ณ ห้องทำงานในเครือ พี กรุ๊ป ภายในโรงแรมของพัสวีร์ ท่านประธานหนุ่มรูปหล่อ ถึงแม้ใบหน้าของเขานั้นจะออกไปทางค่อนข้างหวานจนสาวน้อยสาวใหญ่ต่างอิจฉาแต่ผิดถนัดกับนิสัยส่วนตัวของเขายิ่งนักชั่งตรงข้ามเหลือเกิน
ซึ้งชายหนุ่มเป็นที่หมายปองของสาวสวยไฮโซมากหน้าหลายตา กำลังตั้งหน้าตั้งตาตรวจเอกสารทั้งหมดที่วางกองอยู่ตรงหน้าให้เรียบร้อย ก่อนจะต้องเดินทางลงไปดูการก่อสร้างและตกแต่งรีสอร์ทพร้อมทั้งบ้านพักตากอากาศของเขาที่จังหวัดกระบี่
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ใคร!” เสียงเข้มของพัสกรเจ้าของโรงแรมหนุ่มหล่อเอ่ยถามโดยที่ยังไม่ละสายตาจากงานตรงหน้า
“ผมนิคเองครับ” เมื่อได้ยินเสียงว่าเป็นลูกน้องคนสนิทจึงอนุญาตให้เข้ามาพบ
“ว่ายังไงนิค…มีเรื่องอะไร”
“เรื่องที่คุณภีมให้ผมติดต่อไปทางบริษัทอินทิเรียที่รีบตกแต่งภายในผมจัดการเรียบร้อยแล้วนะครับ ส่วนเรื่องผู้หญิงที่เดินชนเจ้านายในผับผมจัดการสืบให้เรียบร้อยแล้วเช่นกันครับ”
ชายหนุ่มพยักหน้ารับให้กับความรวดเร็วของลูกน้องคนสนิทที่ไม่เคยทำให้เขาผิดหวัง
“ส่วนนี่คือรายละเอียดประวัติของเธอผมจัดการหามาให้พร้อมกับรูปภาพของเธอครับ” ว่าแล้วจึงยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลให้เจ้านาย และขอตัวออกไปทำงานต่อ
ภีม พัสกร รณกรณ์ นั่งอ่านประวัติของผู้หญิงอวดดีที่กล้าเดินชนเขาในผับแล้วยังมาต่อว่าเขาอีก อะไรมันจะชั่งบังเอิญอะไรแบบนี้ เธอทำงานที่เดียวกับบริษัทที่เขานั้นจ้างให้มาออกแบบตกแต่งภายในให้รีสอร์ทของเขาเสียด้วย
ใบหน้าหวานรูปไข่ที่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราวกับปกปิดความบกพร่องของใบหน้า ยืนลอยหน้าลอยตาต่อว่าเขา ทั้ง ๆ ที่ชีวิตนี้แทบไม่มีใครเคยยืนชี้หน้าด่าเขาแบบนี้มาก่อน
“เสร็จแน่ยัยตัวแสบ ปากดีแบบนี้พ่อจะสั่งสอนให้หมอบเลย” ก่อนที่พัสกรต่อสายหาลูกน้องคนสนิททันที
“นิค จัดการติดต่อบริษัทอินทิเรียที่จะทำงานให้เรา บอกว่าฉันต้องการให้คนที่ชื่อ แก้วตา กัญญ์วรา เป็นคนออกแบบตกแต่งภายในทั้งหมดของรีสอร์ทและบ้านพักตากอากาศของฉัน”
“ได้ครับคุณภีม ถ้าทางนั้นตอบรับแล้วให้เข้าพบเพื่อที่จะคุยรายละเอียดเลยไหมครับ”
“ได้!” หลังจากวางสายรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เหยียดยิ้มที่มุมปากราวกับมีแผนการร้ายกาจ
ร่างสูงเพรียวของสาวสวยมากความสามารถอย่าง กัญญ์วรา อินทิเรียดีไซนเนอร์คนสวยมากความสามารถของบริษัทแห่งหนึ่ง ถูกเรียกตัวเข้าพบเจ้านายหนุ่มเป็นการด่วน โดยไม่รู้ว่าเธอนั้นไปทำเรื่องราวอะไรมาหรือเปล่า
“สวัสดีค่ะบอส มีเรื่องด่วนอะไรให้แก้วตารับใช้ไหรือคะถึงให้คนไปตามถึงที่เชียว”
“นั่งก่อนสิแก้ว” เจ้านายหนุ่มซึ่งเป็นรุ่นที่ที่สนิทคนหนึ่งของเธอสมัยที่เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน
กัญญ์วราย่อนตัวนั่งลงพร้อมวางไอแพดคู่กายไว้บนโต๊ะเงยหน้ามองหน้ารุ่นพี่คนสนิท
“มีเรื่องอะไรคะ”
“พอดีมีงานโปรเจกต์ใหญ่ต้องตกแต่งภายใน เป็นบ้านพักตากอากาศกับรีสอร์ทอยู่ต่างจังหวัด อืม…น่าจะที่กระบี่นะ”
“ค่ะ…อืม..แล้วใครเป็นคนรับผิดชอบงานนี้ล่ะคะ” เสียงหวานเอ่ยก่อนยิ้มให้คนตรงหน้า
“ก็เธอไง…แก้วตา” เมื่อได้ยินกัญญ์วราถึงกับต้องเอานิ้วชี้ที่ใบหน้าของตน
“ฮะ…แล้วต้องทำงานนี้เหรอคะ”
“ใช่ เธอต้องเป็นคนทำงานนี้”
