“ทำไมคุณถึงไม่เอาบอดี้การ์ดมาด้วย? คุณไม่รู้เหรอว่าคุณเป็นบุคคลสาธารณะ” เธอเลิกคิ้วแล้วทันใดนั้นก็รู้สึกโกรธขึ้นมาทันที “คุณคิดว่ามาประเทศบีแล้วจะไม่มีอันตรายงั้นเหรอ? การรักษาความปลอดภัยของที่นี่แย่กว่าที่ประเทศเรามากนะ!” เขามองดูใบหน้าเล็กที่กำลังตื่นเต้นของเธอ รู้สึกราวกับมีก้อนแข็งติดอยู่ที่คอ “อันอัน คุณอย่าโกรธสิ ผมตัดสินใจมาที่นี่อย่างกะทันหัน” เขาอธิบาย “ตอนนั้นไม่มีตั๋วเครื่องบินเที่ยวที่ใกล้ที่สุดเหลือแล้ว ดังนั้นผมเลยไม่ได้เอาบอดี้การ์ดมาด้วย” “คุณรอมาเที่ยวบินถัดไปแล้วมาพร้อมกับบอดี้การ์ดไม่ได้เหรอ?” ถึงแม้ว่าเธอจะบ่น แต่อารมณ์ของเธอค่อย ๆ สงบลง “คืนนี้คุณพักที่บ้านฉันแล้วกันค่ะ” “ตกลง” “คุณจงใจสินะ?” ยิ่งคิดเธอยิ่งสงสัย “บอดี้การ์ดของคุณไม่มาจริง ๆ เหรอ?” “คุยกันแล้วว่าจะเชื่อใจกันไม่ใช่เหรอ?” เขาพูดอย่างตรงไปตรงมา “มีเป็นพันวิธีถ้าผมอยากอยู่บ้านคุณ แต่ผมจะไม่บรรลุเป้าด้วยการหลอกลวงให้คุณเห็นอกเห็นใจหรอกนะ” เธอหน้าแดงที่ตัวเองนึกสงสัย ภายในวิลล่า หลังจากที่เสี่ยวหานกลับมาถึงบ้าน เขาเห็นไมค์กินอาหารเดลิเวอรี่และดื่มเบียร์ในห้องนั่งเล่น “พี่หาน วันนี้ลุง
รองประธานที่อยู่ปลายสายร้องไห้สะอึกสะอื้น เธอจำเป็นต้องรีบกลับไป เกิดเรื่องขึ้นอย่างกะทันหันจนตอนนี้สมองของเธอว่างเปล่าไปหมด เทคโนโลยีหลักของบริษัทถูกขโมย น่าเศร้ายิ่งกว่านั้นคือยังไม่รู้ว่าใครคือคนร้ายคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องชั่วร้ายนี้ฉวยโอกาสลงมือตอนที่เธอกับไมค์ไปพักผ่อนที่ประเทศบีเทคโนโลยีหลักของบริษัทใส่ไว้ในชิปและมีการเพิ่มรหัสผ่านหลายชั้นลงไปในชิป ถึงแม้ว่าชิปจะถูกขโมย แต่ไม่สามารถถอดรหัสเนื้อหาข้างในได้ ทว่าก็อาจถูกถอดรหัสได้อย่างรวดเร็วเช่นกันเหมือนกับที่เธอไม่เคยคิดว่าเสิ่นอวี๋จะฆ่าตัวตาย บนโลกใบนี้สิ่งที่ไม่เคยขาดหายไปคือเรื่องไม่คาดคิด ตอนเช้าเวลาเจ็ดโมงครึ่งเสี่ยวหานเดินออกมาจากห้อง วิลล่าทั้งหลังเงียบสงบราวกับไม่มีคนอยู่ เสี่ยวหานไปที่ห้องของฉินอันอัน พบว่าเตียงรก แต่ในห้องกลับไม่มีคน “แม่!” เสียวหานตะโกนเสียงดัง ฟู่สือถิงที่อยู่ในห้องรับแขกถูกปลุกให้ตื่น หลังจากที่เขาผุดลุดขึ้นจากโซฟาและต่อสู้กับอาการปวดหัวจากอาการเมาค้างแล้ว เขาก็เดินไปหาเสี่ยวหาน “เสี่ยวหาน เกิดอะไรขึ้น?” ดวงตาของเสี่ยวหานแดงเล็กน้อย ไม่มีเวลาสนใจกับความแค้นที่มีต่อเขา แ
