ถังเฉียนเห็นฟู่ซื่อถิงโกรธมาก เธอจึงเติมเชื้อเพลิงลงในกองไฟ “ซื่อถิง ก่อนที่ฉินอันอันจะแต่งงานกับคุณ เธอมีความสัมพันธ์กับหลานชายฟู่เย่เฉินของคุณ อันที่จริงมันไม่สำคัญหรอก ใคร ๆ ก็มีอดีตกันทั้งนั้น แต่หลังจากที่เธอแต่งงานกับคุณ จริง ๆ แล้วเธอก็มีความสัมพันธ์กับหลานชายของคุณ เธอสวมเขาให้คุณ ฉันเดาว่าพวกเขาทั้งคู่คิดว่าคุณจะตาย พวกเขาก็เลยแอบแทงข้างหลังคุณ!” ฟู่ซื่อถิงกำหมัดสองข้างแน่น ใบหน้าของเขาซีดเผือด สีหน้าของเขาโกรธมาก และดวงตาที่เย็นชาก็จ้องมองไปที่แฟ้มสุขภาพของมารดา! “ฉันสงสัยว่าพวกเขาทำแบบนี้เพื่อแย่งสมบัติของคุณ ตอนที่หมอบอกแจ้งอาการของคุณ ทุกคนคิดว่าคุณจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน ตอนนี้ฉินอันอันแต่งงานกับคุณ และตั้งท้องลูกของคุณ สมบัติของคุณก็ต้องตกไปอยู่ในมือฉินอันอันไปโดยปริยาย พวกเขาสองคนวางแผนไว้ก่นหน้าแล้ว สุดยอดจริง ๆ! แต่วางแผนยังไงก็สู้ชะตาไม่ได้ คุณฟื้นแล้ว แผนการของพวกเขาก็จะล้มเหลวเหมือนกัน” “ออกไป!” ฟู่ซื่อถิงตะโกนใส่ถังเฉียน ไม่ว่าเรื่องที่ถังเฉียนพูดจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เขาก็รู้สึกขยะแขยง เมื่อเรื่องน่าเกลียดแบบนี้ถูกเปิดเผย ถังเฉียนรู้สึกน้อยใจ แต่เธ
เขาสลัดมือของเธอออกด้วยสีหน้ารังเกียจและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ฉินอันอัน การไว้ชีวิตคุณถือเป็นการแสดงความเมตตาครั้งยิ่งใหญ่ หุบปากแล้วอย่าทำให้ผมโมโหอีก!” ฉินอันอันมองใบหน้าที่ไร้หัวใจของเขาและกล้ำกลืนความเจ็บปวด ตอนนี้ไม่ว่าเธอจะพูดหรือทำอะไร ก็ไม่สามารถเปลี่ยนใจเขาได้ เธอซุกตัวอยู่ที่เบาะนั่ง และมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยดวงตาเศร้าหมอง โรงพยาบาล หลังจากที่รถจอด ฉินอันอันก็ถูกบอดี้การ์ดลากตัวออกจากรถ และพาไปที่คลินิกสูตินรีเวช ฟู่ซื่อถิงไม่ได้ลงจากรถ เขานั่งสูบบุหรี่อยู่ในรถ ตอนที่ฉินอันอันถูกนำตัวออกไป เบ้าตาที่มีน้ำตาคลอและสายตาที่โกรธเกรี้ยวที่เธอมองเขา ยังคงติดอยู่ในใจของเขา เขาจะไม่รู้สึกเจ็บปวดใจกับเธออีกต่อไป! คนที่ทรยศเขาจบไม่สวยแน่นอน หลังจากที่ฉินอันอันถูกพาตัวเข้าไปในห้องผ่าตัดอันเยือกเย็น ประตูห้องผ่าตัดก็ปิดลงอย่างช้า ๆ ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา ประตูห้องผ่าตัดก็ถูกผลักให้เปิดออก หมอออกมาพูดกับบอดี้การ์ดว่า “ผ่าตัดเสร็จแล้ว แต่ต้องเฝ้าดูอาการผู้ป่วยอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงค่ะ” ภารกิจของบอดี้การ์ดคือพาฉินอันอันไปทำแท้ง เมื่อทารกในครรภ์ทำแท้งแล้ว ภารกิจของ
