ห้าเดือนผ่านไป
หลังจากที่กัญญ์วราถูกลากออกไปดูสถานที่จริงกับเขาเมื่อเดือนก่อน หลังจากที่กลับมาทั้งสองก็ออกไปพบปะกันบ้างเพื่อที่จะอัพเดตงานแต่สองเดือนให้หลังมานี้หญิงสาวมักหลบหน้าหลบตาชายหนุ่มเสมอ ในบางครั้งที่นัดอัพเดตงานหญิงสาวมักจะมีข้ออ้างเสมอและฝากงานที่เธอทำนั้นให้กับผู้ช่วยของเธอไปพบลูกค้าหนุ่มพร้อมกับเจ้านายแทน
และวันนี้ก็คงเป็นเช่นเดิมที่เธอจะฝากผู้ช่วยของเธอไปพบแทน งานของพัสกรนั้นคืบหน้าไปแล้วเกือบหกสิบเปอร์เซ็นต์ แต่ทุกครั้งที่ไปพบงานที่เธอทำนั้นมักจะถูกตีกลับมาเสมอ
โดยที่เขานั้นให้เหตุผลว่าไม่ชอบในส่วนนั่น ต้องปรับในส่วนนี้ เอาตรงนั้นตรงนี้ออกบ้าง สิ่งที่ต้องแก้ไขส่วนใหญ่มักจะเป็นในส่วนของบ้านพักของเขา ส่วนของรีสอร์ทนั้นเรียบร้อยตั้งแต่สองเดือนที่ผ่านมาแล้วแต่ก็ไม่รู้ว้าพัสกรอยากจะเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างหรือไม่
“พี่แก้วตารอบนี้จะให้อายออกไปพบคุณพัสกรพร้อมกับบอสอีกแล้วเหรอคะ” ผู้ช่วยสาวถามด้วยน้ำเสียงเนือย ๆ เป็นกังวล
“มีอะไรรึเปล่าทำไมทำน้ำเสียงเป็นแบบนั้นล่ะ”
“ก็คุณพัสกรสิคะพี่แก้ว งานที่พี่แก้วแก้ไปก็ตรงจุดทุก
กัญญ์วรากลับมาห้องทำงานและจัดการแก้แบบที่พัสกรต้องการอีกครั้งหลังจากที่ตกลงกันไปตอนแรกจำนวนห้องพักที่สร้างใหม่สิบสองห้องจะใช้แบบและการตกแต่งไปในรูปแบบเดียวกัน แต่ที่คุยล่าสุดเขาอยากให้ปรับรูปแบบของห้องพักให้มีหลากหลายสไตล์คละเคล้ากันไป หญิงสาวจึงจัดการดูแบบเดิมที่เธอทำและปรับใหม่อีกครั้งจนเวลาล่วงเลยมาในช่วงเวลาเลิกงาน“อายขอตัวกลับก่อนนะคะพี่แก้ว” ผู้ช่วยสาวเปิดประตูเข้ามาและบอกหญิงสาว หญิงสาวพยักหน้ารับ“แล้วพี่แก้วกลับตอนไหนคะ”“อีกสักพักพี่ก็กลับแล้ว อายกลับดี ๆ นะ” ลับหลังผู้ช่วยสาวหญิงสาวจัดการงานของตนอีกเล็กน้อยก่อนจะเก็บของกลับบ้านร่างบางเดินมายังหน้าบริษัท วันนี้หญิงสาวนั้นไม่ได้ขับรถยนต์ส่วนตัวของตนนั้นมา เธอจึงเดินมายังหน้าบริษัทเพื่อที่จะเรียกรถแท็กซี่ที่จะเดินทางกลับคอนโดของเธอ แต่ในระหว่างที่เธอนั้นเดินก้มหน้าก้มตาหาของในกระเป๋าร่างบางนั้นก็ปะทะชนกับอะไรบางอย่างทำให้หญิงสาวนั้นเงยหน้าขึ้นมาก็พบกับร่างสูงของลูกน้องคนสนิทของพัสกร“อุ๊ย”“เอ่อ…คุณนิค มีอะไรกับฉันหรือเปล่าคะ” หญิงสาวถามอย่างสุภาพกับคนตรงหน้า“ผมไม่ม
