เขาคิดมาโดยตลอดว่าเธอไปเข้าห้องน้ำและกลับมาพักที่ห้องแล้ว ดังนั้นเขาจึงดื่มเหล้าจนถึงตอนนี้แล้วถึงขึ้นมาชั้นบน ทันใดนั้นความคิดหนึ่งก็แวบขึ้นมาในใจเขา! ‘เธอหนี…ไปแล้วงั้นเหรอ?!’‘ที่นี่เป็นป่าทึบรัศมีกว่าร้อยกิโลเมตร! ‘‘เธอจะลากร่างกายที่อ่อนแอนี้ออกจากป่าทึบแบบนี้ไปได้ยังไง?!’เขากำหมัดแน่น ก้าวเท้าหันหลังกลับและเตรียมลงไปชั้นล่าง “ประธานฟู่! ผมจะไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อดูว่าเธอหนีไปตอนไหนเดี๋ยวนี้ครับ!!” หลังจากที่บอดี้การ์ดรู้ตัวแล้วว่าฉินอันอันหายตัวไป เขาก็พูดขึ้นทันที “ตอนกลางคืนมืดมาก ข้างนอกไม่มีไฟถนน เธอหนีไปได้ไม่ไกลแน่นอนครับ!” “ไอ้พวกไร้ประโยชน์! แค่ผู้หญิงคนเดียวก็เฝ้าไว้ไม่ได้!” ฟู่สือถิงกัดฟันกรอดและตำหนิอย่างรุนแรง! “ขอโทษครับ! ผมจะรีบส่งคนไปค้นหาเดี๋ยวนี้! รับรองว่าจะพาตัวเธอกลับมาตอนรุ่งสาง!” บอดี้การ์ดรับประกันด้วยสีหน้าหวาดกลัว ฟู่สือถิงหายเมาเป็นปลิดทิ้ง! ตอนนี้เขามีสติเต็มที่ ถึงขั้นมีลางสังหรณ์ไม่ดีอย่างแรงอีกด้วย! “เธอน่าจะออกไปก่อนเที่ยงคืน! เพราะก่อนเที่ยงคืนฉันไปเข้าห้องน้ำพอกลับมาเธอก็ไม่อยู่แล้ว เธอจะต้องหนีไปตอนนั้นแน่!” เขาเอ่ยอย่
มีเพียงป่ารกชัฎสุดลูกหูลูกตา ในป่าแห่งนี้มีสัตว์ร้ายจำนวนมาก ถึงแม้จะอยู่ในป่านี้ตอนกลางวันก็อาจถูกโจมตีได้ ไม่ต้องพูดถึงยามค่ำคืนเลยภายใต้การคุ้มครองของบอดี้การ์ด ฟู่สือถิงก้าวเข้าไปในป่าแห่งนี้ ซ่อนความกลัวที่ก่อตัวขึ้นเอาไว้ เขาถือไฟฉายแล้วส่องแสงไฟเข้าไปในป่าทึบที่ปกคลุมไปด้วยเถาวัลย์และกิ่งก้านของต้นไม้ ความสิ้นหวังในใจเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ! ‘เธอกล้าได้ยังไง?!’ ‘เธอกล้าเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?’ ‘เธอคิดจริง ๆ เหรอว่าจะออกจากที่นี่แบบมีชีวิตได้?’ ‘ถ้ารู้แล้วว่านี่คือทางตัน ทำไมถึงไม่ยอมหันหลังกลับ?’ ถึงแม้เมื่อเธอหนีไปครึ่งทางแล้วหันหลังกลับเพราะความกลัว เขาก็จะไม่โกรธขนาดนี้ “ฉินอันอัน!” ลูกกระเดือกของเขาขยับขึ้นลงอย่างสั่นเทา ขณะที่ตะโกนชื่อเธอ! หลังจากที่เขาร้องตะโกนออกมาสุดเสียง บอดี้การ์ดก็ตะโกนขึ้นมาว่า “คุณฉิน! พวกเรามาตามหาคุณ! ถ้าคุณได้ยินเสียงพวกเรา ช่วยตอบกลับด้วย!” คำตอบเดียวที่พวกเขาได้รับ มีเพียงเสียงลมพัดหวีดหวิวและเสียงดังกรอบแกรบจากสัตว์ป่าเพียงเท่านั้นหลังจากเดินไปข้างหน้าอย่างยากลำบากประมาณยี่สิบนาที ลำแสงของไฟฉายจับไปที่ชุดนอนที่อยู่บนพื้น!
