”คุณคือฉินอันอันใช่ไหมคะ? เสิ่นอวี๋เป็นฝ่ายทักทายฉินอันอันก่อน “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อเสิ่นอวี๋” หลังจากที่ฉินอันอันมองดูเธออย่างรวดเร็วแล้วก็พูดโดยไม่สนใจว่า “อืม พวกเราขอตัวกลับก่อน” ฉินอันอันพาเสี่ยวหานออกมาจากตระกูลฟู่ เสิ่นอวี๋มองไปยังทิศทางที่เธอจากไป แล้วเหม่อลอยไปชั่วขณะ ‘เธอยังสาวและสวยกว่าที่คาดไว้’ ‘วันนี้เธอมาหาฟู่สือถิงทำไม?’ ‘แล้วยังพาเด็กชายตัวน้อยมาด้วย…เด็กผู้ชายคนนั้นเป็นลูกของฟู่สือถิงหรือเปล่า?’ ‘เพราะฉะนั้น ที่เธอพาลูกมาที่นี่ เพราะต้องการจะแต่งงานกับฟู่สือถิงอีกครั้งอย่างนั้นหรือ?’คิดถึงตรงนี้ เสิ่นอวี๋รู้สึกขยะแขยงอย่างมาก ฟู่สือถิงจะกลับมาคืนดีกับฉินอันอันเพราะเห็นแก่ลูก ๆ หรือเปล่า? “สือถิง ฉันขอโทษนะคะที่มาโดยไม่บอกล่วงหน้า” เสิ่นอวี๋ชี้ไปที่เค้กบนโต๊ะกาแฟ “เพื่อนของฉันส่งเค้กมาให้ค่ะ ฉันกินคนเดียวไม่ไหว เลยเอามากินด้วยกันกับคุณ” ฟู่สือถิงเหลือบมองเค้ก “สุขสันต์วันเกิด คุณได้รับของขวัญหรือยัง?” เสิ่นอวี๋อึ้งไปชั่วขณะ “บ่ายวันนี้มีคนส่งพัสดุมาให้ฉันจริง ๆ ด้วย ฉันไม่รู้ว่าคุณเป็นคนส่งมา เลยยังไม่ได้เปิด” ฟู่สือถิงพยักหน้า “ผมไม่ชอบกินเค้ก อ
เสี่ยวหานพูด “รุ่ยลาเหมือนแม่” ฉินอันอัน “เสี่ยวหาน เขาเป็นพ่อของพวกลูกจริง ๆ แต่ว่าเขาไม่ชอบเด็ก ดังนั้นพวกลูกไม่ควรไปหาเขาเพื่อทำความรู้จักเขา ถ้าหากเขารู้ว่าพวกลูกคือลูกของเขา แม่ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรกับพวกลูก” เสี่ยวหาน “พวกเราก็ไม่อยากได้พ่อคนนี้” ฉินอันอัน “เสี่ยวหาน แม่รู้ว่าหลังจากที่ลูกกลับมาที่จีน ก็เปลี่ยนแปลงไปมากและก้าวหน้าขึ้นมาด้วย” เสี่ยวหาน “แม่ครับ ผมไม่ได้ป่วย ผมเพียงแค่รู้สึกว่าคนพวกนั้นปัญญาอ่อนและน่าเบื่อมาก” ฉินอันอันพยักหน้า “แม่รู้ ตอนนี้ลูกชอบคนฉลาดอย่างลุงไมค์ แต่ว่ารอจนลูกโตเป็นผู้ใหญ่จริง ๆ ลูกจะค้นพบว่าคนที่ไม่ฉลาดก็มีลักษณะพิเศษเฉพาะตัวเหมือนกัน เราต้องเรียนรู้ที่จะค้นพบข้อดีของผู้อื่น อย่างเช่น ความมีน้ำใจ ความไร้เดียงสา ก็เป็นจุดเด่นที่ดีมากเช่นกัน” ในเวลานี้เสี่ยวหานไม่เห็นด้วยกับคำพูดของแม่ แต่เขาก็ไม่ได้โต้แย้ง บางทีเมื่อเขาโตขึ้นอีกหน่อย เขาจะเข้าใจว่าแม่หมายถึงอะไร ......ช่วงหัวค่ำ เวลาหนึ่งทุ่ม เสิ่นอวี๋กลับมาถึงบ้าน เธอเปิดกล่องพัสดุที่ได้รับในช่วงบ่าย เธอผิดหวังกับของขวัญวันเกิดที่ฟู่สือถิงส่งมาให้ เพราะของขวัญชิ้นนี้ ฟู
