ฉินอันอันมองเห็นป้าจางถอนใจโล่งอก ป้าจางยินดีอย่างมากที่เสิ่นอวี๋มาช่วยรักษาอิ๋นอิ๋น“คุณผู้ชายฟื้นแล้วเหรอ? เขาบอกหรือเปล่าว่าจะกลับมาเมื่อไหร่?” ป้าจางก้าวเท้าไปหาบอดี้การ์ด ก่อนที่บอดี้การ์ดจะเอ่ยปากตอบ เสิ่นอวี๋ถือกล่องยาก้าวเข้ามา “คุณเสิ่นคะ คุณผู้ชายโทรบอกให้คุณมาใช่ไหมคะ?” เสิ่นอวี๋พยักหน้า “เดี๋ยวเขาน่าจะกลับมาแล้วล่ะค่ะ ตอนนี้อาการของอิ๋นอิ๋นเป็นยังไงบ้าง?” เธอก้าวเท้าเดินมาถึงบันได เมื่อเธอพูดจบ ฝีเท้าของเธอก็ชะงักค้าง ฉินอันอันยืนอยู่ชั้นบน ทั้งสองคนต่างสบสายตากัน เสิ่นอวี๋เข้าควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว ดวงตาทรงนกฟีนิกซ์ของเธอหันไปมองทางป้าจางแล้วเอ่ยถามเสียงเย็นชา “ใครเรียกฉินอันอันมาเหรอคะ?” ป้าจางตอบอย่างลำบากใจ “อันอันมาหาอิ๋นอิ๋นเพราะมีธุระค่ะ” “อ้อ… ฉันคิดว่ามีใครเชิญเธอมาเสียอีก!” เสิ่นอวี๋พูดเยาะเย้ยแล้วเดินขึ้นไปชั้นบนทีละก้าว เมื่อเธอเดินมาจนเกือบถึงด้านหน้าฉินอันอัน เธอก็พูดเหน็บแนมอีกครั้งว่า “ฉินอันอัน คุณเลิกกับสือถิงไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ? ได้ยินว่าคุณเป็นฝ่ายขอเลิกก่อนด้วย ทุกครั้งที่คุณทำท่าทางดูถูกฟู่สือถิง คุณทำให้ใครดูงั้นเหรอ?
ฉินอันอันไม่ตอบเธอจะไม่กลับมาอีก เธอควรฟังคำพูดของไมค์ ตอนนี้อิ๋นอิ๋นมีหมายเลขโทรศัพท์มือถือแล้ว หากเธอต้องการขอบคุณอิ๋นอิ๋น เธอสามารถโทรหาอิ๋นอิ๋นแล้วนัดเธอออกมาได้ ที่ชั้นหนึ่ง เธอเดินมาถึงโซฟาแล้วหยิบกระเป๋าของตัวเองขึ้นมา เวลานี้ รถโรลส์รอยซ์สีดำขับเข้ามาที่ลานด้านหน้า และจอดช้า ๆ ฟู่สือถิงกลับมาแล้ว ในใจของเธอหงุดหงิดเป็นอย่างมาก ถ้าเธอลงมาก่อนหน้านี้สักหนึ่งนาที เธอก็ไม่ต้องพบเขาตอนนี้เธอรู้สึกแย่มากพอแล้ว เธอแค่อยากอยู่คนเดียวและทุกข์ใจอยู่เงียบ ๆ “อันอัน คุณผู้ชายกลับมาแล้วค่ะ!” ป้าจางเตือนเธอ ‘เขากลับมาแล้ว แล้วจะทำไม?’ เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย หยิบกระเป่าแล้วเดินไปที่ประตูเพื่อเปลี่ยนรองเท้า ฟู่สือถิงเห็นรถแลนด์โรเวอร์จอดอยู่ในลานแล้ว เขาย่อมคิดไม่ถึงอยู่แล้วว่าฉินอันอันจะมา เขาลงจากรถ ดวงตาล้ำลึกของเขาเห็นเธอสวมรองเท้าและออกมาพอดี เขาเดินไปที่รถเธอ รอให้เธอมา ลมยามค่ำคืนพัดมา แต่หัวใจของเขากลับร้อนขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ช้า ฉินอันอันก็เดินมาอยู่ตรงหน้าเขา มองเขาอยู่แวบหนึ่งแล้ว ริมฝีปากสีแดงก็ขยับเบา ๆ “หลีกไป” จู่ ๆ ร่างกายของเขาก็ขมวดเกร็ง ไม่รู้ว