“ทำไมมันแก้วต้องทำล่ะ พี่ทินก็รู้นิคะว่างานของแก้วเยอะจะตายไป ทำไมพี่ไม่ให้คนอื่นในบริษัททำล่ะคะ” อันที่จริงหญิงสาวนั้นไม่อยากจะเกี่ยงงานสักเท่าไร แต่งานของนั้นเยอะมากจริง ๆ
“ไม่ได้เพราะลูกค้าเขาเจาะจงเธอมาโดยเฉพาะ เธอรีบจัดการโอนงานของเธอทุกงานให้คนอื่นในฝ่ายรับผิดเดี๋ยวนี้ แล้วเธอก็มารับผิดชอบโปรเจกต์ใหญ่นี้อย่างเดียวแล้วพรุ่งนี้เธอต้องไปรับบรีฟงานกับพี่”
“โอเคค่ะพี่ทิน แก้วปฏิเสธไม่ได้แล้วสิคะ ทำก็ได้ค่ะ”
“งั้นเธอก็ไปทำงานต่อได้แล้ว” หญิงสาวใบหน้าหวานส่งยิ้มให้เจ้านายเล็กน้อยก่อนจะเดินออกจากห้องไป และจัดแจงงานทุกอย่างให้เรียบร้อย เธออยากรู้นักว่าใครกันแน่ที่ที่เป็นลูกค้าคนนั้นแล้วเลือกเฉพาะเจาะจงว่าต้องเป็นเธอคนเดียวเท่านั้น
เพราะอะไรทำไมต้องเป็นเธอกันนะ
ร่างบางสูงเพรียวในชุดเสื้อยืดสีขาวสะอสดตาสวมทับด้วยเบลเซอร์สีครีมอ่อน ๆ เช่นเดียวกับกางเกงเดินเคียงคู่เจ้านายหนุ่มสุดหล่ออย่างทินกรเข้ามาภายในโรงแรมในเครือพีกรุ๊ป
“ขอโทษนะครับ ผมมาพบคุณพัสกรครับ”
“จากบริษัทออกแบบของคุณทินกรใช่ไหมคะ เชิญชั้นที่ 38 เลยค่ะท่านประธานรอพบอยู่”
ทินกรพยักหน้าและกล่าวขอบคุณพนักงานสาวพร้อมทั้งเดินนำหน้ากัญญ์วราไปขึ้นลิฟต์ไปชั้นที่ 38 ทันที
“อยากรู้จังค่ะพี่ทิน…ทำไมคุณพัสกรอะไรนั่นต้องเจาะจงมาที่แก้วด้วย ทั้ง ๆ ที่บริษัทของเราก็มีอินทิเรียเก่ง ๆ ตั้งมากมายหลายคน” สองหนุ่มสาวขึ้นมาทั้งชั้นที่ต้องการพร้อมกับคุยกันในเรื่องสัพเพเหระ
“เขาอาจจะชอบที่ผลงานเธอมั้ง เขาเลยเลือกเธอน่ะ”
เลขาหน้าห้องเห็นทั้งสองเดินเข้ามาจึงลุกขึ้นและกล่าวทักทาย
“สวัสดีค่ะ คุณทินกรกับคุณกัญญ์วราใช่ไหมคะ”
“ครับ/ค่ะ” ทั้งสองกล่าวตอบรับพร้อมกัน
“เชิญค่ะ...ท่านประธานรออยู่ในห้องค่ะ”
เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบกับพัสกรที่นั่งท้าวคางรอพร้อมกับควงปากกาในมืออย่างสบายใจ ก่อนจะเงยหน้าและยิ้มทักทายผู้ที่เข้ามาใหม่
“สวัสดีครับคุณทินกร” เมื่อกัญญวราได้ยินน้ำเสียหญิงสาวจึงเงยหน้าขึ้นมาและอุทานออกมาอย่างตกใจ ไม่คิดว่าจะเป็นเขาโลกมันช่างกลมอะไรเช่นนี้
“คุณ!” พัสกรส่งยิ้มที่มุมปากให้หญิงสาวตรงหน้า
“รู้จักคุณพัสกรด้วยเหรอแก้ว” ทินกรนิ้วมือของชินกรชี้ไปมาระหว่างชายหนุ่มและหญิงสาว
“เปล่าค่ะ...แก้วไม่รู้จักค่ะพี่ทิน” หญิงสาวปฏิเสธออกไปแต่ผิดกับประธานหนุ่ม
“แต่ผมว่าผมรู้จักคุณนะ”
กัญญ์วรากำลังจะเอ่ยเถียงชายหนุ่มแต่ก็ต้องหยุดเอาไว้
“ผมว่าเรามาคุยเรื่องงานของเรากันดีกว่านะครับ” พัสกรเอ่ยตัดบทและพาเข้าเรื่องงานทันที ทั้งสามคนจึงเริ่มคุยรายละเอียดของงานทั้งหมดว่าจะต้องทำอะไรในงานครั้งนี้บ้าง แต่เมื่อฟังรายละเอียดจนกัญญ์วรามาสะดุดกับสองข้อสุดท้าย
“สองข้อสุดท้ายฉันไม่เห็นด้วย ที่ฉันจะต้องไปอยู่กับคุณที่กระบี่ตั้งหลายเดือน ไหนจะเปลี่ยนอินทิเรียก็ไม่ได้ แล้วอีกอย่างข้อสุดท้าย ถ้าทางเราไม่ทำตามทำไมทางบริษัทฉันต้องจ่ายค่าเสียหายให้กับคุณด้วย” ซึ่งเธอนั้นไม่เห็นด้วยมันเอาเปรียบกันชัด ๆ
“พี่ทินคะ...แก้วไม่ทำงานนี้” หญิงสาวลุกพรวดขึ้นทันที
“ถ้าไม่ทำคุณก็จ่ายค่าเสียหายมาให้กับเรา”
“ทำไมฉันต้องจ่าย” หญิงสาวหน้าหวานสวนกลับเสียงแข็ง
“คุณเซ็นต์สัญญาไปแล้วนิ” ชายหนุ่มเหยียดยิ้มร้าย ในตอนที่หญิงสาวกำลังเปิดสัญญาฉบับนั้น
