เอี๊ยด! ฉินอันอันเบรกรถและจอดข้างถนนกะทันหัน! รถชน? เสียชีวิต?! มีเสียงดังก้องอยู่ในหัวของเธอ! แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาไม่หยุด! “แม่! จอดรถทำไมคะ?!” รุ่ยลาตะโกน เสี่ยวหานพูดด้วยน้ำเสียงประหม่า “แม่ร้องไห้ทำไมครับ?” “แม่เป็นอะไรไป? อย่าร้องไห้นะคะ!” รุ่ยลาพูดติดอ่างและเธอก็เริ่มร้องไห้ออกมา ฉินอันอันสูดลมหายใจลึก เมื่อได้ยินเสียงของเด็กสองคน เธอปาดน้ำตาด้วยมือทั้งสองข้างและพูดเบา ๆ ว่า “แม่จะพาลูกไปส่งที่บ้านก่อน ลูกสองคนอยู่บ้านไปก่อนนะ แม่มีเรื่องต้องจัดการ” รถกลับมาอยู่บนถนน รุ่ยลากับเสี่ยวหานยังคงกังวลมาก “แม่เกิดอะไรขึ้น? ทำไมแม่ถึงเสียใจขนาดนี้?” ฉินอันอันสูดหายใจเข้าลึก ๆ และปกปิด “เกิดเรื่องกับเพื่อนของแม่คนหนึ่ง...ลูกกลับบ้านและต้องเชื่อฟังแม่นะ แม่อาจจะกลับไม่ดึกมาก ถ้าลุงไมค์ไม่อยู่บ้าน แม่จะโทรให้เขากลับมาดูแลลูก” “ค่ะ...แม่อย่าร้องไห้นะ! เพื่อนของแม่จะต้องไม่เป็นไร!” รุ่ยลาปลอบใจ “แม่อย่าร้องไห้นะ!” เสี่ยวหานปลอบ ฉินอันอันตอบเบา ๆ รถขับไปที่คฤหาสน์สตาร์ริเวอร์ ไมค์กับโจวจื่ออี้อยู่ที่บ้านและกำลังเพลิดเพลินกับอาหารเย็น ฉินอันอันเปิดประตูแล้วบ
ใต้โคมไฟถนน เธอมองใบหน้าของแม่ที่เปื้อนเลือด เธอยกนิ้วขึ้นอย่างสั่นเทา แล้วเอานิ้วไปวางไว้ใต้จมูกแม่... ลมกระโชกแรงพัดผ่านไป ทันใดนั้นเธอก็ร้องออกมา “แม่! หนูรู้ว่าแม่ยังไม่ตาย! แม่สัญญาว่าจะอยู่กับหนูตลอดไปนี่! หนูจะพาแม่ไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้! แม่ไม่ต้องกลัวนะ! หนูจะอยู่กับแม่เอง! หนูจะอยู่กับแม่ตลอดไป!” ...... หลังจากที่โจวจื่ออี้รู้ว่าจางหยุนประสบอุบัติเหตุ เขาก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงโทรหาฟู่สือถิง ตราบใดที่ฉินอันอันมีคนอยู่เคียงข้าง โจวจื่ออี้ก็จะไม่รบกวนเขา “ประธานครับ ช่วงเย็นแม่ของฉินอันอันประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิต ณ ที่เกิดเหตุ แต่เธอรับไม่ได้ เธอจึงส่งแม่ไปโรงพยาบาล… ตอนนี้ไมค์กำลังดูแลลูกอยู่ที่บ้านและเธอต้องจัดการทุกอย่างเพียงลำพัง ผมคิดว่าเธอคงลำบาก ไม่อย่างนั้น…” “โรงพยาบาลไหน?” ลูกกระเดือกของฟู่สือถิงขยับ เสียงของเขาเป็นกังวล “ตอนนี้เธออยู่โรงพยาบาลไหน?!” การแสดงออกที่น่ากลัวของเขาและน้ำเสียงที่สูงขึ้นทำให้อิ๋นอิ๋นถอยกลับด้วยความตกใจ เสิ่นอวี๋ไม่เคยเห็นฟู่สือถิงเป็นแบบนี้ ความห่วงใยและความเสียใจในใจของเขาทั้งหมดผุดขึ้นมา ไม่รู้ว่าปลายสายเป็นใ
