‘ขออภัย เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งค่ะ’ ฉินอันอันปิดเครื่อง ฟู่สือถิงขมวดคิ้ว ตอนนี้พวกเขาอยู่ใกล้กันมาก แต่กลับดูเหมือนห่างไกลกัน ในคฤหาสน์ รุ่ยลาบอกเสี่ยวหานว่าฟู่สือถิงมา เสี่ยวหานจึงรีบนำโดรนจากห้องทันที “พี่! จะทำอะไรคะ?” รุ่ยลาลืมตากลมโตของเธอแล้วถามอย่างสงสัย เสี่ยวหาน “ไล่เขาออกไป!” “โอ้ พี่ให้หนูช่วยไหม?” รุ่ยลาต้องการช่วย เสี่ยวหานนำสายยางมาและบอกให้เธอถือมันไว้ ...... ฟู่สือถิงยืนตัวสูงอยู่ด้านนอกประตูคฤหาสน์ วันนี้เขาต้องเจอฉินอันอันให้ได้ ประมาณยี่สิบนาทีต่อมา โดรนค่อย ๆ บินออกมาจากระเบียงชั้นสองอย่างช้า ๆ หลังจากที่บอดี้การ์ดเห็นโดรน เขาก็ขมวดคิ้ว “อะไรวะนั่น?!” ถ้าโดรนที่เห็นเป็นแค่โดรนธรรมดา ๆ บอดี้การ์ดก็คงไม่แปลกใจ แต่โดรนที่บินผ่านลำนี้มีสายยางเชื่อมต่ออยู่! ฟู่สือถิงเงยหน้าขึ้นมองโดรน โดรนตัวนี้มีรูปร่างที่ล้ำสมัยมาก โดดเด่นด้วยไฟหลากสีสันและอินเทรนด์! ขณะที่เขากำลังคิดว่าใครเป็นคนควบคุมโดรนตัวนี้ ก็มีเสียง ‘ซ่า!’ ดังขึ้น ละอองน้ำตกลงมาจากท้องฟ้า! โดรนหยุดอยู่ตรงเหนือศีรษะของฟู่สือถิ
แต่มันเป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะทิ้งอคติที่มีต่อเขา......“ประธาน เรากลับกันเถอะครับ!” บอดี้การ์ดแนะนำเขา “เสื้อผ้าของคุณเปียกไปหมดแล้ว ถ้าคุณไม่กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้า คุณอาจจะเป็นหวัดได้นะครับ” เข้าสู่ช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ถึงแม้วันนี้พระอาทิตย์จะอยู่บนท้องฟ้า แต่อุณหภูมิก็ต่ำกว่ามาสักพักแล้ว “ฉันไม่หนาว” เสียงของฟู่สือถิงหนักแน่น บอดี้การ์ดเห็นว่าเขาดื้อรั้ง จึงรู้ว่าเขาไม่เปลี่ยนใจแน่นอน จึงทำได้เพียงยืนรออยู่ข้างนอกเป็นเพื่อนเขา ไม่นานหลังจากนั้น รถคาเยนน์คันสีแดงก็ขับเข้ามาช้า ๆ และจอดข้าง ๆ ฟู่สือถิง หน้าต่างเลื่อนลง ไมค์โผล่หน้าออกมา “อ้าว! คุณมาที่นี่ทำไมเหรอ?” ไมค์ตกใจเมื่อเห็นเขาตัวเปียกทั้งตัว “ที่นี่ฝนตกเหรอ!” บอดี้การ์ดมองเขาสายตาโกรธเคือง “เจ้าเด็กเสี่ยวหานตัวแสบนั่นแหละที่สาดน้ำใส่!” ไมค์ “โอ้...พี่หานของฉันนี่ร้ายจริง ๆ! มักทำสิ่งที่ฉันอยากทำแต่ไม่กล้าทำ!” บอดี้การ์ดจ้องเขม็ง ไมค์กระแอมเบา ๆ แล้วลงจากรถ “พวกคุณดูโง่เง่ามากที่ยืนอยู่แบบนี้! ผมพาพวกคุณเข้าไปเอง!” หลังจากที่ไมค์พูดจบ เขาก็เดินไปที่ประตูคฤหาสน์ ฟู่สือถิงลังเลอยู่ครู่ก่อนจะเดิน
