“ผู้อำนวยการไมค์ ทำไมโทรศัพท์ของคุณกับประธานถึงโทรไม่ติดเลยล่ะ?” รองประธานมองไมค์แล้วพูดอย่างร้อนใจ “เกิดเรื่องใหญ่แล้ว! คุณรีบปลุกประธานเร็วเข้า!” ไมค์ดูเพิ่งตื่น เอื้อมมือเกาหัวแล้วหันหลังเดินกลับเข้าไปในบ้าน “บริษัทยังไม่ปิดตัวนี่นา มีเรื่องใหญ่อะไรเหรอ?” รองประธานรีบถอดรองเท้าตามเข้าไป “คุณกับประธานหาดารามาโฆษณาอยู่ทั้งคืนหรือเปล่า? บนเว่ยปั๋วมีดาราชื่อจิ้นซือเหนียนพูดถึงผลิตภัณฑ์ของเรา ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นดาราดังด้วย!” ความง่วงงุนบนหน้าไมค์จางหายไป แปรเปลี่ยนเป็นความตกใจ “ทำไมผมไม่เข้าใจเลยว่าคุณกำลังพูดอะไร” “โถ่พระเจ้า! ในเว่ยปั๋วมีดาราใหญ่ชื่อจิ้นซือเหนียนโพสต์เว่ยปั๋วขอให้ทุกคนช่วยสนับสนุนโดรนรุ่นสายลมของพวกเรา หลังจากที่เขาโพสต์บนเว่ยปั๋วแล้ว ฝ่ายบริการลูกค้าของบริษัทต้องรับสายไม่หยุดเลย ที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นคือ คำสั่งซื้อยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วด้วย… ไม่เคยเห็นภาพแบบนี้มาก่อนเลย!” รองประธานพูดใบหน้าแดงไปถึงหู เพราะว่าโทรหาฉินอันอันและไมค์ไม่ติด ดังนั้นเขาจึงมาหาที่นี่ ไมค์ได้ยินเช่นนี้ ก็รู้สึกว่าสิ่งต่าง ๆ ไม่ใช่เรื่องเล็ก จึงเดินไปทางห้องนอนใหญ่ทันที เข
ภายในรถโรลโรลส์รอยซ์สีดำ ประตูรถถูกล็อก ฉินอันอันรู้สึกเสียใจ เธอคงตื่นไม่เต็มที่ในตอนเช้า ถึงได้ขึ้นรถของเขา หลังจากที่เธอขึ้นรถมาแล้ว เขาก็ล็อกประตูทันที ‘นี่มันอะไรกัน?’‘ลักพาตัวเหรอ?’“ฟู่สือถิง คุณคิดจะทำอะไร?” ฉินอันอันขมวดคิ้วแล้วเผชิญหน้ากับเขา ‘วันนี้เป็นงานหมั้นของเขาเหรอ?’ ‘ทำไมยังว่างมาหาเธอ?’ “ฉินอันอัน คุณรู้จักจิ้นซือเหนียนใช่ไหม?” เขาเงยหน้าขึ้นมองไปทางเธอ มีแสงจาง ๆ ในดวงตาของเขา “อย่าโกหกผม!” หลังจากฉินอันอันรับสายเขาตอนเช้า แบตเตอรี่โทรศัพท์ก็หมดไปดังนั้นตอนนี้เธอไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นบนอินเทอร์เน็ต จู่ ๆ เขาพูดถึงจิ้นซือเหนียน ทำให้ระฆังในใจเธอส่งเสียงเตือน“ไม่รู้จัก เกิดอะไรขึ้น?” เธอมองดูใบหน้าคุ้นเคยแต่ห่างเหินของเขาแล้วบังคับให้ตัวเองระงับสติอารมณ์ “ถ้าไม่รู้จักแล้วเขาจะช่วยคุณทำไม?” เขาพูดเร็วขึ้นและเน้นทีละคำ “ครั้งก่อนผมเห็นรูปเขาในโทรศัพท์ของคุณ คุณไม่เคยไล่ตามดารา แต่กลับชอบแค่เขาเพียงคนเดียว คุณบอกว่าไม่รู้จักกัน คุณคิดว่าผมโง่หรือไง?!” น้ำเสียงของเขาทำให้ฉินอันอันโมโห เธอโต้กลับอย่างรุนแรง “ฉันจะรู้จักเขาหรือไม่ ก็ไม่ใช่เร
