บ้านพลอย
วรรณิหลาที่พึ่งจะอาบน้ำเสร็จ เดินมานั่งที่เตียง มือเล็กจับเอากระเป๋าสะพายของเธอมาล้วงมือถือออกมา เพราะเพิ่งมานึกได้ว่าคุณหมอไนยะจะโทรหาหลังจากกลับถึงบ้าน
“ อ้า พี่หมอโทรมาตั้งสิบสายเลย โทรกลับดีมั้ยเนี้ย “ แต่ไม่ทันที่เธอจะได้พูดจบ ไนยะก็โทรเข้ามาหาเธออีกพอดี ณิหลาก็อมยิ้มแล้วกดรับสายจากเขา
[“ ฮัลโหลณิหลา นึกว่าเทพี่ไปแล้ว ยังไม่ทันได้เริ่มจีบเลยนะ “] ตอนเธอกดรับเสียงทุ้มของเขาก็พูดออกมาอย่างออดอ้อนงอแง เล่นเอาคนฟังยิ้มไม่หุบ
“ ขอโทษ พอดีณิหลาช่วยพลอยกับลุงเก็บของ เลยไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์นะคะ “
[“ เก็บของไปไหนครับ “] ปลายสายถามอย่างเป็นห่วง
“ ก็ย่าของพลอยไม่สบายนะคะ ก็เลยต้องกลับไปดูใจ ยังไม่รู้เลยว่าจะกลับมาวันไหน “
[“ อ้าว แบบนี้ก็แสดงว่าน้องอยู่คนเดียวหรือครับ”]
“ อืม ค่ะ “
[“ หน้าเป็นห่วงจัง ให้พี่ไปอยู่เป็นเพื่อนมั้ย “] เขาหยอกเธอออกมาอย่างกวนๆ ณิหลาก็อมยิ้มพูดกวนเขากลับ
“ อย่าเลยค่ะ ถ้าพี่มา ณิหลากลัวว่าตัวเองอาจจะไม่ปลอดภัยกว่าเดิมก็ได้ “
[“ โห่ เห็นพี่เป็นคนยังไงแล้วครับเนี้ย แล้วนี่ น้องจะเข้านอนหรือยัง “]
“ ก็ง่วงนอนแล้วเหมือนกันค่ะ “
[“ เดี๋ยว ก่อนจะนอนปิดประตูใส่ล็อคหมดแล้วใช่มั้ย หืม “] เขารีบถามเธอเสียงดุ
“ ถ้าจะห่วงกันขนาดนี้มาปิดให้ณิหลาเลยไหมคะ”
[“ ได้เหรอ ถ้าอย่างนั้นพี่ออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ “]
“ ล้อเล่นค่ะ พี่หมอนี่ห้าวจัง “ เธอพูดแล้วก็หัวเราะเขา
[ “ ถ้าอย่างนั้นก็นอนได้แล้วครับ มีอะไรโทรหาพี่ได้ 24 ชั่วโมงเลยนะ ฝันดีน่ะตัวแสบ “]
“ อืม ฝันดีค่ะ พี่หมอ “ พอปลายสายวางไป เธอก็หันหน้าไปหมอบลงใส่หมอน แล้วกรี๊ดออกมาด้วยความเขิน ให้ตายเขาหยอดเธอไม่พักเลย
“ พ่อๆ “
“ มึงมีอะไรไอ้สรรหา “ สรรหาวิ่งหน้าตื่นเข้ามาหาคนเป็นพ่อในบ้าน
“ วันนี้ฉันได้ยินว่า ไอ้สนุ๊กกับอีพลอยไม่อยู่ ไปต่างจังหวัด “ วิสิตจึงรีบหันไปจ้องหน้าลูกชายทันที
“ จริงหรือ ? แบบนี้ก็แสดงว่าทางสะดวกน่ะสิ แล้วอีณิหลาไม่ได้ไปกลับพวกมันด้วยใช่มั้ย “
“ใช่จ๊ะ มันเฝ้าบ้านให้สองคนนั้น “ สองพ่อลูกยิ้มร้ายออกมา “ วันไหนดีจ๊ะพ่อ ขอไอ้สรรหาคนนี้แจมด้วยน่ะ เพราะมันสวยมาก ฉันสักจะอดใจไม่ไหวแล้ว “
“ เอ้อ รอดูไอ้ข้างบ้านสองหลังนั้นก่อน ถ้ามันไม่อยู่วันไหน เราสองคนก็ไปจัดการมันเลย หือ “
2 วันต่อมา
22:56น.
“ อ้าว ฝนตกเหรอ มันใช่ฤดูฝนหรือไง “ วรรณิหลาที่นอนวาดรูปตรงกลางบ้านได้ยินเสียงเม็ดฝนตกกระทบใส่กระเบื้องหลังคาบ้าน เธอก็เริ่มใจไม่ดี
“ มาตกอะไรตอนอยู่คนเดียวว่ะ หวังว่าจะไม่มีพายุด้วยนะ “ ณิหลาเริ่มหายใจถี่ขึ้นเมื่อนึกถึง เพราะเธอกลัววันที่ฝนตกฟ้าร้องเป็นที่สุด
“ ลางสังหรณ์ไม่ดีเลย “ ณิหลาวางมือจากรูปที่วาด แล้วลุกเดินไปหากระดาษที่ลุงสนุ๊กเคยให้เธอไว้
“ อยู่ไหนวะ เราเอาไปไว้ไหนแล้วเนี้ย “ แต่เมื่อหาไปหามาก็ไม่เจอ ไม่รู้ว่าเธอแอบหลงไปเก็บไว้ไหน
แก๊ก!