เขานอนกับเสิ่นอวี๋แค่ครั้งเดียว แค่ครั้งเดียวก็ทำให้เธอท้องได้เลยเหรอ? ฝ่ามือใหญ่ที่มือจับประตูห้องผ่าตัดหลุดออกทันที โจวจื่ออี้เฝ้าดูการแสดงออกบนใบหน้าของเขา ในใจก็เต้นแรงขึ้น ‘เกิดอะไรขึ้น?’ ‘เขาจะไม่เข้าไปหาฉินอันอันเหรอ?’ “จื่ออี้ นายอยู่ที่นี่นะ” ฟู่สือถิงพูดอย่างยากลำบาก “ฉันจะกลับบ้านสักหน่อย” โจวจื่ออี้พยักหน้า ไม่กล้าถามต่อ หลังจากที่ฟู่สือถิงออกไปแล้ว โจวจื่ออี้ก็เปิดประตูห้องผ่าตัดและมองเข้าไปข้างใน ฉินอันอันถอดเสื้อคลุมของเธอออกแล้วคลุมให้จางหยุน ร่างผอมเพรียวของเธอนั่งอยู่ ๆ ข้างอย่างอ่อนแรง สองมือจับมือของจางหยุนไว้แน่นพลางร้องไห้และคร่ำครวญ โจวจื่ออี้มองไปที่ฉากตรงหน้า ดวงตาของเขาก็เปียกชื้นโดยไม่รู้ตัว หลังจากปิดประตูห้องผ่าตัด เขาก็เปิดโทรศัพท์มือถือและกดโทรหาเว่ยเจิน หลังจากแจ้งเว่ยเจินแล้ว เขาก็ขับรถออกจากโรงพยาบาลและมุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์สตาร์ริเวอร์ เขาไม่สามารถช่วยฉินอันอันที่โรงพยาบาลได้ เขาจึงอยากขอแลกหน้าที่กับไมค์ เขากลับมาดูแลลูกทั้งสองคนของเธอ และปล่อยให้ไมค์ไปดูแลฉินอันอันแทน เมื่อมาถึงคฤหาสน์ เด็กทั้งสองคนก็ผล็อยหลับไปแล้ว ห
เขาถอดเสื้อคลุมออกแล้วสวมให้เธอทันที “นายกลับไปเถอะ!” ดวงตาของฉินอันอันเต็มไปด้วยน้ำตา แต่เสียงของเธอกลับเย็นชา “นายกล้าดียังไงถึงปล่อยลูกให้อยู่กับคนนอก?!” แม่จากไปแล้ว เธอจะปล่อยให้อะไรเกิดขึ้นกับลูกทั้งสองคนไม่ได้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับลูกอีก เธอคงอยู่ไม่ได้ ไมค์มองดูท่าทางเศร้าและโกรธของเธอแล้วก็สับสน “ฉันจะกลับเดี๋ยวนี้แหละ อย่าร้องไห้นะ!” ไมค์เอื้อมมือไปปาดน้ำตาบนใบหน้า “ฉันจะไม่พาเขามาที่บ้านอีก! อย่าร้องไห้!” ไมค์พูดจบก็จากไปอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันที่โรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่ง ฟู่สือถิงเปิดประตูห้องผู้ป่วย เมื่อเสิ่นอวี๋ที่นอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลเห็นหน้าของเขา เธอก็รีบบีบน้ำตาออกมาทันที แม่เฒ่าฟู่เดินไปที่ประตูแล้วลากเขาเข้าไป “สือถิง ทำไมพวกเธอสองคนถึงได้ประมาทขนาดนี้? เด็กโตขนาดนี้แล้ว เธอสองคนยังไม่รู้ด้วยซ้ำ” แม้ว่าน้ำเสียงของแม่เฒ่าฟู่จะตำหนิ แต่ใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความสุข “หมอเพิ่งตรวจเสินอวี๋ แม่และเด็กปลอดภัยดี” ‘แม่และเด็กปลอดภัย?’ เสิ่นอวี๋กำลังตั้งครรภ์ลูกของเขา? ‘ไร้สาระจริง ๆ!’ “สือถิง ฉันขอโทษ! ฉันไม่รู้ว่าฉันท้อง...มดลูกของฉันเย็น ปร
