“เป็นโชคชะตาของทั้งคู่!”“น้องสาวที่น่าสงสารของฉัน”โจวจื่ออี้เอ่ยต่อ “ด้วยความเคารพครับประธานถัง ถังเฉียนเป็นผู้หญิงที่มากความสามารถ แต่เธออยู่ข้างกายประธานฟู่มาเป็นสิบปีแล้ว และประธานฟู่ก็ไม่เคยตกหลุมรักเธอเลย ต่อให้เธอจะอยู่ข้างกายประธานฟู่ต่อไปอีกยี่สิบสามสิบปี…ประธานฟู่ก็อาจจะยังคงไม่รักเธอเหมือนเดิม”ความเยือกเย็นบางอย่างแวบผ่านดวงตาของถังเฉียวเซิน “ขอบใจที่เตือน”ตกดึกคืนนั้นฟู่ซื่อถิงได้เชิญผู้บริหารระดับสูงของบริษัทมาทานอาหารคู่เซิ่งเป่ยก็ดึงเขาไปดื่มเหล้าด้วยกันทุกคนต่างรู้ว่าวันนี้เขาอารมณ์ไม่ดี แต่ไม่รู้สาเหตุว่าทำไมดังนั้นทุกคนจึงร่วมมือร่วมใจกันมอมเหล้าเขาเมื่อแววตาของเขาเริ่มเลื่อนลอยเพราะความเมา เซิ่งเป่ยจึงได้ค่อย ๆ ดึงแก้วไวน์ที่อยู่ในมือเขาออก“ซื่อถิง วันนี้ทั้งวันคุณไม่พูดอะไรเลย ไม่รู้สึกอัดอั้นบ้างเหรอ?” เซิ่งเป่ยเปลี่ยนเป็นน้ำผลไม้ยื่นให้เขาแทนฟู่ซื่อถิงยกนิ้วเรียวยาวขึ้นมานวดขมับตัวเอง หลับตาลงเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยเสียงต่ำ “ฉินอันอันอยากจะหย่ากับฉัน นี่ฉันแย่มากขนาดนั้นเลยเหรอ?”ทุกคนในที่นั้นต่างตกอยู่ในความเงียบ‘มีคนที่อยากจะทอดทิ้งเจ้านายขอ
ฉินอันอันได้กลิ่นเหล้าจากร่างกายของเขาผสมกับกลิ่นของยาสูบจาง ๆ ทันใดนั้นเธอก็เห็นคนสิบกว่าคนที่ยืนอยู่หลังเซิ่งเป่ยหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายเธอทันทีคนพวกนี้น่าจะเป็นคนของเซิ่งเป่ยเธอใช้แรงทั้งหมดที่มีผลักฟู่ซื่อถิงออกแต่เธอก็กลัวเขาจะล้มลงไปจึงจับแขนเขาไว้แน่นในทันทีคนขับรถเห็นดังนั้นจึงรีบปรี่เข้ามาช่วยทั้งสองคนช่วยกันแบกฟู่ซื่อถิงไปนั่งที่เบาะหลังฉินอันอันคาดเข็มขัดนิรภัยให้เขา จากนั้นคนขับรถก็ยื่นขวดน้ำให้ฉินอันอันร้อนจนเหงื่อไหลเต็มหัว เธอรับน้ำมาแล้วดื่มไปอึกหนึ่งคนขับรถ : “คุณผู้หญิง น้ำนี่เป็นของประธานฟู่”ฉินอันอันหน้าแดงด้วยความอาย ก่อนจะรีบส่งขวดน้ำให้ฟู่ซื่อถิงทันที ก่อนจะเอ่ยถาม “คุณอยากดื่มน้ำไหม?”เขาหลับตาก่อนที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย ราวกับว่ากำลังทุกข์ทรมานเป็นอย่างมากเขาไม่ตอบคำถามเธอเลยแม้แต่น้อยไม่รู้ว่าเป็นเพราะไม่ได้ยิน หรือไม่อยากตอบกันแน่คนขับรถจึงให้คำแนะนำแก่ฉินอันอัน “คุณผู้หญิงก็ป้อนน้ำให้เขาสิ!”ฉินอันอันขมวดคิ้วด้วยความลำบากใจเธอวางมือไว้บนหลังคอของเขา พยายามจะยกหัวเขาให้เงยหน้าขึ้นแต่ทันทีที่นิ้วของเธอสัมผัสกับผิวหนังตรงหลังคอ