“แม่ครับ สือถิงบอกว่าจะยกเลิกพิธีหมั้น เขาไม่มาแล้วครับ” ฟู่ฮั่นพูดจบก็เข้าไปประคองแม่ทันที แม่เฒ่าฟู่มีใบหน้าประหลาดใจ “เขาเป็นอะไร? เกิดเรื่องกับเขาเหรอ?” ฟู่ฮั่นส่ายหน้า “ไม่รู้ครับ พูดจบเขาก็วางสายไปเลย อาจเกิดเรื่องบางอย่าง! ผมจะให้คนขับรถส่งแม่กลับไปก่อน ผมจะอธิบายให้ทุกคนทราบเอง เลี้ยงอาหารแล้วค่อยส่งทุกคนกลับครับ” เรื่องนี้น่าอายเกินไปแล้ว! เพียงแต่ไม่มีใครกล้าพูดอะไร แขกที่อยู่รอบ ๆ บริเวณเห็นเสิ่นอวี๋ร้องไห้ ต่างพากันมองมาที่เธอ เธอไม่เคยเจอเรื่องที่น่าอับอายแบบนี้มาก่อน! เธออยู่ที่นี่ต่อไปไม่ไหวแม้อีกวินาทีเดียว เธอยกกระโปรงยาวขึ้นแล้ววิ่งออกจากห้องจัดเลี้ยงทั้งน้ำตา! ‘ฉินอันอัน เธอจะจดจำแค้นนี้เอาไว้!’ ……ที่โรงเรียนอนุบาลสตาร์ริเวอร์ เสี่ยวหานเปิดแล็ปท็อป เดิมจะดูความตื่นเต้น ใครจะรู้ เสิ่นอวี๋กลับวิ่งหนีไปแล้ว! สิ่งนี้ทำให้เขาขมวดคิ้ว ‘ตอนนี้ฟู่สือถิงยังมาไม่ถึงห้องจัดเลี้ยง เขาไม่มาแล้วงั้นเหรอ?’ ‘ไม่อย่างนั้น ทำไมเสิ่นอวี๋ต้องวิ่งหนีไปล่ะ?’ ‘พวกเขาสองคนไม่จัดงานหมั้นแล้วเหรอ?’ หัวใจที่ตึงเครียดของเสี่ยวหานผ่อนคลายลง เขาถอนใจโล่งอก เขาเกลี
ไม่รู้ว่าจูบนี้ดำเนินไปนานเท่าไหร่ กระทั่งมีเสียง ‘ปึง ๆ’ ดังขึ้น เขาถึงได้ปล่อยเธออย่างไม่เต็มใจ นอกหน้าต่างรถ ไมค์กำลังมองเข้ามาด้านในด้วยสีหน้างงงวยฉินอันอันตกใจจนหน้าถอดสี! เธอเปิดประตูรถแล้วหวังจะออกไป ฟู่สือถิงดึงเธอเอาไว้พูดเสียงแหบพร่า “ติดฟิล์มป้องกันความเป็นส่วนตัวไว้แล้ว เขามองไม่เห็นพวกเราหรอก” เธอถอนหายใจโล่งอก! จูบที่เพิ่งเกิดขึ้นทำให้เธอรู้สึกสับสน แก้มบนหน้าของเธอแดงผิดปกติ ผมเผ้ายุ่งเหยิงอีกต่างหาก นอกจากนี้เขาเพิ่งถอดเสื้อคลุมของเธอออกแล้วโยนลงบนพื้น! เธอเก็บเสื้อคลุมขึ้นมา เขาคลายเกลียวฝาขวดน้ำแล้วยื่นให้เธอ “ฉันไม่เอา!” เธอจ้องเขาอย่างเย็นชา เมื่อคิดถึงสิ่งที่เขาเพิ่งทำกับเธอ เธอโกรธจนปวดหัว ถึงแม้จะกระหายน้ำแทบตาย เธอก็ไม่ดื่มน้ำจากเขา เขาเมินเฉยต่อสายตาเกลียดชังของเธอที่ตวัดใส่เขา ความโกรธและอารมณ์เดือดดาลในตัวเขาละลายหายไปเพราะจูบเมื่อกี้ปรากฏว่าความทุกข์ที่มีมายาวนานเกิดจากการคิดถึงรสชาติของเธองั้นเหรอ? “ฉินอันอัน เมื่อกี้คุณไม่ได้รู้สึกเคลิบเคลิ้มเลยเหรอ?” เขาดื่มน้ำแล้วใช้นิ้วเช็ดคราบน้ำบนริมฝีปากบางของเขาอย่างสง่างาม “คุณไม่ไ