ตอนที่กลับมาถึงวิลล่า ร่างกายพวกเขาปียกโชกไปหมด ตอนนี้เป็นเวลาตีสามกว่า เหลือคนไม่กี่คนที่ดื่มอยู่ในห้องโถง พูดว่าดื่ม ที่จริงแล้วคือกำลังรอให้ฟู่สือถิงกลับมา หลังจากมองเห็นเขากลับมาพร้อมกับอุ้มฉินอันอันเอาไว้ ทุกคนต่างพากันลุกขึ้นจากโซฟา เดิมควรมีใครพูดอะไรเพื่อลดความอึดอัดใจ แต่กลับไม่มีคนพูดอะไรเลย ฟู่สือถิงสวมเพียงเสื้อยืดบาง ๆ เท่านั้น เมื่อเปียกฝนจนชุ่ม เสื้อยืดจึงแนบติดผิวหนังของเขา น้ำฝนตกลงมาตามปลายผมดวงตาสีอำพันลึกล้ำของเขาส่องประกายด้วยแสงอันน่าสะพรึงกลัวและสิ้นหวัง หญิงสาวในอ้อมแขนบนตัวถูกห่อด้วยชุดนอนของเขา เห็นเพียงใบหน้าที่อยู่เผยออกมายังภายนอกเท่านั้น ใบหน้าของเธอไร้สีเลือด ดวงตาปิดสนิท ราวกับจะไม่ลืมตาขึ้นมาอีกตลอดกาล ฉากนี้ช่างน่าเศร้าและอ้างว้างเกินกว่าจะบรรยาย!เขากอดฉินอันอันไว้ แล้วก้าวเท้าขึ้นชั้นบน หายไปจากสายตาทุกคน ......หลังจากผลการชันสูตรศพแม่เฒ่าฟู่ออกมา ฟู่ฮั่นก็ถ่ายรูปผลการรายงานและส่งให้ฟู่สือถิงทันที แม่เฒ่าฟู่ไม่ได้ถูกวางยาพิษ บนตัวไม่มีอาการบาดเจ็บใด ๆ นอกจากอาการหกล้ม จาการประเมินทางการแพทย์ แม่เฒ่าฟู่เสียชีวิตจากการล้ม
แต่หลังจากเห็นข้อความของไมค์ เขาก็ระงับเอาไว้ ‘ช่างเถอะ ไม่สนแล้ว!’ ‘แค่แกล้งทำเป็นไม่รู้อะไรไปซะ’ ครั้งนี้เจ้านายทำมากเกินไปจริง ๆ จะเอาตัวฉินอันอันไปโดยไม่ยอมให้คนในครอบครัวติดต่อได้ยังไง? เปลี่ยนจากไมค์เป็นเขา เขาก็คงโกรธจัดเช่นกัน เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนถึงเวลาสิบเอ็ดโมง เสี่ยวหานไม่ได้ป่วนพิธีศพ เขาไม่เห็นแม้แต่เงาของเสี่ยวหานด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าเสี่ยวหานวางแผนในใจไว้ว่ายังไง ไม่ว่าแผนของเขาจะเป็นเช่นไร เขาคงจะรู้ว่าทำได้ยากจึงยอมแพ้ไปแล้ว หลังจากพิธีศพเสร็จสิ้นลง เหล่าแขกที่มาร่วมงานต่างทยอยมุ่งหน้าไปทานอาหารกลางวันที่โรงแรม โจวจื่ออี้เดินไปหาฟู่สือถิง “เจ้านายครับ” ฟู่สือถิงหยุดชะงัก แล้วหันมามองเขาด้วยสายตาเย็นเยือก โจวจื่ออี้กล่าวอย่างลำบากใจ “ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ” ฟู่สือถิงได้ยินแล้วก็ก้าวเท้าไปที่ลานจอดรถ โจวจื่ออี้รีบเดินตามเขาไปอย่างรวดเร็ว รวบรวมความกล้าแล้วถามว่า “เจ้านายรับ คุณฉินอยู่กับคุณใช่ไหมครับ? ลูกทั้งสองคนของเธอเป็นห่วงความปลอดภัยของเธอมาก…” ลูกกระเดือกฟู่สือถิงขยับขึ้นลง เขาพูดเสียงแห้บพร่า “เธอยังไม่ตาย” โจวจื่ออี้ถึงกับง