ลมหนาวได้พัดเข้ามาอย่างแรงจนเส้นผมของเธอปลิวไสวไปตามแรงลมและมันก็ทำให้เธอรู้สึกสงบลงมากเช่นกันเมื่อกี้เขาเพิ่งจะบอกว่า เขาไม่ได้เป็นคนแบบเธอซึ่งนั่นก็น่าจะหมายความว่าตราบใดที่เธอยังยืนยันว่าจะหย่า สักวันเขาอาจจะรับปากก็เป็นได้…เมื่อนึกถึงตรงนี้ ความรู้สึกกังวลใจก็เริ่มผ่อนคลายลงไปหลังจากที่ถึงบ้าน แม่บ้านจางและคนขับรถก็ช่วยกันแบกฟู่ซื่อถิงลงจากรถฉินอันอันเมื่อเห็นว่ามีคนรับใช้มาช่วยเหลือแล้ว เธอจึงได้กลับไปที่ห้องอย่างเงียบ ๆ ไม่นานหลังจากนั้น ป้าจางก็ได้มาเคาะประตูห้องของเธอ : “คุณผู้หญิงคะ คุณผู้ชายไม่ให้พวกเราแตะต้องเขาเลย คุณผู้หญิงช่วยไปดูให้หน่อยได้ไหมคะ! แค่เช็ดหน้ากับเปลี่ยนชุดนอนให้เขาก็ได้ค่ะ”‘เช็ดหน้ากับเปลี่ยนชุดนอนเนี่ยนะ?’ถ้าสภาพในตอนนี้เขาเป็นผักไปแล้ว อย่างนั้นเธอก็คงต้องจะไปช่วยอย่างปฏิเสธไม่ได้แต่เขาไม่ใช่!แม้ว่าเขาจะดื่มมามาก แต่ก็ไม่ได้เมาขนาดนั้นเธอยังไม่ลืมเรื่องที่พวกเขาสองคนทะเลาะกันในระหว่างทางกลับบ้านในรถเมื่อครู่เสียหน่อย“หรือว่าจะปล่อยให้เขาหลับไปเลยไหมคะ?” ฉินอันอันเสนอขึ้นมา “รอพรุ่งนี้เช้าเขาตื่นมาแล้วเดี๋ยวเขาก็ไปอาบน้ำเปลี่ยนเส
“เมาแล้วก็ยังนิสัยเสียไม่เลิกอีก” ขณะที่เธอเช็ดหน้าให้เขา เสียงของเธอก็แผ่วเบาและอ่อนโยน “คุณคิดว่าฉันอยากดูแลคุณนักหรือไง? ทั้งตัวมีแต่กลิ่นแอลกอฮอล์… คุณเป็นพวกรักความสะอาดจัดไม่ใช่หรอ? หรือไม่ได้เป็นโรคจริง? ถ้าไม่เห็นแก่ที่ขาของคุณยังไม่หายดี ฉันจะไม่สนใจคุณเลย”เมื่อได้ฟังคำพูดของเธอ ลมหายใจของเขาก็ค่อย ๆ สงบลงและก็ง่วงงุนไปทันทีเสียงของเธอเหมือนมีมนต์สะกดจิตหลังจากที่เธอทำความสะอาดร่างกายของเขาแล้ว เธอก็เปิดผ้านวมและคลุมให้เขาเมื่อเธอเอาผ้าเช็ดตัวและอ่างไปเก็บในห้องน้ำและกลับมา เขาก็หลับไปแล้วในที่สุดก็มีโอกาสได้หายใจหายคอเสียที!เธอเดินไปที่เตียงแล้วนั่งลงมองไปรอบ ๆ ห้องเธอขนลุกเมื่อนึกถึงช่วงสามเดือนแรกของการใช้ชีวิตที่นี่ และถูกกล้องวงจรปิดบันทึกไว้ตลอดเวลา‘กล้องวงจรปิดในห้องน่าจะถอดออกหมดแล้วใช่ไหม?’แม้ว่าฟู่ซื่อถิงจะมีอารมณ์แปลกและรุนแรง แต่เขาก็ไม่ได้ผิดปกติเธอลุกขึ้นและเดินไปหยิบหมอนกับผ้าห่มที่ห้องของตัวเองมากลางดึก ฟู่ซื่อถิงลุกขึ้นมาหลายครั้งเขาสลึมสลือจนไม่ทันสังเกตว่ามีอีกคนอยู่บนเตียงดังนั้นทั้งสองจึงได้ใช้เวลาทั้งคืนด้วยกันอย่างสงบเช้าวันรุ