สองเดือนก่อนหน้าสองเดือนก่อนหน้านี้ กัญญ์วราออกแบบห้องรอบสุดท้ายเรียบร้อยตามที่ชายหนุ่มต้องการ เมื่อเขาชอบเธอก็พลอยโล่งอกดีใจที่ไม่ต้องมานั่งแก้งานในจุดเดิม ๆ ซ้ำไปมาตามใจลูกค้าหนุ่มเรียบร้อยแล้วแต่เขาก็หารเองให้เอทำงานให้อย่างคนเอาแต่ใจอยู่ร่ำไป ในบ่อยครั้งที่เธอนั้นจะเดินทางกลับกรุงเทพ หลังจากที่คอยมาดูความเคลื่อนไหวของงาน ทุกครั้งเมื่อถึงวันกำหนดที่เธอต้องการจะกลับจะคอยมีข้อความจากเจ้านายหนุ่มอย่างทินกรถูกส่งมาทุกครั้งอย่างรู้เวลาบอกให้เธอดูงานดูแลความเรียบร้อยให้ดีบ่อยครั้ง และทุกครั้งข้ออ้างและคำสั่งมักจะแตกต่างกันออกไปเสมอราวกับมีใครคอยบงการอยู่อย่างใดอย่างนั้นในวันนี้เธอได้พักฝนอย่างเต็มที่หลังจากที่ต้องแก้งานอยู่หลายวัน หญิงสาวจึงอยากพักผ่อนโดยการไปนั่งดื่มแอลกฮอลล์ชิล ๆ อยู่ภายในบาร์ของทางรีสอร์ทของพัสกรที่เธอนั้นพึ่งรู้เมื่อไม่นานนี้ว่ามีที่แบบนี้อยู่ด้วยแต่ดีหน่อยที่วันนี้พัสกรออกไปงานเลี้ยง สำคัญกว่าจะกลับก็คงดึกจะได้ไม่ต้องเจอคนบ้าอำนาจอย่างเขาแล้วทำให้เธอหงุดหงิดบ่อยครั้งกัญญ์วราสวมเสื้อเชิดแ
“ปล่อยฉันนะคุณพัสกร … คุณจะพาฉันไปไหน” หญิงสาวโวยวายและพยายามบิดข้อมือให้หลุดจากการเกาะกุมจากชายหนุ่ม ขืนตัวสุดแรงแต่ก็ไม่เป็นผล “อย่าดิ้นเดินตามมาดี ๆ ” ชายหนุ่มสั่งเสียงแข็งแววตาดุดัน “ฉันไม่ไปฉันจะไปที่อื่น” ร่างบางยังคงดื้อดึง “ทำไมดื้อแบบนี้วะ…ไม่เห็นเหมือนคืนนั้นเลย” ว่าแล้วชายหนุ่มจับหญิงสาวขึ้นพาดบ่าเดินตรงไปยังบ้านพักทันที ทันใดนั้นที่เปิดประตูห้องเข้าไปนั้น ร่างสูงรีบเดินดิ่งเขาไปในห้องนอนทันที ชายหนุ่มโยนหญิงสาวลงบนเตียงนุ่มก่อนที่ร่างสูงจะตามขึ้นมาคร่อมเหนือร่างบางเพื่อกักตัวหญิงสาวเอาไว้ไม่ให้กระดิกตัวไปไหน กัญญ์วราจ้องมองการกระทำของพัสกรอย่างหวาดหวั่น&n
หนึ่งสัปดาห์ต่อมากหลังกลับมาจากกระบี่ที่ไปดูงาน วันนี้เป็นวันหยุดของกัญญ์วรา หญิงสาวอยากพักผ่อนโดยการไปเดินช๊อปปิ้งซื้อของตามประสาผู้หญิงบ้างเพราะช่วงหลัง ๆ เธอนั้นไม่ค่อยได้มาเดินที่ห้างสรรพสินค้าเลย ต้องทำงานให้กับบริษัท ไหนจะแก้งานให้กับลูกค้าที่แสนเรื่องมากอย่างพัสกร ยังไม่รวมที่ต้องเทียวไปเทียวมาระหว่างกรุงเทพกับกระบี่อีก กัญญ์วรานั้นแต่ตัวอยู่ในชุดสบาย ๆ ไม่ยุ่งยากในการเลือกมากนัก