ร่างบอบบางขยับตัวตื่นในยามที่แสงแดดสาดส่องลอดเข้ามาภายในห้อง หญิงสาวลุกขึ้นนั่งพิงกับหัวเตียงพร้อมกับบิดกายราวกับไล่ความเมื่อยล้าที่สะสมอยู่ในกายมานานแสนนาน บิดซ้ายบิดขวาไปมา สายตาหวานมองหาโทรศัพท์มือถือของตนและเอื้อมไปหยิบขึ้นมาดูเวลา
“ตายล่ะ…สายแล้วบอสด่าตายเลย”
หลังจากที่ดูเวลาที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือซึ่งเลยเวลาเข้างานมานับชั่วโมงหญิงสาวรีบดีดตัวลุกจากที่เตียงนอนหนานุ่มวิ่งเข้าห้องน้ำจัดการอาบน้ำแต่งตัวออกไปทำงานทันที
วันนี้กัญญ์วราไม่ได้แต่งหน้าเข้าบริษัทเพียงแค่ทาลิปสติกกับเขียนคิวเท่านั้น เพื่อไม่ใหดูป่วยจนเกินไป สำหรับผู้หญิงเราไม่มีคิ้วแทบจะไม่กล้าออกไปไหนเลย ร่างสูงเพรียวของอินทิเรียสาวคนสวยเดินเข้ามายันแผนกของตน เมื่อเธอเดินเข้ามาทุกคนต่างทำความเคารพเธอทั้ง ๆ ที่เธอก็ไม่ได้อายุมากเท่าไรนัก อาจจะเป็นเพราะเธอนั้นทำงานที่นี่มาตั้งแต่ก่อนเรียนจบละมั้ง
“พี่แก้วขา…บอสเรียกพบพี่แก้วค่ะ” ผู้ช่วยส่วนตัวของกัญญ์-วราบอกกับหญิงสาวที่พึ่งจะเข้าบริษัทไม่ไม่กี่นาทีนี้
“บอส…บอสจะพบพี่เนี่ยนะ” หญิงสาวเอ่ยทวนอีกครั้ง
“ใช่ค่ะพี่แก้ว…เห็นถามหาพี่แก้วตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ บอสบอกว่าถ้าพี่เข้าบริษัทแล้วให้ไปหาที่ห้องด่วนเลยค่ะ”
“โอเค…ขอบใจมากจ๊ะ” หญิงสาวกล่าวขอบคุณและยิ้มให้คนตรงหน้า ก่อนกลับหลังเดินไปยังห้องของเจ้านายทันทีแทนที่จะเดินเอาของไปเก็บที่ห้องทำงานของตน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“บอสขา…แก้วมาแล้วค่ะ” เสียงหวานเอ่ยออดอ้อนดังมาจากด้านนอกห้อง
“แก้วเข้ามาได้เลยแล้ว…พี่ไม่ได้ล็อกประตู” เสียงเจ้านายหนุ่มเอ่ยอนุญาตคนหน้าห้อง
“ทำไมวันนี้มาทำงานซะสายโด่งป่านนี้”
“ก็ทำงานให้พี่นั่นแหละค่ะ กว่าจะได้นอนก็เกือบตีสาม เอ่อเห็นยัยอายบอกว่าพี่เรียกให้แก้วมาพบตั้งแต่เช้าพี่มีอะไรรึเปล่าคะ”
“พี่น่ะไม่มี…แต่คนโน้นน่ะมี” เสียงนุ่มอบอุ่นรุ่นพี่คนสนิทเอ่ยพร้อมชี้ไปยังโซฟาสีเบสตั้งอยู่มุมห้องก็พบลูกค้าหนุ่มหล่อนั่งรออยู่
“คุณ!” หญิงสาวร้องอย่างตกใจเมื่อเห็นพัสกรนั่งอยู่ภายในห้องนี้ด้วยเขามาทำไมที่นี่