“ เสียงอะไร “ เสียงดังก๊อกแก๊กที่ประตูหลังบ้าน ทำให้ณิหลาต้องรีบจับเอามีดปลอกผลไม้บนโต๊ะ แล้วเดินเข้าไปดู
“ อีณิหลา! “
“ ไอ้สรรหา!!นี่มึงเข้ามาได้ยังไง! “ ณิหลาตาเหลือกโผนด้วยความตกใจ ที่อยู่ๆ ศัตรูก็เข้ามาอยู่ในบ้าน เธอทำอะไรไม่ได้นอกเสียจากจ่อมีดไปที่หน้าของมันอย่างสั่นกลัว
“ มึงคิดว่าบานประตูแค่นี้จะทำอะไรพวกกูได้งั้นเหรอ “
“ พวก! ? “
“ กะเอ้อ! “ ไอ้วิสิตโผล่เข้ามาด้านหลังของวรรณิหลาแล้วพยายามแย่งมีดในมือเธอ พร้อมกับกอดรัดหญิงสาวเอาไว้จากด้านหลัง ณิหลารีบควบคุมสติแล้วกระทืบตีนใส่เท้าของมัน จากนั้นก็ศอกสับใส่หน้าไอ้วิสิต หญิงสาวเผลอสะบัดมีดในมือของไอ้วิสิตด้วย จนมีดไปบาดเข้าหน้าของมันเอง
“ โอ้ย อีเหี้ย! “ เมื่อหลุดออกจากสองพ่อลูกได้ ณิหลาก็พยายามจะวิ่งหนี แต่ข้างนอกพายุกำลังจะมา แล้วถ้าจะให้เธอที่กำลังตัวสั่นไปปลดล็อคกลอนประตูตอนนี้ก็คงจะไม่ทัน ณิหลาจึงรีบวิ่งเข้าห้องนอนล็อคประตูพร้อมหาโต๊ะเก้าอี้มาดันประตูเอาไว้
“ มึงเปิดประตูให้กูเดี๋ยวนี้อีณิหลา! “
เสียงเคาะประตูดังสนั่นหวั่นไหว จนณิหลาที่ตอนแรกมีสติดีเริ่มหวาดกลัวขึ้นมา เพราะเนื่องจากอากาศที่ฝนตกฟ้ากำลังร้องเสียงดัง บวกกับน้ำเสียงของคนชั่วคนเดียวกันกับวันนั้น ทำเอาวรรณิหลาเริ่มจิตตก
‘อีวิสา! มาเปิดประตูให้กู! “ เมื่อ 5 ปีก่อนมันเคยมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น
‘ ไม่ต้องกลัวนะณิหลาพี่อยู่นี่แล้ว ‘หญิงสาวในชุดนักเรียนถักเปียสองข้างยาวจนถึงกลางหลัง ยืนกอดณิหลาอยู่ในห้องเพื่อปลอบใจน้องสาวที่กำลังตัวสั่นด้วยความกลัว เพราะเกือบจะโดนคนเลวข่มเหงรังแก
“ เปิดประตูให้กูอีณิหลา!! “ ซึ่งในวันนี้เหตุการณ์ในอดีตมันเหมือนหวนกลับมาซ้ำรอย ณิหลาที่ตอนนี้หวาดกลัวจนไม่สามารถแยกความคิดใต้สำนึกกับเหตุการณ์จริงออกได้ ตัวเธอสั่น กลัวมากรีบเอามือสองข้างยกขึ้นจับที่หัว ปากอิ่มก็สั่นกระทบกันไปมา
ปั่ง!!
“ อ๊าย!!! “ ภาพที่ประตูโดนถีบเปิดออกทำให้หญิงสาวกรีดร้องลั่นบ้าน เพราะภาพหลังจากนี้ที่เคยเกิดเหตุการณ์อันแสนโหดร้ายมันได้วิ่งเข้ามาในหัวอีกครั้ง….
‘ อย่า หนีไป! หนีไป! ‘ เสียงใสที่คุ้นเคยร้องลั่น ก่อนทีภาพหญิงสาวในชุดนักเรียนวิ่งผ่านไป พร้อมกับขวดเหล้าลอยมาตามอากาศฟาดใส่กลางหลังของเธอแล้วตกลงมาแตกที่พื้น เสื้อสีขาวเปลี่ยนเป็นสีแดงเลือดพร้อมร่างนั้นที่ล้มลงไปนอนกับพื้น“ ณิหลา!! “ เจ้าของความฝันสะดุ้งตื่นขึ้นด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยเหงื่อ “ ฝันเหรอ? แต่เหตุการณ์ใหม่? “ เขาบ่นอยู่บนเตียง แม้เขาจะฝันเห็นวรรณิหลามา 5 ปีแล้วแต่มันก็มีเพียง เหตุการณ์ซ้ำๆ เดิมๆ กัน แต่อันนี้ที่เขาฝันเห็นเมื่อกี้มันไม่เหมือนกับแต่ก่อน “ เสียงที่ได้ยินเหมือนกับเสียงณิหลา แต่ผู้หญิงอีกคนที่โดนแก้วฟาดใส่กลางหลังคนนั้นคือใคร “ เขาขมวดคิ้วคิดนักอยู่บนเตียง จากนั้นจึงรีบหยิบเอามือถือขึ้นมาโทรหาเธอ“ ทำไมไม่รับสาย หรือว่าหลับแล้ว” เขามองไปที่นาฬิกาที่ตอนนี้เป็นเวลา 23:34น. แล้วมองไปข้างนอกซึ่งฝนกำลังโปรยปรายเบาๆ แต่มีฟ้าร้องฟ้าแลบ อยู่เป็นระยะ “ รู้สึกไม่ดีเลย “ไนยะรีบลุกจากเตียงแล้วหาเอากางเกงขายาวมาสวมทับกับบ๊อกเซอร์ มือเขายื่นไปจับเอากุญแจรถแล้วลงจากบ้านไป “ อีณิหลา เปิด! “ ซึ่งตอนนี้ไอ้วิสิตกับสรรหาก็พยายามจะทุบประตูเข้าไปหาหญิงสาวในห้อง “ พ่อ มีคนมา