ฟู่ซื่อถิงขมวดคิ้ว หากเขาไม่เห็นแบบฟอร์มที่ฉินอันอันกรอกด้วยตาของเขาเอง เขาคงจะเชื่อคำพูดของฟู่เย่เฉินไปแล้ว “ฉินอันอันบอกว่าเด็กในท้องเป็นลูกของแก มันก็เป็นลูกของแก!” บอดี้การ์ดพูดด้วยน้ำเสียงโกรธเคือง “กล้าทำเรื่องแบบนี้ได้ ต่อให้แกมีเก้าชีวิตก็คงไม่พอให้อยู่รอด!” ฟู่เย่เฉินร้องไห้เสียงดัง “ฉินอันอันโกหก! คุณอาครับ เหตุผลที่ผมเลิกกับเธอก็คือ เธอไม่ยอมให้ผมแตะต้องตัวเธอสักที ผมเองที่ทิ้งเธอไป เธอก็เลยเกลียดผม! เธอจงใจบอกว่าเด็กในท้องคือลูกของผม! เพราะเธอต้องการแก้แค้นผมแน่ ๆ! คุณอา! คุณอาต้องเชื่อผมนะ! ไม่ว่าเด็กในท้องจะเป็นลูกของใครก็ตาม แต่ไม่ใช่ลูกของผมแน่นอน!” ฟู่ซื่อถิงมองชายคนนั้นที่นอนอยู่บนพื้นด้วยสีหน้าหวาดกลัว จู่ ๆ ในใจก็รู้สึกเมินเฉย ไม่น่าสนใจ นี่คือผู้ชายที่ฉินอันอันชอบ ผู้ชายขี้ขลาดคนนี้สามารถหักหลังเธอได้ทันทีที่มีปัญหา! “ลากมันลงไป!” เสียงของฟู่ซื่อถิงไร้อารมณ์ “ไม่ต้องฆ่ามัน” เขาจะปล่อยให้ฟู่เย่เฉินตายง่าย ๆ ได้อย่างไร? เขาต้องการทำลายฟู่เย่เฉินทีละนิดต่อหน้าฉินอันอัน ... จางหยุนพาฉินอันอันกลับไปที่บ้านเช่าของตัวเอง หลังจากเข้าไปในบ้านแล้ว จาง
“พี่ที่แม่เคยรู้จักอยากได้พี่เลี้ยงเด็กมาดูแลหลาน...และเงินเดือนที่เธอเสนอก็สูงมาก แม่คิดว่าแม่ทำได้ทุกอย่าง ก็เลยลองดู วันนี้วันที่สามของแล้ว แม่ว่าก็ดีนะ แม่สามารถหาเงินได้ห้าหมื่นบาทต่อเดือนแน่ะ!” “พ่อของลูกไม่อยู่แล้ว และไม่ทิ้งมรดกอะไรไว้ให้ลูกเลย แม่ไม่อยากเป็นตัวถ่วงของลูก” จางหยุนกล่าวเสริม น้ำตาของฉินอันอันร่วงลงมาราวกับเส้นด้ายที่ขาด “พี่ที่แม่เคยรู้จักค่อนข้างมีฐานะดีใช่ไหมคะ?” เดิมทีเสียงของเธอแหบแห้งเล็กน้อย แต่เมื่อเธอร้องไห้กลับทำให้เสียงแหบแห้งมากขึ้น “การเป็นพี่เลี้ยงหลานให้พี่ที่รู้จัก...คงจะรับมือยากมากใช่ไหมคะ!” “ไม่ยากหรอก! ตอนนี้แค่หาเงินได้ก็พอใจแล้ว ศักดิ์ศรีมันกินไม่ได้หรอก! ยิ่งกว่านั้น คนรวยไม่ได้แปลว่าจะรวยตลอดไป คนจนก็อาจจะไม่ได้จนตลอดไปเหมือนกัน ตอนนี้แม่อาจจะไม่ได้รวยเหมือนพี่เขา แต่ใครจะไปรู้ ลูกสาวของแม่อาจจะหาเงินได้มากกว่าอีกจริงไหม?” จางหยุนหยิบกระดาษทิชชู่ออกมาเช็ดน้ำตาให้เธอ “แม่...แม่ไม่ต้องไปทำงานหรอก หนูทำงานพาร์ทไทม์ได้...ปีหน้าหนูก็ทำงานแล้ว...” ฉินอันอันน้ำตาไหลพราก “ตอนนี้ลูกกำลังท้อง ลูกจะออกไปทำงานได้ยังไง? อันอัน ถ้าลูกต้องก
