ฉินอันอันพยักหน้า ขณะที่เธอกำลังหันหลังกลับเข้าไปในพระราชวังหิมะซึ่งอยู่ไม่ไกล ร่างของเสินอวี๋ก็ซวนเซและกำลังจะล้มลง ฟู่สือถิงตอบสนองอย่างรวดเร็วพลันโอบเธอขึ้นมาทันที! เมื่อฉินอันอันเห็นฉากนี้ ขนตายาวของเธอก็สั่นเล็กน้อย บรรยากาศรอบ ๆ และเวลาราวกับหยุดนิ่งไป “หมอเสิ่น คุณเป็นอะไรไป?” ฟู่สือถิงพยุงเสิ่นอวี๋ด้วยสายตาวิตกกังวล เสิ่นอวี๋เห็นท่าทางกังวลของเขา จึงอมยิ้ม “สือถิง ฉันขอโทษ! เมื่อคืนพอฉันคิดว่าจะออกไปเที่ยวกับคุณ ฉันมีความสุขมากจนนอนไม่หลับ ฉันแค่รู้สึกเวียนหัวนิดหน่อยค่ะ...ไม่ได้เป็นไรมาก” ฟู่สือถิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก จะมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอไม่ได้! เขายังรอให้เธอรักษาอิ๋นอิ๋นอยู่! “เรากลับกันเถอะ!” เขาพยุงเสิ่นอวี๋เดินไปที่ลานจอดรถ ฉินอันอันยังคงสติหลุดจนกว่าพวกเขาจะจากไปไกล หลังจากที่พนักงานไปปรึกษาหัวหน้ามา เขาก็บอกฉินอันอัน “สวัสดีครับคุณผู้หญิง หัวหน้าของผมตกลงตามข้อเสนอของคุณครับ แต่ต้องรบกวนคุณทิ้งข้อมูลไว้ ถ้าคุณฟู่สอบถามเรื่องนี้ภายหลัง ทางเราจะได้อธิบายเขาได้ครับ” ฉินอันอันกลับมารู้สึกตัว พนักงานยื่นแผ่นรองและปากกาให้เธอ “รบกวนคุณผู้หญ
เอี๊ยด! ฉินอันอันเบรกรถและจอดข้างถนนกะทันหัน! รถชน? เสียชีวิต?! มีเสียงดังก้องอยู่ในหัวของเธอ! แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาไม่หยุด! “แม่! จอดรถทำไมคะ?!” รุ่ยลาตะโกน เสี่ยวหานพูดด้วยน้ำเสียงประหม่า “แม่ร้องไห้ทำไมครับ?” “แม่เป็นอะไรไป? อย่าร้องไห้นะคะ!” รุ่ยลาพูดติดอ่างและเธอก็เริ่มร้องไห้ออกมา ฉินอันอันสูดลมหายใจลึก เมื่อได้ยินเสียงของเด็กสองคน เธอปาดน้ำตาด้วยมือทั้งสองข้างและพูดเบา ๆ ว่า “แม่จะพาลูกไปส่งที่บ้านก่อน ลูกสองคนอยู่บ้านไปก่อนนะ แม่มีเรื่องต้องจัดการ” รถกลับมาอยู่บนถนน รุ่ยลากับเสี่ยวหานยังคงกังวลมาก “แม่เกิดอะไรขึ้น? ทำไมแม่ถึงเสียใจขนาดนี้?” ฉินอันอันสูดหายใจเข้าลึก ๆ และปกปิด “เกิดเรื่องกับเพื่อนของแม่คนหนึ่ง...ลูกกลับบ้านและต้องเชื่อฟังแม่นะ แม่อาจจะกลับไม่ดึกมาก ถ้าลุงไมค์ไม่อยู่บ้าน แม่จะโทรให้เขากลับมาดูแลลูก” “ค่ะ...แม่อย่าร้องไห้นะ! เพื่อนของแม่จะต้องไม่เป็นไร!” รุ่ยลาปลอบใจ “แม่อย่าร้องไห้นะ!” เสี่ยวหานปลอบ ฉินอันอันตอบเบา ๆ รถขับไปที่คฤหาสน์สตาร์ริเวอร์ ไมค์กับโจวจื่ออี้อยู่ที่บ้านและกำลังเพลิดเพลินกับอาหารเย็น ฉินอันอันเปิดประตูแล้วบ