“ พวกนี้มันยังไม่นอนกันอีกเหรอ “ เขาบ่นเมื่อเห็นว่าเหล่าเพื่อนๆ ของเขายังแชทกลุ่มกันอยู่ เขาก็เลยกดโทรกลุ่มไปเพื่อจะคุยปรึกษากับเพื่อน[“ อ้าว มึงยังไม่นอนอีกเหรอไอ้หมอ !” ] คนแรกที่กดรับร่วมสนทนากับไนยะก็คือพลอยเจนเจ้าเก่า “ พอดีกูมีเรื่องนิดหน่อย “ [“ เรื่องอะไรวะ “] เสี่ยโอมเปิดกล้องขึ้นมาร่วมแจม “ อ้าว มึงบินไปอังกฤษอีกแล้วเหรอโอม “ [“ก็ใช่ไง ธรรมดาเมียกูอยู่นี้นิ “] อศิรตอบคำถามของพลอยเจนพร้อมดึงเมียของเขาเข้ามาร่วมคุยด้วย[“ สวัสดีค่ะ พี่ไน พี่เจน พี่หนึ่ง “] ครีมหอมก็รีบทักทายพี่ๆ ของเธอ“ อืม สวัสดีครีม ถึงพี่จะไม่ค่อยสบายดีเท่าไหร่ก็เหอะ “ ไนยะพูดพร้อมกับทำหน้าเหนื่อยใส่กล้อง [“ เป็นอะไรไปหรือคะ ไม่สบายเหรอ “] คนน้องจึงรีบถามเขากลับ [“ หรือว่ามึง ฝันร้ายอีกแล้วล่ะ กูคิดว่ามึงเจอเธอแล้วจะเลิกฝันเสียอีก “] หนึ่งเดียวพูดขึ้นทำให้ไนยะที่กำลังสงสัยเหมือนกันรีบตอบเพื่อนกลับ“ อืม ก็ตั้งแต่วันที่กูเจอกับณิหลากูก็ไม่ได้ฝันอีกเลย จนมาถึงวันนี้ แล้วเหตุการณ์ในฝันของวันนี้ ก็ไม่ใช่เหตุการณ์เดิมที่กูชอบฝันซ้ำๆ ด้วย “ [“ มึงจะบอกว่า มึงฝันเห็นเหตุการณ์ใหม่ นอกจากพวกสองสามเหตุการณ์ท
“ ณิหลา เป็นอะไรมั้ย เกิดอะไรขึ้น “ ไนยะรีบเปิดผ้าห่มออกก่อนจะเห็นว่าเธอกำลังร้องไห้สะอึกสะอื้น ณิหลาเงยหน้าขึ้นจ้องเขา แล้วรีบจับมือของชายหนุ่มไว้“ ณิหลากลัว ฮือ ณิหลาพยายามเข้มแข็งแล้ว แต่ทำไม่ได้ อ๊าย “ เธอกรีดร้องออกมาเมื่อฟ้าร้องฟ้าแลบเสียงดัง จึงทำให้ไนยะรู้ว่าณิหลาคงจะกลัวเสียงฟ้าร้อง “ ไม่เป็นไรน่ะ เดี๋ยวพี่ไปปิดผ้าม่านให้ รอแป๊บเดียว “ ไนยะแกะมือหญิงสาวที่เกาะกุมมือของเขาออก แล้วเดินลงจากเตียงไปปิดผ้าม่านตรงระเบียงไว้ เพื่อไม่ให้แสงฟ้าแลบผ่านเข้ามาให้หญิงสาวหวาดกลัว แต่เพราะฝนตกหนักไฟฟ้าก็ได้ดับลง เมื่อเขาหันกลับคืนไปก็ต้องตกใจ เพราะแสงฟ้าแลบที่ส่องเข้ามากับผ้าม่าน ได้ทำให้เขามองเห็นร่างของหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ที่ปลายเตียง แต่เมื่อแสงฟ้าแลบดับลงแล้วกลับมาอีกรอบ ร่างที่ว่านั้นก็ได้หายไปแล้ว “ สงสัยคงจะตาฝาดไปเอง “ เขาพยายามคิดในแง่ดีแล้วรีบเดินไปหาหญิงสาวบนเตียง “ เป็นยังไงบ้างณิหลา “ เธอที่กำลังนอนเอาหน้าหมุดเข้าไปในผ้าห่มอยู่รีบเงยขึ้นมามองเขา“ พี่หมอนอนกับณิหลาได้มั้ยคะ “ เสียงสั่นเอ่ยขึ้น แต่ก็เล่นเอาคนฟังตกใจไม่น้อย“ ห๊ะ “ “ ณิหลากลัว ปกติณิหลาจะนอนกับพลอย หรือไม่พ
[“ อืม งั้นแกก็อยู่กับพี่หมอของแกไปก่อนนะ พ่อเขาโทรบอกเพื่อนที่เป็นตำรวจให้แล้ว ป่านนี้คงจะตามไปดูพวกมันอยู่ ว่าแต่แกไม่เป็นอะไรแน่นะ หรือ จะให้ฉันกลับไปหาก่อนไหม “] พลอยไพรินที่คุยสายอยู่กับวรรณิหลา พูดกับเพื่อนอย่างเป็นห่วง “ อย่าเลย แกจัดการทางนั้นให้เสร็จเถอะ ตอนนี้ฉันไม่เป็นอะไรมากแล้ว ถือว่ารอดตายที่อยู่ ๆ พี่หมอไนก็ขับรถไปหากลางดึก “ ณิหลาบอกกับเพื่อนพร้อมท่าทีสงสัยไม่น้อย [“ อืม แปลกเนอะ แล้วแกไม่ได้ถามพี่เขาเหรอ ว่าทำไมอยู่ดีๆ ถึงได้ไปหาแกดึกขนาดนั้น “] “ ยังเลย เมื่อเช้าฉันเองก็ยังคิดไม่ถึงเรื่องนี้ พี่หมอเขารีบไปทำงานด้วยก็เลยไม่ได้ถาม แล้วอีกอย่างทั้งที่ตอนแรกฉันมั่นใจแล้วแท้ๆ ว่าจะสู้ไอ้วิสิตได้ แต่พอได้เจอกับเหตุการณ์แบบนั้นอีก ฉันกลับเป็นฝ่ายควบคุมสติไม่ได้เอง แย่ที่สุด “ ณิหลาก้มหน้าพูดอย่างรู้สึกผิด ความมั่นใจของเธอเกือบทำร้ายตัวเองแล้วมั้ยล่ะ [“ เอาน่า อย่าคิดมาก จิตใจแกคงจะยังไม่แข็งแรงพอแหละณิหลา แต่แกไม่ได้เป็นอะไรไปก็ดีแล้ว “ ] “ อืม ฉันก็คิดแบบนั้น โชคดีของฉันจริงๆ ที่มีพี่หมอ “[“ อืม งั้นแค่นี้ก่อนนะ ฉันต้องไปช่วยงานเขาแล้ว คิดว่าอีกสักอาทิตย์คงจะได้กลับ
