จริงมันก็เป็นความสะเพร่าของเธอเองที่ไม่ยอมอ่านสัญญาให้ละเอียดเสียก่อน
“แต่ถ้าบริษัทเราไม่ทำเราต้องจ่ายให้เขาหลายล้านเลยนะแก้ว”
“แต่ทำงานกับคนแบบนี้ตั้งสี่เดือนแถมเปลี่ยนอินทิเรียก็ไม่ได้ แก้วไม่ตายเลยเหรอพี่ทิน”
“แก้ว พี่เข้าใจแก้วนะ แต่…” ทินกรวางมือลงบนไหล่มนของหญิงสาว
“แก้วรู้ค่ะ ถ้าแก้วไม่ทำ บริษัทก็จะเสียหาย พี่ทินกับคนในบริษัทก็จะเดือดร้อน ดังนั้นแก้วยอมทำก็ได้ค่ะ” เสียงหวานพูดจบก็ถอนหายใจยาว ๆ และส่ายศีรษะไปมา “ขอบใจนะแก้ว”
ไม่นานท่านประธานหนุ่มเจ้าของโรงแรมเดินกลับเข้ามาภายในห้องทำงานของตนพร้อมกับรอยยิ้ม
“คุยกันเรียบร้อยแล้วหรือยังครับคุณทินกร คุณกัญญ์วรา” รอยยิ้มมุมปากของเจ้าของใบหน้าเจ้าเล่ห์ถูกส่งให้หญิงสาว
หญิงสาวหน้าหวานหันมาตอบกลับชายหนุ่มเสียงแข็ง
“ค่ะ…ตกลงฉันจะทำงานนี้ให้กับคุณ” ชายหนุ่มได้ยินดังนันจึงพยักหน้าและยิ้มออกมาราวกับผู้ชนะ
“ขอบคุณนะครับคุณทินกร ส่วนคุณกัญญ์วรา อีกหนึ่งสัปดาห์ผมจะให้คนไปรับที่คุณบริษัท เราจะต้องไปดูไซต์งานด้วยที่กระบี่หนึ่งอาทิตย์”
“ทำไมคุณต้องส่งคนไปรับ ฉันมีรถฉันขับรถไปเองได้”
“แก้วใจเย็น ๆ ลูกค้าท่องไว้” ทินกรกระซิบให้สาวข้างกายแต่สาวข้างกายก็สวนกลับทันใด
“ลูกค้าก็ใช่จะบังคับกันได้ทุกอย่าง”
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับคุณพัสกร”
“ครับเชิญครับ…แล้วเจอกันครับคุณกัญญ์วรา” ทินกรดึงหญิงสาวออกไปแต่ไม่วายใบหน้าหวานของเธอนั้นกลับบึ้งตึงพร้อมถลึงตาใส่คนในห้องอย่างหมั่นไส้
ภายในห้องทำงานกว้างใหญ่ที่รายล้อมไปด้วยกระจกรอบทิศของพัสกรกำลังนั่งอ่านรายละเอียของอินทิเรียสาวมากความสามารถแต่วาจาฝีปากอวดดีที่ให้ลูกน้องคนสนิทไปหาประวัติของหญิงสาวมาเพิ่มเติม คนอวดดีแบบนี้ต้องโดนสั่งสอน ยิ่งอ่านเท่าไรยิ่งนึกถึงใบหน้ายียวนกวนประสาทแล่นเข้ามาในหัว
ใบหน้าหวานผิดหูผิดตากับนิสัย บนใบหน้าแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางอ่อน ๆ บางเบา ทาลิปสติกสีแดงระเรื่อกับรอยยิ้มเซ็กซี่ขยี้ใจคนที่ได้จ้องมองในยามที่เต้นโยกย้ายท่ามกลางเสียงเพลงภายในสถานบันเทิงยามราตรี
กัญญ์วราเดินทางมาถึงสถานบันเทิงแห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่จัดงานปาร์ตี้วันเกิดของเพื่อนสนิทที่ทำงานที่เดียวกัน ซึ่งเธอมาสายกว่าเวลานัดกันเอาไว้ราว ๆ สี่สิบนาทีได้ เพราะระหว่างทางที่มาที่นี่นั้นรถติดอย่างหนักทำให้เธอต้องมาที่งานสาย