เลขารีบเข้ามาประคองเธอทันที รองประธานโทรเรียกรถพยาบาล หลังจากฉินอันอันถูกรถพยาบาลพาตัวไป เรื่องนี้แพร่กระจายอย่างรวดเร็วโดยไม่รู้ว่าทำไม “ดูเหมือนว่าฉินกรุ๊ปจะเผชิญกับวิกฤตเข้าแล้วจริง ๆ! ก่อนหน้านี้ฉินอันอันยังรุ่งเรืองอยู่เลย ตอนนี้เธอถูกรถพยาบาลพาตัวไปแล้ว น่าสงสารจริง!” “ที่น่าสงสารที่สุดคือลูกในท้องของเธอไม่ใช่เหรอ? ได้ยินว่าเด็กในท้องเป็นลูกของฟู่สือถิง จริงหรือเปล่า?” “ใครจะรู้ล่ะ! นอกจากลูกในท้องแล้ว ยังมีลูกอีกสองคนด้วย... เด็กสองคนนั้นต้องไม่ใช่ลูกของฟู่สือถิงแน่นอน ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่ต่อสู้แย่งสิทธิ์ในการเลี้ยงดูเลยเหรอ?” “ชีวิตส่วนตัวของฉินอันอันยุ่งเหยิงมาก! แต่เว้นเรื่องนี้ไปก่อน ครั้งนี้ฉินกรุ๊ปดวงตกจริง ๆ! เทคโนโลยีหลักถูกขโมยไปแล้วต่อไปพวกเขาจะขายสินค้าราคาแพงขนาดนี้ได้ยังไง? การผูกขาดในตลาดระดับสูงของเธอกำลังจะพังแล้ว!” “นี่เป็นเรื่องดีสำหรับผู้บริโภค” “แต่สำหรับฉินอันอัน คือความเสียหายร้ายแรง! ไม่แปลกใจเลยที่เธอโกรธจนเป็นลม” ......หลังจากที่หวังหว่านจือได้ยินข่าว เธอเปิดขวดไวน์แดงอย่างมีความสุข เธอหยิบรูปถ่ายฉินเขอเข่อที่ตายไปแล้วและพูดกับรูปนั้น
ตอนนี้เอง คุณหมอหยิบเอกสารการพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเดินเข้ามาที่เตียงผู้ป่วย “คุณฉิน เอกสารพักรักษาตัวเสร็จแล้ว” โจวจื่ออี้ที่ปลายสายได้ยินประโยคนี้แล้วก็รู้สึกตึงเครียด “ฉินอันอัน คุณเป็นอะไร? ทำไมต้องเข้าโรงพยาบาล? ตอนนี้คุณอยู่โรงพยาบาลไหน? ผมจะรีบไปหาคุณเดี๋ยวนี้!”ฉินอันอันปิดบังไม่อยู่ ทำได้แค่บอกไปตามจริง หลังจากวางสายแล้ว เลขาก็พูดว่า “ประธาน ฉันจะไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้คุณนะคะ” ฉินอันอัน “รบกวนคุณแล้ว คุณจ่ายค่ารักษาแล้วกลับบริษัทได้เลยนะ!”“ประธานคะ ฉันอยู่ดูแลคุณที่โรงพยาบาลได่” ฉินอันอัน “ไม่ต้องหรอก คุณกลับไปบอกทุกคนว่าฉันไม่เป็นไร ฉันจะโทรหารองประธาน เมื่อฉันรู้ว่าจะจัดการเรื่องนี้ยังไง”เลขา “ได้ค่ะ ประธาน” ยี่สิบนาทีต่อมา โจวจื่ออี้รีบมาที่โรงพยาบาล เมื่อเห็นอาการของฉินอันอัน เขาเอ่ยว่า “ผมขอให้ป้าจางมาดูแลคุณ คุณพักฟื้นอย่างสบายใจนะครับ ไม่ต้องคิดอะไร” “ตอนนี้ฉันดีขึ้นมากแล้ว” เธอพูดอย่างสงบนิ่ง “อื้ม ผมให้บอดี้การ์ดไปซื้ออาหารแล้ว คุณทานแล้วก็พักผ่อนให้มาก ๆ” โจวจื่ออี้กล่าว “อืม” สิบชั่วโมงต่อมา ไมค์และฟู่สือถิงกลับมาถึงประเทศเอ เวลานี้ พร