“คุณฉิน ในที่สุดคุณก็ตื่นแล้ว!” เสียงผู้ชายดังก้องขึ้นในหูของเธอ ฉินอันอันหันไปทางที่มาของเสียง เป็นบอดี้การ์ดของฟู่สือถิง “คุณฉิน คุณยังจำเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้ไหมครับ?” บอดี้การ์ดยืนอยู่ข้างเตียงแล้วพูดน้ำไหลไฟดับ “ตอนที่เจ้านายของเราอุ้มคุณออกจากป่าเมื่อคืนนี้ ฝนตกหนักยิ่งกว่าตอนที่อี้ผิงขอเงินพ่อของเธอ*เสียอีก! รองเท้าของเจ้านายหายไปหมด! เขาอุ้มคุณกลับมาด้วยเท้าเปล่า!” ฉินอันอันสำลักจพูดไม่ออก “ถึงแม้ว่าขาของคุณจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่เจ้านายของพวกเราก็มีรอยบาดลึกหลายแผลเช่นกัน…” บอดี้การ์จ้องมองลงมาที่เธอ “เมื่อคืนคุณเปียกฝนมีไข้สูง เจ้านายของพวกเราก็มีไข้เช่นกัน หลังจากพาคุณกลับมาเมื่อคืนนี้ เขาจัดการบาดแผลที่เท้าเสร็จแล้ว ก็กินยาลดไข้ และรีบไปร่วมพิธีศพของคุณนายฟู่ ไม่มีแม้แต่เวลาหลับตาเลยด้วยซ้ำ” บอดี้การ์ดเห็นว่าเธอไม่ได้แสดงความรู้สึกใด ๆ คิดว่าสมองที่โดนพิษไข้คงไม่สดใสมากนัก “คุณฉินครับ คุณช่างเป็นผู้หญิงที่เจ่งที่สุดเท่าที่ผมเคยรู้จักเลย” ใบหน้าของบอดี้การ์ดแสดงความชื่นชม “วันนี้ตอนตีห้า ผมและเพื่อนร่วมงานเจอหมาป่าที่ได้รับบาดเจ็บในป่า…น่าจะเป็นหมาป่าท
เขากัดฟัน ดวงตามองผ่านใบหน้าเธอไปอย่างเย็นชา เขาวางชามโจ๊กลงแล้วพยุงตัวเธอขึ้น เอาหมอนสองใบวางไว้ด้านหลังเธอแล้วให้เธอเอนตัวพิงจากนั้นเขายกชามโจ๊กขึ้นมาแล้ววางลงในมือเธอ เธอรับชามมา มือขวาเตรียมจะใช้ช้อนตักโจ๊กในชาม ทันใดนั้นมือซ้ายก็หมดแรง… หลังจากมือที่ถือชามสั่นเทา ชามในมือก็หล่นลงไปบนผ้าห่ม โจ๊กในชามทะลักออกมาหมด เธอมองดูโจ๊กที่หกด้วยสีหน้าประหลาดใจแล้วเม้มปาก ฟู่สือถิงมองดูภาพนี้แล้วหัวใจก็เจ็บปวด เธอไม่ได้ตั้งใจ! เขามองออกว่าเธอไม่ได้ตั้งใจ! เธออยากกินโจ๊กด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้เธอไม่มีแรงถือชามโจ๊กเลยด้วยซ้ำ! ก่อนที่น้ำตาของเธอจะไหล เขาเอาผ้าห่มบนตัวเธอที่เปื้อนออก “ฉินอันอัน คุณจะต้องดีขึ้น! อย่าร้องไห้!” เขาอยากปลอบใจเธอ ทว่าพอเอ่ยปากพูด น้ำเสียงของเขาเคร่งเครียดราวกับเป็นการบรรยาย เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ อยากจะอธิบาย แต่ว่าเธอล้มตัวลงนอนและหันหลังให้เขาแล้ว เขาไม่ได้ยินเสียงเธอร้องไห้ แต่เขารู้ว่าเธอกำลังร้องไห้เขาหยิบผ้าห่มสะอาดออกมาจากตู้แล้วห่มให้เธอ“ผมจะให้แม่บ้านต้มมาอีกชาม” เขานั่งลงที่ขอบเตียง ขณะที่มองท้ายทอยของเธอแล้วพูดอย่างเศร้าใจเธอหลับต
