เมื่อได้ยินคำถามของเขา ฉินอันอันก็เจ็บแปลบในใจทันที “แฟนของคุณไปบอกคุณว่าไงบ้างล่ะ?” เธอถาม ฟุ่ซื่อถิงชะงัก เขายังไม่ได้เจอเสิ่นอวี๋ หลังจากฟังคลิปเสียงแล้วเขาก็โกรธมากจึงโทรหาเธอก่อน “ฉินอันอัน ผมกำลังถามคุณอยู่! คุณอย่ามาเปลี่ยนเรื่อง!” น้ำเสียงของเขาจริงจังขึ้นเล็กน้อย เมื่อได้ยินคำขู่ของเขา ฉินอันอันก็โกรธทันที “ความจริงก็อยู่ตรงหน้าคุณแล้วไม่ใช่เหรอ? ฉันเป็นคนเทน้ำร้อนลวกมือแฟนสาวของคุณเองแหละ! คุณไปบอกเธอด้วยนะว่าให้อยู่ห่าง ๆ ฉันไว้ เพราะไม่อย่างนั้นรอบหน้าฉันจะสาดน้ำร้อนใส่หน้าเธอแทน!” ฟู่ซื่อถิงเงียบไป “...” ฉินอันอัน “ทำไมคุณไม่พูดล่ะ? ไม่เดือดร้อนแทนแฟนหน่อยเหรอ?” ลูกกระเดือกของฟู่ซื่อถิงกลิ้งขึ้นกลางกัดฟันกรอด “ถ้ามือของคุณเสิ่นโดนน้ำร้อนลวก แล้วใครจะทำการผ่าตัดให้อิ๋นอิ๋นล่ะ? เฮ้อ ชักรู้สึกกังวลแล้วสิ ฟู่สือถิง คุณคงจะไม่แก้แค้นฉันใช่ไหม?” ฉินอันอันกล่าวต่อ “ฉินอันอัน แม้แต่คนโง่ยังฟังออกเลยว่าคุณโกรธ! แต่ถึงคุณจะโกรธ ผมที่ได้ยินก็โกรธเหมือนกัน!” เมื่อฟู่สือถิงได้ยินคำพูดเสียดสี เหน็บแนม เย้ยหยันของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวด “งั้นคุณก็ไม่ต้องโทรมาหาฉั
ฟู่เย่เฉิน “อันอัน! คุณว่าผมแย่กว่าสุนัขเหรอ!?” ฉินอันอัน “ก็ใช่น่ะสิ! จากที่ฉันรู้จักฉินเขอเข่อมา เธอคงไม่กล้าจ้างวานฆ่า แต่ฉันไม่สนใจคุณสองคน ดังนั้นไม่ว่าคุณจะอยู่หรือตายมันก็ไม่เกี่ยวกับฉัน แต่ถ้าคุณยังมาวุ่นวายกับฉันอีก ฉันคงต้องจ้างนักสืบเอกชนมาตรวจสอบเรื่องนี้” ฟู่เย่เฉินหน้าเปลี่ยนสี “อันอัน! ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อพบคุณโดยเฉพาะ ผมแค่แวะมา...ต่อไปผมจะไม่รบกวนคุณอีก!” ฉินอันอันคิดไม่ถึงว่าคำพูดพลั้งปากของตัวเองจะเผยให้เห็นตัวตนที่แท้จริงของเขา เขามีเจตนาไม่ดีต่อฟู่สือถิง แต่กลับไม่กล้าจ้างวานฆ่าในนามของตัวเอง ดังนั้นเขาจึงทำให้ฉินเขอเข่อเป็นแพะรับบาป หน้าจอโทรศัพท์สว่างขึ้นและมีข้อความเข้ามา ฉินอันอันกดที่ข้อความ มันมาจากหลีเสี่ยวเถียน : ทำไมฟู่สือถึงสุนัขแบบนี้ล่ะ! เขาโทรหาเธอเรื่องผู้หญิงคนนั้นเนี่ยนะ! เขาเสียสติไปแล้วเหรอ? ! เขาไม่รู้เหรอว่าเธอเป็นคนแบบไหน? ! ฟู่เย่เฉินเห็นเธอเล่นโทรศัพท์มือถือ เขาจึงลุกขึ้นและกำลังจะออกไป จากหางตา เขาบังเอิญเห็นภาพพื้นหลังแชทของเธอโดยบังเอิญ ภาพพื้นหลังของการแชทของเธอคือรูปหน้าของเด็กสองคน คนหนึ่งเป็นเด็กผู้ชาย อีกคนหนึ่งเป
