาน สายตาจ้องจอคอมพิวเตอร์ที่ค้างเป็นหน้าจอฟ้าอีกครั้ง เธอถอนหายใจยาวจนเหมือนจะหมดแรง “โอย เบื่อจะแย่แล้ว คอมรวนไม่เลิก” เธอบ่นพึมพำกับตัวเอง“บ่นอะไรแต่เช้า” เสียงทักคุ้นเคยของเบียร์ดังขึ้นจากด้านหลัง เนยเงยหน้ามองเขา พลางพ่นลมออกจมูก “ก็จอมันค้างอีกแล้วสิ เป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้”เบียร์หัวเราะเบา ๆ ขำกับท่าทางของเธอ ก่อนจะเดินเข้ามาดูใกล้ๆ “เดี๋ยวฉันดูให้” เขาว่าพลางจับไหล่เธอเบาๆ เหมือนจะดึงให้เธอลุกขึ้นเนยหันไปมองเขา แอบยิ้มในใจแต่ก็แกล้งทำหน้ามุ่ย“นายดูให้ฉันมากี่รอบแล้ว มันก็ยังพังอยู่ดีนั่นแหละ” เธอบ่นด้วยน้ำเสียงที่แฝงความหงุดหงิดเบียร์ยักไหล่ก่อนยิ้มกวนๆ “งั้นเย็นนี้ไปซื้อแล็ปทอปกันเลยมั้ยล่ะ จบปัญหาคอมรวนซะทีไง”เนยเลิกคิ้วขึ้น “หืม? จริงเหรอ?”“จริงดิ” เบียร์หันมายิ้ม “จะได้แก้ปัญหานี่ให้จบๆ ไปซะที”เนยครุ่นคิดสักพัก ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ “อืม...ก็ดีนะ แต่ฉันต้องไปบอกพี่เหมยก่อน”เธอลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินไปหาพี่เหมยที่ห้องทำงาน ขณะที่ในใจรู้สึกโล่งขึ้นเล็กน้อย อย่างน้อยเย็นนี้เธอก็จะได้แล็ปทอปเครื่องใหม่ ท
ยามเย็นหลังเลิกงาน อากาศเย็นสบาย เนยกับเบียร์เดินเคียงข้างกันเข้าไปในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ เนยยังคงบ่นเรื่องคอมพิวเตอร์เก่าของเธอที่ค้างบ่อยจนทำงานลำบาก ขณะที่เบียร์ก็ฟังไปพลางยิ้มขำกับความหงุดหงิดของเธอ“ฉันยังไม่อยากเชื่อเลยว่าจะได้แล็ปทอปใหม่จริงๆ” เนยพูดพลางมองรอบๆ อย่างตื่นเต้น“วันนี้เราจัดเต็มเลยไง” เบียร์ตอบพร้อมรอยยิ้มกว้าง สายตาเขามองตรงไปยังร้านขายแล็ปทอปที่อยู่ข้างหน้า “แล้วคิดไว้หรือยังว่าจะเอารุ่นไหน?”“ยังเลย นายเลือกให้ทีดิ” เนยหันไปยิ้มอ้อน ยักคิ้วให้เขาอย่างท้าทาย “นายเก่งเรื่องพวกนี้กว่าฉันเยอะ”“หืม...แบบนี้คืนนี้ต้องมีรางวัลนะ” เบียร์ยิ้มมุมปากเล็ก ๆ อย่างเจ้าเล่ห์ แววตาวิบวับ“ลามกตลอด...” เนยแกล้งบ่นเบาๆ พลางกลอกตาเบียร์หัวเราะเบาๆ ก่อนจะสวนกลับอย่างรวดเร็ว “กับเธอคนเดียวแหล่ะ”เนยส่ายหัวอย่างอ่อนใจ แต่ก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ ทั้งคู่เดินเข้าไปในร้านขายอุปกรณ์ไอที ซึ่งตกแต่งด้วยไฟสีขาวสว่าง ทันสมัยและสะอาดตา เนยเดินดูแล็ปทอปบนชั้นวางอย่างสนใจ แต่ก็ยังลังเลว่าจะเลือกเครื่องไหนดี“ตัวนี้เป็นไง?” เบียร์ชี้ไปที่แล็ปทอปเครื่องหนึ่ง “เบา สเปกดี เหมาะกับงานเธอ”เนยมอง
