เหตุผลที่เธอถามแบบนี้ ก็เพราะตอนที่เขารัดคอของเสี่ยวหานวันนี้ มันดูน่ากลัวจริง ๆ! เธอรู้สึกกลัวเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เธอไม่ได้ถามว่าทำไมเขาถึงทำแบบนั้น เพราะไม่ว่าเสี่ยวหานจะโกรธเขาแค่ไหน เขาก็ไม่ควรทำอะไรเสี่ยวหาน! คนปกติในโลกนี้ใครจะไปเอาจริงเอาจังกับเด็กอายุแค่ห้าขวบ? คำถามของเธอทำให้เขาเงยหน้าขึ้นมองเธอ “ยิ่งกว่านั้นอีก” เขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ข่มขืน ฆ่า ลักพาตัว ปล้นสะดม เคยทำมาแล้วทุกอย่าง” ฉินอันอันพูดไม่ออก ดวงตาของเขาล้ำลึกและน้ำเสียงของเขาจริงจัง เธอตกใจและพูดไม่ออก “ฉินอันอัน อย่าทำเหมือนว่าคุณสนใจผม ทั้ง ๆ ที่คุณไม่เคยสนใจในสิ่งที่ผมเคยทำเลย” เขาตั้งใจทิ้งขี้เถ้าลงในที่เขี่ยบุหรี่และพูดเน้นทีละคำ “คุณแค่สนใจแต่เรื่องลูกของคุณสองคน ผมเคยเตือนลูกชายของคุณแล้วว่าอย่ามากวนโมโหผม” “ต่อไปเขาจะไม่ไปกวนโมโหคุณอีก!” ฉินอันอันอดขึ้นเสียงไม่ได้ เขาทิ้งบุหรี่อีกครึ่งหนึ่งในมือลงในที่เขี่ยบุหรี่ ร่างสูงลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินไปที่เตียง “ฉินอันอัน ผมไม่ได้ติดค้างอะไรคุณ อย่ามาขึ้นเสียงต่อหน้าผม! ผมจะไม่ทน!” เขามองเธอด้วยดวงตาสีแดงดุเดือด ขณะนั้น มีเสียงเค
“ถ้าอย่างนั้นเธอก็พักรักษาตัวให้หายก่อน ถ้าเขาไม่ส่งเธอกลับภายในหนึ่งสัปดาห์ ฉันจะแจ้งตำรวจอีกครั้ง” ไมค์โกรธ “ฉันรู้แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น” ฉินอันอัน “นายรู้ได้ยังไง?” ไมค์ “โจวจื่ออี้บอกฉันแล้ว เขาไม่เชื่อว่าเจ้านายของเขาเป็นคนเลว เขาจึงไปสืบมาแล้ว” ฉินอันอันยิ้มเจื่อน ๆ ไมค์ “แม่ของเขารู้เรื่องลูกเธอแล้วใช่ไหม?” “อืม” ไมค์ “ฉันว่าแล้วว่ามันจะเป็นแบบนี้ เธอคงไม่ได้บอกเขา เขาเลยเป็นบ้า” “อืม” ไมค์ “เธอนี่มันโง่จริง ๆ! ถ้าฉันเป็นเธอ ฉันจะไม่ยอมให้ตัวเองต้องมาทนกับความไม่ยุติธรรมแบบนี้หรอก! ถ้าเธอบอกเขาแล้วไงล่ะ? เขาจะฆ่ารุ่ยลากับเสี่ยวหานจริง ๆ งั้นเหรอ? ฉันไม่เชื่อหรอก! ฉันไม่เชื่อว่าเขาจะโหดร้ายกับเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองได้! เด็กทั้งสองไม่ได้ติดค้างอะไรเขาเลย!” ฉินอันอัน “แบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว ฉันไม่อยากเดิมพันอะไรทั้งนั้น” “โอเค งั้นเธอต้องโทรหาฉันอย่างน้อยวันละครั้ง ไม่อย่างนั้นฉันจะแจ้งตำรวจ” ไมค์บอกความต้องการ “ฉันเข้าใจแล้ว” ฉินอันอันรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นมากหลังจากได้คุยโทรศัพท์กับไมค์ สองวันที่ผ่านมาเป็นราวกับฝันร้าย ฝันร้ายอย่างต่อเนื่องที่ไม่มีที่สิ้
