บนโต๊ะอาหารมื้อเช้าของวันใหม่ สมาชิกในครอบครัว นั่งพร้อมหน้ากันที่โต๊ะอาหาร จะขาดก็แต่ล้อมดาวที่ไม่ยอมออกมาทานข้าว ผู้เป็นมารดารู้สึกแปลกใจนักเมื่อไม่เห็นเพื่อนของลูกสาวมาร่วมโต๊ะอาหารในเช้านี้
“ อ้าว! หนูจอม เพื่อนเราเขาไม่ทานข้าวด้วยกันเหรอลูก ไม่สบายหรือเปล่าเมื่อวานตอนเย็น แม่เห็นหน้าซีด ๆ อยู่”
“ จอมถามแล้วค่ะแม่ ล้อมเขาบอกว่าไม่ค่อยหิว เมื่อคืนบ่นว่านอนไม่หลับด้วย รู้สึกมึนหัวนิดหน่อย สงสัยยังปรับตัวไม่ทัน ก็เลยขอนอนต่อ นี่ก็กะว่าจะเอาข้าวต้มไปให้เขาทานเสียหน่อย”
“ อืม อย่างนั้นเหรอจ๊ะ สงสัยคงแปลกที่ แถมยังเปลี่ยนเวลากะทันหัน ถือยาไปเผื่อด้วยก็แล้วกันนะลูก”
“ ค่ะแม่ แหม..รู้สึกว่าแม่เราเนี่ยเอาใจใส่ยัยคุณหนูล้อมเป็นพิเศษเลยนะเนี่ย” ปากพูดไป แต่สายตากลับหันมามองตาพี่ชาย เหมือนต้องการสื่อความหมายอะไรบางอย่างกับต้นน้ำมากกว่า ทางด้านพี่ชายหลบตาน้องสาวรีบเสใบหน้าไปอีกทาง ทำเป็นไม่สนใจกับสายตาจ้องจับพิรุธของผู้เป็นน้องสาวที่ส่งมาอย่างมีเลศนัยนั่น แต่ใจก็อดนึกไปถึงหญิงสาวที่แอบหลบอยู่ในห้องไม่ให้เห็นหน้าตั้งแ
“ คุณเข้ามาในห้องนี้ได้ยังไง นี่อย่าบอกนะว่า..คุณจะมาแก้แค้นเรื่องเมื่อวาน แล้วที่..ที่คุณทำกับฉันเมื่อวานยังไม่พอใจอีกเหรอ คน..คนไม่ดี..คนพาล ออกไปนะ ออกไป! ฉันเกลียดคุณ คนบ้า! ฮือ ๆ ฉันจะฟ้องทุกคนเลยคอยดู ฮือ ๆ ที่คุณกล้าทำกับฉันแบบนี้ ฮือ ๆ”เมื่อได้สติหญิงสาวก็กระโดดผลุงลงจากเตียง วิ่งไปหลบชิดกำแพงห้อง ราวกับว่ามันจะช่วยหล่อนได้กระนั้น พลางชี้หน้าด่าคนที่บังอาจเข้ามาในห้องที่หล่อนนอนอยู่ พูดไปร้องไห้ไป อย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดีกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้นน้ำลุกขึ้นยืนเต็มความสูง มองจ้องไปยังหญิงสาวที่บัดนี้ตัวสั่นงันงกอยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง ปากก็พร่ำว่าเขา พูดไปร้องไห้ไปอย่างกับเด็ก เอะอะก็จะฟ้องคนโน้นคนนี้ ก็เอาสิ ลองดูว่าจะทำอย่างที่พูดได้หรือเปล่า“ ก็เอาสิ ฟ้องก็ฟ้องเลย คราวนี้ล่ะเขาจะได้รู้กัน ว่าเราน่ะ..มีความลับต่อกันอยู่หึ ๆ” ชายหนุ่มกอดอก พูดเนิบ ๆ อย่างใจเย็น มองตอบกลับไปยังใบหน้าขาวสะอาดที่บัดนี้เปื้อนไปด้วยน้ำตา อย่างท้าทาย ก่อนจะเดินออกจากห้องมาหน้าตาเฉย หากในใจกลับอดรู้สึกสงสารเจ้าของใบหน้าที่ดูหวาดระแวง วิตกกั