ในห้องลับใต้ดินที่ซ่อนอยู่หลังผนังของอาคารร้างย่านชานเมือง สมาชิกระดับสูงของแก๊ง ไวท์สตาร์ (White Star) นั่งล้อมวงกันรอบโต๊ะยาว แสงไฟสลัวๆ ส่องผ่านโคมไฟบนเพดาน เผยให้เห็นใบหน้าของแต่ละคนอย่างชัดเจน บนโต๊ะมีแล็ปทอปหลายเครื่องเปิดทิ้งไว้ ข้าง ๆ มีแฟ้มเอกสารที่รวบรวมข้อมูลของเหยื่อรายใหม่อเล็กซานเดอร์ "อเล็กซ์" ไรส์ตัน หัวหน้าแก๊งนั่งอยู่ที่หัวโต๊ะ เขาเป็นชายหนุ่มชาวอังกฤษ ผิวขาว หน้าตาดูดี มีความนิ่งและสุขุม แต่ภายใต้ใบหน้าหล่อเหลานั้นแฝงไปด้วยความโหดเหี้ยม เขามองไปยังแฟ้มในมืออย่างพินิจ ก่อนจะวางมันลงกลางโต๊ะ ภาพของเหยื่อคนล่าสุดปรากฏอยู่บนปก“รายต่อไปคือผู้หญิงคนนี้” อเล็กซ์พูดเสียงเย็น พร้อมกับชี้ไปที่รูปของสกายลาร์ (Skylar) เจค วอล์ช ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา ผมบลอนด์ ยิ้มเล็กๆ อย่างเจ้าเล่ห์ในขณะที่หยิบแฟ้มขึ้นมาดู “สกายลาร์ วัยทำงาน ฐานะมั่นคง เป็นคนที่อารมณ์อ่อนไหว...เธอคนนี้เป็นเป้าหมายที่สมบูรณ์แบบ” เขาพูดพลางเหลือบมองอเล็กซ์ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ เจคคือคนที่เชี่ยวชาญในการใช้เสน่ห์ลวงเหยื่อ เขาคือมือชั้นหนึ่งในการสร้างโปรไฟล์ปลอมอเล็กซ์พยักหน้า ก่อนจะวางแผนการอย่างละ
เมื่อเบียร์กับแพรเดินมาถึงเรือนซ้อม ก็เห็นเนนั่งหมดสภาพพิงผนังอยู่ มีคนกลุ่มหนึ่งยืนมุงดูการต่อสู้ในสนามซ้อม“อ้าว เนหมดสภาพแล้วเหรอเนี่ย?” แพรทักพลางหัวเราะเบาๆ“ไง” เบียร์ยกมือทักเพื่อนเนหันมามอง ก่อนจะยิ้มแห้ง ๆ “พี่แพร มายังไงเนี่ย? แล้วมึงก็มาด้วยเหรอ เบียร์?”“แล้วเนยล่ะ?” แพรถามต่อเนพยักพเยิดไปที่กลางสนามซ้อม “โน่น”ทั้งคู่มองตามสายตาของเน ก็เห็นเนยกับเคน กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดกลางสนามซ้อม เนยและเคนต่างเผชิญหน้ากันอย่างจริงจัง เสียงลมหายใจหอบถี่ของทั้งคู่สะท้อนผ่านห้องกว้าง ทุกสายตาจับจ้องไปที่การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและทรงพลังของพวกเขาเคนพุ่งเข้าหาเนยด้วยหมัดซ้ายที่รวดเร็วและแม่นยำ เนยเบี่ยงตัวหลบได้ทันเวลา ก่อนจะสวนกลับด้วยการเตะสูง เคนยกแขนขึ้นบล็อกทัน แต่แรงกระแทกจากเท้าของเนยทำให้เขาต้องถอยหลังไปหนึ่งก้าว“เก่งนี่” เคนพูดพลางยิ้มกวน แม้ใบหน้าจะเริ่มมีเหงื่อเกาะเต็มเนยไม่ตอบ ทำเพียงแค่ยกยิ้มมุมปาก เธอขยับเข้าใกล้เคนอีกครั้ง ก่อนจะส่งหมัดขวาออกไป เคนบล็อกหมัดของเธอได้ แต่ไม่ทันตั้งตัว เนยหมุนตัวแล้วถีบเข้าที่สีข้างเขาเต็มแรง ส่งเคนถอยหลังไปอีกเสียงฝีเท้าของทั้งสองคน