ไม่นานสาวใบหน้าหวานก็เดินลงมายังลานจอดรถภายใต้คอนโดที่เธอพักอาศัยตรงไปห้างสรรพสินค้าชั้นนำที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลเธอเดินซื้อของเข้าร้านนั้นมาร้านนี้เลือกซื้อของจำอิ่มใจแล้วหญิงสาวเดินลงไปยังซุปเปอร์มาร์เก็ตที่อยู่ข้างล่างของห้างแห่งนี้ร่างบางกำลังเดินซื้อของใช้ส่วนตัวและของใช้ภายในบ้านที่ต้องซื้ออยู่หลายอย่างและยังไม่ลืมที่จะซื้อผักสด เนื้อสัตว์ เพื่อไปทำอาหารไว้ทานตอนเย็นนี้ ข้าวของมากมายถูกถ่ายจากรถเข็นไปยังท้ายรถจากนั้นหญิงสาวก็ขับรถกลับบ้านของเธอทันทีทันทีที่หญิงสาวหอบข้าวของต่าง ๆ ขึ้นมาบนห้องก็พบคนที่เธอนั้นพยาย
ผู้คนมากมายภายในบริษัทของทินกรต่างวุ่นวายกับงานของตนแต่แล้วก็มีพนักงานส่งของปรากฏตัวขึ้นพร้อมดอกกุหลาบสีแดงช่อโตในมือ ทำให้พนักงานทั้งหลายต่างมองไปยังประตูเป็นตาเดียวกัน ทำให้พนักงานสาวคนหนึ่งกำลังเดินไปหาพนักงานส่งดอกไม้คนนั้น “ขอโทษนะครับ บริษัทนี้มีคนที่ชื่อ คุณกัญญ์วราไหมครับ” พนักงานส่งดอกไม้เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ “อ๋อ…มีค่ะ” “รบกวนคุณผู้หญิงเซ็นต์รับให้ผมหน่อยได้ไหมครับ” “ได้ค่ะ” พนักงานสาวตอบก่อนลงมือเขียนเอกสารที่ส่งให้และรับดอกไม้ ไม่วายที่จะชื่นชมช่อดอกไม้ที่อยู่ในมือ พลันสายตาเห็นการ์ดใบเล็กที่สอดอยู่ ‘ดอกไม้สวยๆของคุณ
“อย่าดื้อได้มั้ย” บอกเสียงเข้มแบบไม่ต้องการคำตอบแต่กับใช้ริมฝีปากจูบปิดเสียงคนดื้อให้เงียบทันทีไม่นานคนมีประสบการณ์มากกว่าก็ปราบพยศคนตัวเล็กได้สำเร็จเขาใช้ความช่ำชองหลอกล่อทำให้เธอเคลิ้มไปกับทุกสัมผัสแสนร้ายกาจของคนเจ้าเล่ห์อย่างเขา อย่างไม่สามารถถอนตัวขึ้นได้เขาทั้งเรียกร้องและตักตวงความสุขจากร่างบางอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยผิดกับอีกคนที่แทบจะอยากหายตัวไปจากตรงนี้เพราะโดนเขารังแกอย่างไม่รู้จักพอ“พ..พอแล้ว!!...พรุ่งนี้แก้วต้องทำงานนะ”ร่างบางร้องห้ามคนเอาแต่ใจที่เริ่มมายุ่มย่ามกับร่างกายของเธออีกครั้งหลังจากเพิ่งโดนเขาเอาเปรียบไปเมื่อครู่นี้“ไม่พอ…ไปสาย ๆ ก็ได้”เขาตอบอย่างเอาแต่ใจแล้วใช้มือลูบไล้ไปทั่วร่างกายหล่อนอย่างถือสิทธิ์“แต่แก้วเหนื่อยแล้วนะ…พอเถอะนะคะพี่ภีม”เช้าวันใหม่ใบหน้าหล่อเหลาของพัสกรนั้นเกยแนบอยู่กับหน้าอกหน้าใจของคนที่หลับใหลอยู่ มองใบหน้าหวานอย่างหลงใหล เรากับคนที่กำลังหลงเมียตัวเองขนตาหนาเป็นแพรขยับน้อย ๆ เมื่อรู้สึกว่ากำลังมีอะไรมากวนกับร่างกายของเธอร่างบางค่อย ๆ ลืมตาขึ้นพบกับคนที่เอาเปรียบเธอเมื่อคืนก