คฤหาสน์สตาร์ริเวอร์ หลังอาหารเช้า ไมค์เล่าเรื่องการตายของจางหยุนให้เด็กทั้งสองคนฟัง “ลุงรู้ว่าพวกเธอจะต้องเสียใจมาก ลุงเองก็เสียใจเหมือนกัน แต่คุณยายของพวกเธอจากไปไม่กลับมาแล้ว และลุงหวังว่าเธอจะเข้มแข็ง เพราะตอนนี้แม่ของเธอเสียใจมาก ถ้าพวกเธออ่อนแอ แม่ก็จะยิ่งเสียใจ” ไมค์กอดเด็ก ๆ ไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง หลังจากพูดจบ เขาก็จูบที่หัวเด็ก ๆ ทั้งสองคน รุ่ยลาทำใจไม่ได้ เธอน้ำตาไหล ปากเล็ก ๆ ของเธอขยับไม่หยุด เธอพูดเสียงแผ่วเบา “หนูต้องการคุณยาย...หนูจะไปหาคุณยาย...ฮือฮือฮือ...” ดวงตาของเสี่ยวหานก็ชื้นเช่นกัน แต่เขาเข้มแข็งมาก เขาไม่เพียงแค่ไม่ร้องไห้เท่านั้น เขายังกอดน้องสาวแล้วพูดว่า “รุ่ยลาอย่าร้องไห้ พี่จะอยู่กับเธอเอง” “หนูไม่อยากเสียคุณยายไป...ถ้าไม่มีคุณยายเราจะทำยังไง?” รุ่ยลารู้สึกเหมือนฟ้ากำลังจะถล่ม ทุก ๆ วัน คุณยายของเธอจะพาเธอไปส่งโรงเรียน ทำอาหารอร่อย ๆ และพาพวกเขาออกไปเที่ยวเล่น “รุ่ยลา ไม่ต้องกลัว ถึงไม่มีคุณยายเราก็อยู่ได้สบายมาก...เดี๋ยวแม่ก็กลับมา อย่าร้องไห้ให้แม่เห็นได้ไหม?” ไมค์เกลี้ยกล่อม “ไว้ลุงจะพาไปเที่ยว พาไปกินของอร่อย ๆ กัน...” “หนูต้องการคุณยา
“ผมจะเพิ่มกำลังคนส่งไปเฝ้าที่โรงพยาบาลยี่สิบสี่ชั่วโมงทันทีครับ” ผู้บัญชาการพูดแล้วเปลี่ยนเรื่อง “ได้ยินว่าแฟนของคุณตั้งครรภ์แล้ว ยินดีด้วยนะครับ!” “ผมไม่ชอบเด็ก” ฟู่สือถิงสีหน้าบึ้งตึงเป็นอย่างมากและน้ำเสียงเขาเย็นลงเช่นกัน “ถ้ามีคดีนี้ความคืบหน้า แจ้งให้ผมทราบทันที” ผู้บัญชาการพยักหน้า “ได้ครับ คุณฉินเป็นอย่างไรบ้าง? เมื่อวานอาการของเธอไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าวันนี้เธอเป็นยังไง?” ดวงตาฟู่สือถิงมืดลงกะทันหัน ริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้นตรงเขาลุกขึ้นจากโซฟา ก้าวเท้ายาวเดินออกไป เขาไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้ เมื่อคืนนี้เขาเดินไปถึงด้านนอกประตูห้องผ่าตัด แต่เพราะโทรศัพท์จากแม่ของเขา สุดท้ายจึงไม่ได้ผลักประตูบานนั้นเข้าไปเรื่องที่เสิ่นอวี๋ตั้งท้อง มันกลายเป็นอุปสรรคในใจเขา ไม่ต้องพูดถึงฉินอันอันหรอก แม้แต่กับตัวเอง เขาก็ไม่อาจสู้หน้าตัวเองได้ในห้องผู้ป่วย ฉินอันอันค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาหลังจากหลับไปช่วงบ่าย ก่อนที่ความโศกเศร้าจะเข้าทะลวงเข้ามาในใจ เสียงของเสี่ยวหานก็ดังลอดมาก่อน “แม่ครับ ต่อจากนี้แม่อยากให้ผมเรียนที่ไหน ผมก็จะไปเรียนที่นั่นครับ” จากนั้นเสียงนิ่มนวลและ
