แก้มของเธอฉาบไปด้วยความแดงซ่าน รองประธานเตือนผู้สื่อข่าวว่า “กรุณาอย่าขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัวของประธานฉินเลยครับ” นักข่าว “ฉันแค่อยากรู้ว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับแผน ‘วินวิน’ นี้ไหม เพราะแผนการนี้สุยอดเยี่ยมมาก” รองประธาน “คุณหมายความว่าประธานฉินของเราคิดแผนนี้เองไม่ได้ใช่ไหม?” นักข่าว “ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพื่อนร่วมงานของฉันถ่ายรูปฟู่สือถิงเข้าไปในฉินกรุ๊ปตอนดึกได้ เขาไปช่วยเรื่องธุรกิจหรือเปล่าคะ?” นักข่าวกล่าวถึงชื่อของฟู่สือถิงตรง ๆ ซึ่งทำให้ใบหน้าของฉินอันอันยิ่งแดงขึ้นอีก มีคนมากมายอยู่ตรงนั้น และทุกคนก็จ้องมองเพื่อรอคำตอบจากเธอ “แผนวินวินเป็นแผนที่ฉันคิดขึ้นมาหลังจากปรึกษากับผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของฉัน สำหรับเรื่องอื่น ๆ ฉันไม่มีความเห็นค่ะ” หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เธอก็เปิดปากพูดอย่างเปิดเผย นักข่าวทำได้เพียงเปลี่ยนเรื่อง “คุณฉิน คุณหวังจากบริษัทเทคโนโลยีจินจือกล่าวว่า การวิจัยและพัฒนาของพวกเขาทำให้เกิดความก้าวหน้าครั้งใหญ่ และพวกเขาคาดว่าจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ระดับไฮเอนด์ใหม่ก่อนสิ้นปีนี้ คุณมีความคิดเห็นในเรื่องนี้อย่างไรบ้างคะ?” ฉินอันอัน “สำหรับเ
แก้มของฉินอันอันร้อนผ่าว “ฉันบอกเมื่อไหร่ว่าฉันจะกลับไปคืนดีกับเขา?” “เมื่อกี้ไง! เธอเพิ่งบอกว่าเขาทำเพื่อเธอตั้งเยอะ อยากเลี้ยงข้าวเขา และยังอยากซื้อของขวัญให้เขาอีก... เห็น ๆ อยู่ว่าเธอตกหลุมพรางเขาแล้ว” หลีเสี่ยวเถียนถอนหายใจ “อย่าเพิกเฉยคำพูดของฉัน ฉันมองคนไม่ผิดหรอก ฉันตัดสินคนเก่งมาก นั่วนั่วนั่น เธออย่ามองหล่อนแต่ภายนอก เธออยู่เหนือกว่าเสิ่นอวี๋อย่างแน่นอน!” ฉินอันอันคิดสักครู่แล้วพูดว่า “แต่เธอไม่มีไพ่ในมือ” “ไม่มีก็สร้างขึ้นมาได้ ก็แค่ไม่ล้มเลิกความพยายาม เธอเป็นศัตรูตัวฉกาจที่สุดของหล่อน และหล่อนกับถังเชี่ยนจะต้องร่วมมือกันจัดการเธออย่างแน่นอน” หลีเสี่ยวเถียนเอาแผ่นมาส์กหน้าออกจากใบหน้าของเธอ “ฟู่สือถิงเป็นเนื้อชิ้นโตที่ใคร ๆ ก็อยากได้ อันอัน เตรียมพร้อมสำหรับอันตรายพายุท่ามกลางคลื่นลมสงบเสีย!” ฉินอันอันสงบลงมากหลังจากฟังคำพูดของเธอ “ไม่เพียงแต่ฟู่สือถิงจะต้องไล่นั่วนั่วออกเท่านั้น ถังเชี่ยนก็ต้องถูกไล่ออกไปด้วย!” หลีเสี่ยวเถียนให้คำแนะนำ “ถ้าเธอไม่กล้าบอกเขา ฉันจะบอกเขาเอง!” “เสี่ยวเถียน! เขากับฉันยังไม่ถึงขั้นนั้นจุดนี้…” ฉินอันอันรีบห้ามทันที “ก็ได้ แต่เรื่อง