หลังจากที่เนยซ้อมเสร็จ เธอหันไปเห็นแพรและเบียร์ที่ยืนอยู่กับเนและเคน เนยยิ้มกว้างก่อนจะเดินตรงเข้าไปหา“ทำไมมาเร็วจัง?” เนยถามเบียร์ขณะรับผ้าขนหนูจากมือแพร“กลัวเธอลืมไง” เบียร์ยิ้มตอบ แต่สายตาคมกริบของเขาเหลือบมองที่ช่วงท้องของเนยอย่างเงียบๆ โดยที่เธอไม่รู้ตัว“แล้วแพรอะ?” เนยถามต่อ“ว่าจะมายืมตัวเนไปช่วยช้อปปิ้งหน่อยน่ะแพรตอบยิ้มๆ“อืม เอาไปเลย” เนยตอบเสียงสบายๆ“อ้าว พี่ ไหงงั้น?” เนบ่นเบาๆ พลางทำหน้าเซ็ง“หืม?” เนยหันไปเหลือบมองน้องชายนิ่งๆเนรีบยิ้มแหยๆ เปลี่ยนท่าทีทันที “โอเค พี่แพรจะไปไหน เดี๋ยวผมพาไปเองครับ” เขาพูดอย่างกระตือรือร้น พร้อมกับรีบลุกขึ้นดันหลังแพรให้เดินออกจากสนามซ้อมทันที“นายตามไปเถอะ ฉันขอไปเปลี่ยนชุดก่อน” เนยหันไปบอกเบียร์พร้อมรอยยิ้ม เบียร์พยักหน้ารับเงียบๆ ก่อนจะเดินตามแพรกับเนออกไป“หมอนั่นห่วงเรามากนะ” เคนพูดขึ้นหลังจากที่ทุกคนเดินออกไปหมดแล้วเนยยิ้มบาง ๆ ก่อนตอบ “อืม หนูก็ห่วงเขาเหมือนกัน ไม่อยากให้เขาต้องมาเจ็บตัวอีกเหมือนคราวก่อน” “หึหึ พิสูจน์ความรักจนได้เรื่องสินะ” เคนหัวเราะเบา ๆ พลางหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบเนยเหลือบตามองเขา ตวัดดวงตาคมสวยใส่ “พูด
“พี่เบียร์” มะปรางโผเข้ากอดเบียร์ทันทีที่เห็นเขา แววตาเปล่งประกายด้วยความดีใจ แต่ด้านหลังเนย กลับแสดงอาการไม่พอใจอย่างชัดเจน คิ้วสวยขมวดเข้าหากันทันทีที่เห็นภาพนั้น“เป็นไงมั่ง” เบียร์ดันตัวมะปรางออกอย่างนุ่มนวล พยายามรักษาระยะห่าง มะปรางชะงักเล็กน้อย ใบหน้าที่เคยสดใสเริ่มมีร่องรอยความผิดหวัง“ฉันไปหากาแฟกินแป๊บนะ พวกนายคุยกันตามสบาย” เนยพูดเสียงเรียบ ก่อนพ่นลมออกจากจมูกอย่างหงุดหงิด เธอหมุนตัวเดินออกจากห้องไป โดยไม่รอคำตอบใดๆ เบียร์มองตามเธอพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ ขำกับท่าทีแอบหึงหวงที่เธอพยายามปิดบัง แต่ก็แสดงออกมาจนเห็นได้ชัด“ปราง เธอรู้แล้วใช่มั้ยว่า...” เบียร์พยายามเลี่ยงที่จะพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแต่มะปรางกลับเอ่ยขึ้นมาก่อน“ปรางชอบพี่เบียร์” คำพูดของเธอทำให้บรรยากาศในห้องเงียบลงทันที“ปราง...” เบียร์ถึงกับอึ้งไปกับสิ่งที่เธอพูด น้ำเสียงของเขาอ่อนลงอย่างไม่แน่ใจ“ปรางรู้ว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้น...” มะปรางพูดต่อ น้ำเสียงเธอสั่นเล็กน้อย “ปรางมันโง่เองที่เชื่อพี่ไผ่ แต่ถ้า...พี่เบียร์รับได้... ปรางก็ไม่สน...” น้ำตาใส ๆ เริ่มเอ่อล้นในแววตาของเธอ แต่เธอก็ยังพยายามกลั้นไว้ พูดออกมาด้วยคว