ฉินอันอันแทบจะพ่นชาเขียวที่อยู่ในปากออกมา เธอหยิบทิชชู่ซับมุมปาก “คุณเสิ่น ฉันเป็นคนขอหย่ากับฟู่สือถิงเอง ดังนั้นเรื่องที่คุณได้ครอบครองฟู่สือถิง ถ้าฉันจะเกลียด นั่นเป็นแค่ความเกลียด คุณทั้งสองคนไม่แต่งงานกันเสียเลยล่ะ? ดูสิ คุณสองคนเหมาะสมกันขนาดนี้! กิ่งทองใบหยก ฟ้าดินสรรสร้าง! คุณจะแต่งงานกันเมื่อไหร่ล่ะคะ? ฉันจะได้ใส่ซองให้!” รอยยิ้มที่ไม่เป็นธรรมชาติปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเสิ่นอวี๋ “ที่แท้คุณฉินก็คิดแบบนี้นี่เอง ขอโทษทีค่ะ ฉันคงทำให้คุณผิดหวังซะแล้ว สือถิงกับฉันไม่คิดจะแต่งงานกันหรอก” “ทำไมไม่แต่งงานล่ะ?! คุณไม่อยากแต่ง หรือว่าเขาไม่อยากแต่ง? ถ้าเขาไม่อยากแต่งงาน ให้ฉันช่วยพูดกับเขาให้ไหมคะ?” ฉินอันอันจิบชาเขียวอีกครั้ง เสิ่นอวี๋ “ไม่จำเป็นต้องรบกวนคุณฉินหรอกค่ะ เรื่องระหว่างฉันกับสือถิงปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติเถอะ จริงสิ คุณฉินเพิ่งบอกว่าฉันหน้าหนากว่ากำแพงเมือง ฉันไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าคุณต้องการสื่ออะไร เราเพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก ทำไมคุณถึงหักหน้าฉันแบบนี้?” ฉินอันอันเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งแล้วว่าแอ๊บแบ๊วระดับเทพเป็นอย่างไร สีหน้าท่าทางที่น่าสงสารนั้น เห็นแล้วน่าสมเพชจริ
ต้องเสแสร้งว่าตัวเองเป็นเหยื่อขนาดนี้เลยเหรอ?! ฉินอันอันตกตะลึงเมื่อเจอสิ่งที่เธอทำ จู่ ๆ ฉากนองเลือดทุกรูปแบบในละครที่นางเอกกับนางร้ายปะทะกันก็ปรากฏขึ้นในใจ! พนักงานเสิร์ฟรีบวิ่งเข้ามาช่วยพยุงเสิ่นอวี๋ขึ้นจากเก้าอี้ และพาเธอไปทำแผลพุพองทันที ฉินอันอันนั่งอยู่บนเก้าอี้ รู้สึกเหมือนมีหม้อใบใหญ่ตกลงมาจากท้องฟ้า! ตอนนี้เสิ่นอวี๋ได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นเธอจึงมีสิทธิ์พูดได้ ถ้าเธอบอกว่านี่เป็นอุบัติเหตุ เรื่องนี้ก็จะเป็นอุบัติเหตุ ถ้าเธอบอกว่าฉินอันอันจงใจเทน้ำร้อนใส่เธอ ฉินอันอันก็จะเป็นคนที่จงใจเทน้ำร้อนใส่เธอ ฉินอันอันกดกริ่งเรียกบริกรและชำระเงิน ไม่นานหลังจากนั้น ข่าวที่ว่าฉินอันอันเทน้ำร้อนใส่เสิ่นอวี๋จนทำให้มือของเสิ่นอวี๋พุพองก็ไปถึงหูของฟู่สือถิง มือของเสิ่นอวี๋เป็นอวัยวะที่สำคัญที่สุดสำหรับเขา เพราะเขาต้องการมือของเสิ่นอวี๋มาเพื่อทำการผ่าตัดอิ๋นอิ๋น แต่ตอนนี้ ฉินอันอันเทน้ำร้อนลวกมือของเธอ... “ฉินอันอันไม่มีทางที่จะทำแบบนั้น!” ฟู่สือถิงกล่าว บอดี้การ์ดเปิกกล้องวงจรปิดของร้านอาหารให้ฟู่สือถิงดู กล้องวงจรปิดหันหน้าไปทางฉินอันอัน ดังนั้นเขาจึงมองเห็นชัดเจนว่