ในมือเรียวถือกล่องของขวัญผูกโบติดมือมาให้เจ้าของวันเกิดอีกด้วย ร่างบางเดินเข้ามาด้านในตอนนี้ผู้คนที่ต่างพากันมาเที่ยวเริ่มทยอยกันมามาก ทำให้เธอนั้นต้องเดินเบียดเสียดไปมากับผู้คนกลุ่มหนึ่งในโซนเดียวกันกับที่เลี้ยงวันเกิด กัญญ์วรานั้นมัวแต่มองไปข้างหน้าโดยไม่สนคนที่เดินสวนมาแม้แต่น้อยทำให้กล่องของขวัญนั้นตกหล่นลงบนพื้น ร่างบางเงยหน้ามองคนตัวสูงก่อนเอ่ยต่อว่า
“นี่คุณไม่มีตารึไงเดินชนจนของฉันหล่น แล้วก็ไม่ขอโทษฉันอีก”
“เธอนั่นแหละไม่มีตารึไง” น้ำเสียงทรงอำนาจตวาดดังลั่นด้วยความโมโหทำให้หญิงสาวตรงหน้านั้นสะดุ้งตกใจรวมถึงคนที่อยู่ในบริเวรนั้นเช่นกัน
“เป็นอะไรไหมครับคุณภีม” ชายหนุ่มร่างสูงโบกมือปัดราวกับไม่เป็นอะไร ในระหว่างที่กัญญ์วราเอามือปิดหน้าอกแล้วค่อยก้มหยิบกล่องของขวัญที่หล่นเมื่อครู่นี้ขึ้นมาแล้วเดินกระแทกไหล่ร่างสูงออกไปโดยไม่เหลียวหลัง ทำให้คนที่ถูกเดินกระแทกนั้นมองเจ้าของแผ่นหลังขาวเนียนด้วยความโกรธจัด
“อยากตายรึไงยัยบ้า” เมื่อได้ยินเสียงหญิงสาวหันกลับไปมองเล็กน้อยก่อนจะคุยกับกลุ่มเพื่อนต่อ
ก่อนหันไปสั่งลูกน้องคนสนิทไปสืบประวัติผู้หญิงอวดดีคนนั้น ก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะที่จองไว้ระหว่างรอเพื่อนที่นัดมาสังสรรค์เช่นกัน
เวลาผ่านไปสาวสวยในโต๊ะของกัญญ์วราต่างลุกขึ้นเต้นโยกย้ายออกลวดลายยั่วยวนผิดกับหญิงสามนั้นที่นั่งท้าวศีรษะมองกลุ่มเพื่อนเต้นกันอย่างสนุกสนาน
“ลุกเต้นหน่อยสิแก้ว”
“ไม่ละ…พวกแกเต้นไปเหอะ”
“ถ้าไม่เต้น แกก็ดื่มหน่อย มาผับนะไม่ได้มานั่งสวดมนต์” เพื่อนอีกคนส่งแก้วแอลกอฮอล์ให้กัญญ์วราดื่ม
“ไม่ล่ะ...พรุ่งนี้งานเช้า พวกแกไม่รู้เหรอ”
“บอสบอกไปสายได้ให้วันหนึ่ง ถ้าแกไม่ดื่มอีกก็มาเต้นกับพวกฉันก็ได้เลือกเอานะแก้วตา”
“เออก็ได้ เดี๋ยวฉันขอไปเข้าห้องน้ำก่อนแล้วกันนะ”
“ห้ามหนีกลับล่ะ” หญิงสาวเหยียดยิ้มเล็กน้อยก่อนตอบ
“นี่ใคร….แก้วตาซะอย่างไม่หนีอยู่แล้ว” ไหวไหล่ให้กลุ่มเพื่อนสาวก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำและเดินกลับมาที่โต๊ะในเวลาต่อมา
“ฉันจะเต้นกับพวกแก แต่แค่เพลงเดียวเท่านั้นนะ และฉันก็จะกลับบ้านนอนง่วงมากด้วย”
