”สือถิง คุณดื่มน้ำก่อนนะคะ!” เสิ่นอวี๋ให้เขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยแล้วป้อนน้ำใส่ปากเขา “ฉันรู้ว่าตอนนี้คุณอึดอัดมาก คุณดื่มน้ำหน่อยนะคะจะได้รู้สึกดีขึ้น” ......ห้องจัดเลี้ยง ฉินอันอันมีสติมากขึ้นแล้ว แต่เธอรู้สึกแย่ยิ่งกว่าตอนที่ไม่เมา เธอจะไม่ไปเกี่ยวพันอะไรกับฟู่สือถิงอีกแล้ว! หากเป็นแบบนี้ต่อไป มีแต่ยิ่งถลำลึกลงเรื่อย ๆ เท่านั้น “อันอัน เสิ่นอวี๋คนนั้นจองหองชะมัด!” หลีเสี่ยวเถียนเดินมาหาแล้วปลอบใจเธอ “อย่าไปใส่ใจคำพูดนั้นเลยนะ เธอก็ไม่เคยส่องกระจกเลยว่าตัวเองเป็นคนยังไง พูดอย่างกับคนอื่นทำเรื่องบังคับขู่เข็ญฟู่สือถิงอย่างนั่นแหละ” ฉินอันอันหยิบกระเป๋าขึ้นมาวางแผนจะกลับ “ฉันไม่ได้โกรธเธอ ฉันโกรธตัวเอง” “เธอเองก็ไม่ได้ทำอะไรผิดเสียหน่อย” “ฉันมันน่าตลกเกินไปแล้ว” ฉินอันอันบ่นพึมพำและหัวเราะเยาะตัวเอง “คิดไม่ถึงว่าฉันยังเพ้อฝันถึงเขาอยู่… หลีเสี่ยวเถียน ถ้าต่อไปฉันเจอเขาอีก เธอต้องด่าฉันแรง ๆเลยนะ!” หลีเสี่ยวเถียนรู้สึกลำบากใจ แต่เพื่อไม่ให้เธอต้องปวดใจแบบนี้อีก ดังนั้นจึงพยักหน้ารับปาก “ฉันจะส่งเธอกลับบ้านนะ !” หลีเสี่ยวเถียนพยุงเธอ “เธอไม่ต้องห่วงคนอื่นหรอก เ
ใบหน้าของฉินอันอันกระแทกหน้าอกของเขาทำให้รู้สึกเจ็บขึ้นมาชั่วขณะปลายจมูกของเธอแดง แสบตา เธอมองไปรอบ ๆ ห้องอย่างรวดเร็ว เสิ่นอวี๋ล่ะ? ทำไมมีเขาอยู่ในห้องแค่คนเดียว? เขาเมามากแบบนี้ ไม่มีคนดูแล? เธอใช้สองมือขวางหน้าอกของเขาและจะผลักเขาออก แต่เขากลับกอดเธอแน่นขึ้น “อันอัน…อย่าทิ้งผมไป…” เขายกร่างเธอขึ้นมาในอากาศและขอร้องเสียงแผ่วเบาด้วยดวงตาสีแดง “ผมคิดถึงคุณมาก…คิดถึงคุณทุกวัน…” เขาพูดพึมพำแล้วอุ้มเธอไปที่ห้องนอน ฉินอันอันมองดูเขาที่สายตามึนเมาและสับสน หัวใจราวกับถูกมีดกรีด เขาเมาแล้ว!เมามากด้วย! ว่ากันว่าคนเราเมาแล้วจะพูดความจริง เขาเรียกเธออันอัน หมายความว่าเขายังมีเธออยู่ในใจใช่หรือเปล่า? เขาอุ้มเธอมาวางไว้บนเตียงใหญ่ ร่างกดทับเธอไว้ ดวงตาลึกล้ำของเขา มองเธอด้วยความรักและคิดถึง “ฟู่สือถิง ปล่อยฉันนะ!” ฉินอันอันหายเขาลึก ๆ ยกมือทั้งสองข้างจับใบหน้าเขา พยายามปลุกสติสัมปชัญญะของเขา “คืนนี้คุณไม่กลับบ้าน อิ๋นอิ๋นกำลังร้องไห้ ป้าจางโทรมาหาฉัน ให้ฉันมาบอก…” ก่อนที่เธอจะพูดคำสุดท้ายออกมา ริมฝีปากบางของเขาก็ปิดปากของเธอไว้ เธอคิดไม่ถึงเลยว่า เธอพูดชื่ออิ๋นอิ๋นแ