ฝีเท้าของเซิ่งเป่ยแข็งทื่อ ใบหน้าของเขามืดมน หมัดของเขากำแน่น เมื่อเขากำลังจะเปิดประตูห้องส่วนตัว ถังเชี่ยนก็คว้าแขนของเขาเอาไว้ “เซิ่งเป่ย! อย่า!” เซิ่งเป่ยกัดฟัน “ทำไมจะไม่ได้ล่ะ! ฉันไม่เพียงอยากเข้าไปจับชายชู้เท่านั้น ฉันจะโทรหาสือถิงด้วย! ให้เขาเห็นธาตุแท้ของผู้หญิงคนนี้ชัด ๆ!” ถังเชี่ยน “เห็นธาตุแท้ของเธอแล้วยังไงต่อ? ลูกในท้องของเธอยังต้องการหรือ? เท่าที่ฉันรู้ สือถิงต้องการเด็กคนนี้ รอจนกว่าฉินอันอันคลอดลูก แล้วค่อยให้สือถิงคิดบัญชีกับเธอ” คำพูดของถังเชี่ยนระงับความโกรธในใจของเซิ่งเป่ย จริงด้วย! ยังมีเด็ก! ถ้าไม่มีเด็ก เขาจะไม่มีทางปล่อยให้ฉินอันอันมีที่ยืน คำพูดของเธอเมื่อกี้มันระคายหูมาก! อย่าว่าแต่เขาที่รับไม่ได้เลย ถ้าฟู่สือถิงได้ยิน เขาอาจจะฆ่าเธอเลยก็ได้! แต่ตอนนี้เพื่อให้เด็กเกิดมาได้อย่างราบรื่น เซิ่งเป่ยต้องแสร้งทำเป็นไม่รู้และไม่อาจบอกฟู่สือถิงได้ หากเรื่องนี้ไปถึงหูฟู่สือถิง เซิ่งเป่ยก็จินตนาการได้ว่าเด็กคนนี้คงจะไม่ได้เกิดมาอย่างราบรื่นแน่นอน ถังเชี่ยนดึงเซิ่งเป่ยออกมาอย่างรวดเร็ว หลังจากออกจากโรงแรม เซิ่งเป่ยก็โกรธมาก เขาหยิบโทรศัพท์มือถืออ
ความทรงจำในใจของเธอขาดหายเป็นช่วงๆ เธอจำได้ราง ๆ ว่าหลีเสี่ยวเถียนส่งข้อความถึงเธอว่ามีเรื่องเซอร์ไพรส์และขอให้เธอรีบมา แต่หลังจากที่เธอมาถึง เธอก็ไม่เห็นหลีเสี่ยวเถียน หลังจากนั้นเธอก็เวียนหัวมากและเผลอหลับไป ห้องที่เธออยู่ตอนนี้ไม่ใช่ห้องที่เธอเข้ามาตอนบ่าย ใครพาเธอย้ายห้อง? เธอรู้สึกไม่สบายใจอย่างเห็นได้ชัด เธอหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วรีบออกจากห้องส่วนตัว หลังจากออกจากโรงแรมเธอก็โทรหาเฮ่อจุ่นจือ “อันอัน โทรศัพท์มือถือของเสี่ยวเถียนหล่น ถ้ามีคนโทรมาหรือส่งข้อความมาขอยืมเงิน คุณต้องให้นะ!” เฮ่อจุ่นจือกล่าว “โอ้... เธอทำโทรศัพท์หายตั้งแต่เมื่อไหร่?” ร่างของฉินอันอันชา “ประมาณบ่ายสามโมง” เฮ่อจุ่นจือกล่าว “คุณไม่ได้รับข้อความยเลยเหรอ?” ฉินอันอันสูดหายใจแล้วพูดว่า “ตอนนี้เสี่ยวเถียนอยู่กับคุณหรือเปล่า? ฉันอยากคุยกับเธอ” “ได้สิ เธออยู่ชั้นบน ผมจะไปหาเธอ” หลังจากนั้นไม่นาน เฮ่อจุ่นจือก็ยื่นโทรศัพท์ให้หลีเสี่ยวเถียน “อันอัน! ฮือ ๆ โทรศัพท์ฉันโดนขโมย! โจรนั่นเลวมาก! ฉันโทรแจ้งตำรวจแล้ว แต่ตำรวจบอกคงเอาคืนได้ยาก ฉันยุ่งอยู่กับเรื่องนี้ทั้งบ่ายแล้ว ข้อมูลส่วนตัวในโทรศัพท์