แสงแดดยามเช้าส่งลงมายังสวนผลไม้ ทำให้บรรยากาศตอนนี้ช่างรื่นรมย์เหลือเกิน ล้อมดาวชอบบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติอย่างนี้ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หญิงสาวออกมาช่วยคนงานเก็บผลส้มอย่างเพลิดเพลิน จนไม่รู้ว่าได้เดินลึกเข้าไปในไร่อย่างไม่รู้ตัว พลางเขย่งเท้าเพื่อที่จะปลิดผลส้มที่อยู่สูงเกินมือจะเอื้อมถึง จึงมองหาบันไดที่คนงานเขามักจะใช้กันเมื่อเก็บลูกที่อยู่สูงขึ้นไป“ ทำอะไรน่ะ! เดี๋ยวก็ตกลงมาหรอก!” เพราะเสียงเข้มดุนั้นทีเดียวเล่นเอาเธอสะดุ้งตกใจ และไม่ทันตั้งตัวขณะที่ล้อมดาว ก้มลงไปมองยังเสียงเข้มดุคล้ายรำคาญเต็มทน สาวต่างถิ่นจึงตัดสินใจก้าวขาลงมา แต่กลับก้าวพลาด ทำให้ร่างของหล่อนร่วงจากบันไดทันที!“ ว๊ายยย!!”ตุ๊บ!!“ โอ้ย!..”“ เฮ้ย! ว่าแล้วเชียวต้องเป็นแบบนี้พูดยังไม่ทันขาดคำเลย โธ่เอ๊ย!ลุกไหวไหมล่ะทีนี้”“ ไม่ต้องมายุ่งเลยคนใจร้าย เมื่อไหร่จะหยุดแกล้งฉันเสียที ที่ผ่านมายังไม่พอใจอีกหรือ” คนอะไร ไม่อยากมองหน้าเลย ใบหน้าที่ดุดัน นัยน์ตาที่แฝงไปด้วยความร้ายกาจ ทั้งปาก ทั้งจมูก หล่อนเก
งานวิวาห์ระหว่าง นายมัฆวัฒน์ ก้องกังวาลไกล นักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงกับเลขาสาวนางสาวจอมขวัญ มงคลเกียรติ ถูกจัดขึ้นที่โรงแรมหรูใจกลางกรุงเมืองหลวง เป็นวันที่ทั้งสองรอคอยว่าจะให้มีวันนี้ นับตั้งแต่ผ่านช่วงปีใหม่มาแล้วร่วมสองเดือน ซึ่งฝ่ายเจ้าบ่าว บ่นอิดออดว่าทำไมฤกษ์ที่มารดาเจ้าสาวหาให้ ถึงได้ล่าช้านัก ไม่มีใครรู้หรอกว่าเขาต้องทรมานขนาดไหนที่ต้องทนรอให้ถึงวันนี้อย่างใจจดใจจ่อเพียงใด“วันนี้คุณสวยจัง” เจ้าบ่าวกระซิบข้างใบหูเล็กของเจ้าสาว อย่างเอาใจ เมื่อทั้งหล่อนและเขาออกมายืนต้อนรับแขกเหรื่อหน้าประตูทางเข้าห้องจัดเลี้ยง ที่ถูกจัดขึ้นอย่างวิจิตร ตระการตา เจ้าสาวของเขาอยู่ในชุดสีขาวบริสุทธิ์ ผมยาวสลวยถูกเกล้าขึ้นเผยให้เห็นใบหน้าขาวใส ที่ตอนนี้ถูกตกแต่งด้วยเครื่องสำอางบางเบา เท่านั้นก็ช่วยให้หล่อนสวยใสไร้ที่ติจนเขาต้องเอ่ยปากชมออกมา“ไม่ต้องมาพูดเอาใจหรอกน่า..ยังไง ๆ ก็รับผิดชอบในตัวคุณอยู่แล้วล่ะค่ะ” จอมขวัญตอบกลับไป พลางยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ แถมแลบลิ้นแบบเด็ก ๆ ส่งไปให้เจ้าบ่าวของหล่อน ที่วันนี้เขาก็ดูหล่อสมาร์ตกว่าใคร ๆ ในงานเหมือนกัน ถึงแม้ว่าเวลาธร
แม้ในใจจะรู้สึกโล่ง แต่อีกใจหนึ่งกลับอดเป็นห่วงเขาไม่ได้ เท้าบางจึงเดินออกมาหาที่ห้องนั่งเล่นด้านนอก เป็นอย่างที่คิดจริง ๆ ด้วย ร่างสูงนอนเหยียดยาวทอดกายไปกับโซฟา เปิดทีวีค้างไว้ คงหลับไปแล้ว ฮึ..รอไม่ไหวล่ะสิ คงเพลียจากงานเมื่อกลางวันที่เขาต้องรับบทหนักกว่าหล่อนมากก็ไหนจะคอยต้อนรับญาติ ๆ ทางมารดาเขา ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และไหนจะเพื่อนฝูงสมัยเรียน เพื่อนร่วมธุรกิจอีก จอมขวัญนั่งลงกับพื้นข้างโซฟาที่มีคนตัวสูงนอนอย่างสบายใจ พลางยื่นปลายนิ้วไปเขี่ยตรงต้นแขน กะว่าจะปลุกให้เข้าไปนอนที่เตียงนอนเสียหน่อย เพราะดูจากที่เขานอนอยู่คงไม่สบายเท่าใดนัก“อืมม์..