อย่างไรก็ตาม เธอกำลังอุ้มเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งไว้ในอ้อมแขนและมืออีกข้างยังจูงมือเด็กอีกคนด้วย! เขาเริ่มสับสนในตัวเอง จากกล้องวงจรปิดเห็นหน้าของฉินอันอันไม่ชัด เขาสงสัยว่าผู้หญิงคนนี้แค่หน้าคล้ายฉินอันอัน ไม่ใช่ฉินอันอันจริง ๆ! ‘ทำไมเธอถึงมีเด็กสองคนข้าง ๆ?’ ‘ฉินอันอันไม่มีลูกนี่!’ เขาดูวิดีโอวงจรปิดหลายรอบ ยิ่งดูก็ยิ่งสงสัย! ยิ่งดูก็ยิ่งงง! เขาคัดลอกวิดีโอสั้น ๆ นี้แล้วปิดโน้ตบุ๊ก ตอนนี้มันดึกเกินไปแล้วที่เขาที่จะพิสูจน์ว่าผู้หญิงและเด็กคนนั้นที่อยู่ในวิดีโอเป็นใคร ไว้ตอนเช้า เขาจะไปถามฉินอันอันให้รู้เรื่อง! เวลาหกโมงเช้าอิ๋นอิ๋นตื่น หลังจากที่เธอตื่น เธอก็ลุกจากเตียงผู้ป่วย เธอเดินไปข้างเตียงญาติแล้วเอื้อมมือไปคว้าฝ่ามือใหญ่ของฟู่สือถิง “พี่...พี่...” จู่ ๆ ฟู่สือถิงก็ลืมตาขึ้นด้วยดวงตาสีแดง “พี่เราไปกันเถอะ” อิ๋นอิ๋นไม่อยากอยู่ในโรงพยาบาล เธอต้องการออกจากที่นี่ ฟู่สือถิงลุกขึ้นทันที เขาหลับไปประมาณหนึ่งชั่วโมง เวียนหัวมาก แต่ถ้าอิ๋นอิ๋นออกจากโรงพยาบาล เขาต้องพาเธอออกไปก่อน ไม่อย่างนั้นเธอจะตื่นตระหนก เมื่อพิจารณาถึงสติปัญญาที่เพิ่มขึ
ฉินอันอันแทบจะหยุดหายใจ เหมือนมีคนบีบคอเธอไว้! ลูกทั้งสองคนไปหาเธอที่โรงพยาบาลโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว ยิ่งกว่านั้น เธอไม่คิดด้วยซ้ำว่าโรงพยาบาลตี้ซานที่รับปากกับเธอแล้วว่าจะไม่ให้ใครดูกล้อมวงจรปิด ทำไมถึงได้ยอมให้เขาดู?! ฟู่สือถิงเป็นคนที่ช่างสงสัยมาโดยตลอด เธอจึงเดาว่าเขาอาจจะสืบว่าใครพาอิ๋นอิ๋นไปโรงพยาบาล แต่เขาคงไม่คิดว่าเธอคงจะพาอิ๋นอิ๋นไปโรงพยาบาลเมื่อวันก่อน ไม่ใช่เมื่อวาน แม้ว่าเขาจะดูกล้องวงจรปิดแล้วเมื่อวานนี้ แต่เขาก็ยังมองไม่เห็นว่าเธอเป็นคนพาอิ๋นอิ๋นมาโรงพยาบาล “ฟู่สือถิง เราหย่ากันแล้ว ไม่ว่าเมื่อวานฉันจะไปโรงพยาบาลตี้ซานหรือไม่ ไม่ว่าฉันจะอุ้มลูกกี่คนจูงมือกี่คน มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ!” ฉินอันอันสงบลงและพูดอย่างแข็งขันว่า “นั่นไม่ใช่ลูกของคุณหรอก! ฉันไม่มีทางคลอดลูกของคุณ! ตอนนั้นคุณเป็นคนฆ่าลูกของเราเอง!” ฉินอันอันพูดโมโหและวางสายโทรศัพท์ เธอไม่ต้องการได้ยินปฏิกิริยาใด ๆ จากเขา ‘ขอให้เขากับอิ๋นอิ๋นมีชีวิตคู่และมีความสุขชั่วนิรันดร์!’ ‘หยุดทำร้ายคนอื่นสักที!’ ริมฝีปากของฟู่สือถิงขยับ ยังมีบางคำที่เขาไม่มีโอกาสได้พูด เพราะเธอวางสายไปซะก่อน เ