หกโมงเย็น ฉินอันอันขับรถกลับไปที่คฤหาสน์สตาร์ริเวอร์ ประตูเปิดอยู่ รถบีเอ็มดับบิวสีแดงจอดอยู่ในลานบ้าน ฉินอันอันจำรถได้ มันเป็นรถของหลีเสี่ยวเถียน ‘ทำไมจู่ ๆ หลีเสี่ยวเถียนถึงมาที่นี่?’ “ฉินอันอัน!” หลีเสี่ยวเถียนเห็นฉินอันอันกลับมาจึงรีบวิ่งไปหาทันที “ฉันเห็นเด็กที่เธอรับเลี้ยงทั้งสองคนแล้ว! ถ้าฉันไม่ได้ยินว่าเธอรับเลี้ยงเด็ก เธอคงจะเก็บเป็นความลับไปตลอดชีวิตเลยใช่ไหม?” เมื่อได้ยินหลีเสี่ยวเถียนพูด ฉินอันอันก็ไม่กล้าลงจากรถ เธอพบว่าเมื่อไหร่ที่ฟู่สือถิงรู้เรื่องของเธอ ทุกคนก็จะรู้ ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าหลีเสี่ยวเถียนรู้ความลับของเธอ เธอก็จะต้องบอกเรื่องนี้กับฟู่สือถิงวันใดวันหนึ่งแน่นอน สิ่งเดียวที่จะโทษคือต้องโทษที่เฮ่อจุ่นจือกับหลีเสี่ยวเถียนคบหากัน เธอไม่สามารถเลิกคบกับหลีเสี่ยวเถียนเพียงเพราะเธอคบกับเฮ่อจุ่นจือได้ “เธอนี่มันน่าเบื่อจริง ๆ!” หลีเสี่ยวเถียนเดินไปหาฉินอันอันแล้วดึงเธอออกจากรถ “เธอรับเลี้ยงเด็กสองคนแน่เหรอ? คงจะไม่ใช่ลูกของฟู่สือถิงกับเธอหรอกนะ เธอกำลังปิดบังอะไรอยู่?!” ฉินอันอันเงียบ “...” “จะว่าไป เด็กสองคนที่เธอรับเลี้ยงมาเหมือนเธอกับฟู่สือถ
หลีเสี่ยวเถียนรู้แล้ว “อันอัน ทำไมเธอไม่บอกฟู่สือถิงล่ะ? ถ้าเขารู้เรื่องเด็กสองคนนี้…” “เขาไม่อยากมีลูก หลีเสี่ยวเถียน ถ้าเธอบอกเรื่องนี้กับเฮ่อจุ่นจือหรือฟู่สือถิง เราขาดกัน” สีหน้าและน้ำเสียงของฉินอันอันเย็นชาเหมือนเป็นคนละคน “ถ้ามันร้ายแรงจริง ๆ ฉันไม่มีทางบอกแน่! นี่คือเรื่องส่วนตัวของเธอ ฉันจะเก็บมันเป็นความลับอย่างดี!” หลีเสี่ยวเถียนพูดอย่างกังวล “ฉันไม่เข้าใจฟู่สือถิงเลยจริง ๆ เสือถึงร้ายก็ไม่กินลูกตัวเอง นี่เขายังสติดีอยู่ไหม?” “ก็คงแบบนั้น” ฉินอันอันนั่งลงบนเตียงแล้วพูดทีละประโยค “ฉันแค่อยากจะเลี้ยงลูกสองคนเงียบ ๆ” “อันอัน ไม่ต้องกังวล ฉันสัญญาว่าจะไม่บอกใคร” ...... บ้านเดิมตระกูลฟู่ เวลาทุ่มครึ่ง ฟู่สือถิงมาถึงช้ากว่าเวลา “สือถิง เสิ่นอวี๋ไม่ได้เป็นอะไรมากใช่ไหม? ทำไมถึงไม่ระวังเลย? สิ่งล้ำค่าที่สุดของหมอคือมือทั้งสองข้าง!” แม่เฒาฟู่กังวลมากเมื่อได้ยินว่าเสิ่นอวี๋ถูกน้ำร้อนลวก “ไม่มีอะไรร้ายแรงครับ” ฟู่สือถิงไม่อยากให้แม่ของเขากังวล เขาพาเสิ่นอวี๋ไปที่โรงพยาบาลและเห็นรอยลวกบนมือของเสิ่นอวี๋ ค่อนข้างอาการหนัก ผิวหนังชั้นนอกทั้งหมดเป็นแผล “งั้นก็ดีแ