“โอเคเพลงเดียวก็ได้” หญิงสาวยอมแค่วันนี้เพราะเป็นปาร์ตี้วันเกิดของเพื่อนไม่นานหญิงสาวกับเพื่อนอีกจำนวนหญิงของเธอต่างลุกขึ้นเต้นออกสเต็ปตามจังหวะเพลงด้วยท่าทางเย้ายวน เหยียดยิ้มและจิ๊กตาอย่างเซ็กซี่ให้กับกลุ่มเพื่อนของเธอ นาน ๆ เหล่าเพื่อนจะเห็นแก้วตาอินทิเรียดีไซน์มือหนึ่งของบริษัทลุกขึ้นออกลวดลาย
การเต้นของเธอนั้นเป็นที่จับจ้องดึงดูดของสายตาหื่นกระหายของนักล่ายามราตรีอย่างไม่วางตา
ชุดสายเดียวสีดำเว้าหลังสวมคู่กับกางเกงยีนสีดำรัดรูปดูเข้ากันน่าค้นหาอย่างยิ่ง มือเรียวเสยผมแล้ว ลูบไล้ตามส่วนเว้าส่วนโค้งของตนจนเกือบจะจบเพลง
“ไอ้ภีมผู้หญิงชุดดำโต๊ะนั้นเต้นโคตรเด็ดเลยว่ะ”
“เหอะ…ผู้หญิงไร้มารยาทแถมปากดีอีกต่างหาก” ชายหนุ่มมองไปยังเป้าหมายที่เพื่อนบอกก่อนเอ่ยออกมา
“ไปว่าเขาอย่างนั้นได้ยังไง”
หลังจากนั้นชายหนุ่มก็ไม่ตอบอะไรนอกจากขอตัวออกไปสูบบุหรี่ข้างนอกครู่หนึ่งเช่นเดียวกับหญิงสาวคนสวยที่กำลังขอตัวกลับก่อนเพราะนี้ก็ดึกมากแล้ว
“ฉันกลับก่อนนะ…พรุ่งนี้เจอกันที่บริษัท”
“แล้วเจอกันแกขับรถดี ๆ ด้วย แต่แกไม่เมาแน่นะ”
“กินไปนิดเดียวฉันไม่เมาหรอก ” หลังจากนั้นก็โบกมือลากลุ่มเพื่อนสาวก่อนเดินออกจากร้านไป แต่ยังไม่ทันได้พ้นจากร้านดีก็ได้ยินเสียงเข้มดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง
“ผู้หญิงไร้มารยาทแถมยังเต้นยั่วผู้ชายอย่างหน้าไม่อาย”
ร่างบางหันหลังกลับไปมองหน้าชายหนุ่มที่กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่จ้องร่างของเธออยู่
“อะไรของคุณไม่ทราบ ใครกันแน่ไร้มารยาท ฉันว่าคำนี้น่าจะย้อนกลับไปหาคุณมากกว่านะ คุณต่างหากล่ะไร้มารยาทอยู่ก็กล่าวหากันไปทั่ว”
“นี่เธอ!” ร่างสูงจ้องร่างบางที่อยู่ตรงหน้าอย่างโกรธจัด
“หรือว่าไม่จริงล่ะ ตอนที่เดินเข้าร้านคุณต่างหากที่เดินชนฉันก่อนแถมยังไม่ขอโทษฉันอีก แล้วตอนนี้ก็มาว่าฉันไร้มารยาท มันจะไม่เกินไปหน่อยเหรอคะ อีกอย่างฉันก็เต้นของฉันไม่ได้ไปยั่วคุณหรือใคร” หญิงสาวกอดอกเชิดหน้าสวนกลับชายหนุ่มเป็นฉากๆ
มือหนากระด้างที่คีบบุหรี่อยู่เมื่อครู่จัดการดับเปลวไฟของบุหรี่แล้วกระชากข้อมือบางเข้าหาตน แรงกระชากทำให้หญิงสาวที่ไม่ทันได้ตั้งตัวทำให้ล้มลงปะทะกับแผงอกแกร่งของร่างสูง
“ผู้หญิงอย่างเธอทั้งปากดีแล้วก็ไม่มีมารยาทเอาเสียเลย”