“ ณิหลาก็บอกไปแล้วนี่ค่ะ ว่าเป็นนักวาดอิสระ ไม่ใช่สก๊อย ““ แต่งตัวแบบนี้ ใครเห็นก็ต้องคิดว่าเป็นสก๊อย แล้วอาชีพวาดรูปมันจะได้เงินเท่าไหร่กันเชียว นี่เธอคิดจะมาเกาะลูกชายฉันกินใช่มั้ย “ ด้วยความเป็นแม่เจ้าระเบียบ ณัฐลีคงจะไม่ยอมแน่ถ้าจะปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้เข้ามาหลอกลูกชายเธอ“ เธอจะเอาเท่าไหร่ ?” หญิงกลางคนพูดออกมาอีกเมื่อหญิงสาวเงียบไม่ตอบ“ ห๊ะ ? “ คนฟังก็ถึงกับงุนงง“ ถ้าฉันจะจ้างให้เธอออกไปจากชีวิตลูกชายฉัน เธอจะเอาเท่าไหร่ “ คำถามแสนดูถูกของณัฐลี ทำเอาณิหลาเริ่มหัวเสีย เธอจึงตอบกลับคนแก่หัวโบราณตรงหน้ากลับอย่างประชดประชัน“ โธ่ คุณแม่คะ พี่หมอเขาทั้งสูงทั้งขาว หน้าตาดีหุ่นดี แถมยังเป็นหมออีก ตรงตามมาตรฐานของณิหลาไปหมด ถ้าณิหลาได้เป็นเมียพี่หมอคงจะสบายไปทั้งชาติ “ คนที่ขึ้นชื่อว่าแม่หวงลูกชายได้ฟังก็เลิกคิ้วขึ้นลงไปตามท่าทีของคนตรงหน้า “ ถ้าคุณแม่อยากจะจ้างให้ณิหลาออกไปจากชีวิตพี่หมอ ก็คงต้องจ่ายแบบให้ณิหลาสบายไปทั้งชาตินะคะ ณิหลาถึงจะยอมตกลง “ คนพูดบอกพร้อมกับทำตาเล็กตาใหญ่ใส่ว่าที่แม่ย่า จนณัฐลีต้องกุมขมับ“ คุณไน “ เสียงของแม่บ้านเรียกชื่อของคนที่มาใหม่ ณิหลารีบหันไปมองจึงเห็น
โรงพยาบาลทูว์เอ็นวายหมอไนยะนั่งเอามือเท้าแก้มอยู่ที่โต๊ะทำงาน ในหัวก็คิดเห็นแต่ใบหน้าเรียบร้อยอ่อนหวานของคนในความฝัน กับ หน้าตาทะเล้นซุกซนของวรรณิหลาที่อยู่กับตัวเขาในตอนนี้ “ หรือว่าจะไม่ใช่คนเดียวกันนะ แต่หน้าก็เหมือนกันขนาดนั้นจะไม่ใช่ได้อย่างไร จะบอกว่าคิดเยอะจนเก็บไปฝันก็ไม่น่าใช่ ในเมื่อเราก็ไม่เคยเจอณิหลามาก่อนหน้านี้ แต่ที่ฝันเห็นหน้ากลับชัดมาก “ เขาเริ่มถกเถียงไปมาเกี่ยวกับเรื่องนี้ในหัวของตนเอง “ เฮ้อ ช่างมันเถอะ ตอนนี้เราก็มีณิหลาในชีวิตแล้วนี่ “ เมื่อนึกถึงเธอแล้วเขาก็อมยิ้ม เจ้าเด็กแสบ วันนี้ทำคุณแม่ของเขาไว้เสียแสบเชียว“ คุณหมอคะ คนไข้ที่นัดไว้มาถึงแล้วค่ะ ตอนนี้กำลังรอคุณหมออยู่ “ พยาบาลเดินเข้ามาแจ้งกับเขา“ อืม ขอบคุณนะนารา เดี๋ยวผมออกไป “ เขาลุกพรวดพราดหมดเวลามานั่งพักนั่งคิดถึงเธอแล้ว มือหนาหยิบเสื้อกาวน์มาสวมใส่ แล้วจึงเดินตามพยาบาลออกไป ที่บ้านของคุณหมอไนณิหลานั่งเอามือเท้าคางอยู่ที่บันได ชะเง้อหน้ามองออกไปข้างนอก“ เฮ้อ อยู่แบบนี้ไม่รู้จะทำอะไรเลย น่าเบื่อ คิดถึงกระดาษ คิดถึงพู่กัน พี่หมอจะกลับมากี่โมงนะ “ พูดจบก็ลุกยืนเดินไปเดินมา“ ณิหลาอยากไปเอาของอะ “