ฆ่าเขา? ฉินอันอันขมวดคิ้ว แม้ว่าเธอจะเกลียดฟู่ซื่อถิง แต่เธอก็ไม่เคยคิดที่จะฆ่าเขา แม้ว่าลูกในท้องจะไม่อยู่แล้ว ก็ยังไม่มีความคิดแบบนี้เลย และเธอจะฆ่าเขาได้จริงเหรอ? เมื่อเห็นฉินอันอันลังเล ฟู่เย่เฉินจึงกล่าวว่า “ตอนนี้อาของผมกำลังเดินทางไปทำธุรกิจ คุณลองกลับไปคิดดี ๆ อันอัน ถ้าคุณสามารถฆ่าฟู่ซื่อถิงได้ ผมก็แต่งงานกับคุณได้ทันที ผมจะให้ทุกสิ่งที่คุณต้องการ ผมบอกพ่อแม่เกี่ยวกับเรื่องของเราแล้ว และพวกเขาก็ให้การสนับสนุนผม” ฟู่เย่เฉินสีหน้าและสายตาจริงจังมาก เมื่อก่อนตอนที่เธอยังรักเขา เธออยากให้พ่อแม่ของเขายอมรับมาโดยตลอด แต่เขามักจะปฏิเสธที่จะเปิดเผยความสัมพันธ์ของพวกเขาให้คนอื่นรู้ ตอนนี้เธอไม่ต้องการให้ใครมายอมรับแล้ว “แล้วถ้ามันไม่สำเร็จล่ะ?” ฉินอันอันถามเขา “ถ้าเขารู้ว่าฉันต้องการฆ่าเขา คุณคิดว่าเขาจะไว้ชีวิตฉันฉันเหรอ? ฟู่เย่เฉิน คุณไม่เหมือนผู้ชายที่ฉันเคยรู้จักเลย ถ้าคุณอยากฆ่าเขา คุณก็ไปฆ่าเองสิ ถ้าคุณไม่สามารถยอมรับผลที่ตามมาจากความล้มเหลวของคุณได้ ก็อย่าไปทำสิ่งที่ผิดกฎหมายแบบนั้น!” ฟู่เย่เฉินชะงัก เขาไม่คิดว่าเธอจะปฏิเสธ “มันจะล้มเหลวได้ยังไง เราก็วางย
“เด็กที่ถูกทำแท้งไม่ใช่ลูกของคุณใช่ไหม คุณถึงยังใจเย็นอยู่ได้!” หมอเห็นว่าฉินอันอันมีอารมณ์รุนแรงขึ้น อีกทั้งเรื่องนี้ก็ค่อนข้างเป็นเรื่องใหญ่ เธอจึงต้องกลับคำพูด “คุณฉิน ฉันขอโทษค่ะ ฉันใช้คำพูดผิด คุณนั่งลงดื่มน้ำก่อนนะคะ ฉันจะไปถามให้ค่ะ” หลังจากที่หมอเทน้ำให้เธอหนึ่งแก้ว เธอก็รีบไปหาหัวหน้าของเธอทันที ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง คุณหมอก็กลับมา “คุณฉินคะ คุณรู้จักถังเฉียนไหมคะ? เธอเป็นคนมีขอดูข้อมูลของคุณค่ะ” หลังจากได้รับคำตอบ ฉินอันอันก็ออกจากโรงพยาบาลทันที คิดไม่ถึงว่าถังเฉียน คือหนามยอกอกเธอ! อย่างไรก็ตาม เธอจะถูกทำร้ายร่างกายไม่ได้ เธอจะต้องหาวิธีที่จะทำให้ถังเฉียนได้ชดใช้อย่างแน่นอน! ฉินกรุ๊ป ฉินอันอันเข้าไปในห้องทำงานของพ่อ รองประธานรออยู่ข้างในนานแล้ว “อันอัน ที่ลุงเรียกเธอมาวันนี้ ลุงมีเรื่องจะคุยกับเธอสองเรื่อง” รองประธานรินน้ำอุ่นให้เธอ “เฮ่อจุนจือเปลี่ยนใจ ตอนแรกเขาต้องการลงทุนกับเรา แต่วันนี้เขาต้องการซื้อบริษัทของเราในราคาหนึ่งพันล้านบาท” เมื่อเห็นว่ารองประธานดูไม่ค่อยมีความสุขนัก ฉินอันอันจึงเดาว่า “ราคาต่ำไปเหรอคะ?” “ตอนที่บริษัทยังอยู่ในสถานก