เธอไม่ต้องการได้ยินเสียงใด ๆ ก็ตามที่พวกเขาทำอีกต่อไป เสียงเหล่านี้เยาะเย้ยเธออยู่ตลอดเวลา มันเย้ยหยันว่าเธอคือแฟนของฟู่สือถิงแล้วอย่างไร? ผู้หญิงที่เขารักคือฉินอันอันต่างหาก! เธอเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลง เธอรู้สึกว่าหัวใจของเธอตายด้านไปแล้ว ร่างของเธอราวกับก้อนน้ำแข็ง แข็งทื่อและเย็นเฉียบ รุ่งเช้า เวลาตีสอง ในที่สุดประตูห้องนอนก็เปิดออก ฉินอันอันลากร่างกายที่เหนื่อยล้าของเธอออกมา เมื่อเห็นเสิ่นอวี๋นั่งอยู่ที่โซฟา เท้าของเธอก็หยุดชะงักทันที “คุณฉิน แฟนของฉันมีประโยชน์มากเลยใช่ไหม?” เสียงของเสิ่นอวี๋สั่นเทา ในดวงตามีความเกลียดชังปะทุขึ้นอย่างรุนแรงและหันไปทางเธอ “ฉันห่างจากเขาแค่ยี่สิบนาทีเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าคุณจะฉวยโอกาสเข้ามา! คุณรู้อยู่แก่ใจว่าเขาเมาแล้ว จิตใจสับสน! คุณกลับมายั่วยวนเขา! ทำไมคุณถึงเลวขนาดนี้!” ฉินอันอันอยากจะอธิบาย แต่ไม่ว่าเธอจะพูดอะไร มันก็ดูซีดเซียวและไร้พลังไปหมด! คิดไม่ถึงเลยว่า วันหนึ่งเธอจะถูกคนรั้งตัวเอาไว้บนเตียง! น่าขันจริง ๆ “ขอโทษ” “ขอโทษแล้วมีประโยชน์อะไร?” น้ำตาร้อน ๆ สองสายไหลออกมาจากหางตาของเสิ่นอวี๋ “ฉันรู้ว่าฉันได้เขามาด้วยว
“คุณหมอเสิ่น ผมขอโทษจริง ๆ” ฟู่สือถิงปรับอารมณ์ของเขาอย่างรวดเร็ว ดวงตาของเขากลับมาเฉยชาดั่งเช่นปกติ “เมื่อคืนเป็นความผิดของผมเอง ผมต้องขอสงบสติอารมณ์สัดหน่อย!” หลังจากพูดจบ เขาก็ก้าวเท้าเดินออกจากห้องนอนไป สีหน้าเสิ่นอวี๋แข็งทื่อ เดิมทีเธอนึกว่าพอตัวเองบีบน้ำตาออกมาแล้ว ฟู่สือถิงจะเจ็บปวดใจจนเข้ามากอดแล้วปลอบเธอแต่ทำไมท่าทางของเขาถึงยังเฉยเมยแบบนี้? คิดไม่ถึงว่าจะเดินออกไปเฉย ๆ! เมื่อคืนตอนที่เขากอดฉินอันอัน ไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย! เสิ่นอวี๋เชิดหน้าตรงแล้วยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาบนหน้า ถึงแม้ว่าเหตุการณ์เมื่อคืนจะทำให้เธอใจสลายและเจ็บปวด แต่ผลลัพธ์คือเรื่องดี เธอหาโทรศัพท์แล้วโทรหาฟู่เย่เฉิน “ฉันทำสำเร็จแล้ว” ฟู่เย่เฉินหัวเราะออกมา “คุณหมอเสิ่น คุณยอดเยี่ยมมาก! ต่อไปถ้ามีอะไรที่ผมทำได้ คุณแค่สั่งมาได้เลย! ผมจะเชื่อฟังคุณทุกอย่าง” เสิ่นอวี๋เจ็บแปลบที่หัวใจอย่างมากเมื่อได้ยินเสียงฟู่เย่เฉินถ้าหากฟู่สือถิงจะคล้อยตามเธอได้สักครึ่งของฟู่เย่เฉินก็คงดี “ฉันไม่มีความเป็นผู้หญิงเลยเหรอ? อาของคุณถึงไม่เคยมองฉันเลย” เสิ่นอวี๋พูดอย่างเศร้าใจ ฉันเปลื้องผ้าต่อหน้าเขา เขาก็ไม่มีปฏ