ไม่หมั้นก็ไม่หมั้น เธอพร้อมจะเลิกกับเขาแล้วไปจากตระกูลฟู่ ฟู่สือถิงไม่สามารถให้ความรักกับเธอได้ เธอต้องได้ค่าตอบแทนจำนวนมากแน่นอน ถ้าเธอได้เงินสักก้อน ก็ถือว่าไม่ขาดทุน รถโรลส์รอยซ์หยุดอยู่ด้านนอกประตู แม่เฒ่าฟู่พูดกับเสิ่นอวี๋ทันที “สือถิงกลับมาแล้ว! ฉันจะให้เขาอธิบายกับเธอเอง!” เสิ่นอวี๋นั่งอยู่ที่โซฟา ไม่ได้ลุกขึ้น หัวใจของเธอแตกสลายเพราะเขาไปแล้ว! เขาบอกเธอว่าคนที่เขารักคือฉินอันอันในวันที่พวกเขาหมั้นกันได้ยังไง? เขาไม่เพียงไม่รักเธอ แต่ยังไม่ให้เกียรติเธอด้วย นี่ยังมีความจริงที่ว่าเธอเป็นหมอของอิ๋นอิ๋น ทำการผ่าตัดให้อิ๋นอิ๋นถึงสองครั้ง ถ้าหากไม่มีสถานะในระดับนั้น น่ากลัวว่าเขาคงไม่มีเธออยู่ในสายตายิ่งกว่านี้ ฟู่สือถิงลงจากรถและก้าวเท้าไปที่ห้องนั่งเล่น “แม่ครับ” เขาพูดกับแม่ “สือถิง ลูกไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” แม่เฒ่าฟู่จับแขนลูกชาย สำรวจเขาไปทั่วทั้งตัว“ผมไม่เป็นไรครับ” เขาประคองแม่เข้าไปในบ้าน จากนั้นก็มองไปที่เสิ่นอวี๋ที่มีสีหน้าเย็นชา “พวกลูกคุยกันตามลำพังเถอะ!” แม่เฒ่าฟู่เอ่ย “สือถิง ไม่ว่ายังไง เสิ่นอวี๋ก็มีบุญคุณกับพวกเรา ลูกต้องอธิบายกับเธอนะ”
ที่สตาร์ริเวอร์วิลล่า ฉินอันอันออกมาจากห้องน้ำหลังจากอาบน้ำแล้ว เมื่อเห็นโทรศัพท์ดัง เธอจึงเดินไปรับสายทันที “พี่เว่ย” “อันอัน ทำไมตอนเช้าเธอถึงปิดโทรศัพท์ล่ะ?” เว่ยเจินโทรหาเธอหลายครั้งและเพิ่งจะโทรติดเอาตอนนี้ “โทรศัพท์ฉันแบตหมด เพิ่งชาร์จค่ะ” ฉินอันอันอธิบายอย่างร้อนตัว “พี่อยากจะพูดกับฉันเรื่องจิ้นซือเหนียนใช่หรือเปล่า?” “อืม ซือเหนียนกลัวว่าเธอจะโกรธ” “ฉันไม่โกรธหรอกค่ะ” ฉินอันอันกล่าว “เพียงแค่คิดว่าเรื่องนี้รบกวนเขามากเกินไป ไว้ฉันจะโทรหาเขาค่ะ” “ได้เลย” เว่ยเจินถอนใจโล่งอก “เช้านี้ติดต่อเธอไม่ได้ ฉันเกือบไปตามหาเธอที่บ้านแล้ว ฉันโทรหาไมค์ เขาบอกว่าเธอไม่อยู่บ้าน…เธอไปที่ไหนมาเหรอ?” ฉินอันอันติดอยู่กับคำถามนี้ หลังจากนั้นไม่นานเธอก็พบข้อแก้ตัว “ฉันออกไปวิ่งจ๊อกกิ้งข้างนอกค่ะ” “อื้ม…การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งจำเป็นจริง ๆ บริษัทของเธอกำลังประสบปัญหา ครั้งนี้ก็น่าจะแก้ไขได้แล้วใช่ไหม? ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอจะต้องปรับทัศนคติของตัวเอง ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าร่างกายที่แข็งแรงนะ” เว่ยเจินพูดปลอบโยน “อื้ม! พี่เว่ย ขอบคุณค่ะ! ไว้วันหลังฉันจะเลี้ยงข้าวพี่นะคะ”