“...ฉันไม่รู้รหัสผ่านค่ะ พ่อไม่ได้บอกรหัสผ่านก่อนที่เขาจะเสียชีวิต” ฉินอันอันขมวดคิ้วพร้อมส่ายหน้า เธอไม่ได้โกหก ก่อนที่ฉินเจี๋ยจะเสียชีวิต เขาไม่ได้บอกอะไรเกี่ยวกับบริษัทเลยด้วยซ้ำ ยิ่งเป็นเรื่องรหัสผ่านยิ่งไม่ต้องพูดถึง ตอนนั้นมีคนอยู่ในห้องหลายคน ถ้าฉินเจี๋ยพูด เธอก็ไม่ใช่คนเดียวที่รู้ “ลุงโจว หรือฉันกลับไปถามแม่ดู!” ฉินอันอันพูดกับรองประธาน “ครั้งสุดท้ายที่ฉันเจอพ่อ เขาพูดกับฉันแค่สองสามคำก่อนจะจากไป แม่ของฉันอาจจะรู้มากกว่านี้ก็ได้ค่ะ” รองประธานไม่สงสัยเรื่องอื่นเลย นอกจากเรื่องนี้ “โอเค อย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้กับใครนะ นี่เป็นความลับสุดยอดของบริษัทของเรา เพราะเธอเป็นผู้สืบทอดที่ประธานฉินแต่งตั้ง ฉันถึงได้บอกเธอ” ฉินอันอันมองไปที่ตู้เซฟ เสียงเงียบขรึมภายในใจเตือนเธอ พวกเขาต้องบอกความลับนี้กับเธอ เพราะหาใครมาเปิดตู้เซฟไม่ได้ ถ้าพวกเขาแอบเปิดตู้เซฟได้ จะต้องขโมยของในตู้อย่างแน่นอน และคงไม่แจ้งเรื่องนี้ให้เธอรู้ “ค่ะ ฉันจะไม่บอกเรื่องนี้กับใครแน่นอน ลุงโจว นอกจากลุงแล้วมีใครรู้เรื่องนี้อีกบ้างคะ?” ฉินอันอันคุยกับรองประธานพลางเดินไปที่ประตู รองประธานเดินตามไปที่ประตู
จางหยุนวางมือบนไหล่ของฉินอันอัน “หนูเป็นลูกสาวของเขา เขาไม่ทำร้ายลูกอย่างแน่นอน ตอนที่แม่อยู่กับเขา บริษัทของเขาเพิ่งเริ่มต้น ตอนที่เราแต่งงานกัน แม่ไม่อยากได้อะไรเลย แถมยังออกเงินมากมายเพื่อช่วยเขาเริ่มต้นธุรกิจ ถ้าเขากล้าทำร้ายลูก แม่จะไม่มีวันปล่อยเขาไปแม้ว่าแม่จะกลายเป็นผีก็ตาม” ... วันจันทร์ ฉินอันอันนั่งแท็กซี่ไปเอสทีกรุ๊ป นี่เป็นครั้งแรกที่เธอมาที่บริษัทของฟู่ซื่อถิง ตึกของเอสทีกรุ๊ปสูงและกว้างใหญ่มาก เธอลงจากแท็กซี่แล้วเดินไปที่ล็อบบี้ชั้นหนึ่ง “คุณคะ นัดไว้หรือเปล่าคะ” พนักงานต้อนรับผู้หญิงถาม ฉินอันอัน “ไม่ได้นัดค่ะ รบกวนติดต่อถังเฉียน และบอกเธอว่าฉินอันอันมาขอพบให้หน่อยนะคะ ถ้าเธอได้ยินชื่อของฉัน เธอจะต้องมาหาฉันแน่นอนค่ะ” พนักงานต้อนรับจ้องไปที่ฉินอันอันสองสามครั้ง เมื่อเห็นว่าเธอแต่งตัวภูมิฐาน จึงโทรติดต่อแผนกประชาสัมพันธ์ให้เธอ ไม่นานถังเฉียนก็ลงมา ทันทีที่ถังเฉียนออกมาจากลิฟต์ เธอก็มุ่งหน้าไปหาฉินอันอันด้วยท่าทางเย่อหยิ่ง “เธอเพิ่งทำแท้งไม่ใช่เหรอ? ไม่นอนพักเหรอ?” ถังเฉียนพูดเหน็บแนม วันนี้ฉินอันอันแต่งหน้าเบา ๆ ดูสวยงาม “ถังเฉียน เธอตั้งใจทำงาน