เธอรีบเปิดไฟในห้องทันที แสงไฟที่จู่ ๆ สว่างขึ้นทำให้เขาแสบตา เขาโกรธและโมโหมากจึงกระแทกประตูเสียงดังปัง เธอมองเขาด้วยสายตาหวาดกลัว ตาของเขามีสีแดงเนื่องจากเมา หลังจากปิดประตู นิ้วเรียวก็เริ่มปลดกระดุมเสื้อ เมื่อเธอรู้ว่าเขากำลังจะทำอะไร เธอก็ตกใจมากจนไม่กล้าหายใจ “ฟู่สือถิง! คุณมาผิดห้องแล้ว!” เธอต้องการเรียกสติเขา “นี่คือห้องของฉัน!” เขาเงยหน้าขึ้นมองเธอแล้วเดินไปที่เตียงด้วยขาอันยาวเหยียด ขณะเดียวกัน เขาก็ถอดเสื้อออกแล้วโยนมันลงไปที่พื้น “ผมไม่ได้เมา” เขาขึ้นไปบนเตียงและจับขาที่บาดเจ็บของเธอไว้แน่น “อย่าขยับขาข้างนี้นะ” เธอพูดไม่ออก ดูเหมือนเขาจะไม่ได้เมาจริง ๆ แต่ในเมื่อเขารู้ว่าเธอได้รับบาดเจ็บ ทำไมเขาถึงยังทรมานเธออีก! จู่ ๆ ริมฝีปากอันอบอุ่นของเขาก็ประกบลงบนลำคอของเธอ เธอได้กลิ่นน้ำหอมฉุนแปลก ๆ ที่ติดอยู่บนตัวของเขา คิ้วเรียวขมวดคิ้วทันที แม่บ้านบอกว่าเมื่อไม่กี่วันก่อนมีสาวสวยกลุ่มหนึ่งลงมาชั้นล่าง คนเหล่านั้นอยู่ที่นี่สามวัน ยังไม่กลับไป และกลิ่นน้ำหอมแปลก ๆ บนตัวเขา คงถูกหนึ่งในผู้หญิงกลุ่มนั้นตราตรึงบนร่างของเขาแล้ว แม้ว่าเขาจะถอดเสื้อออก แต่
เธอเอื้อมมือไปใต้หมอนแล้วดึงมีดออกมา! มีเล่มนี้เป็นมีดที่พี่สามมอบให้เธอไว้เพื่อป้องกันตัวตอนที่เธอหนี ตอนที่เธอได้รับการช่วยเหลือจากฟู่สือถิง เธอก็กำมีดเล่มนี้ติดมือมาด้วย เดิมทีฟู่สือถิงต้องการเก็บมีดเล่มนี้นไว้ให้ห่างจากตัวเธอ อาจกลัวว่าเธอจะฆ่าตัวตาย แต่เธอก็ยืนกรานว่าจะเอากลับมา หลังจากเอากลับมาได้ เธอก็เก็บมันไว้ใต้หมอน มีดเล่มนี้ช่วยชีวิตเธอและมีความหมายต่อเธอมาก ดังนั้นเธอจึงนำมันติดตัวไว้ แต่คิดไม่ถึงว่าคืนนี้จะถูกเขาเหยียดหยาม! ศักดิ์ศรีของเธอถูกบดขยี้ สติพังทลายลง ตอนนี้เธอแค่อยากจะตายไปพร้อมกับเขา! ฆ่าเขาแล้ว เธอก็จะฆ่าตัวตาย! เธอเป็นนักศึกษาแพทย์ดีเด่น เธอรู้ว่าแทงยังไงถึงจะทำให้เขาตายได้อย่างรวดเร็ว! เธอจับมีดไว้แน่น ในใจคิดว่าจะตัดหลอดเลือดส่วนไหนของเขาดี สายตาของเธอจับจ้องไปยังใบหน้าของเขา แสงสลัวจากข้างนอกทำให้สามารถมองเห็นโครงร่างใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาได้ไม่ชัดเจน เขากำลังหลับลึก คอของเขาถูกเปิดออกนอกผ้าห่ม ดึงดูดเธอ... มือของเธอที่ถือมีดยกขึ้นอย่างสั่นเทา แค่แทงเพียงครั้งเดียว ภายในครึ่งชั่วโมงเธอก็จะเป็นอิสระแล้ว! ขณะที่มีดกำลั