“นี่คุณ! นี่มันมัดมือชกกันชัดๆ ฉันไม่ทำ”
“แก้วหยุดก่อน” ทินกรปรามลูกน้องสาวของตนทันทีก่อนหันไปหาลูกค้าหนุ่มรูปหล่อ
“ผมขอคุยกับคนของผมสักครู่นะครับ…คุณพัสกร”
“งั้นเชิญตามสบายครับ ผมขอไปสั่งงานคนของผมก่อน สักครู่ผมจะเข้ามา” เอ่ยจบชายหนุ่มเดินออกจากห้องทำงานของตนเองทันทีทิ้งให้ไว้เพียงแก้วตาและทินกรเท่านั้น
“พี่ทิน…ข้อเสนอกับสัญญาแบบนี้ นี่มันมัดมือชกกันชัดๆเลยนะ มันไม่ยุติธรรมอะ”
จริงมันก็เป็นความสะเพร่าของเธอเองที่ไม่ยอมอ่านสัญญาให้ละเอียดเสียก่อน“แต่ถ้าบริษัทเราไม่ทำเราต้องจ่ายให้เขาหลายล้านเลยนะแก้ว”“แต่ทำงานกับคนแบบนี้ตั้งสี่เดือนแถมเปลี่ยนอินทิเรียก็ไม่ได้ แก้วไม่ตายเลยเหรอพี่ทิน”“แก้ว พี่เข้าใจแก้วนะ แต่…” ทินกรวางมือลงบนไหล่มนของหญิงสาว“แก้วรู้ค่ะ ถ้าแก้วไม่ทำ บริษัทก็จะเสียหาย พี่ทินกับคนในบริษัทก็จะเดือดร้อน ดังนั้นแก้วยอมทำก็ได้ค่ะ” เสียงหวานพูดจบก็ถอนหายใจยาว ๆ และส่ายศีรษะไปมา “ขอบใจนะแก้ว”ไม่นานท่านประธานหนุ่มเจ้าของโรงแรมเดินกลับเข้ามาภายในห้องทำงานของตนพร้อมกับรอยยิ้ม“คุยกันเรียบร้อยแล้วหรือยังครับคุณทินกร คุณกัญญ์วรา” รอยยิ้มมุมปากของเจ้าของใบหน้าเจ้าเล่ห์ถูกส่งให้หญิงสาวหญิงสาวหน้าหวานหันมาตอบกลับชายหนุ่มเสียงแข็ง“ค่ะ…ตกลงฉันจะทำงานนี้ให้กับคุณ” ชายหนุ่มได้ยินดังนันจึงพยักหน้าและยิ้มออกมาราวกับผู้ชนะ“ขอบคุณนะครับคุณทินกร ส่วนคุณกัญญ์วรา อีกหนึ่งสัปดาห์ผมจะให้คนไปรับที่คุณบริษัท เราจะต้องไปดูไซต์งานด้วยที่กระบี่หนึ่งอาทิตย์”“ทำไมคุณต้องส่งคนไปรับ ฉันมีรถฉันขับรถไปเองได้”“แก้วใจเย็น ๆ ลูกค้าท่องไว้” ทินกรกระซิบให้สาวข้างกายแต่สาวข้าง
ร่างบอบบางขยับตัวตื่นในยามที่แสงแดดสาดส่องลอดเข้ามาภายในห้อง หญิงสาวลุกขึ้นนั่งพิงกับหัวเตียงพร้อมกับบิดกายราวกับไล่ความเมื่อยล้าที่สะสมอยู่ในกายมานานแสนนาน บิดซ้ายบิดขวาไปมา สายตาหวานมองหาโทรศัพท์มือถือของตนและเอื้อมไปหยิบขึ้นมาดูเวลา“ตายล่ะ…สายแล้วบอสด่าตายเลย”หลังจากที่ดูเวลาที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือซึ่งเลยเวลาเข้างานมานับชั่วโมงหญิงสาวรีบดีดตัวลุกจากที่เตียงนอนหนานุ่มวิ่งเข้าห้องน้ำจัดการอาบน้ำแต่งตัวออกไปทำงานทันทีวันนี้กัญญ์วราไม่ได้แต่งหน้าเข้าบริษัทเพียงแค่ทาลิปสติกกับเขียนคิวเท่านั้น เพื่อไม่ใหดูป่วยจนเกินไป สำหรับผู้หญิงเราไม่มีคิ้วแทบจะไม่กล้าออกไปไหนเลย ร่างสูงเพรียวของอินทิเรียสาวคนสวยเดินเข้ามายันแผนกของตน เมื่อเธอเดินเข้ามาทุกคนต่างทำความเคารพเธอทั้ง ๆ ที่เธอก็ไม่ได้อายุมากเท่าไรนัก อาจจะเป็นเพราะเธอนั้นทำงานที่นี่มาตั้งแต่ก่อนเรียนจบละมั้ง“พี่แก้วขา…บอสเรียกพบพี่แก้วค่ะ” ผู้ช่วยส่วนตัวของกัญญ์-วราบอกกับหญิงสาวที่พึ่งจะเข้าบริษัทไม่ไม่กี่นาทีนี้“บอส…บอสจะพบพี่เนี่ยนะ” หญิงสาวเอ่ยทวนอีกครั้ง“ใช่ค่ะพี่แก้ว…เห็นถามหาพี่แก้วตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ บอสบอกว่าถ้าพี่เข้าบริษัทแล