เมื่อถังเชี่ยนรู้ว่าพวกเขากำลังทะเลาะกันจึงรีบวิ่งไปหา พอไปถึงพวกเขาก็หยุดทะเลาะกันแล้ว เพราะโจวจื่ออี้ยืนอยู่ระหว่างพวกเขาและแยกพวกเขาออกจากกัน ในฐานะคนห้าม โจวจื่ออี้จึงถูกลูกหลง แว่นตาของเขาหัก และใบหน้าของเขาก็เปื้อน “เซิ่งเป่ย ออกมา!” ถังเชี่ยนพูดน้ำเสียงเย็นชาและดึงเซิ่งเป่ยออกมา หลังจากที่เซิ่งเป่ยออกไป โจวจื่ออี้ก็มองไปที่ฟู่สือถิง การทะเลาะกันเมื่อครู่เป็นการที่ฟู่สือถิงทำร้ายเซิ่งเป่ยอยู่ฝ่ายเดียว เซิ่งเป่ยไม่ได้สู้กลับ สิ่งนี้ทำให้โจวจื่ออี้ตัดสินได้ว่าเซิ่งเป่ยเป็นคนยั่วยุฟู่สือถิง ไม่อย่างนั้นฟู่สือถิงคงไม่ลงมือกับเซิ่งเป่ย พวกเขาทั้งสองคนเป็นเพื่อนกันมานานหลายปีและไม่เคยผิดใจกันเลย ยิ่งการลงไม้ลงมือยิ่งไม่ต้องพูดถึง “ประธานครับ เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?” โจวจื่ออี้อดทนต่อความเจ็บปวดบนใบหน้าและถามว่า “พี่เป่ยทำอะไร? หรือว่าเขาทรยศคุณเหรอ?” ฟู่สือถิงกำหมัดแน่น เดินไปที่เก้าอี้แล้วนั่งลง “ออกไป!” ตอนนี้เขาปวดหัวและไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเซิ่งเป่ยกับฉินอันอัน ถ้าเซิ่งเป่ยสามารถบอกเขาว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉินอันอัน เขาคงไม่โกรธขนาดนี้ หลังจากที่โจวจื่ออี
ฉินอันอันถือโทรศัพท์และจมอยู่กับความคิด เธอรู้สึกถึงพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของเซิ่งเป่ยที่มีต่อเธอ เซิ่งเป่ยเคยสุภาพกับเธอ แต่การสนทนาในโทรศัพท์เมื่อสักครู่นี้ เซิ่งเป่ยเหมือนไม่อยากเสวนากับเธอและดูเหมือนรังเกียจเธอมาก เพียงเพราะว่าเธอไปโรงแรมซีซาร์เมื่อคืนนี้เหรอ? แต่เธอไปที่โรงแรมและไม่ได้ทำอะไรเลย ทำไมเซิ่งเป่ยถึงโกรธขนาดนี้? หรือเขาคิดว่าเธอไม่ได้ไปโรงแรมคนเดียว? พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในโรงแรมเมื่อวานเธอก็ยังไม่เข้าใจจุดประสงค์ของโจรที่เรียกให้เธอไปที่โรงแรมนั้นเลย โจรไม่ได้ทำอะไรเธอ เพียงแค่ใช้ยาเพื่อให้เธอสลบเท่านั้น เมื่อคืนเธอไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล ปริมาณยาไม่มากและไม่ส่งผลต่อร่างกายของเธอ ที่เอสทีกรุ๊ป ถังเชี่ยนถือกาแฟหนึ่งแก้วและวางไว้ตรงหน้าฟู่สือถิง “สือถิง ฉันเพิ่งคุยกับเซิงเป่ย” ถังเชี่ยนพูด “เขารู้สึกว่าการที่คุณคบหากับฉินอันอันเป็นการทุ่มเทมากเกินไป แต่สิ่งที่ได้กลับมามันน้อยมาก และคุณมักจะเสียเวลาทำงานเพราะเธอ…” “ไม่น่าจะใช่เหตุผลนี้นะ” ฟู่สือถิงพูดแทงใจดำพลางขมวดคิ้วและตอบโต้ด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ต้องมีเหตุผลอื่นอีกที่จู่ ๆ เขาถึงเกลียดฉินอันอัน”