เสียงกรีดร้องของเธอดึงดูดความสนใจของบอดี้การ์ดที่อยู่ข้างนอกอย่างรวดเร็ว! ทันทีที่เปิดประตู ไฟก็สว่างขึ้น! ภาพบนเตียงทำให้บอดี้การ์ดตกใจแทบช็อก! “หมอ! รีบไปตามหมอเร็ว!” บอดี้การ์ดตะโกนบอกคนข้างนอกแล้วรีบเดินไปที่เตียง ฉินอันอันร้องไห้และพูดกับบอดี้การ์ด “เอามือของเขาออก! รีบเอามือของเขาออกเร็ว!” ทีแรกบอดี้การ์ดคิดว่าฉินอันอันจะฆ่าฟู่สือถิง แต่เขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการเอามือฟู่สือถิงที่ถือมีดอยู่ออก! ดังนั้น ฟู่สือถิงจึงเป็นคนที่จับมีดในมือของฉินอันอันแทง กล่าวอีกนัยหนึ่งคือฟู่สือถิงจะฆ่าตัวตาย หลังจากที่บอดี้การ์ดมือที่เปื้อนเลือดของฟู่สือถิงออก ฉินอันอันก็ลุกจากเตียงทันที หมอเข้ามาพร้อมกล่องยา ฉินอันอันคว้ากล่องยาจากมือของเขาแล้ววิ่งไปที่เตียงเพื่อหยุดเลือดให้ฟู่สือถิง! หมองง! ทำไมฉินอันอันถึงเดินเร็วขนาดนี้? ขาหายดีแล้วเหรอ? เธอคว้ากล่องยา...เธอคว้ากล่องยาไปแล้ว! หลังจากที่หมอรู้สึกตัวแล้ว เขาก็รีบเดินไปข้างเตียง ทันใดนั้น เขาก็ต้องตกใจกับมีดสั้นที่ปักอยู่ตรงหัวใจของฟู่สือถิง! และยังตกใจกับผ้าปูที่นอนและผ้านวมสีแดงเช่นกัน! “นี่ นี่...นี่!
บอดี้การ์ดและหมอรีบพาเขาออกไป เธอนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียงพลางร้องไห้เสียงดัง ค่ำคืนนี้ยิ่งดึกขึ้นเรื่อย ๆ แต่เธอกลับตื่นตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน เธอได้ยินเสียงแห่งความเสียใจของตัวเองชัดเจน และได้ยินเสียงดังก้องของเฮลิคอปเตอร์ที่กำลังสตาร์ทอยู่บนดาดฟ้า ไม่นานเฮลิคอปเตอร์ก็หายไปในท้องฟ้ายามค่ำคืน มีเสียงฝีเท้าที่ประตูห้อง เธอไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง ไม่ว่าใครจะเข้ามา เธอก็ไม่สนใจแล้ว หลังจากชายคนนั้นเข้ามาเขาก็เดินตรงไปที่เตียงทันที เขาเอาผ้าห่มสะอาดในมือมาคลุมบนตัวเธอ จากนั้นก็หยิบมีดที่เปื้อนเลือดบนเตียงขึ้นมา “คุณฉิน ผมให้มีดนี้คุณเพื่อป้องกันตัวเอง ไม่ใช่เพื่อฆ่าคนนะ” พี่สามจำใจพูด “ผมจะเอามีดเล่มนี้คืน” ฉินอันอันสะอื้น “ฉันอยากฆ่าเขา...แต่ฉันไม่กล้าทำ...” “การกระทำของคุณทำให้เขาโกรธ” พี่สามพูดน้ำเสียงราบเรียบ “แล้วมันแตกต่างอะไรกับการที่คุณเอามีดจี้หัวใจเขา?” ฉินอันอันพูดไม่ออกหลังจากถูกซักถาม “แม่ของคุณเสียไปเมื่อปีที่แล้วใช่ไหม? คุณก็น่าจะรู้ว่าถ้าคนที่รักเสียชีวิต คนเราจะรู้สึกอ่อนไหวง่าย” พี่สามจุดบุหรี่แล้วชูไว้ระหว่างนิ้ว “แม่เขาเสียแล้ว พวกเราญาติพี่