เวลาเจ็ดโมงเช้า รถโรลส์รอยซ์สีดำค่อย ๆ ขับเข้ามาที่ลานหน้าบ้านช้า ๆ ป้าจางไม่ได้นอนทั้งคืน เมื่อเห็นฟู่สือถิงกลับมา เธอก็เดินมาที่ปากประตูห้องนั่งเล่นทันที หลังจากเธอบอกความจริงกับอิ๋นอิ๋นเมื่อคืนนี้ อารมณ์ของอิ๋นอิ๋นได้รับการกระตุ้นไม่น้อย ป้าจางโทษตัวเองอย่างมาก คำพูดที่พูดออกไปแล้ว เหมือนน้ำที่สาดออกไป ไม่มีทางเอากลับคืนมาได้ ฟู่สือถิงที่มีพลังงานเย็นยะเยือกเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น “คุณผู้ชายคะ ดินฉันทำเรื่องที่ผิดพลาดใหญ่หลวงไปแล้ว ได้โปรดลงโทษดิฉันด้วย” ป้าจางตามหลังฟู่สือถิงมา ฟู่สือถิงชะงักเท้า ดวงตาสีแดงก่ำหันไปมองทางป้าจาง “เมื่อคืนดิฉันบอกเรื่องที่คุณหมอเสิ่นข่มขู่คุณกับอิ๋นอิ๋นค่ะ ดังนั้นอิ๋นอิ๋นเลยไม่ยอมรับการรักษาแล้ว” ป้าจางก้มหน้าลง “ทั้งหมดเป็นความผิดของดิฉัน ดิฉันไม่ควรพูดมากเลย!” “ทำไมป้าจางถึงบอกเรื่องพวกนี้กับเธอ?” ฟู่สือถิงขมวดคิ้ว ท่าทางดูน่ากลัว “เธอบอกว่าอยากให้คุณอยู่กับอันอัน ดังนั้นดิฉันก็เลยอดที่จะบอกความจริงกับเธอไม่ได้ค่ะ” ป้าจางพูดเสียงแหบพร่า “คุณไล่ดิฉันออกเถอะค่ะ! ดิฉันแก่แล้วถึงได้เลอะเลือน ไม่เหมาะสมจะรับใช้คุณอีกต่อไป” ฟู่ส
ฉินอันอันเดินออกมาจากห้อง เมื่อเห็นเธอเดินออกมา ไมค์รู้สึกราวกับเห็นผี เธอไม่เจอแสงแดดมาหลายวัน ใบหน้าของเธอจึงซีดเซียวและหมองเศร้ามาก บวกกับไม่ได้กินอะไรเลยจึงผ่ายผอมลงตามไปด้วยเมื่อเด็กทั้งสองคนเห็นเธอก็ตกใจเช่นกัน ฉินอันอันเข้าไปในห้องของตัวเอง ไมค์ตามไปทันที “ฉินอันอัน! เธอคงไม่ได้คิดจะไปทำงานหรอกใช่ไหม?” ไมค์เอ่ยเดา ฉินอันอันหยิบเสื้อผ้าออกมาจากตู้ชุดหนึ่งแล้วเดินไปห้องน้ำ “นายอยู่บ้านกับเด็ก ๆ นะ ฉันจะเข้าไปดูบริษัท” “โอ้…ต่อจากนี้ไปฉันต้องอยู่บ้านดูแลเด็ก ๆ งั้นเหรอ?” ไมค์ถาม ฉินอันอันส่ายหน้า “ฉันจะจ้างบอดี้การ์ด” “ไม่ควรจ้างพี่เลี้ยงเด็กหรอกเหรอ?” ฉินอันอัน “ไม่จำเป็น” เธอต้องการดูแลเรื่องอาหารและชีวิตประจำวันของลูกด้วยตัวเอง บอดี้การ์ดมีหน้าที่รับส่งไปกลับโรงเรียน คุ้มครองความปลอดภัยของพวกเขาก็พอแล้ว “จริงสิ ฉันได้ยินว่าอุบัติเหตุทางรถยนต์ของคุณป้าไม่ใช่อุบัติเหตุธรรมดา มีคนจงใจฆาตกรรมเธอ” ไมค์พูด “ไว้เดี๋ยวเธอไปสอบถามที่สถานีตำรวจก็แล้วกัน” ดวงตาฉินอันอันมืดลง น้ำเสียงตึงเครียด “ใครบอกนาย?” “โจวจื่ออี้” ไมค์กล่าว “เขาบอกว่าฟู่สือถิงส่งคนไปสอบสวน