“นี่ฟู่สือถิงประธานใหญ่ของเอสทีกรุ๊ปไม่ใช่เหรอ? เขามาทำไม? รองประธานโจว คุณบอกว่าผู้อำนวยการไมค์กลับมาแล้ว ไหนผู้อำนวยการไมค์ล่ะ? ทำไมคุณถึงโกหกพวกเรา?” มีคนทักท้วง รองประธานโจวทำอะไรไม่ถูกอย่างมาก “พวกคุณคงเคยได้ยินว่าประธานฟู่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประธานฉินของพวกเรา ตอนนี้คุณฉินไม่สบาย เข้าโรงพยาบาล ดังนั้นประธานฟู่จึงมาช่วยพวกเรา” “อ้อ...ดีเลยที่ประธานฟู่มาช่วย แต่ว่าทำไมถึงต้องเอาโทรศัพท์พวกเราไปด้วย? แปลก ๆ นะ” รองประธานโจวอธิบาย “มือถือของผมก็ถูกเก็บไปเหมือนกัน ประธานฟู่ทำแบบนี้ย่อมมีเหตุผล” สายตาของทุกคนมองไปทางชายหนุ่มที่นั่งอยู่เก้าอี้ประธาน ใบหน้าของเขาเย็นชาและน่ากลัวและตัวของเขาก็แผ่รัศมีอันมืดมน ต่อหน้าเขา ถึงตนเองจะไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ก็รู้สึกว่าตนเองอาจจะทำผิดพลาดอะไรไป “พวกคุณบางคนคงจะรู้ว่าชิปถูกขโมยไปได้ยังไง” ดวงตาสีเข้มอันคมกริบของเขากวาดไปทั่วใบหน้าของทุกคน “ผมให้เวลาพวกคุณหนึ่งนาที ถ้าผ่านไปหนึ่งนาทีแล้วยังไม่มีใครสารภาพ ผมจะใช้วิธีของผมจัดการกับพวกคุณ” หลังจากพูดจบแล้ว การจับเวลาก็เริ่มขึ้น ในเวลาเดียวกัน ชายชุดดำที่แข็งแกร่งและกระตือรือร้นหลายคน
ฟู่สือถิงมองพวกเขาอย่างเย็นชาแล้วเม้มริมฝีปากบางเป็นเส้นตรง คืนนี้เขาต้องค้นหาคนทรยศ! เช้าวันรุ่งขึ้น ฉินอันอันลืมตาตื่นแล้วเห็นใบหน้าไมค์เข้ามาในดวงตา “อันอัน เธอตื่นแล้ว!”ไมค์ยกหัวเตียงเธอขึ้นแล้วยื่นชามโจ๊กให้เธอ “เธอกินโจ๊กหน่อยนะ” เธอยังตื่นไม่เต็มที่ เธอจึงรับชามโจ๊กมาอย่างงุนงง “วันนี้เธอสึกยังไงบ้าง?” ไมค์นั่งลงข้างเตียงแล้วมองหน้าเธอ “เกิดเรื่องใหญ่แบบนี้ที่บริษัท ทำไมเธอไม่บอกฉัน กลับมาเองทำไม? หากเธอเป็นอะไรไป ฉันรู้สึกผิดจนตายแน่ ๆ” ฉินอันอันตื่นขึ้นทันที “ตอนนั้นนายเมาคอพับ ฉันจะบอกนายยังไง?” “เอาเถอะ! ฉันก็ไม่ควรอวดเก่งไปดื่มเหล้ากับตาฟู่สือถิงนั่น!” ไมค์ถอนใจ “แต่ครั้งนี้เราต้องขอบคุณเขา เขาช่วยพวกเราตามหาหนอนบ่อนไส้มาได้” ขนตาฉินอันอันสั่นไหว ถามเสียงแหบแห้ง “คือใคร? ใครทรยศพวกเรา?” “ฝ่ายเทคนิค” ไมค์ก้มหน้าลง เพราะเขาบริหารฝ่ายเทคนิค ฉินอันอันขมวดคิ้ว “ฉันถามนายว่าเป็นใคร ไม่ได้ถามว่าแผนกไหน” “พนักงานฝ่ายเทคนิคและฝ่ายวิจัยและพัฒนาทุกคน” ไมค์สูดหายใจเข้าลึก ๆ เขากัดฟันและพูดว่า “เจ้าโง่พวกนี้ตอนออกไปปาร์ตี้ทำเรื่องเหลวไหล แล้วถูกคนถ่ายรูปเลวร้า
