และ..อย่างอดใจไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว กลิ่นสาบสาวช่างหอมตลบ อบอวลอะไรเช่นนี้ ชายหนุ่มดึงร่างแน่งน้อยเข้าสู่วงแขนกว้างแนบแน่น จมูกโด่งเป็นสันค่อย ๆ เฉียดเข้าใกล้กับแก้มนวลใสหอมกรุ่นช้า ๆ ทันใดนั้น..จังหวะการเต้นของหัวใจของทั้งสองฝ่ายก็เริ่มเต้นรัวเร็วขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะจอมขวัญซึ่งตอนนี้รู้สึกเหมือนลมหายใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ พลางหายใจติด ๆ ขัด ๆ ราวกับคนขาดออกซิเจน พร้อมกับอาการสั่นสะท้าน ใบหน้าอันหล่อเหลาหมดจดของมัฆวัฒน์ค่อย ๆ เคลื่อนต่ำลงมาเรื่อย ๆ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มส่อแววเอาจริงเอาจัง ทำให้หล่อนรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาจับใจ จนตัวแข็งราวกับก้อนหินขยับเขยื้อนกายไปไหนไม่ได้เลย
ลมหายใจร้อนผะผ่าวกระทบมาที่แก้มนวลเนียนช้า ๆ คล้ายยั่วเย้า เหมือนจะ..จะ..จูบ จอมขวัญหลับตาปี๋ เมื่อรับรู้โดยสัญชาตญาณว่าเขาจะทำอะไร..แต่สติหล่อนกลับดับวูบไป ราวกับปิดสวิตช์ไฟ ดูเหมือนว่า..สวรรค์ที่รอคอยอยู่ตรงหน้าเมื่อสักครู่ มลายหายไปในพริบตา เมื่อฝ่ายหญิงหมดสติตัวอ่อนพับไปเสียแล้ว เป็นลมหรือนี่..ฮึ..ช่างไร้เดียงสาอะไรเช่นนี้ นี่ขนาดยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย ก็ถึงกับเป็นลมเป็นแล้งไปซะแล้ว เฮ้อ!..
มัฆวัฒน์ขบกราม
“ตื่นแล้วหรือ ทานข้าวต้มก่อนสิ คุณยังไม่ได้ทานอะไรเลยตั้งแต่เช้าแล้วนี่” ไม่พูดเปล่าคนตัวสูง หันมาจับตัวหญิงสาวให้หลังชิดหัวเตียงอย่างง่ายดาย พลางหยิบถ้วยข้าวต้มไว้ในอุ้งมือใหญ่ มือข้างที่ว่างก็ตักข้าวต้มขึ้นเป่า ก่อนจะยื่นช้อนมาจ่อที่ปากหล่อน พลางเลิกคิ้วถาม บังคับให้คนป่วยอ้าปากรับอาหารจากเขาแต่โดยดี จอมขวัญค่อนข้างมึนงง กับกิริยาท่าทางทุก ๆ อย่างนับตั้งแต่เจ้านายหนุ่มก้าวเข้ามาในห้องส่วนตัวของเธอแล้ว นี่เขาเป็นอะไรของเขาเนี่ย..อยู่ดี ๆ มาใจดีกับหล่อนอย่างนี้ทำไมกัน..ถ้ารู้สึกผิดที่ทำให้หล่อนจมน้ำล่ะก็ ไม่เป็นไรหรอก ไม่ถือสา เพราะเขาอาจจะไม่รู้จริง ๆ ว่าหล่อนว่ายน้ำไม่เป็น“เอ้า..