“ แล้วนี่กินข้าวเย็นหรือยัง ไปกินข้าวกับพี่ที่บ้านแม่ไหม “ “ หือ อย่าเลยค่ะ เดี๋ยวจะไม่ได้กินข้าวเอาน่ะ “ ณิหลารีบปฏิเสธเขาทันที ถ้าเธอไป คงได้ไปกัดกับแม่ของเขาอีกแน่ เธอไม่อยากดูแย่ในสายตาเขาไปมากกว่านี้แล้ว “ ถ้าอย่างนั้นพี่จะให้เอื้อยหาอะไรมาให้กินนะ “ “ ไม่ต้องค่ะ เดี๋ยวณิหลาหาอะไรกินเองก็ได้ ว่าแต่ถ้าพี่กินข้าวกับแม่เสร็จแล้ว พาณิหลากลับบ้านได้มั้ย “ ไนยะทำหน้าแปลกใจทันที เธอไม่อยากจะอยู่กับเขาแล้วหรือ “ ณิหลาแค่จะไปเอาของค่ะ “ เธอที่เห็นสีหน้าแปลกใจของเขา จึงรีบตอบเฉลยถึงเหตุผล“ อืม ได้งั้นเดี๋ยวพี่เข้าบ้านไปอาบน้ำก่อน “ ชายหนุ่มเดินเข้าบ้านไป โดยมีณิหลายืนมอง เธอมองไปทั่วบริเวณบ้านสองชั้นโมเดิร์นหลังนี้ด้วยความแปลกใจ“ ทำไมเวลาเราอยู่ที่นี้ ถึงได้รู้สึกว่ามีคนมองตลอดเวลาด้วยนะ “ พูดจบเธอก็ตัวสั่นเพราะอยู่ ๆ ก็ขนลุกซู่ หน้ามนรีบหันซ้ายมองขวาแล้วจึงรีบวิ่งเข้าบ้านตามไนยะไป บ้านพงษ์พิสิฐ ทุกคนกำลังนั่งทานข้าวกันไปได้ระยะหนึ่งแล้ว ไนยะก็ยกแก้วน้ำขึ้นดื่มรวดเดียวหมด พร้อมลุกยืนขึ้น“ จะไปไหน “ คนเป็นแม่รีบทักลูกชายทันที ไนยะจึงหันมาพูดกับแม่“ กินข้าวเสร็จแล้วนี่ครับ ผมจะรีบไป
“ อย่ามาจับเลย พี่มีคนที่จะแต่งงานด้วยอยู่แล้ว แล้วทำไมถึงยังจะมาขอจีบณิหลาอีก “ เธอน้อยใจเขานัก รีบพาร่างกายของตนเองเดินหนีไปนั่งที่โซฟา“ คนนั้นแม่พี่เป็นคนหาให้ แต่พี่ไม่ได้ตกลงว่าจะแต่งกับนิต้าเสียหน่อย เพราะคนที่พี่ชอบคือณิหลานะ “ ไนยะก็รีบเดินเข้าไปนั่งข้างเธอ หญิงสาวก็หันมาจ้องเขาด้วยท่าทีแปลกใจ ก่อนจะถามขึ้น “ ณิหลาขอถามอะไรพี่หน่อยสิ วันนั้นที่พี่หมอไปช่วยณิหลา พี่หมอไปได้ยังไง รู้ได้ไงว่าณิหลากำลังตกอยู่ในอันตรายคะ “ เธอจ้องหน้าเขารอเอาคำตอบ ไนยะก็เผยยิ้ม แล้วจึงตอบหญิงสาวไปตามจริง “ เพราะว่า พี่ฝัน “ “ ห๊ะ! เพราะฝันเนี้ยนะ! “ “ ใช่ ฝัน แต่เป็นฝันที่ไม่ดีเท่าไหร่ พี่ก็เลยเป็นห่วง แล้วขับรถไปดูน้อง “ ณิหลาจ้องคนพูดเหมือนไม่อยากจะเชื่อ“ แสดงว่าที่ณิหลา รอดมาได้เป็นเพราะความฝันงั้นเหรอ แล้วพี่หมอฝันว่าอะไร “ เธอรีบถามเขากลับอย่างใคร่รู้ แต่ไม่ทันที่คนพี่จะได้ตอบฟ้าก็ร้องเสียงดังอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย“ ว๊าย!! “ วรรณิหลาตกใจรีบดีดตัวขึ้นนั่งตักคุณหมอหนุ่มอย่างลืมตัว “ กลัวเหรอ? “ เขากระซิบที่ข้างหูของเธอ ทำให้ณิหลาหันมามองเขา จมูกของทั้งคู่ก็แนบชิดจนมันถูโดนกัน ซึ่งรับรู้ถึง
ร้านบุฟเฟ่ต์เนื้อย่าง “ โห่ กินบุฟเฟ่ต์เลยเหรอคะพี่หมอ อาหารจะย่อยไหมเนี้ย “ณิหลาหันมาถามคุณหมอที่กำลังจูงมือเธอเข้ามาหาที่นั่ง ซึ่งร้านนี้เป็นร้านใหญ่ที่ติดกับถนน ทั้งสองจึงเดินออกมาหาที่นั่งข้างนอกเพื่อรับลมธรรมชาติ“ เอาน่ะ มื้อเดียวเอง ที่สำคัญพี่อยากเลี้ยงณิหลาให้ตัวอ้วนๆ “ เขาพูดพร้อมกับยกมือขึ้นยี้ผมเธอ ณิหลาก็เบ้ปากใส่เข้า แต่พอนึกอะไรออกจึงได้เอ่ยปากถามชายหนุ่ม“ อืม ลุงสนุ๊กได้โทรหาพี่ไหมคะ เห็นตอนเที่ยงพลอยโทรมาขอเบอร์พี่กับณิหลาไป บอกว่าลุงอยากได้น่ะ “ “ โทรมาสิ ลุงสนุ๊กบอกพี่ว่าไอ้คนร้ายที่มันทำร้ายน้อง มันหนีไปได้ ลุงเขาเลยโทรมากำชับพี่ ว่าให้ดูแลน้องดีๆ ว่าแต่ลุงสนุ๊กเป็นลุงแท้ๆ ของน้องเหรอ“ “ ไม่ค่ะ ลุงสนุ๊กเขาเป็นเพื่อนกับพ่อณิหลา แล้วก็เป็นพ่อของพลอยอีกที ลุงเขาเห็นณิหลามาตั้งแต่เด็ก ก็เลยเอ็นดูรักใคร่เหมือนลูกนะคะ “ คนฟังพยักหน้าว่าเข้าใจที่เธอพูด “ ณิหลาโชคดีแล้ว ที่มีคนดีๆ คอยเป็นห่วงเป็นใย เพราะจากที่ลุงสนุ๊กโทรมาคุยกับพี่ เขาคงจะเป็นห่วงณิหลามาก มีขู่พี่ด้วยนะ “ พูดจบชายหนุ่มก็หัวเราะขบขัน เมื่อนึกถึงตอนที่ได้คุยกับคุณลุงของแฟนสาว “ ขู่อะไรคะ ลุงเขาขู่อะไรพ