หลีเสี่ยวเถียนหยิบเมนูขึ้นมาแล้วเหลือบมองเขา "ครั้งก่อนคุณก็แต่งตัวสาวมาก ฉันก็นึกว่าคุณเป็นพวกไม้ป่าเดียวกันเสียอีก อ้อ แต่ฉันไม่ได้หมายความว่าคุณจะชอบคนเพศเดียวกันไม่ได้หรอกนะ เพราะฉันเคารพคนทุกเพศ"เฮ่อจุนจือที่กำลังดื่มน้ำเกือบจะสำลักน้ำออกมา“คุณหลี คุณเข้าใจผมผิดกันไปใหญ่แล้ว ผมเป็นชายแท้นะ”"แล้วผมก็ไม่ชอบผู้หญิงเซ็กซี่ด้วย"“เอาล่ะ! งั้นวันนี้เรามาทำความรู้จักกันใหม่อีกครั้ง” เฮ่อจุนจือยื่นมือให้เธออย่างเป็นมิตรเพื่อช่วยฉินอันอันค้นหาความลับที่เฮ่อจุนจือซ่อนเอาไว้ หลีเสี่ยวเถียนจึงยอมจับมือกับเขาหลังจากสั่งอาหารแล้ว ทั้งสองก็เริ่มพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องทั่วไป……หนึ่งชั่วโมงต่อมา“ผมมีเพื่อนคนหนึ่ง เขาแต่งงานสายฟ้าแลบ อันที่จริงเขารู้สึกสนใจในตัวภรรยาไม่น้อย แต่กลับไม่รู้จักแสดงออก ก่อนหน้านี้ภรรยาของเขาประสบปัญหา เขาจึงขอให้ผมออกหน้าช่วยภรรยาแทนเขา” หลังจากที่เฮ่อจุนจือดื่มไวน์แดงเล็กน้อย เขาก็เริ่มพูดอย่างเปิดอกมากขึ้น “ยังมีเรื่องที่ตลกกว่านั้นอีก นั่นคือภรรยาของเขาไม่รู้ว่าผมเป็นเพื่อนกับสามีของเธอ เมื่อภรรยาของเขาออกมาพบผมเป็นครั้งแรก เขาก็โกรธมาก และคิดว่าภ
“ไม่ทราบว่าคุณคือฉินอันอันใช่ไหม?” เสียงทุ้มลึกอ่อนโยนและสุภาพดังขึ้นฉินอันนัน "ค่ะ คุณคือใครคะ?""สวัสดีครับ ผมชื่อถังเฉียวเซินจากบริษัทหลักทรัพย์ซินเหอ ผมได้เบอร์คุณมาจากบุคลากรในบริษัทของคุณ เพราะผมต้องการที่จะร่วมมือกับพวกคุณครับ" ถังเฉียวเซินกล่าวฉินอันอัน "บริษัทหลักทรัพย์ซินเหอเหรอคะ?""ครับ ไม่ทราบว่าวันนี้คุณฉินพอจะมีเวลาว่างออกมาพบกันหน่อยไหมครับ? ตอนนี้ผมอยู่แถวบริษัทของคุณ" น้ำเสียงของถังเฉียวเซินเต็มไปด้วยความจริงใจหลังจากคิดไม่นานฉินอันอันก็ตอบตกลงหลังจากนัดสถานที่กันเรียบร้อย ฉินอันอันก็โทรหาผู้จัดการฝ่ายบุคคลของบริษัท“คุณคุ้นเคยกับถังเฉียวเซินจากบริษัทหลักทรัพย์ซินเหอไหม?”ผู้จัดการฝ่ายบุคคล "เขาเป็นนักลงทุนที่เก่งมาก บริษัทหลักทรัพย์ซินเหอเป็นธนาคารเพื่อการลงทุนในประเทศหนึ่งในสิบอันดับแรก ดังนั้นเมื่อครู่พอเขาขอเบอร์คุณจากผม ผมก็เลยให้เบอร์คุณไปทันที"ฉินอันอันตอบ "โอเค ฉันเข้าใจแล้ว"“อันอัน คุณอยากให้ผมไปพบเขาเป็นเพื่อนคุณไหม? ผมกลัวว่าถ้าคุณไปคนเดียวแล้วคุณจะทำตัวไม่ถูก” ผู้จัดการกล่าวหลังจากที่รองประธานโจวลาออก บริษัทก็เริ่มไม่เป็นระเบียบ และมีพนัก
