“ให้ตอบใหม่ มีหรือไม่มี” เพราะไม่เชื่อว่าคำตอบแรกของลลิตานั่นคือเรื่องจริง ทำให้คริสเลือกที่จะเปิดโอกาสให้เธอพูดใหม่พร้อมกับยังคงเคลื่อนไหวร่างกายเข้าหาอย่างต่อเนื่อง“มะ...ไม่มี อา” ท้ายคำตอบของลลิตคือเสียงที่ คริสอยากได้ยิน เธอต้องถูกเขาร่ายมนต์ใส่แน่ๆ ถึงได้ตอบความจริงออกไปแบบนี้ “เหมือนกัน” คริสตอบเพียงแค่นั้นแล้วโน้มตัวลงไปจูบปากอิ่มที่กำลังบวมเจ่อของเธอ เวลานี้ลลิตาจึงถูกเขารุกทั้งสองทางซึ่งแต่ล่ะทางนั้นช่างวาบหวามและเสียวซ่านจนเธอสะท้าน กว่าบทสวาทอันร้อนแรงของคริสแต่ล่ะครั้งจะผ่านพ้นไปลลิตาก็แทบหมดเรี่ยวแรง แม้จะบอกว่าเหนื่อยแม้จะบอกว่าขอพัก แต่ดูเหมือนคริสจะปัดตกคำขอร้องเหล่านั้นของเธออย่างไม่ไยดีด้วยซ้ำ นั่นเพราะคริสยังคงกลืนกินลลิตาราวกับต้องการชดเชยช่วงเวลาที่ทั้งคู่ได้เลิกรากันไป คริสตื่นมาในวันรุ่งขึ้นแต่กลับไม่พบว่าลลิตาอยู่บนเตียง ทั้งๆ ที่เธอควรจะอยู่ในอ้อมกอดของเขาไม่ใช่หรือนั่นทำให้ชายหนุ่มลนลานลงจากเตียงที่ผ้าปูที่นอนยับย่นจากกิจกรรมสุดร้อนแรงเมื่อคืน แล้วเดินตามหาเธอจนทั่วทั้งห้อง ทว่ากับไม่พบ“กระเป๋าเดินทางยังอยู่ แล้วตัวหายไปไหน” ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเอง แต
“ยาคุม” ลลิตาเอ่ยตอบอย่างไม่คิดที่จะปิดบัง“ขอดูหน่อย” คริสแบมือขอถุงยาจากเธอซึ่งลลิตาก็ส่งให้ ชายหนุ่มหยิบสิ่งที่อยู่ในซองขึ้นมาพลิกดูช้าๆ “แน่ใจหรอว่ามันจะช่วยอะไรเธอได้”“แน่ใจค่ะเพราะฉันไม่อยากตั้งท้องกับคุณ”“แต่ผมอยากให้คุณท้อง ท้องหลังจากนี้ได้ยิ่งดี”“คุณกำลังทำร้ายฉัน” ลลิตาเอ่ยบอกอย่างไม่พอใจ แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้สนใจแต่อย่างใดนั่นเพราะเธอพูดถูก เขามาที่นี่เพื่อทำร้ายเธอเพราะถ้าเธอเจ็บปราณก็ต้องเจ็บ แบบนั้นสิมันถึงจะสนุก“รู้จักกันมานานแค่ไหนแล้ว”“รู้จักใคร”“ว่าที่เจ้าบ่าวของคุณ” คริสขยายความให้ลลิตาเข้าใจ“นาน”“นานที่ว่ากี่เดือน ก่อนที่เราจะเลิกกันหรือเปล่า”“เปล่า” ลลิตาตอบอย่างตรงไปตรงมาเพราะเธอซื่อสัตย์พอที่จะไม่คบซ้อน“คุณยังไม่ต
ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน การแสดงออกของคริสที่มีให้ลลิตานั้นช่างเหมือนคู่ฮันนีมูนคู่อื่นๆ เพราะแบบนั้นหลายๆ คนจึงอดที่จะอิจฉาพวกเขาไม่ได้ รูปร่างหน้าตาก็หล่อสวยเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก แต่หารู้ไม่ว่าแท้จริงแล้วคริสทำกับลลิตาราวกับเธอเป็นจำเลยรักของเขาเพราะเมื่อไหร่ที่พระอาทิตย์ลับขอบฟ้า คริสก็คล้ายจะเปลี่ยนเป็นคนละคน นั่นเพราะเขายังคงกลืนกินลลิตาครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่รู้จักคำว่าเบื่อหน่าย ต่อให้เธอจะกินยาคุมฉุกเฉินแต่เขาก็มั่นใจว่ายาคุมแผงเล็กๆ นั่นไม่อาจป้องกันการตั้งครรภ์ที่เขาตั้งใจให้เกิดขึ้นกับเธอได้อย่างแน่นอนลลิตาสวดภาวนาให้ยาคุมฉุกเฉินที่เธอกินเข้าไปมีประสิทธิภาพพอ บางครั้งเธอก็รู้สึกเหมือนกำลังตกนรกแต่บางครั้งกลับรู้สึกล่องลอยคล้ายอยู่บนสวรรค์ คริสทำให้อารมณ์ของเธอสวิงไปมาลลิตาจึงพยายามไม่ให้เขามีอิทธิพลไปมากกว่านี้“ปล่อยนะ” ลลิตาเอี้ยวตัวหลบวงแขนของคริส นั่นเพราะชายหนุ่มตั้งใจจะโอบเธอลงไปถึงห้องดินเนอร์มื้อเย็น“ตั้งแต่อยู่ด้วยกัน จำได้ไหมว่าพูดแบบนี้กี่ครั้งแล้ว”“นับครั้งไม่ถ้วน”“แล้วผ