เธอคิดว่าตัวเองกำลังฝัน เพราะเธอเห็นชัดเจนว่าเหมือนมีแสงจาง ๆ อยู่รอบตัวเขา จนกระทั่งเธอเดินทันตามหลังเขา จู่ ๆ เขาก็หันกลับมา เมื่อเธอเห็นดวงตาลึกล้ำของเขา และสัมผัสได้ถึงไออุ่นที่เล็ดลอดออกมาจากร่างกายของเขา...ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่านี่ไม่ใช่ความฝัน “คุณลงจากเตียงทำไม?” เขาพยุงแขนเธอ “ผมปลุกคุณหรือเปล่า?” เธอส่ายหัว “เมื่อคืนฉันนอนนานมากแล้ว นอนนาน ๆ แล้วเวียนหัว” “ให้ผมไปเดินเล่นกับคุณไหม?” เขาถามหมอแล้ว หมอบอกว่าทารกในครรภ์ไม่มีปัญหาอะไร สาเหตุหลักคือความวิตกกังวลของฉินอันอันทำให้อัตราการเต้นหัวใจเร็วเกินไปและหายใจลำบาก ตราบใดที่เธอปรับอารมณ์และนอนหลับให้เพียงพอ ก็ไม่เป็นอะไร แต่ถ้าเธอไม่รีบปรับตัวก็จะส่งผลต่อลูกในท้อง ฉินอันอันมองออกไปนอกหน้าต่าง วันนี้อากาศดี ท้องฟ้าปลอดโปร่ง แสงแดดส่องสว่าง เธอพยักหน้าและเดินออกจากห้องผู้ป่วยไปกับเขา “ฉินอันอัน ปัญหาที่บริษัทของคุณพบก็แค่เรื่องเล็กน้อย” พวกเขาเดินออกจากแผนกผู้ป่วยใน เขาคิดและพูดว่า “ชีวิตคนเราไม่ได้ราบรื่นตลอดเวลาหรอก ไม่ว่าจะเป็นชีวิตหรือหน้าที่การงาน อยู่ที่ว่าเราจะหลุดพ้นจากสถานการณ์ความทุกข์ยากนั้นได้ไหมก
จู่ ๆ ก็มีข่าวพาดหัวข่าววันนี้ว่า เทคโนโลยีหลักของฉินอันอันถูกขโมยไปแล้ว! ด้านล่างมีความคิดเห็นมากมาย - ฉินกรุ๊ปเพิ่งก่อตัวใหม่เมื่อสองปีที่แล้วไม่ใช่เหรอ? นี่จะล้มละลายอีกแล้วเหรอ? ฉันสงสัยจังว่าตึกฉินกรุ๊ปมีฮวงจุ้ยไม่ดีหรือเปล่า! - ไม่มีใครคิดว่าผลิตภัณฑ์ของฉินกรุ๊ปแพงเกินไปเลยเหรอ? แม้ว่าผลิตภัณฑ์ของเขาจะดีจริง แต่ตลาดโดรนระดับไฮเอนด์กลับถูกพวกเขาผูกขาดโดยสิ้นเชิง! สิ่งที่ฉันเกลียดที่สุดคือการผูกขาดตลาด! - ฮ่าฮ่า! ในอนาคตราคาโดรนจะลดลงใช่ไหม? [ปรบมือ] - พ่อของฉันทำงานให้กับฉินกรุ๊ป ฉันไม่อยากให้ล้มละลายเลย! บริษัทนี้นอกจากจะเงินเดือนดีแล้ว ที่สำคัญ เจ้านายยังมีมนุษยธรรมมาก! ความฝันของฉันคือการได้ร่วมงานกับบริษัทนี้หลังจากเรียนจบ... ฉินอันอันปิดข่าว คลิกวีแชทและเห็นข้อความจากไมค์ : ชิปถูกหวังหว่านจือเอาไปแล้ว! เธอไม่แปลกใจกับเรื่องนี้เลย เพียงแต่เธอนึกไม่ถึงว่าหวังหว่านจือจะใจร้อนขนาดนี้ ในช่วงบ่ายบริษัทเทคโนโลยีจินจือได้จัดงานแถลงข่าวที่โรงแรม ในที่ประชุม หวังหว่านจือรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่จะประกาศว่าแผนกวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีของบริษัทได้สร้างความก้าวหน้าครั้งใหญ