ในร่างกายของเขา มีสองเสียง หนึ่งเสียงเตือนเขาว่าอย่าเข้าไปพัวพันกับฉินอันอัน อีกเสียงกระตุ้นให้เขาไปเจอลูกสาวของฉินอันอัน แม้ว่าลูกสาวของฉินอันอันจะไม่ใช่ลูกของเขา แต่เขาก็ยังอยากเห็นว่าลูกสาวของเธอจะเหมือนเธอมากแค่ไหน และชายผมบลอนด์คนนั้นก็ยังติดอยู่ในใจเขาด้วย!……คฤหาสน์สตาร์ริเวอร์ หลีเสี่ยวเถียนมาพร้อมกับจิ๊กซอว์ที่เพิ่งซื้อมาใหม่ ผลก็คือไมค์ หนุ่มหล่อหน้ามนของฉินอันอันเป็นผู้เปิดประตูให้เธอ “ทำไมคุณไม่สวมเสื้อผ้าเลยล่ะ?” หลีเสี่ยวเถียนมองดูร่างกายส่วนบนที่เปลือยเปล่าของไมค์แล้ว “คุณไม่ได้อยู่บ้านคนเดียว ที่บ้านยังมีคุณป้าและรุ่ยลาด้วย! คุณช่วยสำรวมกว่านี้หน่อยได้ไหมคะ!” ไมค์พูดน้ำเสียงงัวเงีย “ทำไมคุณไม่ซื้ออาหารเช้ามาด้วยล่ะ? เสี่ยวหลงเปาที่คุณซื้อมาครั้งก่อนอร่อยดีนะ!” หลีเสี่ยวเถียน “...” เมื่อวางจิ๊กซอว์ลง หลีเสี่ยวเถียนก็เดินไปที่ห้องนอนใหญ่ แต่ฉินอันอันไม่อยู่ “ฉินอันอันไปทำงานแล้วเหรอคะ?” หลีเสี่ยวเถียนส่งเสียงถามมาจากห้องนอนใหญ่ ไมค์หาว “ถ้าเธอไม่อยู่ก็แสดงว่าเธอไปทำงานแล้ว!” “แล้วทำไมคุณป้าก็ไม่อยู่คะ? ส่งหลาน ๆ ไปโรงเรียนเหรอ?” “ถ้าไม่อยู่
จู่ ๆ เสี่ยวหานเดินเข้ามาหาพวกเขา หลีเสี่ยวเถียนรู้สึกประหลาดใจมาก ทำไมเสี่ยวหานไม่ไปโรงเรียน? ไมค์ก็แปลกใจเหมือนกัน “พี่หาน วันนี้พี่ไม่ไปโรงเรียนเหรอ? งั้นฉันพาออกไปเล่นข้างนอก!” หลีเสี่ยวเถียน “...” ไมค์เรียกเสี่ยวหานว่าพี่หาน เสี่ยวหานคว้าแขนของไมค์แล้วจูงไมค์ออกไป หลี่เสี่ยวเถียนพูดไม่ออก “...” ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ไม่น่าแปลกใจเลยที่ไมค์สามารถเอาชนะใจฉินอันอันได้! เพราะไมค์เข้าทางลูก ๆ ของเธอ ……เอสทีกรุ๊ป หลังจากที่ฟู่สือถิงมาถึงบริษัทแล้ว โจวจื่ออี้ก็เข้ามาและรายงานเรื่องงานให้เขาฟัง หลังจากรายงานงานเสร็จสิ้น โจวจื่ออี้ก็ดันแว่นตาขึ้นที่ดั้งจมูก “บอส ที่อยู่ปัจจุบันของคุณฉินคือคฤหาสน์สตาร์ริเวอร์ครับ คุณจะไปหาเธอเหรอ? คุณหย่ากับเธอแล้ว ผมเกรงว่าเธอจะไม่ให้คุณเข้าไป” โจวจื่ออี้กังวลว่าเขาจะเป็นเหมือนเมื่อก่อน ฟู่สือถิง “จื่ออี้ นายช่วยฉันหาหมอที่สามารถรักษาอิ๋นอิ๋นได้ต่อไป ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเสนอราคาสูงแค่ไหน ตราบใดที่เขาสามารถรักษาอิ๋นอิ๋นได้ ก็คุยได้ทุกเรื่อง” โจวจื่อรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “คุณเสิ่นจะไม่รักษาอิ๋นอิ๋นแล้วเหรอคร