สามวันหลังจากที่เกิดเรื่องขึ้นกัญญ์วรากลับมาอยู่ที่คอนโดเดิมของเเธอเอาของสำคัญไม่ไว้ห้องเขาและแน่นอนเธอเอากลับมาหมดไม่ให้เหลือวันนี้กัญญ์วรามาทำงานด้วยใบหน้าหมองหม่นและเป็นเวลาเดียวกันที่เธอเดินสวนกับทินกร เธอจึงบอกว่ามีเรื่องสำคัญที่อยากคุยด้วย ชายหนุ่มก็เข้าใจเพราะเห็นใบหน้าของคนที่เขาเอ็นดูเหมือนน้องสาวแท้ ๆ นั้นเศร้าเหลือเกิน“มีเรื่องอะไรรึเปล่าแก้ว”“พี่ทิน แก้วจะขอลาออกค่ะ”เจ้านายหนุ่มนั้นตกใจในสิ่งที่ได้ยินไม่นึกไม่ฝันว่าเธอนั้นจะลาออก“มีเรื่องอะไรไม่สบายใจเล่าให้พี่ฟังได้ไหม” หญิงสาวหายใจเข้าลึกๆก่อนเล่าเรื่องราวให้ทินกรได้ฟังก่อนถามเรื่องงานที่ทำให้กับพัสกรจะเอายังไงถ้าไม่ทำต่อเราต้องจ่ายเสียหายให้เขา“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะพี่ทิน เขาเป็นคนบอกเองว่าไม่ให้แก้วทำงานของเขา แก้วจะให้คนอื่นมาดูแลแทน แล้วอีกอย่างสัญญาเราทำกับเขา แก้วแค่ทำงานให้เค้าจนครบสาวเดือนเท่านั้น แต่นี้มันเลยมาหกเดือนแล้วฉะนั้นเราไม่ได้ผิดข้อตกลงอะไรข้อไหนกับเขา” เจ้านายหนุ่มพยักหน้า“ส่วนเรื่องลาออกพี่ทินเซ็นต์ให้แก้วเถอะนะคะ”“ไม่…พี่เรื่องนี้พี่จะคิ
“คุณมาที่นี่ทำไมคะ” “พี่…คิดถึงเธอแก้วตา” ร่างสูงบอกเสียงแผ่วเบา ก่อนที่จะเดินเข้าไปหาร่างบางหมายคว้าเธอเข้ามากอดแต่ยิ่งก้าวเท่าไรเธอก็ร่นถอยหนีเท่านั้น“ออกไปจากบ้านของฉัน” “ไม่…พี่จะไม่ไปไหนทั้งนั้น…ถ้าที่นั่นไม่มีเมียพี่” “เฮอะ…คุณคงเข้าใจผิดแล้วค่ะ ฉันไม่ได้เป็นเมียคุณ” แววตาหวานตอนนี้เปลี่ยนเป็นแววตาว่างเปล่าจนคนมองรู้สึกใจหาย “แก้วเป็นเมียพี่ แก้วต้องอยู่กับพี่ รู้ไหมว่าพี่ตามหาแก้วมาตลอด” พัสกรเอ่ยอย่างจริงจัง “คุณบอกฉันเองไม่ใช่เหรอคะ ว่าอย่ามาให้คุณเห็นหน้าอีก แล้วจะตามหาฉันทำไม”
มีอยู่คืนหนึ่งโอบกุลไม่กลับบ้านแล้วไม่ยอมโทรกลับมาบอกว่าจะกลับบ้านเกินเวลาโดยปกติคนติดเมียอย่างเขาจะยอมห่างอกเมียจนเพื่อนของชายหนุ่มนั้นอดแซวไม่ได้ วันนั้นก่อนที่เธอนั้นจะขึ้นนอนเพราะเกวลินเบื่อที่จะเขาโอบกุลกลับบ้านเต็มทนแล้ว แต่แล้วเธอก็เปิดเข้าแอพพลิแคชั่นยอดฮิตติดอันดับโลกที่มีผู้คนมากมายใช้งาน จากนั้นเธอก็เข้าไปในไอจีสตอรี่แล้วเลื่อๆปัดๆไปมา เห็นเพื่อนของชายหนุ่มลงเรื่องราวไว้เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน จึงกดเข้าดูแต่แล้วสายตาหวานของเกวลินเห็นร่างของโอบกลุสามีของเธอกำลังนั่งกอดกดสาวสวยอยู่ภายในสถานบันเทิงแห่งนั้น“อิพี่โอบ ไม่ยอมกลับบ้าน