“คุณผู้ชาย กลับเข้าบ้านเถอะค่ะ!” หลังจากที่ป้าจางรอมาพักหนึ่งก็เดินมาหาเขาแล้วเอ่ยขึ้น ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเขาเพิ่งพูดอะไรกับฉินอันอัน แต่ที่แน่นอนก็คือเขาไม่มีวันปล่อยให้ฉินอันอันต้องทนทุกข์กับความอยุติธรรม ท้ายที่สุดแล้วตอนนี้ฉินอันอันกำลังตั้งท้องเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา คืนนี้เสิ่นอวี๋ทำเกินไปหน่อยจริง ๆ ทว่าก็เข้าใจได้เช่นกัน ถ้าครั้งนั้นเสิ่นอวี๋ไม่แท้งลูก ตอนนี้เด็กก็คงเกิดมาแล้ว ฟู่สือถิงกำหมัดแล้วเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น เสิ่นอวี๋กำลังนั่งดื่มชาอยู่ที่โซฟา เมื่อเห็นเขาเข้ามา เสิ่นอวี๋จึงวางถ้วยชาลง “สือถิงคะ ฉันฉีดยานอนหลับให้อิ๋นอิ๋นแล้ว เธอไม่ได้นอนทั้งวันทั้งคืน จำเป็นต้องให้เธอนอนหลับให้สบายก่อน” เสิ่นอวี๋มองไปทางเขา “พรุ่งนี้เช้าต้องพาเธอไปตรวจสมองที่โรงพยาบาล” ฟู่สือถิงส่งเสียงอืมตอบรับ “สือถิง ได้ยินว่าวันนี้คุณเป็นลม คุณไม่เป็นไรใช่ไหมคะ?” เสิ่นอวี๋สีหน้ากังวล “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันหวังว่าคุณจะดูแลตัวเองให้ดี ไม่ใช่แค่เพื่อตัวคุณเอง แต่เพื่ออิ๋นอิ๋นด้วย ตอนนี้เธอยังไม่หายดีอาจจำเป็นต้องผ่าตัดครั้งที่สาม” ฟู่สือถิงเหลือบมองเธอ “คุณกลับไปก่อนเถอะ!”
“สือถิง คุณพาอิ๋นอิ๋นไปตรวจสุขภาพหรือเปล่า? พวกเราจะไปโรงพยาบาลด้วยกันไม่ใช่เหรอคะ?” เสียงของเสิ่นอวี๋ฟังดูน้อยใจเล็กน้อย เธอขับรถไปยัวคฤหาสน์ตระกูลฟู่ ผลลัพธ์คือป้าจางบอกเธอว่า ฟู่สือถิงพาอิ๋นอิ๋นออกไปแล้ว ฟู่สือถิงมองไปยังผู้คนที่เดินเข้าออกโรงพยาบาล น้ำเสียงของเขาเย็นชา “ผลตรวจของเธอเรียบร้อยดี” “โอ้ งั้นก็ดีเลยค่ะ ฉันเริ่มเตรียมแผนการรักษาครั้งที่สามของอิ๋นอิ๋นไว้แล้วค่ะ” เสิ่นอวี๋กล่าวอย่างตื่นเต้น “ฉันมีความคิดใหม่ หากไม่มีอะไรผิดพลาด เธอสามารถเข้ารับการผ่าตัดได้ในช่วงครึ่งปีหลังนี้” ฟู่สือถิง “คุณรับประกันได้ไหมว่าการผ่าตัดครั้งที่สามนี้จะสามารถทำให้เธอหายดีเป็นปกติได้?” เสิ่นอวี๋ตกตะลึง แม้แต่หมอเทวดายังไม่กล้ารับประกันเลยว่าตัวเองจะสามารถรักษาโรคของผู้ป่วยหายแน่นอน “ฉันไม่มั่นใจเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ฉันคิดว่า…” “ในเมื่อไม่มั่นใจเต็มร้อย ถ้าอย่างนั้นก็หยุดเถอะ!” เขาพูดอย่างเย็นชา “ไว้คุณมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์เมื่อไหร่ค่อยมาหาผม” ‘หยุดเหรอ?’ เสิ่นอวี๋ตกใจกับคำนี้ “สือถิงคะ… คุณต้องการหยุดทำการรักษาอิ๋นอิ๋นงั้นเหรอ? หรือว่า… คุณเจอหมอที่ดีกว่าแล้ว?” น้ำเสียง