“ฉันจะมีมารยาทกับคนที่ควรเท่านั้น ปล่อย!” แขนเร็วพยายามบิดข้อมือเล็กออกจากมือหนาแต่ยิ่งบิดเขายิ่งจับแน่นขึ้น ใบหน้าหล่อลอยหน้าลอยตาพร้อมเหยียดยิ้มมุมปาก
“ไม่ปล่อยใช่มั้ย ได้” ว่าแล้วเท้าเรียวกระแทกลงกับเท้าหนาของชายหนุ่มทันทีทำให้ชายหนุ่มนั้นต้องปล่อยมือ เมื่อหลุดหญิงสาวรีบวิ่งไปที่รถยนต์ส่วนตัวของเธอทันที
“ยัยตัวแสบ…เธอกับฉันจะต้องได้เจอกันอีก แม่นางแมวจอมยั่ว”
ผู้หญิงยิ่งดื้อด้านเขายิ่งอยากจะเอาชนะ เพราะคนอย่างเขาไม่เคยยอมแพ้ใครไม่ว่าจะเรื่องไหนก็ตาม แต่ผู้หญิงอวดดีคนนั้นทำให้เขารู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก แววตามาดมั่นราวกับอยากเอาชนะให้ได้ภายในวันนี้วันพรุ่งนี้
ร่างบอบบางขยับตัวตื่นในยามที่แสงแดดสาดส่องลอดเข้ามาภายในห้อง หญิงสาวลุกขึ้นนั่งพิงกับหัวเตียงพร้อมกับบิดกายราวกับไล่ความเมื่อยล้าที่สะสมอยู่ในกายมานานแสนนาน บิดซ้ายบิดขวาไปมา สายตาหวานมองหาโทรศัพท์มือถือของตนและเอื้อมไปหยิบขึ้นมาดูเวลา“ตายล่ะ…สายแล้วบอสด่าตายเลย”หลังจากที่ดูเวลาที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือซึ่งเลยเวลาเข้างานมานับชั่วโมงหญิงสาวรีบดีดตัวลุกจากที่เตียงนอนหนานุ่มวิ่งเข้าห้องน้ำจัดการอาบน้ำแต่งตัวออกไปทำงานทันทีวันนี้กัญญ์วราไม่ได้แต่งหน้าเข้าบริษัทเพียงแค่ทาลิปสติกกับเขียนคิวเท่านั้น เพื่อไม่ใหดูป่วยจนเกินไป สำหรับผู้หญิงเราไม่มีคิ้วแทบจะไม่กล้าออกไปไหนเลย ร่างสูงเพรียวของอินทิเรียสาวคนสวยเดินเข้ามายันแผนกของตน เมื่อเธอเดินเข้ามาทุกคนต่างทำความเคารพเธอทั้ง ๆ ที่เธอก็ไม่ได้อายุมากเท่าไรนัก อาจจะเป็นเพราะเธอนั้นทำงานที่นี่มาตั้งแต่ก่อนเรียนจบละมั้ง“พี่แก้วขา…บอสเรียกพบพี่แก้วค่ะ” ผู้ช่วยส่วนตัวของกัญญ์-วราบอกกับหญิงสาวที่พึ่งจะเข้าบริษัทไม่ไม่กี่นาทีนี้“บอส…บอสจะพบพี่เนี่ยนะ” หญิงสาวเอ่ยทวนอีกครั้ง“ใช่ค่ะพี่แก้ว…เห็นถามหาพี่แก้วตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ บอสบอกว่าถ้าพี่เข้าบริษัทแล
หลังจากที่พัสกรบอกให้ลูกน้องสนิทไปพักผ่อน ส่วนเขาก็จัดการอุ้มพาผู้หญิงอวดดีแถมยังปากเก่งกลับบ้านพักส่วนตัวของเขาท้ายหาดทันที จัดการเปิดประตูเข้าไปยังบ้านพักเดินตรงเข้าไปยังห้องนอนของเขาทันที ค่อย ๆ วางร่างบางของหญิงสาวลงบนเตียงของเขาอย่างเบามืออย่างอ่อนโยน จัดท่าทางในการนอนให้สาวเจ้าขี้เซาที่ถูกผู้ชายที่พึ่งเจอกันไม่นานพาเข้าห้องยังไม่รู้ตัว“แม่คุณเอ้ย...