เสี้ยววินาทีที่เขาเห็นฉินจือหาน เขานึกว่าตัวเองเข้ามาผิดที่ ทำไมฉินจือหานถึงมาอยู่ที่นี่? เด็กน้อยคนนี้มาได้ยังไง?! เขาพบว่าหลาย ๆ ครั้ง เด็กคนนี้ทำให้เขาประหลาดใจอย่างคาดไม่ถึง! แน่นอนว่า ความประหลาดใจในที่นี้ไม่ได้มีความหมายตามตัวอักษร “ทำไมแม่ของผมถึงได้รับบาดเจ็บ?!” เสี่ยวหานยืนอยู่ข้างเตียง ในดวงตาที่เย็นชากำลังซักไซ้ฟู่สือถิง เขาเห็นบนหน้าผากของแม่มีผ้าก๊อซพันอยู่ แม่ต้องได้รับบาดเจ็บแน่ ๆ ถึงพันไว้แบบนี้ยิ่งไปกว่านั้นเขาเพิ่งตะโกนเรียกแม่ แม่ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองเลยแม้แต่น้อย เขาสงสัยว่าแม่อาจจะไม่ได้แค่นอนหลับ แต่เป็นหมดสติไป แต่เขาทำอะไรไม่ได้เลย เขาพาแม่ไปไม่ได้ แล้วก็รักษาแม่ไม่ได้ ฟู่สือถิงทำหูหนวกต่อคำถามของเสี่ยวหาน เขาจ้องมองเด็กน้อยตรงหน้า “นายมาได้ยังไง? นอกจากนายแล้ว ยังมีใครมาด้วยอีกบ้าง?” “ผมมาคนเดียว!” เสี่ยวหานไม่ได้เย่อหยิ่งและไม่ได้ถ่อมตัว ความเกลียดชังในดวงตาเพิ่มขึ้นทีละน้อย “คุณทำร้ายแม่ของผม ผมไม่ละเว้นคุณแน่!” ฟู่สือถิงเยาะเย้ยคำขู่ของเขา “นายจะไม่ละเว้นฉันยังไง? อย่าได้คิดว่ากลอุบายเล็ก ๆ น้อย ๆ ของนายมันจะสำเร็จทุกครั้ง!” “ฉิน
และคนที่กำลังยกเขาขึ้นคือฟู่สือถิง! ฟู่สือถิงกำลังบีบคอเสี่ยวหานอยู่! เธอต้องฝันไปแน่ ๆ ไม่อย่างนั้นเสี่ยวหานจะมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอฝันร้ายเช่นนี้ นับตั้งแต่ฟู่สือถิงพูดเมื่อห้าปีก่อนว่าถึงแม้เธอจะคลอดลูกออกมา เขาก็จะบีบคอเด็กจนตาย… เธอก็มักจะฝันร้ายแบบนี้เสมอเธอฝันว่าฟู่สือถิงใช้วิธีการต่าง ๆ ทรมานลูกของพวกเขาจนตาย เช่นเดียวกับภาพตรงหน้าเธอ เธอฝันเห็นมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว! เพียงแค่สิ่งที่แตกต่างจากความฝันคือภาพตรงหน้าสมจริงมากกว่า จากการดิ้นรนที่รุนแรงของเสี่ยวหาน ทำใหกระเป๋านักเรียนบนหลังของเขาร่วงลงพื้นส่งเสียงดัง ‘ปึง’! ฉินอันอันกะพริบตา กลไกในร่างกายบางจุดถูกสัมผัส แล้วเลือดในตัวก็เดือดพล่านขึ้นทันที! นี่ไม่ใช่ความฝัน! ไม่ใช่ความฝัน! “ฟู่สือถิง! คุณปล่อยมือนะ!” เธอกรีดร้อง ร่างกายสั่นสะท้านขณะที่พยายามลุกขึ้นจากเตียง เพราะได้รับบาดเจ็บที่ส่วนขา เธอจึงไม่สามารถลุกขึ้นจากเตียงได้ตามปกติ หลังจากดิ้นรนอยู่ช่วงสั้น ๆ เธอและผ้าห่มก็กลิ้งหล่นลงพื้น! ดวงตาทั้งสองข้างเต็มไปด้วยน้ำตาร้อนผ่าว นิ้วมือดึงขากางเกงฟู่สือถิงแน่น เสียงของเธอทั้