ชั่วพริบตาเดียวก็มาถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม พรุ่งนี้เป็นวันเด็กแห่งชาติ แล้วก็เป็นวันตรวจสุขภาพก่อนคลอดของฉินอันอันด้วยเช่นกัน เดิมทีคิดว่าเด็กคนนี้อาจจะไม่สามารถมีชีวิตรอดได้อย่างราบรื่น เพราะที่จริงแล้วในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ เธอใช้ยามากเกินไป คิดไม่ถึงว่า ทารกคนนี้จะแข็งแกร่งจนมีชีวิตรอดมาได้ถึงตอนนี้จริง ๆ ถ้าหากการตรวจครรภ์ในวันพรุ่งนี้เป็นไปด้วยดี ก็สามารถทำเวชระเบียนได้แล้ว “อันอัน พรุ่งนี้ฟู่สือถิงจะไปเป็นเพื่อนเธอตรวจสุขภาพก่อนคลอดหรือเปล่า?” ไมค์ถามตอนเวลาอาหารเย็นฉินอันอัน “พรุ่งนี้นายมีเดทใช่ไหม? ฉันไปตรวจสุขภาพก่อนคลอดเองได้นะ”ไมค์เลิกคิ้ว “ฟู่สือถิงไม่ได้ไปกับเธองั้นเหรอ?” ฉินอันอัน “ฉันไม่จำเป็นต้องให้เขาไปกับฉัน แล้วนายก็ไม่จำเป็นต้องไปเป็นเพื่อนด้วย ไม่อย่างนั้นคนอื่นจะคิดว่านายเป็นพ่อของลูก” ไมค์ตอบ “ให้พี่เลี้ยงเด็กไปกับเธอแล้วกัน” “พี่เลี้ยงเด็กต้องดูแลเด็ก ๆ อยู่ที่บ้าน นายไปเดทได้เลย ไม่ต้องกังวลเรื่องของพวกเราหรอก” ฉินอันอันดื่มน้ำซุป “ฉันนัดล่วงหน้าไว้แล้ว อย่างนานที่สุดช่วงเช้าก็น่าจะเสร็จแล้ว”“อ้อ” ไมค์ตอบอย่างเหม่อลอย นิ้วเรียวยาวของเขาขยั
เขายืนอยู่นอกประตูลานหน้าบ้าน ยืนตัวตรงราวกับรูปปั้นประติมากรรม หัวใจของเธอเต้นรัวขึ้นมาทันที! เธอรีบเดินกลับไปที่เตียงแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูว่าเขาโทรหรือส่งข้อความหาเธอหรือไม่ ไม่มีเลยเช้านี้เขาไม่ได้ติดต่อเธอเลย ‘เขามาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่?’ ‘ทำไมมาเร็วขนาดนี้?’ ถ้าเธอไม่พบเขาตอนนี้ เขาก็จะรออยู่เงียบ ๆ ข้างนอกตลอดงั้นเหรอ? เธอรีบหาชุดในตู้เสื้อผ้ามาใส่ จากนั้นจึงรีบลงไปชั้นล่าง ตอนที่ประตูทางเข้าของวิลล่าเปิดออก ฟู่สือถิงหันไปมองด้วยดวงตานกอินทรีอันลึกล้ำของตัวเองฉินอันอันที่สวมชุดสีขาวเดินออกมาจากด้านในช้า ๆ เขายกข้อมือขึ้นแล้วมองดูนาฬิกา ตอนนี้เพิ่งจะเจ็ดโมงเท่านั้น เธอตื่นเร็วขนาดนี้เลยเหรอ? ว่ากันว่าผู้หญิงตั้งครรภ์จะง่วงหงาวหาวนอนไม่ใช่เหรอ? เธอเดินไปถึงประตูลานหน้าบ้านแล้วเปิดออก “คุณมาที่นี่ทำไม?” เธอสังเกตมองเขาแวบหนึ่ง ในดวงตาของเขามีเส้นเลือดสีแดงปรากฏ เมื่อคืนนี้เขาน่าจะไม่ได้นอนมากเท่าที่ควร“ผมมารับคุณไง” เขาพูดเสียงแหบพร่า “ตอนนี้ยังเช้าอยู่ คุณนอนหลับต่อได้อีกสักพักนะ” “ตื่นแล้วก็นอนไม่หลับแล้วค่ะ” “งั้นพวกเราไปกินข้าวเช้ากันไหม