“คุณมาทำอะไรที่นี่ไม่ทราบคะ”
“เมื่อวานคุณผิดนัดผม…ผมให้ลูกน้องมารับคุณก็ไม่ไป”
“ก็ฉันบอกแล้วไงคะ ว่าฉันจะขับรถไปเอง คุณแค่ส่งโลเคชั่นมาให้ฉันก็พอ” หญิงสาวเริ่มขึ้นเสียงอย่างไม่พอใจจนเจ้านายหนุ่มต้องเอ่ยปราม
“แก้วลูกค้า ใจเย็น ๆ ท่องไว้ลูกค้า” กัญญ์วราหายใจเข้าลึกๆราวกับสงบสติอารมณ์ของตนเองเอาไว้
“ไปกับผม” ลูกค้าหนุ่มเอ่ยขึ้นหลังจากที่เงียบมาครู่หนึ่ง
“ไปไหน...ฉันไม่ไป…ฉันจะไปทำงาน ส่งโลเคชั่นมาด้วยค่ะ ฉันจะขับรถไปเอง พรุ่งนี้”
“คุณทินกรครับ ผมขอยืมตัวคนของคุณสักวันสองวันนะครับ” เสียงเข้มเอ่ยเชิงขออนุญาตโดยไม่ถามเจ้าตัวแม้แต่นิ้ย แต่ไม่ทันไรก็คว้ามือเรียวของหญิงสาวพาออกไปทันที
“จะรอดมั้ยวะเนี่ย...งานนี้” ทินกรเอ่ยหลังจากที่ทั้งสองออกไปแล้วอย่างเหนื่อยใจ
“นี่คุณพัสกร คุณจะลากฉันไปไหนไม่ทราบคะ ฉันไม่ไปกับคุณหรอกนะ” หญิงสาวที่ถูกลากออกมานอกห้องโวยวายเสียยกใหญ่ทำให้พนักงานที่ทำงานอยู่หันมองเป็นตาเดียวกัน
“เมื่อวานผมให้คนของผมมารับคุณ คุณก็ไม่ไป วันนี้ผมจะพาไปดูสถานที่คุณยังจะโวยวายอีก” ชายหนุ่มหันมาเอ่ยเสียงเข้มอย่างมีอำนาจก่อนก้มลงกระซิบข้างใบหูเล็กพลางสุดกลิ่นหอม ๆ จากกายสาว
“จะไปกับผมดี ๆ หรือจะให้ผมใช้กำลัง” กัญญ์วราหันมองหน้าคนตัวสูงด้วยสายตาขุ่นเคืองและถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย
“โอเค…ฉันไปดูสถานที่กับคุณก็ได้”
เมื่อตกลงกันเรียบร้อยชายหนุ่มจึงเดินนำหน้าหญิงสาวไปยังรถยนต์ส่วนตัวของเขาซึ่งลูกน้องคนสนิทนั้นรออยู่หน้าบริษัทของเธอ
“ไปเลยไหมครับนาย” เจ้านายหนุ่มพยักหน้าและหันไปบอกกับหญิงสาวที่ยืนอยู่ทางด้านหลังให้ขึ้นรถ ส่วนตัวของเขาเองนั้นก็เดินอ้อมไปขึ้นอีกฝั่ง
มือเรียวกำลังจะเปิดประตูเข้าไปนั้นต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงทรงอำนาจของพัสกรดังขึ้น
“ผู้หญิงอะไรไม่มีมารยาทเอาซะเลย…ที่บอกให้นั่งไม่ใช่ข้างหลังแต่เป็นข้างหน้าโน่นที่ของคุณ” กัญญวรารู้สึกเสียหน้าไม่น้อยมองใบหน้าหล่อของชายหนุ่มแล้วเดินยังที่นั่งด้านข้างคนขับจัดการวางกระเป๋าของตนเอาไว้กับตักบางด้วยใบหน้าบอกบุญไม่รับก่อนที่รถยนต์คันหรูเคลื่อนตัวออกจากบริษัทเพื่อตรงไปยังสถานที่จุดหมายทันที
