เธอนอนลงบนเตียงแล้วปิดไฟ หลังจากพลิกตัวไปมาอยู่ครึ่งคืน ยิ่งพลิกตัวก็ยิ่งนอนไม่หลับ เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา เพิ่งผ่านไปเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น เธอถอนหายใจในความมืด บังคับตัวเองให้หลับตาลงและนอนหลับต่อ หลังจากพลิกไปมาอีกสักพัก เธอก็หยิบโทรศัพท์มาดูเวลาอีกครั้ง ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนกว่าแล้ว อีกสักครู่จะเป็นเวลาตีหนึ่ง แต่ว่าเธอนอนไม่หลับ ไม่ง่วงนอนเลย เธอเปิดลิ้นชักโต๊ะหัวเตียงแล้วหยิบยาเมลาโทนินออกมา เมื่อเปิดขวดยาเตรียมจะกลืนยาลงไป กรดโฟลิกบนโต๊ะข้างเตียงก็ปลุกเธอให้ตื่น! เธอโยนยาในมือลงถังขยะทันที เธอต้องนอนแล้ว เพื่อเห็นแก่ลูกในท้องของเธอ วันรุ่งขึ้น เวลาแปดโมงเช้า หลังจากฉินอันอันไปส่งลูกสองคนที่โรงเรียนอนุบาล เธอซื้ออาหารเช้ามาจากข้างนอกทุกคนนั่งลงที่โต๊ะกินข้าว โจวจื่ออี้เหลือบมองฉินอันอัน วันนี้เธอแต่งตัวอย่างประณีต สวยงามจนใครก็ไม่อาจมองละสายตาได้ เธอสวมสเวตเตอร์สีขาว ด้านในเป็นชุดกระโปรงสีแดงและรองเท้าส้นแบนคู่หนึ่ง เธอแต่งหน้าบาง ๆ สีหน้าดูดีมาก “คุณฉิน วันนี้มีประชุมเหรอครับ?” โจวจื่ออี้ถามเพิ่มเติม ไมค์ “จื้นซือเหนียน คุณร
ประตูออฟฟิศถูกผลักออก เมื่อเซิ่งเป่ยเห็นเขาไอหนักมากก็เดินเข้าไปทันทีแล้ววางแก้วน้ำไว้ในมือเขา “ไม่สบายก็ไม่ต้องมาทำงานสิ! ไม่เคยฟังหมอสักครั้งเลยหรือ?” เขาวางแก้วน้ำไว้บนโต๊ะแล้วก้าวเท้าเดินไปทางห้องน้ำ เซิ่งเป่ยคิดจะตามไป แต่หางตากลับเหลือบไปเห็นการถ่ายทอดสดที่กำลังฉายอยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ของเขา “ซือเหนียน ทุกคนอยากรู้มาก ๆ ว่า ทำไมคุณถึงเลือกร่วมงานกับฉินกรุ๊ป เพราะว่าพวกเขาจ่ายเงินให้คุณสูงมากใช่หรือเปล่า?” นักข่าวถามพร้อมรอยยิ้ม จิ้นซือเหนียนเหลือบมองฉินอันอัน ในดวงตาคู่นั้นมีรอยยิ้ม ขณะที่เขากำลังจะตอบ ฉินอันอันกลับชิงตอบก่อนว่า “เปล่าเลยค่ะ ซือเหนียนบอกว่าเขาออกจากวงการไปสามปีแล้ว ตอนนี้เป็นเหมือนน้องใหม่ ดังนั้นจึงรับเงินเพียงเล็กน้อยเท่านั้น” ด้านล่างเวทีเกิดเสียงเจี๊ยวจ๊าว “ประธานฉิน คุณกับซือเหนียนรู้จักกันได้ยังไง? พวกคุณมีความสัมพันธ์ที่ดีมากเลยใช่ไหม? ฉันเห็นว่าวันนี้พวกคุณสวมเสื้อสเวตเตอร์สีขาว…” นักข่าวยังคงพูดเรื่องซุบซิบต่อ ใบหน้าของฉินอันอันฉาบไปด้วยสีแดง “มันเป็นเรื่องบังเอิญครับ” จิ้นซือเหนียนตอบแทนเธอ “ผมสวมเสื้อแจ็กเกตสีน้ำตาลไว้ข้างนอก เพรา