อ้าปากสิ มองอยู่ได้..กินซะผมอุตส่าห์ต้มเองกับมือเลยนะ” หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อรู้สึกตัวว่ามองหน้าหล่อ ๆ นั้นอยู่เป็นนานเมื่อได้ยินเสียงทุ้ม สั่งแกมขู่ จึงยอมอ้าปากให้ข้าวต้มอุ่น ๆ เข้าปากจากฝีมือการเป่าและป้อนของเขาอย่างลืมตัว“อือ..ไม่เป็นไรค่ะ..ฉันทานเองได้” ปฏิเสธแถมส่ายหน้าพัลวัน เมื่อเขายื่นช้อนข้าวมาอีก“ไม่เป็นไรเหมือนกัน เพื่อเป็นก
“ก็ได้ ๆ เอาล่ะ ถ้ามั่นใจว่าไหว แล้วแต่ก็แล้วกัน ถ้าไข้กลับคืนมาอย่ามาโทษผมนะ” พูดจบชายหนุ่มก็ก้มลงตักข้าวต้มเข้าปากไม่สนใจหล่อนอีก จอมขวัญเบะปากใส่คนตรงหน้า อย่างนึกหมั่นไส้ แต่เขาไม่เห็นหรอก แล้วก็เลื่อนข้าวต้มชามที่เหลือมาทานอย่างเอร็ดอร่อย ไม่สนใจคนตรงหน้าเหมือนกัน เจ้านายกับเลขาเข้ามาถึงสำนักงาน เมื่อประมาณแปดโมงเศษ ๆ มัฆวัฒน์เข้าไปในสำนักงานได้สักพักก็ออกไป..โดยบอกว่ามีนัดกับลูกค้าที่กรุงเทพฯ หล่อนไม่ต้องตามไปด้วยนัยว่าไม่สำคัญมาก เขาสามารถไปคนเดียวได้..“ยุ่งอยู่หรือครับ หน้ามุ่ยเชียว” เสียงนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นเสียงของแก้วกล้า พักหลัง ๆ เขามักจะเข้ามาทักทายหล่อนเป็นประจำ คงเห็นว่าไม่มีเพื่อนกระมังจึงสงเคราะห์ให้โดยการ เข้ามาคุยเวลาที่เจ้านายออกไปติดต่องานด้านนอกโดยไม่ได้พ่วงเอาหล่อนไปด้วย“เปล่าหรอกค่ะ แต่ก็..นิดหน่อยเท่านั้นเองค่ะ”“ถ้าอย่างนั้นเย็นนี้ ไปทานข้าวที่ร้านผมนะครับ ตั้งแต่วันนั้นเรายังไม่มีโอกาสไปทานข้าวที่ร้านผมด้วยกันเลยสักครั้ง จะชวนทีไร ก็เห็นแต่เจ้านายทำหน้ายักษ์ใส่ทุกที วันนี้ถือโอกาสที
“เฮ้อ!” จอมขวัญถึงกับพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก ที่แท้ก็เจ้านายหล่อนนั่นเอง น้ำเสียงแหบ ฟังดูแปร่งปร่า อย่างไรพิกลอยู่เหมือนคนเป็นหวัด“ไปทานข้าวมาค่ะ”“ไปกับใคร?”“จะไปกับใครทำไมต้องคอยรายงานคุณด้วยหรือคะเจ้านาย” เมื่อได้ยินคำถามด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวของอีกฝ่ายทำให้ลูกน้องถึงกับฉุนกึกขึ้นมาไม่ได้ เขาเป็นเจ้านายหล่อนนะ ไม่ได้เป็นผู้ปกครองเสียหน่อย ที่จะต้องให้รายงานทุกอย่าง ว่าไปไหนมาไหนกับใคร