“ โอ้ย อะไรอีกวะเนี้ย “ วรรณิหลาที่กำลังนั่งวาดรูปอยู่ที่โต๊ะหน้าบ้าน อนิต้าก็แอบเดินย่องเข้ามาดึงผมเธอ“ คุณเป็นบ้าอะไร! “ “ ฉันก็จะมาเอาเลือดหัวแกออกไง “ อนิต้าจับกระดานวาดรูปของณิหลาขึ้นมาแล้วฟาดมันใส่เจ้าของผลงานซ้ำๆ จนวรรณิหลาก็ตั้งตัวไม่ทัน“ โอ้ย อย่า! หยุดเดี๋ยวนี้น่ะ กว่าจะวาดได้ขนาดนั้น “ ณิหลาที่ห่วงงานมากเพราะใกล้ถึงกำหนดส่งลูกค้าแล้ว จึงโมโห ยกขาขึ้นตีนถีบอนิต้าไปเต็มแรง จนคู่กรณีล้มล้ม“ โอ้ย อีหมาบ้า แกคิดว่าถ้าแกเอาชนะฉันได้ แล้วแม่ณัฐจะโง่เอาแกทำสะใภ้เหรอ ““ ว๊าย ตายแล้ว “ ซึ่งมันก็พอดีกับที่ณัฐลีและคนอื่นเดินมาถึงพอดี “ หยุดน่ะ แกจะทำอะไรลูกฉัน “ คุณหญิงน้ำตาลรีบไปเอาตัวลูกสาวลุกขึ้น แล้วหันมาผลักวรรณิหลาจนร่างหัน “ พอเถอะพอ จะมาทะเลาะตบตีอะไรกันที่นี้ เอาละ คุณพี่น้ำตาล คุณพี่พาลูกสาวคุณพี่ กลับไปเถอะค่ะ “ ณัฐลีรีบเดินเข้ามายืนอยู่ระหว่างกลางของสองฝ่าย“ น้องหมายความว่ายังไงน้องณัฐ นี่น้องจะรับนางเด็กสก๊อยนี้เป็นสะใภ้งั้นหรือ แล้วลูกสาวพี่ล่ะ “ “ ไม่ค่ะ ฉันไม่ได้พูดสักคำว่าจะยอมรับ ไม่ว่าใครทั้งนั้น “ ณัฐลีพูดพร้อมมองที่หญิงสาวทั้งสองสลับกัน คุณหญิงน้ำตาลเริ่มโ
บ้าน ไนยะหิ้วข้าวของเข้ามาส่งตัวน้อยที่ห้องนอน เขาเดินไปที่ประตูระเบียงแล้วเปิดแง้มผ้าม่านออกนิดหน่อย “ มีอะไรเหรอพี่หมอ? “ ณิหลาที่สงสัยว่าเขากำลังทำอะไรจึงเรียกถาม“ พายุไม่มาอีกเนอะ “ คนตัวใหญ่จึงหันมายิ้มกว้างให้เธอ ต่างจากคนฟังที่กำลังตกใจและมึนงง “ ถ้าพายุมาอีก พี่หมอจะทำไมคะ ““ ก็พี่นึกว่าจะได้นอนกอดแฟน “ เขาบอกแล้วยกมือขึ้นลูบท้ายทอยตัวเอง“ ทะลึ่ง ! พี่กลับห้องไปเลยน่ะ ดึกแล้วไปนอนเลย “ ณิหลาเดินเข้าไปหาเขาแล้วจับเขาหันหน้าไปที่ปะตู ใช้มือน้อยดันแผ่นหลังใหญ่ให้เดินออกไปจากห้อง ต่างจากคนโดนผลักที่ยังอ้อยอิ่งเอาแต่เดินอืดอาด“ ถ้าพายุมาอีกพี่จะรีบมาหานะครับ “ ไนยะหันหน้ามาหาเธอ แล้วเอามือดันประตูไว้ ก่อนจะทำปากจูจุ๊บบอกฝันดีเธอกลางอากาศ“ คนบ้า “ ณิหลาก็รีบปิดประตู แล้วหันหลังชนฝา ใบหน้าของเธอเปรอะเปื้อนด้วยรอยยิ้มบ้านพงษ์พิสิฐ“ อ้าว คุณหญิงยังไม่นอนอีกหรือคะ ?” เอื้อยที่เดินมาปิดประตูบ้าน เห็นเจ้านายตนเองกำลังยืนจ้องไปที่บ้านหลังข้างกันจึงได้เดินเข้าไปหา “ ทำไมคนที่คิดว่าดี ถึงไม่ดีแบบที่คิดวะ “ ณัฐลีที่กำลังคิดเรื่องของอนิต้าอยู่พอดี เลยหันมาพูดกับแม่บ้าน“ มันก็เป็นแบ
เมื่อฝนหยุดตกคุณหมอณัฐชัยก็พาวรรณิหลากลับมาที่บ้านของพลอยไพรินตามสัญญา เพื่อให้ณิหลามาเอาอุปกรณ์วาดรูป และ งานของลูกค้าที่ค้างไว้กลับไปทำ “ หืม ณิหลาของพี่วาดรูปสวยขนาดนี้เลยเหรอ “ คุณหมอที่ยืนอยู่ข้างหลังแฟนสาว ยื่นหน้ามาวางตรงบ่าของน้องเพื่อมองผลงานที่น้องถืออยู่“ แต่ “ เมื่อหญิงสาวหันไปมองเขา คุณหมอก็สวยโอกาสจุ๊บที่ปากของเธอด้วยความไวแสง จนตัวณิหลาถึงกับนิ่งไป “ เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ ณิหลา “ เขาที่เห็นเธอนิ่งไปจึงเรียกเพื่อช่วยดึงสติ“ โอ้ย! “ แต่ตอนที่ณิหลาได้สติกลับชกไปตรงท้องของหมอหนุ่ม จนเขาร้องโอดโอย“ คนสวยโอกาส นิสัยไม่ดี “ เธอว่าเขา“ สวยโอกาสอะไร เขาเรียกว่าแสดงความรักกับแฟนต่างหาก “ “ เดี๋ยวเถอะ! “ คุณหมออมยิ้มแล้วรีบยกมือขึ้นมาบังหน้าตัวเอง เมื่อเห็นว่าเธอยกกำปั้นใส่ วรรณิหลาเห็นแบบนั้นเธอก็หัวเราะ“ ฮาฮ่า “ “ ตัวแสบ แกล้งพี่เหรอ “ ไนยะยืนตัวตรงเอามือลงแนบข้าง แล้วหันไปที่อุปกรณ์วาดรูปที่กระจัดกระจายอยู่“ ข้าวของบางอันเละเทะแบบนี้ จะยังใช้งานได้เหรอณิหลา “ เขาพูดพร้อมกับจับจานสีที่หักครึ่งเพราะโดนเยียบขึ้นมาดู“ ก็คงไม่ได้นั้นแหละค่ะ สงสัยคงต้องจกตังค์ซื้อก่อน ไม่งั