“ฉินอันอันก็ฉลาดเหมือนกัน!” หวังหว่านจือพูดอย่างเย็นชา ถึงแม้ว่าจิ้นซือเหนียนจะไม่ใช่ไอดอลชายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตอนนี้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยได้รับความนิยมแบบเดียวกันนี้มาก่อน! และวันนี้เขาได้กลับเข้าสู่วงก่ารอย่างเป็นทางการแล้ว เรื่องนี้ได้สร้างบรรยากาศฮือฮาอีกทั้งความนิยมสูงมากอย่างเป็นประวัติการณ์ในวงการบันเทิง! หวังหว่านจือไม่เข้าใจว่าทำไมจิ้นซือเหนียนถึงช่วยฉินอันอันขนาดนี้ ก่อนหน้านี้เขาโพสต์เว่ยปั๋วเพื่อช่วยฉินกรุ๊ปไปแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนี้เขาถึงกับเขียนเพลงให้ฉินกรุ๊ป! เกินไปแล้ว! เธอกดเบอร์โทรของเสิ่นอวี๋ ต่อสายได้อย่างรวดเร็ว “เสิ่นอวี๋ เธอรู้ไหมว่าทำไมจิ้นซือเหนียนถึงช่วยฉินอันอันขนาดนี้? พวกเขาสองคนมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกันหรือเปล่า?” เสิ่นอวี๋เองก็กำลังดูการถ่ายทอดสดอยู่เช่นกัน ดูแล้วก็รู้สึกอารมณ์ไม่ดีอย่างมาก จิ้นซือเหนียนไม่เพียงแต่มีความสามารถเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นยังหน้าตาหล่อเหลาขนาดนั้น เป็นเรื่องยากมากสำหรับหญิงสาวที่จะต้านทานสิ่งล่อใจของเขาได้ “เขาเพิ่งบอกคำตอบในการถ่ายทอดสดไปไงคะ” เสียงของเสิ่นอวี๋เย็นชาราวกับสระน้ำเย็น “เขาบอกว่าร
เขามองออกแล้ว เธอมีชีวิตที่ดีมากจริง ๆ ......หลังจากที่ฉินอันอันขึ้นรถ เธอหยิบแก้วรักษาอุณหภูมิออกมาจากกระเป๋า คลายเกลียวฝาออกแล้วจิบน้ำอุ่น ไมค์รอจนเธอดื่มน้ำเสร็จจึงขับรถออกไป “กลางวันนี้กินอะไรดี?” เขาถาม ฉินอันอัน “ยังไม่เที่ยงเลยนะ! ฉันไม่หิว” ไมค์ “คิดไว้ล่วงหน้าไงเล่า!” ฉินอันครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “จากนี้ไปฉันจะเลือกอาหารกลางวันเอง” ไมค์กินเนื้อสัตว์ทุกมื้อ ตอนนี้เธอไม่สนใจเนื้อสัตว์ใด ๆ เลย ก่อนตั้งครรภ์เธอมีความอยากอาหารดี ดังนั้นถ้าไมค์เห็นว่าเธอไม่กินเนื้อ จะต้องสงสัยแน่นอน “เธอคงไม่ได้คิดจะลดน้ำหนักหรอกใช่ไหม?” ไมค์พูดอย่างสงสัย “ฉินอันอัน เธออย่าสูญเสียความเป็นตัวเอง! เธอไม่ได้อยากเป็นดาราในวงการบันเทิง ไม่จำเป็นต้องไปเปรียบเทียบกับดาราสาวพวกนั้น!” ฉินอันอันเอามือกุมหน้าผาก เธอรู้ว่าไมค์มีจิตใจค่อนข้างละเอียดอ่อนอย่างนั้นแล้วเขาต้องคิดฟุ้งซ่านอย่างแน่นอน “ฉันไม่ได้ลดน้ำหนัก ฉันแค่ไม่อยากกินข้าวกับนาย” ไมค์ “ทำไมเธอไม่อยากกินข้าวกับฉันล่ะ? เธอไม่กินกับฉัน เธอจะกินกับใคร?” ฉินอันอัน ฉันคิดว่าพวกเราควรหลีกเลี่ยงการถูกวิพากษ์วิจารณ์ห