ไปทำอะไรมาบ้าง“ผมเคยบอกคุณว่าแก้วกล้าอาจจะมีคนของเขาอยู่แล้ว” เอ๊ะ! นี่แสดงว่าเขาเห็นหล่อนเดินมากับแก้วกล้า แล้วจะมาถามทำไม ว่าไปไหนกับใคร“แล้วทำไมเหรอคะ ก็ในเมื่อเขายังไม่ได้แสดงออกมาว่าเขามีเจ้าของแล้ว ฉันก็มีสิทธิ์ไม่ใช่หรือคะ?” จอมขวัญสังเกตเห็นว่าเขาเลิกคิ้วดกหนาขึ้นสูง พร้อมกันนั้นก็ขมวดเข้าหากัน ตามด้วยแววตาตัดพ้อ แกมเยาะหยัน และอย่างไม่ทันตั้งตัวมือใหญ่ทั้งสองข้าง ก็คว้าหมับเข้าที่ไหล่บอบบางออกแรงบีบเบา ๆ แล้วพูดกับหล่อน“ทำไมจอมขวัญ ฮึ..ทำไมทีกับผม คุณถึงทำตัวเหินห่
ชายหนุ่มปรารภคนเดียวในใจ ภายในห้องพักส่วนตัว พลางลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ทั้ง ๆ ที่รู้สึกเหมือนจะไม่สบายอย่างไรอย่างนั้น แต่ก็พยายามฝืนตัวเองเพื่อจะลุกไปอาบน้ำอาบท่า เผื่อว่าบางทีจะดีขึ้น อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์นั่นแน่ ซึ่งเขาก็ห่างหายไม่ได้ดื่มหนักอย่างนี้มานาน แต่ก็ดีเหมือนกัน ไม่อย่างนั้น เขาคงไม่กล้าที่จะทำอะไรอย่างเมื่อคืนลงไปแน่..มัฆวัฒน์ นึกขอบคุณน้ำเมาที่ทำให้เขารู้ซึ้งถึงหัวใจตัวเอง เขาเพียรหาคำตอบมานาน ว่าทำไมต้องคอยเป็นห่วงเป็นใย คอยเอาอกเอาใจ และคอยหวงเวลาที่เห็นหล่อนไปกับใครคนอื่น ไม่นึกเลยว่าจะเป็นเอามากมายขนาดนี้ มีผู้หญิงสวยฐานะทางการเงินและสังคมมากกว่าเจ้าหล่อนเยอะแยะ ทำไมเขาไม่รู้สึกอะไรเลยแม้แต่น้อย แต่มาสนใจกับสาวน้อยแสนซื่อคนนั้น หน้าตาก็ธรรมดา หรือจะเป็นเพราะแววตาสดใสไร้เดียงสานั่น และริมฝีปากบางที่เขารู้แต่เพียงผู้เดียวว่าหวานปานใด มันทำให้เขาหลงจนหัวปักหัวปำอย่างนี้ อยากเป็นเจ้าของ อยากจับจองไว้ไม่ให้ใครหน้าไหนมาเข้าใกล้แม้แต่ปลายเส้นผมด้วยซ้ำรัก..รักสินะ..ที่ทำให้เขาเป็นอย่างนี้ ..จะไม่รอช้าอีกต่อไปแล้ว ..เมื่อได้ข้อสรุปในใจแล้ว มั
จอมขวัญรู้สึกว่าแก้มทั้งสองข้างร้อนผ่าวขึ้นมาแทบจะทันที และมันคงแดงไปถึงไหนต่อไหนไปแล้วแน่ ๆ นี่เธอน่าจะโกรธเขาและแสดงออกว่าไม่พอใจอย่างที่ควรจะเป็นไม่ใช่หรือ แต่แล้วทำไมถึงยืนทื่อ บื้อใบ้อยู่อย่างนี้ ยังมีหน้าปล่อยให้เขากกกอดได้สบายใจเฉิบ อย่างนี้อยู่อีกล่ะ ดิ้นสิ..