”ไมค์! รีบขับรถตามเขาไปเร็ว!” จางหยุนกังวล ไมค์ “ครับ!” หลังจากที่ไมค์ขับรถตามเขาไป จางหยุนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “คุณยาย แม่จะเป็นไรไหมคะ? หนูเป็นห่วงแม่จังเลยค่ะ!” ดวงตาของรุ่ยลาเปลี่ยนเป็นสีแดง มือเล็ก ๆ กำเสื้อของจางหยุนไว้แน่น จางหยุนอุ้มเธอขึ้นมาแล้วพูดว่า “แม่ของหลานแค่เป็นไข้ ไม่ได้ป่วยร้ายแรง พอถึงโรงพยาบาลหมอจะให้เธอกินยาลดไข้ เมื่อไข้ลดลง เธอจะหายเป็นปกติ” “อ้อ...ฟู่สือถิงมาทำอะไรที่นี่เหรอคะ?” รุ่ยลาลางสังหรณ์ไม่ดี จางหยุนขมวดคิ้ว “ยายก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่แม่ของหลานป่วย เขาคงไม่ก่อเรื่องหรอก” ฟู่สือถิงห่อฉินอันอันด้วยผ้าห่มแล้วอุ้มลงไปชั้นล่าง แม้ว่าจางหยุนจะมีอคติกับเขา แต่เธอก็ไม่เห็นว่าเมื่อสักครู่เขามีพฤติกรรมที่แปลก ๆ ผู้ชายจะสนใจคุณหรือไม่สามารถดูได้จากการกระทำ ไม่ว่าตอนนี้เขาจะมีผู้หญิงกี่คน แต่เขาก็ยังรู้สึกกับฉินอันอัน ดังนั้น ฉินอันอันก็ไม่น่าตกอยู่ในอันตราย โรงพยาบาล ฟู่สือถิงอุ้มฉินอันอันไปที่ห้องฉุกเฉิน ขณะที่ไมค์ตามมาถึง ฉินอันอันก็ได้รับยาทางเส้นเลือดแล้ว “ฟู่สือถิง! คุณวิ่งเร็วชะมัด!” ไมค์หอบ “คุณส่งฉินอันอันมาให้ผม!” ห้องฉุ
นอนเฉย ๆ ก็ได้เงิน รับเงินแล้วก็แยกย้าย! ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือ เธอมีรายได้มากกว่าโสเภณีทั่วไป! เสิ่นอวี๋กัดฟัน ร่างของเธอเย็นด้วยความโกรธ “เขาสะกดคำว่าให้เกียรติเป็นหรือเปล่า?!” เสิ่นอวี๋ขว้างหนังสือการแพทย์ลงบนพื้น! บอดี้การ์ดพูดหน้านิ่ง “หมอเสิ่น เขาให้เกียรติคุณมามากพอแล้ว ถ้าเขาไม่ให้เกียรติคุณ แม้แต่บาทเดียวคุณก็ไม่ได้หรอก” “งั้นฉันก็มีค่าสำหรับเขามากสินะ!” เสิ่นอวี๋ตะโกนด้วยดวงตาสีแดง “ถ้าคุณไม่มีค่า เขาคงไล่คุณไปนานแล้ว” บอดี้การ์ดพูดตรงไปตรงมา “คุณฉินไม่เคยขอเงินจากประธานสักบาท ไม่แค่นั้น คุณฉินยังเชื่อฟังมากอีกด้วย” “นายหมายความว่าฉันขอมากเกินไปงั้นเหรอ?!” บอดี้การ์ด “คุณก็ไปเอาใจคุณนายใหญ่ดีกว่า” หลังจากที่บอดี้การ์ดพูดจบ เขาก็เดินออกจากห้องทำงาน เสิ่นอวี๋ได้รับแรงบันดาลใจอย่างมาก! เธอขู่ฟู่สือถิงให้มาเป็นแฟนของเธอ จึงทำให้เขารังเกียจ ดังนั้นเธอไม่ควรกดดันเขามากเกินไป บอดี้การ์ดพูดถูก! เธอควรเริ่มจากคุณนายใหญ่! โรงพยาบาล หลังจากที่ฉินอันอันไข้ลดลง เธอก็รู้สึกสบายตัวมากขึ้น หลังจากตื่นจากการหลับเป็นเวลานาน เธอมองไปยังสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ
ดวงตาของฉินอันอันสั่นไหว จากนั้นเธอก็หัวเราะเบา ๆ “พวกคุณสองคนอยู่ด้วยกันมาตั้งนาน เพิ่งได้นอนด้วยกันเหรอ? คุณสองคนนี้ไร้เดียงสาจริง ๆ” ฟู่สือถิงจุกอกจนหน้าเปลี่ยนสี “ดูเหมือนคุณจะมีประสบการณ์เยอะนะ นอกจากผมแล้ว คุณเคยนอนกับผู้ชายคนอื่นอีกไหม?” ฉินอันอันยิ้มหวาน “แน่นอน” เสี่ยวหานก็นับว่าเป็นผู้ชาย ความสงบบนใบหน้าของฟู่สือถิงหายไปโดยสิ้นเชิง! “ฉินอันอัน! ถ้าผมกลับมาหาคุณอีก อย่าเรียกผมว่าคน!” เขาพูดคำที่รุนแรงแล้วเดินออกจากห้องผู้ป่วย ฉินอันอันมองเขาเดินจากไปต่อหน้าต่อตาเธอ รอยยิ้มบนใบหน้าพลันก็จางหายไปทีละน้อย ดีแล้ว เขาจะไม่มาหาเธออีก พวกเขาทั้งสองจะได้เริ่มต้นชีวิตของตัวเอง ‘แต่ทำไมฉันถึงไม่มีความสุขเลย?’ เธอกอดผ้าห่มแล้วหายใจเข้าลึก ๆ บนนั้นมีกลิ่นของเขาเหลืออยู่ ประตูห้องคนไข้ถูกผลักให้เปิดออก และไมค์ก็ก้าวเข้ามา “ฉินอันอัน ฟู่สือถิงไม่ได้รังแกเธอใช่ไหม? เขาน่ารังเกียจที่สุดเลย! ตอนแรกฉันจะพาเธอมาโรงพยาบาล แต่เขาดันผลักฉันแย่งพาเธอมาก่อน!” ไมค์เดินไปข้างเตียงแล้วนั่งลงพลางเอื้อมมือไปแตะหน้าผากเธอ ไม่ร้อนแล้ว ไข้ลดลงแล้ว “เขาพาฉันมาโรงพยาบาลเหรอ?”
โจวจื่ออี้รับสาย “สวัสดี” ไมค์ “ผมเอง” โจวจื่ออี้เหลือบมองหน้าจอโทรศัพท์แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คุณมีธุระอะไรกับผมเหรอ?” “พูดหมา ๆ แบบนี้ เดี๋ยวก็ไม่ขายโดรนให้ซะหรอก” ไมค์ขู่ โจวจื่ออี้ขมวดคิ้วและตอบโต้ “อย่าหลงตัวเองหน่อยเลย! ใครอยากซื้อโดรนของคุณล่ะ?!” ไมค์ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง “เจ้านายของคุณไง! งั้นคำสั่งซื้อจากแผนกจัดซื้อของคุณเป็นของปลอมเหรอ?” โจวจื่ออี้สูดหายใจลึก “คุณบอกว่าประธานของเราสั่งให้แผนกจัดซื้อซื้อโดรนของคุณเหรอ?” “ใช่! คุณไม่รู้เหรอ? ฮ่า ๆ! ผมคิดว่าคุณเป็นคนโปรดของเขาซะอีก” ไมค์พูดเหน็บแนมและวางสายไป โจวจื่ออี้ถูกยั่วยุ เขาจึงไปหาฟู่สือถึงเพื่อตรวจสอบความจริง สายตาของฟู่สือถิงมองขึ้นมาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ “บริษัทเราแจกของให้พนักงานทุกเทศกาลไหว้พระจันทร์ ของขวัญของปีนี้คือโดรน นายคิดว่าไง?” โจวจื่ออี้แทบกระอักเป็นเลือดพลันส่ายหน้าอย่างแรง “ไม่ได้จะคัดค้านครับ! ผมแค่คิดไม่ถึงเฉย ๆ” “เป็นการตัดสินใจปุบปับเมื่อคืน” ฟู่สือถิงพูดสั้น ๆ “ถึงฉันจะไม่ได้เป็นอะไรกับฉินอันอันแล้ว แต่ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเธอก็ถือว่าดี” เขาจะไม่มีวันลืมเหตุการณ์ที่เขาไปบ้าน