จิ้นซือเหนียน “ไม่เป็นไรหรอกครับ ถึงเขาจะหาผมเจอ ผมก็จะไม่พูดชื่อคุณ คุณวางใจได้!” “อื้ม คุณทำกายภาพบำบัดเยอะ ๆ นะคะ ฉันจะรอคุณกลับไปยืนบนเวทีอีกครั้ง” “ผมจะพยายามให้เต็มที่ครับ!” ......ตอนเย็น วิลล่าบนไหล่เขาของจิ้นซือเหนียนได้ต้อนรับแขกที่ไม่ได้รับเชิญท่านหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าฟู่สือถิงจะค้นพบที่นี่อย่างรวดเร็วขนาดนี้ ยังมีผู้หญิงอีกคนมากับฟู่สือถิงด้วย “คุณซือเหนียน สวัสดีครับ ขออภัยที่ถือวิสาสะมาหาคุณ” ฟู่สือถิงพูดอย่างสุภาพ “ผมตามหาคุณมานานแล้ว ถ้าวันนี้คุณไม่โพสต์เว่ยปั๋ว เกรงว่าผมคงต้องตามคุณอีกนาน” ใบหน้าจิ้นซือเหนียนไม่แสดงอารมณ์มากนัก เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงสุภาพเช่นกัน “ไม่ทราบว่าคุณฟู่มาหาผมด้วยเรื่องอะไรครับ?” ฟู่สือถิงเหลือบมองอิ๋นอิ๋น จากนั้นพูดว่า “อิ๋นอิ๋น เห็นไหมตรงนั้นมีแมวอยู่ เธอไปเล่นกับมันสิ” อิ๋นอิ๋นไปตามหาแมวพร้อมกับบอดี้การ์ด ฟู่สือถิงถอนสายตาจากอิ๋นอิ๋นแล้วจับจ้องใบหน้าของจิ้นซือเหนียน “เธอคือน้องสาวของผม เธอบกพร่องทางสติปัญญามาตั้งแต่เกิด” จิ้นซือเหนียนตกตะลึง “น้องสาวของผมน่ารักมาก จิตใจยังดีมากอีกด้วย” ดวงตาของฟู่สือถิงเปียกชื้นเล็กน
‘เคยมีความจริงจากปากของเธอบ้างไหม?’ ‘เธอระแวงเขา หรือเธอเห็นเขาเป็นศัตรูกันแน่?’ ‘ถ้าระแวง ทำไมถึงต้องระแวงล่ะ?’ ‘เธอกลัวอะไร?’ ‘ถ้าเห็นเขาเป็นศัตรู งั้นก็ยิ่งเข้าใจยากขึ้นไปอีก!’ ‘เขาไม่เคยทำอะไรให้เธอเสียใจ! ทำไมเธอถึงเห็นเขาเป็นศัตรูล่ะ?’ ระหว่างทางกลับบ้าน เขาขมวดคิ้วแน่น หลังจากถึงบ้าน ป้าหงก็พาอิ๋นอิ๋นไปพักผ่อน หลังจากที่ฟู่สือถิงรับโทรศัพท์ เขาก็ขับรถออกไป ที่ไนท์บาร์สุดหรู เมื่อเซิ่งเป่ยเห็นฟู่สือถิงกำลังมา จึงจูงเขาไปนั่งที่โซฟาทันที “สือถิง วันนี้ไม่เจอนายทั้งวันเลยนะ หายไปไหนมา?” เซิ่งเป่ยหยิบแก้วไวน์มาแล้วเติมไวน์ให้เขา “ฉันไปหาจิ้นซือเหนียนมา” เขาหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาจิบ “พวกนายคงเดาไม่ออกแน่ว่าใครเป็นคนผ่าตัดให้เขา” ทุกคนมองไปที่ฟู่สือถิง และรอคำพูดต่อไปของเขา แต่เขาไม่ได้พูดรายละเอียดอะไรออกมาอีก “ฉันแย่กับฉินอันอันมากใช่ไหม?” เขาขมวดคิ้วและดื่มไวน์จนหมดแก้ว “เธอเป็นคนยื่นข้อเสนอหย่า ไม่ว่าฉันจะพยายามเกลี้ยกล่อมให้เธออยู่ต่อยังไง เธอก็ยังยืนกรานที่จะเลิกกับฉัน หลังจากหย่า เธอสร้างบริษัทของเธอขึ้นมาใหม่ ส่วนฉันก็ใช้ชีวิตของฉัน พอฉันเห็นเธอลำบาก