หลังจากที่พัสกรบอกให้ลูกน้องสนิทไปพักผ่อน ส่วนเขาก็จัดการอุ้มพาผู้หญิงอวดดีแถมยังปากเก่งกลับบ้านพักส่วนตัวของเขาท้ายหาดทันที จัดการเปิดประตูเข้าไปยังบ้านพักเดินตรงเข้าไปยังห้องนอนของเขาทันที ค่อย ๆ วางร่างบางของหญิงสาวลงบนเตียงของเขาอย่างเบามืออย่างอ่อนโยน จัดท่าทางในการนอนให้สาวเจ้าขี้เซาที่ถูกผู้ชายที่พึ่งเจอกันไม่นานพาเข้าห้องยังไม่รู้ตัว“แม่คุณเอ้ย...นี่นอนหรือซ้อมตายกันหึ” ชายหนุ่มยืนเท้าสะเอวมองคนที่นอนหลับตาพริ้งอย่างสบายใจ สายตาคมมองไปยังร่างบางที่นอนหลับอยู่บนเตียงพบกระเป๋าสะบายคล้องคออยู่จึงโน้มตัวประคองหญิงสาวขึ้นมาค่อย ๆ ปลอดเอากระเป๋าออกอย่างเบามือ แล้ววางหญิงสาวลงดังเดิม ห่มผ้าให้หญิงสาวและส่วนตัวของเขานั้นเดินหายเข้าไปในห้องน้ำไม่นานก็ออกมาในชุดนอนสีเทาอ่อนเดิน“จะนอนตรงไหนดีวะเนี่ย” บ้านพักส่วนตัวของเขามีเพียงหนึ่งห้องนอน หนึ่งห้องน้ำและหนึ่งห้องนั่งเล่นเท่านั้น อันนที่จริงมันก็เหมือนห้องพักรีสอร์ทธรรมดาทั่วไปเพียงแต่ไม่อนุญาตให้ใครมาใช้งานก็เท่านั้น อย่างไรก็ตามเขาไม่มีทางออกไปนอนร้อนข้างนอกหรอก นี่บ้านของเขา ห้องนอนของเขา เตียงนี้ก็ของเขาชายหนุ่มเด
หลังจากที่ทั้งพัสกรและกัญญ์วรานั้นรับประทานอาหารเช้าที่ให้พ่อครัวของรีสอร์ทเตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้วนั้น ชายหนุ่มจึงเดินนำหน้าหญิงสาวพาเดินเรียบไปยังชายหาดในเขตของเขาที่กำลังต่อเติมและจะสร้างเสร็จในอีกไม่ช้านี้แต่เมื่อมาถึงสถานที่จึงแล้วกัญญ์วราจึงเริ่มลงมือถ่ายรูปในส่วนต่าง ๆ ทีจำเป็นต้องใช้ในการออกแบบและตกแต่งภายในบ้านพักไม่ว่าจะเป็นประตูทางเข้า ห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องน้ำหรือแม้กระทั่งระเบียงที่ยื่นออกมารับสายลมและแสงแดดก็ตามทีทุกอย่างถูกบันทึกลงใน ipad pro เครื่องโปรดของเธอก่อนจะหันไปถามเจ้าของรีสอร์ทหนุ่มหล่อที่กำลังที่ยืนกอดอกมองการกระทำเธออยู่ทางด้านหลัง“คุณต้องการให้ห้องพักของคุณเป็นแบบไหนโทนสีแนวไหนคะ ฉันจะได้ออกแบบตามที่คุณต้องการ ”“ผมอยากได้ห้องทีโทนสีสบายตาอยู่แล้ว ให้ความรู้สึกเหมือนเราได้มาพักผ่อนน่ะจริง ๆ” ชายหนุ่มมองไปรอบ ๆ อีกครั้งก่อนจะพูดความต้องการของตนอีกครั้ง“ห้องแรกห้องนั่งเล่นผมอยากให้โทนสีห้องสบายๆ พักผ่อนได้ทั้งวันไม่เบื่อ ห้องนอนผมอยากให้เป็นโทนสีเทาครีมสลับผสมให้กลมกลืนกันคุณช่วยจัดการออกแบบให้ผมได้ไหม”กัญญ
ห้าเดือนผ่านไปหลังจากที่กัญญ์วราถูกลากออกไปดูสถานที่จริงกับเขาเมื่อเดือนก่อน หลังจากที่กลับมาทั้งสองก็ออกไปพบปะกันบ้างเพื่อที่จะอัพเดตงานแต่สองเดือนให้หลังมานี้หญิงสาวมักหลบหน้าหลบตาชายหนุ่มเสมอ ในบางครั้งที่นัดอัพเดตงานหญิงสาวมักจะมีข้ออ้างเสมอและฝากงานที่เธอทำนั้นให้กับผู้ช่วยของเธอไปพบลูกค้าหนุ่มพร้อมกับเจ้านายแทนและวันนี้ก็คงเป็นเช่นเดิมที่เธอจะฝากผู้ช่วยของเธอไปพบแทน งานของพัสกรนั้นคืบหน้าไปแล้วเกือบหกสิบเปอร์เซ็นต์ แต่ทุกครั้งที่ไปพบงานที่เธอทำนั้นมักจะถูกตีกลับมาเสมอโดยที่เขานั้นให้เหตุผลว่าไม่ชอบในส่วนนั่น ต้องปรับในส่วนนี้ เอาตรงนั้นตรงนี้ออกบ้าง สิ่งที่ต้องแก้ไขส่วนใหญ่มักจะเป็นในส่วนของบ้านพักของเขา ส่วนของรีสอร์ทนั้นเรียบร้อยตั้งแต่สองเดือนที่ผ่านมาแล้วแต่ก็ไม่รู้ว้าพัสกรอยากจะเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างหรือไม่“พี่แก้วตารอบนี้จะให้อายออกไปพบคุณพัสกรพร้อมกับบอสอีกแล้วเหรอคะ” ผู้ช่วยสาวถามด้วยน้ำเสียงเนือย ๆ เป็นกังวล“มีอะไรรึเปล่าทำไมทำน้ำเสียงเป็นแบบนั้นล่ะ”“ก็คุณพัสกรสิคะพี่แก้ว งานที่พี่แก้วแก้ไปก็ตรงจุดทุก