แต่ในระหว่างการเดินทางที่จะไปกระบี่นั้นอยู่ ๆ เสียงแจ้งเตือนของแอบพลิเคชั้นยอดฮิตดังขึ้นเธอจึงเปิดกระเป๋าหยิบขึ้นมาอ่าน
“ห้ามก่อเรื่องนะแก้ว…ท่องไว้ลูกค้า”
เมื่อเปิดอ่านก็พบว่าคนที่ส่งข้อความมาหาเธอนั้นคือเจ้านายของเธอ
“แก้วรู้ค่ะ…เรื่องงานก็คือเรื่องงานค่ะพี่ทิน”
“ดีแล้ว…อย่าให้คุณพัสกรมาบอกเรื่องของเธอกับพี่อีก” กัญญ์วราขมวดคิ้วเข้าหากันเมื่อได้อ่านข้อความ
“เขาฟ้องอะไรพี่คะ”
“เอาเป็นว่าพี่รู้แล้วกัน…ตั้งใจทำงาน อย่าต่อปากต่อคำให้มากนักล่ะ” ข้อความถูกส่งมาพร้อมกับอิโมจิค่อนรูปหน้ายิ้มแลบลิ้นปลิ้นตา
กัญญ์วราตอบกลับด้วยสติ๊กเกอร์เคลื่อนไหวพร้อมแก้วเบื่อมองบน ไปก่อนเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าดังเดิมมองไปยังท้องถนนเบื้องหน้าอย่างเหนื่อยหน่ายที่ต้องมานั่งทำงานกับผู้ชายปากร้ายแถมยังบ้าอำนาจเอาแต่ใจเป็นว่าเล่น เธอต้องทนจนกว่างานจะเสร็จเรียบร้อย
ตลอดการเดินทางมายังรีสอร์ทของพัสกรที่กำลังสร้างเพิ่มเติมและตกแต่งภายในบ้านพักตากอากาศหลังของเขาใหม่ ใช้เวลาเกือบสิบชั่วโมงออกเดินทางช่วงเที่ยงกว่าจะถึงที่หมายราว ๆ สามทุ่มกว่า
กัญญ์วราหลับพับอยู่ในรถโดยที่สองหนุ่มนั้นปลุกเรียกอยู่นานสองนานเท่าไรก็ไม่ตื่นอาจเป็นเพราะว่าเดินทางนานจนเกิดความอ่อนเพลีย ดังนั้นทำให้พัสกรเอ่ยบอกให้ลูกน้องคนสนิทไปบอกพนักงานจัดเตรียมห้องส่วนตัวเขานั้นจะลองปลุกหญิงสาวที่นอนหลับอย่างสบายใจอยู่อีกสักครั้ง
“นี่คุณ…ตื่นได้แล้ว ถึงแล้ว” ชายหนุ่มเรียกหญิงสาวเสียงเข้มขึงสองสามครั้งแต่ก็ไม่มีท่าทีว่าจะตื่น
“ปล่อยให้นอนในรถขาดอากาศหายใจตายดีมั้ยเนี่ยยัยผู้หญิงไร้มารยาท แถมยังขี้เซาอีก” ชายหนุ่มว่าก่อนจะก้มลงช้อนตัวบางของหญิงสาวค่อยออกมาจากรถช้า ๆ และเดินเข้าไปยังรีสอร์ทของเขาทันที และเมื่อลูกน้องคนสนิทนั้นเห็นเจ้านายอุ้มหญิงสาวมาจึงอาสาอุ้มหญิงสาวต่อให้ด้วยความหวังดี
“คุณภีมครับ…มาครับผมช่วยอุ้มคุณผู้หญิงคนนี้”
“ไม่ต้อง! ไปจัดการห้องพักให้เรียบร้อยก็พอ”