จางหยุนก้าวไปทางฟู่สือถิง ฟู่สือถิงเห็นจางหยุนเข้ามาใกล้จึงเริ่มพูดว่า “สวัสดีครับคุณป้า” ใบหน้าของจางหยุนเย็นชามาก “อันอันเชิญคุณมาที่นี่หรือเปล่า?” “เปล่าครับ” “แล้วทำไมคุณถึงมาที่นี่? คุณกับอันอันหย่ากันแล้ว อย่าเข้ามายุ่งกับชีวิตของเราเลย” จางหยุนแน่วแน่มาก ที่นี่คือบ้านของพวกเธอ ฟู่สือถิงมาโดยไม่ได้รับเชิญและกระทันหันมาก ฟู่สือถิงเหลือบมองไปที่ประตูที่ปิดอยู่ของคฤหาสน์ จากนั้นจึงมองไปที่ใบหน้าของจางหยุน เหมือนมีก้อนเนื้อติดอยู่ในลำคอ “ผมขอโทษครับ” เขาไม่มีทางบุกรุกเข้าไปในบ้านของฉินอันอัน ขณะที่เขากำลังจะกลับ เขาก็เหลือบไปเห็นอะไรสีขาวเล็ก ๆ เคลื่อนตัวอยู่หลังพุ่มไม้ ไม่แปลกใจเลยที่เด็กตัวน้อยนี้คือลูกสาวของฉินอันอัน เขาอยากเห็นลูกสาวของฉินอันอันจริง ๆ แต่ไม่ใช่ด้วยวิธีนี้ เขารีบเดินออกไป หลังจากที่เขาจากไป รุ่ยลาก็ออกมาจากพุ่มไม้ด้วยอาการหอบหืด “คุณยาย! พ่อของหนูมาทำอะไรที่นี่เหรอคะ?” จางหยุนจับมือเล็ก ๆ ของรุ่ยลาแล้วเดินไปที่ประตูคฤหาสน์ “หนูรู้ได้ยังไงว่าเขาคือพ่อของหนู?” “เพราะเขาเป็นสามีเก่าของแม่ไงคะ!” รุ่ยลาถอนหายใจด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย “เสียดายที
“พวกเขาหลบฉันเหมือนฉันเป็นสัตว์ร้าย คงไม่อยากทักทายฉันหรอก” ฝีเท้าของฟู่สือถิงหยุดนิ่ง น้ำเสียงของเขาก็ดูสิ้นหวังเล็กน้อย “บอส ให้ผมไปทักทายเธอ แล้วดูว่าลูกสาวของเธอหน้าตาเป็นยังไงไหมครับ?” โจวจื่ออี้ต้องการช่วยเขา “ไม่ต้อง ภารกิจของนายคืนนี้คือการเข้าใกล้ไมค์” “ครับ” หลังจากงานเลี้ยงอาหารค่ำของฉินกรุ๊ป ก็จะมีกิจกรรมสันทนาการมากมาย เพื่อนของโจวจื่ออี้สัญญาว่าจะพาเขาเข้าไปร่วมงานด้วย ด้วยวิธีนี้โจวจื่ออี้จึงมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับไมค์ หลังจากที่ครอบครัวทั้งสี่คนของฉินอันอันขึ้นรถ โจวจื่ออี้ก็พูดกับฟู่สือถิงว่า “ประธานครับ คุณกลับไปก่อนเถอะ! มือของคุณเสิ่นได้รับบาดเจ็บ วันนี้คุณยังไม่ได้ไปเยี่ยมเธอใช่ไหม? ถ้าคุณไม่ไป ผมเกรงว่าเธอจะเสียใจนะครับ” วันนี้ฟู่สือถิงงานยุ่งทั้งวัน โจวจื่ออี้มองออกว่าเขาเสียใจมาก เขาจึงใช้งานเพื่อทำให้ตัวเองเฉยชา แต่อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ตอนนี้อิ๋นอิ๋นยังต้องการการรักษาจากเสิ่นอวี๋ ดังนั้นฟู่สือถิงในฐานะแฟนจึงไม่สามารถใจร้ายเกินไปได้ หลังจากที่ฟู่สือถิงออกไป ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา เพื่อนของโจวจื่ออี้ก็ออกมาจากร้านอาหาร มีชายกลุ่มหนึ่งเดินออก