“ อย่ามาจับเลย พี่มีคนที่จะแต่งงานด้วยอยู่แล้ว แล้วทำไมถึงยังจะมาขอจีบณิหลาอีก “ เธอน้อยใจเขานัก รีบพาร่างกายของตนเองเดินหนีไปนั่งที่โซฟา“ คนนั้นแม่พี่เป็นคนหาให้ แต่พี่ไม่ได้ตกลงว่าจะแต่งกับนิต้าเสียหน่อย เพราะคนที่พี่ชอบคือณิหลานะ “ ไนยะก็รีบเดินเข้าไปนั่งข้างเธอ หญิงสาวก็หันมาจ้องเขาด้วยท่าทีแปลกใจ ก่อนจะถามขึ้น “ ณิหลาขอถามอะไรพี่หน่อยสิ วันนั้นที่พี่หมอไปช่วยณิหลา พี่หมอไปได้ยังไง รู้ได้ไงว่าณิหลากำลังตกอยู่ในอันตรายคะ “ เธอจ้องหน้าเขารอเอาคำตอบ ไนยะก็เผยยิ้ม แล้วจึงตอบหญิงสาวไปตามจริง “ เพราะว่า พี่ฝัน “ “ ห๊ะ! เพราะฝันเนี้ยนะ! “ “ ใช่ ฝัน แต่เป็นฝันที่ไม่ดีเท่าไหร่ พี่ก็เลยเป็นห่วง แล้วขับรถไปดูน้อง “ ณิหลาจ้องคนพูดเหมือนไม่อยากจะเชื่อ“ แสดงว่าที่ณิหลา รอดมาได้เป็นเพราะความฝันงั้นเหรอ แล้วพี่หมอฝันว่าอะไร “ เธอรีบถามเขากลับอย่างใคร่รู้ แต่ไม่ทันที่คนพี่จะได้ตอบฟ้าก็ร้องเสียงดังอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย“ ว๊าย!! “ วรรณิหลาตกใจรีบดีดตัวขึ้นนั่งตักคุณหมอหนุ่มอย่างลืมตัว “ กลัวเหรอ? “ เขากระซิบที่ข้างหูของเธอ ทำให้ณิหลาหันมามองเขา จมูกของทั้งคู่ก็แนบชิดจนมันถูโดนกัน ซึ่งรับรู้ถึง
“ แล้วนี่กินข้าวเย็นหรือยัง ไปกินข้าวกับพี่ที่บ้านแม่ไหม “ “ หือ อย่าเลยค่ะ เดี๋ยวจะไม่ได้กินข้าวเอาน่ะ “ ณิหลารีบปฏิเสธเขาทันที ถ้าเธอไป คงได้ไปกัดกับแม่ของเขาอีกแน่ เธอไม่อยากดูแย่ในสายตาเขาไปมากกว่านี้แล้ว “ ถ้าอย่างนั้นพี่จะให้เอื้อยหาอะไรมาให้กินนะ “ “ ไม่ต้องค่ะ เดี๋ยวณิหลาหาอะไรกินเองก็ได้ ว่าแต่ถ้าพี่กินข้าวกับแม่เสร็จแล้ว พาณิหลากลับบ้านได้มั้ย “ ไนยะทำหน้าแปลกใจทันที เธอไม่อยากจะอยู่กับเขาแล้วหรือ “ ณิหลาแค่จะไปเอาของค่ะ “ เธอที่เห็นสีหน้าแปลกใจของเขา จึงรีบตอบเฉลยถึงเหตุผล“ อืม ได้งั้นเดี๋ยวพี่เข้าบ้านไปอาบน้ำก่อน “ ชายหนุ่มเดินเข้าบ้านไป โดยมีณิหลายืนมอง เธอมองไปทั่วบริเวณบ้านสองชั้นโมเดิร์นหลังนี้ด้วยความแปลกใจ“ ทำไมเวลาเราอยู่ที่นี้ ถึงได้รู้สึกว่ามีคนมองตลอดเวลาด้วยนะ “ พูดจบเธอก็ตัวสั่นเพราะอยู่ ๆ ก็ขนลุกซู่ หน้ามนรีบหันซ้ายมองขวาแล้วจึงรีบวิ่งเข้าบ้านตามไนยะไป บ้านพงษ์พิสิฐ ทุกคนกำลังนั่งทานข้าวกันไปได้ระยะหนึ่งแล้ว ไนยะก็ยกแก้วน้ำขึ้นดื่มรวดเดียวหมด พร้อมลุกยืนขึ้น“ จะไปไหน “ คนเป็นแม่รีบทักลูกชายทันที ไนยะจึงหันมาพูดกับแม่“ กินข้าวเสร็จแล้วนี่ครับ ผมจะรีบไป