ใต้โคมไฟถนน เธอมองใบหน้าของแม่ที่เปื้อนเลือด เธอยกนิ้วขึ้นอย่างสั่นเทา แล้วเอานิ้วไปวางไว้ใต้จมูกแม่... ลมกระโชกแรงพัดผ่านไป ทันใดนั้นเธอก็ร้องออกมา “แม่! หนูรู้ว่าแม่ยังไม่ตาย! แม่สัญญาว่าจะอยู่กับหนูตลอดไปนี่! หนูจะพาแม่ไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้! แม่ไม่ต้องกลัวนะ! หนูจะอยู่กับแม่เอง! หนูจะอยู่กับแม่ตลอดไป!” ...... หลังจากที่โจวจื่ออี้รู้ว่าจางหยุนประสบอุบัติเหตุ เขาก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงโทรหาฟู่สือถิง ตราบใดที่ฉินอันอันมีคนอยู่เคียงข้าง โจวจื่ออี้ก็จะไม่รบกวนเขา “ประธานครับ ช่วงเย็นแม่ของฉินอันอันประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิต ณ ที่เกิดเหตุ แต่เธอรับไม่ได้ เธอจึงส่งแม่ไปโรงพยาบาล… ตอนนี้ไมค์กำลังดูแลลูกอยู่ที่บ้านและเธอต้องจัดการทุกอย่างเพียงลำพัง ผมคิดว่าเธอคงลำบาก ไม่อย่างนั้น…” “โรงพยาบาลไหน?” ลูกกระเดือกของฟู่สือถิงขยับ เสียงของเขาเป็นกังวล “ตอนนี้เธออยู่โรงพยาบาลไหน?!” การแสดงออกที่น่ากลัวของเขาและน้ำเสียงที่สูงขึ้นทำให้อิ๋นอิ๋นถอยกลับด้วยความตกใจ เสิ่นอวี๋ไม่เคยเห็นฟู่สือถิงเป็นแบบนี้ ความห่วงใยและความเสียใจในใจของเขาทั้งหมดผุดขึ้นมา ไม่รู้ว่าปลายสายเป็นใ
เขานอนกับเสิ่นอวี๋แค่ครั้งเดียว แค่ครั้งเดียวก็ทำให้เธอท้องได้เลยเหรอ? ฝ่ามือใหญ่ที่มือจับประตูห้องผ่าตัดหลุดออกทันที โจวจื่ออี้เฝ้าดูการแสดงออกบนใบหน้าของเขา ในใจก็เต้นแรงขึ้น ‘เกิดอะไรขึ้น?’ ‘เขาจะไม่เข้าไปหาฉินอันอันเหรอ?’ “จื่ออี้ นายอยู่ที่นี่นะ” ฟู่สือถิงพูดอย่างยากลำบาก “ฉันจะกลับบ้านสักหน่อย” โจวจื่ออี้พยักหน้า ไม่กล้าถามต่อ หลังจากที่ฟู่สือถิงออกไปแล้ว โจวจื่ออี้ก็เปิดประตูห้องผ่าตัดและมองเข้าไปข้างใน ฉินอันอันถอดเสื้อคลุมของเธอออกแล้วคลุมให้จางหยุน ร่างผอมเพรียวของเธอนั่งอยู่ ๆ ข้างอย่างอ่อนแรง สองมือจับมือของจางหยุนไว้แน่นพลางร้องไห้และคร่ำครวญ โจวจื่ออี้มองไปที่ฉากตรงหน้า ดวงตาของเขาก็เปียกชื้นโดยไม่รู้ตัว หลังจากปิดประตูห้องผ่าตัด เขาก็เปิดโทรศัพท์มือถือและกดโทรหาเว่ยเจิน หลังจากแจ้งเว่ยเจินแล้ว เขาก็ขับรถออกจากโรงพยาบาลและมุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์สตาร์ริเวอร์ เขาไม่สามารถช่วยฉินอันอันที่โรงพยาบาลได้ เขาจึงอยากขอแลกหน้าที่กับไมค์ เขากลับมาดูแลลูกทั้งสองคนของเธอ และปล่อยให้ไมค์ไปดูแลฉินอันอันแทน เมื่อมาถึงคฤหาสน์ เด็กทั้งสองคนก็ผล็อยหลับไปแล้ว ห