แต่กลับไปนัวสาว มันน่านักนะ” มือบางกำโทรศัพท์เครื่องหรูราคาแพงด้วยความขุ่นเคือง ก่อนจะเดินขึ้นชั้นสองแต่ วรรณวารีลงมาจากชั้นบนเห็นหน้าของเกวลินงอง้ำจนนางต้องถามหญิงสาว“เกลเป็นอะไรไปลูก” หญิงสาวมองหน้าแม่ของสามี“ก็พี่โอบสิคะ ไม่ยอมกลับบ้าน” หญิงสาวยังไม่ทันจะเอ่ยจบประโยควรรณวารี“ก็ปกติของพี่เขานิลูก พี่เขาทำงานตอนนี้อาจจะไปพบลูกค้าก็ได้”“ไปพบลูกค้าตอนสี่ทุ่มเนี้ยนะคะ แล้วเมื่อกี้นี้เกลเล่นไอจีเห็นพี่โอบกับลังกอดผ
“ว่าไงนะ เกวลินยังไม่กลับ”โอบกุลเอ่ยถามป้านอมแต่ต้องหันควับทันที่เมื่อได้ยินทำใหผู้เป็นพ่อเป็นอม่อดตกใจกับอาการร้อนรนของลูกชายจนอดยิ้มไม่ได้“จะตกใจทำไมตาโอบ น้องแค่ยังไม่กลับบ้าน”“แต่แม่ครับ…นี่มันจะสามทุ่มแล้วนะครับ เกลออกจากบริษัทตั้งแต่เที่ยง ตอนนี้ยังไม่ถึงบ้านเกิดอะไรขึ้นรึเปล่าก็ไม่รู้” ท่าทางร้อนรนกระวนกระวายอย่างเห็นได้ชัดของโอบกุล“ทำไมวันนี้ดูเป็นห่วงน้องแปลกๆมีอะไรจะบอกพ่อกับแม่มั้ย”“ไม่มีครับ” ชายหนุ่มเฉไฉ“ถ้าโอบไม่บอก…แม่ก็ไม่บอกเหมือนกันว่าน้องอยู่ไหน”โอบกุลนิ่งไปครู่หนึ่งชั่งใจว่าจะบอกความสัมพันธ์ของเธอกับเขาดีไหม ก่อนที่จะถอนหายใจเฮือกใหญ่และเล่าเรื่องทุกอย่างและความสัมพันธ์ให้บิดาและมารดาได้รับทราบ หลังจากนั้นเขาก็โดนบิดาสวดเสียยกใหญ่ที่ทำมิดีมิร้ายน้องแบบนั้น“เอาจริงๆนะตาโอบ…แม่รู้เรื่องของโอบกับยัยเกลมาสักพักแล้ว แม่ไม่อยากก้าวก่าย แม่แค่รอเวลาให้โอบกับเกลเข้ามาบอกแม่เองเท่านั้น เรื่องความรักแม่ไม่ได้ว่าแต่ต้องทำให้มันถูกต้อง”“ผมขอโทษครับคุณพ่อคุณแม่ แล้วเกลอยู่ไหนครับแม่”นางส่ายหน้า
“วันนี้คุณโอบดูอารมณ์ดีจังนะ พวกแกว่ามั้ย”“ใช่ๆ ฉันสังเกตพักหลังๆที่คุณเกลเข้ามาทำงานคุณโอบก็อารมณ์ดีเป็นพิเศษวันนี้ก็เดินผิวปากเข้าเข้าห้องทำงานไปเลย” คำซูบซิบนินทาเจ้านายดังขึ้นอย่างเนือยๆไม่นานนักเกวลินก็เดินตามหลังโอบกูลเข้ามาภายในบริษัท การแต่งตัวของหญิงสาวนั้นเปลี่ยนไปจากเดิมเล็กน้อย เรียกได้ว่าเซ็กซี่ขึ้นเป็นเท่าตัว เธอสวมเสื้อแกาะอกสีขาวสวมเบลเซอร์สีเทา กางเกงสีเดียวกันกับเสื้อ เดินเข้ามาโดยแจกจ่ายยิ้มให้กะบทุกคนในตอนนั้น พนักงานต่างรับรู้ว่าเธอคือน้องสาวแต่ไม่รู้เบื้องลึกมากกว่านั้น พนักงานผู้ชายตอนที่เกวลินนั้นเข้ามาทำงานแรกๆนั้นต่างถูกแซวและขายจนมจีบอย่างจ้าละหวั่น แต่ก็ถูกสายตาดุดันของโอบกูลแทนแน่นอนว่าเขานั้นหวง หวงเมียตัวเองและยิ่งเห็นการแต่งตัวมาทำงานของเธอนั้นทำให้เขานั้นแทบอยู่ไม่สุข ยัยตัวแสบตังใจใส่ชุดนี้มายั่วเขาหรือยังไง แถมเดินเข้ามาภายในบริษัทสายตาใครต่อใครก็คงต้องจ้องมองเธอ มันน่านักนะ&nb