กัญญ์วรากลับมาห้องทำงานและจัดการแก้แบบที่พัสกรต้องการอีกครั้งหลังจากที่ตกลงกันไปตอนแรกจำนวนห้องพักที่สร้างใหม่สิบสองห้องจะใช้แบบและการตกแต่งไปในรูปแบบเดียวกัน แต่ที่คุยล่าสุดเขาอยากให้ปรับรูปแบบของห้องพักให้มีหลากหลายสไตล์คละเคล้ากันไป หญิงสาวจึงจัดการดูแบบเดิมที่เธอทำและปรับใหม่อีกครั้งจนเวลาล่วงเลยมาในช่วงเวลาเลิกงาน“อายขอตัวกลับก่อนนะคะพี่แก้ว” ผู้ช่วยสาวเปิดประตูเข้ามาและบอกหญิงสาว หญิงสาวพยักหน้ารับ“แล้วพี่แก้วกลับตอนไหนคะ”“อีกสักพักพี่ก็กลับแล้ว อายกลับดี ๆ นะ” ลับหลังผู้ช่วยสาวหญิงสาวจัดการงานของตนอีกเล็กน้อยก่อนจะเก็บของกลับบ้านร่างบางเดินมายังหน้าบริษัท วันนี้หญิงสาวนั้นไม่ได้ขับรถยนต์ส่วนตัวของตนนั้นมา เธอจึงเดินมายังหน้าบริษัทเพื่อที่จะเรียกรถแท็กซี่ที่จะเดินทางกลับคอนโดของเธอ แต่ในระหว่างที่เธอนั้นเดินก้มหน้าก้มตาหาของในกระเป๋าร่างบางนั้นก็ปะทะชนกับอะไรบางอย่างทำให้หญิงสาวนั้นเงยหน้าขึ้นมาก็พบกับร่างสูงของลูกน้องคนสนิทของพัสกร“อุ๊ย”“เอ่อ…คุณนิค มีอะไรกับฉันหรือเปล่าคะ” หญิงสาวถามอย่างสุภาพกับคนตรงหน้า“ผมไม่ม
สองเดือนก่อนหน้าสองเดือนก่อนหน้านี้ กัญญ์วราออกแบบห้องรอบสุดท้ายเรียบร้อยตามที่ชายหนุ่มต้องการ เมื่อเขาชอบเธอก็พลอยโล่งอกดีใจที่ไม่ต้องมานั่งแก้งานในจุดเดิม ๆ ซ้ำไปมาตามใจลูกค้าหนุ่มเรียบร้อยแล้วแต่เขาก็หารเองให้เอทำงานให้อย่างคนเอาแต่ใจอยู่ร่ำไป ในบ่อยครั้งที่เธอนั้นจะเดินทางกลับกรุงเทพ หลังจากที่คอยมาดูความเคลื่อนไหวของงาน ทุกครั้งเมื่อถึงวันกำหนดที่เธอต้องการจะกลับจะคอยมีข้อความจากเจ้านายหนุ่มอย่างทินกรถูกส่งมาทุกครั้งอย่างรู้เวลาบอกให้เธอดูงานดูแลความเรียบร้อยให้ดีบ่อยครั้ง และทุกครั้งข้ออ้างและคำสั่งมักจะแตกต่างกันออกไปเสมอราวกับมีใครคอยบงการอยู่อย่างใดอย่างนั้นในวันนี้เธอได้พักฝนอย่างเต็มที่หลังจากที่ต้องแก้งานอยู่หลายวัน หญิงสาวจึงอยากพักผ่อนโดยการไปนั่งดื่มแอลกฮอลล์ชิล ๆ อยู่ภายในบาร์ของทางรีสอร์ทของพัสกรที่เธอนั้นพึ่งรู้เมื่อไม่นานนี้ว่ามีที่แบบนี้อยู่ด้วยแต่ดีหน่อยที่วันนี้พัสกรออกไปงานเลี้ยง สำคัญกว่าจะกลับก็คงดึกจะได้ไม่ต้องเจอคนบ้าอำนาจอย่างเขาแล้วทำให้เธอหงุดหงิดบ่อยครั้งกัญญ์วราสวมเสื้อเชิดแ
“ปล่อยฉันนะคุณพัสกร … คุณจะพาฉันไปไหน” หญิงสาวโวยวายและพยายามบิดข้อมือให้หลุดจากการเกาะกุมจากชายหนุ่ม ขืนตัวสุดแรงแต่ก็ไม่เป็นผล “อย่าดิ้นเดินตามมาดี ๆ ” ชายหนุ่มสั่งเสียงแข็งแววตาดุดัน “ฉันไม่ไปฉันจะไปที่อื่น” ร่างบางยังคงดื้อดึง “ทำไมดื้อแบบนี้วะ…ไม่เห็นเหมือนคืนนั้นเลย” ว่าแล้วชายหนุ่มจับหญิงสาวขึ้นพาดบ่าเดินตรงไปยังบ้านพักทันที ทันใดนั้นที่เปิดประตูห้องเข้าไปนั้น ร่างสูงรีบเดินดิ่งเขาไปในห้องนอนทันที ชายหนุ่มโยนหญิงสาวลงบนเตียงนุ่มก่อนที่ร่างสูงจะตามขึ้นมาคร่อมเหนือร่างบางเพื่อกักตัวหญิงสาวเอาไว้ไม่ให้กระดิกตัวไปไหน กัญญ์วราจ้องมองการกระทำของพัสกรอย่างหวาดหวั่น&n