เขาถอดเสื้อคลุมออกแล้วสวมให้เธอทันที “นายกลับไปเถอะ!” ดวงตาของฉินอันอันเต็มไปด้วยน้ำตา แต่เสียงของเธอกลับเย็นชา “นายกล้าดียังไงถึงปล่อยลูกให้อยู่กับคนนอก?!” แม่จากไปแล้ว เธอจะปล่อยให้อะไรเกิดขึ้นกับลูกทั้งสองคนไม่ได้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับลูกอีก เธอคงอยู่ไม่ได้ ไมค์มองดูท่าทางเศร้าและโกรธของเธอแล้วก็สับสน “ฉันจะกลับเดี๋ยวนี้แหละ อย่าร้องไห้นะ!” ไมค์เอื้อมมือไปปาดน้ำตาบนใบหน้า “ฉันจะไม่พาเขามาที่บ้านอีก! อย่าร้องไห้!” ไมค์พูดจบก็จากไปอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันที่โรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่ง ฟู่สือถิงเปิดประตูห้องผู้ป่วย เมื่อเสิ่นอวี๋ที่นอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลเห็นหน้าของเขา เธอก็รีบบีบน้ำตาออกมาทันที แม่เฒ่าฟู่เดินไปที่ประตูแล้วลากเขาเข้าไป “สือถิง ทำไมพวกเธอสองคนถึงได้ประมาทขนาดนี้? เด็กโตขนาดนี้แล้ว เธอสองคนยังไม่รู้ด้วยซ้ำ” แม้ว่าน้ำเสียงของแม่เฒ่าฟู่จะตำหนิ แต่ใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความสุข “หมอเพิ่งตรวจเสินอวี๋ แม่และเด็กปลอดภัยดี” ‘แม่และเด็กปลอดภัย?’ เสิ่นอวี๋กำลังตั้งครรภ์ลูกของเขา? ‘ไร้สาระจริง ๆ!’ “สือถิง ฉันขอโทษ! ฉันไม่รู้ว่าฉันท้อง...มดลูกของฉันเย็น ปร
คฤหาสน์สตาร์ริเวอร์ หลังอาหารเช้า ไมค์เล่าเรื่องการตายของจางหยุนให้เด็กทั้งสองคนฟัง “ลุงรู้ว่าพวกเธอจะต้องเสียใจมาก ลุงเองก็เสียใจเหมือนกัน แต่คุณยายของพวกเธอจากไปไม่กลับมาแล้ว และลุงหวังว่าเธอจะเข้มแข็ง เพราะตอนนี้แม่ของเธอเสียใจมาก ถ้าพวกเธออ่อนแอ แม่ก็จะยิ่งเสียใจ” ไมค์กอดเด็ก ๆ ไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง หลังจากพูดจบ เขาก็จูบที่หัวเด็ก ๆ ทั้งสองคน รุ่ยลาทำใจไม่ได้ เธอน้ำตาไหล ปากเล็ก ๆ ของเธอขยับไม่หยุด เธอพูดเสียงแผ่วเบา “หนูต้องการคุณยาย...หนูจะไปหาคุณยาย...ฮือฮือฮือ...” ดวงตาของเสี่ยวหานก็ชื้นเช่นกัน แต่เขาเข้มแข็งมาก เขาไม่เพียงแค่ไม่ร้องไห้เท่านั้น เขายังกอดน้องสาวแล้วพูดว่า “รุ่ยลาอย่าร้องไห้ พี่จะอยู่กับเธอเอง” “หนูไม่อยากเสียคุณยายไป...ถ้าไม่มีคุณยายเราจะทำยังไง?” รุ่ยลารู้สึกเหมือนฟ้ากำลังจะถล่ม ทุก ๆ วัน คุณยายของเธอจะพาเธอไปส่งโรงเรียน ทำอาหารอร่อย ๆ และพาพวกเขาออกไปเที่ยวเล่น “รุ่ยลา ไม่ต้องกลัว ถึงไม่มีคุณยายเราก็อยู่ได้สบายมาก...เดี๋ยวแม่ก็กลับมา อย่าร้องไห้ให้แม่เห็นได้ไหม?” ไมค์เกลี้ยกล่อม “ไว้ลุงจะพาไปเที่ยว พาไปกินของอร่อย ๆ กัน...” “หนูต้องการคุณยา