และเขาไม่อยากให้เสิ่นอวี๋ร้องขอเรื่องอื่นอีก ดังนั้นการให้เงินจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด เสิ่นอวี๋ตกใจ “คุณฟู่ อย่าทำแบบนี้เลยค่ะ ฉันเกรงว่าอาการป่วยของอิ๋นอิ๋นจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยการผ่าตัดเพียงครั้งเดียว คุณอาจจะคิดว่าพัฒนาการทางสมองของเธอจะดีขึ้น แต่ก็ดีขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น รอดูหลังจากอาการผ่าตัดหายดีแล้ว หากยังต้องการรักษาเธออาจมีการผ่าตัดครั้งที่สองหรือครั้งที่สาม…” คำพูดของเสิ่นอวี๋ทำให้ฟู่สือถิงตกอยู่ในความเงียบ เสิ่นอวี๋มาที่นี่ในช่วงพักร้อน ต่อไปเธออาจจะไม่มีเวลา “หมอเสิ่น หลังจากนี้คุณวางแผนอาชีพของคุณไว้ยังไงครับ?” ฟู่สือถิงถาม แน่นอนว่าเขาต้องการรักษาสืออิ๋นต่อไป ถ้าพัฒนาการสมองสามารถถึงระดับการดูแลตนเองได้ นั่นคงจะดีที่สุด! เสิ่นอวี๋เข้าใจความหมายของคำพูดของเขา “คุณฟู่ จริง ๆ แล้วตอนนี้ฉันอยู่ในช่วงที่อึดอัดใจและสับสนมาก ฉันอายุสามสิบสี่ปีแล้ว แต่ฉันยังไม่มีแฟน และครอบครัวของฉันก็กังวลมาก ดังนั้นตอนนี้อาชีพของฉันจึงไม่ใช่เรื่องสำคัญสูงสุดในตอนนี้” ‘เธอเกือบจะพูดตรง ๆ แล้ว ถ้าคุณต้องการตอบแทนฉัน หรือให้ฉันรักษาอิ๋นอิ๋นต่อไป งั้นก็แต่งงานกั
ฉินอันอันใช้นิ้วถูขมับ เธอคิดว่าหลังจากหย่าแล้วเธอจะไม่สนใจเรื่องของเขาอีก ‘แต่ทำไมกลับรู้สึกไม่สบายใจล่ะ?’ ‘เขาใส่ใจอิ๋นอิ๋นมาก ทำไมเขาถึงอยู่กับเธอตลอดไปไม่ได้?’ จู่ ๆ เธอก็เข้าใจทันที เธอไม่สนใจว่าเขาจะอยู่กับผู้หญิงคนไหน แต่เธอรับไม่ได้ที่เขาเป็นคนเลวทราม เป็นเรื่องน่าอึดอัดมากที่จะยอมรับว่าผู้ชายที่เธอหลงรักนั้นเป็นคนเลว เพราะเธอปฏิเสธหัวใจตัวเอง “อันอัน เธอโอเคไหม?” หลีเสี่ยวเถียนถามอย่างกังวล “ถ้ารู้แบบนี้ฉันคงไม่บอกเธอหรอก...แต่ถ้าฉันไม่บอก เธอก็รู้อยู่ดี” “ฉันไม่เป็นไร” ฉินอันอันหยิบแก้วน้ำขึ้นมาแล้วจิบน้ำ “เขาเลือกเอง ถ้าเขามีความสุขก็ดีแล้ว” “เฮ่อจุ่นจือบอกว่านี่เป็นคำขอของเสิ่นอวี๋ เธอช่วยรักษาอิ๋นอิ๋น และผลลัพธ์ก็ค่อนข้างดี ฟู่สือถิงต้องการจ่ายเงินให้เธอ แต่เธอกลับไม่อยากได้เงิน” “ไม่ต้องพูดแล้ว” ฉินอันอันรู้สึกคลื่นไส้ “ถ้าเขาไม่ต้องการก็ไม่มีใครบังคับเขาได้” “ฉันได้ยินมาว่าอิ๋นอิ๋นต้องเข้ารับการรักษาอีก...ฟู่สือถิงต้องการให้เสิ่นอวี๋รักษาอิ๋นอิ๋นต่อ ดังนั้นเขาจึงตกลงทำตามคำขอของเสิ่นอวี๋” เดิมทีเสี่ยวเถียนแค่บอกคร่าว ๆ แต่สุดท้าย เธอก็รู้สึกว่าตัวเอ