ท้องฟ้าสีครามสวยสดผสมกับเกลียวคลื่นที่สาดซัดขึ้นมาที่ฝั่ง สายลมอ่อนๆ พัดผ่านกายทำให้เกวลินนั่งนิ่งอยู่บนฝืนทรายเนียนละเอียด บรรยากาศรายล้อมทำให้เธอนั้นรู้สึกผ่อนคลายเหลือเกิน หญิงสาวนั่งถอนหายใจอยู่พักใหญ่ นัยต์ตาหวานทอดยาวไปยังท้องทะเลที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา ยากที่จะคาดเดาในบางครั้งว่ามันจะไปจบหรือสิ้นสุดที่ใดเช่นเดียวกับความสัมพันธ์ของเธอและโอบกุลผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพี่ชาย ที่ต้องคอยหลบ ๆ ซ่อน ๆ สายตาจากสายตาผู้คน จนในบางครั้งเธอนั้นอึดอัดเหลือเกินเสียงถอนลมหายใจอย่างหนักหน่วงราวกับหาทางออกให้ความสัมพันธ์นี้ครั้งแล้วครั้งเล่าของหญิงสาวนัน้ทำให้ไม่ได้สังเกตุสภาพแวดล้อมข้างกายตนว่ามีร่างสูงของใครบางคนเดินเข้ามาทรุดกายนั่งบนผืนทราบข้างๆเธออย่างเงียบเชียบจ้องมองใบหน้าหวานอยู่หลายนาที“มองอะไรคะ”ร่างเล็กที่นั่งมองทอดยาวไปยังท้องทะเลแต่ความรู้สึกเหมือนมีใครกำลังจ้องมองเธออยู่ และเมื่อหันไปก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆคือโอบกุลกำลังจ้องเธออยู่“มองความสวยเมีย”ไม่วายส่งยิ้มอบอุ่นให้เธอแถมด้วยวาจาหยอกล้อหญิงสาวจนมีอาการขวยเขินไม่น้อย เพราะเวลาที
ความสัมพันธ์ของโอบกุลและเกลวินที่คนในบ้านนั้นมองเห็นคือความสัมพันธ์พี่น้องที่พัฒนาไปได้สวยไม่เหมือนแต่ก่อน แต่ความจริงแล้วทั้งสองมีสถานะที่ไม่อาจให้คนในบ้านล่วงรู้ได้ทุกคืนโอบกุลแอบเข้ามาหาเกวลิน ตักตวงความสุขจากร่างบางอยู่ร่ำไป จนหญิงสาวเองนั้นกลัวถ้าเข้าเข้ามาหาเธอแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง สิ่งที่เขาสั่งเธอให้ปกปิดในทุก ๆ คืนนั้นจะปิดไม่อยู่เป็นแน่ทุกครั้งที่อยู่ต่อหน้าคนในบ้านไม่ว่าจะเป็น วรรณวารี ชัดชัย รวมถึงเหล่าแม่บ้านทั้งหลาย เธอจำเป็นต้องเว้นระยะห่างออกจากเขาบ้าง แต่ไม่วายเพราะการกระทำของหนุ่มสาวทั้งสองนั้นทำให้วรรณวารีอดสงสัยในตัวบุตรชายและหลานสาวไม่ได้“ยัยเกลอยู่ไหนเหรอมะลิ” นางหันไปถามแม่บ้านที่นำน้ำมาวางให้“คุณเกล มะลิเห็นรดน้ำต้นไม้อยู่ในสวนค่ะ”“ไปตามหาหาฉันหน่อยสิ” มะลิพยักหน้ารับก่อนจะเดินไปทำตามคำสั่งของผู้เป็นนายทันที“มีอะไรจะคุยกับยัยเกลหรือคุณ” ผู้เป็นสามีหันไปถามภรรยา“มีเรื่องอยากทำและสงสัยนิดหน่อย” ชัดชัยมองหน้าภรรยาก่อนจะมองไปยังประตูเมื่อบุตรชายเดินเข้ามาพอดี“ทำไมวันนี้กลับไวจังล่ะตาโอบ” นางเอ่ยถามบุตร