โรงพยาบาลทูว์เอ็นวายหมอไนยะนั่งเอามือเท้าแก้มอยู่ที่โต๊ะทำงาน ในหัวก็คิดเห็นแต่ใบหน้าเรียบร้อยอ่อนหวานของคนในความฝัน กับ หน้าตาทะเล้นซุกซนของวรรณิหลาที่อยู่กับตัวเขาในตอนนี้ “ หรือว่าจะไม่ใช่คนเดียวกันนะ แต่หน้าก็เหมือนกันขนาดนั้นจะไม่ใช่ได้อย่างไร จะบอกว่าคิดเยอะจนเก็บไปฝันก็ไม่น่าใช่ ในเมื่อเราก็ไม่เคยเจอณิหลามาก่อนหน้านี้ แต่ที่ฝันเห็นหน้ากลับชัดมาก “ เขาเริ่มถกเถียงไปมาเกี่ยวกับเรื่องนี้ในหัวของตนเอง “ เฮ้อ ช่างมันเถอะ ตอนนี้เราก็มีณิหลาในชีวิตแล้วนี่ “ เมื่อนึกถึงเธอแล้วเขาก็อมยิ้ม เจ้าเด็กแสบ วันนี้ทำคุณแม่ของเขาไว้เสียแสบเชียว“ คุณหมอคะ คนไข้ที่นัดไว้มาถึงแล้วค่ะ ตอนนี้กำลังรอคุณหมออยู่ “ พยาบาลเดินเข้ามาแจ้งกับเขา“ อืม ขอบคุณนะนารา เดี๋ยวผมออกไป “ เขาลุกพรวดพราดหมดเวลามานั่งพักนั่งคิดถึงเธอแล้ว มือหนาหยิบเสื้อกาวน์มาสวมใส่ แล้วจึงเดินตามพยาบาลออกไป ที่บ้านของคุณหมอไนณิหลานั่งเอามือเท้าคางอยู่ที่บันได ชะเง้อหน้ามองออกไปข้างนอก“ เฮ้อ อยู่แบบนี้ไม่รู้จะทำอะไรเลย น่าเบื่อ คิดถึงกระดาษ คิดถึงพู่กัน พี่หมอจะกลับมากี่โมงนะ “ พูดจบก็ลุกยืนเดินไปเดินมา“ ณิหลาอยากไปเอาของอะ “
“ ณิหลาก็บอกไปแล้วนี่ค่ะ ว่าเป็นนักวาดอิสระ ไม่ใช่สก๊อย ““ แต่งตัวแบบนี้ ใครเห็นก็ต้องคิดว่าเป็นสก๊อย แล้วอาชีพวาดรูปมันจะได้เงินเท่าไหร่กันเชียว นี่เธอคิดจะมาเกาะลูกชายฉันกินใช่มั้ย “ ด้วยความเป็นแม่เจ้าระเบียบ ณัฐลีคงจะไม่ยอมแน่ถ้าจะปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้เข้ามาหลอกลูกชายเธอ“ เธอจะเอาเท่าไหร่ ?” หญิงกลางคนพูดออกมาอีกเมื่อหญิงสาวเงียบไม่ตอบ“ ห๊ะ ? “ คนฟังก็ถึงกับงุนงง“ ถ้าฉันจะจ้างให้เธอออกไปจากชีวิตลูกชายฉัน เธอจะเอาเท่าไหร่ “ คำถามแสนดูถูกของณัฐลี ทำเอาณิหลาเริ่มหัวเสีย เธอจึงตอบกลับคนแก่หัวโบราณตรงหน้ากลับอย่างประชดประชัน“ โธ่ คุณแม่คะ พี่หมอเขาทั้งสูงทั้งขาว หน้าตาดีหุ่นดี แถมยังเป็นหมออีก ตรงตามมาตรฐานของณิหลาไปหมด ถ้าณิหลาได้เป็นเมียพี่หมอคงจะสบายไปทั้งชาติ “ คนที่ขึ้นชื่อว่าแม่หวงลูกชายได้ฟังก็เลิกคิ้วขึ้นลงไปตามท่าทีของคนตรงหน้า “ ถ้าคุณแม่อยากจะจ้างให้ณิหลาออกไปจากชีวิตพี่หมอ ก็คงต้องจ่ายแบบให้ณิหลาสบายไปทั้งชาตินะคะ ณิหลาถึงจะยอมตกลง “ คนพูดบอกพร้อมกับทำตาเล็กตาใหญ่ใส่ว่าที่แม่ย่า จนณัฐลีต้องกุมขมับ“ คุณไน “ เสียงของแม่บ้านเรียกชื่อของคนที่มาใหม่ ณิหลารีบหันไปมองจึงเห็น
[“ อืม งั้นแกก็อยู่กับพี่หมอของแกไปก่อนนะ พ่อเขาโทรบอกเพื่อนที่เป็นตำรวจให้แล้ว ป่านนี้คงจะตามไปดูพวกมันอยู่ ว่าแต่แกไม่เป็นอะไรแน่นะ หรือ จะให้ฉันกลับไปหาก่อนไหม “] พลอยไพรินที่คุยสายอยู่กับวรรณิหลา พูดกับเพื่อนอย่างเป็นห่วง “ อย่าเลย แกจัดการทางนั้นให้เสร็จเถอะ ตอนนี้ฉันไม่เป็นอะไรมากแล้ว ถือว่ารอดตายที่อยู่ ๆ พี่หมอไนก็ขับรถไปหากลางดึก “ ณิหลาบอกกับเพื่อนพร้อมท่าทีสงสัยไม่น้อย [“ อืม แปลกเนอะ แล้วแกไม่ได้ถามพี่เขาเหรอ ว่าทำไมอยู่ดีๆ ถึงได้ไปหาแกดึกขนาดนั้น “] “ ยังเลย เมื่อเช้าฉันเองก็ยังคิดไม่ถึงเรื่องนี้ พี่หมอเขารีบไปทำงานด้วยก็เลยไม่ได้ถาม แล้วอีกอย่างทั้งที่ตอนแรกฉันมั่นใจแล้วแท้ๆ ว่าจะสู้ไอ้วิสิตได้ แต่พอได้เจอกับเหตุการณ์แบบนั้นอีก ฉันกลับเป็นฝ่ายควบคุมสติไม่ได้เอง แย่ที่สุด “ ณิหลาก้มหน้าพูดอย่างรู้สึกผิด ความมั่นใจของเธอเกือบทำร้ายตัวเองแล้วมั้ยล่ะ [“ เอาน่า อย่าคิดมาก จิตใจแกคงจะยังไม่แข็งแรงพอแหละณิหลา แต่แกไม่ได้เป็นอะไรไปก็ดีแล้ว “ ] “ อืม ฉันก็คิดแบบนั้น โชคดีของฉันจริงๆ ที่มีพี่หมอ “[“ อืม งั้นแค่นี้ก่อนนะ ฉันต้องไปช่วยงานเขาแล้ว คิดว่าอีกสักอาทิตย์คงจะได้กลับ