ไม่ต้องมาสะกิดเลย คืนนี้ยกให้ ผมไม่มีแรงจะทำอะไรแล้วง่วง..” พูดจบเจ้าบ่าวก็ลุกขึ้น เดินโซซัดโซเซกลับมาล้มตัวลงนอนที่เตียงกว้างด้านในอย่างงอน ๆ จอมขวัญย่นจมูก อย่างนึกหมั่นไส้ แลบลิ้นแถมไปให้ด้วย เฮอะ..ผู้ชายอะไรงอนก็เป็นด้วยตลกชะมัด แต่ก็น่ารักไปอีกแบบเมื่อคนอย่างเขาทำ ฮิ ๆ หญิงสาวก้าวขึ้นเตียงนอนใหญ่หนานุ่ม อย่างแผ่วเบา ด้วยเกรงว่าคนข้าง ๆ จะตื่น ก่อนจะตะแคงมองสามีที่น่ารักยิ่งนักเม
เสียงเปิดและปิดประตูอย่างแผ่วเบา สักพักเตียงอีกฝั่งก็ยวบลงช้า ๆ ตามด้วยมือใหญ่เรียวยาวค่อยๆ สอดมาใต้หมอนเอื้อมมาคว้าไหล่บอบบางของเมียสาวที่ตอนนี้นอนหันหลังให้ พลางออกแรงแกมบังคับให้พลิกมาทางเขาอย่างเบามือ“จะรีบนอนไปไหนล่ะครับ ฮึ” เสียงพึมพำ ทำให้หล่อนลืมตาขึ้นมามอง พร้อมกับส่งสายตาขุ่นขวางกลับไปให้“ง่วงแล้ว..คนจะนอนมาปลุกทำไมเนี่ย ทำไมไม่ไปนอนกับคนอื่นโน่น” ชายหนุ่มหัวเราะหึ ๆ อย่างเป็นสุข กลับจ้องมองตอบดวงตาเขียวปั๊ดที่ส่งมาอย่างไม่เกรงกลัว“งอนหรือนี่ คุณหึงผมใช่ไหม ดีใจจัง นึกว่ามีแต่ผมเท่านั้นที่คอยแต่จะหึงหวงคุณอยู่ฝ่ายเดียว” ไม่พูดเปล่า ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงคลอเคลียอยู่แถวข้างแก้ม และเลยไปตามซอกคอขาวละมุน ลมหายใจอุ่นร้อนจากปลายจมูกโด่งทำเอาใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ร่างสูงค่อย ๆ ดันตัวเองให้แนบชิดกับร่างเล็กน่ากอดให้เอนนอนราบลงไปกับเตียงนอนหนานุ่มช้าเนิบอย่างใจเย็น“คุณ..เอ่อ..คุณมาร์คคะ คือว่า..จอม”“อะไรอีกครับที่รัก จะหาข้ออ้างอะไรอีก เมื่อสองสามวันก่อนคุณก็บอกว่าเป็นรอบเ
เฮ้อ! เสียงถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนปนเซ็ง นิด ๆ ของนางสาวจอมขวัญ มงคลเกียรติ ลูกสาวคนสุดท้องของตระกูล (แฮะ..เว่อร์ไปหน่อย) ที่ตอนนี้ต้องระหกระเหินจากบ้านเกิดเมืองนอนออกมาเผชิญโลกภายนอก ตั้งแต่จบมัธยมต้นเข้ามาร่ำเรียนในเมืองหลวง... จนบัดนี้จบปริญญาตรีไปหมาด ๆ เป็นที่สมพระทัย เอ๊ย! สมใจคุณพ่อคุณแม่ที่อยากให้ลูกได้เรียนสูง ๆ และถึงแม้ว่าจะไม่ได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เหมือนพี่ชายก็ตามทีเถอะ เอาล่ะ เข้าเรื่องดีกว่า จะไม่ให้ถอนหายใจได้อย่างไรเล่า ในเมื่อวันนี้หล่อนจะได้สัมภาษณ์งานเป็นครั้งแรกในชีวิต แถมยังเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงโด่งดังน้อยเสียเมื่อไหร่ กับธุรกิจด้านโรงแรมและรีสอร์ทหลายแห่ง ได้ยินมาว่าบริษัทนี้ไม่ค่อยรับเด็กจบใหม่เสียด้วยสิ สามวันก่อนหล่อนได้ไปสมัครงานทิ้งไว้ ตามคำบอกกล่าวของเพื่อนสนิทที่สุดตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยด้วยกัน เพื่อนที่แตกต่างกัน ราวฟ้ากับดิน ล้อมดาว ลูกสาวคนเดียวของตระกูล ก้องกังวาลไกล ซึ่งแค่ได้ยินแค่นามสกุลใคร ๆ ก็รู้ว่า เป็นไฮโซระดับต้น ๆ ของเมืองไทย โดยเฉพาะธุรกิจทางด้านโรงแรมที่มีมากกว่าสองสาขา และที่กำล