มีอยู่คืนหนึ่งโอบกุลไม่กลับบ้านแล้วไม่ยอมโทรกลับมาบอกว่าจะกลับบ้านเกินเวลาโดยปกติคนติดเมียอย่างเขาจะยอมห่างอกเมียจนเพื่อนของชายหนุ่มนั้นอดแซวไม่ได้ วันนั้นก่อนที่เธอนั้นจะขึ้นนอนเพราะเกวลินเบื่อที่จะเขาโอบกุลกลับบ้านเต็มทนแล้ว แต่แล้วเธอก็เปิดเข้าแอพพลิแคชั่นยอดฮิตติดอันดับโลกที่มีผู้คนมากมายใช้งาน จากนั้นเธอก็เข้าไปในไอจีสตอรี่แล้วเลื่อๆปัดๆไปมา เห็นเพื่อนของชายหนุ่มลงเรื่องราวไว้เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน จึงกดเข้าดูแต่แล้วสายตาหวานของเกวลินเห็นร่างของโอบกลุสามีของเธอกำลังนั่งกอดกดสาวสวยอยู่ภายในสถานบันเทิงแห่งนั้น“อิพี่โอบ ไม่ยอมกลับบ้าน แต่กลับไปนัวสาว มันน่านักนะ” มือบางกำโทรศัพท์เครื่องหรูราคาแพงด้วยความขุ่นเคือง ก่อนจะเดินขึ้นชั้นสองแต่ วรรณวารีลงมาจากชั้นบนเห็นหน้าของเกวลินงอง้ำจนนางต้องถามหญิงสาว“เกลเป็นอะไรไปลูก” หญิงสาวมองหน้าแม่ของสามี“ก็พี่โอบสิคะ ไม่ยอมกลับบ้าน” หญิงสาวยังไม่ทันจะเอ่ยจบประโยควรรณวารี“ก็ปกติของพี่เขานิลูก พี่เขาทำงานตอนนี้อาจจะไปพบลูกค้าก็ได้”“ไปพบลูกค้าตอนสี่ทุ่มเนี้ยนะคะ แล้วเมื่อกี้นี้เกลเล่นไอจีเห็นพี่โอบกับลังกอดผ
“ว่าไงนะ เกวลินยังไม่กลับ”โอบกุลเอ่ยถามป้านอมแต่ต้องหันควับทันที่เมื่อได้ยินทำใหผู้เป็นพ่อเป็นอม่อดตกใจกับอาการร้อนรนของลูกชายจนอดยิ้มไม่ได้“จะตกใจทำไมตาโอบ น้องแค่ยังไม่กลับบ้าน”“แต่แม่ครับ…นี่มันจะสามทุ่มแล้วนะครับ เกลออกจากบริษัทตั้งแต่เที่ยง ตอนนี้ยังไม่ถึงบ้านเกิดอะไรขึ้นรึเปล่าก็ไม่รู้” ท่าทางร้อนรนกระวนกระวายอย่างเห็นได้ชัดของโอบกุล“ทำไมวันนี้ดูเป็นห่วงน้องแปลกๆมีอะไรจะบอกพ่อกับแม่มั้ย”“ไม่มีครับ” ชายหนุ่มเฉไฉ“ถ้าโอบไม่บอก…แม่ก็ไม่บอกเหมือนกันว่าน้องอยู่ไหน”โอบกุลนิ่งไปครู่หนึ่งชั่งใจว่าจะบอกความสัมพันธ์ของเธอกับเขาดีไหม ก่อนที่จะถอนหายใจเฮือกใหญ่และเล่าเรื่องทุกอย่างและความสัมพันธ์ให้บิดาและมารดาได้รับทราบ หลังจากนั้นเขาก็โดนบิดาสวดเสียยกใหญ่ที่ทำมิดีมิร้ายน้องแบบนั้น“เอาจริงๆนะตาโอบ…แม่รู้เรื่องของโอบกับยัยเกลมาสักพักแล้ว แม่ไม่อยากก้าวก่าย แม่แค่รอเวลาให้โอบกับเกลเข้ามาบอกแม่เองเท่านั้น เรื่องความรักแม่ไม่ได้ว่าแต่ต้องทำให้มันถูกต้อง”“ผมขอโทษครับคุณพ่อคุณแม่ แล้วเกลอยู่ไหนครับแม่”นางส่ายหน้า
“วันนี้คุณโอบดูอารมณ์ดีจังนะ พวกแกว่ามั้ย”“ใช่ๆ ฉันสังเกตพักหลังๆที่คุณเกลเข้ามาทำงานคุณโอบก็อารมณ์ดีเป็นพิเศษวันนี้ก็เดินผิวปากเข้าเข้าห้องทำงานไปเลย” คำซูบซิบนินทาเจ้านายดังขึ้นอย่างเนือยๆไม่นานนักเกวลินก็เดินตามหลังโอบกูลเข้ามาภายในบริษัท การแต่งตัวของหญิงสาวนั้นเปลี่ยนไปจากเดิมเล็กน้อย เรียกได้ว่าเซ็กซี่ขึ้นเป็นเท่าตัว เธอสวมเสื้อแกาะอกสีขาวสวมเบลเซอร์สีเทา กางเกงสีเดียวกันกับเสื้อ เดินเข้ามาโดยแจกจ่ายยิ้มให้กะบทุกคนในตอนนั้น พนักงานต่างรับรู้ว่าเธอคือน้องสาวแต่ไม่รู้เบื้องลึกมากกว่านั้น พนักงานผู้ชายตอนที่เกวลินนั้นเข้ามาทำงานแรกๆนั้นต่างถูกแซวและขายจนมจีบอย่างจ้าละหวั่น แต่ก็ถูกสายตาดุดันของโอบกูลแทนแน่นอนว่าเขานั้นหวง หวงเมียตัวเองและยิ่งเห็นการแต่งตัวมาทำงานของเธอนั้นทำให้เขานั้นแทบอยู่ไม่สุข ยัยตัวแสบตังใจใส่ชุดนี้มายั่วเขาหรือยังไง แถมเดินเข้ามาภายในบริษัทสายตาใครต่อใครก็คงต้องจ้องมองเธอ มันน่านักนะ&nb