ขยับออกห่างจากอกอุ่น ๆ นี่สิ นิ่งอยู่ทำไมจอมขวัญ เธอไม่อายคนที่เขาอาจจะเดินผ่านไปผ่านมาบ้างหรือ? จิตใต้สำนึกมันสั่งให้หล่อนทำแต่ทำไมมันยากนักล่ะ ทำไมขยับตัวไม่ได้เลย.. หน้าเขากับหล่อนอยู่ห่างแค่คืบ จนรู้สึกถึงลมหายใจของกันและกัน และไม่ทันที่จะพูดอะไรออกไปใบหน้าหล่อเหลานั่นก็ค่อย ๆ ก้มลงมาที่แก้มบางใสของหล่อนอย่างฉกฉวยโอกาส“อ๊าย..อย่านะ เดี๋ยวคนมาเห็นเข้านะคะ”“อ๋อ..ที่แท้ก็อายนี่เอง ถ้าอย่างนั้นเราเข้าไปในบ้านกันดีกว่านะ”“งั้นก็ปล่อยก่อนสิคะ ถ้าอยู่อย่างนี้จะเดินไปได้ยังไง” จอมขวัญใช้ไม้อ่อนเข้าว่า เมื่อไม่มีทีท่าว่าอีกฝ่ายจะยอมคลายอ้อมแขนง่าย ๆ พลางเอามือทั้งสองข้างยันอกแข็ง ๆ เอาไว้หวังว่ามันจะช่วยกั้นไม่ให้ร่างกายบางส่วนของหล่อนแนบชิดกับเขาให้มากที่สุด หลังจาก
“จะบ้าเหรอคะ! ไม่อยากคุยกับคุณแล้ว..พูดไปก็เสียเวลาเปล่า ฉันจะไปเก็บข้าวของ พอแค่นี้ จบเรื่องเสียที” จบประโยคหญิงสาวก็เปิดประตูห้องเตรียมเข้าไปด้านในไม่สนใจอีกฝ่ายจะว่ายังไงอีกต่อไปแล้ว แต่ก็ต้องชะงักค้างไว้ เมื่อมือใหญ่คว้าประตูห้องไว้ได้ทันก่อนที่จะถูกปิด“โอเค ถ้าอย่างนั้นผมจะได้ไปเก็บของบ้าง ดีเหมือนกันไปอยู่ที่กรุงเทพก็ดี จะได้ไปให้ห่างจากแก้วกล้าไว้ ผมไม่ไว้ใจหมอนั่นเลย..ให้ตายเถอะ” ดูเหมือนว่าหล่อนกับเจ้านายจะคิดกันไปคนละเรื่องเสียแล้ว..มันยังไงกันล่ะทีนี้ เรื่องที่กำลังถกเถียงกันอยู่นี่ไปเกี่ยวอะไรกับคุณแก้วกล้ากันเล่า“ไม่เกี่ยวกับคุณนี่คะ ฉันลาออกจากหน้าที่เลขาของคุณแล้ว ฉันจะไปตามทางของฉัน เจ้านายก็ส่วนเจ้านายสิคะ!”“ใครอนุญาตให้คุณลาออกไม่ทราบจอมขวัญ ผมไม่ยอมให้คุณไปไหนทั้งนั้นแหละ คุณยังทำหน้าที่ไม่สมบูรณ์เลยนะอย่าลืม แล้วอีกอย่าง ถ้าหากคุณกลับไปแล้ว คนที่โน่นเขาจะคิดยังไง ในเมื่อคุณมาทำงานอยู่กับผมแค่เดือนกว่า ๆ ก็หอบกระเป๋าหนีกลับเสียแล้ว คิดดูให้ดี ๆ นะ พวกเขารู้จักและสนิทสนมกับคุณมากกว่าผม เ
