“เจ้านายผมไม่ใช่แค่พวกคลั่งรัก แต่เขาเป็นพวกรักเดียวใจเดียวต่างหาก!” โจวจื่ออี้กล่าวว่า “เขาไม่เพียงแต่ทุ่มเทให้กับฉินอันอันไม่อั้นเท่านั้น แต่ยังรักเธออย่างไม่มีวันเปลี่ยนแปลงอีกด้วย! มีผู้หญิงรอบตัวเขาที่สวยกว่าฉินอันอันไม่น้อย แต่เขาไม่เคยคิดจะมองผู้หญิงคนอื่นเลย”“นั่นเป็นเพราะคนที่สวยกว่าฉินอันอันจะไม่มีความสามารถเท่าฉินอันอัน และคนที่มีความสามารถมากกว่า ฉินอันอันก็ไม่สวยและอ่อนวัยเท่าฉินอันอัน” ไมค์ยกย่องฉินอันอันด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “ถ้าผมชอบผู้หญิง ผมก็จะตกหลุมรักฉินอันอันด้วยเหมือนกัน”โจวจื่ออี้เตะเขาไปหนึ่งที หลังจากกล่าวชมเพียงไม่กี่คำ เขาก็ตัวลอยแล้ว“คุณนี่แค่แหย่นิดเดียวก็ไม่ได้เลย! อันอันและเจ้านายของคุณกำลังจะแต่งงานกันใหม่ พอพวกเขากลับมาที่จีน บ้านนี้ก็คงไม่มีที่สำหรับผมแล้ว” ไมค์พูดด้วยความเสียใจบนใบหน้า แต่ในใจกลับรู้สึกยินดี “ถึงตอนนี้ผมจะย้ายไปอยู่กับคุณ!”“คุณแน่ใจหรือว่าพวกเขาจะแต่งงานกันใหม่” โจวจื่ออี้ดูแลแม่ของเขาที่โรงพยาบาลช่วงนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน“มีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะได้แต่งงานกันใหม่ อีกสองวันก็จะเริ่มงานแล้ว แต่เขายังไม
“แม่กำลังดูรูปถ่ายของแม่กับพ่อ ลูกอยากดูไหม?” ฉินอันอันถามเสี่ยวหานหันหน้าหนีไปทางหน้าต่างรถทันที “ไม่ดูครับ”“ถ้าอย่างนั้น ฉันก็จะไม่ดูแล้วเหมือนกัน” ฉินอันอันวางโทรศัพท์แล้วมองลูกชายของเธอ “เสี่ยวหาน วันนี้แม่ขอบคุณจริง ๆ เหตุผลที่แม่อยากถ่ายรูปครอบครัวก็เพราะตั้งแต่ยายลูกเสีย เราก็ไม่เคยถ่ายรูปครอบครัวกันอีกเลย และยังมีอีกเหตุผลหนึ่งด้วย”เสี่ยวหานมองออกไปจากหน้าต่างเขาเต็มใจที่จะฟังแม่ ไม่ว่าแม่จะพูดอะไร เขาก็รับฟังและเก็บไว้ในใจ“เมื่อคืนนี้พ่อของลูกบอกแม่ว่า หลังจากที่อิ๋นอิ๋นจากไป เขาต้องพึ่งยาถึงจะนอนหลับได้ เขาไม่ได้เอายามาด้วย ดังนั้นเมื่อคืนแม่จึงไปซื้อยาให้เขา พ่อของลูกไม่ใช่คนสมบูรณ์แบบ และแม่ก็ไม่ใช่คนที่สมบูรณ์แบบเช่นกัน หลังจากที่แม่คิดอย่างรอบคอบแล้ว แม่อยากให้เขาอยู่เคียงข้างแม่ไปตลอดชีวิต”ฉินอันอันกำลังบอกเสี่ยวหานว่า ต่อไปเธอจะใช้ชีวิตร่วมกับฟู่สือถิงเสี่ยวหานคาดเดาได้ตั้งนานแล้วว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นนี้หลังจากที่ฟู่สือถิงเข้ามา แม่ก็ไปนอนกับเขา เล่นกับเขาทุกวัน เวลาที่พวกเขาออกไปเดตกัน เขาก็ต้องดูแลน้องสาวอยู่ที่บ้านเขาไม่ชอบที่แม่แบ่งความรักไปให้กับฟู
ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่คาดคิดว่าฟู่สือถิงจะอยู่ข้าง ๆ เธอ ดังนั้นเธอจึงตกตะลึงไปพักหนึ่งฉินอันอันก็ใจเย็นลงเช่นกัน : คุณบอกว่าคุณเป็นลูกพี่ลูกน้องของถังเชี่ยน ทำไมฉันต้องเชื่อคุณด้วย?ลูกพี่ลูกน้องของถังเชี่ยน : ฉันเป็นลูกพี่ลูกน้องของถังเชี่ยน! ฉันชื่อจางจื่ออิ๋ง ถ้าไม่เชื่อก็โทรไปถามลูกพี่ลูกน้องฉันได้เลย! เธอมีเบอร์ลูกพี่ลูกน้องของฉันไหม?ฉินอันอัน : ไม่มี ส่งเบอร์ของเธอมาให้ฉันสิฉินอันอันมีเบอร์โทรของถังเชี่ยน แต่เธอพูดแบบนี้เพราะเธออยากรู้ว่าอีกฝ่ายโกหกหรือไม่ลูกพี่ลูกน้องของถังเชี่ยนส่งหมายเลขมาชุดหนึ่งหลังจากตรวจสอบแล้ว ฉินอันอันยืนยันได้ว่าอีกฝ่ายรู้จักถังเชี่ยนจริง ๆจู่ ๆ หัวใจของฉินอันอันก็เย็นเยียบลงถ้าเธอเป็นลูกพี่ลูกน้องของ ถังเชี่ยนจริง ๆ สิ่งที่เธอพูดอาจเป็นเรื่องจริงใช่รึเปล่า?เธอรู้สึกเวียนหัวทันที และขมับของเธอก็ปวดขึ้นมา!ฟู่สือถิงอยู่กับเธอและลูก ๆ ทุกวัน เขากับถังเชี่ยนไม่มีปฏิสัมพันธ์อะไรต่อกันเลย แล้วจู่ ๆ เขาจะมาแต่งงานกับถังเชี่ยนได้อย่างไร?หากเขาจะแต่งงานกับถังเชี่ยน ตอนนี้เขาควรจะอยู่ข้างกายถังเชี่ยนไปแล้วถึงจะถูก!ถังเชี่ยน... ถังเชี่ยนเสียโ
จริงอยู่ที่ว่าบริษัทหลักทรัพย์ซิ่นเหอเป็นบริษัทที่ร่ำรวย แต่บริษัทของเธอก็ไม่ใช่บริษัทเส็งเคร็ง! ถ้าฟู่สือถิงให้ความสำคัญกับเรื่องผลประโยชน์เป็นอันดับแรก เขาคงไม่ใช้จ่ายเงินจำนวนมากกับเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาไม่จำเป็นต้องมาเสียเวลากับเธอมากมายขนาดนั้น เธอเชื่อว่า ถ้าเขาอยากทำ เขาก็จะไปทำความรู้จักกับเศรษฐินีระดับโลกเพื่อก่อให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดแน่นอน แต่เขาไม่เคยทำ และตอนนี้ยิ่งไม่มีเหตุผลที่เขาจะขายตัวเองเพื่อบริษัทหลักทรัพย์ซิ่นเหอ เธอรู้สึกโดยสัญชาตญาณว่ามีบางอย่างที่น่าสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังนั้นเธอจึงเช็ดน้ำตาและวางแผนที่จะหาโอกาสพูดคุยกับฟู่สือถิง เมื่อเธอตื่นขึ้นมาเช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากที่ฟู่สือถิงลุกขึ้น เขาก็ยืนอยู่ข้างเตียงและมองลงไปที่ใบหน้าที่กำลังหลับใหลของฉินอันอันเขาอยากปลุกเธอ แต่เขาก็ทำใจไม่ได้ วันนี้เขาต้องกลับประเทศแล้ว ถังเฉียวเซินส่งข้อความถึงเขาโดยบอกว่าตระกูลถังได้เตรียมงานแต่งงานทั้งหมดแล้วและเตือนว่าถ้าเขาไม่เปิดเผยข่าวการแต่งงานต่อสาธารณะ ตระกูลถังก็จะเปิดเผยเรื่องนี้เองเขาไม่ยอมให้ตระกูลถังเปิดเผยต่อสาธารณะแน่ถ้าหากฉินอันอันได