เขามีวิธีจัดการเสิ่นอวี๋หลายรูปแบบ แต่ว่าเขาจะเผชิญหน้ากับฉินอันอันได้อย่างไร? หลังจากเมื่อคืนนี้เขายิ่งมั่นใจว่า เขายังคงรักฉินอันอันอยู่ เขาโกหกตัวเองไม่ได้ เขาลืมเธอไม่ได้หลังจากออกมาจากห้องน้ำก็เจอกับป้าจางและอิ๋นอิ๋น “คุณผู้ชายคะ เมื่อคืนอิ๋นอิ๋นรอคุณทั้งคืนเลยค่ะ” ป้าจางเอ่ยปาก ทันใดนั้นใบหน้าของฉินอันอันปรากฎขึ้นมาในใจของเขา! เขายังจำได้เลือนรางว่าฉินอันอันไปหาเขาเมื่อคืนนี้และบอกเขาว่าอิ๋นอิ๋นกำลังร้องไห้ ขอให้เขากลับไป! หัวใจของเขาบีบรัดแน่นในทันที เมื่อคืนนี้ฉินอันอันไปหาเขาหรือเปล่า?! เขาจำได้อย่างชัดเจนว่าเธอมาหาเขาที่ห้อง! พวกเขาสองคนแนบชิดกันบนเตียงขนาดนั้น…แต่ว่าทำไมพอตื่นมา ผู้หญิงที่นอนอยู่ข้างเขาเป็นเสิ่นอวี๋? “เมื่อคืนนี้ดิฉันโทรหาคุณไม่ติด ดังนั้นเลยโทรหาอันอัน เธอรับปากว่าจะไปแจ้งคุณ แต่ว่าเมื่อคืนคุณก็ไม่กลับบ้าน…เธอคงไม่เจอคุณ” ป้าจางคาดเดา อิ๋นอิ๋นร้องไห้ทั้งคืนจนถึงตีสาม ร้องจนหมดแรงแล้วจริง ๆ ถึงยอมหยุด ป้าจางเหนื่อยจนเหลือจะทน ทันใดนั้นในใจของฟู่สือถิงก็ตกใจอีกรอบ! จู่ ๆ แสงในดวงตาของเขาก็มืดลง เสียงขาดห้วง “เธอไปหาฉันแล้ว…ฉัน
‘ขออภัย เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งค่ะ’ ฉินอันอันปิดเครื่อง ฟู่สือถิงขมวดคิ้ว ตอนนี้พวกเขาอยู่ใกล้กันมาก แต่กลับดูเหมือนห่างไกลกัน ในคฤหาสน์ รุ่ยลาบอกเสี่ยวหานว่าฟู่สือถิงมา เสี่ยวหานจึงรีบนำโดรนจากห้องทันที “พี่! จะทำอะไรคะ?” รุ่ยลาลืมตากลมโตของเธอแล้วถามอย่างสงสัย เสี่ยวหาน “ไล่เขาออกไป!” “โอ้ พี่ให้หนูช่วยไหม?” รุ่ยลาต้องการช่วย เสี่ยวหานนำสายยางมาและบอกให้เธอถือมันไว้ ...... ฟู่สือถิงยืนตัวสูงอยู่ด้านนอกประตูคฤหาสน์ วันนี้เขาต้องเจอฉินอันอันให้ได้ ประมาณยี่สิบนาทีต่อมา โดรนค่อย ๆ บินออกมาจากระเบียงชั้นสองอย่างช้า ๆ หลังจากที่บอดี้การ์ดเห็นโดรน เขาก็ขมวดคิ้ว “อะไรวะนั่น?!” ถ้าโดรนที่เห็นเป็นแค่โดรนธรรมดา ๆ บอดี้การ์ดก็คงไม่แปลกใจ แต่โดรนที่บินผ่านลำนี้มีสายยางเชื่อมต่ออยู่! ฟู่สือถิงเงยหน้าขึ้นมองโดรน โดรนตัวนี้มีรูปร่างที่ล้ำสมัยมาก โดดเด่นด้วยไฟหลากสีสันและอินเทรนด์! ขณะที่เขากำลังคิดว่าใครเป็นคนควบคุมโดรนตัวนี้ ก็มีเสียง ‘ซ่า!’ ดังขึ้น ละอองน้ำตกลงมาจากท้องฟ้า! โดรนหยุดอยู่ตรงเหนือศีรษะของฟู่สือถิ