ท้องฟ้าสีครามสวยสดผสมกับเกลียวคลื่นที่สาดซัดขึ้นมาที่ฝั่ง สายลมอ่อนๆ พัดผ่านกายทำให้เกวลินนั่งนิ่งอยู่บนฝืนทรายเนียนละเอียด บรรยากาศรายล้อมทำให้เธอนั้นรู้สึกผ่อนคลายเหลือเกิน หญิงสาวนั่งถอนหายใจอยู่พักใหญ่ นัยต์ตาหวานทอดยาวไปยังท้องทะเลที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา ยากที่จะคาดเดาในบางครั้งว่ามันจะไปจบหรือสิ้นสุดที่ใดเช่นเดียวกับความสัมพันธ์ของเธอและโอบกุลผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพี่ชาย ที่ต้องคอยหลบ ๆ ซ่อน ๆ สายตาจากสายตาผู้คน จนในบางครั้งเธอนั้นอึดอัดเหลือเกินเสียงถอนลมหายใจอย่างหนักหน่วงราวกับหาทางออกให้ความสัมพันธ์นี้ครั้งแล้วครั้งเล่าของหญิงสาวนัน้ทำให้ไม่ได้สังเกตุสภาพแวดล้อมข้างกายตนว่ามีร่างสูงของใครบางคนเดินเข้ามาทรุดกายนั่งบนผืนทราบข้างๆเธออย่างเงียบเชียบจ้องมองใบหน้าหวานอยู่หลายนาที“มองอะไรคะ”ร่างเล็กที่นั่งมองทอดยาวไปยังท้องทะเลแต่ความรู้สึกเหมือนมีใครกำลังจ้องมองเธออยู่ และเมื่อหันไปก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆคือโอบกุลกำลังจ้องเธออยู่“มองความสวยเมีย”ไม่วายส่งยิ้มอบอุ่นให้เธอแถมด้วยวาจาหยอกล้อหญิงสาวจนมีอาการขวยเขินไม่น้อย เพราะเวลาที
ความสัมพันธ์ของโอบกุลและเกลวินที่คนในบ้านนั้นมองเห็นคือความสัมพันธ์พี่น้องที่พัฒนาไปได้สวยไม่เหมือนแต่ก่อน แต่ความจริงแล้วทั้งสองมีสถานะที่ไม่อาจให้คนในบ้านล่วงรู้ได้ทุกคืนโอบกุลแอบเข้ามาหาเกวลิน ตักตวงความสุขจากร่างบางอยู่ร่ำไป จนหญิงสาวเองนั้นกลัวถ้าเข้าเข้ามาหาเธอแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง สิ่งที่เขาสั่งเธอให้ปกปิดในทุก ๆ คืนนั้นจะปิดไม่อยู่เป็นแน่ทุกครั้งที่อยู่ต่อหน้าคนในบ้านไม่ว่าจะเป็น วรรณวารี ชัดชัย รวมถึงเหล่าแม่บ้านทั้งหลาย เธอจำเป็นต้องเว้นระยะห่างออกจากเขาบ้าง แต่ไม่วายเพราะการกระทำของหนุ่มสาวทั้งสองนั้นทำให้วรรณวารีอดสงสัยในตัวบุตรชายและหลานสาวไม่ได้“ยัยเกลอยู่ไหนเหรอมะลิ” นางหันไปถามแม่บ้านที่นำน้ำมาวางให้“คุณเกล มะลิเห็นรดน้ำต้นไม้อยู่ในสวนค่ะ”“ไปตามหาหาฉันหน่อยสิ” มะลิพยักหน้ารับก่อนจะเดินไปทำตามคำสั่งของผู้เป็นนายทันที“มีอะไรจะคุยกับยัยเกลหรือคุณ” ผู้เป็นสามีหันไปถามภรรยา“มีเรื่องอยากทำและสงสัยนิดหน่อย” ชัดชัยมองหน้าภรรยาก่อนจะมองไปยังประตูเมื่อบุตรชายเดินเข้ามาพอดี“ทำไมวันนี้กลับไวจังล่ะตาโอบ” นางเอ่ยถามบุตร
หลายวันผ่านมานับจากคืนนั้นเกวลินก็เอาแต่หลบหน้าหลบตาจากชายหนุ่มอยู่บ่อยครั้ง ถึงแม้ว่าเวลาทำงานเขาจะย้ายเธอให้มาทำงานใกล้ๆเขา จากที่ทำงานอยู่หน้าห้องตอนนี้เขาย้ายโต๊ะเธอมาอยู่ภายในห้องกับเขาเรียบร้อยทำให้หญิงสาวอึดอัดไม่น้อยเมื่อกลับถึงบ้านเธอก็ตรงขึ้นห้องทันที่เมื่อถึงเวลาค่อยลงมา โอบกุลและเกวลินเจอกันเพียงบางเวลาเท่านั้นคุยกันแทบจะนับคำได้ ในวันนี้โอบกุลทานอาหารค่ำเรียบร้อยเดินเลี่ยงออกมาก่อนโดยให้เหตุผลว่าเขามีงานต้องจัดการหลังจากที่เกวลินจัดการเก็บของทุกอย่างในครัวเรียบร้อย ทุกคนในบ้านต่างพากันแยกย้าย ๆ ไปอยู่ในที่ของตนเอง หญิงสาวก็เช่นกันกลับเข้ามาในห้องโดยไม่ลืมที่จะล็อกห้องของตนเป็นประจำทุกครั้ง แค่แล้วหลังจากที่เงยหน้าจากหน้าจอโทรศัพท์ก็ต้องตกใจเมื่อพบคนที่เดินออกมาจากห้องครัวเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน กำลังนอนกระดิกเท้า มือสอดรองศีรษะอย่างสบายใจราวกับห้องนี้คือห้องของตัวเองเสียงอย่างนั้น&