แต่เธอไม่อยากอธิบาย “โจวจื่ออี้ ไปบอกเจ้านายของคุณว่าฉินอันอันคบกับจิ้นซือเหนียนแล้ว!” ไมค์อยากให้ฟู่สือถิงยอมแพ้โดยสิ้นเชิงและไม่ต้องมาพัวพันกับฉินอันอันอีก ฉินอันอันได้ยินไมค์พูดจาไร้สาระ เธอถอดหูฟังออกจากหูของเขาทันที “พี่โจวคะ คุณอย่าฟังเรื่องไร้สาระของเขา” เธอเอ่ย “ฉันกับจิ้นซือเหนียนมีความสัมพันธ์แบบร่วมมือกัน อีกอย่าง เจ้านายของคุณคืนเสื้อสเวตเตอร์ให้ฉันแล้ว ดังนั้นฉันอยากจะใส่ตอนไหนก็ได้หากฉันต้องการ ถ้าฉันเริ่มต้นความสัมพันธ์ครั้งใหม่ในอนาคต ฉันก็สามารถสวมเสื้อตัวนี้ออกเดทได้” โจวจื่ออี้พูดไม่ออก‘ไปตายซะไมค์!’ คิดไม่ถึงว่าจะโกหกเขาว่าไม่ได้อยู่กับฉินอันอัน นอกจากจะอึดอัดแล้วยังน่าอายด้วย “คุณฉิน เสื้อผ้าของคุณ คุณใส่ได้ถ้าคุณต้องการ…ผมแค่บ่นกับไมค์ ไม่มีอะไรเลยจริง ๆ…ผมตระหนักได้แล้วว่า เจ้านายของผมก็ไม่ใช่นักบุญ เขาเองก็มีข้อบกพร่อง จากนี้ผมจะเตือนตัวเองบ่อย ๆ” โจวจื่ออี้กล่าว “อืม…วันนี้เขาไปทำงานแล้วเหรอคะ? เขาควรจะพักฟื้นอยู่บ้านไม่ใช่เหรอ?” ฉินอันอันพูดอย่างใจเย็น โจวจื่ออี้ “เขาไม่เคยฟังหมอเลย แต่พี่เป่ยส่งเขากลับไปแล้ว” “อืม” คุยมาถึงตรงนี้ ก็ไม่ร
ฟู่สือถิงเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ หยดน้ำบนเส้นผมหยดลงมาตามเส้นผมทีละหยดมือข้างหนึ่งของเขาถือผ้าขนหนูแห้งและมืออีกข้างถือโทรศัพท์ หลังจากเห็นข่าวนี้ปรากฏขึ้น นิ้วมือของเขาสั่นเล็กน้อย ขณะที่คลิกเข้าไป หลังจากอ่านข่าว ความหนาวเย็นอันน่ากลัวปรากฏขึ้นในดวงตาเขา! ‘ฉินอันอันยอมรับของขวัญแห่งความรักของจิ้นซือเหนียนตั้งแต่เมื่อไหร่?’ ‘ที่เธอมาหาเขาเมื่อคืนนี้ เพื่อมาบอกเขาว่าเธอเริ่มต้นความสัมพันธ์ครั้งใหม่แล้วใช่ไหม?’ ‘เรื่องนี้มันจำเป็นด้วยเหรอ?’ เขาโยนโทรศัพท์ไปทางตู้ จนเกิดเสียงดัง ‘ปัง!’ในคฤหาสน์หรูหราสไตล์ยุโรปหวังหว่านจือถือแก้วไวน์ทรงสูงไว้ในมือ ไวน์แดงในแก้วสั่นไหวไปมาเบา ๆ เธอมีสีหน้าภาคภูมิใจเมื่ออ่านข่าวบนอินเทอร์เน็ตจบ จากนั้นก็จิบไวน์แดง “เธอรู้ไหมว่าดาราไอดอลกลัวอะไรมากที่สุด?” เธอพูดคำนี้ไปทางเสิ่นอวี๋ “เรื่องที่พวกเขากลัวที่สุดคือการสูญเสียฐานแฟนคลับ และอะไรที่จะทำให้ดาราสูญเสียแฟนคลับล่ะ? นั่นก็คือการประกาศความสัมพันธ์ ไม่ว่าจิ้นซือเหนียนจะโด่งดังแค่ไหนก็ไม่มีทางหนีหายนะนี้ได้!” เสิ่นอวี๋ชื่นชมหวังหว่านจืออย่างมาก“คลื่นลูกนี้จะทำให้จิ้นซือเหนียนเดือดร้อ