หลายวันผ่านมานับจากคืนนั้นเกวลินก็เอาแต่หลบหน้าหลบตาจากชายหนุ่มอยู่บ่อยครั้ง ถึงแม้ว่าเวลาทำงานเขาจะย้ายเธอให้มาทำงานใกล้ๆเขา จากที่ทำงานอยู่หน้าห้องตอนนี้เขาย้ายโต๊ะเธอมาอยู่ภายในห้องกับเขาเรียบร้อยทำให้หญิงสาวอึดอัดไม่น้อยเมื่อกลับถึงบ้านเธอก็ตรงขึ้นห้องทันที่เมื่อถึงเวลาค่อยลงมา โอบกุลและเกวลินเจอกันเพียงบางเวลาเท่านั้นคุยกันแทบจะนับคำได้ ในวันนี้โอบกุลทานอาหารค่ำเรียบร้อยเดินเลี่ยงออกมาก่อนโดยให้เหตุผลว่าเขามีงานต้องจัดการหลังจากที่เกวลินจัดการเก็บของทุกอย่างในครัวเรียบร้อย ทุกคนในบ้านต่างพากันแยกย้าย ๆ ไปอยู่ในที่ของตนเอง หญิงสาวก็เช่นกันกลับเข้ามาในห้องโดยไม่ลืมที่จะล็อกห้องของตนเป็นประจำทุกครั้ง แค่แล้วหลังจากที่เงยหน้าจากหน้าจอโทรศัพท์ก็ต้องตกใจเมื่อพบคนที่เดินออกมาจากห้องครัวเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน กำลังนอนกระดิกเท้า มือสอดรองศีรษะอย่างสบายใจราวกับห้องนี้คือห้องของตัวเองเสียงอย่างนั้น&
เข้าวันใหม่“อื้อ…อย่ากวนน่าคนจะนอน” เกวลินครางออกมาเมื่อเหมือนมีอะไรบางอย่างมายุ่งวุ่นวายกับหน้าอกหน้าใจของหญิงสาว“ดื่น…เกลตื่น” ร่างสูงคลอเคลียซอกคอหองกรุ่นปลุกปั้นอารมณ์พิศวาสในกายของหญิงสาวอีกครั้ง“จะทำอะไรอีก...เกลยังง่วงอยู่เลยนะปลาย” ร่างบางงัวเงียตอบกับโดยคิดว่าข้างกายนั้นเป็นเพื่อนของเธอ“เกล…ฉันหิว”ทันใดนั้นดวงตาหวานที่งัวเงียอยู่กลับเบิกโพลงขึ้นทัใดที่ได้ยินเสียงนั้น เสียงชั่งคุ้นเหลือเกินคงไม่ใช่คุณโอบหรอกนะ“เกลฉันหิว” เสียงแหบพร่านั้นดังขึ้นมาอีกครั้งจากทางด้านหลังของเธอมือหนาเริ่มเค้นคลึงอกอวบจนมือบางพยายามปัดป้องมือหนาออกจากอกของเธอร่างสูงพลิกกายขึ้นครอมร่างบางโยมีผ้าห่มคลุมกายของทั้งสองเอาไว้ทว่าทันที่ที่เห็นว่าคนตรงหน้าเป็นใคร ร่างบางสะบัดดีดดิ้นให้พ้นจากร่างสูงแต่ไม่เป็นผล ยิ่งเธอดิ้นมาเท่าไร เขาก็ยิ่งบีเข้าที่ข้อมือเธอแรงเท่านั้น“อย่าทำเป็นสะดีดสะดิ้งไปหน่อยเลย”“เจ็บปล่อยนะ ไอ้บ้า ไอ้คุณ...”ริมฝีปากบางระเรื่อถูกใช้ริมฝีปากของเขากักปกปิดเสียงด่าทอหวานๆไว้จนมิดทำให้ร่างเล็ก