“ถึงเวลามื้อเย็นพร้อมแล้ว ไปล้างมือแล้วมากินข้าวกันเถอะ! “จางหยุนเดินออกจากครัวแล้วพูดกับพวกเขา ฉินอันนันพาเด็กสองคนไปล้างมือทันที เวลาสามทุ่ม ห้องเด็ก เสี่ยวหานลืมตาขึ้น เขานึกถึงสิ่งที่แม่พูดในตอนเย็น “รุ่ยลา” “พี่ นอนไม่หลับเหมือนกันเหรอ? หนูกลัว! ฟู่สือถิงหล่อมาก แต่เขาเป็นคนเลว ฮือ ฮือ ฮือ...ทำไมเขาถึงอยากบีบคอเราทั้งคู่ให้ตายล่ะคะ?” รุ่ยลาเหยียดแขนไปกอดพี่ชายเพื่อความปลอดภัย เสี่ยวหานคาดเดาว่ “บางทีเขาอาจจะเป็นพ่อของเราก็ได้” “เอ๋?!” รุ่ยล่าอุทานด้วยความประหลาดใจ “รุ่ยลา เราต้องค้นหาความจริง” เสี่ยวหานมีแผนในใจ “พี่ เราจะทำยังไงกันดี!” รุ่ยลามองเสี่ยวหานด้วยดวงตาเบิกกว้าง “นอนเถอะ” ...... วันต่อมา เอสทีกรุ๊ป เครือข่ายล่ม! เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยเครือข่ายเริ่มตรวจสอบสาเหตุอย่างใกล้ชิด! หลังจากที่ฟู่สือถิงรู้เรื่องนี้ เขาก็รีบไปที่บริษัททันที เครือข่ายกลุ่มใหญ่ขนาดนี้ล่มได้ยังไง? นี่เป็นครั้งแรกที่เกิดความผิดพลาดด้านความปลอดภัยครั้งใหญ่เช่นนี้นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา! เมื่อฟู่สือถิงมาถึงบริษัท อันดับแรกเขาไปตรวจสอบที่ฝ่ายเทคน
โรงเรียนนานาชาติแองเจลา ฟู่สือถิงมาที่แผนกธุรการและหาข้อมูลของเสี่ยวหาน ชื่อ ฉินเสี่ยวหาน! แม่ ฉินอันอัน! อายุ สี่ปีสามเดือน! ดวงตาของฟู่สือถิงเพ่งเล็งไปที่คำว่า ฉินอันอัน เขาตกใจอย่างหนัก! ไอ้สารเลวที่เหยียบย่ำเขากลายเป็นลูกชายของฉินอันอัน! ยิ่งกว่านั้นเด็กคนนี้อายุสี่ขวบแล้ว! พวกเขาทั้งสองแยกทางกันมานานกว่าสี่ปีแล้ว! ถ้าเด็กคนนี้เป็นลูกทางสายเลือดของเธอ แสดงว่าเธอท้องตั้งแต่ตอนที่เธอจากไป! ฟู่สือถิงเก็บข้อมูลของฉินจือหานไว้ด้วยร่างสั่นเทา ผู้อำนวยการฝ่ายธุรการไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจึงถามอย่างระมัดระวัง “คุณฟู่ เด็กคนเป็นอะไร? มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ?” ลูกกระเดือกของฟู่สือถิงกลิ้งขึ้นลง เสียงของเขาแหบห้าว “พาผมไปหาเด็กคนนี้หน่อย!” ผู้อำนวยการพูดช้า ๆ “วันนี้เด็กคนนี้ไม่ได้มาโรงเรียนค่ะ คุณมีธุระอะไรกับเขาเหรอคะ? ฉันโทรหาแม่ของเขาได้ค่ะ” ฟู่สือถิง “ไม่จำเป็น!” เขาเดินออกจากแผนกธุรการพร้อมข้อมูลของฉินจือหาน เขาจะไปหาฉินอันอันด้วยตัวเอง! ถามให้แน่ชัดว่าจริง ๆ แล้วเรื่องเด็กคนนี้มันเป็นยังไงกันแน่! ขณะเดียวกัน สวนด้านนอกคฤหาสน์ตระกูลฟู่ ร่างของถังเชี่ยน