เข้าวันใหม่“อื้อ…อย่ากวนน่าคนจะนอน” เกวลินครางออกมาเมื่อเหมือนมีอะไรบางอย่างมายุ่งวุ่นวายกับหน้าอกหน้าใจของหญิงสาว“ดื่น…เกลตื่น” ร่างสูงคลอเคลียซอกคอหองกรุ่นปลุกปั้นอารมณ์พิศวาสในกายของหญิงสาวอีกครั้ง“จะทำอะไรอีก...เกลยังง่วงอยู่เลยนะปลาย” ร่างบางงัวเงียตอบกับโดยคิดว่าข้างกายนั้นเป็นเพื่อนของเธอ“เกล…ฉันหิว”ทันใดนั้นดวงตาหวานที่งัวเงียอยู่กลับเบิกโพลงขึ้นทัใดที่ได้ยินเสียงนั้น เสียงชั่งคุ้นเหลือเกินคงไม่ใช่คุณโอบหรอกนะ“เกลฉันหิว” เสียงแหบพร่านั้นดังขึ้นมาอีกครั้งจากทางด้านหลังของเธอมือหนาเริ่มเค้นคลึงอกอวบจนมือบางพยายามปัดป้องมือหนาออกจากอกของเธอร่างสูงพลิกกายขึ้นครอมร่างบางโยมีผ้าห่มคลุมกายของทั้งสองเอาไว้ทว่าทันที่ที่เห็นว่าคนตรงหน้าเป็นใคร ร่างบางสะบัดดีดดิ้นให้พ้นจากร่างสูงแต่ไม่เป็นผล ยิ่งเธอดิ้นมาเท่าไร เขาก็ยิ่งบีเข้าที่ข้อมือเธอแรงเท่านั้น“อย่าทำเป็นสะดีดสะดิ้งไปหน่อยเลย”“เจ็บปล่อยนะ ไอ้บ้า ไอ้คุณ...”ริมฝีปากบางระเรื่อถูกใช้ริมฝีปากของเขากักปกปิดเสียงด่าทอหวานๆไว้จนมิดทำให้ร่างเล็ก
ร้านอาหารบรรยากาศดีกึ่งผับกึ่งสถานที่นั่งชิวเหมาะแก่การพบปะสังสรรกันเสียมากกว่า มีดนตรีสดเคร้าคลอเบาๆตามสไตล์ ร่างบางเดินเข้ามาภายในร้านมองหาโต๊ะเพื่อนสนิท การแต่งตัวของหญิงสาวในคืนนี้เธอนั้นไม้ได้ถามปลายฟ้าว่าแต่ตัวโทนไหนร่างบางจึงเลือกชุดที่จะเข้ากับสถานที่สี่สุด เสื้อซีทรูสีดำบางเบาสวมทับกับบราสีทำนั้นไม่ได้ทำให้โป๊มากนัก สวมตัดกับกางเกงยีนสีเข้มรองเท้าผ้าใบ ในสมัยนี้ไม่ค่อยมีคนนิยามใส่ร้องเท้าจำพวกร้องเท่าส้นสูงกันแล้วถึงมีจะน้อยมามักใส่ในงานสำคัญ แต่กับเกวลินที่ต้องใส่รองเท้าส้นสูงตอนที่ทำงาน แต่วันปกติธรรมดาหรือวันเที่ยว เธอมักจะสวมใส่อะไรที่สบายๆที่สุดไม่ยุ่งยากกับชีวิตประจำวัน แค่งานที่ทำก็ยุ่งมากพอแล้ว คืนนี้ขอสนุกกับเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมานานบ้าง“แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะนะปลาย มีความสุขมาก ๆ แล้วก็ขอใหสวยวันสวยคืน” หญิงสาวเอ่ยอวยพรก่อนจะยื่นกล่องของขวัญที่เธอนั้นตั้งใจเลือกมาให้เพื่อนสนิท จากนั้นกลุ่มเพื่อนสาวก็พากันนั่งดื่ม และคุยกันตามประสาคนที่ไม่ได้เจอกันนาน โดยที่ไม่รู้เลยว่ามีสายตาของใครบางคนนั้นจ้องร่างที่ใส่วางตาทว่ามีชายแปลกหน้าคนหนึ่งเดินเ
หลายสัปดาห์ผ่านไปหลังจากที่เกวลินนั้นขอออกไปหางานทำจากผู้เป็นป้านั้นท่านไม่ยอม จึงให้เธอมาทำงานกับโอบกุลแทน ในคราแรกโอบกุลนั้นไม่ยอมให้เธอมาเป็นผู้ช่วยของเขา โดยให้เหตุผลว่าหญิงสาวเพิ่งจะเข้ามาทำงานใหม่ ให้ไปฝึกงานกับแผนกต่าง ๆ ที่อยู่ภายในบริษัทของเขา มันจึงไม่แปลกถ้าหากว่าเธอนั้นจะกลับบ้านพร้อมกับวรรณวารีและสามี ทุกคนในบริษัทต่างรับรู้ว่าเกวลินเธอเป็นเพียงลูกของเพื่อนนางเท่านั้น เธอย้ายไปทำงานกับผู้คนมากมายหลากหลายแผนก แต่สิ่งที่เธอนั้นทำได้ดีที่สุดคืองานบริหารจากต่างประเทศ เก่งในการวางแผนและตัวเลข เธอมีความสุขที่ได้ทำมันแต่บางครั้งมันก็น่าปวดหัวเหลือเกิน มันทำให้เธอนั้นคิดแต่เรื่องงานไม่คิดถึงเรื่องอื่น ๆ ทุกครั้งหลังเลิกงานโอบกุลมักจะนำงานกลับมาด้วยโยนงานมาให้เธอทำบอกว่าเด็กฝึกงานควรทำทุกอย่างที่เจ้านายสั่งเธอก็ต้องนั้นทำอย่างไม่เกี่ยงงอนหญิงสาวชอบลงมานั่งทำงานที่ห้องนั่งเล่นหรือไม่ก็ห้องครัว ร่างบางตั้งใจทำงานตรงหน้าให้เสร็จจากนั้นหอบงานที่ทำเรียบร้อยแล้วขึ้นชั้นสองอาบน้ำพักผ่อนตามเวลาของเธอตจะได้ไม่ตื่นสาย เพราะหลังจากนี้เธอต้องไปเป็นผู้ช่วยขอ