“คือห้องพักของเราเต็มทุกห้องเลยครับ…จะมีก็แค่บ้านพักตากอากาศของคุณภีมที่ท้ายหาดครับ” ลูกน้องหนุ่มชี้แจ้งให้เจ้านายได้ฟังหลังจากถามพนักงานว่ามีห้องว่าเหลืออยู่ไหม
หลังจากที่พัสกรบอกให้ลูกน้องสนิทไปพักผ่อน ส่วนเขาก็จัดการอุ้มพาผู้หญิงอวดดีแถมยังปากเก่งกลับบ้านพักส่วนตัวของเขาท้ายหาดทันที จัดการเปิดประตูเข้าไปยังบ้านพักเดินตรงเข้าไปยังห้องนอนของเขาทันที ค่อย ๆ วางร่างบางของหญิงสาวลงบนเตียงของเขาอย่างเบามืออย่างอ่อนโยน จัดท่าทางในการนอนให้สาวเจ้าขี้เซาที่ถูกผู้ชายที่พึ่งเจอกันไม่นานพาเข้าห้องยังไม่รู้ตัว“แม่คุณเอ้ย...นี่นอนหรือซ้อมตายกันหึ” ชายหนุ่มยืนเท้าสะเอวมองคนที่นอนหลับตาพริ้งอย่างสบายใจ สายตาคมมองไปยังร่างบางที่นอนหลับอยู่บนเตียงพบกระเป๋าสะบายคล้องคออยู่จึงโน้มตัวประคองหญิงสาวขึ้นมาค่อย ๆ ปลอดเอากระเป๋าออกอย่างเบามือ แล้ววางหญิงสาวลงดังเดิม ห่มผ้าให้หญิงสาวและส่วนตัวของเขานั้นเดินหายเข้าไปในห้องน้ำไม่นานก็ออกมาในชุดนอนสีเทาอ่อนเดิน“จะนอนตรงไหนดีวะเนี่ย” บ้านพักส่วนตัวของเขามีเพียงหนึ่งห้องนอน หนึ่งห้องน้ำและหนึ่งห้องนั่งเล่นเท่านั้น อันนที่จริงมันก็เหมือนห้องพักรีสอร์ทธรรมดาทั่วไปเพียงแต่ไม่อนุญาตให้ใครมาใช้งานก็เท่านั้น อย่างไรก็ตามเขาไม่มีทางออกไปนอนร้อนข้างนอกหรอก นี่บ้านของเขา ห้องนอนของเขา เตียงนี้ก็ของเขาชายหนุ่มเด
ณ ห้องทำงานในเครือ พี กรุ๊ป ภายในโรงแรมของพัสวีร์ ท่านประธานหนุ่มรูปหล่อ ถึงแม้ใบหน้าของเขานั้นจะออกไปทางค่อนข้างหวานจนสาวน้อยสาวใหญ่ต่างอิจฉาแต่ผิดถนัดกับนิสัยส่วนตัวของเขายิ่งนักชั่งตรงข้ามเหลือเกิน ซึ้งชายหนุ่มเป็นที่หมายปองของสาวสวยไฮโซมากหน้าหลายตา กำลังตั้งหน้าตั้งตาตรวจเอกสารทั้งหมดที่วางกองอยู่ตรงหน้าให้เรียบร้อย ก่อนจะต้องเดินทางลงไปดูการก่อสร้างและตกแต่งรีสอร์ทพร้อมทั้งบ้านพักตากอากาศของเขาที่จังหวัดกระบี่ก๊อก ก๊อก ก๊อก“ใคร!” เสียงเข้มของพัสกรเจ้าของโรงแรมหนุ่มหล่อเอ่ยถามโดยที่ยังไม่ละสายตาจากงานตรงหน้า“ผมนิคเองครับ” เมื่อได้ยินเสียงว่าเป็นลูกน้องคนสนิทจึงอนุญาตให้เข้ามาพบ“ว่ายังไงนิค…มีเรื่องอะไร”“เรื่องที่คุณภีมให้ผมติดต่อไปทางบริษัทอินทิเรียที่รีบตกแต่งภายในผมจัดการเรียบร้อยแล้วนะครับ ส่วนเรื่องผู้หญิงที่เดินชนเจ้านายในผับผมจัดการสืบให้เรียบร้อยแล้วเช่นกันครับ”ชายหนุ่มพยักหน้ารับให้กับความรวดเร็วของลูกน้องคนสนิทที่ไม่เคยทำให้เขาผิดหวัง“ส่วนนี่คือรายละเอียดประวัติของเธอผมจัดการหามาให้พร้อมกับรูปภาพของเธอครับ” ว่าแล้วจึงยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลให้เจ้านาย และขอตัวออกไปท
จริงมันก็เป็นความสะเพร่าของเธอเองที่ไม่ยอมอ่านสัญญาให้ละเอียดเสียก่อน“แต่ถ้าบริษัทเราไม่ทำเราต้องจ่ายให้เขาหลายล้านเลยนะแก้ว”“แต่ทำงานกับคนแบบนี้ตั้งสี่เดือนแถมเปลี่ยนอินทิเรียก็ไม่ได้ แก้วไม่ตายเลยเหรอพี่ทิน”“แก้ว พี่เข้าใจแก้วนะ แต่…” ทินกรวางมือลงบนไหล่มนของหญิงสาว“แก้วรู้ค่ะ ถ้าแก้วไม่ทำ บริษัทก็จะเสียหาย พี่ทินกับคนในบริษัทก็จะเดือดร้อน ดังนั้นแก้วยอมทำก็ได้ค่ะ” เสียงหวานพูดจบก็ถอนหายใจยาว ๆ และส่ายศีรษะไปมา “ขอบใจนะแก้ว”ไม่นานท่านประธานหนุ่มเจ้าของโรงแรมเดินกลับเข้ามาภายในห้องทำงานของตนพร้อมกับรอยยิ้ม“คุยกันเรียบร้อยแล้วหรือยังครับคุณทินกร คุณกัญญ์วรา” รอยยิ้มมุมปากของเจ้าของใบหน้าเจ้าเล่ห์ถูกส่งให้หญิงสาวหญิงสาวหน้าหวานหันมาตอบกลับชายหนุ่มเสียงแข็ง“ค่ะ…ตกลงฉันจะทำงานนี้ให้กับคุณ” ชายหนุ่มได้ยินดังนันจึงพยักหน้าและยิ้มออกมาราวกับผู้ชนะ“ขอบคุณนะครับคุณทินกร ส่วนคุณกัญญ์วรา อีกหนึ่งสัปดาห์ผมจะให้คนไปรับที่คุณบริษัท เราจะต้องไปดูไซต์งานด้วยที่กระบี่หนึ่งอาทิตย์”“ทำไมคุณต้องส่งคนไปรับ ฉันมีรถฉันขับรถไปเองได้”“แก้วใจเย็น ๆ ลูกค้าท่องไว้” ทินกรกระซิบให้สาวข้างกายแต่สาวข้าง
หลังจากที่พัสกรบอกให้ลูกน้องสนิทไปพักผ่อน ส่วนเขาก็จัดการอุ้มพาผู้หญิงอวดดีแถมยังปากเก่งกลับบ้านพักส่วนตัวของเขาท้ายหาดทันที จัดการเปิดประตูเข้าไปยังบ้านพักเดินตรงเข้าไปยังห้องนอนของเขาทันที ค่อย ๆ วางร่างบางของหญิงสาวลงบนเตียงของเขาอย่างเบามืออย่างอ่อนโยน จัดท่าทางในการนอนให้สาวเจ้าขี้เซาที่ถูกผู้ชายที่พึ่งเจอกันไม่นานพาเข้าห้องยังไม่รู้ตัว“แม่คุณเอ้ย...