แม้กระทั่งเช้าของวันเดินทางกลับคริสก็ยิ่งกลืนกิน ลลิตาครั้งแล้วครั้งเล่า ตั้งแต่มาที่นี่ทั้งคู่แทบไม่ออกจากห้องด้วยซ้ำ ชายหาดสวยๆ ก็แทบไม่ได้ลงไปเหยียบ น้ำทะเลใสๆ นั่นก็ไม่ได้เล่น ทำได้แค่มอง ทั้งมองในเวลาปกติและมองในเวลาเร่าร้อน เพราะอ่อนเพลียทำให้ลลิตาเผลอหลับก่อนที่เสียงโทรศัพท์ปลุกให้เธอรู้สึกตัว“ว่าไงนา”“แกต้องรีบกลับมากรุงเทพฯ เดี๋ยวนี้อิง” น้ำเสียงของลักขณาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก ทันทีที่รู้ข่าวเธอก็รีบมาแล้วโทรศัพท์หาเพื่อนสนิททันที“เกิดอะไรขึ้น”“น้องโอบล้มหัวกับฟาดพื้น ตอนนี้ยังไม่ได้สติ”“ว่าอะไรนะ” สิ่งที่ได้รู้ทำให้หัวใจของลลิตาหล่นวูบในทันที“แกกลับมาด่วนเลยได้ไหม”“ได้ๆ ฉันจะรีบกลับเดี๋ยวนี้” ทันทีที่วางสายจากลักขณา ลลิตาก็รีบก็เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางอย่างรีบร้อน เพราะรีบทำให้มือไม้สั่นจนข้าวของเครื่องใช้บางอย่างหลุดจากมือกระแทกกับพื้น ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่คริสเปิดประตูเข้ามาพอดี“จะไปไหน”“ฉ
“อิง” ทันทีที่มองเห็นลลิตา ลักขณาที่นั่งรออยู่ก็ถึงกับดีดตัวขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินตรงปรี่เข้าไปหาเพื่อนสนิท ดูจากสีหน้ารวมไปถึงท่าทางแล้ว คงร้อนใจมากกว่าเธอหลายร้อยเท่าแน่“น้องโอบล้มจนหัวฟาดได้ยังไง”“พยาบาลบอกว่าน้องโอบลุกขึ้นแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำเอง แต่จู่ๆ ก็วูบเป็นลมล้มหัวกระแทกพื้น”“แล้วตอนนั้นพยาบาลพิเศษไปไหน ทำไมถึงไม่อยู่ดูแลแกจนปล่อยให้เกิดอุบัติเหตุ” ลลิตาสติหลุดเวลานี้เธอนั้นพร้อมจะฟาดงวงฟาดงาใส่ทุกคนที่ทำให้ลูกชายเธอต้องเจ็บตัวแบบนี้“พยาบาลท้องเสียเลยออกไปกินยา แต่แกอย่าเพิ่งวิตกมากเกินไปเพราะตอนนี้น้องโอบพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ก็ยังเบาใจไม่ได้เพราะ...”“เพราะอะไรแกรีบพูดมาสิ”“เพราะล้มหมอก็เลยจับน้องโอบตรวจร่างกายอย่างละเอียด ก็พบว่าหัวใจของน้องโอบไม่ค่อยสู้ดี ต้องผ่าตัดด่วนพรุ่งนี้”“ผ่าตัดด่วนได้ยังไง ทั้งๆ ที่ตอนนี้น้องโอบยังไม่ได้สติด้วยซ้ำ ไหนคุณหมอแนะนำให้รอแกโตกว่านี้อีกหน่อยค่อยผ่าตัดหัวใจไม่ใช่เหรอ”“ฉันก็เข้