ร้านอาหารบรรยากาศดีกึ่งผับกึ่งสถานที่นั่งชิวเหมาะแก่การพบปะสังสรรกันเสียมากกว่า มีดนตรีสดเคร้าคลอเบาๆตามสไตล์ ร่างบางเดินเข้ามาภายในร้านมองหาโต๊ะเพื่อนสนิท การแต่งตัวของหญิงสาวในคืนนี้เธอนั้นไม้ได้ถามปลายฟ้าว่าแต่ตัวโทนไหนร่างบางจึงเลือกชุดที่จะเข้ากับสถานที่สี่สุด เสื้อซีทรูสีดำบางเบาสวมทับกับบราสีทำนั้นไม่ได้ทำให้โป๊มากนัก สวมตัดกับกางเกงยีนสีเข้มรองเท้าผ้าใบ ในสมัยนี้ไม่ค่อยมีคนนิยามใส่ร้องเท้าจำพวกร้องเท่าส้นสูงกันแล้วถึงมีจะน้อยมามักใส่ในงานสำคัญ แต่กับเกวลินที่ต้องใส่รองเท้าส้นสูงตอนที่ทำงาน แต่วันปกติธรรมดาหรือวันเที่ยว เธอมักจะสวมใส่อะไรที่สบายๆที่สุดไม่ยุ่งยากกับชีวิตประจำวัน แค่งานที่ทำก็ยุ่งมากพอแล้ว คืนนี้ขอสนุกกับเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมานานบ้าง“แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะนะปลาย มีความสุขมาก ๆ แล้วก็ขอใหสวยวันสวยคืน” หญิงสาวเอ่ยอวยพรก่อนจะยื่นกล่องของขวัญที่เธอนั้นตั้งใจเลือกมาให้เพื่อนสนิท จากนั้นกลุ่มเพื่อนสาวก็พากันนั่งดื่ม และคุยกันตามประสาคนที่ไม่ได้เจอกันนาน โดยที่ไม่รู้เลยว่ามีสายตาของใครบางคนนั้นจ้องร่างที่ใส่วางตาทว่ามีชายแปลกหน้าคนหนึ่งเดินเ
หลายสัปดาห์ผ่านไปหลังจากที่เกวลินนั้นขอออกไปหางานทำจากผู้เป็นป้านั้นท่านไม่ยอม จึงให้เธอมาทำงานกับโอบกุลแทน ในคราแรกโอบกุลนั้นไม่ยอมให้เธอมาเป็นผู้ช่วยของเขา โดยให้เหตุผลว่าหญิงสาวเพิ่งจะเข้ามาทำงานใหม่ ให้ไปฝึกงานกับแผนกต่าง ๆ ที่อยู่ภายในบริษัทของเขา มันจึงไม่แปลกถ้าหากว่าเธอนั้นจะกลับบ้านพร้อมกับวรรณวารีและสามี ทุกคนในบริษัทต่างรับรู้ว่าเกวลินเธอเป็นเพียงลูกของเพื่อนนางเท่านั้น เธอย้ายไปทำงานกับผู้คนมากมายหลากหลายแผนก แต่สิ่งที่เธอนั้นทำได้ดีที่สุดคืองานบริหารจากต่างประเทศ เก่งในการวางแผนและตัวเลข เธอมีความสุขที่ได้ทำมันแต่บางครั้งมันก็น่าปวดหัวเหลือเกิน มันทำให้เธอนั้นคิดแต่เรื่องงานไม่คิดถึงเรื่องอื่น ๆ ทุกครั้งหลังเลิกงานโอบกุลมักจะนำงานกลับมาด้วยโยนงานมาให้เธอทำบอกว่าเด็กฝึกงานควรทำทุกอย่างที่เจ้านายสั่งเธอก็ต้องนั้นทำอย่างไม่เกี่ยงงอนหญิงสาวชอบลงมานั่งทำงานที่ห้องนั่งเล่นหรือไม่ก็ห้องครัว ร่างบางตั้งใจทำงานตรงหน้าให้เสร็จจากนั้นหอบงานที่ทำเรียบร้อยแล้วขึ้นชั้นสองอาบน้ำพักผ่อนตามเวลาของเธอตจะได้ไม่ตื่นสาย เพราะหลังจากนี้เธอต้องไปเป็นผู้ช่วยขอ