ตอนนี้เธอต้องหาวิธีรักษาอิ๋นอิ๋น มีเพียงวิธีนี้เท่านั้น ถึงสามารถจะอยู่เคียงข้างฟู่สือถิงไปได้นาน ๆ ถังเชี่ยนดวงตาแดงก่ำด้วยความโกรธ โดยเฉพาะตอนที่เธอพูดคำว่า ‘แฟนหนุ่ม’ แต่ก็ทำอะไรเธอไม่ได้อยู่ดี! ถังเชี่ยนเดินย่ำรองเท้าส้นสูง ก้าวเท้ายาว ๆ เดินจากไป เสิ่นอวี๋มองดูด้านหลังของเธอแล้วหัวเราะเยาะ “แม่ทัพยอมแพ้ไปเสียแล้ว! อ่อนแอจริงเชียว!” …… ฉินกรุ๊ป ฉินอันอันกำลังยุ่งอยู่กับการสรรหาบุคลากรในแผนกต่าง ๆ ถึงแม้ว่าพนักงานเก่าหลายคนจะกลับมา แต่เพราะธุรกิจแตกต่างไปจากเดิม จึงต้องรับพนักงานที่มีประสบการณ์เพิ่มบางส่วน ไมค์บอกว่าวันนี้จะบินมาช่วย หลังจากเขามาถึง เธออาจจะผ่อนคลายลงได้บ้างเล็กน้อย “ประธานฉิน พวกเราต้องเชิญดารามาเป็นพรีเซ็นเตอร์หรือเปล่า?” เวลาต่อมาผู้อำนวยการแผนกวางแผนปรึกษาฉินอันอันเกี่ยวกับการตลาดและการประชาสัมพันธ์ ฉินอันอันส่ายหน้า “ไม่ต้องหรอกค่ะ” “ตอนนี้การเชิญอินฟลูเอ็นเซอร์เป็นที่นิยมอย่างมาก หรือไม่ก็ร่วมกันโปรโมทกับคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง…” ฉินอันอัน “ไม่จำเป็น ตัวผลิตภัณฑ์ของพวกเราจะพูดเอง”ผู้อำนวยการมึนงงเล็กน้อย “แล้ว
เสียงดังสนั่นทำให้ทั้งสองคนในห้องทำงานหันไปมองที่ประตูทันที ครั้นเห็นฟู่สือถิงสีหน้าทั้งมืดมนทั้งบูดบึ้ง ราวกับมีใครไปหาเรื่องเขา “ไฮ! อดีตสามี!” ไมค์กระโดดลงจากโต๊ะ ก้าวเท้าไปอยู่ตรงหน้าฟู่สือถิง ทักทายเขาอย่างมีความสุข ขมับของฉินอันอันกระตุกทันที เขาไม่รู้ว่าฟู่สือถิงเป็นคนที่น่ากลัวขนาดไหน! เธอต้องหยุดไม่ให้เขารนหาที่ตาย เธอรีบเดินไปอยู่ข้าง ๆ ไมค์ แล้วดึงด้านหลังเขากลับมา การกระทำนี้ทำให้ฟู่สือถิงหึงหวงจนหน้ามืด !‘พวกเขาสองคนมีความสัมพันธ์ต่อกันยังไง? ‘‘ไม่คิดเลยว่าเธอจะปกป้องผู้ชายป่าเถื่อนที่เป็นอันธพาลขนาดนี้! ‘“คุณมาทำอะไรที่นี่?” ฉินอันอันยืนอยู่ตรงหน้าฟู่สือถิง เงยหน้ามองเขา “ระหว่างพวกเรายังมีความจำเป็นต้องเจอกันอีกเหรอ?” ฟู่สือถิงกำนิ้วของเขาไว้แน่น จนกระดาษในมือแทบแหลก เขาเดินเข้าไปใกล้ฉินอันอันอีกก้าว ตัวของคนทั้งคู่เกือบจะแนบชิดกัน! ฉินอันอันถูกพลังงานความโกรธที่รุนแรงของเขาโถมส่ สถานการณ์อันตรายชนิดที่พร้อมระเบิดออกได้ทุกเมื่อ เธอรีบดึงตัวไมค์แล้วส่งเขาออกไปนอกประตูทันที “นายไปรอฉันข้างนอกก่อนนะ!” หลังจากผลักไมค์ออกไปแล้ว เธอก็ปิดประตูห้องท