เขามองใบหน้าที่ดื้อดึงของเธอก็แน่ใจแล้วว่าเธอต้องรู้เรื่องของเขากับถังเชี่ยนแล้ว ตอนที่พวกเขาออกไปเที่ยวเมื่อวาน เธอยังดีมากอยู่เลย ถ้าเธอรู้เรื่องเมื่อวานนี้ เธอคงไม่พาเขาไปถ่ายรูปครอบครัวอย่างมีความสุข ดูเหมือนหลังจากที่เขาหลับจะมีคนพูดอะไรบางอย่างกับเธอ“งั้นผมค่อยไปพรุ่งนี้แล้วกัน” เขาไม่รู้จะตอบคำถามของเธอยังไงทำได้เพียงตามน้ำไป เขายอมไปพรุ่งนี้แต่ไม่อยากบอกเธอรายละเอียดว่าเขาจะกลับไปทำอะไร เธอปล่อยมือเขาโดยที่สายตายังมองเขาอยู่แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “ฟู่สือถิง คุณคบกับถังเชี่ยนตั้งแต่เมื่อไหร่?” เขาตอบตามจริง “ผมไม่ได้เจอเธอนานแล้ว” ความหมายอีกนัยหนึ่งก็คือเขาไม่ได้คบกับเธอ “โอ้…หลังจากที่เธอได้รับบาดเจ็บ คุณไม่ได้เจอเธอเลยเหรอ?” “ไม่เลย” เขาหลุบศีรษะลงเล็กน้อย การจ้องมองของเธอทำให้เขารู้สึกเหมือนได้รับการลงโทษที่รุนแรงที่สุด “งั้นคุณชอบเธอหรือเปล่า? เคยชอบเธอไหมทั้งเมื่อก่อนและตอนนี้? คุณตอบฉันสิ!” มือของเธอจับผ้าห่มไว้แน่น แต่กลับไม่สามารถควบคุมตัวที่สั่นเทาเล็กน้อยได้ “ไม่เคย” เสียงของเขาคมชัดและเด็ดขาด เขาไม่เคยชอบถังเชี่ยน แม้แต่ก่อนที่เขาจะพบเธอก็ไม่เค
ลูกสาวจะผิดหวังขนาดไหนหากรู้ว่าพ่อของเธอกำลังจะกลับไปแต่งงานกับผู้หญิงอื่น! และถ้าเสี่ยวหานรู้เรื่องนี้จะต้องเกลียดเขายิ่งขึ้นแน่นอนเขาทำสิ่งนี้เพื่อผลประโยชน์จริงเหรอ? แต่ถ้าไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์แล้วทำเพื่ออะไร? เขาให้คำตอบจากปากของเขาแล้วว่าเขาไม่ได้รักถังเชี่ยน เงินสำคัญกว่าความรักของพวกเขาและลูก ๆ ทั้งสามคนเลยเหรอ? เธอไม่เข้าใจการเลือกของฟู่สือถิง เห็น ๆ อยู่ว่าเขาสามารถหาเงินได้ด้วยตัวเอง และหาได้มากด้วย บริษัทของเธอเองก็ทำเงินมาตลอด เขาต้องการเงินมากเท่าไหร่ถึงจะพอใจ? น้ำตาไหลออกมาจากหางตาของเธอจนหมอนเปียกโชก ด้านนอกประตูไม่มีเสียงอะไรแล้ว เธอพลิกตัวมองเพดานแล้วร้องไห้เงียบ ๆ ที่ชั้นล่าง หลังจากกินข้าวเช้าแล้ว ฟู่สือถิงอุ้มจื่อชิวไว้ในอ้อมแขน จื่อชิวลืมตาสีดำโตจ้องหน้าพ่อเงียบ ๆ ไม่รู้ว่าในหัวเล็ก ๆ กำลังคิดอะไร ฟู่สือถิงมองหน้าลูกชายพร้อมรอยยิ้ม ในใจกลับคิดว่า ‘ตอนนี้พ่อกอดหนูไว้ แต่ไม่รู้ว่าจะได้กอดอีกครั้งเมื่อไหร่’ “คุณผู้ชาย เที่ยวบินของคุณกี่โมงเหรอคะ? ดิฉันจะไปจัดกระเป๋าให้ก่อน!” ป้าจางกล่าว ฟู่สือถิงคิดถึงฉินอันอันที่กำลังร้องไห้อยู่ในห้องและรีบต