“ผมจะเพิ่มกำลังคนส่งไปเฝ้าที่โรงพยาบาลยี่สิบสี่ชั่วโมงทันทีครับ” ผู้บัญชาการพูดแล้วเปลี่ยนเรื่อง “ได้ยินว่าแฟนของคุณตั้งครรภ์แล้ว ยินดีด้วยนะครับ!” “ผมไม่ชอบเด็ก” ฟู่สือถิงสีหน้าบึ้งตึงเป็นอย่างมากและน้ำเสียงเขาเย็นลงเช่นกัน “ถ้ามีคดีนี้ความคืบหน้า แจ้งให้ผมทราบทันที” ผู้บัญชาการพยักหน้า “ได้ครับ คุณฉินเป็นอย่างไรบ้าง? เมื่อวานอาการของเธอไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าวันนี้เธอเป็นยังไง?” ดวงตาฟู่สือถิงมืดลงกะทันหัน ริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้นตรงเขาลุกขึ้นจากโซฟา ก้าวเท้ายาวเดินออกไป เขาไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้ เมื่อคืนนี้เขาเดินไปถึงด้านนอกประตูห้องผ่าตัด แต่เพราะโทรศัพท์จากแม่ของเขา สุดท้ายจึงไม่ได้ผลักประตูบานนั้นเข้าไปเรื่องที่เสิ่นอวี๋ตั้งท้อง มันกลายเป็นอุปสรรคในใจเขา ไม่ต้องพูดถึงฉินอันอันหรอก แม้แต่กับตัวเอง เขาก็ไม่อาจสู้หน้าตัวเองได้ในห้องผู้ป่วย ฉินอันอันค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาหลังจากหลับไปช่วงบ่าย ก่อนที่ความโศกเศร้าจะเข้าทะลวงเข้ามาในใจ เสียงของเสี่ยวหานก็ดังลอดมาก่อน “แม่ครับ ต่อจากนี้แม่อยากให้ผมเรียนที่ไหน ผมก็จะไปเรียนที่นั่นครับ” จากนั้นเสียงนิ่มนวลและ
เวลาเจ็ดโมงเช้า รถโรลส์รอยซ์สีดำค่อย ๆ ขับเข้ามาที่ลานหน้าบ้านช้า ๆ ป้าจางไม่ได้นอนทั้งคืน เมื่อเห็นฟู่สือถิงกลับมา เธอก็เดินมาที่ปากประตูห้องนั่งเล่นทันที หลังจากเธอบอกความจริงกับอิ๋นอิ๋นเมื่อคืนนี้ อารมณ์ของอิ๋นอิ๋นได้รับการกระตุ้นไม่น้อย ป้าจางโทษตัวเองอย่างมาก คำพูดที่พูดออกไปแล้ว เหมือนน้ำที่สาดออกไป ไม่มีทางเอากลับคืนมาได้ ฟู่สือถิงที่มีพลังงานเย็นยะเยือกเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น “คุณผู้ชายคะ ดินฉันทำเรื่องที่ผิดพลาดใหญ่หลวงไปแล้ว ได้โปรดลงโทษดิฉันด้วย” ป้าจางตามหลังฟู่สือถิงมา ฟู่สือถิงชะงักเท้า ดวงตาสีแดงก่ำหันไปมองทางป้าจาง “เมื่อคืนดิฉันบอกเรื่องที่คุณหมอเสิ่นข่มขู่คุณกับอิ๋นอิ๋นค่ะ ดังนั้นอิ๋นอิ๋นเลยไม่ยอมรับการรักษาแล้ว” ป้าจางก้มหน้าลง “ทั้งหมดเป็นความผิดของดิฉัน ดิฉันไม่ควรพูดมากเลย!” “ทำไมป้าจางถึงบอกเรื่องพวกนี้กับเธอ?” ฟู่สือถิงขมวดคิ้ว ท่าทางดูน่ากลัว “เธอบอกว่าอยากให้คุณอยู่กับอันอัน ดังนั้นดิฉันก็เลยอดที่จะบอกความจริงกับเธอไม่ได้ค่ะ” ป้าจางพูดเสียงแหบพร่า “คุณไล่ดิฉันออกเถอะค่ะ! ดิฉันแก่แล้วถึงได้เลอะเลือน ไม่เหมาะสมจะรับใช้คุณอีกต่อไป” ฟู่ส