นี่นอนหรือซ้อมตายกันหึ” ชายหนุ่มยืนเท้าสะเอวมองคนที่นอนหลับตาพริ้งอย่างสบายใจ สายตาคมมองไปยังร่างบางที่นอนหลับอยู่บนเตียงพบกระเป๋าสะบายคล้องคออยู่จึงโน้มตัวประคองหญิงสาวขึ้นมาค่อย ๆ ปลอดเอากระเป๋าออกอย่างเบามือ แล้ววางหญิงสาวลงดังเดิม ห่มผ้าให้หญิงสาวและส่วนตัวของเขานั้นเดินหายเข้าไปในห้องน้ำไม่นานก็ออกมาในชุดนอนสีเทาอ่อนเดิน“จะนอนตรงไหนดีวะเนี่ย” บ้านพักส่วนตัวของเขามีเพียงหนึ่งห้องนอน หนึ่งห้องน้ำและหนึ่งห้องนั่งเล่นเท่านั้น อันนที่จริงมันก็เหมือนห้องพักรีสอร์ทธรรมดาทั่วไปเพียงแต่ไม่อนุญาตให้ใครมาใช้งานก็เท่านั้น อย่างไรก็ตามเขาไม่มีทางออกไปนอนร้อนข้างนอกหรอก นี่บ้านของเขา ห้องนอนของเขา เตียงนี้ก็ของเขาชายหนุ่มเด
ร่างบอบบางขยับตัวตื่นในยามที่แสงแดดสาดส่องลอดเข้ามาภายในห้อง หญิงสาวลุกขึ้นนั่งพิงกับหัวเตียงพร้อมกับบิดกายราวกับไล่ความเมื่อยล้าที่สะสมอยู่ในกายมานานแสนนาน บิดซ้ายบิดขวาไปมา สายตาหวานมองหาโทรศัพท์มือถือของตนและเอื้อมไปหยิบขึ้นมาดูเวลา“ตายล่ะ…สายแล้วบอสด่าตายเลย”หลังจากที่ดูเวลาที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือซึ่งเลยเวลาเข้างานมานับชั่วโมงหญิงสาวรีบดีดตัวลุกจากที่เตียงนอนหนานุ่มวิ่งเข้าห้องน้ำจัดการอาบน้ำแต่งตัวออกไปทำงานทันทีวันนี้กัญญ์วราไม่ได้แต่งหน้าเข้าบริษัทเพียงแค่ทาลิปสติกกับเขียนคิวเท่านั้น เพื่อไม่ใหดูป่วยจนเกินไป สำหรับผู้หญิงเราไม่มีคิ้วแทบจะไม่กล้าออกไปไหนเลย ร่างสูงเพรียวของอินทิเรียสาวคนสวยเดินเข้ามายันแผนกของตน เมื่อเธอเดินเข้ามาทุกคนต่างทำความเคารพเธอทั้ง ๆ ที่เธอก็ไม่ได้อายุมากเท่าไรนัก อาจจะเป็นเพราะเธอนั้นทำงานที่นี่มาตั้งแต่ก่อนเรียนจบละมั้ง“พี่แก้วขา…บอสเรียกพบพี่แก้วค่ะ” ผู้ช่วยส่วนตัวของกัญญ์-วราบอกกับหญิงสาวที่พึ่งจะเข้าบริษัทไม่ไม่กี่นาทีนี้“บอส…บอสจะพบพี่เนี่ยนะ” หญิงสาวเอ่ยทวนอีกครั้ง“ใช่ค่ะพี่แก้ว…เห็นถามหาพี่แก้วตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ บอสบอกว่าถ้าพี่เข้าบริษัทแล