"ได้ยินมาว่าคุณไม่ต้องการขาย ดังนั้นผมจะไม่เสนอการซื้อกิจการของคุณ" ถังเฉียวเซินเปลี่ยนหัวข้อและพูดว่า "ผมจะขอซื้อหุ้นครับ"ทันใดนั้นดวงตาของฉินอันอันก็เป็นประกายขึ้น "คุณถัง คุณพูดจริงเหรอคะ?"“จริงครับ แต่ก่อนที่จะเซ็นสัญญา มีสองสิ่งที่ผมต้องตกลงกับคุณก่อน” ถังเฉียวเซินหยิบเอกสารออกมา “นี่คือโครงการที่ผมกับทีมทำขึ้นมาในช่วงสองวันนี้ ตามแนวทางการพัฒนาในปัจจุบันของฉินกรุ๊ป ผมว่ามันไม่เข้าท่าแน่นอน พวกเราคือนักธุรกิจ ไม่ใช่องค์กรการกุศล ประการแรก ความสามารถในการทำกำไรที่จะพาเราพัฒนาไปได้ในระยะยาว"ฉินอันอันเปิดเอกสารที่เขาส่งมาดูคร่าว ๆ“คุณถัง ฉันขอนำโครงการของคุณกลับไปประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อนได้ไหมคะ?”"ได้สิครับ"“ค่ะ แล้วอีกเรื่องคืออะไรคะ?” ฉินอันอันจิบน้ำแล้วมองเขาอย่างจริงใจก่อนที่จะมาตามนัด เธอไม่คิดว่าการสนทนาจะราบรื่นขนาดนี้เมื่อพูดคุยส่วนที่สำคัญที่สุดไปแล้ว ดังนั้นเธอจึงผ่อนคลายลงมาก“ผมเป็นพี่ชายของถังเฉียนครับ” ถังเฉียวเซินพูดอย่างตรงไปตรงมา “เธอเป็นน้องสาวต่างแม่ของผม”หลังจากสิ้นสุดประโยค สีหน้าของฉินอันอันก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ถังเฉียน...ถ
“ฉินอันอันมีค่ามากขนาดนั้นเลยเหรอ?” เฮ่อจุนจือรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย“ตอนนี้เธอเป็นภรรยาของฉัน ดังนั้นเธอจึงมีคุณค่า ถ้าเธอไม่ใช่ภรรยาของฉัน นายคิดว่าถังเฉียวเซินยังจะลงทุนกับเธออยู่ไหม?” ดวงตาของฟู่ซื่อถิงเต็มไปด้วยความเย็นชาเฮ่อจุนจือยิ่งสับสนมากขึ้นไปอีก “ในเมื่อถังเฉียวเซินต้องการใช้เงินจำนวนมหาศาลนี้กับฉินอันอัน งั้นก็ให้เขาใช้ไปสิครับ! นี่เป็นการมอบเงินให้ฉินอันอันไม่ใช่เหรอ?”ฟู่ซื่อถิงเตือน "เธอเป็นภรรยาของฉัน!"เฮ่อจุนจือ "โอ้ โอเค... ผมเข้าใจแล้ว แล้วพี่จะทำยังไง? ลงเงินเพิ่มไหม? ถ้าไม่เพิ่ม ฉินอันอันจะต้องเลือกถังเฉียวเซินแน่นอน"ฟู่ซื่อถิง "ก็ไม่แน่"“ในเมื่อไม่แน่ แล้วทำไมพี่ถึงอารมณ์ไม่ดีล่ะ?” เฮ่อจุนจือรู้สึกได้ชัดเจนว่าคู่สนทนาอารมณ์เสีย เมื่อฟังจากน้ำเสียงของเขาฟู่ซื่อถิงต้องการใช้เงินหนึ่งพันล้านซื้อบริษัทของฉินอันอัน เพื่อช่วยให้ฉินอันอันได้ปลดปล่อยตัวเองจากฉินกรุ๊ป ตอนนี้เธอยังเรียนไม่จบ แถมยังไม่มีมุมมองหรือประสบการณ์ในการทำธุรกิจด้วยเธอควรเลือกข่ายบริษัทเพื่อปลดหนี้ และหาเงินไปพร้อม ๆ กันไปเสียดีกว่า เพื่อที่เธอและแม่จะได้มีชีวิตที่ไม่ยุ่งยากในอนาคต