เมื่อได้ยินคำถามของเขา ฉินอันอันก็เจ็บแปลบในใจทันที “แฟนของคุณไปบอกคุณว่าไงบ้างล่ะ?” เธอถาม ฟุ่ซื่อถิงชะงัก เขายังไม่ได้เจอเสิ่นอวี๋ หลังจากฟังคลิปเสียงแล้วเขาก็โกรธมากจึงโทรหาเธอก่อน “ฉินอันอัน ผมกำลังถามคุณอยู่! คุณอย่ามาเปลี่ยนเรื่อง!” น้ำเสียงของเขาจริงจังขึ้นเล็กน้อย เมื่อได้ยินคำขู่ของเขา ฉินอันอันก็โกรธทันที “ความจริงก็อยู่ตรงหน้าคุณแล้วไม่ใช่เหรอ? ฉันเป็นคนเทน้ำร้อนลวกมือแฟนสาวของคุณเองแหละ! คุณไปบอกเธอด้วยนะว่าให้อยู่ห่าง ๆ ฉันไว้ เพราะไม่อย่างนั้นรอบหน้าฉันจะสาดน้ำร้อนใส่หน้าเธอแทน!” ฟู่ซื่อถิงเงียบไป “...” ฉินอันอัน “ทำไมคุณไม่พูดล่ะ? ไม่เดือดร้อนแทนแฟนหน่อยเหรอ?” ลูกกระเดือกของฟู่ซื่อถิงกลิ้งขึ้นกลางกัดฟันกรอด “ถ้ามือของคุณเสิ่นโดนน้ำร้อนลวก แล้วใครจะทำการผ่าตัดให้อิ๋นอิ๋นล่ะ? เฮ้อ ชักรู้สึกกังวลแล้วสิ ฟู่สือถิง คุณคงจะไม่แก้แค้นฉันใช่ไหม?” ฉินอันอันกล่าวต่อ “ฉินอันอัน แม้แต่คนโง่ยังฟังออกเลยว่าคุณโกรธ! แต่ถึงคุณจะโกรธ ผมที่ได้ยินก็โกรธเหมือนกัน!” เมื่อฟู่สือถิงได้ยินคำพูดเสียดสี เหน็บแนม เย้ยหยันของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวด “งั้นคุณก็ไม่ต้องโทรมาหาฉั
ฟู่เย่เฉิน “อันอัน! คุณว่าผมแย่กว่าสุนัขเหรอ!?” ฉินอันอัน “ก็ใช่น่ะสิ! จากที่ฉันรู้จักฉินเขอเข่อมา เธอคงไม่กล้าจ้างวานฆ่า แต่ฉันไม่สนใจคุณสองคน ดังนั้นไม่ว่าคุณจะอยู่หรือตายมันก็ไม่เกี่ยวกับฉัน แต่ถ้าคุณยังมาวุ่นวายกับฉันอีก ฉันคงต้องจ้างนักสืบเอกชนมาตรวจสอบเรื่องนี้” ฟู่เย่เฉินหน้าเปลี่ยนสี “อันอัน! ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อพบคุณโดยเฉพาะ ผมแค่แวะมา...ต่อไปผมจะไม่รบกวนคุณอีก!” ฉินอันอันคิดไม่ถึงว่าคำพูดพลั้งปากของตัวเองจะเผยให้เห็นตัวตนที่แท้จริงของเขา เขามีเจตนาไม่ดีต่อฟู่สือถิง แต่กลับไม่กล้าจ้างวานฆ่าในนามของตัวเอง ดังนั้นเขาจึงทำให้ฉินเขอเข่อเป็นแพะรับบาป หน้าจอโทรศัพท์สว่างขึ้นและมีข้อความเข้ามา ฉินอันอันกดที่ข้อความ มันมาจากหลีเสี่ยวเถียน : ทำไมฟู่สือถึงสุนัขแบบนี้ล่ะ! เขาโทรหาเธอเรื่องผู้หญิงคนนั้นเนี่ยนะ! เขาเสียสติไปแล้วเหรอ? ! เขาไม่รู้เหรอว่าเธอเป็นคนแบบไหน? ! ฟู่เย่เฉินเห็นเธอเล่นโทรศัพท์มือถือ เขาจึงลุกขึ้นและกำลังจะออกไป จากหางตา เขาบังเอิญเห็นภาพพื้นหลังแชทของเธอโดยบังเอิญ ภาพพื้นหลังของการแชทของเธอคือรูปหน้าของเด็กสองคน คนหนึ่งเป็นเด็กผู้ชาย อีกคนหนึ่งเป