จริงมันก็เป็นความสะเพร่าของเธอเองที่ไม่ยอมอ่านสัญญาให้ละเอียดเสียก่อน“แต่ถ้าบริษัทเราไม่ทำเราต้องจ่ายให้เขาหลายล้านเลยนะแก้ว”“แต่ทำงานกับคนแบบนี้ตั้งสี่เดือนแถมเปลี่ยนอินทิเรียก็ไม่ได้ แก้วไม่ตายเลยเหรอพี่ทิน”“แก้ว พี่เข้าใจแก้วนะ แต่…” ทินกรวางมือลงบนไหล่มนของหญิงสาว“แก้วรู้ค่ะ ถ้าแก้วไม่ทำ บริษัทก็จะเสียหาย พี่ทินกับคนในบริษัทก็จะเดือดร้อน ดังนั้นแก้วยอมทำก็ได้ค่ะ” เสียงหวานพูดจบก็ถอนหายใจยาว ๆ และส่ายศีรษะไปมา “ขอบใจนะแก้ว”ไม่นานท่านประธานหนุ่มเจ้าของโรงแรมเดินกลับเข้ามาภายในห้องทำงานของตนพร้อมกับรอยยิ้ม“คุยกันเรียบร้อยแล้วหรือยังครับคุณทินกร คุณกัญญ์วรา” รอยยิ้มมุมปากของเจ้าของใบหน้าเจ้าเล่ห์ถูกส่งให้หญิงสาวหญิงสาวหน้าหวานหันมาตอบกลับชายหนุ่มเสียงแข็ง“ค่ะ…ตกลงฉันจะทำงานนี้ให้กับคุณ” ชายหนุ่มได้ยินดังนันจึงพยักหน้าและยิ้มออกมาราวกับผู้ชนะ“ขอบคุณนะครับคุณทินกร ส่วนคุณกัญญ์วรา อีกหนึ่งสัปดาห์ผมจะให้คนไปรับที่คุณบริษัท เราจะต้องไปดูไซต์งานด้วยที่กระบี่หนึ่งอาทิตย์”“ทำไมคุณต้องส่งคนไปรับ ฉันมีรถฉันขับรถไปเองได้”“แก้วใจเย็น ๆ ลูกค้าท่องไว้” ทินกรกระซิบให้สาวข้างกายแต่สาวข้าง
ณ ห้องทำงานในเครือ พี กรุ๊ป ภายในโรงแรมของพัสวีร์ ท่านประธานหนุ่มรูปหล่อ ถึงแม้ใบหน้าของเขานั้นจะออกไปทางค่อนข้างหวานจนสาวน้อยสาวใหญ่ต่างอิจฉาแต่ผิดถนัดกับนิสัยส่วนตัวของเขายิ่งนักชั่งตรงข้ามเหลือเกิน ซึ้งชายหนุ่มเป็นที่หมายปองของสาวสวยไฮโซมากหน้าหลายตา กำลังตั้งหน้าตั้งตาตรวจเอกสารทั้งหมดที่วางกองอยู่ตรงหน้าให้เรียบร้อย ก่อนจะต้องเดินทางลงไปดูการก่อสร้างและตกแต่งรีสอร์ทพร้อมทั้งบ้านพักตากอากาศของเขาที่จังหวัดกระบี่ก๊อก ก๊อก ก๊อก“ใคร!” เสียงเข้มของพัสกรเจ้าของโรงแรมหนุ่มหล่อเอ่ยถามโดยที่ยังไม่ละสายตาจากงานตรงหน้า“ผมนิคเองครับ” เมื่อได้ยินเสียงว่าเป็นลูกน้องคนสนิทจึงอนุญาตให้เข้ามาพบ“ว่ายังไงนิค…มีเรื่องอะไร”“เรื่องที่คุณภีมให้ผมติดต่อไปทางบริษัทอินทิเรียที่รีบตกแต่งภายในผมจัดการเรียบร้อยแล้วนะครับ ส่วนเรื่องผู้หญิงที่เดินชนเจ้านายในผับผมจัดการสืบให้เรียบร้อยแล้วเช่นกันครับ”ชายหนุ่มพยักหน้ารับให้กับความรวดเร็วของลูกน้องคนสนิทที่ไม่เคยทำให้เขาผิดหวัง“ส่วนนี่คือรายละเอียดประวัติของเธอผมจัดการหามาให้พร้อมกับรูปภาพของเธอครับ” ว่าแล้วจึงยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลให้เจ้านาย และขอตัวออกไปท