นี่นอนหรือซ้อมตายกันหึ” ชายหนุ่มยืนเท้าสะเอวมองคนที่นอนหลับตาพริ้งอย่างสบายใจ สายตาคมมองไปยังร่างบางที่นอนหลับอยู่บนเตียงพบกระเป๋าสะบายคล้องคออยู่จึงโน้มตัวประคองหญิงสาวขึ้นมาค่อย ๆ ปลอดเอากระเป๋าออกอย่างเบามือ แล้ววางหญิงสาวลงดังเดิม ห่มผ้าให้หญิงสาวและส่วนตัวของเขานั้นเดินหายเข้าไปในห้องน้ำไม่นานก็ออกมาในชุดนอนสีเทาอ่อนเดิน“จะนอนตรงไหนดีวะเนี่ย” บ้านพักส่วนตัวของเขามีเพียงหนึ่งห้องนอน หนึ่งห้องน้ำและหนึ่งห้องนั่งเล่นเท่านั้น อันนที่จริงมันก็เหมือนห้องพักรีสอร์ทธรรมดาทั่วไปเพียงแต่ไม่อนุญาตให้ใครมาใช้งานก็เท่านั้น อย่างไรก็ตามเขาไม่มีทางออกไปนอนร้อนข้างนอกหรอก นี่บ้านของเขา ห้องนอนของเขา เตียงนี้ก็ของเขาชายหนุ่มเด
ณ ห้องทำงานในเครือ พี กรุ๊ป ภายในโรงแรมของพัสวีร์ ท่านประธานหนุ่มรูปหล่อ ถึงแม้ใบหน้าของเขานั้นจะออกไปทางค่อนข้างหวานจนสาวน้อยสาวใหญ่ต่างอิจฉาแต่ผิดถนัดกับนิสัยส่วนตัวของเขายิ่งนักชั่งตรงข้ามเหลือเกิน ซึ้งชายหนุ่มเป็นที่หมายปองของสาวสวยไฮโซมากหน้าหลายตา กำลังตั้งหน้าตั้งตาตรวจเอกสารทั้งหมดที่วางกองอยู่ตรงหน้าให้เรียบร้อย ก่อนจะต้องเดินทางลงไปดูการก่อสร้างและตกแต่งรีสอร์ทพร้อมทั้งบ้านพักตากอากาศของเขาที่จังหวัดกระบี่ก๊อก ก๊อก ก๊อก“ใคร!” เสียงเข้มของพัสกรเจ้าของโรงแรมหนุ่มหล่อเอ่ยถามโดยที่ยังไม่ละสายตาจากงานตรงหน้า“ผมนิคเองครับ” เมื่อได้ยินเสียงว่าเป็นลูกน้องคนสนิทจึงอนุญาตให้เข้ามาพบ“ว่ายังไงนิค…มีเรื่องอะไร”“เรื่องที่คุณภีมให้ผมติดต่อไปทางบริษัทอินทิเรียที่รีบตกแต่งภายในผมจัดการเรียบร้อยแล้วนะครับ ส่วนเรื่องผู้หญิงที่เดินชนเจ้านายในผับผมจัดการสืบให้เรียบร้อยแล้วเช่นกันครับ”ชายหนุ่มพยักหน้ารับให้กับความรวดเร็วของลูกน้องคนสนิทที่ไม่เคยทำให้เขาผิดหวัง“ส่วนนี่คือรายละเอียดประวัติของเธอผมจัดการหามาให้พร้อมกับรูปภาพของเธอครับ” ว่าแล้วจึงยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลให้เจ้านาย และขอตัวออกไปท
หลังจากที่พัสกรบอกให้ลูกน้องสนิทไปพักผ่อน ส่วนเขาก็จัดการอุ้มพาผู้หญิงอวดดีแถมยังปากเก่งกลับบ้านพักส่วนตัวของเขาท้ายหาดทันที จัดการเปิดประตูเข้าไปยังบ้านพักเดินตรงเข้าไปยังห้องนอนของเขาทันที ค่อย ๆ วางร่างบางของหญิงสาวลงบนเตียงของเขาอย่างเบามืออย่างอ่อนโยน จัดท่าทางในการนอนให้สาวเจ้าขี้เซาที่ถูกผู้ชายที่พึ่งเจอกันไม่นานพาเข้าห้องยังไม่รู้ตัว“แม่คุณเอ้ย...นี่นอนหรือซ้อมตายกันหึ” ชายหนุ่มยืนเท้าสะเอวมองคนที่นอนหลับตาพริ้งอย่างสบายใจ สายตาคมมองไปยังร่างบางที่นอนหลับอยู่บนเตียงพบกระเป๋าสะบายคล้องคออยู่จึงโน้มตัวประคองหญิงสาวขึ้นมาค่อย ๆ ปลอดเอากระเป๋าออกอย่างเบามือ แล้ววางหญิงสาวลงดังเดิม ห่มผ้าให้หญิงสาวและส่วนตัวของเขานั้นเดินหายเข้าไปในห้องน้ำไม่นานก็ออกมาในชุดนอนสีเทาอ่อนเดิน“จะนอนตรงไหนดีวะเนี่ย” บ้านพักส่วนตัวของเขามีเพียงหนึ่งห้องนอน หนึ่งห้องน้ำและหนึ่งห้องนั่งเล่นเท่านั้น อันนที่จริงมันก็เหมือนห้องพักรีสอร์ทธรรมดาทั่วไปเพียงแต่ไม่อนุญาตให้ใครมาใช้งานก็เท่านั้น อย่างไรก็ตามเขาไม่มีทางออกไปนอนร้อนข้างนอกหรอก นี่บ้านของเขา ห้องนอนของเขา เตียงนี้ก็ของเขาชายหนุ่มเด
ร่างบอบบางขยับตัวตื่นในยามที่แสงแดดสาดส่องลอดเข้ามาภายในห้อง หญิงสาวลุกขึ้นนั่งพิงกับหัวเตียงพร้อมกับบิดกายราวกับไล่ความเมื่อยล้าที่สะสมอยู่ในกายมานานแสนนาน บิดซ้ายบิดขวาไปมา สายตาหวานมองหาโทรศัพท์มือถือของตนและเอื้อมไปหยิบขึ้นมาดูเวลา“ตายล่ะ…สายแล้วบอสด่าตายเลย”หลังจากที่ดูเวลาที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือซึ่งเลยเวลาเข้างานมานับชั่วโมงหญิงสาวรีบดีดตัวลุกจากที่เตียงนอนหนานุ่มวิ่งเข้าห้องน้ำจัดการอาบน้ำแต่งตัวออกไปทำงานทันทีวันนี้กัญญ์วราไม่ได้แต่งหน้าเข้าบริษัทเพียงแค่ทาลิปสติกกับเขียนคิวเท่านั้น เพื่อไม่ใหดูป่วยจนเกินไป สำหรับผู้หญิงเราไม่มีคิ้วแทบจะไม่กล้าออกไปไหนเลย ร่างสูงเพรียวของอินทิเรียสาวคนสวยเดินเข้ามายันแผนกของตน เมื่อเธอเดินเข้ามาทุกคนต่างทำความเคารพเธอทั้ง ๆ ที่เธอก็ไม่ได้อายุมากเท่าไรนัก อาจจะเป็นเพราะเธอนั้นทำงานที่นี่มาตั้งแต่ก่อนเรียนจบละมั้ง“พี่แก้วขา…บอสเรียกพบพี่แก้วค่ะ” ผู้ช่วยส่วนตัวของกัญญ์-วราบอกกับหญิงสาวที่พึ่งจะเข้าบริษัทไม่ไม่กี่นาทีนี้“บอส…บอสจะพบพี่เนี่ยนะ” หญิงสาวเอ่ยทวนอีกครั้ง“ใช่ค่ะพี่แก้ว…เห็นถามหาพี่แก้วตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ บอสบอกว่าถ้าพี่เข้าบริษัทแล