“เป็นหนุ่มน้อยเจ้าเล่ห์จริง ๆ ! ฉันบอกเธอแล้วว่าเขาสนใจเธอใช่ไหมล่ะ?” ไมค์นั่งอยู่ข้าง ๆ และได้ยินการสนทนาของพวกเขาสองคนอย่างชัดเจน “ขอเพียงแค่เธอเองก็สนใจเขาแค่เล็กน้อย คืนนี้พวกเธอสองคนก็กลายเป็นคู่รักกันแล้ว!” “เขายังเด็กเกินไป คนหนุ่มสาวมักจะหุนหันพลันแล่น” ฉินอันอันอธิบาย “ฉันเองก็เคยเป็นเด็กมาก่อน” ไมค์ “ฉันรู้น่า! ตอนเธอยังเด็กก็หุนหันพลันแล่นกับฟู่สือถิง ดังนั้นตอนนี้เธอเลยได้รับผลกรรม” ฉินอันอันหมดคำจะพูด “อันอัน เธออย่าดูเว่ยปั๋วเลย” ไมค์ลูบศีรษะของเธอ “คนบนอินเทอร์เน็ตพวกนั้นไร้อารยะสิ้นดี! คำด่าว่ารุนแรงเกินไปจริง ๆ! เธอไม่ต้องเอาคำด่าพวกนั้นมาใส่ใจหรอก” “ฉันไม่ได้ดูเว่ยปั๋ว” ฉินอันอันพูดอย่างใจเย็น “ถึงดูก็ไม่มีผลอะไรกับฉันหรอก สุขภาพจิตในจุดนี้ของฉันดีมากนะ” “ดีมาก!” ไมค์มองดูเวลา “โจวจื่ออี้นัดฉันกินมื้อดึก ฉันไปก่อนนะ! มีอะไรก็โทรหาฉันล่ะ” “นายรีบไปเถอะ! แล้วก็ห้ามดื่มด้วย!” “ฉันรู้แล้ว ฉันสัญญาว่าคืนนี้ไม่ดื่ม” หลังจากสัญญาซ้ำ ๆ ไมค์ก็หยิบกุญแจรถแล้วเดินออกไปถึงเวลาสามทุ่ม ฉินอันอันปิดไฟในห้องเด็ก ๆหลังจากเสียงฝีเท้าของเธอไกลออกไปแล้ว รุ่ยลาดึงแขนพี
ฉินอันอันไม่ได้เห็นข้อความของเขาในทันทีเพราะเธอผล็อยหลับไปหลังจากที่อ่านคำชี้แจงของจิ้นซือเหนียนในเว่ยปั๋วในระยะแรกของการตั้งครรภ์ปฏิกิริยาต่าง ๆ เช่นอาการคลื่นไส้และง่วงนอนนั้นเป็นเรื่องปกติ สองวันที่ผ่านมานี้เธอหลับง่ายกว่าปกติก่อนหน้านี้เธอมีอาการนอนไม่หลับเป็นครั้งคราวและต้องอาศัยยาเมลาโทนินถึงนอนหลับสนิท แต่คืนนี้พอเธอล้มตัวลงนอนก็ผล็อยหลับเลยทันที หลับครั้งนี้ เธอนอนหลับยาวไปจนถึงตีห้าของเช้าวันรุ่งขึ้น ถ้าไม่ใช่เพราะปวดปัสสาวะ เธอคงยังหลับอยู่ เมื่อเธอตื่นขึ้นมาก็หยิบโทรศัพท์มาดูเวลาก่อน ผลคือ เห็นข้อความที่ฟู่สือถิงส่งมา เธอตกใจจนหน้าถอดสีและรีบเดินไปที่ห้องน้ำพร้อมกับถือโทรศัพท์ไปด้วย ข้อความที่ฟู่สือถิงส่งมาคือ : เมื่อวานคุณมาหาผมมีธุระอะไร? ‘เมื่อวานเหรอ?’ ในสมองของเธอคิดย้อนกลับไปอย่างระมัดระวัง เมื่อวานเธอไม่ได้ไปหาเขานี่นา! ‘เดี๋ยวนะ!’ เธอมองดูเวลาที่เขาส่งข้อความมาอย่างตั้งใจ‘เมื่อคืนนี้ตอนสี่ทุ่มครึ่ง?!’ ความหนาวเย็นทะลุผ่านเข้ามาจากแผ่นหลังของเธอ เธอตื่นโดยสมบูรณ์แล้ว หลังออกมาจากห้องน้ำ เธอกลับมานอนลงบนเตียงพร้อมกับถือโทรศัพท์