เธอดูข่าวบนหน้าจอแล้วรู้สึกหายใจลำบาก ‘เขาเสียชีวิตแล้ว?’ ‘เป็นไปได้ยังไง...จะตายง่าย ๆ ขนาดนี้ได้ยังไง?’ ‘เมื่อคืนเธอห้ามเลือดให้เขาแล้ว! เฮลิคอปเตอร์ก็พาเขาส่งโรงพยาบาล และน่าจะได้รับการรักษาฉุกเฉินในทันที แล้วทำไมถึงช่วยเขาไว้ไม่ได้ล่ะ?’ ‘หรือว่าตอนที่เขาอยู่บนเฉลิคอปเตอร์ เขาจะฉีกผ้าพันแผลที่เธอพันให้ออก?’ ‘หรือตอนไปถึงโรงพยาบาล เขาไม่ยอมให้หมอรักษา?’ เธอสูดหายใจ น้ำตาพลันไหลอาบหน้า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างทาง เขาตายแล้วคือตายแล้ว! หมอสามารถช่วยคนไข้อาการสาหัสได้ แต่ไม่สามารถช่วยคนที่เสียชีวิตไปแล้วได้! เมื่อคืนตอนที่เธอมีความคิดจะฆ่าเขา เธอคิดว่าถ้าเขาตาย เธอก็จะเป็นอิสระ แต่พอผลลัพธ์ออกมาเป็นแบบนั้น ทำไมกลับรู้สึกเสียใจมากขนาดนี้? ...... หลังจากข่าวการเสียชีวิตของฟู่สือถิงได้รับการเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต สื่อรายใหญ่ก็เริ่มเร่งเผยแพร่ข่าวที่เกี่ยวข้อง ไว้อาลัยให้กับฟู่สือถิง ปิดฉากตำนานรุ่นแรก! เอสทีกรุ๊ป อาณาจักรธุรกิจที่สร้างด้วยมือของฟู่สือถิงจะไปตกอยู่ที่ใคร? ฟู่สือถิง ความสำเร็จและความเศร้าโศกของเขา! เบื้องหลังการตายของฟู่สือถิงมีใครสมรู้ร่วม
ไมค์หยิบแก้วน้ำขึ้นมา “เกิดอะไรขึ้นกับเจ้านายของคุณเหรอ? อย่ามาหาฉินอันอันทุกครั้งที่มีเรื่อง...” “เขาตายแล้ว” โจวจื่ออี้รู้สึกเสียใจมาก ไมค์ส่งเสียง พู่ และน้ำในปากก็พุ่งออกมา “อย่ามาล้อเล่นสิ คุณพูดว่าเขาตายแล้ว...เขาตายได้ยังไง?” “ไม่รู้ ในอินเทอร์เน็ตบอกว่าเขาตายแล้ว” ไมค์พูดไม่ออกเมื่อเห็นว่าเขาดูเหมือนจะมีน้ำตาไหลออกมาจึงวางแก้วน้ำลงแล้วเดินไปที่ห้องทันที “ไม่ต้องกังวล ผมจะโทรไปถามฉินอันอัน...เมื่อวานตอนเที่ยงเธอโทรหาผม บอกว่าเธอไม่ได้เจ็บมากแล้ว และเธอจะกลับมาในอีกไม่กี่วัน ตอนนั้นเธอไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับฟู่สือถิงเลย...” “เมื่อช่วงหัวค่ำของเมื่อคืนเกิดขึ้น” โจวจื่ออี้เดินตามเขาเข้าไปในห้อง “โทรศัพท์มือถือของเขาติดต่อไม่ได้ บอดี้การ์ดของเขาก็ไม่รับสาย ผมอยู่กับเขามาหลายปีแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น” ไมค์เปิดโทรศัพท์ กดหมายเลขของฉินอันอัน และเปิดลำโพงในขณะเดียวกัน ใช้เวลารอสายสักพักก่อนที่สายจะถูกเชื่อมต่อ “ฉินอันอัน!” ไมค์รู้สึกกังวลใจตามโจวจื่ออี้ เขาเริ่มวิตกกังวล “ฉันได้ยินมาว่าฟู่สือถิงตายแล้ว เกิดอะไรขึ้นเหรอ? คงไม่ได้เกี่ยวข้องกับเธอใช่ไหม