“ถ้าอยากเจอผมก็ไปที่ห้องสูตินารีนะครับ ผมเป็นหมออยู่ที่แผนกนั้น”“ฉันบอกว่าถ้าเราบังเอิญเจอกันค่ะ หูเพี้ยนแบบนี้ฉันว่าคุณหมอควรไปหาหมอแผนก ตา คอ หู จมูก ก่อนกลับบ้านนะคะ”“ไว้ผมค่อยไปวันหลัง เพราะสำหรับผมแล้วสุขภาพภายในของผู้หญิงก็สำคัญ ถ้าสะดวกก็เชิญลงทะเบียนแล้วล็อควันเวลาพบผมได้เลยนะครับ อ้อ…ผมชื่อกวิน” หมอหนุ่มได้ทีเอ่ยแนะนำตัว“คุณเป็นคุณหมอสูฯ หรือพนักงานขายตรงกันแน่เนี่ย เชียร์อัปเก่งจริง”“คุณหมอครับ”“ค่ะๆ หมอก็หมอ” ลักขณาเอ่ยรับตามมารยาท ก่อนจะพยักหน้าให้อีกฝ่ายแล้วเดินกลับไปสมทบกับ ลลิตา เมื่อมาถึงก็เห็นว่าเพื่อนนั่งก้มหน้าบีบมือตัวเองอยู่บนเก้าอี้แถวๆ ห้องไอซียูเด็ก“หมอว่าไงบ้างอิง”“ผ่าตัดคือสิ่งที่ดีที่สุดในเวลานี้ ฉันเองก็เซ็นรับยินยอมให้แล้ว”“เข้มแข็งไว้แก ทุกอย่างต้องราบรื่น” ลักขณาตบบ่าของลลิตาหนักๆ ทั้งคู่อยู่ด้วยกันมาในเกือบทุกๆ สถานการณ์ของชีวิต เป็นเพื่อนแท้ที่มีก
หมอใช้เวลาในการผ่าตัดหัวใจโอบรักหลายชั่วโมง ในที่สุดคำภาวนาของลลิตาและลักขณาก็ประสบผลสำเร็จ ทันทีที่หมอเดินออกมาจากห้องผ่าตัดลลิตาก็ตรงเข้าไปหาพร้อมกับยกมือไหว้เพื่อขอบคุณ จังหวะที่เธอจะก้มลงกราบหมอท่านนั้นกลับได้ห้ามเอาไว้“ดีจังเลยนะแก ต่อจากนี้ไปน้องโอบจะได้ใช้ชีวิตเหมือนเด็กคนอื่นๆ เสียที” ลักขณาพูดไปพร้อมกับยืนปาดน้ำตาตัวเองไปด้วย แล้วหันมาสวมกอดลลิตาที่ร้องไห้อยู่ข้างๆ อย่างยินดี จากนั้นทั้งคู่ก็ปล่อยโฮออกมาที่หน้าห้องผ่าตัด หมอกวินบังเอิญผ่านมาเห็นภาพนั้นเข้าจึงหยุดมองหมอหนุ่มจำหนึ่งในผู้หญิงที่ยืนร้องไห้อยู่ตรงนั้นได้ดีว่าเป็นใคร สีหน้าไม่ได้เศร้าแต่กลับยิ้มไปร้องไห้ไปแบบนั้นการผ่าตัดคงผ่านพ้นไปได้ด้วยดีเป็นแน่ กวินยืนมองภาพนั้นอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงเดินจากไป“นี่นา”“ว่า” ลักขณาขานรับสั้นๆ“ฉันยกเลิกงานแต่งงานกับคุณปราณแล้วนะ”“ตั้งแต่เมื่อไหร่” คนฟังตกใจไม่น้อยที่จู่ๆ ก็ได้ยินแบบนี้“เมื่อวาน ตอนที่คุณปราณมาหาที่โรงพยาบาลนั่นแหละ” เพราะรู้สึกผิด
“ฉันไม่ได้ต้องการความสำนึกอะไรจากเขา สิ่งที่อยากขอคือช่วยออกไปจากชีวิตฉันกับลูกก็พอ ส่วนแกก็ใจเย็นๆ ถ้ายังไม่เย็นก็ลงไปหากาแฟกิน ฉันจะเข้าไปดูลูกก่อน”“อืม อยากกินอะไรไหม”“อะไรก็ได้” เอ่ยบอกแค่นั้นลลิตาก็เข้าไปภายในห้องไอซียูเด็กเพื่อเยี่ยมอาการลูกชาย ส่วนลักขณาถอนหายใจออกมาหนักๆ แล้วเดินลงไปที่ร้านกาแฟตรงชั้นหนึ่ง พอได้กาแฟก็เดินตรงไปที่ลานสวนหย่อม นั่งถอนหายใจเฮือกๆ อยู่แบบนั้น“บังเอิญเจอกันอีกแล้วนะครับ” กวินออกตัวทั้งๆ ที่เขามองเห็นลักขณามาแต่ไกล เพราะแบบนั้นจึงเดินตรงเข้ามาหาเธอ“ค่ะ” คนถูกทักเอ่ยรับอย่างไม่ใส่ใจกับความบังเอิญในครั้งนี้สักเท่าไหร่“ออกมาจิบกาแฟเหรอครับ” ขณะถามหมอหนุ่มก็หย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้อีกตัวที่อยู่ข้างๆ หญิงสาวที่เขายอมรับว่าสนใจ“เปล่าค่ะ”“เปล่า แต่ข้างๆ คุณมีแก้วกาแฟ”“ฉันสั่งเพราะความเคยชินมากกว่า นี่คุณหมอ”“ครับ” หมอกวินเอ่ยรับพร้อมมองหน้าที่เต็มไปด้วยความจริงจังของคนตรงหน้า สีห