หกโมงเย็น ฉินอันอันขับรถกลับไปที่คฤหาสน์สตาร์ริเวอร์ ประตูเปิดอยู่ รถบีเอ็มดับบิวสีแดงจอดอยู่ในลานบ้าน ฉินอันอันจำรถได้ มันเป็นรถของหลีเสี่ยวเถียน ‘ทำไมจู่ ๆ หลีเสี่ยวเถียนถึงมาที่นี่?’ “ฉินอันอัน!” หลีเสี่ยวเถียนเห็นฉินอันอันกลับมาจึงรีบวิ่งไปหาทันที “ฉันเห็นเด็กที่เธอรับเลี้ยงทั้งสองคนแล้ว! ถ้าฉันไม่ได้ยินว่าเธอรับเลี้ยงเด็ก เธอคงจะเก็บเป็นความลับไปตลอดชีวิตเลยใช่ไหม?” เมื่อได้ยินหลีเสี่ยวเถียนพูด ฉินอันอันก็ไม่กล้าลงจากรถ เธอพบว่าเมื่อไหร่ที่ฟู่สือถิงรู้เรื่องของเธอ ทุกคนก็จะรู้ ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าหลีเสี่ยวเถียนรู้ความลับของเธอ เธอก็จะต้องบอกเรื่องนี้กับฟู่สือถิงวันใดวันหนึ่งแน่นอน สิ่งเดียวที่จะโทษคือต้องโทษที่เฮ่อจุ่นจือกับหลีเสี่ยวเถียนคบหากัน เธอไม่สามารถเลิกคบกับหลีเสี่ยวเถียนเพียงเพราะเธอคบกับเฮ่อจุ่นจือได้ “เธอนี่มันน่าเบื่อจริง ๆ!” หลีเสี่ยวเถียนเดินไปหาฉินอันอันแล้วดึงเธอออกจากรถ “เธอรับเลี้ยงเด็กสองคนแน่เหรอ? คงจะไม่ใช่ลูกของฟู่สือถิงกับเธอหรอกนะ เธอกำลังปิดบังอะไรอยู่?!” ฉินอันอันเงียบ “...” “จะว่าไป เด็กสองคนที่เธอรับเลี้ยงมาเหมือนเธอกับฟู่สือถ
หลีเสี่ยวเถียนรู้แล้ว “อันอัน ทำไมเธอไม่บอกฟู่สือถิงล่ะ? ถ้าเขารู้เรื่องเด็กสองคนนี้…” “เขาไม่อยากมีลูก หลีเสี่ยวเถียน ถ้าเธอบอกเรื่องนี้กับเฮ่อจุ่นจือหรือฟู่สือถิง เราขาดกัน” สีหน้าและน้ำเสียงของฉินอันอันเย็นชาเหมือนเป็นคนละคน “ถ้ามันร้ายแรงจริง ๆ ฉันไม่มีทางบอกแน่! นี่คือเรื่องส่วนตัวของเธอ ฉันจะเก็บมันเป็นความลับอย่างดี!” หลีเสี่ยวเถียนพูดอย่างกังวล “ฉันไม่เข้าใจฟู่สือถิงเลยจริง ๆ เสือถึงร้ายก็ไม่กินลูกตัวเอง นี่เขายังสติดีอยู่ไหม?” “ก็คงแบบนั้น” ฉินอันอันนั่งลงบนเตียงแล้วพูดทีละประโยค “ฉันแค่อยากจะเลี้ยงลูกสองคนเงียบ ๆ” “อันอัน ไม่ต้องกังวล ฉันสัญญาว่าจะไม่บอกใคร” ...... บ้านเดิมตระกูลฟู่ เวลาทุ่มครึ่ง ฟู่สือถิงมาถึงช้ากว่าเวลา “สือถิง เสิ่นอวี๋ไม่ได้เป็นอะไรมากใช่ไหม? ทำไมถึงไม่ระวังเลย? สิ่งล้ำค่าที่สุดของหมอคือมือทั้งสองข้าง!” แม่เฒาฟู่กังวลมากเมื่อได้ยินว่าเสิ่นอวี๋ถูกน้ำร้อนลวก “ไม่มีอะไรร้ายแรงครับ” ฟู่สือถิงไม่อยากให้แม่ของเขากังวล เขาพาเสิ่นอวี๋ไปที่โรงพยาบาลและเห็นรอยลวกบนมือของเสิ่นอวี๋ ค่อนข้างอาการหนัก ผิวหนังชั้นนอกทั้งหมดเป็นแผล “งั้นก็ดีแ