สมองของเธอว่างเปล่า ไม่ว่าอยากจะพูดอะไรก็ลืมไปหมดแล้ว แม่ของเว่ยเจินล้อเล่น “ทั้งสองคนไม่มีใครปฏิเสธเลย! ฮ่าฮ่าฮ่า!” เว่ยเจินเกาหัวและเปลี่ยนเรื่อง “ทานข้าวเสร็จ ผลตรวจเลือดน่าจะออกพอดี” ฉินอันอันพยักหน้าและกินเงียบ ๆ หลังอาหารกลางวัน ฉินอันอันยืนกรานว่าไม่ต้องอยากให้เว่ยเจินไปรับผลตรวจด้วย เขารู้สึกเกรงใจมากที่จะรบกวนเมื่อเช้านี้ บ้านตระกูลเว่ยอยู่ใกล้โรงพยาบาล ฉินอันอันกับฟู่สือถิงออกมาจากบ้านตระกูลเว่ยและเดินไปที่โรงพยาบาล “ทำไมเมื่อกี้คุณไม่ให้ฉันอธิบาย? ความสัมพันธ์ไม่ชัดเจนมันสนุกมากเหรอ?” ฉินอันอันหยอกล้อเขา “เราไม่ได้สนิทกับคุณป้า ไม่จำเป็นต้องไปโต้แย้งเธอหรอก” เขาเดินออกไปข้างหน้าเธอและคอยสังเกตุการจราจรโดยรอบอยู่เสมอ “คุณไม่สนิทกับคุณป้า แต่ฉันสนิทกับคุณป้ามากเลยนะ” “ก็เพราะคุณสนิทกันไง คุณจะอธิบายให้เธอฟังตอนไหนก็ได้” เมื่อไฟสัญญาณจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียว เขาก็จับมือเล็ก ๆ ของเธอแล้วพาเธอข้ามถนน “ฉันจะไปเอง” เธอสะบัดฝ่ามือใหญ่ของเขาออกแล้วมองเขาด้วยสายตาเย็นชา “ฉันยอมรับว่าคุณเป็นแค่พ่อของลูกเท่านั้น และไม่ยอมรับสัมพันธ์อื่นใดอีก” “ต่อให้คุณไม่ยอมรับ
แม้ว่าเขาจะมีความสัมพันธ์กับเสิ่นอวี๋ แต่เมื่อเทียบกับผู้ชายที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ แต่เขาก็มีข่าวเรื่องความรักน้อยกว่าใคร ...... เวลาหกโมงเย็น ฉินอันอันพาลูกสองคนของเธอไปยังร้านอาหารที่ฟู่สือถิงส่งชื่อให้เมื่อคืนนี้ ฟู่สือถิงจองห้องรับรองส่วนตัวเอาไว้ หลังจากที่เธอแจ้งหมายเลขห้องรับรองส่วนตัวกับแผนกต้อนรับ พนักงานเสิร์ฟก็พาเธอเข้าไปในห้องดังกล่าวทันที ทันทีที่เธอเข้าไปในห้องรับรองส่วนตัว รุ่ยลาก็อุทาน! “แม่! ที่นี่สวยมากเลยค่ะ!” ห้องรับรองส่วนตัวนี้ตกแต่งอย่างพิถีพิถันในธีมวันเด็ก ลูกโป่ง โคมไฟ ดอกไม้ และกล่องของขวัญที่กองอยู่บนพื้นนั้นทำให้ตื่นตาตื่นใจและดึงดูดสายตา “แม่คะ กล่องของขวัญพวกนี้มีอะไรอยู่ข้างในเหรอคะ?” รุ่ยลาหยิบกล่องของขวัญขึ้นมาแล้วถาม ฉินอันอัน “นี่คือกล่องตกแต่ง ข้างในเป็นกล่องเปล่าจ๊ะ” พนักงานเสิร์ฟยิ้มแล้วพูดว่า “คุณฉิน ทุกกล่องมีของขวัญอยู่ข้างใน คุณฟู่จัดเตรียมไว้ให้ มันเป็นของขวัญวันเด็กสำหรับคุณและลูก ๆ ของคุณครับ” ฉินอันอันตกตะลึง ริมฝีปากขยับ แต่กลับไม่รู้จะตอบอย่างไร “คุณฉิน คุณฟู่บอกว่าถ้าคุณมาถึงก่อน สามารถเสริ์ฟอาหารก่อนได