แต่มันเป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะทิ้งอคติที่มีต่อเขา......“ประธาน เรากลับกันเถอะครับ!” บอดี้การ์ดแนะนำเขา “เสื้อผ้าของคุณเปียกไปหมดแล้ว ถ้าคุณไม่กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้า คุณอาจจะเป็นหวัดได้นะครับ” เข้าสู่ช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ถึงแม้วันนี้พระอาทิตย์จะอยู่บนท้องฟ้า แต่อุณหภูมิก็ต่ำกว่ามาสักพักแล้ว “ฉันไม่หนาว” เสียงของฟู่สือถิงหนักแน่น บอดี้การ์ดเห็นว่าเขาดื้อรั้ง จึงรู้ว่าเขาไม่เปลี่ยนใจแน่นอน จึงทำได้เพียงยืนรออยู่ข้างนอกเป็นเพื่อนเขา ไม่นานหลังจากนั้น รถคาเยนน์คันสีแดงก็ขับเข้ามาช้า ๆ และจอดข้าง ๆ ฟู่สือถิง หน้าต่างเลื่อนลง ไมค์โผล่หน้าออกมา “อ้าว! คุณมาที่นี่ทำไมเหรอ?” ไมค์ตกใจเมื่อเห็นเขาตัวเปียกทั้งตัว “ที่นี่ฝนตกเหรอ!” บอดี้การ์ดมองเขาสายตาโกรธเคือง “เจ้าเด็กเสี่ยวหานตัวแสบนั่นแหละที่สาดน้ำใส่!” ไมค์ “โอ้...พี่หานของฉันนี่ร้ายจริง ๆ! มักทำสิ่งที่ฉันอยากทำแต่ไม่กล้าทำ!” บอดี้การ์ดจ้องเขม็ง ไมค์กระแอมเบา ๆ แล้วลงจากรถ “พวกคุณดูโง่เง่ามากที่ยืนอยู่แบบนี้! ผมพาพวกคุณเข้าไปเอง!” หลังจากที่ไมค์พูดจบ เขาก็เดินไปที่ประตูคฤหาสน์ ฟู่สือถิงลังเลอยู่ครู่ก่อนจะเดิน
”ไมค์! รีบขับรถตามเขาไปเร็ว!” จางหยุนกังวล ไมค์ “ครับ!” หลังจากที่ไมค์ขับรถตามเขาไป จางหยุนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “คุณยาย แม่จะเป็นไรไหมคะ? หนูเป็นห่วงแม่จังเลยค่ะ!” ดวงตาของรุ่ยลาเปลี่ยนเป็นสีแดง มือเล็ก ๆ กำเสื้อของจางหยุนไว้แน่น จางหยุนอุ้มเธอขึ้นมาแล้วพูดว่า “แม่ของหลานแค่เป็นไข้ ไม่ได้ป่วยร้ายแรง พอถึงโรงพยาบาลหมอจะให้เธอกินยาลดไข้ เมื่อไข้ลดลง เธอจะหายเป็นปกติ” “อ้อ...ฟู่สือถิงมาทำอะไรที่นี่เหรอคะ?” รุ่ยลาลางสังหรณ์ไม่ดี จางหยุนขมวดคิ้ว “ยายก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่แม่ของหลานป่วย เขาคงไม่ก่อเรื่องหรอก” ฟู่สือถิงห่อฉินอันอันด้วยผ้าห่มแล้วอุ้มลงไปชั้นล่าง แม้ว่าจางหยุนจะมีอคติกับเขา แต่เธอก็ไม่เห็นว่าเมื่อสักครู่เขามีพฤติกรรมที่แปลก ๆ ผู้ชายจะสนใจคุณหรือไม่สามารถดูได้จากการกระทำ ไม่ว่าตอนนี้เขาจะมีผู้หญิงกี่คน แต่เขาก็ยังรู้สึกกับฉินอันอัน ดังนั้น ฉินอันอันก็ไม่น่าตกอยู่ในอันตราย โรงพยาบาล ฟู่สือถิงอุ้มฉินอันอันไปที่ห้องฉุกเฉิน ขณะที่ไมค์ตามมาถึง ฉินอันอันก็ได้รับยาทางเส้นเลือดแล้ว “ฟู่สือถิง! คุณวิ่งเร็วชะมัด!” ไมค์หอบ “คุณส่งฉินอันอันมาให้ผม!” ห้องฉุ