ปลายสายโทรศัพท์เงียบ! โจวจื่ออี้ยื่นโทรศัพท์ให้ฉินอันอันช้า ๆ ฉินอันอันเปิดลำโพงโทรศัพท์ของเธอแล้ววางลงบนโต๊ะ “สวัสดีค่ะประธานฟู่” เมื่อได้ยินคำทักทายอย่างเป็นทางการของฉินอันอัน ไมค์ก็อดหัวเราะไม่ได้ แต่โจวจื่ออี้เงียบ ในขณะนั้น เสียงที่เป็นทางการของฟู่สือถิงก็ดังมาจากอีกฝั่งของโทรศัพท์ “สวัสดีครับคุณฉิน” ฉินอันอันตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ไมค์หยิบแก้วขึ้นมาจิบน้ำ โจวจื่ออี้ก็หยิบแก้วน้ำขึ้นมา แต่ข้างในแก้วไม่มีน้ำ “ฉันต้องอธิบายให้คุณฟังว่าเราไม่ได้แกล้งคุณ” ฉินอันอันปรับอารมณ์และพูดอย่างใจเย็น “่ฝ่ายผลิตของเราเพิ่งก่อตั้งได้ไม่นาน อุปกรณ์และบุคลากรของเรามีไม่เพียงพอ มองตามหลักความจริงแล้ว ไม่มีทางผลิตได้ตามปริมาณคำสั่งซื้อที่คุณต้องการได้ การส่งสินค้าจากต่างประเทศจะช่วยรับประกันปัญหาปริมาณและเวลาได้ แต่ราคาสินค้าจากต่างประเทศสูงกว่าบ้านเราค่ะ” เมื่อฉินอันอันอธิบายแบบนี้ โจวจื่ออี้ก็ใจเย็นลง เห็นได้ชัดว่าเธอกับไมค์สื่อความหมายเดียวกัน แต่พอไมค์พูด เขาก็จะโกรธเป็นพิเศษ “เนื่องจากนี่เป็นคำสั่งซื้อภายในประเทศครั้งใหญ่ครั้งแรกของเรา ฉันจึงสามารถส่งสินค้าจากต่างประเทศในร
“คุณฟู่ เราบังเอิญได้ยินมาว่าคุณเสิ่นอวี๋ก็กำลังมองหาหมออยู่เหมือนกัน” อีกฝั่งหนึ่งของโทรศัพท์คือนักสืบเอกชนที่ฟู่สือถิงหามาจากต่างประเทศ มีหน้าที่รับผิดชอบในการหาหมอที่สามารถรักษาอิ๋นอิ๋นได้ “คนที่คุณเสิ่นกำลังตามหาคือหมอผู้ชายวัยกลางคน สูงประมาณหนึ่งร้อยเจ็ดสิบครับ” ฟู่ซื่อถิงขมวดคิ้ว “ทำไมเธอถึงต้องการเจอหมอผู้ชายคนนี้?” นักสืบเอกชนกล่าว “ผมเดาว่าเธอกำลังมองหาหมอคนนี้เพื่อให้มารักษาอิ๋นอิ๋นด้วยกันครับ” ความหวังฉายแวววับในดวงตาของฟู่สือถิง “เราต้องหาหมอผู้ชายคนนี้ให้ได้ก่อนที่เธอจะเจอ!” นักสืบเอกชน “ครับ ผมได้ข้อมูลส่วนตัวมาด้วยว่าศาสตราจารย์หูชิงรับเขาเป็นลูกศิษย์คนสุดท้ายก่อนจะปิดรับ ข้อมูลของศิษย์คนนี้เป็นความลับ และเขาได้เข้าร่วมงานในห้องปฏิบัติการของศาสตราจารย์หูชิงตลอดกระบวนการด้วย” ฟู่สือถิงพูดอย่างจริงจัง “เป็นไปได้ไหมที่ศิษย์คนนี้คือหมอผู้ชายวัยกลางคนที่เสิ่นอวี๋กำลังมองหาอยู่?” นักสืบเอกชน “ครับ ผมก็เดาแบบนั้นเหมือนกัน”……เวลาห้าโมงเย็น ฟู่สือถิงไปรับอิ๋นอิ๋นที่โรงเรียนนานาชาติแองเจลากลับบ้านด้วยตนเอง เมื่อมาถึงลานจอดรถก็บังเอิญเจอฉินอันอันที่มารับเสี่ยวหาน