จริงมันก็เป็นความสะเพร่าของเธอเองที่ไม่ยอมอ่านสัญญาให้ละเอียดเสียก่อน“แต่ถ้าบริษัทเราไม่ทำเราต้องจ่ายให้เขาหลายล้านเลยนะแก้ว”“แต่ทำงานกับคนแบบนี้ตั้งสี่เดือนแถมเปลี่ยนอินทิเรียก็ไม่ได้ แก้วไม่ตายเลยเหรอพี่ทิน”“แก้ว พี่เข้าใจแก้วนะ แต่…” ทินกรวางมือลงบนไหล่มนของหญิงสาว“แก้วรู้ค่ะ ถ้าแก้วไม่ทำ บริษัทก็จะเสียหาย พี่ทินกับคนในบริษัทก็จะเดือดร้อน ดังนั้นแก้วยอมทำก็ได้ค่ะ” เสียงหวานพูดจบก็ถอนหายใจยาว ๆ และส่ายศีรษะไปมา “ขอบใจนะแก้ว”ไม่นานท่านประธานหนุ่มเจ้าของโรงแรมเดินกลับเข้ามาภายในห้องทำงานของตนพร้อมกับรอยยิ้ม“คุยกันเรียบร้อยแล้วหรือยังครับคุณทินกร คุณกัญญ์วรา” รอยยิ้มมุมปากของเจ้าของใบหน้าเจ้าเล่ห์ถูกส่งให้หญิงสาวหญิงสาวหน้าหวานหันมาตอบกลับชายหนุ่มเสียงแข็ง“ค่ะ…ตกลงฉันจะทำงานนี้ให้กับคุณ” ชายหนุ่มได้ยินดังนันจึงพยักหน้าและยิ้มออกมาราวกับผู้ชนะ“ขอบคุณนะครับคุณทินกร ส่วนคุณกัญญ์วรา อีกหนึ่งสัปดาห์ผมจะให้คนไปรับที่คุณบริษัท เราจะต้องไปดูไซต์งานด้วยที่กระบี่หนึ่งอาทิตย์”“ทำไมคุณต้องส่งคนไปรับ ฉันมีรถฉันขับรถไปเองได้”“แก้วใจเย็น ๆ ลูกค้าท่องไว้” ทินกรกระซิบให้สาวข้างกายแต่สาวข้าง
ณ ห้องทำงานในเครือ พี กรุ๊ป ภายในโรงแรมของพัสวีร์ ท่านประธานหนุ่มรูปหล่อ ถึงแม้ใบหน้าของเขานั้นจะออกไปทางค่อนข้างหวานจนสาวน้อยสาวใหญ่ต่างอิจฉาแต่ผิดถนัดกับนิสัยส่วนตัวของเขายิ่งนักชั่งตรงข้ามเหลือเกิน ซึ้งชายหนุ่มเป็นที่หมายปองของสาวสวยไฮโซมากหน้าหลายตา กำลังตั้งหน้าตั้งตาตรวจเอกสารทั้งหมดที่วางกองอยู่ตรงหน้าให้เรียบร้อย ก่อนจะต้องเดินทางลงไปดูการก่อสร้างและตกแต่งรีสอร์ทพร้อมทั้งบ้านพักตากอากาศของเขาที่จังหวัดกระบี่ก๊อก ก๊อก ก๊อก“ใคร!” เสียงเข้มของพัสกรเจ้าของโรงแรมหนุ่มหล่อเอ่ยถามโดยที่ยังไม่ละสายตาจากงานตรงหน้า“ผมนิคเองครับ” เมื่อได้ยินเสียงว่าเป็นลูกน้องคนสนิทจึงอนุญาตให้เข้ามาพบ“ว่ายังไงนิค…มีเรื่องอะไร”“เรื่องที่คุณภีมให้ผมติดต่อไปทางบริษัทอินทิเรียที่รีบตกแต่งภายในผมจัดการเรียบร้อยแล้วนะครับ ส่วนเรื่องผู้หญิงที่เดินชนเจ้านายในผับผมจัดการสืบให้เรียบร้อยแล้วเช่นกันครับ”ชายหนุ่มพยักหน้ารับให้กับความรวดเร็วของลูกน้องคนสนิทที่ไม่เคยทำให้เขาผิดหวัง“ส่วนนี่คือรายละเอียดประวัติของเธอผมจัดการหามาให้พร้อมกับรูปภาพของเธอครับ” ว่าแล้วจึงยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลให้เจ้านาย และขอตัวออกไปท