หลังจากที่ตกลงสงบศึกเสร็จสิ้นแล้ว มัฆวัฒน์ก็พาหญิงสาวเข้าตัวเมืองเพื่อจับจ่ายซื้อของที่จำเป็นอย่างที่เขาบอกไว้แต่แรก หญิงสาวรู้สึกตื่นเต้น เมื่อได้มายังศูนย์การค้าใหญ่ ๆ ในตัวเมือง ลำพังเดินดูของทั่วไปน่ะ ไม่เท่าไหร่หรอก แต่พอเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ตนี่ซิ เจ้านายหล่อนก็ทำตัวราวกับเป็นคู่สามีภรรยากันก็ไม่ปาน จะหยิบจับ ซื้ออะไรก็ต้องหันมาถามความเห็นก่อน แถมยังเข็นรถใส่ของท่าทางทะมัดทะแมงดูเหมือนว่าทำแบบนี้เป็นประจำอย่างนั้นแหละกลับมาจากซื้อของที่แทบเหมามาเกือบทั้งห้าง เล่นเอาหล่อนแทบไม่อยากทำอะไรเอาซะเลย เขาไม่เหนื่อยเลยหรือยังไงกันนะ พอมาถึงก็หิ้วของเข้าบ้านอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยดูเหมือนจะมีความสุขด้วยซ้ำ เป็นหล่อนเสียอีกที่ออกอาการร่อแร่ รู้สึกเหนื่อยล้าเต็มทน เลยต้องขอตัวเข้ามาพักเสียก่อน ส่วนตัวเจ้านายก็จัดการกับข้าวของที่ซื้อมาราวกับจะไม่ออกไปไหนอีกเป็นปีเมื่อเข้ามาในห้องพักได้ ก็ทิ้งตัวลงนอนอย่างหมดแรง พลางมองข้าวของส่วนที่เป็นของตัวเอง แอบอมยิ้มออกมาไม่ได้ คนอะไรบอกว่าไม่เอา ๆ ไม่มีตังค์ ยังจะดันทุรัง ทู่ซี้ให้หล่อนซื้อจนได้ อ้างว่าเป็นโบนัสสิ้นปีล่วงหน
คนพูดประโยคแข็งกระด้างดูถูก เมื่อครู่รีบผละออกไปทันที เมื่อมัฆวัฒน์เดินตามมาถึงรถ จอมขวัญให้นึกหมั่นไส้ทายาทเจ้าของโรงแรมขึ้นมาติดหมัด พลางเม้มปากเข้าหากันแน่น นี่ถ้าหากว่าเจ้านายหันมาสนใจหล่อน เกินขอบเขตระหว่างเจ้านายกับลูกน้องจริง ๆเมื่อไหร่ล่ะก็ เธอนั่นแหละแม่แพทซี่ที่รัก ฉันจะเขี่ยเธอให้พ้นทางเป็นคนแรกเลยคอยดู..จอมขวัญฉุนจัด รู้สึกโมโหสุดขีด พลางนึกในใจว่าตัวเธอเองนี่ก็ร้ายไม่เบาเหมือนกันนะเนี่ย ที่สามารถคิดออกมาได้ว่าจะเปิดศึกชิงชายกับยายแพทอะไรนั่น... แน่ล่ะว่าคุณภัทราจะต้องก้าวขึ้นไปนั่งในตอนหน้าคู่กับคนขับอย่างแน่นอน ท่าทางหล่อนราวกับต้องการอวดตัวว่าคุ้นเคยกับการนั่งรถกับชายหนุ่มเป็นอย่างดี เสียงพูดคุยกันระหว่างสองคนที่นั่งตอนหน้าช่างสั่นสะเทือนระบบประสาทหล่อนดีแท้ โดยเฉพาะแม่แพทซี่ ทำอย่างกับจะอวดอ้างว่าสนิทสนมกับเจ้านายหล่อนเสียเหลือเกิน จอมขวัญแอบเบะปากอย่างนึกหมั่นไส้เป็นรอบที่ร้อยรถซี อาร์ วี คันใหญ่วิ่งเข้าตัวเมืองหัวหิน มาจอดอยู่หน้าประตูบ้านหลังใหญ่โตมโหฬารที่คงกินเนื้อที่ไปกว่าสิบไร่ได้กระมัง นี่ขนาดมองจากด้านนอกยังดูโอ่อ่าสมราคาเจ้าของโรงแรมให