เด็กในท้องของฉินอันอันมีอายุได้เจ็ดเดือนแล้ว ยิ่งอายุครรภ์มากขึ้น ร่างกายของเธอก็ยิ่งเหนื่อยล้าได้ง่ายขึ้นเช่นกัน หลังกลับมาจากอัดรายการกับรุ่ยลา เธอก็อยู่บ้านกับลูก ๆ อีกไม่นาน ปิดเทอมฤดูร้อนก็จะจบลงแล้ว เมื่อรุ่ยลาขอร้อง ฉินอันอันจึงตัดสินใจพารุ่ยลาไปประเทศบีสักสองสามวัน พร้อมทั้งไปรับเสี่ยวหานด้วย หลังจากที่สองแม่ลูกบินไปประเทศบี วิดีโออันเร่าร้อนก็แพร่กระจายไปทั้วประเทศเอแล้ว เมื่อไม่สามารถโพสต์วิดีโอออนไลน์ได้ จึงทำได้เพียงส่งภาพหน้าจอของวิดีโอที่ถูกปิดบังใบหน้าแล้วเท่านั้น - ไม่คิดเลยว่าผู้หญิงที่ร่ำรวยอย่างฉินอันอันจะขายร่างกายตัวเองเพื่อเงิน! ท้องเธอใหญ่ขนาดนั้น ไม่กลัวเสียลูกเหรอ? - เธอรู้ได้ยังไงว่าเธอทำเพื่อเงิน? เธอไม่ได้ร้อนเงินแน่นอน! เธอไม่เคยได้ยินเหรอว่าคนรวยส่วนใหญ่เป็นพวกโรคจิต? เธอต้องทำมันเพื่อความตื่นเต้นแน่ ๆ! - อิจฉาตาร้อน! ผู้หญิงคนนี้ดูอ่อนโยนและเคร่งขรึม ไม่คิดเลยว่าจะลับตาคนจะร้ายได้ขนาดนี้! ไม่รู้ว่าเด็กในท้องของเธอเป็นลูกของผู้ชายในวิดีโอหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ คงจะน่าสนใจไม่น้อย! - ไม่ใช่แน่ ๆ! ผู้หญิงที่ร่ำรวยอย่างเธอจะซื่อสัตย์ได้ยังไง?
ครบกำหนดหมายความว่าสามารถคลอดลูกได้ตลอดเวลา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ก็เหมือนกับเชือกคล้องคอเด็ก...มันร้ายแรงมาก! ไม่รู้ว่าฟู่สือถิงยังต้องการลูกคนนี้อยู่ไหม อย่างไรชีวิตเบื้องหลังของฉินอันอันสกปรกขนาดนี้แล้ว! โจวจื่ออี้ยืนลังเลอยู่นอกประตูสำนักงาน ไม่กล้าเข้าไป เขาทนต่อปฏิกิริยาของฟู่สือถิงไม่ได้ ระหว่างทางที่เขาไปหาเซิ่งเป่ย เซิ่งเป่ยก็เดินออกจากลิฟต์พอดี “พี่เป่ยเห็นข่าวหรือยัง?” โจวจื่ออี้พูดด้วยความอึดอัด “ข่าวของฉินอันอัน” “นายคิดว่าไงล่ะ?” เซิ่งเป่ยยกคิ้วและพูดด้วยความโกรธ “ฉันรู้เรื่องนี้ตั้งแต่สัปดาห์ก่อนแล้ว ไม่อย่างนั้นฉันจะโกรธขนาดนั้นเหรอ?!” โจวจื่ออี้พูดด้วยความประหลาดใจ “พี่เป่ยรู้ได้ยังไง?” “ทำไมนายไม่ไปถามไมค์ล่ะ?” เซิ่งเป่ยกล่าว “เขาสนิทกับฉินอันอัน เขาต้องรู้ทุกอย่าง!” โจวจื่ออี้รู้สึกสับสนเล็กน้อย ทุกครั้งที่ไมค์พูดถึงฉินอันอันต่อหน้าเขา เขาจะปฏิบัติต่อฉินอันอันเหมือนเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ และรู้สึกว่าเธอต้องการการดูแล ไมค์ไม่มีทางแสดงต่อหน้าเขาได้ ดังนั้นไมค์ไม่น่าจะรู้ถึงชีวิตส่วนตัวที่วุ่นวายของฉินอันอันหรอก! เขากลับไปที่ห้องทำงานและก