ในที่สุดก็มาถึงเป็นครั้งที่สองจนได้ เจอกันอีกแล้วนะ ตึกเอ็ม ไอ พีที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งจะเป็นที่ ที่ให้หล่อนได้พึ่งพาในอนาคต ฝากตัวด้วยนะคะ จอมขวัญกอดเอกสารที่มีซองจดหมายของบริษัท เอ็ม ไอ พี คอร์เปอร์เรชั่น รวมอยู่กับเอกสารส่วนตัวบางอย่าง เผื่อว่าอาจจะจำเป็นต้องใช้อย่างให้กำลังใจตัวเอง ทั้ง ๆ ที่ยังไม่รู้ผลด้วยซ้ำว่า จะผ่านข้อเขียนและสัมภาษณ์หรือเปล่า สังหรณ์ในใจลึก ๆ และแอบคิดเข้าข้างตัวเองว่า หล่อนจะต้องได้มาเป็นส่วนหนึ่งใน เอ็ม ไอ พี แห่งนี้แน่นอนตึกสูงใหญ่ตั้งตระหง่านท่ามกลางย่านธุรกิจอันคับคั่ง ที่นี่คงเป็นสำนักงานใหญ่ ถึงได้ดูโอ่อ่านัก จอมขวัญก้าวเท้าเดินต่อเข้าไปในตัวตึกไม่รีบร้อน หลังจากที่หยุดยืนแหงนหน้ามองดูตึกสูงระฟ้าจนคอตั้งบ่า อดใจเต้น ตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ไม่ได้เลย แม้ว่าจะเป็นครั้งที่สองแล้วที่ได้เยือนมาที่นี่ อาณาจักรของ เอ็ม ไอ พี คอร์เปอร์เรชั่น บริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีชื่อเสียงเอาการอยู่ ขนาดเพื่อนบางคนที่รู้จักกัน เมื่อรู้ข่าวว่าหล่อนได้มาที่นี่เป็นครั้งที่สองก็ยังพากันแปลกใจ และอดตื่นเต้นด้วยไม่ได้แต่ก็น่าแปลกใจ อยู่สักเล็กน้อยเหมือนกันแหล่ะ ว่าเขาเรี
จอมขวัญสะลัดความคลางแคลงใจออกไป หันมาก้มสำรวจตัวเองจัดเสื้อผ้าหน้าผมให้เข้าที่เข้าทางเสียใหม่ และก่อนที่จะเอื้อมมือไปกดปิดลิฟต์ พลันรู้สึกเหมือนมีอะไรอุ่น ๆ ไหลออกมาจากจมูก วิ่งลงมาสู่ริมฝีปากบางด้านบน รู้สึกเค็ม ปะแล่ม ๆ เมื่อลองแลบลิ้นเลียแค่แตะๆ ที่ปลายลิ้น เอาแล้วสิ! อ้ายเจ้าอาการเลือดกำเดาไหลไม่รู้สาเหตุ กลับมาเล่นงานเธออีกครั้ง หลังจากที่มันหายไปนานแล้วตั้งแต่เด็ก หรือจะเป็นเพราะเข้าใกล้ผู้ชายหล่อคนนั้นเข้า แถมยังเข้ามาแนบชิด สนิทเนื้อ จนทำให้เลือดกำเดาไหลออกมาแบบนี้ โดยลืมนึกไปว่าจมูกตัวเองกระแทกกับอกแข็ง ๆ ของเขาไปจังเบ้อเริ่ม! แต่...เอ๊ะ! เมื่อครู่นี้ เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋าเสื้อราคาแพงส่งมาให้ ก็เพราะเขาเห็นเลือดที่มันไหลออกมาจากจมูกของเธอนะสิ โอ๊ย! คิดแล้วน่าอายนัก อยากแทรกแผ่นดินหนี แต่ก็ยังโชคดีที่ตอนนั้นไม่มีใครมาเห็นเข้า ไม่อย่างนั้นวันนี้คงเป็นวันอัปยศอดสูที่สุดในชีวิตของหล่อนทีเดียวเชียว จอมขวัญหันซ้ายแลขวา ทำท่าเลิ่กลั่กก่อนจะวิ่งรี่ไปเข้าห้องน้ำจัดการกับตัวเองให้ดูเรียบร้อยอีกครั้ง เหมือนขามา และกลับเข้ามาอยู่ในลิฟต์อีกรอบ &n