เธอไม่เคยเชื่อในโชคชะตาเลย ถึงแม้พระเจ้าต้องการยับยั้งเธอ เธอไม่มีทางยอมแพ้เธอเปิดประตูรถ ลมหนาวพัดมา เธอย่ำลงไปในหิมะอย่างไม่ลังเล! เธอวิ่งตะบึงไปทางสนามบิน! เธอต้องการข้อสรุป เธอไม่อยากให้เขาไปแบบนี้!ที่สนามบิน ในห้องรับรองวีไอพี ฟู่สือถิงยกข้อมือขึ้นดูเวลาบนนาฬิกาข้อมือ ตั๋วของเขาคือบ่ายโมง เหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงก่อนเครื่องจะขึ้นเขายืนอยู่ข้างหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดาน มองดูหิมะตกหนักที่กำลังตกอยู่ข้างนอก หัวใจของเขาเย็นเฉียบราวกับน้ำแข็งหากมีวิธีอื่น เขาไม่มีทางทำเรื่องที่เป็นการทำร้ายเธอและลูกเด็ดขาดการโหดร้ายกับเธอและลูกคือการโหดร้ายกับตัวเอง มีแต่ทำให้เขาเจ็บปวดมากกว่าพวกเขาตอนนี้ในมือถังเฉียวเซินกำจุดอ่อนของเขาเอาไว้แล้วบังคับให้เขาแต่งงานกับถังเชี่ยน เขาไม่มีทางเลือก ถ้าหากเขาสดงละครในฉากนี้ได้ไม่ดี ในอนาคตก็จะเจ็บปวดไม่มีวันจบเขาไม่ต้องการให้ลูกทั้งสามของเขาถูกวิพากษ์วิจารณ์ เนื่องจากเรื่องอื้อฉาวของเขาและเขาไม่อยากให้ฉินอันอันรู้เรื่องนี้เช่นกันชื่อเสียงของเขาเสียหายได้ และเขาไม่สนสายตาของใครเลยก็ได้เช่นกัน แต่ว่าเขาใส่ใจฉินอันอัน ถ้าไม่มีฉินอ
หลังจากที่เธอพูดจบ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็เข้ามาเตือนฟู่สือถิงให้รีบขึ้นเครื่อง“อันอัน ผมต้องกลับไปแก้ไขเรื่องภายใน คุณให้เวลาผมหน่อยนะ…” “ไม่ให้! ถ้าฉันให้เวลาคุณ คุณจะไปแต่งงานกับถังเชี่ยน! ฟู่สือถิง ฉันยอมรับเรื่องที่คุณจะแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นไม่ได้! ไม่ว่าผู้หญิงคนนั้นจะเป็นถังเชี่ยนหรือใครก็ตาม! ถ้าเจ้าสาวไม่ใช่ฉัน ก็ไม่ได้!” เธอกัดฟันแล้วพูดว่า “ถ้าวันนี้คุณกล้าจากไปจากฉัน คุณไม่มีวันได้เจอฉันอีก ไม่ต้องพูดถึงเรื่องเจอลูกเลย!” เมื่อขอร้องอย่างถ่อมตัวก็ไร้ผล เหลือเพียงต้องข่มขู่เขาเท่านั้น หากตระกูลถังใช้อะไรบางอย่างเพื่อข่มขู่เขาหรือชักจูงเขาได้ เธอก็อาจขู่เขาได้เหมือนกัน!เธอไม่เชื่อว่าเบี้ยที่เธอใช้ต่อรองจะแย่กว่าของตระกูลถัง ดวงตาของเขาแดงก่ำและในดวงตามีน้ำตาเอ่อล้น เขามองดูเธอด้วยสีหน้าเจ็บปวดเธอเห็นเขาจากพยายามทำใจให้สงบไปจนถึงน้ำตาคลอในชั่วพริบตาเดียว เธอไม่อยากบีบคั้นให้เขาร้องไห้ เธอไม่อยากทำให้เขาเดือดร้อนแบบนี้ แต่เธอทนไม่ได้ที่เขาแต่งงานกับถังเชี่ยน “ฟู่สือถิง ถ้าตอนนี้เปลี่ยนเป็นฉันจะไปแต่งงานกับผู้ชายคนอื่น คุณใจร้ายขนาดนี้ไม่สนใจกันแบบนี้ไ